วิธีบูชา พระรูป เสด็จพ่อ รัชกาลที่ ๕

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย อธิมุตโต, 25 สิงหาคม 2008.

  1. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    [​IMG]


    [​IMG]

    การบูชาพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
    ตามลัทธิพิธีเสด็จพ่อ ร.5 ดังนี้ ควรบูชาทุกวันอังคาร ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ และวันพฤหัสบดีอันเป็นวันครู

    เครื่องสักการะให้ถวาย
    1. น้ำมะพร้าวอ่อน
    2. กล้วยน้ำว้า
    3. ทองหยิบ
    4. ทองหยอด
    5. บรั่นดี
    6. ซิการ์
    7. ข้าวคลุกกะปิ
    8. ดอกกุหลาบสีชมพู

    สำหรับผู้บูชาครั้งแรกให้จุดธูป 16 ดอก ส่วนครั้งต่อไปจุด 9 ดอก ว่าคาถาดังนี้ พระคาถาบูชาดวงวิญญาณเสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 "นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ ปิยะ มะมะ นะโม พุทธายะ" (กล่าว 3 ครั้ง)

    พระคาถาบูชาพระพุทธเจ้าหลวง แบบย่อ "พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ" หรือแบบเต็ม "นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ มาสีสะมานัง"


    พระคาถาอธิษฐานขอพร แต่ห้ามบนบาน "นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) พระสยามะมินโท วะโร อัตตัง พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ ปิโย เทวามนุสสานัง จงเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ปิโย นาคะสัมปันนานัง จงบังเกิดความรักที่มีอนุภาคสูงสุด ปิโย พรหมานะมุตตะโม จงบังเกิดความรักกับผู้มีอำนาจท่านท้าวมหาพรหม เจ้าจอม อินทรา นาค ครุฑ และคนธรรพ์ ปินันทิยัง นะมามินัง ความรัก ความยินดี ความเมตตา จงบังเกิดในเรือนร่างข้าพเจ้าทุกส่วนแม้ปลายเส้นผม


    "ปิยะ มะมะ นะโม พุทธายะ (5 จบ) ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า (นาย นาง นางสาว) ชื่อ...นามสกุล... ต้องการให้พระองค์ท่านช่วยเรื่อง... อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะ นาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ ปิยะ มะมะ นะโม พุทธายะ (3 จบ) พระพุทธเจ้าขอรับด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะขอให้บุญบารมีขององค์เสด็จพ่อ ร.5 สูงยิ่งๆ ขึ้น และแกร่งกล้ายิ่งๆ ขึ้น"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 สิงหาคม 2008
  2. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922
    เครื่องสักการะให้ถวาย
    1. น้ำมะพร้าวอ่อน
    2. กล้วยน้ำว้า
    3. ทองหยิบ
    4. ทองหยอด
    5. บรั่นดี
    6. ซิการ์
    7. ข้าวคลุกกะปิ
    8. ดอกกุหลาบสีชมพู
    9 ขนุน 1 ลูก
    10 ขนมต้มแดง และขนมต้มขาว




    ขอเชิญไปสักการะในวันที่ 20 กันยายน 2551 ครับ
    จัดงานที่ลาดพระรูปทรงม้า ครับ 17.00 น เป็นต้นไปครับ

    การบวงสรวงและเครื่องบวงสรวง
    ชุดใหญ่ครับ
    มีการถวายเค็ก 5 ชั้น ตัดแจกในงานครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2008
  3. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922
    จัดงานโดน
    คุณ ไทด์ คุณ เอกพันธ์ บรรลื่อฤทธ์

    ครับ
     
  4. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +494
    อธิบายให้หน่อยครับอย่างเช่นท่านชอบทองหยิบหรือชอบกุหลาบแล้วของที่เหลือมีไว้ทำอะไรบ้างน่ะครับ
    ขอบคุณครับ
     
  5. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ของถวายทุกอย่าง คือของชอบเสวย ของพระองค์ท่านครับ
     
