ร่วมบวชและเป็นเจ้าภาพโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่ถวายในหลวง วัดวีระโชติธรรมาราม หน้า 12

ในห้อง 'งานบวช' ตั้งกระทู้โดย LP_TON, 10 พฤศจิกายน 2009.

  1. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    30 มกราคม 2560 พระบวชใหม่โครงการถวายเป็นพระราชกุศล 100 วัน ในหลวงรัชกาลที่ 9
    ที่ วัดท่าซุง อุทัยธานี และถวายพระพุทธรูป
    พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ” 16298506_1164926883624706_5461128222611565909_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    กิจกรรม วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
    16508109_1339079379468928_7260100177571107056_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    ร่วมบุญถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทุกวันเสาร์ เวลา ๑๙.๐๐ น.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      563.4 KB
      เปิดดู:
      115
  4. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. sindhus

    sindhus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    2,518
    ค่าพลัง:
    +8,419
    ขอร่วมบุญบวชพระ วัดวีระโชติธรรมาราม
    โอน 20 บาท เข้าบัญชี ธ.กสิกรไทย
    วันที่ 9 เมษายน 2560

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
     
  6. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    #อนุโมทนา บุญบวชสามเณร 1 รูป
    9 เมษายน 2560 วัดสุทธาวาส
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    ๑๕-๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ อุปสมบทหมู่ถวายพระราชกุศลในหลวงรัชกาลที่ ๙

    กำหนดการ
    โครงการอุปสมบทหมู่และปฏิบัติธรรม ถวายพระราชกุศลแด่
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
    ในหลวงรัชกาลที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
    ณ วัดวีระโชติธรรมาราม อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
    ระหว่าง วันที่ ๑ กันยายน - วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐
    ********
    รับสมัคร ตั้งแต่ วันที่ ๑ – ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐
    วันที่ ๑ - ๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (นาครายงานตัว)
    เวลา ๐๘.๐๐ น. - เวลา ๑๗.๐๐ น. ผู้อุปสมบทรายงานตัว ซ้อมขานนาคหมู่ ตอนเย็น
    (ขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า ถ้าใครมาไม่ทันการเรียกชื่อในตอนนี้ ทางวัดจะไม่รับบวชแน่นอน)
    วันที่ ๖ – ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (ซ้อมนาคหมู่)
    เวลา ๐๙.๐๐ น. - เวลา ๑๑.๐๐ น. ซ้อมขานนาค (ช่วงเช้า)
    เวลา ๑๓.๐๐ น. - เวลา ๑๕.๐๐ น. ซ้อมขานนาค (ช่วงบ่าย)
    วันเสาร์ ที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีปลงผมนาคและบรรพชา เป็นสามเณร)
    เวลา ๑๐.๐๐ น. พิธีปลงผมนาค
    เวลา ๑๕.๐๐ น. พิธีบรรพชา เป็นสามเณร
    วันอาทิตย์ ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีบรรพชา เป็นพระภิกษุ)
    เวลา ๐๙.๐๐ น. พิธีอุปสมบท นาคหมู่
    วันพฤหัสบดี ที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีฉลองพระบวชใหม่)
    เวลา ๑๐.๐๐ น. พิธีฉลองพระบวชใหม่
    วันอังคาร ที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีลาสิกขา)
    เวลา ๐๕.๐๐ น. พิธีลาสิกขา

    หมายเหตุ กำหนดการและเวลา อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
    เสร็จสิ้นโครงการอุปสมบทหมู่ งานพระราชทานเพลิงพระบรมศพ
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

    - #ใบสมัครอุปสมบท


    - #คำท่องขอบวช


    - มติ ครม. #เรื่องไม่ถือเป็นวันลา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    สาธุ
     
  9. kritsadakorn

    kritsadakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +636
    ร่วมบุญบวช 100 บาท
     
  10. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    สาธุ อนุโมทามิ
     
  11. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    สาธุ อนุโมทามิ
     
  12. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
  13. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    โครงการอุปสมบทหมู่และปฏิบัติธรรม ถวายพระราชกุศลแด่
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
    ในหลวงรัชกาลที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
    ณ วัดวีระโชติธรรมาราม อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
    ระหว่าง วันที่ ๑ กันยายน - วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐
    ********
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      441.9 KB
      เปิดดู:
      84
  14. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    กำหนดการ
    โครงการอุปสมบทหมู่และปฏิบัติธรรม ถวายพระราชกุศลแด่
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
    ในหลวงรัชกาลที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
    ณ วัดวีระโชติธรรมาราม อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
    ระหว่าง วันที่ ๑ กันยายน - วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐
    ********
    รับสมัคร ตั้งแต่ วันที่ ๑ – ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐
    วันที่ ๑ - ๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (นาครายงานตัว)
    เวลา ๐๘.๐๐ น. - เวลา ๑๗.๐๐ น. ผู้อุปสมบทรายงานตัว ซ้อมขานนาคหมู่ ตอนเย็น
    (ขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า ถ้าใครมาไม่ทันการเรียกชื่อในตอนนี้ ทางวัดจะไม่รับบวชแน่นอน)
    วันที่ ๖ – ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (ซ้อมนาคหมู่)
    เวลา ๐๙.๐๐ น. - เวลา ๑๑.๐๐ น. ซ้อมขานนาค (ช่วงเช้า)
    เวลา ๑๓.๐๐ น. - เวลา ๑๕.๐๐ น. ซ้อมขานนาค (ช่วงบ่าย)
    วันเสาร์ ที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีปลงผมนาคและบรรพชา เป็นสามเณร)
    เวลา ๑๐.๐๐ น. พิธีปลงผมนาค
    เวลา ๑๕.๐๐ น. พิธีบรรพชา เป็นสามเณร
    วันอาทิตย์ ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีบรรพชา เป็นพระภิกษุ)
    เวลา ๐๙.๐๐ น. พิธีอุปสมบท นาคหมู่
    วันพฤหัสบดี ที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีฉลองพระบวชใหม่)
    เวลา ๑๐.๐๐ น. พิธีฉลองพระบวชใหม่
    วันอังคาร ที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีลาสิกขา)
    เวลา ๐๕.๐๐ น. พิธีลาสิกขา

