ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูสาลิกาป้อนเหยื่อชุดอาถรรพ์ไตรภาคีครุฑฉุดนาง(เหยียบวิมานฉิมพลี)

    “ยกเสน่ห์เดินนำชัยเป็นทัพหน้า แล้วจริตเธอเป็นคนอย่างไรจะเอาไปใช้ทางไหน ก็แลกน้ำใจไมตรีเขามาได้ทั้งหมด”

    ปฐมบทสาลิกาป้อนเหยื่อเต็มสูตร

    เกี่ยวกับตะกรุดสาลิกาป้อนเหยื่อนั้นถ้าจะหาผู้ที่ทำได้จริงและใช้ได้ผลจริงในปัจจุบันนับว่าหาได้ยากด้วยมีวิธีทำที่พิเศษต่างจากการลงตะกรุดปกติ ซึ่งในอดีตนั้นพ่ออาจารย์ท่านก็มีการแจกออกไปบ้างหลายครั้งแต่ก็เป็นการแจกในปริมาณจำกัดคือน้อยมากๆ แล้วก็กล้าพูดได้ว่าท่านก็ลงไม่เต็มสูตรเช่นกัน เพราะสาลิกาป้อนเหยื่อตัวเต็มที่ลงครบสูตรตามสายวชานั้นท่านไม่ได้แจกด้วยว่าสร้างยากและมีค่ามากดุจทองคำ(ชุดตัวเต็มนี้ใครได้ใช้ย่อมหวงแหนมากเป็นพิเศษแม้จะถอดทองมาแลกก็ไม่ยอมเพราะพ่ออาจารย์ท่านไม่ลงตะกรุดแบบนี้อีกแล้ว) แต่ถึงจะเป็นตัวที่ลงไม่เต็มสูตรก็ยังถือว่าเป็นของดีมีประสบการณ์มากและมีคนขอกันมาเนืองๆเป็นเวลาเกือบสองปี พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นสายเมตตามหาเสน่ห์ถ้าของภาคกลางนี่สุดๆเลยก็ต้องสาลิกาป้อนเหยื่อ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ถ้าจะเอาให้เต็มสูตรใช้ได้ผลในระดับร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นแน่นอนเลยว่าต้องมีขั้นตอนและวิธีการทำ ขั้นตอนพิธีกรรมการปลุกเสกที่สลับซับซ้อนตามสายวิชา

    ดังนั้นสาลิกาป้อนเหยื่อนี้จึงถือเป็นวิชาลับ
    และมีพิธีการลับๆที่ครูบาอาจารย์ที่สำเร็จมักหวงแหนไม่ถ่ายทอดกัน ดังนั้นเมื่อคนส่วนใหญ่นำไปทำไปเขียนกันเองถึงทำไปเอาไปใช้ก็ไม่มีผลแต่อย่างใดเรียกว่าเพราะทำไม่สำเร็จด้วยและขาดแรงครูด้วย เพราะว่าเคล็ดลับบางอย่างนั้นถ่ายทอดกันแบบตัวต่อตัวไม่มีบันทึกจารึกไว้ และพระสงฆ์องค์เจ้าก็ไม่ควรยุ่งและลงไม่ได้เช่นกัน ด้วยวิชานี้ต้องลงบนน่าอกของสตรีในขณะสังวาสโดยมีพิธีกรรมละเอียดมี่ไม่เปิดเผยอยู่มาก ต้องคาบปากป้อนกันเหมือนลักษณะการที่เรียกว่านกสาลิกาป้อนเหยื่อจริงๆ มีรายละเอียดทั้งการลงและการเสกอยู่มากซึ่งท่านจะไม่บอกรายละเอียดทั้งหมด ท่านว่าท่านเคยทำเก็บเอาไว้สมัยเรียนวิชาใหม่ๆไม่ได้มากแล้วก็เลิกทำเลย ตอนหลังมาถือศีลถือธรรมวิชาแบบนี้ทิ้งแล้ว ทำไม่ได้เลย ด้วยธรรมที่ท่านครองอยู่ทำให้ไม่สามารถทำวิชาแบบเต็มสูตรได้ โดยตะกรุดเต็มสูตรสาลิกาป้อนเหยื่อของแท้ๆเต็มสูตรนั้นท่านว่าโดยมากจะไม่ค่อยให้ใครได้เห็นได้ใช้เพราะแรงครูสูง ใครเรียนสำเร็จก็จะสงวนไว้ทำเพียงใช้เองมากกว่าเพราะขั้นตอนมากทำยากเสกยากนั่นเอง

    กว่าจะได้แต่ละดอกตามโบราณาจารย์ท่านกำหนดนั้นนอกจากทำยากแล้ว
    วิชานี้ยังให้จารด้วยแผ่นทองคำแท้ ด้วยตะกรุดนี้มีความสำคัญขนาดที่ว่าให้ถือใช้เพียงดอกเดียวติดตัวเพียงหนึ่งคนหนึ่งดอกเท่านี้ย่อมมีอานุภาพใหญ่ครอบคลุมทุกด้านไม่ต้องสรรหาอย่างอื่น แต่ด้วยมูลค่าทองคำซึ่งสูงขึ้นมากตลอดในอดีตท่านจึงนำตะกั่วอวนที่ปลารุมล้อมในก้นทะเลมาล้างอาถรรพ์และหลอมรีดทำแผ่นตะกรุดแทน ท่านว่าตะกั่วอวนมีอาถรรพ์ในตัวเองและชุดนี้ยังเป็นอวนที่มีปลารุมจึงมีอาถรรพ์และความหมายดีมากเพราะทำงานหรือหาคู่ก็จะได้ถูกผู้อื่นรุมล้อมรุมรักเช่นนั้น ด้วยท่านเกรงว่าวิชาสาลิกาป้อนเหยื่อเต็มสูตรนี้จะหายสาบสูญไปเหลือเพียงชื่อบอกกันกลายเป็นตำนาน ท่านจึงตั้งใจทำตั้งแต่อดีตและเสกเก็บไว้เรื่อยมาด้วยแผ่นตะกั่วอวนอาถรรพ์ ท่านว่าพิธีกรรมขั้นตอนการทำไม่ต่างกันเลย กว่าจะมีฤกษ์ยามกว่าจะลงได้แต่ละดอก ตรงจุดนั้นท่านว่าไม่อยากจะไปพูดถึงมันอีกเพราะตอนเรียนเสร็จเราก็ลองวิชาทำไว้เพียงเท่านั้น เอาว่าใครศรัทธาอยากได้ของยุคแรกๆที่เสกมาหลายสิบปีก็มาเอาไป

    อันสาลิกาป้อนเหยื่อนั้นเป็นวิชาที่ให้ผลหลายๆอย่าง
    เรียกได้ว่าเป็นยอดปรารถนาของผู้เล่นของและต้องการของจริงของแรงที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครทั้งหลายก็ว่าได้ ด้วยว่าเป็นวิชามหาเสน่ห์ขั้นสูงแบบรุนแรงใช้ได้ทุกเพศ ไม่ว่าจะเล่นทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ราคะตัณหาไล่ไปทุกระดับขั้นได้หมด จะใช้ทางทำมาหากินให้คนมานิยมรุมรักเรา สนใจเรา คุยกับเรา อุดหนุนเราใช้ในหน้าที่ธุรกิจการงานก็ได้ เจรจาสิ่งใดก็เป็นผลสำเร็จ พูดอะไรไปเค้าก็รักเค้าก็หลง พ่ออาจารย์ท่านว่ามันใช้ได้หลายอย่างเรียกว่าขึ้นอยู่กับอารมร์ มีคุณตรงออกไปตามจริตในแต่ละวันของคนใช้ทีเดียว แม้ถามหาโชคลาภ โชคลาภก็มาถึงขั้นมีกินมีใช้ไม่มีวันหมด ถึงเงินขาดมือไม่มีติดกระเป๋าก็จะมีเหตุใช้เงินเข้ามาเนืองๆ แถมยังกันของกันคุณไสยมนต์ดำในตัวด้วย หากแต่ตะกรุดชุดนี้ไม่ได้มีดีเพียงเท่านั้น...พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้คนเขาทำมาหากินลำบากถ้าเกิดเขาห้อยตะกรุดเราดอกเดียวแล้วขาดเรื่องอะไรเราก็จะเสียชื่อเอาได้ ท่านจึงจะลงวิชาเอาไว้ให้ครบทุกทาง เช่นนั้นตะกรุดรุ่นนี้ท่านจึงเอาพระยันต์ทั้งสามที่ท่านลงเก็บไว้ในอดีตมาม้วนรวมกันเรียกว่าสามในหนึ่งหรือสามรุมหนึ่ง ทั้งยังเพิ่มวิชาครุฑฉุดนางที่มีอาถรรพ์มากเสริมลงไปด้วยความตั้งใจ เพราะสาลิกานั้นก็เป็นนกสกุลหนึ่ง หากเพิ่มวิชาครุฑซึ่งเป็นต้นเผ่าพันธ์ลงไปด้วยตะกรุดดอกนี้จะยิ่งบินสูงและมีอาถรรพ์มากขึ้นไปอีกไกลชนิดที่ว่าใต้หล้านี้ก็ไร้เทียมทานแล้วนั่นเอง

