วิชาทำนายอี้จิงแบบดอกเหมย หรือวิชาจับยามดอกเหมย

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย dice, 10 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. dice

    dice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +469
    วิชาทำนายอี้จิงแบบดอกเหมยแปลงเลข เรียกว่าวิชา “เหมยฮวาอี้ซู่ 梅花易數” หรือ ”เหมยฮวาซินอี้ 梅花心易” ก็เรียก มาจากคำว่า 梅花 เหมยฮวา แปลว่า ดอกเหมยและ 易 อี้ แปลว่า เปลี่ยนแปลง หรืออี้จิงนั่นเอง ส่วน 數ซู่ หมายถึงตัวเลข ซึ่งการแปลความหมายชื่อนั้นก็มีแตกต่างกันไป บ้างก็เรียกว่าวิชาจับยามดอกเหมย แต่ผู้เขียนขอแปลความหมายตามตัวอักษรเป็น “ดอกเหมยแปลงเลข”
    วิชาทำนายอี้จิงแบบดอกเหมยแปลงเลขนั้น เป็นวิชาการศึกษาอี้จิงที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงค์ซ่งเหนือ กล่าวได้ว่าเป็นวิชาทำนายที่เป็นหลักวิชาอี้จิงแท้ๆเช่นเดียวกับการอ่านคำ ทำนายจากคัมภีร์โจวอี้ เพราะแม้ว่าวิชาทำนายหรือพยากรณ์ของจีนนั้นจะมีมากมายที่ใช้หลักวิชาอี้จิง แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ยังเป็นวิชาทำนายหรือเสี่ยงทายที่เพียงแต่อิงหลักอี้จิง หรืออาศัยการเรียงกว้ามาช่วยในวิชาเสียเป็นส่วนใหญ่และไม่ถูกจัดนับรวมเข้า เป็นศาสตร์วิชาการศึกษาอี้จิงทั้งสี่สาขา คือ ยี่(จรรยา), หลี่(ปรัชญา, หลักการ), เซี่ยง(รูปลักษณ์) และ ซู่(ตัวเลข) แต่วิชาดอกเหมยแปลงเลขนั้นแม้กล่าวได้ว่าเป็นวิชาทำนายหรือพยากรณ์เฉกเช่น กันแต่กลับถูกจัดเข้าอยู่ในหมวดศึกษาวิชาอี้จิงว่าด้วย “เซี่ยง” หรือรูปลักษณ์และ “ซู่” หรือตัวเลขตลอดมา และด้วยความแม่นยำและพิศดารของการใช้หลักวิชาอี้จิงในวิชาดอกเหมยแปลงเลขนี้ จึงทำให้วิชานี้ได้รับการยอมรับและยกย่องมาตลอดเวลานับพันปี
    ด้วยวิชาทำนายอี้จิงแบบดอกเหมยแปลงเลขนี้เป็นการใช้หลักวิชาอี้จิงแท้ๆใน การทำนาย โดยเพียงอาศัยความสัมพันธ์ของกว้าทั้งแปด ธาตุทั้งห้า เป็นหลักใหญ่ วิชานี้จึงเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการศึกษาอี้จิงในเชิงลึก เนื่องจากหลักวิชาเรียบง่ายไม่สะเปะสะปะ และไม่แตกแขนงวิชาออกไปนอกวิชาอี้จิงจนเกินไป แม้หากใช้ในการทำนายหรือพยากรณ์ก็มีความสะดวกรวดเร็วโดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ ใดๆ โดยส่วนใหญ่สามารถใช้วิธีการจับยามเวลามาทำนาย หรือใช้สิ่งต่างๆรอบกายที่เกิดขึ้นมาใช้ตั้งกว้าเพื่อพยากรณ์ได้โดยตรง โดยไม่ต้องอาศัยเหรียญ, กระดองเต่า, ไม้ติ้ว หรืออุปกรณ์อื่นใด ก็สามารถทำนายสิ่งต่างๆได้อย่างแม่นยำเป็นที่น่าพิศวง



