ร่วมทำบุญบูชา มงคลตัดผ่านสวรรยามหากุมารต้นไฟอมฤต(สลายจุดชะลอชะตาสี่มหาฤทธิ์พญา) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่วิชัย EW 4024 2459 5 TH

    พี่ศิระ EW 4024 2460 4 TH
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    เดี๋ยวพรุ่งนี้มาติดตามพูดคุยเรื่องพระธรรมเทพหรือองค์ต้นธรรมที่มีคนสอบถามเข้ามากันตลอดอีกทีนะครับ
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันนี้เดี๋ยวมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่ององค์ต้นธรรมหรือธรรมบดีที่หลายๆคนโดยเฉพาะผู้ชอบนั่งทางในหรือมองเห็นอะไรๆได้มากชอบสอบถามกันเข้ามา บางคนก็ถามก็เร่งให้ท่านเอาออกมาเป็นปีๆจนผมไม่รู้จะตอบยังไงจริงๆ ...ทำไมจึงสำคัญและอยากได้กันขนาดนั้น นี่เดี๋ยวจะยกมาเป็นประเด็นพูดคุยกันวันนี้
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ภาคภูมิ EW 4024 3500 6 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    เมือพูดถึงพระธรรมหลายๆคนย่อมจะนึกกันไม่ออกว่ามีลักษณะทางกายภาพอย่างไร เพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีรูป ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงสร้างองค์ธรรมบดีหรือองค์ต้นธรรมขึ้นเพื่อเป็นวัตถุที่ระลึกทางกายภาพซึ่งเกิดจากธรรมเวทย์ให้ผู้ศรัทธาได้จับต้องกราบไหว้และอาราธนาองค์ธรรม(รายการนี้บอกได้ว่ามีอาถรรพ์สูงมากจริงๆเพราะท่านต้องแก้พิมพ์ปั้นใหม่หลายครั้ง จะใส่เส้นวงเดือนก้ไม่ได้ ใส่รัศมีก็ไม่ได้ ใส่อักขระใดๆก็ไม่ได้ กว่าจะแก้พิมพ์จนเสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำได้และหล่อติดได้นั้นไม่ง่ายเลย ไม่เช่นนั้นหล่อเท่าไหร่ก็ไม่ติด) ทั้งองค์ธรรมบดีพ่ออาจารย์ท่านยังใช้วิธีจารสดทั้งหน้าและหลังเป็นอักขระตัวเล็กๆละเอียดๆซึ่งคาดว่าท่านคงไม่จารเครื่องมงคลรุ่นไหนให้ขนาดนี้อีกแล้ว ทั้งยังบรรจุและอัดแน่นด้วยวิชาสายธรรม..ทั้งหมดของพ่ออาจารย์ด้วย..เพียงเท่านี้ก็เรียกได้ว่าสุดยอดแล้ว ***ใครที่รอองค์ต้นธรรมอยู่พรุ่งนี้ก็ติดตามดีๆบอกได้แค่ว่าถ้าไม่ทันหรือหมดไปแล้วอย่ามาเรียกหาอีก ดูง่ายๆคนที่ขอบูชาก่อนล่วงหน้าเป็นปีๆรายการนี้ท่านยังไม่ยอมออกให้ใครเลยไม่ว่าจะขอจะตื้อขนาดไหน เพราะมันมีบางสิ่งที่สำคัญมากจริงๆ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญเบิกวิชาองค์ต้นธรรมโคตรสยมภูว(ธรรมบดี84000บันดาลสุข)

    หากพูดถึงองค์ธรรมแล้วหลายๆคนย่อมจะนึกภาพกันไม่ออกว่ามีลักษณะทางกายภาพอย่างไร เพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีรูป ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงสร้างองค์ธรรมบดีหรือองค์ต้นธรรมขึ้นเพื่อเป็นวัตถุที่ระลึกทางกายภาพซึ่งเกิดจากธรรมเวทย์ให้ผู้ศรัทธาได้จับต้องกราบไหว้และอาราธนาองค์ธรรม ตามหลักพระธรรมอันเป็นนามธรรมที่ยิ่งใหญ่ไร้รูปลักษณ์ที่จะจับต้องได้ เป็นกฏเกณฑ์ที่บัญชาการทั้งหมื่นโลกธาตุพ่ออาจารย์ท่านจึงสร้างเพื่อให้คุณวิเศษขององค์ต้นธรรมนั้นได้ต่อติด และได้เป็นที่พึ่งพาของผู้ศรัทธา ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำได้นั้นถือว่ามีอาถรรพ์อยู่มาก เพราะจะหล่ออย่างไรก็หล่อไม่ติด ตอนแรกท่านว่าท่านอยากจะทำให้สวยๆจึงปั้นหุ่นเทียนเป็นเทพทรงชุดจักรพรรดิ์เสด็จพระใหญ่ท่านก็ไม่เอา ให้ทำแบบศิลป์บริสุทธิ์ไปเลย พอท่านสลักอักขระคาถาลงในหุ่นเทียนบล๊อกก็หล่อไม่ติด เปลี่ยนมาขึ้นรัศมีก็หล่อไม่ติด ใส่วงเดือนกระจายออกจากองค์พระก็หล่อไม่ติด เรียกว่าพ่ออาจารย์ท่านทำอยู่หลายรอบจนเสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าต้องทำแบบเปลือยๆ ในเหรียญนี้ห้ามมีอะไรนอกจากความว่างเปล่าและท่านต้องทำเป็นทรงกลมเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าพอเราปั้นหุ่นเทียนเสร็จแล้วก็มาคิดๆดูว่าออกมาแบบนี้กลัวใจคนเขาจะปรามาสกันจริงๆเพราะเหรียญนี้ดูโล่งๆไม่มีอะไรเลย ท่านจึงถามเสด็จพระใหญ่ว่าผมจะลงจารทำวิชาธรรมคู่ไปกับเหรียญด้วยเพื่อให้เป็นสิริมงคลกับผู้อาราธนาได้หรือไม่(จุดประสงค์คือไม่อยากให้เหรียญดูเปลือยๆไม่มีอะไร)ซึ่งพระท่านก็อนุญาติ พ่ออาจารย์ท่านว่าจุดนี้สำคัญเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านรู้ที่เรากังวล ท่านจึงว่า " ไม่ต้องกังวลไปองค์ต้นธรรมนี้ไม่ใช่ใครจะมีก็ได้ ย่อมขึ้นอยู่กับสัญญาแต่เก่าก่อนของคนอาราธนา ถ้าไม่มีสัญญาร่วมกับท่านมาแต่กาลก่อนก็ไม่มีวาสนาผูกพันธ์ การจะเป็นศิษย์ของท่านก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นคนที่จะเอาไปก็เป็นคนที่มีวาสนาร่วมกัน หากขาดสัญญาไปแล้วการจะเป็นศิษย์ในองค์ต้นธรรมย่อมเป็นไปมิได้เลยเขาก็จะมองเป็นเหรียญโล้นๆเปลือยๆไม่ได้สนใจเท่านั้น "