    .....ตำนานที่สองทวิมนต์ลงอาถรรพ์ครุฑฉุดนาง

    วิชาครุฑฉุดนางนั้นพ่ออาจารย์ถึงกับออกปากว่านอกจากเป็นของสูงและเป็นสิริมงคลยิ่งแล้ว อำนาจขององค์ครุฑในภาคเสน่ห์นั้นยังร้อนแรงและดุดันมากๆ เกินกว่าเครื่องมงคลใดที่ท่านเคยสร้างมา ไม่ว่าจะเป็นองค์พระเพชร หรือพญางั่งก็ตาม พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าองค์ครุฑนั้น โดยปกติแล้วถือเป็นเทพเดรัจฉานที่มีกำลังฤทธิ์อันประเสริฐ เหนือกว่าพระอินทร์พระพรหมพระยมพระกาฬทั้งหลายบรรดามี ด้วยมีฤทธิ์เสมอด้วยพระนารายณ์เป็นเจ้า จึงไม่ใช่กำลังฤทธิ์อันประเสริฐเฉกเช่นเทพเดรัจฉานทั้งปวงแต่อยู่ในอันดับเทียบเท่าพระเป็นเจ้า

    ดังนั้นเกจิอาจารย์ที่รู้จักศาสตร์ขององค์ครุฑดีบางรูปจึงมีการผูกวิชาในภาคของครุฑฉุดนางหรืออุ้มนางขึ้นมาตั้งแต่ยุคต้นกรุงนั่นแล้ว ทว่าศาสตร์แห่งวิชานั้นก็ย่อมจะสูญหายไปกอปรกับหาผู้รู้และทำได้จริงนั้นยากเต็มที วิชาเหล่านี้จึงมีการสร้างขึ้นมาเป็นช่วงๆเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งเหล่านี้หากทำไม่ดีพลีไม่ถูกเสกไม่เป็น คนเสกก็แย่เพราะเป็นของสูงมีอาถรรพ์มาก แถมยังเรียกได้ว่าสูงที่สุดแล้วในบรรดาวิชาสายเสน่ห์ทั้งหมดเพราะนั่นวิชาในองค์ครุฑนั่นเอง วิชาครุฑฉุดนางนี้เป็นพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่กระทำไปด้วยอำนาจการแสดงออกโดยการข่มอย่างสมบูรณ์ให้ได้รับมาซึ่งความรัก เรียกว่าดุดันและรุนแรงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าสร้างและนำมาเสกแล้ว
    สำหรับคนที่เล่นทางเสน่ห์ชู้สาวและชอบเรื่องรักใคร่นั้น ร้อยทั้งร้อยหากใช้วิชาครุฑฉุดนางนี้ย่อมมีแต่คำว่าสำเร็จและสำเร็จฝ่ายเดียวเท่านั้น ท่านว่าท่านก็พูดได้แค่นี้ พูดมากกว่านี้ไม่ได้เช่นกัน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าครุฑฉุดนางคงไม่ต้องอธิบายอะไรอีกท่านว่าคนใช้นั้นหากไม่ใช่คนเจ้าชู้ก็จะออกไปทางมหาเมตตาใหญ่ซ้ำยังเป็นที่หวาดเกรงต่อสรรพชีวิตทั้งปวง ดั่งอำนาจขององค์ครุฑปางนี้จะออกไปตามคุณลักษณะของผู้บูชา ถ้าหากยังเพลิดเพลินในกามตัณหาท่านว่านี่ยิ่งกว่าเจ้าชู้ยักษ์ทีเดียว ด้วยบารมีแห่งองค์ครุฑเสริมส่งแล้วยิ่งเหมือนเสือติดปีกเข้าไปใหญ่

    พ่ออาจารย์ได้อุปมาไว้อย่างน่าฟังว่า ก็ดูนางกากีเสียเป็นไร ขนาดอยู่ในวังมีทหารรักษานับพันนับหมื่นแถมมีเจ้าของอยู่แล้วเป็นถึงพระราชา หากใครไปหมายปองผู้หญิงแบบนี้เข้าต้องเรียกว่ายากยิ่งกว่าหมายปองดวงตะวันจันทราทีเดียว แต่ในทางกลับกันสำหรับองค์ครุฑนั้นกลับเป็นเรื่องง่ายดายเพียงแค่กะพือปีก ท่านว่าถึงขนาดที่หากปรารนาแล้วที่จะไม่ได้ไม่สำเร็จเป็นไม่มี ครุฑฉุดนางนี้จึงเป็นวิชาที่แตกต่างจากสิ่งอื่นๆบรรดามี นอกจากกำลังฤทธิ์อันประเสริฐไร้ผู้ต้านทานแล้ว สำหรับสายเสน่ห์นั้นพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าสำหรับคนที่ชอบทางนี้เขาจะรู้ดี

    เช่น
    ถ้าเราไปชอบคนที่เค้าสูงกว่า เค้ามีดี มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยรักษา ที่จะเข้าถึงหรือได้คู่กันนั้นถือว่ายากเต็มที ต่อให้ขุดพรายทั้งป่าช้าหรือหาของเสน่ห์มากมายมาใช้ก็ไม่ได้ผล แต่กับอาถรรพ์วิชาครุฑฉุดนางนั้น ท่านว่าแก้ไขเรื่องเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่ทำลายอาถรรพ์ช่วยให้การเข้าหาของเราสะดวกราบรื่นเพียงเท่านั้น ซ้ำยังเป็นสิ่งที่สะกดข่มอย่างสมบูรณ์อีกด้วย ก็บอกอยู่แล้วอย่างไรว่ามีกำลังฤทธิ์อันประเสริฐไร้ผู้ต้านทานไม่ว่าจะหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนก็ตาม บอกชัดๆขนาดนี้หากยังตีความกันไม่ได้ท่านว่าเราก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ท่านทำให้ดีแล้วจะใช้หาคู่แท้หานางแก้วมาให้กับชีวิต ร่วมชีวิตช่วยกันสร้างบุญสร้างกุศลเช่นนี้ก็ได้ หรือจะใช้ไปทางเสน่ห์เจ้าชู้ยักษ์ก็ได้ ใช้ทางไหนก็ได้ทางนั้น ใช้ในทางที่ดีก็ย่อมได้ผลดีคืนสนองในที่สุด ท่านว่าจิตตั้งต้นที่ดี ความตั้งใจที่ดี ความปรารถนาที่ดี เขาย่อมจะนำผลดีมาให้ นอกจากนี้ท่านยังเชิญบารมีองค์ครุฑพญาสุเรนทรชิตลงมาเต็มที่เป็นกฤติยาคมแฝดอธิษฐานบารมีหนุนชีวิตให้กับผู้บูชาด้วย ท่านว่าหากใครเคยคิดว่าใช้ไปทำไมของเสน่ห์ยิ่งใช้ยิ่งมีแต่ตกต่ำไม่มีจะกิน แต่กับเสน่ห์สายครุฑนั้นมันคนละเรื่อง ท่านว่าของเสน่ห์ของเราทำทั้งทีต้องใช้แล้วเจริญรุ่งเรือง กันอุบาทว์ แก้อาถรรพ์ หนุนดวง พัดพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตไม่ว่าจะโชคลาภหรือแก้วแหวนเงินทองบรรดามีทั้งหลาย ทุกสิ่งต้องจบลงอยู่ในจุดนี้ ดังครุฑอยู่สูงสุดในวิมานฉิมพลีเต็มไปด้วยสมบัติพัสถานไม่พร่องไม่ขาด เรียกว่าแผ่นเดียวครบรสจะเล่นจะใช้ทางไหนก็เจริญศรัทธาได้ทั้งนั้น

