ศพขึ้นอืด กับ วิญญาณร้าย ท่านกลัวสิ่งไหนกว่ากัน

ถามคิดกันเล่นๆขอรับ

กระผมกลัวศพมากกว่า เพราะกระผมไม่ใช่สัปเร่อ ส่วนวิญญาณนั้นรู้สึกเฉยๆเพราะกระผมมีคาถาดี

 

ถามเล่นๆ เหมือนกัน

ระหว่าง กลายเป็นศพ กับ กลายเป็นวิญญาณ
คุณหัดพระเจ้า กลัวสิ่งไหนกว่ากันละ

 

ผมว่าผมกลัวศพมากกว่า

เผื่อมีเชื้อโรคอยู่ เดี๋ยวติดโรคมาละตายเลย

ส่วนวิญญาณผมไม่เคยเห็น และคิดว่าเค้าคงไม่มาทำร้ายผมหากไม่มีเหตุผล

เลยไม่ค่อยกลัว (แต่ก็ยังกลัวนิดนิด ^^)

 

อันนี้ไม่กลัวนะขอรับ กระผมไม่ใช่คนรักตัวกลัวตายเลยไม่กลัวทั้งสองอย่าง

 

ไม่ทั้งสองอย่างครับ

 

ดีจัง

นั้นถาม จขกท นะว่า เพราะเหตุใด ความตายจึง ไม่ควรเป็นสิ่งน่ากลัว
ตอบให้มีเหตุ และ ผล ยาวๆ หน่อยนะ สัก 2 - 3 บรรทัด ถ้าบรรยาย
ไม่ได้ ที่คุณพูดว่าไม่กลัวตาย อาจเป็นเพียง ลมปาก เท่านั้น

 

ศพขึ้นอืด


กับ





วิญญาณร้าย



ท่านกลัวสิ่งไหนกว่ากัน

 

จริง ๆ แล้วก็กลัวทั้งสองอย่างแหล่ะค่ะ

แต่ถ้าจะให้เลือกเจอก็ขอเจอศพขึ้นอืดก่อนล่ะ
เพราะว่าเห็นปุ๊บก็แค่โต๊กกะใจ...ไอ้หย๊านี่ศพขึ้นอืดนีหว่า !!!!!
.............แต่วิญญาณร้าย..........
มันจะมาตอนไหนก็ไม่รู้...มองไม่เห็น.ทำให้เรา...หวาดระแวง
เพราะคนเราส่วนใหญ่มักจะกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น

ดังคนเรามักกลัวกลางคืนมากกว่ากลางวัน
(เพราะตกกลางคืนทีไรมันเสียวสันหลังวาบๆ โดยเฉพาะตอนอยู่คนเดียว)

อิ...อิ...อิ...(one-eye) (one-eye) (one-eye) (one-eye) (one-eye) (one-eye) (one-eye)

 

สำหรับผม
เคยกลัวความตายกับผีมาก่อน
อย่างกลัวผี กลัวแทบขาดใจ ซะให้ได้ สุดท้ายก็เดินเข้าไปหา ไปดูชัดชัด ก็ผ่านเหตุการณ์นั้นไปได้ ผีมานอนข้างข้าง ก็นอนมองดู เอ้อ มันมีสองมิตินะครับ แบนแบนไม่มีความลึก แต่อุณหภูมิจะลดลง ต่างคนต่างนอน ก็เลยเป็นเรื่องปกติไป ผีคุยมา ก็คุยตอบไป แค่นั้นครับ

ส่วนเรื่องความตาย เคยรถคว่ำเฉียดตาย ตอนรถพลิกคว่ำไปคว่ำมา ก็มีสติดูตลอดเวลาไม่ได้กลัว มองเหตุการณ์ผ่านไปช้าช้า หมุนไปมาพลิกไปพลิกมา ชนท่อระบายน้ำ ปรากฎว่ารถขายซากเป็นเศษเหล็ก แต่ตัวผมปลอดภัยไม่มีอะไร
ดังนั้น สติรู้ทันเท่าเหตุการณ์ สมาธิ และ ปัญญาเกิด
ก็จะไม่เหลือที่สำหรับความกลัวครับ

 

กลัวทั้งคู่แหล่ะ แต่ถ้าให้น้ำหนักก็กลัววิญญาณร้ายมากกว่า เพราะ วิญญาณมีทั้งดีและร้าย แต่นี่เฉพาะลงไปว่า "ร้าย" ฉะนั้น อะไรที่มันร้าย ก็แสดงว่าเจตนาไม่ดี อย่างแน่นอน

