**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5490

    พระรูปเหมือนเจ้าคุณนรรัตนราชมานิตย์ พระอาจารย์เชื้อจัดสร้างเป็นกรณีพิเศษ ในปี๒๕๑๓


    หลังจากท่านเจ้าคุณนรท่านประกาศอธิฐานจิตวัตถุมงคลเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๓

    พระชุดนี้ประกอบด้วย
    ๑.พระผงพิมพ์สมเด็จมฤคทายวัน หลังลายเซ็น
    ๒.พระผงพิมพ์สมเด็จมฤคทายวัน หลังตัวหนังสือ
    ๓.พระกริ่งศิริธิติ
    ๔.พระรูปเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯ

    องค์นี้เป็นพิมพ์รูปเหมือน แต่งได้สวย ตอกโค๊ตชัดเจน ครับ


    ราคา 1950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_5474.JPG IMG_5475.JPG IMG_5477.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2020
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5491

    เหรียญครูบาสร้อย วัดมงคลศีรีเขต ตาก รุ่นสุริยุปราคา เนื้อเงิน


    ราคา 2300 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    df.jpg o.jpg f.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2020
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5492

    พระพุทธเนื้อผงพุทธคุณ (ปางสมาธิ) ดาบส สุมโน
    ณ อาศรมสองแคว จังหวัดแพร่ ปี 2504


    พระพุทธรูปประเภทพระพิมพ์อีกพิมพ์หนึ่งที่ท่านเจ้าดาบส สุมโน ได้มอบหมายให้คณะศิษย์ดำเนินการสร้าง ณ อาศรมสองแคว จังหวัดแพร่ เนื้อผงผสมเกษาและด้านหลังบรรจุเศษไม้มงคลและพลอยที่มาจากเมืองจันทบุรีซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของหลวงพ่อดาบส สุมโน และยังเป็นเมืองแห่งอัญมณีซึ่งส่วนใหญ่พระของท่านจะผสมพลอยลงไปในวัตถุมงคลนั้นๆด้วย โดยเฉพาะพระที่เป็นผงพุทธคุณ

    จัดเป็นพระผงยุคต้นของหลวงพ่อดาบส สุมโน ที่หาชมได้ยากมาก องค์นี้สวยสมบูรณ์ เส้นเกศา พลอย เศษไม้มงคลเยอะมาก ครับ


    ราคา 2800 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    พระพุทธเนื้อผงพุทธคุณ (ปางสมาธิ) ดาบส สุมโน a.jpg พระพุทธเนื้อผงพุทธคุณ (ปางสมาธิ) ดาบส สุมโน b.jpg พระพุทธเนื้อผงพุทธคุณ (ปางสมาธิ) ดาบส สุมโน c.jpg พระพุทธเนื้อผงพุทธคุณ (ปางสมาธิ) ดาบส สุมโน d.jpg พระพุทธเนื้อผงพุทธคุณ (ปางสมาธิ) ดาบส สุมโน e.jpg พระพุทธเนื้อผงพุทธคุณ (ปางสมาธิ) ดาบส สุมโน f.jpg Clip_8.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2020
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5493

    เหรียญพระธาตุดอยสุเทพ รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ กะไหล่ทอง นิยม


    เหรียญรุ่นนี้ นับว่าเป็นเหรียญวัดพระธาตุดอยสุเทพรุ่นแรก ด้านหลังเป็นหลังยันต์ห้า สร้างขึ้นในปี 2477 โดยหลวงศรีประกาศ เป็นประธานจัดสร้าง สมัยนั้นดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างขึ้นเพื่อ หาเงินกองทุนสมทบ หรือ แจกผู้ร่วมงาน ในพิธีปฐมฤกษ์ ในวันที่จะประกอบพิธีปฐมฤกษ์ บุกเบิก ในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477 เวลา 10.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติม เหรียญรุ่นนี้จัดทำขึ้นมาอยู่ 2 แบบด้านหลัง เป็นยันต์ห้า ทั้ง 2 เหรียญ เหรียญที่ 1 เป็น พระธาตุดอยสุเทพและมีพระวิหารอยู่ด้านข้างซ้าย ด้านขวามือเป็นต้นไม้ ใต้ฐานระบุ พระธาตุดอยสุเทพ เหรียญที่ 2 เป็น พระธาตุดอยสุเทพ ซ้าย ขวา เป็นร่มหรือฉัตรหลวง อยู่ทั้ง 2 ด้าน ใต้ฐานระบุ พระธาตุดอยสุเทพ ทั้งสองเหรียญ มีศิลปที่งดงามยิ่ง เป็นเนื้อทองแดง กะไหล่ทอง ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก พระช้างเผือก

    เหรียญเก่า ปีลึกพระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม


    ราคา 2750 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    u].jpg yop.jpg t.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2020
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5494