    ### อาถรรพ์ปิดท้ายไตรภาคียันต์ครูทับนาง

    วิชาที่พ่ออาจารย์ท่านว่า
    มีอาถรรพ์มากต้องแยกกันลงเป็นตะกรุดแฝด ด้วยอาจารย์ท่านคือครูพระปัญจสิงขรได้สอนวิชานี้แก่ท่านไว้ หากแต่ท่านได้ย้ำเสมอว่าวิชานี้ถ้าลงในดอกเดียวกันทับกันแล้วจะเป็นเรื่องเป็นราวให้เห็นเมตตาธิคุณขั้นรุนแรงไม่รู้จบ ซึ่งปกติพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ทำไว้เลยมีลงสงเคราะห์คนบ้างก็แยกกันไปไม่เอามารวมกันเลือกให้ใช้เป็นยันต์ๆตามสถานการณ์ เพราะชุดที่รวมกันนี้คือชุดลองวิชาและท่านเห็นว่าวิชานี้แรงครูสูงและมีกำลังมากเกินไปจึงเก็บไว้ปลุกเสกจนลืม ด้วยคำว่าเมตตาแรงนั้นมันแรงจนคุมกันไม่อยู่บางคนเขาว่าแค่เอามืดปัดโดนกันตรงสะพานยังต้องรีบขอโทษทำไปทำมากลายเป็นเดินตามเรากลับไม่พูดอะไรเช่นนี้ก็มี หลายๆกรณีพ่ออาจารย์ท่านว่ามันเกินเมตตาปกติไปแล้วท่านจึงเอามารวมไว้ในดอกเดียวกัน เป็นไตรภาควิชาสำคัญเต็มสูตรทั้งสามตัวที่ชีวิตนี้ท่านไม่เคยให้ใครใช้รวมกันเลย ท่านว่าลำพังวิชานี้แค่พกไว้คนอื่นจะเห็นเรางามสง่าโสภาติดตาต้องใจ หลงเรา รักเรา ลืมตัว ลืมตาย ลืมแม้กระทั่งชีวิตตนเอง

    ถือเป็นวิชาที่เเรงเเละประสบความสำเร็จมาก
    ใช้ได้ตั้งเเต่เมตตา...(แบบหนักๆ) ไปจนถึงทำมาค้าขายยันคงกระพันเลย ท่านลงเป็นตะกรุดเรียกรูปนามอย่างดีทำให้เต็มสูตร เพราะเป็นวิชาที่มีแรงครูสูงมากต้องเชิญครูพระปัญจสิขรลงมาทำให้ทีละแผ่นๆ เช่นนั้นท่านจึงว่าเฉพาะวิชานี้ก็มีอำนาจมากแล้ว จิตเราต้องใจใครเขายังต้องเหลียวกลับมามองเราสนใจเราไม่สามารถมองข้ามหรือผ่านตาเราไปได้เลย วิชานี้ใช้ได้หลายทางออกตามใจของผู้ใช้ว่าหวังจะให้สำเร็จประโยชน์ด้านไหน ถ้าในเมื่อคนที่เราสนใจเขาตอบสนองกับเราเขาสนใจในตัวเราเเล้ว เราปรารถนาจะให้เป็นทางเสน่ห์แก่เขามันก็ง่าย หวังจะเจรจาค้าขายเเบบนี้มันก็ง่าย หวังจะทำกำไรจะเข้าหาพูดกลับจิตกลับใจเขามันก็ง่าย ท่านว่าวิชานี้มีที่มายาวนานนับพันปีครูท่านว่ามันสูญหายไปตามกาลเวาลานานแล้วท่านจึงสอนให้ทำเอาไว้ ส่วนชื่อเเละสรรพคุณก็ตรงตัวอยู่เเล้วไม่ต้องกล่าวอะไรมาก

    ท่านว่าสมัยนี้จะเล่นเสน่ห์อย่างเดียวก็ไม่ไหว มหาลาภอย่างเดียวอย่างอื่นก็มีปัญหา จะมหาอำนาจโดดๆนั้นก็ยิ่งอยู่ยาก ด้วยต้องให้คนเค้าเคารพและรักเราออกมาจากใจ เช่นนั้นท่านจึงเอาวิชายันต์ครูทับนางมาลงด้วยเพราะว่ามีประสบการณ์มายาวนานมากจนอาถรรพ์แรงครูทำให้วิชาสูญหายไปแต่นี่ได้ครูพระปัญจสิขรท่านจดจำไว้และมาต่อให้พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่เพียงแต่พกไปจะเป็นมหาเสน่ห์เท่านั้นแต่ตะกรุดวิชานี้ยังทำอะไรได้มากกว่านั้นเยอะ *** หากปรารถนาจะให้คนรักเราท่านว่าก็ทำได้สมความปรารถนา เพียงลงชื่อเขาใส่ไว้ในตะกรุดเถิด เสร็จแล้วก็ตั้งจิตนั่งภาวนานึกถึงหน้าเขาไป ท่านว่านี่ไม่ใช่คุณผีนะแต่เป็นคุณเทวดาพระปัญจสิขรท่านสงเคราะห์ ท่านจะดลบันดาลให้เค้าคิดถึงเราจนถึงขั้นไม่เห็นหน้ากันนี่อยู่ไม่ได้เลยทีเดียว เขาจะรักรำพึงพิไรรำพรรณถึงเรานักหนา หากลงทั้งชื่อวันเดือนปีเวลาเกิดของเขาใส่กระดาษไว้ในตะกรุด แล้วภาวนานึกถึงตัวเราอยู่กับเขา ท่านว่าเขาจะรีบมาหาเราเลยทีเดียว

    ตะกรุดทั้งสามนี้ท่านลงเต็มสูตรเต็มวิชา ท่านว่าถ้าเราแยกให้บูชายังไงคนเค้าก็เอาถึงจะขายดอกละสี่ห้าพันเขาก็เช่าแต่หนนี้ท่านกลับรวมทั้งสามไว้เป็นดอกเดียวกันท่านว่าจะได้คุ้มกันและเสริมกำลังเสริมแรงครูซึ่งกันและกันส่งผลให้คุณแก่คนใช้ได้มากที่สุด(ผมจึงว่าหนนี้คุ้มสุดๆเพราะเป็นวิชาระดับตำนานที่ท่านไม่จับอีกแล้วทั้งนั้น) ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช้แต่ให้อยู่ในทำนองคลองธรรมเถิด อย่าให้เกิดเป็นเวรกรรมแก่ผู้ใดก็พอท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนัก เป็นเหมือนตะกรุดระดับตำนานเลยทีเดียว เพราะว่าพอนำมารวมกันแล้วต่อไปคนใช้ก็ชี้นกเป็นนกชี้ไม่เป็นไม้ คือทำอะไรคิดอะไรก็ได้อย่างนั้น ชี้ให้รักเขาก็ต้องรัก ชี้ให้มีใจอ่อนโยนเมตตาเราแต่ฝ่ายเดียวก็ไม่พรากจากเราเลย จะใช้อย่างไรล้วนได้ดั่งใจทั้งสิ้น

    คาถาบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านว่าชุดนี้ขอแค่พกและใช้ลุยได้ทุกสถานการณ์ พกได้ทุกที่ ไปได้หมดไม่ต้องถอดไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆก็ตาม ท่านว่ายิ่งใช้ยิ่งแรง นี่มันดีตรงนี้ถ้ายังมีกิเลสตัณหากันอยู่ ยังเป็นมนุษย์ปุถุชนที่ต้องการรวยต้องการสำเร็จ ต้องการสุขสมทางโลกโลกีย์วิสัย แรงปรารถนาเหล่านี้มันเติมเต็มซึ่งกันและกัน ท่านว่าตะกรุดจะยิ่งแรงและแรงเร็วยิ่งๆขึ้นไปเสมอด้วยความปรารถนาของเรา ด้วยวิชาทั้งสามเป็นตะกรุดที่สำเร็จแล้วดั่งธาตุกายสิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้านั่นคือเต็มแล้วไม่ต้องปลุกต้องเรียกแล้วเขาตื่นรู้อยู่ตลอด(สมกับเป็นวิชาเต็มสูตร)ไม่ต้องปลุกไม่ต้องเสกไม่ต้องว่าคาถาใดๆเลยมีแต่ใช้กับใช้ แค่ใช้ก็เหมือนขาข้างหนึ่งเหยียบลงวิมานฉิมพลีอันมีความสุขครบถ้วนทุกสิ่งแล้ว

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ได้ทั้งหมด 13 ดอกท่านว่าเก็บไว้ดูใส่เป็นสมบัติในขันธ์ครูเสียดอกหนึ่งจึงมีให้ใช้กันสิบสองดอก รายการนี้ท่านว่าจะคาดอย่างไรก็ได้ จะสอดชื่อเราให้ตัวเรารับผลจากพระยันต์ให้เป็นเสน่ห์เมตตาดังนี้ก้ได้ จะสอดชื่อคนอื่นเรียกจิดก็ได้ หรือจะไม่สอดชื่อใครเลยห้อยไว้เฉยๆก้ยังได้ แม้จะนำเครื่องหอมน้ำอบน้ำปรุงมาฉีดพ่นบูชาครูที่รักษาตะกรุดก็ยิ่งจะแรงจะมีฤทธิ์มากขึ้นไปอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้อย่างไรก็ได้อยู่ที่จริตเราสุดแล้วแต่จะทำเลย รายได้ร่วมสมทบทุนซื้อหนังสือให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูสาลิกาป้อนเหยื่อชุดอาถรรพ์ไตรภาคีครุฑฉุดนาง(เหยียบวิมานฉิมพลี) บูชา 2,500 บาท