  6. Laywoman

    Laywoman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +201
    ถ้าไม่ติดธุระที่ไหน ไม่พลาดแน่ๆค่ะ เพราะยังไม่เคยไปสักการะองค์เสด็จพ่อท่านเลยค่ะ
    ขอขอบพระคุณ คุณหนึ่งมาก ที่นำข่าวมาประชาสัมพันธ์
    อนุโมทนา สาธุ... ค่ะ [​IMG]
     
  7. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922
    มีการเปลียนแปลงหรือไมไมทราบครับที่ลาดพระรูปครับ
    เพราะบ้านเมื่องมันเป็นเช่นนี้ครับเลยไมทราบว่าจะจัดไมครับเพราะตอนนี้ไมไห้ติดกับพี่เขาเลยครับที้งสองคนครับเพราะพี่เขาเรียานที่รามคับ
     
  8. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922
    อย่าลืมงานที่ 20 กันยายน นี้ครับ
    งานใหญ่ครับ
    ไปเจอผมได้ครับ
     
  9. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922
    วันนี้วันงานที่ ลาดพระรูปครับ
    เวลา 17.30 เป็นต้นไปครับ
    ถึงปรมาณ 20.00 นครับ
    หน้าองค์ท่านครับย
    จะมีการถวายเครื่องสักสังเวชครับ
     
  10. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
  11. p_kunra

    p_kunra สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    ไม่ทราบว่าเครื่องสักการะที่ว่านี้รวมถึงการสักการะ 'ม้าทรง'ของเสด็จพ่อ ด้วยหรือไม่ครับหรือว่าต้องมีอะไรเพิ่มเติมจากนี้..(คือผมไม่แน่ใจว่าหากจะรวมไปถึงม้าทรงจะต้องมีหญ้า หรือว่าอาหาร ของม้าต่างหาก ด้วยรึเปล่า..)....อยากร่วมทำบุญ สักการะ...ครับจะมีจัดอีกเมื่อไหร่ อยากร่วมทำบุญครับ (โดยเฉพาะม้าทรงครับ...)....คุณหนึ่ง99999 พอจะให้ความกระจ่างได้มั๊ยครับ...(ใหม่ครับ ใหม่มาก ๆ แต่อยากทำครับ)

     
  12. p_kunra

    p_kunra สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    อะนุโมทนาสาธุครับ

     
  13. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ....


    ;aa22 การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง
     
  14. SALEEN

    SALEEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +130
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  15. windybliss

    windybliss Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +51
    ขอบคุณค่ะ เป็นประโยชน์มากค่ะ
     
  16. ลำพูล

    ลำพูล สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +8
    ดิฉันนับถือท่านมาก...ท่านก็คุ้มครองคนที่นับถือท่าน...เรามีอะไรที่ดี...ก็ถวายท่านได้ค่ะ
     
  17. breakout

    breakout สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอบคุณครับบบบบบบบบบบบบบ
     
  18. namitta

    namitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,061
    ค่าพลัง:
    +3,517
    เฮ้อ ... พระองค์ท่านไม่โปรดบรั่นดี หรือ สุราของเมานะครับ

    พระพุทธเจ้า ท่านสอนให้เรารักษา ศีล 5 เพื่อความสุข ความเจริญ ......ฉะไหนเลย เราถึงเอาเหล้าไปบูชาพระ .... บางคน บอกว่า บูชาเหล้า แล้วกิจการเจริญรุ่งเรืองดี ทำมาค้าขึ้น แล้วคุณลองสังเกต หรือปล่าว ว่า งานที่ว่าดีนั้น กว่ามันจะได้ดี มันเหนื่อยมากไม๊หล่ะ มึนบ้างไม๊หล่ะ เพราะอะไร ? .... และที่สำคัญ แทบทุกคนที่เอาเหล้าบูชา ร.5 จะบอกเหมือน ๆ กันว่า " รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเสวยเหล้า " ไม่รู้ ว่ารู้ได้อย่างไรเหมือนกัน