    การสร้างองค์ต้นธรรมอันมีศักดิ์สูง เป็นสุดยอดหรือจุดสูงสุดที่เหล่าศาสดาและมหาเทพทั้งหลายต้องอาศัยความเพียรเพื่อเข้าให้ถึงนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ง่ายเลย เพราะท่านต้องอาศัยการปั่นธรรมทีละชนิดเพื่อดึงพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนครูบาอาจารย์จากเบื้องบนเพื่อรวมกันมาอาราธนาองค์ต้นธรรม ท่านว่านี่จึงสำเร็จประโยชน์ใหญ่เพราะเราสร้างรูปเคารพให้กับสิ่งที่สูงที่สุดอันเป็นดวงพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้องค์ต้นธรรมนั้นลงมาช่วยกระทำการต่างๆ ทั้งยังเป็นการขอพลังจากองค์ท่านมาช่วยอำนวยพรให้สิ่งต่างๆที่เรากระทำ หรือสิ่งต่างๆที่โคจรอยู่รอบตัวเราและในชีวิตของเรานั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่การอาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแน่นอน ว่าท่านมีอุปการคุณมากและมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้ หากเธอเอาเหรียญเบิกวิชานี่ไปห้อยแล้วก็เท่ากับว่าเธอเข้ารับพลังของดวงแก้วดวงธรรม นำพลังขององค์ต้นธรรมมาขัดเกลาจิตใจหรือใช้ในการฝึกจิตได้ ...พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คล้ายๆกับเหรียญแทนครูเลยเพราะใครมีจะเสกเครื่องรางของขลังต่างๆให้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ยังทำได้ แม้จะไล่ผี ปราบปอบ ล้างอาถรรพ์ต่างๆท่านว่านี่พลังขององค์ต้นธรรมทำได้หมด จากคนที่ไม่มีวิชาธาตุธรรมนั้นก็จะปั่นธรรมในตัวเองให้เรารู้เราเห็นอะไรได้กว้างขึ้น

    ท่านว่าการอาราธนาองค์ต้นธรรมก็เหมือนกับการเปิดประตูต่างๆเชื่อมโยงกันทุกมิติ เรียกว่าหากใครที่ปฎิบัติมาพอสมควรมีสะสมมาตั้งแต่ชาติที่แล้วก็จะได้มาต่อยอดจากตรงนี้ การอาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นเป็นการปลุกจิตวิญญาณของตนเองให้แผ่พลังขยายไปยังมิติอื่นๆนอกจากมนุษยโลกแล้วยังมียมโลกและเทวโลกตลอดจนถึงนิพพานได้อีกด้วย ผู้ที่รับพลังขององค์ต้นธรรมนั้นมักจะมีปัญญารู้แจ้ง เข้าใจ เข้าถึงสิ่งต่างๆได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังจะสัมผัสถึงพลังเหนือโลกต่างๆได้ง่ายขึ้น พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าดุจองค์ต้นธรรมใหญ่หรือที่เราเรียกพระธรรมท่านลงมาสอนสั่งเราด้วยตัวเองเราจะค่อยๆปรับกายเนื้อให้เข้าใจและเข้าถึงสิ่งต่างๆที่คนปรกติธรรมดาทั่วๆไปมองไม่เห็นหรือเข้าไม่ถึงตรงนี้ท่านเรียกว่าฤทธิ์ทางใจ ท่านว่าจะค่อยๆเห็นแน่ชัดมากขึ้นแต่ขอเอาไว้อย่างเดียวว่าอย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับฤทธิ์ตัวนี้ว่าตนเองจะเป็นผู้วิเศษแต่อย่างใดเพราะหากเราหลงมันก็จะขวางการเข้าถึงสภาวะธรรมในลำดับที่สูงขึ้นไป ท่านว่าให้ผู้อาราธนามีใจเป็นกลางไว้ถึงได้มาก็ไม่ต้องยินดีกับมันสุดท้ายเราก็จะเข้าถึงสัจจะแห่งธรรมทั้งหลายได้ สำหรับคนที่อาราธนาองค์ต้นธรรมนั้นต่อไปก่อนจะกระทำการใดๆก็ให้เชื้อเชิญท่านมาช่วยเหลือเสียก่อนจะขอพร,ขอเรื่องใดๆหรือใช้ทางขจัดปัดเป่าและป้องกันรักษาให้พ้นจากภัยอันตรายย่อมทำได้ทั้งสิ้น..ท่านว่าค่อยๆขัดเกลาจิตที่หยาบให้ละเอียดขึ้นเมื่อเข้าถึงธรรมแล้วต่อไปการบรรลุธรรมนั้นก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย ในเรื่องความสามารถแปลกๆที่ติดตัวมาเช่นการแก้ถอนคุณไสย ไล่ผี ไล่ปอบ การใช้คาถาอาคมได้เห็นผล หรือใช้วัตถุมงคลได้ดียิ่งขึ้น เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงผลพลอยได้ทั้งสิ้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อท่านสร้างองค์ต้นธรรมแล้ว นอกจากจะเชิญครูบาอาจารย์ทั้งหลายตั้งแต่เสด็จพระใหญ่ลงไปช่วยกันปั่นธรรมและอาราธนาองค์ต้นธรรมลงมาแล้ว ท่านยังได้นำวิชาธรรมต่างๆของท่านได้แก่ธรรมบรรลุ ธรรมเก้าโกฎิ ธรรมห้องพระไตร ธรรมฤาษี ธรรมบันดาล ธรรมพระอรหันต์ ธรรมกาบแก้ว ธรรมแก้วสารพัดนึก ธรรม84000...และอีกหลายๆวิชาธรรมที่เรียกว่าธรรมทั้งหมด ครอบให้กับเหรียญทีละเหรียญ ท่านว่ากว่าจะทำได้เสร็จยอมรับเลยว่านานจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะยกตัวอย่างได้พอสังเขป เพื่อให้รู้คร่าวๆว่าเหรียญนี้มีอะไรมากกว่าที่ตาเนื้อจะรู้เห็นและสัมผัสได้ ดวงธรรมต่างๆนั้นได้แก่
    - ธรรมกาบแก้ว เป็นธรรมห้องสำคัญที่ใช้ในการรักษา ทั้งใช้ในทางแคล้วคงเสกน้ำเสกเหล้ากินได้สารพัด ขอให้พิจารณากันให้ดีเถิด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่รักษาได้สารพัดเลยพอลงไว้แล้วเหรียญนี้ใช้แช่น้ำกินแทนยาได้เลย จะป่วยจากสิ่งใดๆที่ผิดธรรมชาติหรือโดนกระทำจากจิตวิญญาณชั้นสูงชั้นต่ำก็ดี ย่อมรักษาได้ทั้งสิ้น
    - ธรรมพระอรหันต์ ท่านว่าธรรมพระอรหันต์นี้จะช่วยขจัดปัดเป่าเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี ด้วยชีวิตคนส่วนใหญ่นั้นย่อมร้ายมากกว่าดี ถึงดีก็ดีไม่สุด ท่านจึงครอบธรรมสำคัญนี้ไว้เพื่อหวังประโยชน์ให้การใช้ชีวิตนั้นง่ายขึ้นทั้งยังใช้อาราธนารักษาคนเป็นบ้าเป็นปอบ หรือถูกภูตผีปีศาจเบียดเบียนก็ย่อมได้ แม้โดนเทวดาผีเข้าเจ้าสิงทำอาถรรพ์ร้ายต่างๆที่บ้าน ที่ไร่ ที่นา ในป่า ในดงดอน ห้วย หนอง คลองบึง ที่เราเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยความรักความหวงแหนสถานที่ ท่านว่าให้อาราธนาเหรียญออกชื่อธรรมพระอรหันต์นี้ก็จะขจัดปัดเป่าไปได้
    - ธรรมเก้าโกฏิ วิชานี้โบราณท่านถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากใช้ป้องกันภูตผีปีศาจมิให้มารบกวนย่ำยีได้ดีนักแล ทั้งยังใช้ป้องกันและรักษาปอบ โพง ผี เทพอารักษ์ เจ้าหลัก เจ้าที่ นายผี เทวดามิจฉาทิฏฐิ ผีดง ผีป่า ผีบ้า ท่านว่าจะทำให้ฤทธิ์ที่แรงกล้าของมันจืดจางไป
    - ธรรมพระไตร ห้องนี้ท่านว่าสำคัญเพราะใช้ขจัดปัดเป่าความทุกข์ความโศกรวมไปถึงโรคภัยที่ติดตัวเราโดยเฉพาะ ตลอดทั้งอุบัติเหตุและอุปัททวะอันตรายอันจะเกิดขึ้นกับเราก็ดีหรือเกิดขึ้นไปแล้วก็ดีให้เหตุที่ยังไม่เกิด,ให้ผลที่เกิดขึ้นแล้วเสื่อมสลายไป ท่านว่าใช้อาราธนาป้องกันโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายนับว่าได้ผลดีสมความปรารถนากันมามากแล้วเมื่ออธิษฐานออกชื่อใช้ในการป้องกันและรักษาอาราธนาให้หากโรคภัยไข้เจ็บเหือดหายไปได้ แม้บ้านเมืองเกิดความเดือดร้อนจากภูตผีปีศาจเข้ามาเบียดเบียนก็ยังรักษาได้ แม้ที่อยู่ซึ่งไม่มีใครจับจองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เมื่อเราเข้าไปอยู่ จะเป็นเจ้าป่าหรือภูตผีปีศาจที่มารักษาและถือครองแม้เราลุกล้ำเข้าไปก็ย่อมจะถูกผู้รักษาเหล่านั้นทำอันตรายบางรายถึงแก่ความตายหรือจะสะกดไว้ให้เจ็บป่วยและตกต่ำลงก็ดี ผู้คนที่ถูกเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาเบียดเบียนท่านว่าให้อาราธนาธรรมพระไตรนี้ปัดเป่าออกไปเสีย
    - ธรรมแก้วสารพัดนึก ท่านว่าเป็นบทวิเศษใช้ได้สารพัดนึกสมดั่งชื่อมีค่าร้อยแปดพันประการ เมื่อเอ่ยชื่อธรรมแก้วสารพัดนึกแล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออกวันนั้นทำอะไรก็จักได้ชัยชนะ แม้เอ่ยนามแล้วหันหน้าไปทางทิศเหนือก็จะมีเดชาอานุภาพเป็นที่หวั่นเกรงแก่ฝูงชนยิ่งนัก แม้หันหน้าไปทางทิศใต้ทุกข์โศกโรคภัยต่างๆก็จะหายไป หากเงยหน้าขึ้นบนฟ้าก็จะชนะข้าศึกศัตรู จะอาราธนาตอนเช้าก็มีลาภมาก อาราธนาตอนสายรูปก็จะงาม ท่านว่านี่ใช้ได้สารพัดเลยทั้งให้ลาภให้มีทรัพย์สินมาก,ให้เทวดารักษา,ให้ศัตรูดับสูญสิ้น,ให้คนบูชาเรา,ให้อันตรายหายสิ้น,ถามหาความสุขย่อมได้ความสุข,ให้คนกลัวเรา,ให้ความแค้นมลายหายไป.. ท่านว่าย่อมใช้ได้ทั้งสิ้นแม้ปรารถนาอันใดก็จะได้ดั่งใจทีเดียว
    - ธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้อาราธนาธรรมนี้ผู้คนจะนับหน้าถือตาเป็นที่เลื่องลือว่าเก่งกล้าวิชา เป็นที่เกรงขามของทั้งคนทั้งผี ทั้งยังใช้ทางป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจากภูตผีปีศาจได้ผลดีมาก ท่านว่าเมื่ออาราธนาธรรมดวงนี้แล้วก็ให้เคร่งครัดในศีลทั้งห้าจะยิ่งได้ผลดีมากขึ้น องค์ธรรมนี้ท่านว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้หรือเอ่ยชื่อแต่หากว่าเราดีจริงนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะธรรมสำคัญนี้จะหนุนความสำเร็จในทุกกิจการ แต่ถ้าหากเราไม่มีศีลก็ดี ไม่เชื่อในองค์ธรรมก็ดีนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังจะเป็นโทษอีกด้วย(ท่านว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ วันไหนตัวเองดีพอก็ค่อยอาราธนาธรรมนี้)