    74313642-1376233015887171-6841385476595646464-n.jpg
    74523560-505733440156732-6058163048747630592-n.jpg
    75223787-2490342531225031-1564045807223570432-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญองค์เหล็กบัญชาธาตุธรรมสุญญตา(กุนซังเตวาพญามารเก้าโลก)

    "ความสับสน,ความโกลาหล,ความยุ่งเหยิง,วุ่นวายหากสิ่งใดเหล่านี้แม้ปรากฏขึ้นในชีวิต ให้รีบขวนขวายเชิญองค์กุนซังเถิด"

    ในยุคนี้หากกล่าวถึงพระราหูแน่นอนว่าหลายคนย่อมรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่หากเรียกกุนซังเตวานั้นย่อมไม่มีใครคุ้นหูมากนัก พ่ออาจารย์ท่านว่ากุนซังเทวา(เตวา)นี้เป็นปางใหญ่สุดของพระราหูในพุทธวัชรยาน ซึ่งมีหน้าที่เป็นธรรมบาลองค์สำคัญอย่างยิ่ง ด้วยพระราหูคือพระมหาโพธิสัตว์ที่กำลังจะมาตรัสรู้ในอนาคตข้างหน้า แต่กลับกันในคติมหายานนั้นถือว่าท่านได้เข้าถึงการตรัสรู้แล้ว คือถึงญาณของพระพุทธเจ้าเข้าถึงธรรมกาย,สัมโภคกายเรียบร้อยแล้ว รอแค่เวลาสำแดงพระญาณนั้นผ่านการกำเนิดซึ่งเรียกว่า “นิรมานกายมนุษย์” เป็นพระชาติสุดท้ายของกายหยาบเท่านั้น

    ด้วยเหตุนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เหตุผลว่าครูเทพพรหมทั้งหลายสั่งกันไว้นักเชียว หากจะสร้างพระราหูก็ให้สร้างตามคติมหายาน เพราะพระราหูจะยิ่งมีกำลังประเสริฐเกินกว่าอำนาจเทวดาใดๆด้วยกำลังแห่งความเป็นพุทธะ ซึ่งโดยปกติเราจะเห็นรูปพระราหูแบบเทพหรือเทพอสูรกันมามากหากแต่ไม่เคยเห็นปางที่ท่านเป็นพระโพธิสัตว์เลย พระราหูหรือกุนซังเตวาในภาคธรรมบาลมหาโพธิสัตว์นั้นมีร่างกายสีดำม่วง มีพระเศียร 9 เศียร แต่ละเศียรมี 3 ดวงตา มีเขี้ยวคมหน้ากลัว ตามลำตัวมีดวงตานับพัน แม้แต่ท้องของพระราหูก็ยังเป็นหน้าของพระราหู ท่อนเป็นมีร่างกายแบบคน ส่วนเอวลงไปเป็นงู ทรงประทับเหนือมหาสมุทรเลือด สามารถท่องไปยังจักรวาล โลกธาตุต่างๆได้อย่างอิสระ ซึ่งราหูโพธิสัตว์หรือกุนซังนั้นได้ฉายาว่า “ผู้ทำลายความหลงตนเอง” นั่นทำให้ท่านมีพลังที่ยิ่งใหญ่และสำคัญอยู่สามประการประกอบด้วย
    - พลังแห่งการทำลาย ไม่ว่าจะเป็นความหลงตนเอง ความหลงมัวเมาในความดีจนออกนอกลู่นอกทาง การหลงในการทำบุญ การยกตน ความหยิ่ง ทรนง และการทำลายศัตรู โดยเฉพาะศัตรูภายในใจของตน
    - พลังในการก่ออุปสรรค ด้วยตัวพระราหูนั้นความภูมิใจในความดีที่มาจากการเสียสละ ด้วยหากมนุษย์คนใดไม่รู้จักการเสียสละ,ปล่อยวาง,ละวาง คนเหล่านั้นย่อมจะหลงตนเอง ต่อให้ยิ่งทำบุญยิ่งภาวนา มีประสบการณ์เป็นเอนกประการแบบนี้ก็ยิ่งอันตราย เช่นนั้นกำลังของท่านจึงก่ออุปสรรคเพื่อผลดีของเราไม่ให้เราหลงตัวเองจนยากถอนตัวในที่สุด

    - พลังแห่งการพิทักษ์รักษา ท่านมีหน้าที่ปกป้องดูแลขุมทรัพย์(พ่ออาจารย์ท่านว่าคนจะไม่ค่อยรู้กัน ขุมทรัพย์อันได้ชื่อว่าประเสริฐที่สุดนั้นก็อยู่ในการควบคุมของท่านนี่แหละ ดังนั้นใครจะขอลาภต้องขอจากปางนี้โดยเฉพาะ) ทั้งท่านยังรักษาธรรมะ รักษาผู้ภาวนา,ผู้ประพฤติธรรม และเหนือสิ่งอื่นใดท่านยังรักษษพระเวทย์และพระธรรมลึกลับอันทวยเทพและสิ่งมีชีวิตทุกโลกธาตุไม่อาจเข้าถึงได้(เช่นนั้นคนที่ประสงค์จะมีสัมผัสลี้ลับหรือได้รับการชี้นำจากครูท่านก็ควรจะบูชาอย่างยิ่ง บางคนอาจจะได้รู้พระเวทย์พระธรรมที่เป็นของเฉพาะตัวเราใช้ก็มีมาให้เห็นแล้ว)

    พ่ออาจารย์ท่านได้รับมติจากคณะมหาโพธิสัตว์ให้ทำพระราหูปางมหาโพธิสัตว์ขึ้นเพื่อโปรดคนที่มีวาสนาเชื่อมถึงและมีบุญสัมพันธ์กันอยู่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์กุนซังนั้นจะให้คุณแก่เราติดตัวไปทุกภพที่เราเกิดทีเดียว ด้วยเหรียญนี้เมื่อได้รับไปก็เสมือนว่าเราได้สัมผัสกับพระญาณขององค์กุนซังที่จะสำแดงให้ปรากฏในมายาแห่งสังสารวัฏ ให้ผู้รับได้เปิดเนตรมีสัมผัสรับรู้ทางอายตนะ ให้จิตเราเปิดและฉวยจับเอากำลังแห่งพระกุนซังเสพเข้าไป พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์กุนซังนั้นโดยแท้จริงแล้วท่านเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณของเรา เพราะท่านมีอำนาจเหนืออาการกิเลสแลอาการหล่อเลี้ยงต่างๆไม่ว่าจะเป็นพลังงานชีวิตหรือลมหายใจประสาทสัมผัสทั้งหลายที่เรามัวเมาอยู่ *** พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้สำคัญที่สุดเลย นั่นคือท่านสามารถกำจัดและตัดทำลายลบล้างความมัวเมาลุ่มหลงในอำนาจกิเลสของเราให้เบาบางลงได้