    แป๋มพูดกับใคร ว่า อย่าทำ ไม่ดี ก็ไม่มีคนเชื่อ " ก้อ เราไม่มีหลักฐานยืนยันว่าไม่ดียังไง ใครเค้าจะมาเชื่อหล่ะเนอะ ที่เราพูด เพราะเราเจตนาดี หวังดี เท่านั้นแหละ ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น "

    เผอิญเมื่ออาทิตย์ก่อน ได้อ่าน หนังสือชีวิตในวังบางขุนพรหม ของ คุณกิตติพงษ์ วิโรจน์ธรรมากูร มีตอนหนึ่งในหน้า 122 เขียนว่า

    " สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ไม่โปรดเสวยเหล้า ดังมีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก ในปี พ.ศ 2440 ผู้จัดการรับเสด็จฯ ได้นำขวดเหล้าวิสกี้ มาตั้งไว้ภายในห้องพระบรรทม เมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นเข้าก็ กริ้วโกธร ด้วยพระองค์ท่านไม่ทรงโปรดเสวยเหล้า ทรงมีพระราชดำรัสว่า " จัดการกันอย่างนี้ ลูก ๆ ของข้าจะติดเหล้า และกลายเป็นคนขี้เมากันหมด "


    เครื่องเสวยที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงโปรด
    ตามคำบอกเล่าของเจ้าจอมสดับ ที่ได้กล่าวไว้ในหนังสือ “ ควรอ่านได้ทุกคน “
    ได้แก่ 1. ซุปลูกหมา 2. ปลาร้าหลน 3. แกงเทโพ 4. ไก่นมวัว
    ในที่นี้จะขอกล่าวถึง ซุปลูกหมา และ ไก่นมวัว ถึงรายละเอียดและวิธีทำดังต่อไปนี้ เนื่องจากชื่ออาหารค่อนข้างแปลก
    1. ซุปปอดโอโฟ หรือ ซุปลูกหมา
    เครื่องปรุง
    เนื้อวัว (ใช้เนื้อสะโพกหรือเนื้อสัน) พริกไทยเม็ด กานพลู หรืออบเชย หอมหัวใหญ่ แครอท มันฝรั่ง กะหล่ำปลี หรือ ผักกาดขาว เนยเหลว
    วิธีทำ
    นำเนื้อ 1 กิโลกรัม ซึ่งหั่นเป็นก้อน พริกไทย 11 เม็ด กานพลูหรืออบเชย (ไม่ป่น) เคี่ยวให้เปื่อย แล้วช้อนเอาเนื้อขึ้นไว้ต่างหาก นำน้ำเนื้อต้มมากรองด้วย เอาเนยใส่กระทะ ตั้งไฟให้ร้อน นำผักซึ่งล้างสะอาดและหั่นเป็นชิ้นตามชอบใส่ลงผัดกับเนย โรยเกลือ พริกไทยป่น รสตามชอบ แล้วใส่รวมกับน้ำเนื้อและก้อนเนื้อ นำไปตั้งไฟ เคี่ยวผักจนเปื่อย ชิมรสตามใจชอบ รับประทานกับขนมปัง
    2. ไก่นมวัว
    เครื่องปรุง
    ไก่ 1 ตัว หอมหัวใหญ่ 6 หัว ไข่ไก่ต้มสุก 4 ฟอง มันฝรั่งต้ม 6 หัว เครื่องน้ำพริกแกงเผ็ด (ไม่ใส่ผิวมะกรูด) นมวัว 2 ถ้วยชา กะทิ ต้นหอม ผักชี ผักกาดหอม พริกชี้ฟ้า
    วิธีทำ
    นำไก่มาล้างให้สะอาด หั่นแล้วนำมาเคี่ยวกับหางกะทิจนไก่เปื่อย นำน้ำพริกแกงเผ็ดมาผัดกับนมวัว แล้วราดลงในไก่ที่ต้มเปื่อยแล้ว เคี่ยวต่อไปให้น้ำพริกเข้าเนื้อ ใส่น้ำปลา น้ำตาล ชิมรสดูตามใจชอบ ตักไก่ใส่ในภาชนะจานเปล แล้วตักน้ำแกงราดบนไก่ให้ข้นฯ นำไข่ไก่ต้ม หอมหัวใหญ่ มันฝรั่งต้ม ต้นหอม ผักชี ผักกาดหอม พริกชี้ฟ้า มาหั่นแล้วประดับบนไก่