    เหรียญรุ่นแรกเจ้าพ่อกู่ช้าง ปี 2521

    เหรียญประสบการณ์ของเมืองลำพูน
    วัตถุประสงค์ของการจัดสร้าง
    เพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณะ ศาลเจ้าพ่อกู่ช้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของชาวลำพูน ทำพิธีปลุกเสกในบริเวณกู่ช้างโดยเกจิชื่อดังของภาคเหนือในยุคนั้น
    เหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง ผู้กล่ำงาเขียว รุ่นแรก ปลุกเสกโดยเกจิคณาจารย์สายเชียงใหม่ ลำพูน ชื่อดังมากมายในสมัยนั้น
    เหรียญสุดยอดประสบการณ์ จัดเป็นอีกหนึ่งของดีแห่งเมืองลำพูน (ท้องที่หวงแหนกันมากครับ)
    ประวัติ-เจ้าพ่อกู่ช้าง
    มีตำนานว่า กู่ช้างเป็นเจดีย์บรรจุซากช้างคู่บารมีของพระเจ้ามหันตยศ ชื่อ"ปู่ก่ำงาเขียว" ล่ำลือกันว่ามีฤทธิ์เดชมาก ส่วนงานำไปเก็บไว้ในเจดีย์สุวรรณจังโกฏที่วัดจามเทวี ชาวลำพูนเคารพนับถือมาก ถึงกับสร้างศาลเจ้าพ่อกู่ช้างไว้ใกล้กับเจดีย์
    ความหมายของคำว่า"ผู้ก่ำ งาเขียว" ในภาษากลางก็คือ ช้างตัวผู้ผิวสีดำเข้ม และมีงาสีเขียว อันว่าช้างเชือกนี้เป็นช้างคู่บารมีของกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชยในอดีต คือพระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ ผู้เป็นพระโอรสของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตรีย์แห่งนครหริภุญไชย ช้างปู้ก่ำ งาเขียว เป็นช้างที่มีอิทธิฤทธิ์ นำพากษัตริย์ออกรบจนชนะข้าศึกศัตรูทุกครั้ง มีส่วนทำให้นครหริภุญไชย เป็นมหานครอันยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น และเมื่อสิ้นอายุไขลง ร่างก็ถูกนำไปฝังที่บ้านกิ่งแก้ว และพระเจ้ามหันตยศได้สร้างกู่ (เจดีย์) ครอบไว้อีกทีเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ์

    สภาพใช้ราคาเบาๆ


    ราคา 1200 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_5437.JPG IMG_5438.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2020
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5495

    เหรียญตานใช้ตานแทนครูบาชัยวงค์ ปี 35 เนื้อทองแดง

    จัดสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในพิธีสำคัญ เป็นพิธีชำระหนี้เจ้ากรรมนายเวร ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร (ตานใช้ตานแทน) เน้นทางการต่ออายุ เสริมดวงชะตา จะช่วยให้กรรมนั้นๆ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ จากเบาจนไม่มีผล

    ปลุกเสกในพิธีชำระหนี้สงฆ์ตานใช้ตานแทน ปี 2535 มีเกจิคณาจารย์ ร่วมปลุกเสกดังนี้

    1 . หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    2 . หลวงปู่ดาบส สุมโณ สำนักสงฆ์ไผ่มรกต เชียงราย
    3 . ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ ลำพูน
    4 . หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    5 . หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    6 . ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
    7 . ครูบาน้อย วัดบ้านปง
    8 . ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี

    อักขระยันต์ด้านหลังของเหรียญทำน้ำมนต์ตานใช้ตานแทนนี้ เป็นอักขระยันต์พระโมคคัลลานะ เป็นเหรียญที่อยู่คู่กับเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง มีอานุภาพ คลายกฏแห่งกรรมเช่นเดียวกับเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง


    บูชาแล้วครับ

    IMG_5439.JPG IMG_5441.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2020
  7. สุโขสุขี

    สุโขสุขี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +1,469
    โอนเงินให้แล้วครับ
    ที่อยู่ทางpm ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบ ขอบพระคุณครับ
     
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5496

    เหรียญรุ่นแรก ครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขต จ.ตาก เนื้อฝาบาตร พร้อมบัตรรองพระแท้

    เหรียญยอดนิยมประสบการณ์สูงมากของท่านครูบาสร้อย เหรียญหลักยอดนิยมของเมืองตาก หายยากมากครับ

    เนื้อฝาบาตรผิวเดิมมาพร้อมบัตรรับรองพระแท้ น่าใช้มากครับ


    ราคา 32500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    u.jpg e.jpg g.jpg eo.jpg yy.jpg yp.jpg Clip_18.jpg Clip_8.jpg Clip_17.jpg Clip_15.jpg Clip_16.jpg Clip_12.jpg Clip_4.jpg Clip_6.jpg Clip_10.jpg Clip_11.jpg Clip_20.jpg



    "ครูบาศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านมะตะวอ" หลายท่านคงคุ้นหูหรือเคยได้ยินกิตติศัพท์ของท่านบ้างไม่มากก็น้อย

    ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อนหลายๆ ท่านคงคุ้นหูว่ามีครูบาที่มีอาคมขลังศักดิ์สิทธิ์อยู่รูปหนึ่งในเขตทางภาคเหนือ ที่กล่าวมานั้นคือ "หลวงพ่อครูบาสร้อย ขันติสาโร" แม่ตะวอ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก

    ชาวบ้านแถบใกล้เคียง หรือต่างจังหวัดที่เคยมากราบท่านจะทราบดีว่าท่านเป็นพระที่มีอาคมขลังมากรูปหนึ่ง ถ้าท่านที่เคยไปกราบท่านจะทราบดีว่าท่านมีของดีอยู่อย่างหนึ่งที่ท่านมักแจกให้กับลูกศิษย์ที่นับถือ คือ "กระบอกยาอันศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งภายในมีของดีบรรจุอยู่คือ สีผึ้ง ชานหมาก เกศา ว่าน พระสีวลีองค์จิ๋ว และมีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ชาวกะเหรี่ยง พม่า และชนเผ่าต่างๆ นับถือกันมากครับ ถ้าท่านใดเจอที่ไหนบูชาเก็บไว้คุ้มครองกายได้ดีทีเดียวครับ

    "กระบอกยาศักดิ์สิทธิ์" เป็นวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่งซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับท่านเป็นอย่างมาก เพราะแต่ก่อนถ้าใครได้ไปกราบครูบาหรือครูบารับนิมนต์ไปไหนท่านจะนำหลอดยานี้ติดมาแจกให้กับลูกศิษย์อยู่เสมอ