    โดยแก่นแท้ขององค์ครูท่านนั้นจะสำแดงออกถึงความภูมิใจในการสละออกของสรรพสิ่ง(# เหตุนี้พ่ออาจารย์จึงได้สร้างปางกุนซังหรือมหาโพธิสัตว์ขึ้นมา โดยท่านย้ำว่าปางนี้ต่างจากปางเทพที่เราไหว้ๆกันอยู่ ด้วยปางเทพนั้นเราจะรู้กันแค่ว่าควรบูชาเวลาดวงตกหรือเคราะห์ร้าย แต่ปางโพธิสัตว์เต็มบารมีนี้ท่านพร้อมจะสละออกทุกสิ่งด้วยความภูมิใจ***ดังนั้นเมื่อเราขออะไรหน้าที่ของท่านก็คือให้และสละด้วยความเต็มใจสูงสุด นี่คือกำลังของปางกุนซังที่ปางเทพไม่มี ) ทั้งอำนาจเหล่านี้มนุษย์ยังจับต้องได้ ท่านว่าห้อยไปเถิดเธอจะเห็นเองว่าตัวเองกลายเป็นคนภาคภูมิมากขึ้นเพียงใด นอกจากนี้การปรากฏขององค์กุนซังยังสัมพันธ์กับธาตุทั้งห้าในภาวะธรรมชาติด้วย
    - เมื่อมีอากาศธาตุเป็นแก่นรองรับคือการแสดงออกของความทรนง เรียกว่าอากาศธาตุราหู
    - เมื่อมีธาตุดินเป็นแก่นรองรับคือการแสดงออกของกำลังมายา,การมองเห็น เรียกว่าราหูธาตุดิน
    - เมื่อมีธาตุน้ำเป็นแก่นรองรับคือการแสดงออกของการยึดติดและการมองเห็นสาระ เรียกว่าราหูธาตุน้ำ
    - เมื่อมีธาตุไฟเป็นแก่นรองรับคือการแสดงออกของความเกลียดชัง เรียกว่าราหูธาตุไฟ
    - เมื่อมีธาตุลมเป็นแก่นรองรับคือการแสดงออกของความริษยา เรียกว่าราหูธาตุลม
    พ่ออาจารย์ท่านว่าในตัวคนเรานั้นจึงมีราหูอยู่ทุกธาตุเพราะเราหนีไม่พ้นเรื่องพวกนี้ในแต่ละวัน เช่นนั้นราหูจึงมีกำลังต่อชีวิตเราอย่างมาก ในขณะเดียวกันเมื่อเราเชิญองค์กุนซังมาบูชาท่านจึงมีกำลังเชื่อมต่อถึงภาวะตัวตนเรามากที่สุดเช่นนั้นความมหัศจรรย์และปาฏิหาริย์ต่างๆย่อมเกิดจากภายในและภายนอกตัวเราได้บ่อยที่สุด


    นอกจากในฐานะมหาโพธิสัตว์แล้วเรายังสามารถภาวนาถึงท่านในฐานะธรรมบาลได้อีกด้วย ผู้ที่องค์กุนซังนั้นมาสถิตย์โปรดชีวิตพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ครูท่านจะคอยเตือนภัย ปัดอันตราย และขจัดอุปสรรคอันเป็นหน้าที่ของท่าน *** แต่ที่พิเศษจริงๆนั่นก็คือชะตาชีวิตที่หมุนวนตามกำลังดวงดวงเวลาเราถูกทำนายทายทักหรือเรารู้ว่าปีไหนดวงเราตก,ดวงเราร้ายต้องรอเวลาอีกกี่เดือนกี่ปีกว่าจะเคราะห์ดีเช่นนี้ องค์กุนซังท่านมีอำนาจทำลายอุปสรรคและโชคร้ายอันเกิดจากอำนาจดวงดาวในดวงชะตาเราได้เอง และที่สุดแห่งอานิสงค์การบูชาองค์กุนซังนั้นก็คือ
    - ความปรารถนาการหลุดพ้นจากการยึดติดทางโลกียะดุจท่านยืนอยู่บนทะเลเลือด
    - การปกป้องคุ้มครองรักษาตัวเรารอบทิศทาง ดุจดวงตานับพันรอบตัวของท่านที่จะคอยมองสอดส่องรักษาเราอยู่เสมอ

    - การแผดเผาความกระหายทะยานอยากของสัตว์โลกทั้งปวง ดุจรัศมีเปลวไฟซึ่งลุกโชนรอบตัวท่าน
    - ปกป้องปากของมนุษย์ ให้พ้นจากภัยอันเกิดจากวจีกรรม
    - การปกป้องจากโรคภัย แม้จะอยู่ในช่วงอิทธิพลดวงดาวจากอำนาจดาราจักรหรือ
    แม้กระทั่งชีวิตมีอันเป็นไปเพราะอิทธิพลของกรรมจากชาติที่แล้ว ( *** พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะหาเพียงของช่วยให้เราคลายเคราะห์นั้นที่ไหนก็พอหาได้ แต่ถ้าจะหาคนคอยปกป้องเราจากอำนาจกรรมตั้งแต่อดีตที่นับไม่หมดนั้น ต้องพึ่งองค์กุนซังเท่านั้น)

    วิชาสร้างองค์กุนซังนั้นถือว่าเป็นวิชชาแห่งความสำเร็จ หากเข้าถึงแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าแม้มนุษย์ก็สามารถยืมกำลังของท่านใช้บัญชาธาตุทั้งสี่ได้ดั่งใจไม่ว่าจะใช้เรียกลม เรียกฝน เรียกไฟ หรือเชิญมหาอัสนีบาต...นี่คือกำลังทางมายาศาสตร์และพระเวทย์พระธรรมซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดไม่ได้แต่เธอต้องค่อยๆพัฒนากันเอาเอง นอกจากนั้นวิชาองค์กุนซัง(ราหูภาคโพธิสัตว์)ยังได้ชื่อว่าเด็ดขาดที่สุดในการขจัดพิษทั้งหลาย # ไม่เว้นแม้แต่พิษที่เกิดจากวิบากกรรมอันหนักหน่วง(ใครที่กำลังชดใช้อะไร หรือรู้ตัวว่าเราอยู่ในวงจรวิบากอันนี้ต้องพึ่งบารมีท่านเลย) ซ้ำวิชาขององค์กุนซังนั้นยังเป็นธรรมลี้ลับที่ไม่สามารถเล่าเรียนสืบทอดกันได้นอกจากการถ่ายทอดเฉพาะบุคคล พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เราก็ทำได้เพียงครั้งเดียว

    เศียรพญามารเก้าโลก
    ในปางมหาโพธิสัตว์กุนซังนี้ พระราหูท่านจะมีเศียรเป็นพญามารทั้งเก้าและพระพักตร์บนสุดเทิดด้วยเศียรอีกา ร่างของท่านจะมีใบหน้าทั้งหมดมีเก้าใบหน้า แต่ละใบหน้าจะดุร้ายดุจพญามารเทพปีศาจมีมวยผมพุ่งขึ้นราวกับเปลวไฟดวงตาถมึงทึง มีฟันนั้นใสเหมือนหยดน้ำค้างซึ่งสามารถกัดทะลุทะลวงหมู่มารทั้งหลายได้ ท่านจะมีสี่มือโดยทรงคันศรและลูกศรสำหรับยิงหัวใจผู้คิดทรยศต่อพุทธศาสนา,อีกกรหนึ่งถือธงมโหทรคุ้มครองผู้เคารพบูชาให้พ้นจากหมู่มาร อีกด้านหนึ่ง ถืองูที่ขดเป็นเสมือนเชือก มีดวงเนตรพันดวงที่เบิกโพลงอยู่ในอาการกิริยาพิโรธ
    พระพักตร์ทั้งเก้าหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเศียรพญามารเก้าโลกนั้นเพราะแต่ละหน้าแทนด้วยใบหน้าของพญามารทั้งหลาย(ปกติพญามารหรือจอมฟ้าองค์เดียวก็มีอานุภาพมากสุดๆแล้ว) หากแต่นี่แทนด้วยกำลังของพญามารทั้งเก้าผู้เป็นใหญ่ในอนันตจักรวาล ซ้ำเศียรนกอีกาด้านบนสุดยังจะคอยสอดส่องระแวดระวังรักษาพิทักษ์ภัยให้เราจากผู้ประทุษร้ายทั้งมวล คนที่มีคนคิดร้าย,มุ่งร้าย,จ้องทำร้าย พ่ออาจารย์ท่านว่าพวกนี้ไม่ว่าจะเล่นเราต่อหน้าหรือลับหลังก็ดีล้วนไม่พ้นอำนาจเศียรเทพอีกานี้เลย ท่านว่าฉันพูดมากไปกว่านี้ไม่ได้แต่ให้เธอรู้ไว้ว่าถ้าไม่สูงสุดจริงคงไม่อยู่เหนือเศียรพญามารทั้งเก้า

    # องค์กุนซังนี้มีอาถรรพ์มาก พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวเราที่แขวนองค์กุนซังอยู่หากไปเจอเข้ากับคนที่มีจิตบกพร่อง,ฮึกเหิม,ลำพองในมายาทุจริต เป็นพาล เป็นคนโอหังโดยสันดานเหล่านั้น นอกจากเขาจะแพ้ภัยตัวเองแล้วหากเมื่อใดที่องค์กุนซังพิทักษ์รักษาเราหรือไปปรากฏรูปบรรพกาลอันเป็นรูปแท้จริงของท่านให้ศัตรูเราเห็น พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นถึงตายเชียวนะที่ว่าตายเพราะเขาจะกลัวจนตายกลัวจนเส้นโลหิตสมองแตก เช่นนั้นศาสตร์การสร้างองค์กุนซังนี้จึงถูกปกปิดเรื่อยมา เพราะไม่ใช่เพียงแต่รักษากรรมวิบากหรืออะไรที่หลายสิ่งทำไม่ได้ แต่หากวันใดที่ผู้ใช้เหรียญภาวนาอาราธนาจนยืมอำนาจท่านได้ยังจะสามารถบัญชามหาธาตุทั้งสี่ได้ดั่งใจอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาง่ายๆเลยขอแค่เป็นคนดีก็พอ เพราะอำนาจองค์กุนซังนั้นท่านจะเปลี่ยนแปลงชีวิตคนไปในทางที่ดีมากๆซึ่งเราบอกไม่ได้ทั้งหมด ขอให้เราเป็นคนดียึดมั่นในคุณธรรมแค่นั้นอะไรมันก็ดี