    นอกจากนั้นท่านว่าธรรมแต่ละวิชานั้นยังแบ่งเป็นห้องต่างๆมากมาย เมื่อจะลงก็ต้องลงให้ครบเช่นนั้นจึงใช้เวลานาน ท่านให้ยกตัวอย่างคร่าวๆเช่น
    - ห้องสมาธิ ท่านว่าก่อนจะทำการใดๆก็ให้อาราธนาธรรมห้องสมาธินี้เสียก่อน ธรรมนี้จะช่วยให้จิตใจของเราแน่วแน่ ทั้งยังสามารถมองเห็นภาพนิมิตเหตุการณ์ต่างๆเบื้องหน้าได้เป็นบางช่วง นอกจากนั้นยังใช้ป้องกันหรือปราบปรามภูตผีปีศาจได้
    - ห้องจืด ทำให้ฤทธิ์ของผี,เทวดาหรือผู้มีวิชาที่มาขัดขวางสร้างเรื่องให้เรานั้นจืดจางไป แม้คนที่ผีเข้าเจ้าสิงห็หายได้หรือใช้ให้หายจากเจ็บไข้ได้ป่วยก็ได้ มีภูตผีปีศาจในที่ใดย่อมขับได้ทั้งสิ้น จะอาราธนาเสกน้ำมนต์,เสกทรายซัดสถานที่,เสกก้อนหินฝังอาถรรพ์ก็ย่อมได้ ท่านว่าสถานที่ใดก็ดีเมื่อฝังแล้วฤทธิ์ของภูติผีปีศาจนั้นย่อมจืดจางหายไป
    - ห้องหิริโอตโอตตัปปะ ใช้ขับภูตผีปีศาจ เป็นดั่งกำแพงแก้วสามประการคือพระพุทธ,พระธรรม,พระสงฆ์ เมื่ออาราธนาคุณพระรัตนตรัยก็จะเป็นดั่งกำแพงป้องกันสรรพทุกข์,สรรพโศก, สรรพโรค,สรรพภัย,สรรพอันตรายและอุบาทว์ต่างๆได้ทั้งภายนอกและภายใน เช่นนั้นเครื่องป้องกันอันเกิดจากคุณพระรัตนตรัยนี้จึงประเสริฐยิ่งนัก
    - ห้องล้อมรักษา ใช้อาราธนาเพื่อล้อมรักษาตัวเอง ทั้งขับไล่อาถรรพ์หรือภูติผีที่อยู่ก่อนแล้วให้ออกไปไกลจากตัวเรา ไม่ให้ศัตรูและภูติผีปีศาจเข้ามาใกล้เราได้
    - ห้องกำจัด ใช้อาราธนาเมื่อจะทำการกำจัดศัตรูทั้งภายในและภายนอก ท่านว่าเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่าเพียงแต่ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ภูตผีปีศาจก็จะแตกระจัดกระจายไป ทั้งนี้เป็นไปด้วยเดชานุภาพแห่งพระรัตนตรัย
    - ห้องแผลงฤทธิ์ ฤทธิ์เดชเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและจะเกิดขึ้นได้เมื่อบำเพ็ญคุณงามความดี ครั้นได้แล้วก็อาจเสื่อมสูญไปได้ เช่นนั้นคนแต่ยุคก่อนย่อมถือเอาว่าพระพุทธเจ้าเป็นเจ้าแห่งฤทธิ์เป็นจอมอิทธิฤทธิ์เพราะพระองค์ได้สร้างพระบารมีมาครบถ้วน เช่นนั้นก่อนเราจะทำกิจใดจึงต้องฃแผลงฤทธิ์ หรือทำการร้องขอเอาฤทธิ์ของพระพุทธเจ้ามาใช้ ท่านว่าให้อาราธนาไปเถิดจะเกิดผลดีแน่นอน
    - ห้องกำบัง ท่านว่าให้อาราธนาเพื่อไม่ให้ภูตผีปีศาจแลสิ่งที่ไม่ดีมองเห็นตัว เพื่อความไม่ประมาทก็ควรจะป้องกันไว้เพราะการแก้ไขนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่าการป้องกัน ท่านจึงให้อาราธนาธรรมกำบังนี้ไว้เสมอๆให้น้อมระลึกนึกถึงถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพียงเท่านี้ภูตผีปีศาจก็ทำอันตรายหรือเบียดเบียนไม่ได้ ทุกสิ่งย่อมกำบังได้ทั้งหมดกำบังได้หมดไม่เป็นอันตรายแก่ตัวเรา แม้คนหรือผีจะทำอะไรเราก็เข้าไม่ถึงมาลองก็ไม่ถูกจนถึงขั้นที่สุดเขาให้วัวธนูปล่อยออกมาก็ยังไม่อาจทำอันตรายเราได้
    - ห้องตัน ท่านว่าเมื่ออาราธนาจะเป็นที่หวาดเกรงแก่ภูตผีปีศาจตลอดจนเป็นที่เคารพนับถือจากคนทั้งหลาย เมื่อเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยเนื่องจากภูตผีปีศาจเบียดเบียนก็ดีให้อาราธนาปราบปรามได้เลย ทั้งยังจะช่วยป้องกันรักษาให้อยู่เย็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัยได้ดียิ่งนัก
    - หยาดน้ำ ท่านว่าใช้อาราธนาในการแผ่กุศลเจริญเมตตาจิตถือเป็นการให้อภัยแก่กัน เมื่อได้ทำหรือปราบภูตผีใดๆแล้ว ท่านให้อาราธนาห้องนี้แผ่ส่วนกุศลให้เพื่อมิให้มีกรรมมีเวรต่อกัน อนึ่งสัตว์ที่ถูกเราข่มเหง ขับไล่ หรือผูกมัดไว้ จักได้หายความพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน

    ท่านว่านี่ก็ยกตัวอย่างได้เพียงระดับหนึ่งแต่เอาว่าอาราธนาใช้ได้สารพัดนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าการสร้างองค์ธรรมบดีหรือองค์ต้นธรรมก็เรียกนั้น ต้องบรรจุวิชาธรรมไว้ให้ครบถ้วนซึ่งปกติแล้ววิชาเหล่านี้ย่อมอาศัยความเอาใจใส่ขยันหมั่นเพียรในการฝึกเพื่อจะทำให้ดวงธรรมเข้มแข็งขึ้น สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างดี แต่หนนี้ท่านว่าองค์ต้นธรรมท่านช่วยครอบให้ทั้งหมดแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าบุคคลทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ย่อมมีบุญกรรมและวาสนาบารมีที่แตกต่างกันออกไป บางคนกรรมยังหนักอยู่จึงต้องขับกรรมก่อนเรียกว่าเมื่ออาราธนาเหรียญองค์ต้นธรรมนั้นท่านก็จะขับกรรมให้ก่อนในกรณีคนที่มีปัญหาด้านนั้นๆ แล้วค่อยพัฒนาขัดเกลาธรรมไปพร้อมๆกับตัวเรา***เหรียญชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้จารหัวใจธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์กำกับลงวิชาไว้ทั้งหน้าและหลัง ท่านว่ามีฤทธิ์มากสารพัดจะใช้ จะเป็นรอยจารเล็กๆละเอียดๆและอาจจะเป็นการจารให้เยอะๆเต็มวิชาในวัตถุที่แข็งเช่นนี้ครั้งสุดท้ายเนื่องจากต้องใช้ความพยายามมากในการลงเหล็กจาร (ท่านว่าจะให้ใช้ครื่องจารสบายๆนั้นท่านไม่ทำเพราะรุ่นพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านก็ไม่ทำ ไม่เอาความมักง่ายทำอะไรก็สบายเข้าว่าแบบนั้น)

    คาถาบูชา(ท่านให้อาราธนาองค์ต้นธรรมแล้วนึกถึงคุณพระรัตนตรัยก็ใช้ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ห้อยๆไปท่านจะตอบสนองกับใจเราโดยตรง คาถาไม่จำเป้นต้องใช้ จะหยิบอะไรเอามากล่าวให้เป้นมงคลก็ได้ แต่ถ้าคนที่ใจยังแกว่งยังอยากท่องอยากบ่นก็ท่องไป)
    เอวัง พุทธัง สะรันตานัง ธัมมัง สังฆัญจะ ภิกขะโว ภยังวา ฉิมภิตัตตังวา โลมะหังโส นะเหสสะติ (เมื่อท่านระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่อย่างนี้ ความกลัวก็ดี ความหวาดสดุ้งก็ดี ความคนพองสยองเกล้าก็ดี อันใดจักมี อันนั้นจักหายไป ความหวาดผวาจักไม่บังเกิดขึ้น)


    ***เหรียญเบิกวิชาองค์ต้นธรรมโคตรสยมภูว พ่ออาจารย์ทำไว้ได้เพียงห้าเหรียญเท่านั้น ท่านพูดสั้นๆว่า"ใครได้เห็นถือเป็นบุญตา ใครมีไว้นับเป็นวาสนา" คนที่บูชาท่านให้แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดตลอดจนสิ่งที่ติดขัดและสิ่งที่ปรารถนาแก่ท่านด้วย ท่านจะอธิษฐานบอกกล่าวองค์ต้นธรรมให้เป็นพิเศษ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญเบิกวิชาองค์ต้นธรรมโคตรสยมภูว(ธรรมบดี84000บันดาลสุข) บูชา 4,000 บาท

    54729932-410124396471588-8864362416436150272-n.jpg 54799426-342526456622472-3178740755019595776-n.jpg
    55882268-2309013092721179-4908663121247207424-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่นฐมน EW 4024 2665 3 TH

    พี่กฤตยชญ์ EW 4024 2666 7 TH
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ความหมายของสติ
    สติ ตามความหมายหมายถึง ความระลึกได้, นึกได้,ความไม่เผลอ,การคุมใจไว้กับกิจหรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่เกี่ยวข้อง,จำการที่ทำและคำที่พูดแล้วแม้นานได้

    ก่อนอื่นขอนิยามคำว่า “สติ” ในความหมายที่จะกล่าวต่อไปนี้หมายถึงการมีจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ เช่นขณะนี้ผมกำลังพิมพ์งาน จิตใจผมก็อยู่กับการพิพม์งาน รู้ตัวว่ากำลังกด Key Board เวลากดเปลี่ยนภาษาก็รู้ตัว หรือขณะที่ใส่เสื้อเราก็ต้องรู้ตัวระลึกพร้อมว่าเรากำลังหยิบเสื้อ รู้สัมผัส เย็นร้อนอ่อนแข็ง ขณะขยับตัวยกแขนเพื่อสวมเสื้อก็รู้ตัว ไม่ใช่ขณะที่สวมเสื้อก็คิดถึงงานที่ทำงาน สวมเสื้อเสร็จโดยที่ไม่ต้องใช้จิตใจเลย ทุกอย่างทำไปโดยอัตโนมัติ ทำอะไรจิตใจก็อยู่กับสิ่งที่ทำ ไม่ส่งใจออกไปข้างนอก หรือคิดเรื่องอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่

    ปกติคนเราส่งใจออกไปข้างนอกเก่งมาก คือส่งใจไปคิดถึงอนาคต เรื่องในอดีต ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา เรียกว่าไม่ได้มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน เช่นขณะที่เรากำลังเดิน แต่ใจเรากำลังคิดว่าถึงที่ทำงานเราจะทำอะไร เราจึงเป็นเหมือนหุ่นยนต์ ทำงานหลายๆอย่างด้วยระบบอัตโนมัติ ความจริงแล้วหากดูเผินๆการทำงานต่างๆด้วยระบบอัตโนมัติ หรือความคุ้นเคยก็ดูดีเพราะจะได้เอาจิตใจไปคิดวางแผนที่จำเป็น เรียกว่าทำงานแบบ Multi Tasking