    วิชาทำนายด้วยอี้จิงนี้เกิดขึ้นในสมัยราชวงค์ซ้อง โดยท่านเส้าหยง ชื่อรองเรียกว่าเส้าคังเจี๋ย ท่านเส้าคังเจี๋ยเป็นราชบัญฑิตในราชวงค์ซ้อง หลังจากรับราชการมานานเส้าคังเจี๋ยได้ลาออกจากราชการเพราะความเบื่อหน่าย และต้องการที่จะทุ่มเทเวลาให้กับการศึกษาอี้จิง ซึ่งเป็นศาสตร์ที่เขาสนใจ เส้าคังเจี๋ยทุ่มเทเวลาทั้งวันคืนศึกษาอี้จิง ท่านจะจดบันทึกสิ่งที่ท่านศึกษาใส่กระดาษแปะไว้ที่ข้างฝา และเฝ้าอ่านและศึกษาข้อความต่างๆมากมายที่บันทึกและแปะไว้นั้นจนลืมสิ้นทุก สิ่งทุกอย่าง น่าเสียดาย…แม้หลายครั้งเหมือนท่านจะเข้าใจในความลับบางอย่าง แต่เหมือนเพียงภาพเลือนให้เห็นได้แล้วหายไปแม้ผ่านเวลานานวันท่านก็ยังไม่ อาจเข้าถึงความลับที่ท่านต้องการ
    วันหนึ่งท่านเส้าเหนื่อยอ่อนจากการศึกษาอี้จิง จึงล้มตัวลงงีบหลับ จากนั้นท่านถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงบางอย่าง และพบว่ามีหนูตัวหนึ่งมาแทะกระดาษที่ท่านแปะไว้ที่ผนัง ด้วยความโมโหท่านจึงหยิบหมอนที่ท่านนอนอยู่นั้นขว้างใส่หนูทันที หนูตัวนั้นหลบหนีไปได้ราวกับเพียงมาเย้ยหยันในความล้มเหลวของท่าน ส่วนหมอนที่ท่านขว้างไปนั้นก็แตกกระจายทันที(หมอนจีนสมัยโบราณจะทำจาก เครื่องเคลือบ ซึ่งจะเย็นสบายเวลานอนในฤดูร้อน)
    ท่านเส้าเข้าไปเก็บกวาดเศษหมอนที่แตก แล้วก็พบเศษกระดาษสอดไว้ภายใน มีข้อความเขียนไว้ว่า “ในปีจอ วันที่ 25 เดือน 11 ยามซื่อ(9.00-11.00) หมอนใบนี้จะแตกสลายเพราะหนู” ท่านเส้าแหงนหน้าครุ่นคิดแล้วต้องตกใจแทบลมจับ เพราะวันเดือนปีและเวลาที่เขียนไว้คือวันนี้ที่หมอนถูกทำลาย นี่หมายความว่าตัวเลขจากวันเวลาสามารถอธิบายและทำนายถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น งั้นหรือ? หมายความว่าทุกสิ่งที่เกิดมีวัฏจักร ตั้งแต่หมอนใบนี้กำเนิดขึ้นก็มีเหตุ(ตัวเลข)ที่สามารถรู้ได้ถึงวันที่แตก สลายของมันแล้ว?
    ท่านเส้ารีบเดินทางไปยังร้านขายหมอน สอบถามถึงที่มาของหมอนใบนั้น เจ้าของร้านจึงแนะนำท่านไปยังบ้านของช่างทำหมอน เมื่อเดินทางไปถึงบ้านของช่างทำหมอนจึงได้พบกับชายหนุ่มช่างทำหมอนผู้หนึ่ง และได้บอกแก่ท่านเส้าว่า หมอนใบนั้นคือบิดาของเขาทำขึ้นมา แต่ท่านเสียชีวิตไปแล้ว
    เส้าคังเจี๋ยผิดหวังยิ่ง ขณะกำลังจะกลับนั้น อยู่ๆชายช่างทำหมอนก็จำเรื่องบางอย่างได้ และได้เรียกท่านเส้าไว้พร้อมกับกล่าวว่า “บิดาข้าได้กล่าวไว้ก่อนตายว่า วันหนึ่งจะมีบัณฑิตผู้หนึ่งเดินทางมาถามเรื่องหมอนที่บิดาข้าทำ จงมอบบันทึกของเขาแก่บัณฑิตผู้นั้น และข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านี่คือวันเวลาที่บิดาข้าเคยบอกไว้ ขอท่านรับบันทึกนี้ไปเถิด” พร้อมกับมอบบันทึกเล่มหนึ่งให้ท่านเส้า
    ท่านเส้าดีใจยิ่งรีบกลับบ้านและศึกษาบันทึกนั้น หลังจากนั้น 1 เดือน ท่านเส้าศึกษาจนแตกฉาน จึงได้เดินทางไปพบชายช่างทำหมอนอีกครั้ง พร้อมบอกว่าให้เขาขุดดินใต้เตียงลงไปลึก 3 เชี๊ยะ จะพบทองคำซึ่งเป็นสมบัติที่บิดาท่านทิ้งไว้ให้ และเมื่อชายหนุ่มช่างทำหมอนไปขุดใต้เตียงก็ได้พบทองก้อนอยู่ในนั้นจริงๆ
    วิธีที่ท่านเส้าศึกษาจากบันทึกนั้น ได้ถูกเรียบเรียงและปรับปรุงให้สมบูรณ์โดยท่านเส้า ผู้ถูกเลือกว่าเหมาะสมจากชายชราช่างทำหมอนผู้คิดค้นขึ้น และวิชานี้ได้ถูกเรียกว่า “เหมยฮวาซินอี้” หรืออี้จิงเปลี่ยนดอกเหมยนั่นเอง


    ที่มา อี้จิง มวยไท่จี๋ ศาสตร์วิชาโบราณจีน
     
  2. LM2009

    LM2009 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +80
    สนใจครับต้องทำอย่างไงมั่ง?
     
  3. dice

    dice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +469
    ในเมืองไทยก้มีคอร์สอบรมกันนะครับ แต่มีน้อยมากและราคาแพงครับ ลองดูที่ เว็บฮวงจุ้ย นะครับ แต่ไม่รู้ว่าดีหรือไม่นะครับ
    หรือไม่ก็ลองตามดู บล็อก ที่มาของบทความที่มาลงครับ เห็นว่าลงเรื่อยๆ ลองตามดูได้ครับ อันนี้ฟรีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กุมภาพันธ์ 2010
  4. ลมฝน

    ลมฝน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0

    1.วัน + เดือน + ปี (แบบจันทรคติจีน) หาร 8 เศษ เป็น ก่วยล่าง

    2.วัน + เดือน + ปี + ยาม (แบบจันทรคติจีน) หาร 8 เศษ เป็น ก่วยบน

    3.วัน + เดือน + ปี + ยาม (แบบจันทรคติจีน) หาร 6 เศษ เป็นต๋ง นับเส้นจากล่างขึ้นบน ตกเส้นไหน เปลี่่ยนจากหยางเป็นหยิน จากหยินเป็นหยาง
     
  5. หนึ่งสองสาม

    หนึ่งสองสาม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    .

    วิธี คำนวณอยู่เว็บนี่ ครับ


    httpww.thaizhouyi.com/yijing-divination/meihuayishu/mei-hua-yi-shu-mutan/
     

แชร์หน้านี้

Loading...