    เหรียญหล่อนี้พ่ออาจารย์ท่านปั้นแม่พิมพ์เป็นเศียรยักษ์แทนพญามารพิโรธทั้งเก้า ท่านว่ายิ่งจะมีอาถรรพ์มาก หากแต่รายละเอียดนั้นมากพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าหย่อนงามไปหน่อยเหรียญนี้ท่านจึงเก็บเสกไว้ยาวนานท่านว่าผ่านพิธีกรรมมาเยอะ เป็นพิธีลับที่องค์กุนซังนั้นถ่ายทอดให้ไม่สามารถเล่าหรืออธิบายอะไรได้เลยเพราะเป็นเวทย์ลับธรรมลับที่ท่านจะเปิดให้เฉพาะคน พ่ออาจารย์ท่านว่าขอเค่เราเป็นคนดีก็จะสามารถบูชาองค์กุนซังให้ท่านช่วยคลี่คลายปมชีวิตได้ ไม่ก่อให้เกิดหายนะแบบบางคนที่ไปห้อยพระราหู องค์กุนซังนั้นทานฝังของวิเศษไว้หลายชนิดแต่หลักๆเลยที่จะพูดถึงก็คือยอดธาตุ กับยอดผง
    - องค์เหล็กบัญชา จริงๆจะเรียกว่าเหล็กไหลก็ได้ ท่านเรียกว่าเหล็กบัญชาธาตุ ซึ่งธาตุนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าคือธาตุธรรมสุญญตาหรือความว่างเปล่า ท่านว่าธาตุนี้เป็นยอดแห่งธาตุทั้งหลายอันมีมาในจักรวาลหรือจะเรียกว่าธาตุนิพพานก็ได้ ด้วยธรรมทั้งหลายนั้นท้ายที่สุดย่อมว่างเปล่า ท่านว่าเราไม่สามารถพูดอะไรได้ทุกอย่าง บอกได้คร่าวๆแค่เท่านี้เพราะมันเกินความคิด เกินคำพูด...เกินคำอธิบายนั่นเอง แต่ว่าธาตุทุกธาตุนั้นล้วนมีนิพพานธาตุเป็นปฐมจิต...พ่ออาจารย์ท่านว่าขอแค่ได้ธาตุสุญญตานี้ก็ทำได้ทุกอย่างเพราะมันถึงกันหมดเป็นลูกโซ่เลย ท่านว่าเอาไปใช้อธิษฐานให้ตัวเองเจริญและได้ดีไม่เสียชาติมนุษย์แค่นั้นก็พอ
    - ผงสิตาตปัตรา เป็นผงวิชาลับที่ท่านทำไว้เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคภยันตรายทุกประการ ทั้งอำนาจคุณไสยต่างๆอันจะคืบคลานก็ไม่อาจกร้ำกรายตัวเราได้ ผงนี้ได้ชื่อว่ามีกำลังเห็นผลรวดเร็วดั่งครุฑ นั่นคือใช้แล้วเห็นทันตาดั่งครุฑกระพือปีกบิน(ท่านว่าไวมาก) อานุภาพของผงนี้จะนำเราไปสู่ความสำเร็จดั่งตั้งใจได้อย่างรวดเร็วดั่งพญาครุฑโบยบิน ซึ่งครุฑนี้ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่บินได้เร็วที่สุดท่านว่าอุปมาไว้เช่นนี้ก็คงพอจะเข้าใจกันได้ ทั้งคุณแห่งผงนี้ยังใช้ป้องกันโรค, ขจัดอุปสรรค,มนตร์ดำ,คาถาวิชาอาคมชั่วร้าย และหมู่มารศัตรูมุ่งร้ายทั้งหลาย ที่สำคัญที่สุดเลยท่านว่าเวทย์ที่กำกับผงไว้นั้นไม่มีวันเสื่อมไม่มีสิ่งใดอำนาจใดสามารถทำลายได้ หากผู้ใช้มีใจปรารถนาจะทำกิจใดให้เสร็จอย่างรวดเร็วผงนี้ก็มีคุณเสริมให้เป็นเช่นนั้นให้หนทางที่เราเลือกสำเร็จทันตาดั่งขี่ครุฑไปนั่นทีเดียว

    คาถาบูชา
    ตัทยถา โอม อนาเล อนาเล วิษเท วิษเท ไวเร ไวเร วัชร ธริ พันธ พันธนิ วัชรปาณิ ผฏะ หูมะ หูมะ ผฎะ สฺวาหา หูมะ ทรูม พันธ ผฎะ มม รักษ รักษ สวาหา ใช้เมื่อถูกกดขี่ หรือขาดพลังดั่งว่าถูกพันธนาการไว้ทั้งกายวาจาใจ เพื่อเรียกผู้ปกป้องหักหาญทำลายล้างสิ่งที่กดดันกดขี่พันธนาการชีวิตเราอยู่
    สรว อปนย สวาหา ภาวนาเพื่อกำราบอุปสรรคทั้งหลายให้สิ้นไป
    ศานติง กุรุเย สฺวาหา ภาวนาเมื่อขอพรหรือต้องการรับกุศลหากเราได้เชิญท่านไปทำคุณความดีต่างๆ

    กุนซังเตวา นามนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ออกชื่อท่านซ้ำไปมาเพื่อฝึกจิตและสมาธิของเรา หรือจะขอให้พระองค์ปกป้องครอบครัวของเรามิตรของเรา ตลอดจนความมั่งคั่งและทรัพย์สินในครอบครองของเราทั้งทิวาและราตรีกาล *** ทั้งยังอธิษฐานขอวิบากกรรมและอาชญาทั้งห้าซึ่งยังให้เกิดวิบากกรรมทันทีทั้งหลายนี้จงได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยไม่มีข้อยกเว้นตลอดช่วงอายุขัย

    *** เครื่องมงคลรายการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของลับ หากเราถอดออกไม่ได้อาราธนาท่านก็ให้หาผ้าเล็กๆมาคลุมปิดท่านไว้(นัยว่ามีกำลังร้อนแรงมากถ้าไม่ใช้ก็อาราธนาท่านไปเก็บต่อเมื่อจำเป็นเห็นว่าชีวิตต้องพึ่งท่านแล้วจึงนำท่านออกมา) ดั่งที่ท่านว่าผ่านพิธีมามากดังนั้นองค์พระจะเลอะด้วยผงสินธูระเช่นนี้ทั่วองค์ทุกๆองค์ พ่ออาจารย์ท่านสร้างองค์กุนซังไว้หกองค์แต่ท่านเลี่ยมแขวนคอท่านไว้หนึ่ง จึงมีให้จองเพียงห้าองค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมและฝากฝังชะตาผู้บูชาให้องค์กุนซังรับเราไว้ในความคุ้มครอง รายได้ร่วมสมทบทุนอาหารกลางวันเด็กพิการด้อยโอกาสทางการศึกษาสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญองค์เหล็กบัญชาธาตุธรรมสุญญตา(กุนซังเตวาพญามารเก้าโลก) บูชา 4,000 บาท

    74601276-421005618846556-3938289370376699904-n.jpg 77387112-2442163149361783-1683934021085560832-n.jpg
    73395324-2381285725466232-5627027750469500928-n.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ดวงธาตุยาตราเบญจราชันมหาวิสุทธิวัตถุ (ผังจักรวาลศรีจักราสุริยันจันทรโคจร)

    ในวาระจันทร์เพ็ญหรือจันทร์ซ้อนจันทร์ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นฤกษ์ที่เหมาะเเก่การสร้างเเละเสกวัตถุมงคลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากพระจันทร์ไขรัศมีกระจ่างฟ้า ส่งผลต่อแม่น้ำตามห้วยหนองคลองบึงต่างๆให้เอ่อท่วมท้นเป็นนิมิตหมายมงคล ซึ่งฤกษ์จันทร์เพ็ญปีนี้เป็นฤกษ์ที่ให้คุณทางการเงินและมหานิยมอย่างเเท้จริงพื่อที่จะผลักดันสิ่งมีชีวิตไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ให้ตกอยู่ในอำนาจลึกลับของดวงดาว พ่ออาจารย์ท่านจึงเพ่งพลังจิตในฤกษ์มงคลนี้เพื่ออาศัยพลังอำนาจแห่งฤกษ์ แห่งดวงดาวและกำลังดาราจักรเพื่อหนุนกำลังเครื่องมงคลให้พร้อมที่จะเปลี่ยนวงจรชีวิตคน