    หมายเหตุ กำหนดการและเวลา อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
    เสร็จสิ้นโครงการอุปสมบทหมู่ งานพระราชทานเพลิงพระบรมศพ
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

    - #ใบสมัครอุปสมบท
    https://drive.google.com/…/0B5zhKDhMkC45QmFOWUFRWFdNVmc/view

    - #คำท่องขอบวช
    https://drive.google.com/…/0B8i_ONTOu8-XeVh0NHkzall2QXM/view

    - มติ ครม. #เรื่องไม่ถือเป็นวันลา
    https://drive.google.com/…/0B5zhKDhMkC45V1VvRlRJcjFmWTg/view
     
  15. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    เราจะทำให้ปีนี้เหมือนเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้อยู่บนโลกนี้ ไม่ติดอะไรแล้ว ที่สุดคือที่สุดแห่งกำลังใจ เราพร้อมที่จะร่วมปัจจัยส่วนตน ร่วมกำลังแรงแห่งศรัทธาเป็นที่สุด เพื่อที่จะประกาศให้รู้ว่าเราทำวันนี้ในฐานลูกหลานพระราชพรหมยาน ที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีต่อคนรุ่นหลังสืบไป
    ***********************************************
    #เร่งนิพพานด้วยงานสาธารณประโยชน์
    1f48e.png สมเด็จท่านตรัสต่อไปว่า “งานสาธารณะประโยชน์ มันเป็น ปรมัตถบารมี อย่างสูงสุด อันนี้จะทำให้เร็วที่สุด ทำให้เร่งรัดพวกเราให้เร็วที่สุด ท่านบอกว่าให้คุณบอกลูกหลานไว้ จะได้รู้ว่าเป็นจุดที่มีกำลังแรงให้เข้าถึงได้เร็วที่สุด เป็นการบั่นทอนไอ้กฎของกรรมต่างๆ ที่มันคอยกั้นขวางเรา งานนี้มันเป็นเมตตา กฎของกรรมมันก็ดันไม่อยู่”
    ---------------------------------------------
    จาก : หลวงพ่อเล่าเรื่องเมืองนิพพาน
    โดย : หลวงพ่อฤๅษี (ฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
    ---------------------------------------------
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    (Line @) กดสแกน QR Code หรือพิมพ์ช่องค้นหา "@dpq4147w" หรือกดที่ลิ้งค์นี้ line://ti/p/@dpq4147w

    เพื่อรับข้อมูลข่าวสารของทางวัด
    (เข้าไปแล้ว กดเลข 1 เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม)

    #วัดวีระโชติธรรมาราม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    กำหนดการ
    โครงการอุปสมบทหมู่และปฏิบัติธรรม ถวายพระราชกุศลแด่
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
    ในหลวงรัชกาลที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
    ณ วัดวีระโชติธรรมาราม อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
    ระหว่าง วันที่ ๑ กันยายน - วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐
    ********
    รับสมัคร ตั้งแต่ วันที่ ๑ – ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐
    วันที่ ๑ - ๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (นาครายงานตัว)
    เวลา ๐๘.๐๐ น. - เวลา ๑๗.๐๐ น. ผู้อุปสมบทรายงานตัว ซ้อมขานนาคหมู่ ตอนเย็น
    (ขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า ถ้าใครมาไม่ทันการเรียกชื่อในตอนนี้ ทางวัดจะไม่รับบวชแน่นอน)
    วันที่ ๖ – ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (ซ้อมนาคหมู่)
    เวลา ๐๙.๐๐ น. - เวลา ๑๑.๐๐ น. ซ้อมขานนาค (ช่วงเช้า)
    เวลา ๑๓.๐๐ น. - เวลา ๑๕.๐๐ น. ซ้อมขานนาค (ช่วงบ่าย)
    วันเสาร์ ที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีปลงผมนาคและบรรพชา เป็นสามเณร)
    เวลา ๑๐.๐๐ น. พิธีปลงผมนาค
    เวลา ๑๕.๐๐ น. พิธีบรรพชา เป็นสามเณร
    วันอาทิตย์ ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีบรรพชา เป็นพระภิกษุ)
    เวลา ๐๙.๐๐ น. พิธีอุปสมบท นาคหมู่
    วันพฤหัสบดี ที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีฉลองพระบวชใหม่)
    เวลา ๑๐.๐๐ น. พิธีฉลองพระบวชใหม่
    วันอังคาร ที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ (พิธีลาสิกขา)
    เวลา ๐๕.๐๐ น. พิธีลาสิกขา

    หมายเหตุ กำหนดการและเวลา อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
    เสร็จสิ้นโครงการอุปสมบทหมู่ งานพระราชทานเพลิงพระบรมศพ
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      440.3 KB
      เปิดดู:
      81
  18. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    อานิสงส์การบวชในพุทธศาสนา...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    อานิสงส์การบวช ต่อแต่นี้ไป จะนำเอาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธ เจ้า ว่าด้วยเรื่อง อานิสงส์การบรรพชา มาคุยกับบรรดาท่านพุทธบริษัท ความมีว่า

    องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์เมื่อทรงพระชนม์อยู่ องค์สมเด็จพระบรมปรารถเรื่องการอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา องค์สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสว่า การอุปสมบทบรรพชานี้มีอานิสงส์พิเศษ อานิสงส์ อย่างอื่น มีการสร้างวิหารทานก็ดี การถวายสังฆทานก็ดี ทอดกฐินผ้าป่าก็ดี จัดว่าเป็นอานิสงส์สำคัญ แต่อานิสงส์นี้นั้น บุคคลที่จะพึ่งได้ต้องโมทนาก่อน หมายความว่า ถ้าบุตรธิดาของตนบำเพ็ญกุศล บิดามารดาไม่โมทนาย่อมไม่ได้ แต่ว่าการอุปสมบมบรรพชานี้แปลกกว่านั้น องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า สมมุติว่า บุตรชายของท่านผู้ใดออกจากครรภ์มารดาวันนั้น บิดามารดาก็จากกัน ลูกกับพ่อ ลูกกับแม่ย่อมไม่รู้จักกัน เวลาที่บรรพชานั้น บิดามารดาก็ไม่ทราบ แต่ทว่า ถึงอย่างก็ดี องค์สมเด็จพระชินศรีตรัสว่า บิดามารดาย่อมได้อานิสงส์โดยสมบูรณ์ นี่เป็นอันว่า

    อานิสงส์แห่งการการอุปสมบทบรรพชานี้แปลกจากบุญกุศลอย่างอื่น เป็นอันว่าขอพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า บุญ อย่างอื่นลูกทำไปแล้ว พ่อแม่ไม่โมทนาย่อมไม่ได้อานิสงส์นั้น แต่ว่าการอุปสมบทและบรรพชา บิดามารดาซึ่งคลอดบุตรมาแล้ว ต่างคนต่างจากกันไป พ่อแม่ไม่ทราบว่าบุตรมีรูปร่างหน้าตาเป็นประการใด เพราะจากกันไปตั้งแต่คลอดใหม่ๆ สำหรับลูกชายก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า บิดารมารดาเป็นใคร แต่ว่าอุปสมบทบรรพชาเมื่อไร บิดามารดาย่อมได้อานิสงส์สมบูรณ์

    เหตุนี้การอุปสมบทบรรพชาจึงจัดว่า เป็นกุศลพิเศษ ที่องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ทรงบัญญัติไว้ ทีนี้จะว่ากันไปถึงอานิสงส์แห่งการอุปสมบทบรรพชา

    คำว่า บรรพชา นี้หมายความว่า บวชเป็นเณร คำว่า อุปสมบท นี้หมายความว่า บวชเป็นพระ สำหรับท่านที่บรรพชาในพุทธศาสนาเป็นสามเณร อันนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ท่านผู้บรรพชาเองคือเณร ถ้าประพฤติปฏิบัติดี นี่เอากันถึงด้านการประพฤติปฏิบัติดี ถ้าปฏิบัติเลวการการบวชเณรก็ถือว่าเป็นการซื้อนรก ถ้าปฏิบัติดีนั้น องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า ท่านที่บวชเข้ามาเป็นเณรในพุทธศาสนาแล้วปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามระบอบพระธรรมวินัย สำหรับ เณรผู้นั้น ย่อมมีอานิสงส์คือ ถ้าตายจากความเป็นคน ถ้าจิตของตนมีกุศลธรรมดา ไม่สามารถจะทรงจิตเป็นฌาน องค์สมเด็จพระพิชิตมารตรัสว่า ท่านผู้นั้นจะเสวยความสุขบนโลกมนุษย์ได้ถึง 30 กัป

    เช่นเดียวกัน การนับกัปหนึ่ง... คำว่ากัปหนึ่งนั้น มีปริมาณนับปีไม่ได้ องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเปรียบเทียบไว้อย่างนี้ว่า มีภูเขาลูกหนึ่ง เป็นหินล้วนไม่มีดินเจือปน ถึงเวลา 100 ปี เทวดาเอาผ้ามีเนื้ออ่อนเหมือนสำลีมาปัดยอดเขานั้นครั้งหนึ่ง ทำอย่างนี้ 100 ปีปัด 1 ครั้ง 100 ปีปัด 1 ครั้ง จนกระทั่งหินนั้นหมดไป หาหินไม่ได้ เหลือแต่ดินล้วน นั่นจึงจะมีอายุได้ครบ 1 กัป และอีกประการ หนึ่ง ท่านพรรณนาไว้ในพระวิสุทธิมรรคว่า มีอุปมาเหมือนกับว่ามีถังใหญ่ลูกหนึ่งมีความสูง 1 โยชน์ กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์เหมือนกัน มีคนเอาเมล็ดพันธุ์ผัดกาดมาใส่ในถังนั้นจนเต็ม ถึงเวลา 100 ปีก็เอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดนั้นออก 1 เมล็ด ทำอย่างนี้จนกว่าเมล็ดพันธุ์ผัดกาดนั้นจะหมดไป เป็นการเปรียบเทียบกันได้กับระยะเวลา 1 กัป นี่เป็นอันว่า กัปหนึ่งเราจะนับเวลาประมาณไม่ได้ เช่นกัปหนึ่งเราจะนับเวลาประมาณไม่ได้ เช่นกัปในปัจจุบันนี้สามารถจะทรงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ถึง 10 พระองค์ เป็นระยะยาวนานมาก

    องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวว่า ท่านที่บวชเป็นเณรเอง และมีความประพฤติปฏิบัติดี ต้อง เป็นเทวดาหรือพรหมอยู่ถึง 30 กัป นั่นก็หมายความว่า อายุเทวดาหรือพรหมย่อมีกำหนดไม่ถึง 30 กัป และเมื่อหมดอายุแล้วจะเกิดเป็นพรหมใหม่ อยู่บนนั้นไปจนกว่าจะถึง 30 กัป หรือมิฉะนั้นก็ต้องเข้านิพพานก่อน สำหรับ บิดามารดา ของบุคคลผู้บวชเป็น สามเณร ย่อมได้อานิสงส์คนละ 15กัป คือครึ่งหนึ่งของเณร หมายความว่าบิดามีอานิสงส์ 15 กัป มารดามีอานิสงส์เสวยความสุขบนสวรรค์หรือพรหมโลก 15 กัป เช่นเดียวกัน เป็นอันว่า บรรพชากุลบุตรของตนไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นสามเณรมีอานิสงส์อย่างนี้