    ที่มา : หนังสือ เรื่องเล่าชาววัง ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม วังสวนสุนันทา พศ. 2536




    ดร. กัณฑาทิพย์ สิงหะเนติ เขียนเล่าไว้ในหนังสือ “ย้อนรอยเจ้าจอมก๊กออ ในรัชกาลที่ ๕” ว่า

    สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงโปรดเสวยปลาทูเป็นอย่างมาก ในสมัยนั้นถือว่าปลาทูเป็นของหรู เสด็จเมืองเพชรคราวใดก็มักจะเอ่ยถึงปลาทูเสมอ บุญมี พิบูลย์สมบัติ จากบทความ “ข้าวต้มสามกษัตริย์” หน้า ๒๐๕-๒๐๖ ในหนังสือ พระปิยมหาราชกับเมืองเพชร กล่าวว่า

    “ปลาทูก็เป็นของกินอร่อย เพราะตัวโต และมีจำนวนมาก”

    และอีกตอนว่า

    “เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕ เสด็จมาเมืองเพชรบุรี แต่ละคราวของกินในฤดูกาลปลาทูชุก ก็ทรงโปรดเสวยปลาทูเป็นอย่างมาก เช่น เมื่อคราวเสด็จประพาสเพชรบุรีเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒ ในวันที่ ๑๔ กันยายน ได้เสด็จลงเรือเล็ก ๒ ลำ มีเจ้าพนักงานเตรียมของแห้ง และเครื่องครัวขึ้นไปเที่ยวตอนเหนือลำน้ำเพชรบุรีจนถึงท่าเสน แล้วจอดเรือเสด็จขึ้นไปทำกับข้าวกลางวันกินกันที่ท่าน้ำวัดท่าหมูสี หรือวัดศาลาหมูสี”

    พระราชหัตถเลขาจากเพชรบุรี ฉบับที่ ๕ วันที่ ๑๕ กันยายน ร.ศ. ๑๒๘ ที่มีมาถึงมกุฎราชกุมาร หน้า ๓๑ ได้กล่าวถึงเรื่องปลาทูไว้ว่า

    “น้ำที่เพชรบุรีวันนี้ขึ้นสูงอีกมาก แต่ถ้าฝนไม่ตกก็น่าจะยุบลงได้อีก อากาศวันนี้แห้งสนิท มีฝนประปรายบ้างในเวลาจวนพลบ แต่ก็ไม่ชื้น มีความเสียใจที่จะบอกว่าปลาทูปีนี้ใช้ไม่ได้ ผอมเล็กเนื้อเหลว และมีน้อย ไม่ได้ทุกวันด้วย”

    หรือในพระราชหัตถเลขาจากเพชรบุรีถึงพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ หน้า ๑๐๙ ที่ว่า

    “พระยาบุรุษ

    วันนี้เห็นปลาทูตัวโต ควรจะมีการเลี้ยงได้เช่นเมื่อปีกลายนี้ เป็นอาหารเช้าเวลาก่อฤกษ์แล้วให้ไปคิดจัดการกับพระยาสุรินทร์และกรมดำรง จะหาปลาได้ฤๅไม่”

    หรืออีกฉบับหนึ่งจากเพชรบุรีถึงพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภเช่นกัน

    “พระยาบุรุษ

    ปลาทูที่ได้มา ให้แจกไปตามเจ้านายและขุนนางคนละตัวสองตัว เพราะได้มาไม่ทันเลี้ยง”

    หรือสำเนาพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๘ ที่มีมาถึงพระราชชายา เจ้าดารารัศมี จากหนังสือ ราชสำนักสยาม ของ ชาลี เอี่ยมกระสินธุ์ หน้า ๖๕ มีพระดำรัสถึงปลาทูไว้ว่า

    “หมู่นี้ฝนชุกหาเวลาเที่ยวยาก....ในเดือนสิงหาคมคิดจะไปกาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรีสอนกินปลาทูเสียใหม่อีกสักที เพราะเหตุที่หมู่นี้กินไม่ได้ เหม็นคาว....”