    ดวงธาตุยาตรานี้ ท่านว่ายาตราก็คือเดินไปข้างหน้าเดินต่อไปไม่มีถอยหลังกลับเป็นวงจรของเขาที่จะทำงานให้ชีวิตเราเดินสูงขึ้นไปเรื่อยๆดุจดวงธาตุยาตราไปทางไหนตัวเราก็ไปจุดนั้น ต้องเดินต่อไปให้สูงขึ้นในทุกๆก้าว คำว่าดวงธาตุยาตราเบญจราชันก็ดุจดวงธาตุนั้นมีความหมายถึงสิ่งมงคลห้าตระกูล ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องเสกให้ครบให้เต็มทีละอย่างและหลอมกำลังทั้งหมดเพื่อให้ดวงธาตุนั้นเป็นมหามงคลอย่างเต็มกำลัง จะเรียกว่าเป็นเครื่องมงคลที่ใช้ได้ถึงห้าในหนึ่งก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านนิมิตถึงครูพระแลเทพพรหมท่านปรึกษากันว่าแต่เดิมนั้นโลกก็มีดวงแก้วกายสิทธิ์เกิดขึ้นอันจะเป็นของคู่บารมีสำหรับผู้มีบุญญาธิการใช้ทำการใหญ่,ใช้เพื่อสร้างบารมี,สร้างชีวิตของตนเองให้ดีเหนือกว่ามนุษย์ด้วยกัน เช่นนั้นบรมครูทั้งหลายจึงมีดำริให้พ่ออาจารย์ท่านหุงธาตุสำเร็จในลักษณะปรอทสำเร็จขึ้นมา แต่ท่านได้กำกับให้หาแร่สำคัญ...หลากชนิดที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ด้วยมีอาถรรพ์ส่งผลต่อชะตาลิขิตและอำนาจกระแสดึงดูดของหมู่ดาวมาหุงเข้าว่านยาเพิ่มไปด้วย ทำให้ได้ดวงธาตุที่พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณเกินกว่าปรอทสำเร็จไปไกลโข เป็นดั่งดวงแก้วสำคัญที่ใช้โปรดโลกยามเจอภัยพิบัติเช่นนั้น ต่อมาบรมครูทั้งหลายจึงได้นิมิตให้พ่ออาจารย์ท่านทำผงกำแพงจักรวาลขึ้นมาเป็นฐานรับดวงแก้วนั้น โดยบรมครูพระและเทพพรหมท่านว่าดวงแก้วนี้ใช้แทนวิสุทธิวัตถุทั้งห้าสิ่ง มีกำลังแข็งมาก ให้คุณมาก เหมาะแก่ผู้คิดทำการใหญ่ ทำให้ชีวิตตนเองดีกว่าที่เคยเป็นอยู่ ซึ่งวัตถุทั้งห้านั้นได้แก่

    1.จักรวาลแห่งการเคลื่อนไหวเปลี่ยนผ่าน(ศรีจักรา)
    ด้วยเปรียบดวงธาตุคือเขาพระสุเมรุหรือเสาหลักของจักรวาลอันเป็นแกนจักรวาลเป็นที่ตั้งสวรรค์เป็นที่ประทับและอาศัยของทวยเทพทั้งปวง ที่เทวะและหมู่ดาวต้องโคจรดุจเคลื่อนที่รอบๆพระสุเมรุตลอดเวลา(ท่านว่าถ้าตาดีเพ่งมาจะเห็นเลยทั้งพระอาทิตย์พระจันทร์ท่านหมุนรอบอยู่เราจึงเรียกว่าสุริยันจันทรโคจร)ดวงดาวและทวยเทพท่านยาตราไม่หยุดนิ่งงันแสดงลักษณะการกระจายตัวของพลังงานแห่งจักรวาลมีลักษณะคล้ายคลื่นเสียงของคำว่า"โอม" ซึ่งเป็นกำลังของเทวะและกำลังของศักติ จึงเป็นดั่งตัวแทนพลังอันไม่สิ้นสุดแห่งเทวะและเทวีทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นลักษณะการเคลื่อนไหวเปลี่ยนผ่านชีวิตจากช่วงเวลาหนึ่งไปสู่ช่วงเวลาหนึ่งที่ดีกว่า ด้วยเป็นตัวแทนการเปลี่ยนผ่านของเวลาทั้งสามอันได้แก่ อดีต,ปัจจุบัน,อนาคต และเป็นภาพจำลองของเขาพระสุเมรุหรือแกนจักรวาลที่ควบคุมภพทั้งสามคือกามภพ,รูปภพ,อรูปภพ เป็นดั่งจุดสมดุลย์ของพลังเทวะและศักติรวมไปถึงพลังงานการสร้างสรรพสิ่งของพระเป็นเจ้านั่นคือแสง,น้ำและอากาศก่อนจะก่อเกิดเป็นภพภูมิต่างๆกระจายไปทั้งสี่ทิศหกมุมซ้อนกันขึ้นลงเป็นทวีคูณไม่สิ้นสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพกสิ่งนี้ดุจเราพกธาตุย่อส่วนของจักรวาลไว้ทีเดียว
    อันฐานล่างนั้นแทนเขาสัตตบริภัณฑ์และมหาสมุทรที่ขวางกั้นเป็นด่านชั้นนอกจนถึงเขาพระสุเมรุเป็นสัญลักษณ์ของการให้โอกาสได้เริ่มต้นใหม่ ได้ตั้งตัวใหม่และยอดเขานั้นก็เปรียบเสมือนจุดสูงสุดที่จะหลอมรวมตัวเราเข้ากับพลังงานจักรวาล ท่านว่าเป็นดั่งยันต์ศรีจักราที่ประยุกต์ขึ้นมาเป็นเครื่องมงคล มีพลังในตัวเองสามารถกระจายกำลังสู่จิตเราให้สงบได้เสมอช่วยให้เราเข้าสมาธิได้ลึกขึ้น ดึงเราเข้าสู่ขุมกำลังแห่งฟ้าดินนำไปสู่การถ่ายทอดกำลังปราณและจักระ น้อมนำกำลังจากพุทธะแลเทวะที่อยู่ในโลกธาตุอื่นส่งผ่านมาหาตัวเราได้ ท่านว่าร่างกายบางคนนั้นปิดกั้นไม่รับพลังงานจากครูบาอาจารย์เลย ถึงแม้ปากจะขอแต่ร่างของเรามันหมองเกินกว่าที่จะรับ ครูท่านถึงจะส่งพลังให้อย่างไรแต่ก็รับไม่ได้ บางทีได้แต่รู้สึกขนลุกสัมผัสได้ถึงพลังงานที่พยายามจะไหลผ่านตัวเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตเราแต่ตัวเราก็รับไม่ได้เลยดุจแก้วแตกหรือแก้วเต็มมีแต่จะรั่วจะล้นออก ดังนั้นศรีจักราจึงรวบและกระจายกำลังแรงครูจากโลกธาตุอื่นส่งถึงตัวเราโดยเฉพาะ(พ่ออาจารย์ท่านว่าช่วยแก้ทางคนที่ขอพรไม่ประสบความสำเร็จ)
    ทั้งยังใช้รับกำลังจากอรูปฌาณ,กำลังธรรมชาติ,กำลังปฐมพรหม,กำลังต้นกำเนิดชีวิต..เหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะส่งผ่านศรีจักราอันเป็นสัญลักษณ์เปลี่ยนผ่านกาลเวลาและวิถีชีวิตของเรา ช่วยปรับธาตุในตัวให้สมดุลทั้งยังขจัดพลังไสยดำและอวิชชาทั้งหลายที่ตกค้างในธาตุขันธ์ ทำให้มีกำลังสมาธิสูงช่วยให้จิตว่างให้เรารู้สึกว่ากายกับจิตเรานั้นแยกกันอันจะนำไปสู่การพัฒนากำลังของจิตต่อไป นอกจากนั้นเหนือสิ่งอื่นใดศรีจักรานี้ไม่เพียงแต่ใช้รับพลังแรงครูจากโลกธาตุอื่นหากแต่ยังเป้นสื่อช่วยให้เราสื่อสารกับครูไม่ว่าจะอยู่ในโลกธาตุใดๆได้อีกด้วย
    ท่านว่าหากเราเพ่งสมาธิกำหนดจิตไปตรงจุดกึ่งกลางดวงธาตุอยู่เสมอๆพร้อมกับทำใจให้ว่าง เราจะสัมผัสได้ถึงคลื่นและความเย็นที่แผ่ออกมาดุจจิตเรารวมเข้ากับจุดยอดพระสุเมรุนั้นเหมือนเราถูกดูดเข้าไปกายทิพย์ถูกเปลื้องออก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าหมั่นทำบ่อยๆจิตจะละเอียดขึ้นวิธีนี้ท่านเรียกว่าการซักฟอกจิต จิตจะมีกำลังมากขึ้นสว่างขึ้น ***เมื่อมีคุณเปลี่ยนผ่านกาลเวลาในชีวิตจริงจึงสามารถใช้ยกระดับเปลี่ยนภพภูมิให้แก่ตนเองได้เสมอกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าผ่านการใช้ซักฟอกจิตบ่อยๆเช่นนี้เรื่องเปลี่ยนภพภูมินั้นไม่ยากเลยจิตจะเกิดความเบาขอแค่เราเอาจิตสัมผัสลงตรงจุดกลางเบาๆไม่ต้องเพ่งสบายๆไม่เครียด แต่ต้องมีสติรู้ตัวอยู่ตลอด
    ดวงธาตุศรีจักรานี้เป็นตัวดึงอำนาจเบื้องสูงลงมารวมทั้งเป็นตัวนำพาพลังงานจากเบื้องต่ำขึ้นสู่เบื้องบน ไม่ว่าจะสถิตย์อยู่ที่ใดย่อมสั่นสะเทือนและเกิดแรงกระเพื่อมของคลื่นในบรรยากาศส่งผลต่อระนาบมิติต่างๆ เราจะกำหนดจิตให้ดึงเข้าหรือผลักออกก็ได้ เมื่อเขาอยู่ที่ตัวเรากำลังนี้ก็จะซึมเข้าสู่กระบวนการหายใจเข้าออกเป็นการดึงพลังงานธรรมเข้าและขับพลังลบออกผ่านลมหายใจนั้น
    พ่ออาจารย์ท่านเน้นว่าศรีจักรานั้นมีความหมายล้ำลึกส่วนมากคนใช้จะมีที่อยู่อาศัยมีหลักฐานมั่นคง เพราะเป็นรูปย่อของสัดส่วนจักรวาลที่รวบภพภูมิทั้งหมด เมื่อบูชาย่อมเป็นแหล่งศูนย์รวมพลังเทวะ สามารถแผ่พลังงานให้สถานที่ให้ตัวของเราได้ สามารถแผ่พลังงานให้บุคคลที่เจ็บป่วยหรือปรารถนาความสงบแลต้องการพลังงานก็ทำได้ ท่านว่าพลังชีวิตที่สึกหรอในตัวเราก็จะได้รับการเติมเต็มเป็นทั้งการสื่อพลังงานจักวาลการสื่อพลังงานของเทพจนกระทั้งการเข้าถึงปรัชญาระดับสูง