    องค์สมเด็จพระมหามุนีตรัสต่อไปว่า บุคคล ผู้ใดมีวาสนาบารมีคือมีศรัทธาแก่กล้า ตั้งใจอุปสมบทในพุทธศาสนาเป็นพระสงฆ์ แต่ว่าเมื่อบวชแล้วก็ต้องปฏิบัติชอบ ประกอบไปด้วยคุณธรรม คือมีพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ อันนี้องค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า ท่านที่ บวชเป็นพระด้วยตนเองจะมีอานิสงส์พิเศษที่องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ตรัสไว้ แต่ทว่า ภิกษุสามเณรท่านใดผิดบทบัญญัติในพระพุทธศาสนาก็พึงทราบว่า เมื่อเวลาตายก็มีอเวจีเป็นที่ไปเหมือนกัน อานิสงส์ที่พึงได้ใหญ่เพียงใด โทษก็มีใหญ่เพียงนั้น สำหรับ บรรดาท่านผู้ไม่ใช่บิดามารดาของ บุตรกุลธิดาที่อุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา เป็นผู้ช่วยในการบวช นี่หมายความว่า เวลาเขาจะบวชพระครั้งหนึ่ง เราทราบเข้าก็ไปบำเพ็ญกุศลร่วมกับเข้าด้วยจตุปัจจัยมากบ้างน้อยบ้าง ให้สิ่งของบ้าง ช่วยขวยขวายในกิจการงานในการที่จะอุปสมบทบ้าง หมาย ความว่า เขาจะบวชลูกบวชหลานของเขา เราไม่มีลูกหลานจะบวช เขามาบอกบุญมาหรือไม่บอกบุญก็ตาม เอาจตุปัจจัยบ้าง เอาของที่จะพึ่งจะใช้ในงานบ้าง ไปช่วยในงานด้วยความเลื่อมใส ถ้าไม่มีจตุปัจจัย ไม่มีของ ก็เอากายไปช่วย ช่วยขวนขวายในกิจการงาน อย่างนี้องค์ สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดากล่าวว่าท่านผู้นั้นจะมีอานิสงส์เสวยความสุขอยู่ บนสวรรค์ หรือในพรหมโลก คนละ 8 กัป

    แต่ถ้าหากเป็นคนฉลาด อย่างเช่นเขาบวชพระกัน 42 องค์ เราก็ช่วยกันบำเพ็ญกุศลช่วยในการบวชพระ ไม่เจาะจงท่านผู้ใดผู้หนึ่ง เรียกว่าช่วยหมดทั้ง 42 องค์ ก็ต้องเอา 42 ตั้งเอา 8 คูณ นี่เป็นอันว่า...อานิสงส์ที่ที่จะพึงได้ในการอุปสมบทบรรพาชากุลบุตรกุลธิดา ในพระพุทธศาสนาสำหรับผู้ช่วยงาน แต่ สำหรับท่านผู้เป็น เจ้าภาพ ในฐานะ คนที่บวชไม่ได้เป็นบุตรของเรา แต่ว่าเป็นผู้จัดการขวยขวายในการอุปสมบทบรรพชาให้ อันนี้องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้จัดการบวชจะ ได้อานิสงส์ 12 กัป จะมีผลหลั่นซึ่งกันและกัน

    โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ธรรมปฏิบัติเล่ม 1หน้า 29-35
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    อานิสงส์การอุปสมบทบรรพชา โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
    ที่มา : หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑ หน้า ๖๐-๖๙
    ผู้ถาม :- “ดิฉันขอเรียนถามว่า การอุปสมบทบรรพชา มีอานิสงส์อย่างไรบ้างคะ…?”
    หลวงพ่อ :- “การอุปสมบทบรรพชา นี้มีอานิสงส์พิเศษ ผิดกับอานิสงส์อย่างอื่น เช่น การสร้างวิหารทานก็ดี การถวายสังฆทานก็ดี การทอดผ้าป่า ทอดกฐินก็ดี อานิสงส์อย่างนี้บุคคลที่จะพึงได้ต้องโมทนาก่อน”
    ผู้ถาม :- “หลวงพ่อช่วยกรุณาอธิบายเพิ่มเติมอีกหน่อยเถิดค่ะ”
    หลวงพ่อ :- “หมายความว่า ถ้าบุตรธิดาของตนบำเพ็ญกุศลให้แก่บิดามารดา แต่บิดามารดาไม่ได้โมทนาในกุศลนั้น ย่อมไม่ได้ แต่ว่าการอุปสมบทบรรพชานี้แปลกกว่านั้น องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาทรงแสดงไว้ว่า สมมุติว่าบุตรชายของท่านผู้ใดออกจากครรภ์มารดา วันนั้นบิดามารดาก็จากกัน ลูกกับพ่อ ลูกกับแม่ ย่อมไม่รู้จักกัน เวลาที่บุตรชายอุปสมบทบรรพชา บิดามารดาก็ไม่ทราบ แต่ว่าบิดามารดาย่อมได้อานิสงส์โดยสมบูรณ์
    คำว่า อุปสมบท หมายความว่า บวชเป็นพระ
    คำว่า บรรพชา หมายความว่า บวชเป็นเณร
    ท่านที่บวชเป็นพระด้วยตนเอง จะมีอานิสงส์อยู่เป็นเทวดาหรือพรหม ๖๐ กัป
    สำหรับบิดามารดา จะได้อานิสงส์คนละ ๓๐ กัป
    สำหรับคนที่ไม่ใช่พ่อแม่ เป็นเจ้าภาพให้บวช จะได้อานิสงส์คนละ ๑๒ กัป ต่อ ๑ องค์
    สำหรับท่านที่ได้ทำบุญอุปสมบท ช่วยเขาคนละบาทสองบาท หรือช่วยกันด้วยกำลังแรง อย่างนี้มีอานิสงส์องค์ละ ๘ กัป
    สำหรับท่านผู้บวชเป็นเณร บวชแล้วมีความประพฤติดีปฏิบัติชอบ ตามระบอบพระธรรมวินัย เมื่อตายจากความเป็นคน ถ้ามีจิตของตนเป็นกุศล แต่ว่าไม่สามารถทรงจิตเป็นฌาณ ท่านผู้นั้นจะเสวยความสุขบนสวรรค์ ได้ถึง ๓๐ กัป
    ถ้าหากว่าทำจิตของตนให้ได้ฌาณสมาบัติ ก่อนตายจากความเป็นคน จะเกิดเป็นพรหม มีอายุถึง ๓๐ กัป เช่นเดียวกัน
    สำหรับบิดามารดาได้คนละ ๑๕ กัป”
    ผู้ถาม :- “เวลา กัปหนึ่ง เขานับกันอย่างไรคะ…?”
    หลวงพ่อ :- “คำว่า กัปหนึ่ง นั้น มีปริมาณนับเป็นปีไม่ได้ พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบไว้ว่า สมมติว่ามีภูเขาลูกหนึ่งเป็นหินล้วน ไม่มีดินเจือปน ถึงเวลา ๑๐๐ ปี เทวดาเอาผ้าเนื้ออ่อนเหมือนสำลี มาปัดยอดเขานั้นครั้งหนึ่ง ทำอย่างนี้ ๑๐๐ ปี ปัด ๑ ครั้ง จนกระทั่งหินนั้นหมดไป เหลือแต่ดินล้วน นั่นจึงจะมีอายุครบ ๑ กัป”
    ผู้ถาม :- “ถ้าลูกชายมีภรรยาแล้ว จะได้อานิสงส์ลดลงไหมคะ…?”
    หลวงพ่อ :- “ที่เขาลือกันว่า ถ้าลูกไปมีเมียเสียก่อนแล้วไปบวช พ่อแม่ได้อานิสงส์น้อยนั้น ไม่จริงหรอกโยม บุญของพ่อของแม่ลดกันไม่ได้”
    ผู้ถาม :- “ถ้าหากว่าบวชไม่ครบพรรษา จะบวช ๑ เดือน หรือ ๒ เดือน ได้ไหมคะ…?”
    หลวงพ่อ :- “จะบวช ๑ เดือน ๒ เดือน หรือ ๗ วัน ก็ได้ ถ้าหากปฏิบัติดี บวช ๒-๓ วันมันก็ดี ถ้าบวชเลว นานเท่าไร ก็ยิ่งลงอเวจีลึกเท่านั้น ก็ไม่มีความหมาย
    การบวช พระพุทธเจ้าทรงวางแบบไว้ แต่พระที่เขาถือว่ามีศักดิ์ศรีกลับปฏิบัติเลว เมื่อพระพุทธเจ้าทรงมอบอำนาจให้แก่สงฆ์ ทรงมีกฎไว้ว่า คนที่จะบวชจะต้องอยู่ติตถิยปริวาส ๓ เดือนก่อน ในฐานะที่เป็นคนภายนอก จะต้องมาศึกษาพระธรรมวินัยและข้อวัตรปฏิบัติ ถ้า ๓ เดือนยังไม่ดี ยังไม่ให้บวช ถ้าอยู่ต่อไปอีก ๓ เดือน ถ้ายังไม่ดี ก็ยังไม่ให้บวช ถ้าอยู่ต่อไปอีก ๓ เดือน ถ้า ๓ เดือน ๓ วาระ ยังไม่ดี ห้ามบวชตลอดชีวิต”
    ผู้ถาม :- “เดี๋ยวนี้ไม่เห็นเขาเข้าวัดกันเลยค่ะ เวลาขานนาค พระคู่สวดก็สอนเสียทั้งหมด”
    หลวงพ่อ :- “ถ้าเป็นที่วัดฉัน ไม่ให้บวชเลย”
    ผู้ถาม :- “คนเดี๋ยวนี้ต้องทำมาหากิน ถึงเวลาจะบวช ก็บวชไปตามประเพณี ไม่ได้มีเวลาศึกษาระเบียบวินัยข้อวัตรปฏิบัติเสียก่อน บวชอย่างนี้จะได้ไหมคะ…?”
    หลวงพ่อ :- “ได้…โยม ได้อเวจี บวชวันแรกก็หมดจากความเป็นพระแล้ว พระไม่ได้อยู่ที่ผ้าเหลือง และพระก็ไม่ได้อยู่ที่การโกนผม