    ลูกศิษย์ส่วนมากมีคล้องหรือติดตัวกันแทบทุกคน ทำให้เกิดประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด คงกระพัน เป็นเมตตามหานิยม เล่าให้ฟังเหมือนโม้หรืออุตริ ของอย่างนี้ต้องลองใช้เองหรือสอบถามลูกศิษย์ทางสายครูบาสร้อยจะรู้ว่าดีแค่ไหน

    วัดมงคลคีรีเขตร์ (ครูบาสร้อย) ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายแม่สอด-ท่าสองยาง-แม่สะเรียง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 136 หมู่ที่ 1 ต.ท่าสอง ยาง อยู่ติดกับลำห้วยแม่จวง สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2462 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดนี้คือ กุฏิครูบาสร้อย ขันติสาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดมงคลคีรีเขตร์ มรณภาพเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2541 เป็นที่เคารพของประชาชนทั่วไป ทั้งชาวไทยและชาวพม่าเชื้อสายกะเหรี่ยงที่อยู่ตรงข้ามอำเภอชายแดนฝั่งตะวันตก เชื่อกันว่าเป็นผู้ที่มีอาคมกล้าแข็งสามารถป้องกันอันตรายต่างๆ ให้กับผู้ที่เคารพนับถือ ซึ่งวัดนี้อยู่ตรงข้ามกับค่ายทหารกะเหรี่ยง มีชื่อค่ายว่า แม่ตะวอ เมื่อมีการสู้รบรุนแรง ดังนั้น ชาวบ้านและกะเหรี่ยงทั้งไทยและพม่าจึงเข้ามาหลบภัยอยู่ที่วัดนี้นี่เอง ครูบาสร้อยได้มรณภาพเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2541 ปัจจุบันอยู่ในโลงแก้วในกุฏิ ที่ท่านเคยอยู่โดยไม่เน่าเปื่อย

    หลวงพ่อสร้อยท่านถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2472 ตรงกับวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเส็ง พื้นที่เขตตำบลละหานทราย (ปัจจุบันเป็นอำเภอแล้ว) อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โยมบิดาของท่านมีนามว่า วัน และโยมมารดาของท่านมีนามว่า กรด ส่วนท่านกำเนิด ในสกุลใดนั้นในหนังสือเขียนไว้ไม่กระจ่าง ผมจึงขอละเว้นที่จะนำเสนอเพื่อป้องกันความสับสนต่อไป) ท่านมีพี่สาวเพียงคนเดียวมีนามว่า คิด ภายหลังท่านกำเนิดมาได้ 7 วันโยมบิดาของท่านก็ได้ถึงแก่กรรม และเมื่อท่านอายุได้ 7 ขวบโยมมารดาของท่านก็ได้ถึงแก่กรรม ซึ่งท่านก็ได้อยู่ในความดูแลของคุณยายท่านมานับแต่นั้น ซึ่งคุณยายของท่านนับเป็นบุคคลที่ชอบเข้าวัดฟังธรรมตามวิถีชีวิตชนบท ซึ่งจะพาท่านไปด้วยเสมอ ทำให้ท่านได้ใกล้ชิดกับวัดมาตลอดนับแต่วัยเด็ก

    ด้วยในวัยเด็ก "หลวงพ่อครูบาสร้อย ขันติสาโร" มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับวัดมาตลอด และในช่วงหนึ่งมีโอกาสถวายน้ำตาลแด่พระธุดงค์ โดยพระรูปนั้นได้กล่าวกับท่านว่า เมื่อใหญ่แล้วให้บวชนะ ซึ่งท่านได้ระลึกถึงคำนี้มาตลอด จนท่านเรียนจบประถม 4 จึงได้ขออนุญาตคุณยายของท่านบวชเป็นสามเณร โดยคุณยายของท่านได้เห็นชอบด้วยจึงพาท่านไปบวชที่วัดชุมพร ซึ่งอยู่ในละหานทรายนั่นเอง

    โดยมีหลวงพ่อมั่น เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่ท่านบรรพชาเรียบร้อยแล้วท่านก็ได้อยู่กับห ลวงพ่อมั่นนั่นเอง โดยหลวงพ่อมั่นท่านได้สอนให้สามเณรรูปใหม่ (หลวงพ่อสร้อย) หัดบริกรรมด้วยการตกลูกประคำเป็นการฝึกสมาธิ และระวังวัตรถากท่านเช่นการบีบนวด หลวงพ่อมั่นก็จะกล่าวบรรยายอบรมข้อธรรมต่างๆ ไปพร้อมกัน จนหลวงพ่อมั่นเห็นว่าสามเณรสร้อยมีจิตใจที่นิ่งมั่นคงดีแล้ว ท่านจึงได้สอนอาคมต่างๆ ควบคู่ไปกับการปฏิบัติสมาธิด้วย และยังได้พาท่านออกธุดงค์ รุกขมูลเพื่อให้ได้รับข้อธรรมต่างๆ ให้เพิ่มพูน

    ท่านได้อยู่เป็นสามเณรกับหลวงพ่อมั่นมาจนล่วงได้อายุ 22 ปี จึงได้ทำการอุปสมบทโดยมีหลวงพ่อมั่นเป็นพระอุปัชฌาย์ มีหลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทองเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อสุตเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ขันติสาโร"