    บทความเรื่อง “ข้าวต้มสามกษัตริย์” ในหนังสือ พระปิยมหาราชกับเมืองเพชร ของ บุญมี พิบูลย์สมบัติ หน้า ๒๐๖ เล่าถึงการที่ทรงเอาจริงเอาจังมากกับปลาทู ซึ่งเป็นอาหารโปรดเวลาที่เสด็จเมืองเพชร และคนทอดปลาทูที่ถูกใจก็เห็นมีแต่เจ้าจอมเอิบเท่านั้น

    “การเสวยปลาทูนั้น ในรัชกาลที่ ๕ ทรงพิถีพิถันมาก แม้แต่คนทอดปลาทูก็ทรงใช้คนที่มีความรู้ความเข้าใจในการปรุง การทำให้ถูกต้องคือกินอร่อย ใช่สักแต่ว่าทำได้พอเสร็จ โดยเฉพาะทรงเลือกหาคนทอดปลาทูที่ถูกใจ และมีฝีมือตามพระราชประสงค์นั้นคงได้แก่ เจ้าจอมเอิบ ซึ่งเป็นท่านหนึ่งในจำนวนเจ้าจอมจากสกุลเมืองเพชร ๘ ท่านนั่นเอง”

    ในงานขึ้นพระตำหนักพญาไท เมื่อเดือนพฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๙ ก็ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงพระยาบุรุษในเรื่องการทอดปลาทู โดยให้รถไปรับเจ้าจอมเอิบมาที่พระตำหนักพญาไทเพื่อมาทอดปลาทูโดยเฉพาะ ดังความว่า

    สวนดุสิต
    ๒๘ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๙​

    พระยาบุรุษ​

    เรื่องทอดปลาทูข้าอยู่ข้างจะกลัวมาก ถ้าพลาดไปแล้วข้ากลืนไม่ลง ขอให้จัดตั้งเตาทอดปลาที่สะพานต่อเรือนข้างหน้าข้างใน บอกกรมวังให้เขาจัดรถให้นางเอิบออกไปทอดเตรียมเตาและกระทะไว้ให้พร้อม”

    นอกจากจะโปรดเสวยปลาทูแบบที่ทอดตามปกติแล้ว สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงคิดเมนูใหม่โดยนำปลาทูมาทำข้าวต้ม เรียก “ข้าวต้มสามกษัตริย์” ตามที่ บุญมี พิบูลย์สมบัติ เล่าไว้ในบทความเรื่อง “ข้าวต้มสามกษัตริย์” ในหนังสือ พระปิยมหาราชกับเมืองเพชร หน้า ๒๐๗ ความว่า

    “ข้าวต้มสามกษัตริย์ ประกอบด้วย ปลาทู หมึก และกุ้ง ที่ได้สด ๆ จากทะเล ปรุงเป็นข้าวต้มอย่างง่าย ๆ ตามที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงคิดคราวเสด็จประพาสทางทะเล ขณะเสด็จจากปากอ่าวแม่กลอง จะมายังปากอ่าวบ้านแหลม มายังจังหวัดเพชรบุรี”




    นอกจากปลาทูแล้ว ยังทรงโปรดมะเขือต้มอีกด้วย

    วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๙​

    พระยาบุรุษ​

    นอนฝันไปว่ากินมะเขือต้ม เห็นจะเป็นด้วยหิวเข้า เลยนึกอยากไปจริง ๆ ได้สั่งให้อาภาทำที่พญาไทสำหรับกลางคืนวันนี้ คิดอ่านจัดการหุงเข้ากับตาอ้นสักที ให้เจ้าหาของหวาน ไม่ต้องมีกับเข้าอื่นก็ได้ กินกันจน ๆ อย่างในเรือเมล์เสียสักที ให้เตรียมให้ทันในวันนี้