    คำว่า พระจริงๆ อันดับแรกเป็นพระปลอมก่อน ที่พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า สมมติสงฆ์ นั่นก็คือ พระที่ปฏิบัติตามวินัยครบถ้วนทุกสิกขาบท พระพุทธเจ้ายังไม่เรียก พระ นะ ทรงเรียกว่า สมมติสงฆ์ พลาดนิดเดียวก็ไปนรก
    และการที่จะบวชเข้าไป ถ้าในคณะสงฆ์ที่นั่งอยู่ในวงการอุปสมบท ถ้าเป็นอาบัติปาราชิก หรือสังฆาทิเสสองค์หนึ่ง สังฆกรรมนั้นเสีย คนที่บวชนั้นไม่เป็นพระหรอก เป็นเณร เสร็จอีก ถ้าไปนั่งรวมฉันร่วมกับพระก็บาปกินตลอด
    แล้วก็มาอีกระดับหนึ่ง ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย เขาเรียกว่า สาธุภิกขุ คือนักบวชชั้นดี ถ้าได้ฌานสมาบัติเป็นฌานโลกีย์ ก็ยังเรียกว่า สมมติสงฆ์ ถือว่าเป็นกัลยาณชน จะเป็น พระจริงๆ ได้ก็ต่อเมื่อท่านผู้นั้นเป็น พระโสดาบัน”
    ผู้ถาม :- “การบวชให้อยู่วัดก่อนบวช คือการท่องบ่นสวดมนต์ แล้วก็ปฏิบัติพระ ใช่ไหมคะ…?”
    หลวงพ่อ :- “การอยู่วัดก่อนบวช เขาไม่ได้สวดมนต์เฉยๆ เขาจะต้องเจริญพระกรรมฐาน และต้องปฏิบัติให้อารมณ์จิตดีด้วย คือเข้าถึงธรรมพอไหม ถ้าไม่พอไม่ให้บวช พระพุทธเจ้าทรงสั่งไว้แบบนี้นะ ถ้ารู้สึกว่ายาก ก็ตัดสินใจไม่ให้บวชเลย ก็หมดเรื่อง ถ้าพิจารณาแล้วว่าควร จึงให้บวช
    ขึ้นชื่อว่า บวช นี้มีความหมายมากเหลือเกิน ใครมีลูกชายก็อยากจะให้บวช แต่ถ้าบวชแล้วไม่ประพฤติตามพระธรรมวินัย ก็น่าหนักใจเหมือนกัน แทนที่จะได้บุญกุศลมหาศาล ก็จะพาลให้ลงนรก มันไม่คุ้มกันเลย
    และอีกประการหนึ่ง การจะบวชลูกหลานเข้าไว้ในพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาบุญ คือทำกันตามพระเพณีเป็นสำคัญ พอเริ่มจัดงานก็มีการฆ่าไก่บ้าง ฆ่าปลาบ้าง ฆ่าหมูบ้าง ฆ่าวัว ฆ่าควายบ้าง เอาสุราเมรัยมาเลี้ยงกันบ้าง
    ถ้าท่านทั้งหลายจัดการอุปสมบทบรรพชา หรือว่าบำเพ็ญกุศลส่วนใดส่วนหนึ่งก็ดี ทำกันตามประเพณีแบบนี้ ก็จะได้ชื่อว่าไม่มีอานิสงส์อะไรเลย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะมีเจตนาชั่ว คือเริ่มต้นก็ทำบาปก่อนแล้ว พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า
    ถ้าจิตเป็นอกุศล กุศลใดๆ ที่ตนคิดว่าจะทำ มันก็ไม่ปรากฏ
    ในกาลใด ถ้าเราจะบำเพ็ญกุศลบุญราศรีให้ปรากฏเป็นผลดี ก็ขอให้กาลนั้นเป็นการที่บำเพ็ญบุญกุศลจริงๆ
    ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง จงเว้นกรรมที่เป็นอกุศลเสียให้หมด งดสิ่งที่เป็นกรรมชั่วทุกประการ อย่าให้ปรากฏมี เวลาเริ่มงานขึ้นมาสักที กรรมใดที่เป็นอกุศล เช่น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็ดี การเลี้ยงสุราก็ดี อย่างนี้จงงดไว้ ตั้งใจไว้เฉพาะบำเพ็ญกุศล อย่างนี้จึงเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง
    ทีนี้สมมติว่าลูกหลานที่เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ยินดีในการปฏิบัติความดีในด้านพระธรรมวินัย ยินดีในการเจริญพระกรรมฐาน เกิดความชุ่มชื่นในการปฏิบัตินั้น อานิสงส์ย่อมเกิดแก่ผู้นั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเปรียบไว้ว่า
    ท่านผู้ใดก็ดี อุปสมบทบรรพชาเข้ามาแล้วในพระพุทธศาสนา วันหนึ่งทำจิตให้ว่างจากกิเลส เพียงวันหนึ่งชั่วขณะจิตเดียว
    นี่หมายความว่า วันหนึ่งมีเวลา ๒๔ ชั่วโมง เวลานอกนั้นจิตก็ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ต่างๆ แต่ว่าตอนปฏิบัติพยายามควบคุมกำลังใจ ไม่พลั้งพลาดจากพระธรรมวินัย หรือเวลาใดเวลาหนึ่งก็ตาม ในวันนั้นทำสมาธิจิตให้เกิดขึ้น จะเป็นทรงอารมณ์สมาธิก็ตาม หรือจิตผ่องใสทางด้านวิปัสสนาญาณก็ตาม วันหนึ่งเพียงชั่วขณะจิตเดียว จิตโปร่งจริงๆ ขณะนิดเดียว นาทีหนึ่ง หรือสองนาทีก็ตาม แต่ว่าทำได้ทุกวัน ไม่จำกัดเวลา อย่างนี้พระพุทธเจ้ากล่าวว่า
    ท่านผู้นั้น บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา แม้แต่เพียง ๑ วัน ก็ย่อมมีอานิสงส์ดีกว่าพระที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนาตั้ง ๑๐๐ ปี มีศีลบริสุทธิ์ไม่บกพร่อง แต่ก็ไม่ได้เคยเจริญสมาธิจิตเลย
    ท่านบอกว่า อานิสงส์อันนี้ จะคูณด้วยกำลังของแสน เพราะอาศัยอารมณ์ที่มีความชื่นบาน มีความผ่องใส มีความพอใจ มีธรรมปีติ อาศัยลูกชายของตน ประพฤติดี ประพฤติชอบ ในระบอบพระธรรมวินัย ทุกคนจะมีอานิสงส์มากขึ้น หมายความว่า ถ้าเป็นเทวดาหรือพรหม ก็มีรัศมีกายผ่องใสขึ้น จะเพิ่มความสุขยิ่งขึ้น”