    หลังจากที่เสร็จสิ้นการอุปสมบท หลวงพ่อสุขได้กล่าวชวนท่านไปด้วย ยังความดีใจแก่ท่านเป็นที่สุด ได้กราบลาหลวงพ่อมั่นขออนุญาตตามหลวงพ่อสุขไป โดยเริ่มแรกหลวงพ่อสุขได้ให้ท่านขึ้นครูกรรมฐาน โดยในช่วงต้นหลวงพ่อสุขได้เน้นหนักท่านในเรื่องการปฏิบัติกรรมฐาน ท่านเล่าว่าท่านปฏิบัติจนมีความสุขบางทีถึงกับไม่ได้หลับได้นอนเลย แต่ก็ไม่มีความง่วงเหงาหาวนอนแต่อย่างใด

    ในพรรษาถัดมาหลวงพ่อมั่นซึ่งเปรียบดังบิดาของท่านก็ได้มรณภาพลง ท่านจึงได้กลับไปจัดงานถวายแก่หลวงพ่อมั่น เสร็จสิ้นแล้วจึงกลับมายังวัดหลวงพ่อสุขดังเดิม โดยหลวงพ่อสุขได้เริ่มสอนวิชาต่างๆ แก่ท่าน ซึ่งวิชาที่สำคัญคือการตรวจดูบุญวาสนา และเวรกรรมของผู้ป่วย เพื่อช่วยในการรักษาโรคภัยต่างๆ

    อยู่ต่อมาในระหว่างอยู่ศึกษากับหลวงพ่อสุขอยู่นั้น (ในหนังสือไม่ได้บอกว่าช่วงพรรษาใด) ท่านได้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างแรงขณะปฏิบัติสมาธิอยู่บนศาลาจึงขอหลวงพ่อสุขไปพัก โดยระหว่างนั้นเองขณะนอนลงพัก วิญญาณของท่านก็ได้หลุดจากร่าง (ช่วงระหว่างวิญญาณท่านออกไปนี้ ผมขอละไว้นะครับ) ซึ่งการมรณะครั้งนี้ท่านได้สิ้นลมไป 7 วันเต็มๆ ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงพ่อสุขได้ทำพิธีเพื่อตามท่าน นำท่านกลับมา (ซึ่งวิชาเดียวกันนี้ท่านได้ใช้ช่วยชีวิตเด็กชาวกะเหรี่ยงให้ฟื้นคืนมาแล้ว)

    เข้าสู่ปีพ.ศ. 2497 หลวงพ่อสร้อยได้ขอลาหลวงปู่สุขเข้าสู่กรุงเทพฯ จุดหมายคือวัดมหาธาตุ ด้วยขณะนั้นขึ้นชื่อในเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้อยู่ศึกษาเป็นเวลา 7 เดือนท่านจึงลาพระอาจารย์ชาดกผู้สอนท่านกลับคืนยังบุรีรัมย์ เมื่อญาติโยมได้รู้ข่าวการกลับมาของท่าน จึงได้ทำการต้อนรับและนิมนต์ให้ท่านอยู่ที่วัดกลางนา เป็นรองเจ้าอาวาส

    หลังจากออกพรรษา "หลวงพ่อครูบาสร้อย ขันติสาโร"ได้ตัดสินใจออกรุกขมูลโดยท่านได้ล่ำลาญาติโยมแล้วก็ออกเดินรุกขมูลลัดเลาะไปตามจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ ต่อไปยังอุบลฯ จนยาวไปถึงนครพนม ข้ามไปยังฝั่งลาวแล้วข้ามกลับมายังมุกดาหาร ต่อเรื่อยไปจนเข้าสู่เทือกเขาภูพาน เขตสกลนคร ซึ่งท่านได้พบกับพระเถระรูปหนึ่งและได้ขอร่ำเรียนวิชาด้วย เรื่อยไปจนเข้าหล่มสักเข้าพิษณุโลก ซึ่งช่วงนี้ท่านหลงป่าอยู่ จนทะลุออกมายังอุตรดิตถ์

    จากการหลงป่าครั้งนี้ท่านจึงเปลี่ยนมาเดินโดยใช้เส้นทางรถไฟช่วย ล่วงได้ 7 วัน ท่านก็ล่วงถึงดอยสะเก็ด เชียงใหม่ โดยพบกับหลวงปู่แหวน และได้ขอศึกษาข้อธรรมต่างๆ จากหลวงปู่แหวนโดยช่วงนั้น หลวงปู่แหวนท่านกำลังเน้นไปทางอสุภะกรรมฐาน ซึ่งช่วงนี้ท่านว่าท่านได้พบกับข้อธรรมที่ลึกซึ้งมากขึ้น

    จากนั้นท่านได้ลาหลวงปู่แหวน ออก รุกขมูลต่อ รอนแรมไปจนถึงแม่สะเรียง พักที่วัดศรีบุญเรืองท่านตั้งใจจะไปหาเพื่อนที่แม่ฮ่องสอนแต่ด้วยติดกาลพรรษาท่านจึงได้ประจำพรรษาที่วัดศรีบุญเรือง จนล่วงกาลพรรษา ท่านจะออกเดินทางต่อ พอดีได้ทราบจากญาติโยมว่าที่ท่าสองยางมีวัดร้างอยู่ ท่านจึงคิดอยากไปที่นั่นดูด้วยคิดว่าคงเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม สร้างวัดมงคลคีรีเขตร์