แต่ถ้าให้เลือกระหว่างศพ กับวิญญาณดี ขอเลือกวิญญาณดี เผื่อว่าอาจจะพูดคุยกันได้ โดยเฉพาะงวดหน้าที่จะถึงนี้ มันจะออกเลขล่างซ้ำ 81 อีกหรือไม่ ... เซ็ง เลขมีตั้งเยอะ ออกมาได้ วนๆ เวียนๆ อยู่ที่เก่า หรือว่า กองสลากล๊อกเลขหล่ะหว่า !?!

 

ศพขึ้นอืดไม่น่ากลัว พิจารณาให้ดีมีประโยชน์
วิญญาณร้ายไม่กลัว กลัวคนที่มีจิตใจชั่วร้าย เพราะคนเป็นสัตว์ที่มีศักยภาพสูงทั้งความคิดสติปัญญา จะทำชั่วก็ทำได้มาก จะทำดีก็ทำได้มาก เลยกลัวคนที่ฉลาดในทางชั่วร้าย

 

กลัวสองอย่างค่ะ เเต่ว่าถ้าเป็นศพนี่ไม่ได้กลัวมากอ่ะค่ะเเต่รูปมันน่าเกลียดไง(เด๋วก็เป็นทุกคน)เเต่เวลาเหนจะ อึก พูดไม่ออกอ่ะสิค่ะ น่ากลัวเราเคยเห็นศพคนโดนรถชนอ่ะ ติดตามากๆ หน้าบวมๆ ลิ้นมาจุกปากอ่ะ หน้าเบ้อเร่อเลยอ่ะ เพราะว่าบวมงาา เเต่ผีก้เคยเหน วิญญาณร้ายก็กลัวเหมือนกัน ค่ะเพราะถ้าไม่ระวังเขาอาจมาทำไรเราได้ไง เเต่ถ้าศพเป็นเเค่ร่างที่ไรวิญญาญ เเต่หยะเเหยงงาาา เเต่ก็ไม่เท่าวิญญาญหรอก

 

ศพขึ้นอืดก็กลัวนะ แต่กลัวกลิ่นมากกว่า แบบว่าถึงขนาดอืดเนี่ยกลิ่นคงไม่ต้องบรรยาย ส่วนวิญญาณร้ายเนี่ย ถ้ามาแบบตั้งใจมาร้ายแสดงว่าเราคงต้องไปทำอารายเค้าไว้แน่ๆ ก็คงต้องยอมรับสภาพแผ่เมตตาขออโหสิกรรมเค้าคงเห็นใจ

 

กลัวตัวเองจะฉี่ราดมากที่สุด

 

เรียนคุณเล่าปัง

คุณเล่าปังมีความสงสัยในคำที่กระผมกล่าวว่า ไม่รักตัวกลัวตาย และต้องการเหตุผลอย่างต่ำ สี่บรรทัด

มันแปลกๆไหม?
ผมต้องตอบไหม?

อ่า โอเค ถ้าคุณเล่าปังอยากฟัง ก็ไม่มีปัญหาขอรับ คนเรานั้นต้องตายกันทุกคน ไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่เด็กที่เพิ่งจะเกิดวันนี้ อีกไม่นานคุณและกระผมรวมทั้งทุกๆคนที่รายล้อมรอบตัวเรานี่ต่างก็ต้อง ถึงเวลาตาย มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของโลก ถึงแม้จะกลัวตายแต่ยังไงก็ต้องตาย แล้วจะกลัวทำไม ถ้าเวลานั้นมาถึงสิ่งสำคัญคือให้ตายไวๆ ตายปุ้บปั้บ แต่ในตอนนี้ตอนที่ยังเดินอยู่บนโลกใบนี้ ต้องทำประโยชน์กันบ้างทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อผู้อื่น อย่าให้ต้องตายเพราะความประมาทของตัวเอง และระวังอย่าตายเพราะความประมาทของผู้อื่น เพราะมันเป็นการตายที่ไร้ค่า แต่ถ้ามันจะต้องตายให้ได้ ก็ตายๆไปเห๊อะ จะได้หยุดทำบาปทำกรรมกันซะ

 