    ผู้ถาม :- “ดิฉันมีลูกชายอยู่คนหนึ่ง ก็อยากจะให้บวช แต่เมื่อได้ฟังหลวงพ่อพูดถึงพระไปนรกกันเยอะ เลยคิดว่าไม่ต้องบวชก็ได้ เอาแค่เจริญพระกรรมฐานดีกว่า แต่อีกใจหนึ่งก็เสียดายที่ไม่ได้เป็นญาติของพระศาสนา”
    หลวงพ่อ :- “โอ้ย…อย่า อย่า ถ้าไม่ได้บวช เป็นญาติของพระศาสนาง่ายกว่า ถ้าบวชเป็นญาติกับนรกง่าย
    คำว่า บวช บวชนี่มันหนัก พระพุทธเจ้าบอกว่า “บรรพชาเป็นของหนัก” พระโผล่ปุ๊บ เข้ามาแล้ว อันดับแรก ศีล สมาธิ ปัญญา เริ่มต้นเลย จะไปรออีก ๓ วันน่ะ มันไม่ได้ เขาเรียก ปูชนียบุคคล เป็นบุคคลที่ชาวบ้านต้องบูชาต้องกราบไหว้
    ไอ้ลูกเวลาไม่ได้บวช ก็ไหว้พ่อ ไหว้แม่ ไหว้ปู่ ย่า ตา ยาย ใช่ไหม…พอบวชวันนั้น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มาไหว้ทันที นี่มันจะตกนรกกันก็ตรงนี้และ ที่หนักกว่ากันก็ตรงนี้แหละ เห็นชัดๆ พระพุทธเจ้าเรียก “สามัญผล” ฉะนั้นนักบวชสมัยนี้ลงนรกง่ายกว่าสมัยก่อน
    และอีกประการหนึ่ง พระนี่กินข้าวง่ายเมื่อไรล่ะ ต้องพิจารณาอาหาเรปฏิกูลสัญญาก่อน ไม่กินเพื่อติดในรสติดในกลิ่นติดในสี จะไม่กินเพื่อความอ้วนพี จะไม่กินเพื่อความผ่องใส จะกินเพื่อทรงชีวิตอยู่เท่านั้นเอง ต้องปฏิบัติตามนี้นะ”
    ผู้ถาม :- “ถ้าพระทำแบบนี้กันมากๆ ก็ตกนรกเยอะซิคะ…”
    หลวงพ่อ :- “พระนี่ลงนรก ๙๙% ท่านมีบุญมากกว่าฆราวาส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหาเรปฏิกูลสัญญา สมภารก็ไม่รู้ อุปัชฌาย์ก็ไม่รู้ ลูกศิษย์รู้มากก็ซวย ก็ลงด้วยกันทั้งนั้น
    พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า ภิกษุผู้บริโภคอาหาร อันมีผู้ถวายด้วยความเลื่อมใส แล้วไม่พิจารณาเสียก่อน เมาในรสอาหารนั้น สู้กินก้อนเหล็กที่เขาเผาแดงจนลุกโชนเสียดีกว่า เพราะกินถึงปากปากพัง ถึงคอก็คอพัง ถึงท้องก็ท้องพัง มันร้อนก็ตาย พอตายแล้วก็เลิกร้อน ส่วนภิกษุที่ฉันอาหารโดยไม่พิจารณาเป็นอาหาเรปฏิกูลสัญญา ตายแล้วลงนรก มันร้อนนานแสนนานกว่า
    การบวชนี่ไม่แน่นักว่าจะไปสวรรค์ ส่วนใหญ่ลงนรกหมด ดีไม่ดีชวนพ่อแม่ลงไปด้วย ถ้าปฏิบัติไม่ดีตามพระวินัย ครูบาอาจารย์ตักเตือนเข้าก็โกรธ ไปบอกพ่อแม่พี่น้อง ไม่ได้เอาเรื่องที่ถูกทำโทษไปบอก เอาแต่ความดีไปบอก พ่อแม่พี่น้องก็พากันโกรธว่าพระด่าพระ
    อย่าง พระกปิละ บวชมาแล้วท่านทรงพระไตรปิฎก แต่ยังไม่ได้ มันเสือกระดาษ ก็มีลูกศิษย์ลูกหามาก ลาภสักการะก็เกิดมาก ความทนงตนก็เกิดขึ้น ต่อมาสอนไปสอนมา ก็สอนคัดค้านคำสอนพระพุทธเจ้า เช่น ตายแล้วสูญ นรกสวรรค์ไม่มี เป็นต้น พระตักเตือนเข้าก็โกรธ ทีนี้แม่กับน้องสาวก็พลอยโกรธไปด้วย ตายแล้วต่างคนต่างลงอเวจีมหานรก เห็นไหม…
    การบวชนี่กรรมหนักมาก ถ้าพลาดนิดเดียว อาบัติปาราชิก
    อาบัติปาราชิก มี ๔ สิกขาบท คือ
    ๑.เสพเมถุนกับสตรี
    ๒.ฆ่ามนุษย์ให้ตาย
    ๓.ลักทรัพย์ตั้งแต่ราคา ๑ บาทขึ้นไป
    ๔.อวดอุตตริมนุสสธรรมที่ไม่มีในตน
    สิกขาบทที่ขาดง่ายที่สุด คือ ลักของราคา ๑ บาทขึ้นไป ขาดจากความเป็นพระทันที ข้อนี้ระวังให้มาก คนเขาทำบุญเรื่องนี้ แต่เอาไปให้อีกเรื่องหนึ่ง เสร็จ…
    และอีกประการหนึ่ง การแสดงอาบัติ เขาต้องบอกเหตุว่าเราทำอะไรมา ไม่ใช่ว่ากันตามภาษาบาลีเลอะไป จริงๆ แล้วในพุทธกาล เขาต้องบอกจุดที่เป็น คือเราไปละเมิดอะไรมาบ้าง บอกพระด้วยกัน ถ้าอยู่ในคณะสงฆ์ ต้องบอกในคณะสงฆ์ ที่ทำกันทั่วไป เป็นภาษาบาลีนี่มันไม่ถูก ถ้าไม่ถูก การเปลื้องอาบัติก็ไม่สมประสงค์ และก็ลงท้ายว่า
    นะ ปุเนวัง กะริสสามิ ผมจะไม่ทำอย่างนี้อีก
    นะ ปุเนวัง ภาสิสสามิ ผมจะไม่พูดอย่างนี้อีก
    นะ ปุเนวัง จินตะอิสสามิ ผมจะไม่คิดอย่างนี้อีก
    ทีนี้เวลาที่เราแสดงอาบัติ ต้องตั้งใจจริงว่า ไอ้ความชั่วประเภทนี้ เราจะไม่ทำอีก เราจะไม่พูดอีก เราจะไม่คิด อย่างนี้อาบัติที่เป็น มันจึงจะยับยั้ง
    การแสดงอาบัติ อย่าคิดว่าอาบัติหมดไปนะ แผลที่เป็น มันก็เป็นแผลตามเดิม ความชั่วแก้ไขไม่ได้ แต่ว่าเราไม่ทำ มันก็เป็นการยับยั้งความชั่ว ไม่กำเริบหรือมากกว่านั้น เราตั้งใจคิดว่า เราจะไม่เป็นอาบัติดีกว่า”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3-1-1-1.jpg