    เส้นทางการมายังท่าสองยางนี่นับว่าลำบากเอาการ โดยจากแม่สะเรียง ผ่านไปยังแม่กระตวนจนสุดที่แม่ระมาด ต่อเรือไปยังแม่วะ แล้วเดินต่อไปยังแม่กะ จนลุถึงท่าสองยางชาวบ้านก็ดีใจที่ได้พบพระสงฆ์ ได้ให้ท่านอยู่โปรดโดยช่วยกันสร้างกุฏิให้ท่านด้วยใบตองตึง โดยพรรษานั้นท่านได้อธิษฐานอยู่พรรษาแต่รูปเดียว ซึ่งระหว่างนั้นได้มีลูกหลานชาวบ้านนามว่าเด็กชายสม แสนไชย คอยอยู่วัตรถากท่าน ต่อมาด้วยท่านมุ่งที่จะใช้เวลาในการปฏิบัติให้มากขึ้น จึงหลบการพบผู้คนด้วยการลงไปกางกลดอยู่ในบริเวณป่าช้า ซึ่งเด็กชายสมก็ได้ตามไปด้วย โดยเลือกอยู่ใต้ต้นตะเคียนต้นหนึ่ง

    ต่อมาชาวบ้านได้นิมนต์ท่านกลับไปยังวัดตามเดิม โดยได้ร่วมใจปรับปรุงวัดให้ท่าน ในวันที่ท่านย้ายกลับเข้าวัดนั้นปรากฏว่าตะเคียนต้นที่ท่านใช้อยู่ระหว่างปฏิบัติที่ป่าช้าถึงกับโค่นลง

    ต่อมาในปีพ.ศ.2500 ท่านได้จัดให้มีการบวชพระและสามเณรขึ้น ทำให้วัดมีพระอยู่จำพรรษาขึ้น รวมได้ 11 รูป ล่วงมาปี พ.ศ.2503 ช่วงพรรษาหลังฉันเช้าแล้วท่านมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวจึงได้นอนพัก ปรากฏว่าวิญญาณท่านได้ออกจากร่างไปอีกครั้งเหมือนดังเช่นเคยเกิดกับท่านสมัยอยู่กับหลวงปู่สุข แต่ครั้งนี้ท่านหายไปเพียง 1 วัน

    ล่วงมาปีพ.ศ. 2505 ท่านมีดำริจะสร้างวัดให้ดีขึ้น ให้ถูกต้องมีวิสุงคามวาสี เหมือนกับเทวดาที่รักษาวัดจะทราบเรื่องราว คืนนั้นในสมาธิเทวดาซึ่งเดิมเป็นเจ้าของที่แห่งนั้น ได้มาปรากฏและถามถึงความต้องการของท่าน ท่านก็บอกไปว่าจะบูรณะปรับปรุงวัดให้ดีขึ้น ท่านเจ้าของที่ได้อนุโมทนายกที่ให้ท่าน แล้วลาท่านไปอยู่ที่แห่งใหม่ ยังเทือกเขาแถบนั้น

    โดยในสมาธินั้นได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับตำแหน่งต่างๆ ในบริเวณวัดที่จะปลูกสร้างถาวรวัตถุ แต่มาติดที่บริเวณหนึ่งซึ่งกำหนดจะเป็นที่ตั้งของศาลา มีหินก้อนใหญ่สองก้อนกีดขวางอยู่ซึ่งท่านคิดว่าลำพังกำลังชาวบ้านคงยากที่จะเอาออกได้ ในสมาธินั้นท่านว่าเจ้าที่ท่านได้ช่วยเอาออกให้ ปรากฏเป็นควายตัวใหญ่สองตัวเอาเขาขวิดจนหินสองก้อนนั้นกลิ้งหายไป

    ต่อมา "หลวงพ่อครูบาสร้อย ขันติสาโร" ได้สบโอกาสที่จะสร้างศาลา ท่านก็มาติดปัญหาที่หินสองก้อนนี้ ซึ่งทำให้ท่านหวนคิดถึงนิมิตในครั้งนั้นว่าเจ้าที่ท่านช่วยเอาหินออกแล้วนี่ จนช่างผู้คุมงานเสนอให้ท่านย้ายที่ตั้งศาลา แต่ปรากฏว่าในขณะนั้นได้มีรถที่ใช้ก่อสร้างทางของกรมทางฯ มาจอดที่วัด เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนได้มาบอกหลวงพ่อว่าได้รับคำสั่งให้มาช่วยยกหินสองก้อนนั้นออกไป ทำให้การสร้างศาลาลุล่วงไปด้วยดี จนแล้วเสร็จในราวเดือน 5 ของปี 2506

    และท่านก็ได้พัฒนาปรับปรุงวัดเรื่อยมา และในระหว่างนั้นท่านก็ได้ให้การอุปถัมภ์ทั้งวัดต่างๆ และหน่วยงานของราชการ เช่น โรงพยาบาล เสียดายที่รายละเอียดส่วนนี้ไม่มีบันทึกไว้ แต่ที่แน่ๆ ทั้งละหานทราย และนางรอง ท่านก็ได้ให้การช่วยเหลือหลายแห่งเหมือนกัน

    บั้นปลายชีวิตหลวงพ่อสร้อยท่านได้ตรากตรำอย่างหนักในช่วงชรา ผมเองจำได้ว่าครั้งหนึ่งก่อนท่านมรณะไม่เท่าไหร่ ท่านยังมีเมตตาช่วยเททองวัตถุมงคลให้กับวัดที่หลวงปู่สุขให้การทำนุบำรุงมาก่อนอย่างเต็มใจ แม้ช่วงนั้นท่านจะไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากเททองเสร็จไม่เท่าไหร่ท่านก็มรณภาพ ไม่ทันได้กลับมาปลุกเสก ซึ่งอาจนับได้ว่าเป็นวัตถุมงคลชุดสุดท้ายของท่านก็ว่าได้

    จนเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2540 ลูกศิษย์ได้นำท่านเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครธนพระราม 2 จนวันที่ 14 มกราคม 2541 หลวงปู่หงส์ท่านได้มาเยี่ยมหลวงพ่อสร้อย ด้วยหลวงปู่หงส์ท่านว่าท่านฝัน หลวงพ่อสร้อยท่านกระโดดลงจากเตียง เมื่อพบกัน หลวงปู่หงส์ท่านได้ทำด้ายคล้องคอให้แก่หลวงพ่อสร้อย และหลวงพ่อสร้อยท่านได้กล่าวกับหลวงปู่หงส์ในทำนองว่า? จะขอลาแล้ว ขอลามรณภาพจะได้ไหม? ซึ่งหลวงปู่หงส์ท่านก็นิ่ง แล้วก็เดินทางกลับ

    จากนั้นวันที่ 17 มกราคม 2541 หลวงพ่อสร้อยท่านได้เรียกพระลูกวัดที่อยู่ที่นั้นมารวมกัน ได้จับมือจับแขนพระทุกรูป และได้กล่าวอบรมเป็นครั้งสุดท้าย ในลักษณะว่า "ต่อไปเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ ให้ปฏิบัติตัวกันให้ดี ขยันทำงาน มีอะไรก็ทำไป ให้ประหยัดและอดทนทุกคนนะ" มาวันที่ 18 มกราคม 2541 หลวงพ่อสร้อยได้สั่งให้ลูกศิษย์นับเงินที่ลูกศิษย์มาร่วมทำบุญกับท่าน เพื่อเตรียมเป็นค่าใช้จ่ายแก่โรงพยาบาล ยังความตกใจและหวั่นใจของลูกศิษย์เป็นอย่างมาก เนื่องด้วยท่านเองยังไม่หาย และอาการก็ทรุดหนัก แต่ท่านเตรียมออกจากโรงพยาบาล

    เข้าช่วงกลางคืนของวันที่ 18 มกราคม 2541 ท่านได้สำลักเสมหะและท่านได้เข้าสมาธิจนถึงราวตีสามย่างตีสี่ ได้เรียกให้พระมาช่วยพลิกตัวท่าน ถึงนาทีนั้นพระทุกรูปได้รวมกันนั่งสมาธิภาวนาอยู่หน้าห้องหลวงพ่อ จนล่วงเข้าเวลา 07.19 น. ของวันที่ 19 มกราคม 2541 ท่านก็ได้หยุดดับธาตุขันธ์ ทิ้งเหลือไว้แต่คุณงามความดี ที่ยังคงประทับอยู่ในหัวใจของลูกศิษย์ทุกคน สิริอายุ 69 ปี​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2020
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5497

    เหรียญตานใช้ตานแทน ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ปี 35 เนื้อเงิน


    จัดสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในพิธีสำคัญ เป็นพิธีชำระหนี้เจ้ากรรมนายเวร ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร (ตานใช้ตานแทน) เน้นทางการต่ออายุ เสริมดวงชะตา จะช่วยให้กรรมนั้นๆ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ จากเบาจนไม่มีผล
    ปลุกเสกในพิธีชำระหนี้สงฆ์ตานใช้ตานแทน ปี 2535
    มีเกจิคณาจารย์ ร่วมปลุกเสกดังนี้
    1 . หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    2 . หลวงปู่ดาบส สุมโณ สำนักสงฆ์ไผ่มรกต เชียงราย
    3 . ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ ลำพูน
    4 . หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    5 . หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    6 . ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
    7 . ครูบาน้อย วัดบ้านปง
    8 . ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    อักขระ ยันต์ด้านหลังของเหรียญทำน้ำมนต์ตาน ใช้ตานแทนนี้ เป็นอักขระยันต์พระโมคคัลลานะ เป็นเหรียญที่อยู่คู่กับเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง มีอานุภาพ คลายกฏแห่งกรรมเช่นเดียวกับเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง พระดีน่าใช้ สวยเดิมๆ ราคาเบา ๆ "ต่ออายุ เสริมดวงชะตา จะช่วยให้กรรมนั้นๆ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ จากเบาจนไม่มีผล"
    #เนื้อเงินจัดสร้างน้อยมากผิวสวยใสเดิมๆครับ
    #รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ


    ราคา 13500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    tgf.jpg f.jpg dsds.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2020
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5498

    เหรียญอายุครูบาหน้อย วัดบ้านปง อ.แม่แตง เนื้อเงิน
    หมายเลข 144 + ล็อกเก็ต ตลับเงิน

    รอยยิ้มแห่งเมตตาธรรมแห่งล้านนา พระเกจิผู้ทรงวิยาคมแห่งเมืองแกน
    หลวงปู่ครูบาน้อย หรือ ครูบาไชยวงวิวัฒน์ วัดบ้านปง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งพระเกจิสายศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิไชย ซึ่งน่ากราบสักการะบูชา ปัจจุบันแม้หลวงปู่ครูบาน้อยท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่สรีระสังขารของหลวงปู่ไม่เน่าเปื่อย หลวงปู่เป็นพระสุปฏิปันโนที่มีคุณธรรมสูง กล่าวถึงแม้แต่ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง ยังให้การยกย่องและนับถือท่าน นอกจากนี้ ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ยังให้ความเคารพนับถือเหมือนเป็นอาจารย์ของท่านอีกท่านหนึ่ง ครูบาน้อย คนพื้นที่ชอบเรียกท่านว่า ครูบาหน้อย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี 2440 ได้บรรพาชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 13 ปี ที่วัดบ้านปง โดยมีครูบามโนชัย วัดศรีภูมินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาปฏิบัติและเรียนวิชาอาคมอยู่กับครูบามโนชัย ต่อมาได้บวชเป็นพระเมื่ออายุได้ 23 ปีกับท่านครูบามโนชัย ที่วัดบ้านปง พระศรีวิชัย (ครูบาศรีวิชัย) พระกรรมวาจาจารย์ พระสิทธิ วัดม่วงคำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านครูบาน้อย ท่านได้ออกธุดงค์และศึกษาธรรมควบคู่กันไป ท่านได้เรียนปริยัติจนถึงนักธรรมเอก ในปี 2497 ครูบาน้อยได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปง ตั้งแต่ ปี 2478 อายุพรรษายังไม่มากนัก และได้เป็นเจ้าคณะตำบลอินทขิล อ.แม่แตง เมื่อปี 2479 ในสมัยที่ครูบาศรีวิชัย ได้สร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ ท่านครูบาน้อยก็ได้ไปร่วมสร้างด้วย สมณศักดิ์สุดท้ายของครูบาที่พระครูชั้นเอก คือพระครูชัยวงศ์วิวัฒน์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2536 หลวงปู่ครูบาน้อย ท่านได้มรณภาพเมื่อปี 2541 รวมสิริอายุได้ 101 ปี
    เนื้อเงินออกแบบได้สวยงามมาก