    แต่การทำงานแบบ Multi Tasking นั้นไม่ช่วยให้คุณทำงานตรงหน้านั้นได้อย่างดี และอาจเกิดความผิดพลาดได้ หากคุณต้องการสร้างผลงานที่พิเศษกว่าคนธรรมดาที่มีสติน้อย คุณต้องทำงานตรงหน้าอย่างมีสติ เช่นหากกำลังต่อรอง ก็มีสติกับสิ่งที่พูด สิ่งที่ได้รับฟัง ซึ่งคนปกติที่มีสติปกติกับคนที่ขาดสติจะไม่สามารถรวบรวมสติเมื่อจำเป็นต้องใช้ได้ เราจึงต้องฝึกและฝึกทุกๆขณะจิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

    ประโยชน์ของสติ
    - การมีสติทำให้เข้าใจชีวิต และจิตใจของเรา
    - ทำให้พัฒนางานและสิ่งที่ทำให้ดีขึ้น
    - ทำให้จิตใจมีความสุข ไม่มีความวิตกกังวล
    - ทำให้ทำงานที่ทำอยู่ได้ดีขึ้น
    - ทำให้พูดถูก ทำถูก ไม่ลืมตัว เผลอตัว รู้ผิดชอบชั่วดี
    - รู้ทันอารมณ์และความคิด ทำให้ไม่โมโหง่าย และควบคุมความคิดได้
    - ไม่ประมาท เป็นคนรอบคอบขึ้น

    วิธีการพัฒนาสติ
    ปกติคนเราคิดว่าตัวเองมีสติดีตลอดเวลา หากเริ่มฝึกจะพบว่าปกติแล้วเราขาดสติอย่างสม่ำเสมอ ทำอะไรอยู่ก็ส่งจิตออกข้างนอกไปคิดเรื่องอื่น เช่นกำลังข้ามถนนตอนแรกก็มีสติมองซ้ายมองขวา พอเดิมมาสองสามก้าวก็ส่งจิตไปคิดเรื่องหมาที่โดนรถชนแล้ว

    สำหรับคนปกติอย่างๆเราๆ หากดึงจิตให้มาอยู่กับเรื่องที่เราทำได้เป็นระยะ ก็ถือว่าดีมาก หากเผลอแล้วรู้ตัวก็ถือว่าเก่งแล้ว อย่าไปเข้มงวดกับตัวเองจนเกินเหตุ ของอย่างนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป

    • การฝึกแบบแรกๆก็คือพยายามอย่าทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมๆกัน เช่น อ่านหนังสือ กับฟังเพลง กินข้าวกับพูดคุย ฯลฯ
    • ทำสิ่งต่างๆให้ช้าลง เพื่อให้จิตใจมีความไวพอที่จะใส่ใจในอริยาบท ในช่วงแรกจิตใจเรายังฟุ้งจึงไม่ว่องไว ทำไปเรื่อยๆก็จะเร็วขึ้น
    • กำหนดจิตรู้การเคลื่อนไหวทุกๆการเคลื่อนไหว หรืออิริยาบทยกตัวอย่างเช่น หากจะหยิบแก้วน้ำ ก็รู้ว่ามือเอื้อมออกไป ก็รู้ตัวว่ามือกำลังเอื้อมออกไป เมื่อสัมผัสแก้วก็รู้ว่าเล็กใหญ่ อ่อนหรือแข็ง เย็นหรือร้อน หรือขณะติดกระดุมก็รู้ว่านิ้วสัมผัสกระดุม หากกระดุมเย็นเพราะเป็นกระดุมโลหะก็ให้รู้ว่าเย็นเป็นต้น
    • ตื่นตัวตลอดเวลาเช่นเวลามีเสียงดัง หรือสิ่งที่มากระทบก็รู้ตัว เช่นรู้ว่ามีเสียงดัง อาจปรารภในใจว่า ได้ยินหนอ ก็ได้
    พยายามฝึกไปเท่านี้ก่อนก็ถือว่าดีมาก ศัพท์ทางวิชาการเรียกว่า เจริญอิริยาบทย่อยฝึกไปเรื่อยๆจะพบปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับจิตใจ เป็นกำลังใจให้ฝึกและศึกษาเพิ่มเติมเอง

    หากต้องการผลดีขึ้นควรหัดนั่งสมาธิ และสวดมนต์บ้าง การสวดมนต์ช่วยรวบรวมจิตใจที่แตกซ่าน เพื่อให้พร้อมในการทำสมาธิ การทำสมาธิ ทำให้จิตใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้พร้อมในการเจริญสติ

    edu-photo-197576089587.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ฐิตกาญจน์ EW 4024 3907 3 TH

    พี่สุทธิธรรม EW 4024 3908 7 TH

    พี่แมน EW 4024 3909 5 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ EW 4024 3910 0 TH

    พี่พรเทพ EW 4024 3911 3 TH

    พี่ธนากร EW 4024 3912 7 TH
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ฝากคำถาม PM ไว้นะครับบางทีผมไม่ได้รับโทรศัพท์
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ช่วงสองปีนี้มีแต่คนถามหาตะกรุดชินบัญชรกันเข้ามาตลอดกับเหรียญหล่อซุ้มระฆังขรัวโต ซึ่งตะกรุดชินบัญชรนี้ผมก็ปฏิเสธเด็ดขาดชนิดที่ว่ายังไม่มีใครได้ไปซักดอกเช่นกัน ...ใครที่รอชุดตะกรุดชินบัญชรก็เดี๋ยวติดตามกันไว้ดีๆ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่นฐมน EW 4024 4106 3 TH

    พี่วิศณุกร EW 4024 4107 7 TH

    พี่ชัยวัฒน์ EW 4024 4108 5 TH

    พี่ชนันธร EW 4024 4109 4 TH

    พี่ศิระ EW 4024 4110 3 TH

    พี่ธีรนนท์ EW 4024 4111 7 TH

    พี่นฤชา EW 4024 4112 5 TH

    พี่ภิญโญ EW 4024 4113 4 TH
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ใครที่เคยทักๆถามๆมารอตะกรุดชินบัญชรชุดเฉพาะกิจ(ชุดวาระพิเศษ จะดี...อย่างไรติดตามพรุ่งนี้) แล้วผมบอกให้รอติดตามข่าวหน้ากระทู้พร้อมๆกัน พรุ่งนี้จะเป็นโอกาสเดียว ถ้าพลาดแล้วจะอีกกี่ปีผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านจะทำมั๊ย และคนที่พลาดก็อย่ามาบ่นกับผมว่าไม่ทันหรือมีเหตุผลต่างๆอะไร ถ้าหมดก็คือหาของให้ไม่ได้ต่อให้บ่นแค่ไหน เหมือนกับตอนที่ท่านให้เอาออกแบบตอนนี้ถ้ายังไม่ถึงเวลาก็เอาไม่ได้เหมือนกัน จะทักมาก่อนเป็นปีก็ไม่มี
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดต้าน,ลดแรงเสียดทานชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์