      3-1-1-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      156 KB
      เปิดดู:
      69
  20. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    ๒๘ วันสุดท้าย...เรามาสวดมนต์ เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล
    แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ อันเป็นที่รักยิ่งของเราด้วยกันนะครับ
    .
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ )
    ๐ บทขัดธัมมะนิยามะสูตร ๐
    ยัง เว นิพพานะญาณัสสะ_ญาณัง ปุพเพ ปะวัตตะเต
    ตัสเสวะ วิสะยีภูตา_ยายัง ธัมมะนิยามะตา
    อะนิจจะตา ทุกขะตา จะ_สัพเพสัง จะ อะนัตตะตา
    ตัสสา ปะกาสะกัง สุตตัง_ยัง สัมพุทเธนะ ภาสิตัง
    สาธูนัง ญาณะจาเรนะ_ยะถา พุทเธนะ เทสิตัง
    โยนิโส ปะฏิปัต๎ยัตถัง_ตัง สุตตันตัง ภะณามะ เสฯ
    .
    ๐ บทธัมมะนิยามะสุตตัง ๐
    เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง
    วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเมฯ
    ตัต๎ระ โข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ ภิกขะโวติฯ
    ภะทันเตติ เต ภิกขู ภะคะวะโต ปัจจัสโสสุงฯ
    ภะคะวา เอตะทะโวจะฯ
    .
    อุปปาทา วา ภิกขะเว ตะถาคะตานัง อะนุปปาทา วา
    ตะถาคะตานัง ฐิตา วะ สา ธาตุ ธัมมัฏฐิตะตา
    ธัมมะนิยามะตา สัพเพ สังขารา อะนิจจาติฯ ตัง ตะถาคะโต
    อะภิสัมพุชฌะติ อะภิสะเมติ อะภิสัมพุชฌิต๎วา อะภิสะเมต๎วา
    อาจิกขะติ เทเสติ ปัญญะเปติ ปัฏฐะเปติ วิวะระติ วิภะชะติ
    อุตตานีกะโรติ สัพเพ สังขารา อะนิจจาติฯ
    .
    อุปปาทา วา ภิกขะเว ตะถาคะตานัง อะนุปปาทา วา
    ตะถาคะตานัง ฐิตา วะ สา ธาตุ ธัมมัฏฐิตะตา
    ธัมมะนิยามะตา สัพเพ สังขารา ทุกขาติฯ ตัง ตะถาคะโต
    อะภิสัมพุชฌะติ อะภิสะเมติ อะภิสัมพุชฌิต๎วา อะภิสะเมต๎วา
    อาจิกขะติ เทเสติ ปัญญะเปติ ปัฏฐะเปติ วิวะระติ วิภะชะติ
    อุตตานีกะโรติ สัพเพ สังขารา ทุกขาติฯ
    .
    อุปปาทา วา ภิกขะเว ตะถาคะตานัง อะนุปปาทา วา
    ตะถาคะตานัง ฐิตา วะ สา ธาตุ ธัมมัฏฐิตะตา
    ธัมมะนิยามะตา สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติฯ ตัง ตะถาคะโต
    อะภิสัมพุชฌะติ อะภิสะเมติ อะภิสัมพุชฌิต๎วา อะภิสะเมต๎วา
    อาจิกขะติ เทเสติ ปัญญะเปติ ปัฏฐะเปติ วิวะระติ วิภะชะติ
    อุตตานีกะโรติ สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติฯ
    .
    อิทะมะโว จะ ภะคะวาฯ อัตตะมะนา เต ภิกขู ภะคะวะโต
    ภาสิตัง อะภินันทุนติฯ
    .
    ๐ คำถวายพระราชกุศล ๐
    แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
    .
    อิทัง ปุญญะผะลัง
    ปะระมินทะระมะหาภูมิพะละ
    อะตุละยะเตชัสสะ โหตุ
    .
    ขอบุญกุศลนี้จงสำเร็จเป็นบารมีธรรม
    แด่องค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
    พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัยด้วยเทอญ
    ...
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
    ข้าพระพุทธเจ้า พสกนิกรชาวไทยผู้จงรัก และภักดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 999_10.jpg
      999_10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      285 KB
      เปิดดู:
      54
    • 999_11.jpg
      999_11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      290 KB
      เปิดดู:
      54
    • 999_12.jpg
      999_12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      250 KB
      เปิดดู:
      57
    • 999_13.jpg
      999_13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      253.7 KB
      เปิดดู:
      67
    • 999_14.jpg
      999_14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      245.6 KB
      เปิดดู:
      58
    • 999_15.jpg
      999_15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      216.2 KB
      เปิดดู:
      56
    • 999_16.jpg
      999_16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      221 KB
      เปิดดู:
      60

แชร์หน้านี้

Loading...