    ราคา 2500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    จองแล้วครับ

    ghp.jpg gdgd.jpg cvc.jpg z.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2020
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5499

    เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย หลัง ภปร ปี 2527” เนื้อเงิน

    ..วัดบุพพาราม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

    ประวัติการสร้าง และรายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกในพิธีณ.

    ศูนย์ วัฒนธรรมท้องถิ่น วัดบุพพาราม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้มีมติให้จัดโครงการ “วันกตัญญูเชิดชูเกียรติคุณ ฉลองสมโภชครบรอบ ๕๐ ปี สร้างทางขึ้นดอยสุเทพของครูบาศรีวิชัย” ในการดำเนินงานจัดหาทุนได้มีการสร้างวัตถุมงคลออกมาเป็นรูปเหมือนและเหรียญ ของครูบาศรีวิชัย..โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก “องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”ทรงพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ “ภปร” ประดิษฐานไว้บนวัตถุมงคล..

    สถานที่จัดงานล้านนามหาพุทธาภิเษก จัดขึ้นที่ วัดศรีโสดา ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

    ซึ่ง วัดนี้เป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัยได้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมและ ปฏิบัติงาน ตลอดจนเป็นคลังเสบียงใหญ่ที่จัดสรรแบ่งปันเสบียงอาหาร ให้แก่ศรัทธาประชาชนที่มาช่วยงาน ซึ่งวัดศรีโสดาแห่งนี้ครูบาศรีวิชัยท่านอยู่พำนัก ระหว่างปฏิบัติงานสร้างทางขึ้นดอยสุเทพจนแล้วเสร็จ...

    วัดศรีโสดา ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ ปราศจากสิ่งรบกวน เหมาะสมที่ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม มีบริเวณกว้างขวาง มีวิหารหลวงและสำคัญคือ “วัดนี้ตั้งอยู่ติดกับอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย...”

    จัดพิธีพุทธาภิเศกวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๗ เวลา ๑๕.๑๙ น.เมื่อได้ฤกษ์จุดเทียนชยันโต เจ้าคณะภาคเจ็ด ได้ทำพิธีจุดเทียนชัย บรรดาพระคณาจารย์ศิษย์อาวุโสของครูบาศรีวิชัย จำนวน ๑๘ รูป ได้ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์

    รายนามพระคณาจารย์สายครูบาศรีวิชัยที่มาร่วมอฐิฐานจิต มีดังนี้

    1.ครูบาหล้า (ตาทิพย์) วัดป่าตึง

    2.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง

    3.ครูบาบุญมี วัดท่าสะต๋อย

    4.ครูบาสิงหชัย วัดฟ้าฮ่าม

    5.ครูบามงคลคุณาทร วัดหม้อคำตวง

    6.ครูบาจันทร์แก้ว วัดดอกเอื้อง

    7.ครูบาโสภา วัดผาบ่อง

    8.ครูบาอ้าย วัดศาลา

    9.ครูบาอิ่นแก้ว วัดวาฬุการาม

    10.ครูบาอิ่นคำ วัดข้าวแท่นหลวง

    11.ครูบาคำตั๋น วัดสันทรายหลวง

    12.ครูบาญาณวิลาส วัดต้นหนุน

    13.ครูบาสุรินทร์ วัดศรีเตี้ย

    14.ครูบามูล วัดต้นผึ้ง

    15.ครูบาศรีนวล วัดช้างค้ำ

    16.ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม

    17.ครูบาอินตา วัดห้วยไซ

    18.ครูบาศรีนวล วัดเจริญเมือง..

    “บรรดาพระคณาจารย์ผู้ทรงศีล” ที่นิมนต์มานั่งปรกอธิฐานจิตครั้งนี้..

    ล้วนเป็นลูกศิษย์และผู้เคยร่วมงานพัฒนา กับครูบาศรีวิชัยทั้งสิ้น”..เป็นพระเครื่องที่น่าใช้มาก ครับ


    ราคา 2900 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    iiu.jpg yj.jpg ik.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2020
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    ชุดพระผงพิมพ์รุ่นแรกครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    ปี 2515


    Clip_10.jpg co.jpg Clip_12.jpg Clip_11.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2020
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5500

    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ครูบาบุญทา สุวณฺโณ วัดสันป่าเหียง ต.มะเขื่อแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูนปี.๒๕๒๗