    ตะกรุดตัวนี้ ### ท่านเอาไว้ใช้ต้านและลดแรงเสียดทานของชีวิต ###
    - แรงเสียดทานชีวิต...คือพลังงานที่มองไม่เห็นซึ่งเข้ามาในชีวิตเรา พยายามจะหยุดเราไม่ให้เราเจริญขึ้นได้ ต้านการเติบโต ต่อต้านไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้า ทำให้เราเจริญช้าลง พัฒนาได้ช้าลง คอยหน่วงเราเอาไว้ เมื่อจะทำอะไรจึงต้องออกแรงมากกว่าคนอื่น ใช้กำลัง ใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่น ในขณะที่ได้รับผลหรือความสำเร็จน้อยกว่าคนอื่นเช่นกัน เรียกว่าสิ้นเปลืองกำลังอย่างมากในการพัฒนาขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังที่มองไม่เห็นเหล่านี้เราควบคุมมันไม่ได้ และมันก็ส่งผลกระทบโดยตรงสะสมมาโดยตลอดทุกๆวัน ซ้ำยังเสี่ยงที่จะเจอได้อีกเรื่อยๆดุจว่าไปเจอมาก็สะสมไว้ สะสมไว้เพื่อชะลอความสำเร็จ เพื่อทำให้หนทางการก้าวเดินแต่ละก้าวของเรายากลำบากยิ่งขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังงานเหล่านี้มันเป็นกฏทั่วไปของโลกที่จะโคจรหมุนเวียนถ่ายเทกันไปมา เราไปกำหนดไม่ได้ว่าจะต้องป้องกันได้ทั้งหมดนะ ไม่ให้พบ ไม่ให้เจอแรงเสียดทานต่างๆในชีวิตนั้นเลยแบบนี้ทำไม่ได้ แต่ท่านว่าถ้าไม่ช่วยกันก็จะมีอีกหลายๆคนที่ชีวิตเติบโตได้ช้า พัฒนาไม่ได้ หรือไปถึงทางตันแล้วก้าวต่อไม่ถูก ซ้ำเจอแรงเสียดทาน แรงปะทะต่างๆ ถ้าเบาก็พอแก้ไขได้ทำให้มีชีวิตพอถูๆไถๆไป แต่ถ้าหนักในบางกรณีอาจจะหยุดชีวิตของคนนั้นไว้กับที่ สต๊าฟให้หยุดนิ่งไม่สามารถหาทางออกได้ ท่านว่าเมื่อฝืนบังคับไม่ได้ แต่ในกรณีเดียวกันเสด็จพระใหญ่ท่านว่าสามารถต้านเอาไว้ หรือลดกำลังที่มันจะเข้ามาปะทะกับชีวิตเราลงได้ ที่แรงก็ให้อ่อนลงกึ่งหนึ่ง ที่หนักก็ต้านไว้ใม่ให้ปะทะตัวเรา เช่นนี้ท่านว่ามันคือการริดรอนอำนาจแรงเสียดทานในชีวิตของเรานั่นเอง

    " เราตั้งใจจะทำของดีให้คนเค้าใช้ เราลงด้วยใจ ทำให้เขาเหมือนกับที่เราทำไว้ใช้เอง " วลีสั้นๆของพ่ออาจารย์ที่ได้ใจลูกศิษย์ทุกครั้งที่ท่านเอ่ยกล่าว ด้วยมีเสียงเรียกร้องกันเข้ามามากเนื่องจากตะกรุดลบถมหลายๆชนิดของพ่ออาจารย์นั้น ในบางท่านที่อยากได้ของดีเเต่ทุนทรัพย์มีจำกัดไม่พอที่จะบูชา ดังนั้นท่านจึงตั้งใจจะทำตะกรุดตัวนี้ให้เป็นของประจำตัวลูกศิษย์ทุกคนที่จะต้องมีต้องใช้ก็ว่าได้ แต่บอกไว้ก่อนว่าตะกรุดหนนี้เป็นของสูง ทำยาก ถึงเเม้จะไม่ใช่ตะกรุดลงถมเเต่ก็เป็นตะกรุดชั้นสูงที่ทำยากมากอีกชนิดหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้ลงเป็นชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์เฉยๆก็จะกระไรอยู่ ดังนั้นที่ผ่านมาท่านจึงเก็บตัวลงตะกรุดดอกสำคัญนี้ด้วยวิชาของเสด็จพระใหญ่ เพื่อหวังประโยชน์อย่างจริงใจในการที่จะให้ผู้บูชานั้นได้ต้านและลดแรงปะทะร้ายทั้งหลายในชีวิตของตัวเอง

    แต่ก่อนนั้นสาเหตุของการสร้างตะกรุดชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์ของพ่ออาจารย์พล ด้วยท่านมักจะปรารภเสมอว่าสมัยนี้บ้านเมืองไม่ปกติ เหตุการณ์ธรรมชาติก็ร้ายเเรง เรื่องที่ไม่สมควรจะเกิดก็มาเกิดเหมือนผีซ้ำด้ามพลอยไม่รู้จักจบจักสิ้น บรรดาคนทั้งหลายต่างก็โหยหาวัตถุมงคลที่เป็นของดีเเละดีที่สุดของท่านนั่นก็คือสมเด็จวัดระฆัง ซึ่งพ่ออาจารย์ก็ไม่ได้มีความสามารถจะนำมาแจกให้บูชาได้ทุกคนเเละทั่วถึงเเละนับวันพระก็จะยิ่งหมดไป ท่านจึงตั้งใจจะลงตะกรุดสำคัญนี้ไว้ให้ใช้แทนกันโดยจะขอบารมีสมเด็จโตท่านอธิษฐานจิตให้เต็มที่ ทำให้เต็มกำลังเสมอกัน ซึ่งเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้เต็มสูตร เรื่องนี้พ่ออาจารย์ก็บอกว่าความจริงการลงหัวใจไม่กี่ตัวในตะกรุดดอกหนึ่งนั้นเราก็สามารถจะทำได้ เเต่ครูบาอาจารย์สมัยก่อนถ้าหากไม่เเก่จนสังขารร่างกายไม่ไหวจริงๆเเล้วท่านก็จะทำเต็มที่เต็มสูตรวิชาของท่านเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียถึงครูบาอาจารย์ เสียถึงพระคาถาเเละเสียถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะทำของอะไรก็ไม่รู้ออกไปให้คนเค้าใช้ยึดหน่วงจิตใจ ดังนั้นท่านจึงเก็บตัวลงตะกรุดสำคัญนี้โดยผูกชินบัญชรคาถาให้สัมพันธ์ เชื่อมโยง หนุนส่งกำลังแห่งพระพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ และอานุภาพพระปริตรต่างๆเชื่อมต่อกับธาตุทั้งสี่ของเราโดยตรง เพื่อหนุนส่งและเกื้อกูลเราแบบตรงไปตรงมาอย่างถึงที่สุดตามวิธีที่สมเด็จโตท่านเมตตาให้พ่ออาจารย์ท่านผูกโดยเฉพาะ ทั้งยังเสริมด้วยวิชาต้านและลดแรงปะทะ หรือแรงเสียดทานทั้งหลายที่จะชะลอเราให้ห่างจากความสำเร็จอันเป็นสูตรของเสด็จพระใหญ่ท่านด้วย

    เมื่อท่านมีความคิดจะทำตะกรุดสำคัญสงเคราะห์คน พ่ออาจารย์จึงตั้งใจทำตะกรุดชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์ตัวพิเศษเฉพาะกาลนี้ ซึ่งท่านกล่าวว่าเราจะลง,ทำวิชา,เชิญครู จะเสกให้ดีกว่ายันต์จักรพรรดิ์เสียอีกให้คนที่หาเช้ากินค่ำอยากได้พระสมเด็จเเต่หาไม่ได้สามารถเอาไปบูชาเเทนกัน ซึ่งพุทธคุณของตะกรุดนี้ก็มีถึงร้อยแปดพันประการเเบบฝอยท่วมหลังช้าง ถ้ารู้จักใช้เเละใช้เป็นก็ใช้ได้หมดดั่งจินตนาสมใจนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้กว่าจะทำได้เเต่ละดอกไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องผูกเข้ากับธาตุทั้งสี่ในร่างกายม้วนเอาพุทธคุณแห่งชินบัญชรคาถาเข้าหาตัวเราเป็นเกราะแก้วสิริมงคลที่จะปกปักเราตอลดเวลาทั้งยามหลับและยามตื่น ไม่ใช่เล่นปาหี่เขียนๆไปเท่านั้นแบบนี้ท่านไม่ทำ ท่านว่าลงไปก็ต้องเสกต้องอธิษฐานจิตกำหนดอารมณ์ไปพร้อมๆกันด้วย ลงจารตามฤกษ์ได้เต็มที่ก็วันละสอง,สามดอก ดังนั้นกว่าที่จะเปิดให้จองได้ก็ต้องรอเวลาให้อาจารย์ท่านเก็บตัวลงเเละเสกของท่านจนพร้อมด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ล่าช้าและตะกรุดสำคัญนี้นานทีปีหนถึงจะมีให้บูชาซักครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะให้ได้ครบตามองค์คุณที่ท่านต้องการ เนื่องจากตะกรุดนี้เป็นตะกรุดพิเศษที่พ่ออาจารย์จะกราบเรียนเชิญเสด็จพระใหญ่และสมเด็จครู(สมเด็จโต) มาทำวิชาเฉพาะของท่าน ให้มาร่วมประสิทธิ์ในการเสกด้วยทุกครั้งนั่นเอง