รอตั้งนาน

ก็เห็นถูกนี่ ว่า ตายนะมันเรื่องธรรมดา คนเรา เกิดมาก็ต้องตาย ไม่ต้องเร่งรัด
ไม่ต้องไปกำกับ ใครหมดเวร หมดกรรม หรือ มีเวร มีกรรม หรือ สังขารหมดกำลัง
ก็ตายไปเอง

แล้วเราก็เห็นถูกอีกนะว่า การที่เรายังมีชีวิตอยู่นี้ ต้องรู้จักสร้างความดีเพื่อส่วน
รวม ปัญหาคือ ขาดคนจริงใจไปบอกเขานะว่า ทำอย่างไรจึงจะดีมีประโยชน์ คน
ทั่วไป พอเห็นคนไม่เอาถ่านนี้ คิดอย่างเดียวว่าไร้ประโยชน์ แล้วก็เหมาเอาว่ารกโลก
แต่จริงๆ แทนที่คนที่มองคนนั้น จะเดินเข้าไปสอน ไปเจริญปัญญาให้เขานี้ ไม่
ยอมทำ ก็ มักง่ายไม่แพ้กัน คือ ขี้เกียจไปสอนให้เข้ารู้จักทำความดี เลยคิดง่ายๆว่า
ให้มันตายๆไปซะ ก็น่าจะดี แล้วก็ปรุงแต่งความคิดไปว่า จะทำอย่างไรให้มันตายไป
เห็นไหม ว่าคนที่คิดแบบนี้ก็มักง่าย ไม่รู้จักทำคุณประโยชน์ให้เพื่อนมนุษย์ ให้กับ
สังคม ล้อมกรอบตัวเอง อยู่กับสังคมแคบๆ แค่ตัวเอง แล้วก็เลยผลักเขาออกไปว่า
ไม่ได้อยู่ในสังคมเดียวกัน ก็เลยคิดตัดรอนกันได้อย่างง่ายๆ แบบมักง่าย

ฉะนั้น ทุกคน ล้วนต้องรู้จักสร้างสรร และ จรรโลงสังคม สุดกำลังเท่าที่ทำได้
แม้คนๆนั้น เขาจะยังดีไม่ได้ตามที่เรามุ่งมั่นหมายให้เขาทำ แต่เขายังไม่ตายนี่
เขายังมีลมหายใจ ก็ต้องให้โอกาสเข้า ได้รู้จักทำดีอื่นๆต่อไป

คุณก็เหมือนกัน ต้องรู้จักสร้างสรร สิ่งดีๆ มองมุมดีๆ หยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้เขาเหล่านั้น
เพราะคุณเป็นคนมีปัญญา และเป็นคนที่อยู่เหนือกว่าเขาเหล่านั้น หรือ ไม่ใช่

 

ขออภัยขอรับ ที่บางทีคำถามที่คุณเล่าปังถามกระผมได้รับคำตอบช้าไปบ้าง เพราะบางครั้งกระผมมีธุระเรื่องด่วนกะทันหันต้องออกไปข้างนอกขอรับ กระผมอยู่ทั้งวันไม่ได้ขอรับ แต่เมื่อเข้ามาเห็นจะตอบให้ทันทีขอรับ

 

ก็ดี แต่พยายามเข้าใจเราหน่อยนะ เราก็บ้าๆบอๆ
บ่นไปเรื่อย ไม่รู้ว่าคุณจะอยากรับฟังจริงๆไหม เพราะ
มันก็คงขัดใจคุณอยู่ไม่น้อย เราก็เห็นว่าแนวคิดของพุทธะ
นี้ดี รอบคอบรอบด้าน ถ้าทำได้ คิดได้ อ่านได้ ก็จะเป็นประโยชน์
ต่อตัวคุณ แล้วก็เป็นประโยชน์ต่อสังคม เราก็เลยลองพยายาม
บอกกล่าวเล่าสิบดู มันคงไม่ง่ายใช่ไหม ที่จะให้คุณยอมทำความ
เข้าใจ

คุณเองก็ยังไม่จากหายไปไหน ก็ชื่อว่าเป็นคนมีโอกาสดีได้อยู่
เราก็เลยอยากให้คุณได้ดี เราอาจทึกทักไปเองว่าอย่างนี้ดี
ของๆคุณที่คุณคิด หรือ ตระหนักอาจจะดีแล้ว แต่เราก็ศรัทธา
ของเราละนะว่า ศาสตร์ของพุทธะนั้นเป็นสภาวะที่ดียิ่งกว่าที่
มอบให้กันได้