    สยามินทร์​



    อาหารการกินของชาววัง / หอมติดกระดาน

    หมอสมิธ บรรยายเกี่ยวกับพระกระยาหารของ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ไว้ว่า
    “... พระกระยาหารที่พบเห็นบ่อยๆ ได้แก่ ซุปข้น ซึ่งมีส่วนผสมของข้าว และใช้ปลาปรุงรสแทนเนื้อ ชนิดของปลาที่ใช้จะต้องเลือกสรรเป็นพิเศษ เพื่อให้มีรสชาติอร่อย ยิ่งถ้าได้ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลก็จัดได้ว่าเป็นอาหารจานแปลกอีกชนิดหนึ่ง พระกระยาหารจานแปลกอีกอย่างที่พบเห็นบ่อยๆ ได้แก่เนื้อวัวหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ
    นำลงทอดในน้ำมันมาก ๆ เติมเกลือและน้ำตาลลงไปในปริมาณที่เท่ากัน ทอดจนเกรียม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยอย่างเดียวหรือเสิร์ฟพร้อมกับแกงก็ได้ ..”
    อาหารที่หมสมิธบรรยายทั้งสองชนิด น่าจะได้แก่ “ข้าวต้มปลา” และ”เนื้อหวาน” ซึ่งเป็นอาหารที่รับประทานกันทั่ว ๆ ไป

    และหมอสมิธได้บรรยายเกี่ยวกับเรื่อง พระกระยาหารแปลก ๆ ในพระราชสำนักสมเด็จพระศรีพัชรินนทราบรมราชินีนาถไว้ว่า “... ในการเข้าเฝ้าอีกคราวหนึ่ง ข้าพเจ้าได้พบพระองค์กำลังสำราญพระทัยอยู่กับการเสวยด้วงมะพร้าว ตัวอ้วนใหญ่สีขาวนวลพูนจาน (ข้าพเจ้า ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรให้ชัดเจนไปกว่านี้) แต่เผอิญว่าในวันนั้น มีผู้เตือนข้าพเจ้าไว้ก่อนแล้วล่วงหน้า ข้าพเจ้าจึงสามารถปฏิเสธได้ทัน อย่างไรก็ตาม มีผู้ใก้การยืนยันว่า หากนำด้วงมะพร้าวลงทอดในน้ำมันจากตัวมันเองแล้ว จะมีรสชาติอร่อยเช่นเดียวกับเวลาที่รับประทานเนื้อมะพร้าวเลยทีเดียว

    ผัดด้วงโสน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเสวย เพราะทรงเห็นว่ามีวิตามินมาก เมื่อเป็นพระราชนิยม ชาววังสมัยรัชกาลที่ ๕ จึงกินเป็น เห็นเป็นเรื่องธรรมดา หาอ่านได้ในหนังสือ "ชีวิตในวัง"ของม.ล.เนื่อง นิลรัตน์

    ส่วนด้วงมะพร้าว ตัวสีขาวโตกว่าหัวแม่มือ ก็ใช้วิธีเตรียมคล้ายๆกัน เอาด้วงใส่ลงไปในหม้อกะทิให้มันกินกะทิ แล้วเอาลงทอดในน้ำมัน จนตัวด้วงเหยียดออกไปเป็นตัวยาว เอาขึ้นมาหั่นเป็นแว่นแล้วจิ้มน้ำจิ้ม



    เครดิต http://www.reurnthai.com/index.php?PHPSESSID=bcb1ebd9bcf4843d00f7d877fb714622&topic=4290.90
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2012
  19. นันทิดาด้า

    นันทิดาด้า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2013
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    พระองค์ท่าน โปรดเสวยของง่ายๆๆคะ ไม่เรื่องมากกับของเสวย แต่ของเสวยบางอย่างก็ต้องยกให้แต่ละคนทำตามความถนัด อย่างปลาทู ก็ต้องให้เจ้าจิมเอิบมาทำให้ ไม่งั้น ท่านไม่ยอมเสวยเจ้าคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...