    ท่านกล่าวว่าการจะให้ของขวัญคนนั้น ให้ของกินเเป็ปเดียวก็หมด ให้ของใช้พักเดียวก็พัง แต่ถ้าเราให้ของที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นขวัญกำลังใจในชีวิตเค้าเอาไปใช้เกิดมรรคเกิดผลเช่นนี้ย่อมดีกว่า เมื่อมั่นใจเเล้วว่าตัวเองมีดีจะได้ทำตัวให้สมกับมีของดี เเต่ก็อย่าได้อวดดี ให้ตั้งใจทำมาหากิน หมั่นศึกษาธรรมปฏิบัติธรรม เพียงเท่านี้ชีวิตก็ไปได้สวยอีกนานเเล้ว ซ้ำการมีตะกรุดนี้ ท่านจะบังคับให้ผู้ที่รับสวดมนต์ทุกวันเเละต้องท่องพระคาถาชินบัญชรให้ได้ ท่านว่าชินบัญชรคาถานี้จะจำก็ง่าย จะท่องก็ง่ายเป็นที่สุด เมื่อจะใช้ทีก็สวดมนต์ทีกุศลเหล่านี้ย่อมเกิดไม่รู้จบรู้สิ้น(แต่หากการสวดมนต์นั้นเหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ท่านก็ให้เป่าหัวใจชินบัญชรไปที่ตะกรุดว่า.."ชินะปัญชะระปะริตตัง ปะชัง มัง รักขันตุ สัพพะทา" เพียงเท่านี้ก็ได้) ท่านว่าการสวดมนต์นั้นแม้ได้ยินผ่านหูก็เหมือนใกล้เกลือกินด่างเอาจริงๆเเล้วจะหาที่เข้าถึงได้สวดไปพร้อมน้อมจิตทำความเข้าใจนั้นเเทบไม่มี ท่านว่าตะกรุดนี้เธอเอาไปบูชานะสมเด็จครูท่านขอให้สวดมนต์กันมากๆ อย่างน้อยก็จะได้รู้จักสวดมนต์ไหว้พระ ได้รู้จักทำจิตให้ดิ่งลงในสมาธิซักชั่วครู่ชั่วขณะเป็นมหากุศลให้เเก่ร่างกายเเละชีวิตของตนเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ฉันทำถวายเสด็จพระใหญ่ท่านจึงถือว่าเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือเป็นของสูงสำหรับพุทธศาสนิกชนด้วยเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่เเก่ชีวิตที่จะบูชา ท่านลงไว้ครบทั้งหมดให้ดีทางเมตตามหานิยมเจริญด้วยลาภยศสรรเสริญ ให้ผลชัดเจนในเรื่องทำให้จิตใจผ่องใส,สดชื่น คนที่หน้าตาหมองคล้ำพวกวิตกจริตก็แก้ด้วยวิชานี้ได้ เพราะคนสมัยนี้ชอบปั้นหน้ายักษ์ใส่กันไม่มองหน้ากันหรือมองเเล้วบางทีก็ไม่สบอารมณ์ อาจารย์พ่อจึงตั้งใจเพิ่มในสิ่งนี้ให้เพื่อให้ใช้สำหรับออกไปเข้าสังคมโดยเฉพาะ ท่านว่าถ้าอารมณ์พื้นฐานเราดีอะไรมันก็ดีไปหมด ทั้งยังอธิษฐานบอกกล่าวใช้ได้ตามเเต่จะปรารถนาทุกอย่างทีเดียว นอกจากนี้ตะกรุดยังเปรียบเสมือนเป็นสิ่งเเทนองค์ของสมเด็จโตท่าน ใช้สื่อจิต สื่อใจ บอกกล่าวท่าน ท่านว่ามีตะกรุดดอกนี้ก็เหมือนเชิญสมเด็จโตท่านมาทำให้ เชิญท่านไว้เป็นขวัญชีวิตเรา เวลาเราพกตะกรุดก็เหมือนอาราธนาท่านไปกับเราด้วย เวลาสวดพระคาถาชินบัญชรท่านว่าจะให้ดีก็อย่าลืมสวดคาถาบูชาสมเด็จโตท่านก่อนทำได้เเล้วจะเจริญมากด้วยอานุภาพแห่งพุทธคุณนั้นจะปกปักรักษาชีวิตเราประดุจกำเเพงเเก้วทั้งเจ็ดชั้น ทั้งท่านยังได้ลงเสริมทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม และกำกับด้านดีโชคลาภเป็นพิเศษให้เข้ากับเศรษฐกิจที่ย่ำเเย่ในสมัยนี้ ทั้งยังใช้กันผีกันคุณไสยได้ทุกชนิด ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังลงเสริมไว้ให้ผู้บูชาเป็นที่รักทั้งกับคนกับผี เนื่องจากการกลั่นเเกล้งจากสิ่งที่มองไม่เห็นเเละไม่รู้ว่าเราจะไปทำอะไรให้ไม่ถูกใจเขาเมื่อไหร่นั้นปัจจุบันมีให้เห็นได้มากขึ้นเรื่อยๆท่านจึงลงกันไว้ให้ ให้เขารักเเละเมตตาเราเเต่เเรก เช่นเจ้าที่ผีบ้านผีเรือนเขาจะได้ช่วยอำนวยโชคลาภสิ่งดีๆไม่ขัดแข้งขัดขาเรา จะทำให้เป็นที่รักเเละเมตตาแก่คนทั้งหลายทั้ง คน,เทวดา,ภูติ,ผี,ปีศาจ เอาว่าสิ่งที่มีชีวิตไม่มีใครกล้าเกลียดเราทั้งยังใช้ป้องกันการกระทำด้วยไม่ว่าจะเป็นลมเพลมพัดปล่อยคุณปล่อยของผีเข้าเจ้าสิงไม่ได้ทำอันตรายแก่เรา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีคุณภาพเกินกว่าเครื่องรางทั้งหลายนัก ดอกเดียวคุ้มได้ทั้งบ้านกันได้ถึงคนที่อยู่ข้างๆท่านทำให้เป็นของขวัญให้ศิษย์ให้ผู้ศรัทธานำไปใช้ นำไปแล้วต้องใช้ต้องบูชาในที่สูง จะห้อยคอก็ได้ ทำพวงกุญแจเหน็บกระเป๋าเสื้อก็ได้ แต่ห้ามห้อยต่ำกว่าเอว *** หากจะไปทำตัวไม่ดีไม่งามที่ไหนท่านว่าให้ถอดออกก่อน เมื่อจะใช้เเช่น้ำทำน้ำมนต์ให้อาราธนาตะกรุดแช่น้ำก็สามารถทำน้ำมนต์ขับล้างคุณไสยได้ทั้ง12ภาษา ปรารถนาอยากอาบน้ำมนต์ก็ไปทำเอาเองจะอาบซักกี่วันหรือทุกวันก็ย่อมได้