 

ขอตอบตามกระทู้นะ

ก็จะเห็นแล้วว่า หลายๆคนที่ตอบคำถาม
ไม่มีใครเขากลัวความตาย หรือ กลัววิญญาณ หากเขารู้ชัด
ในสภาวะธรรมไหน แต่ถ้าสภาวะธรรมไหน ยังติดสงสัย
ยังมีความไม่รู้ เขาก็จะกลัวตรงนั้น แต่ดูให้ดีๆ เขาไม่ได้กลัว ตาย
หรือ ไม่ได้กลัว วิญญาณ ความกลัวนั้นล้วนมาจาก กลัวไม่รู้ ทั้งนั้น
เพราะถ้า รู้แล้ว ชัดแล้ว ก็สามารถนอนดูได้ คุยกันได้

การที่เราทึกทักไปว่า คนนั้นกลัวตาย ก็ไม่ใช่เลย เขาไม่ได้กลัวตาย
เราจะเอาความตายไปขู่เขา มันไม่ถูกเรื่อง เพราะมันไปขู่ไมถูกที่คัน
ถ้าจะขู่ให้เขากลัว ก็ขู่ไปเลยว่า

เห้ย แกไม่รู้ชัดใช่ไหมว่า วันหนึ่งแกต้องตาย

มา กูจะสาธยายให้ฟัง ว่าอย่างไรแกก็ต้องตาย
อย่างน้อยก็ต้องแก่ตาย 555 ไง แกกลัวไหม

ก็แน่นอน ถ้าชี้ได้ให้เขาเห็นได้ ให้เขารู้แล้ว ก็ย่อมตอบ
มาว่า กูไม่กลัวแล้ววะ ก็มันต้องเจอ หนีไม่พ้น แล้วกูจะกลัว
ไปทำไม ทำมาหากินดีกว่า

.....ก็จะเห็นว่า ความตายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครๆคิดเอาแบบสั้นๆ

พอความตายไม่กลัว เรื่องวิญญาณก็อาจจะไม่กลัวไปด้วย เพราะมัน
เนื่องกัน เป็นเหตุเป็นผลกันอยู่บ้าง

ดังนั้น การที่เทียวไปชี้ว่า เดียวจะสำเร็จโทษให้ตาย ก็ใช้ไม่ค่อยได้
เพราะถ้าเขาน้อมดูว่า วันหนึ่งเขาก็ต้องตาย เขาก็ไม่กลัวหรอก
คุณดูเหมือนจะใช้ตรงนี้ ก็น่าจะคิดทันนะว่า ไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็น
แล้วจะคิด จะตั้งใจสื่อตรงนั้นไปทำไม เสียเวลา

มาชี้ ทุกข์ ในวัฏสงสารดีกว่า น่ากลัวกว่าเยอะ

หาคนที่จะล่วงรู้ตรงนี้ก่อนก็ยาก จะทำให้รู้ก็ยาก

ถ้าเขาไม่รู้นี้ เห็นไหมว่า เขาต้องกลัว เอาอันนี้ไป
ขยายผลดีกว่า

 

ปากว่าไม่กลัว ตัวนั้นอยู่ไหน ปากว่าไม่กลัว เคยพิสูจน์ตัวเองบ้างไหม

ปากว่าไม่กลัวเคยอยู่ป่าช้าคนเดียวตอนที่เขากำลังเผาศพหรือไม่ ปากว่า

ไม่กลัวเคยทำอะไรที่มันแสดงให้โลกรู้ว่าไม่กลัวจริงหรืออเปล่า

แน่ใจจริงไหม ถ้าแน่ใจก็จงทำให้คนอื่นเขาเห็นกันไปว่าแน่จริง

ไปนอนกับศพ ไปนอนในห้องดับจิต ไปนอนที่ป่าช้า คนเดียว

กลางแจ้ง ห้ามมีอะไรปิดบังนอกจากมุ้งบางๆ จะได้มองเห็ชัดๆ

แล้วจุดธูปจุดเทียน บอกไปว่าข้ามาวันนี้ข้ามาท้าทายท่านผีทั้งหลาย

เจ้าของศพทั้งปวง แล้วก็นั่งอยู่คนเดียวนะ อย่าไปไหน อยู่นั่นแหละ