    ( เจ้าตำหรับ ตะกรุด นาคคอคำ อันเลืองลือ ) ท่านเป็นผู้ถ่ายทอดวิชานาคคอคำให้หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ วัดป่าตึง อีกหนึ่งพระเกจิฯคณาจารย์สายล้านนา ที่ เพียบพร้อม ด้วยพลังจิต อภิญญาอาคม เพียงแต่ ท่านเป็น พระสงฆ์ ที่ ไม่แสดงตน สมถะ เรียบง่าย ไม่โอ้อวด พูดน้อย แต่ พระสงฆ์ รุ่นราว คราวเดียวกัน จะทราบถึง กิตติศัพท์ ใน จริยาวัตร การปฏิบัติ ใน ปฎิปทา ท่าน

    เหรียญดังเมืองลำพูน

    ราคา 700 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_13.jpg Clip_14.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2020
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5501

    เหรียญนั่งพานรุ่นแรกครูบาอิน อินโท ออกวัดทุ่งปุย


    เหรียญรุ่นนี้ได้รับการกล่าวขานในเรื่อง “เมตตามหานิยม และโภคทรัพย์” กันมาก อันเนื่องมาจากพระยันต์คาถาที่ใช้ อีกทั้งเหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในการสร้างศาลาการเปรียญ เพื่อให้สาธุชนได้ร่วมบำเพ็ญ “ทานบารมี” อันเป็นทานแห่งการให้ เป็นเมตตาและโภคทรัพย์สมตามเจตนาของผู้ร่วมทำบุญกับหลวงปู่เป็นคาถาภาษาล้าน นา อ่านได้ว่า “เมกะมุอุ” ซึ่งเป็นคาถาหัวใจแม่พระธรณี เด่นทางโภคทรัพย์ บรรทัดถัดมาอ่านได้ว่า “สุนะโมโล” ซึ่งเป็นคาถาหัวใจขุนแผน (เมตตามหานิยม)


    คุณ ryuma9 บูชาแล้ว ครับ

    Clip_9.jpg Clip_15.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2020
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5502

    เหรียญตัดรุ้งครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง


    ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข

    เหรียญประสบการณ์ตัดรุ้งขาด จนเป็นที่มาของชื่อรุ่น ตัดรุ้ง

    รับประกันความแท้


    บูชาแล้วครับ

    Clip_16.jpg Clip_17.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2020
  17. ryuma9

    ryuma9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    1,496
    ค่าพลัง:
    +1,263
    จองครับ
     
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5503

    พระผงเกศารุ่นแรก ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ราคาเบาๆ


    สร้างปลายปี ๒๕๓๓ ผู้สร้างคือคณะศิษย์และพระเณรในวัด ที่จดจำได้ก็มี พระไพบูลย์ อินทปัญโญ (พระอาจารย์พิณ) ผู้ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคลต่างๆ ของทางวัด พระอธิการปรีชา เปสโล ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสามเณร ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดฟ้าหลั่ง พระอาจารย์วุฒิ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดศิลามงคล (วัดครูบาบุญมี) อ.ดอยหล่อ ทางเดียวกับวัดใหม่หนองหอย และยังมีพระอาวุโสอีกรูปหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้ลาสิกขาบทไปแล้ว ชื่อพ่อหนานเรือง รวมทั้งพระเณรรูปอื่นๆ ที่อยู่ในวัดฟ้าหลั่งตอนสมัยนั้น

    สร้างจาก ผงเกศาเนื้อผงเถ้า จากการเผาดอกไม้ที่ญาติโยมนำมาบูชาพระ แล้วตักเอาแต่ผงเถ้า ผสมดินจอมปลวกด้านหลังวัด น้ำมันละหุ่ง ผงว่าน และเกศาของหลวงปู่ ใช้เวลารวบรวมมวลสารกว่า ๓ ปี เพราะดอกไม้ต้องนำมาตากแห้งแล้วเผา เก็บผงเถ้าครั้งหนึ่งก็ได้ไม่มาก ว่านยาต่างๆ ก็ต้องโขลกต้องตำกันเองภายในวัด หลังจากนั้นก็นำมากดพิมพ์ได้ประมาณหมื่นกว่าองค์ ขนาดองค์พระกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูงประมาณ ๓ เซนติเมตร


    สมญานาม พระผงดวงเศรษฐีแห่งเมืองเหนือ สายหลวงปู่หมุน หลวงพ่อกวย ทราบกันเป็นอย่างดี ของดีที่น่าใช้มาก ๆ

    ราคา 650 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_5631.JPG IMG_5633.JPG Clip_18.jpg Clip_19.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2020
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจอง ขอบคุณครับ
     
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 5504

    เหรียญครูบาขันแก้ว อุตตฺโม วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) จ.ลำพูน ปี2525 ตอกโค๊ดชัดเจน


    เหรียญรุ่นนี้คุณหมอสมสุข คงอุไร และคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก สร้างถวายเมื่อปี2525 และนำมาให้ครูบาขันแก้วปลุกเสกเดี่ยวก่อน 3 เดือน หลังจากนั้นปลุกเสกหมู่อีกรอบในวันทำบุญสืบชะตาครบรอบอายุ 83 ปี(อายุย่างเข้า 84 ปี) เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2525 โดยได้นิมนต์พระเถระผู้ใหญ่ เช่น ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า , หลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง , พระธรรมโมลี เจ้าคณะภาค , พระญาณมงคล เจ้าคณะจังหวัดลำพูน มาทำการสืบชะตาให้กับครูบาขันแก้วด้วย ถือว่ารุ่นนี้เป็นเหรียญที่ผ่านพิธีใหญ่ของวัดสันพระเจ้าแดงอีกรุ่นเลยทีเดียว

    ผสมทองระฆังของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค

    น่าใช้มาก


    ราคา 450 บาท พร้อมจัดส่ง EMS ครับ

    IMG_5615.JPG IMG_5616.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2020

แชร์หน้านี้

Loading...