    ข้อแม้ง่ายๆเเค่กราบพระสวดพุทธคุณ,ธรรมคุณ,สังฆคุณนึกถึงคุณพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณพระองค์ทรงตรัสรู้สัจธรรมใช้เวลานานนับสี่อสงไขยกำไรแสนมหากัป ทรงลำบากเเละพากเพียรเพื่อค้นหาสัจธรรมเเละประกาศออกไปเป็นพระศาสนา มีพระสงฆ์พระอริยสาวกมากมายที่เสียสละตัวเองเพื่อพระศาสนานี้ เราระลึกถึงคุณของพระองค์ท่าน ระลึกถึงคุณพระธรรมคำสั่งสอน และพระสาวกเหล่านั้น อัญเชิญพระองค์ให้ประทับฝ่าพระบาทไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของเรา คิดให้ละอองธุลีพระบาทของพระองค์ตกต้องเกล้ากระหม่อมของเราหลังจากนั้นจึงสวดคาถาบูชาสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)ต่อด้วยพระคาถาชินบัญชร เพียงเท่านี้หากมีเวลาว่างเเละจิตใจสงบอยู่ก็ให้นั่งทำสมาธิต่อแบบค่อยเป็นค่อยไป เกินกว่านี้ขอไม่กล่าวถึงเเล้วท่านจะรับรู้ได้ถึงสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตท่านเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในส่วนตะกรุดนั้นย่อมมีพุทธคุณเป็นอันมาก แต่ที่เราตั้งข้อปฏิบัติดังนี้ไว้ก็เพราะอยากให้คนใช้สวดมนต์กันบ้าง จะได้ฝึกจิต ฝึกสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่ทำจนเป็นกิจวัตรประจำวัน

    คาถาบูชา(ท่านให้สวดชินบัญชรคาถา ถ้าสวดไม่ได้หรืออยู่ในกรณีเร่งรีบจึงค่อยว่าหัวใจ)
    ชินะปัญชะระปะริตตัง ปะชัง มัง รักขันตุ สัพพะทา

    *** ตะกรุดสำคัญวาระนี้ พ่ออาจารย์ท่านใช้เวลาลงยาวนานมาก และท่านตั้งใจไว้ว่าหลังจากนี้จะไม่ลงตะกรุดชินบัญชรตัวนี้อีก ท่านว่าทำให้ครั้งแรกและก็ครั้งสุดท้าย ทิ้งทวนกันไปเลยว่าต้องดีที่สุด ท่านว่าทำได้ไม่มากท่านอยากให้คนเอาไปใช้ไปสวดมนต์ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง รักใคร มีใครบ้างในครอบครัวก็ให้เขาห้อยบอกให้เขาไหว้คุณสมเด็จโต รู้จักสวดมนต์คิดถึงพระ นึกถึงพระแล้วพระก็จะนึกถึงเรา ตะกรุดนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดต้าน,ลดแรงเสียดทานชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์ บูชา 900 บาท

    55782409-979874472345194-3039727717508448256-n.jpg
    55704602-468541547017527-8867759288890687488-n.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันนี้หลายๆครอบครัวไปไหว้เชงเม้งกัน ใครที่จะฝากคำถาม PM กันไว้นะครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    สมเด็จครู

    วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับครูสมเด็จโตของพ่ออาจารย์ท่าน ว่าท่านมีวาสนาผูกพันธ์กันอย่างน่าประหลาดจริงๆ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายและชัดเจนที่สุด นั่นคือเวลาที่พ่ออาจารย์ท่านป่วย มีไข้ หรือมีโรคกามย่ำยีให้ร่างกายทุกข์ทรมานมีอันเป็นไปในประการต่างๆ

    ท่านมักจะเล่าเสมอๆว่าครูสมเด็จท่านมาเฝ้าไข้ให้ตลอด ...โดยท่านจะพูดว่าหลวงปู่ท่านมานั่งเฝ้าฉันทั้งคืนบ้าง,หลวงปู่ท่านมาเทศนาข้อธรรมทั้งหลายบ้าง และก็น่าแปลกที่อาการทั้งหลายของท่านล้วนแต่ดีขึ้นหรือหายไปเองทั้งสิ้น โดยที่ท่านไม่เคยเข้าโรงพยาบาลหรือไปหาหมอเลยในเวลาหลายๆสิบปีที่ผ่านมา ใครถามว่าเพราะอะไร ท่านก็จะยิ้มและตอบว่าอดทนไปให้มันถึงที่สุด(ซึ่งเรื่องแบบนี้ในสายตาของเรามันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องทน) ท่านเลี่ยงการใช้ยารักษาแต่กลับมาใช้ธรรม ใช้การพิจารณา ใช้สมาธิฌานหล่อเลี้ยงสังขารพยุงอาการเจ็บป่วยอยู่ดังนี้

    *** ซึ่งก็พอจะเห็นได้ชัดเจนว่าตัวของท่านกับครูท่านนั้นย่อมผูกพันธ์กันลึกซึ้งอย่างแท้จริง เช่นนี้ตะกรุดชินบัญชรก็ดีที่เปิดให้จองกันอยู่ หรือว่าเครื่องมงคลในสายครูสมเด็จของพ่ออาจารย์ท่านที่นานทีปีหนจะมีซักรุ่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมออกไปแต่ละทีจึงมีอภินิหาริย์มากแล้วก็มีคนถามถึงทุกที นั่นก็เพราะท่านสร้างและเสกด้วยสายสัมพันธ์ของศิษย์และครูที่จะไม่มีวันทอดทิ้งกันในยามตกยากหรือเจ็บไข้ได้ทุกข์ทรมานนั่นเอง

    somdetto2-1.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีคนถามมาเกี่ยวกับคำว่าโรคกาม อันนี้หมายถึงโรคที่เกิดจากกามคุณทั้งห้าได้แก่รูป,รส,กลิ่น,เสียง,สัมผัส,โผฏฐัพพะเหล่านี้ที่ปรากฏออกมาทางตา,หู,จมูก,ลิ้น,ร่างกาย ไม่ใช่กามโรคหรืออะไรเหล่านั้น เป็นโรคที่เป็นกันทั่วๆไป
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันนี้คนที่ฝากเลี่ยมไว้ผมจะแนบเงินค่าเลี่ยมคืนไปให้ก่อนนะครับ พอดีร้านเลี่ยมเค้าหยุดหลายวัน
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่งems
    พี่วุฒิชัย EW 4023 9398 6 TH

    พี่วิชัย EW 4023 9399 0 TH

    พี่วัชรพันธ์ EW 4023 9400 6 TH
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,108
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ช่วงเกือบครึ่งปีนี้หลายๆคนถามจนกลายเป็นแซวกันเข้ามาแล้วว่าพ่ออาจารย์ท่านไม่ออกพระขุนแผนบ้างเลยหรอ อยากได้รุ่นที่เป็นสายเสน่ห์แบบเน้นๆ แรงๆ ...ซึ่งอันนี้ขอบอกไว้ล่วงหน้าเลยว่ามีแต่ท่านไม่ค่อยอยากให้เอาออก ท่านว่าแรงนั้นแรงแน่นอนแต่คุณจะกล้าใช้หรือเปล่านี่อีกเรื่อง เพราะของแรงๆเวลาใช้เดี๋ยวคุมตัวเองไม่ไหวมันจะวุ่นวายเอา ด้วยเป็นของสำคัญบางอย่างที่ทำวิชาในสายของพราหมณ์โบราณตามศาสตร์ของพระเป็นเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวของอาถรรพ์นี้ทำเก็บไว้มานานแล้วถึงเอามาใช้ฝังอีกที เพราะในปัจจุบันนั้นท่านทำไม่ได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2019

แชร์หน้านี้

Loading...