    2. ตราหยินหยางเปลี่ยนแปลง
    ดวงธาตุนี้มีสัณฐานคล้ายตราหยินหยางซึ่งเป็นเครื่องหมายพลังงานทางธรรมชาตติระดับสูง นั่นคือพลังงานที่เป็นคู่กันเป็นพลังงานธรรมชาติที่นำมาประกอบกันโดยแท้จริงเเล้วท่านอธิบายไว้ว่าถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการก่อกำเนิดทุกสรรพสิ่งก็ได้ เป็นการถ่วงดุลย์ของพลังงานธรรมชาติที่จำเป็นต้องมีให้เท่าๆกันไม่ควรมากไปหรือน้อยไป ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเสมอไปเเต่ถ้าอยู่ร่วมกันในภาวะที่ถ่วงดุลย์กันก็ถือว่าเป็นสิ่งดีงามเเละจะมีสิ่งที่ดีๆอุบัติขึ้น(ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตได้)
    ดวงธาตุหยินหยางนี้เเสดงให้เห็นถึงสภาวะคู่อย่างชัดเจนกล่าวได้ว่าในหยินมีหยางเเละในหยางก็มีหยินอีกเช่นกัน ถือเป็นสัจธรรมที่มีความหมายยิ่งใหญ่ตีได้กว้างไกลยิ่งนักเเต่ท่านจะพูดถึงบริบทเมื่อท่านนำมาทำเป็นเครื่องมงคลให้สวมคอพ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดตรงนี้ที่ว่ อยากจะให้คนใช้คนบูชาประสบพบเจอเเต่โชคดีมีความเจริญรุ่งเรืองเช่นนั้นดวงธาตุของท่านจึงเป้นมงคลใช้ได้หลายทางตามหลกหยินหยาง
    - เพื่อให้ถ่วงดุลย์เเละปรับสภาพในร่างกายตลอดจนสภาพเเวดล้อมรอบตัวให้สมดุลย์กันและปลุกเสกใส่พลังงานเพื่อที่คนบูชาจะได้พบเเต่สิ่งที่ดี ดึงดูดสิ่งที่ปรารถนาเเละต้องการมาสู่ตนเอง
    - เพื่อให้ปรับสภาพร่างกายให้รู้สึกสบาย สดชื่นเเจ่มใสไม่อมโรค ปรับสมดุลย์ทางด้านร่างกายเเละจิตใจให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดีไม่มีมากไปหรือน้อยไป ให้สมดุลย์กันใครที่อารมณ์ร้อนก็ให้เย็นลง ใครที่เย็นเกินไปก็ได้ปรับขึ้นมาอยู่ในความพอดี
    - พลังงานหยินหยางเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ท่านหมายให้ผู้บูชาเข้าถึงพลังงานธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ นั่นคือเปิดสัมผัสพิเศษต่างๆของตัวเราเอง ให้มีพัฒนาการควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตประจำวัน จะได้มีความกะตือรือร้น เป็นคนตื่นตัวไม่เอื่อยเฉื่อย
    - เพื่อปรับธาตุทั้งห้าในร่างกายให้สมดุลย์กันไม่มีธาตุใดเเสดงผลออกมามากหรือน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เป็นเหตุให้เกิดโรค หรืออาการวิปริตทางด้านอารมณ์ต่างๆได้
    - เพื่อเปิดทางเปิดชะตาให้พบเจอเเต่โชคลาภเเละสิ่งที่ดีงาม เมื่อร่างกายได้ปรับสภาวะให้อยู่ในสภาพที่สมดุลย์แล้ว ดวงธาตุก็จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาเอง
    - เพื่อความสวยงามเเละดูไม่น่ารังเกียจ ใครๆก็สามารถสวมใส่ได้ มีอิทธิคุณแฝงไว้ทางด้านเมตตามหาเสน่ห์เเละคู่ครองเหมือนพกอิ้นคู่เช่นนี้เป็นต้น
    ซึ่งดวงธาตุหยินหยางนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่เเละใช้ได้หลากหลายประการไม่สามารถอธิบายได้หมดหากคนใช้เข้าถึงก็จะเข้าถึงพลังงานธรรมชาติมากมายหลากหลายแขนง เพราะเครื่องหมายหยินและหยางนี้พัฒนามาจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติของจักรวาล ซึ่งหยินหมายถึงดวงจันทร์เป็นตัวแทนของการเต็มใจรับหรือยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำ เป็นพลังแห่งสตรีเพศ,ความเยือกเย็น,การหยุดนิ่ง,การเคลื่อนลงต่ำ,การเก็บรักษา,การยับยั้ง ส่วนหยางหมายถึงดวงอาทิตย์ อันเป็นสัญลักษณ์ของพลังแห่งบุรุษเพศได้แก่การเคลื่อนไหว,ความกระตือรือร้น,การเคลื่อนขึ้นไปด้านบน,การเจริญเติบโต,เจริญรุ่งเรือง,ความร้อนแรง ดังนั้นพลังทั้งสองนี้จึงดึงมาเพื่อเป็นการสร้างสมดุลให้กับพลังในร่างกายก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโชควาสนาอย่างใหญ่หลวง


    3.องค์ปฐมพรหมมหากำเนิด(ศิวะลึงค์โยนีศวร)
    เป็นดั่งสัญลักษณ์มหากำเนิดด้วยรูปศิวลึงค์ประทับบนฐานโยนี ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านร่ายพระเวทย์สายพระศิวะทั้งหมดทั้งลงมนต์มหากำเนิดก่อเกิดสรรพสิ่งกำกับไว้ เรียกได้ว่าพระศิวะท่านแฝงพระรูปลงมาเต็มพระญาณถือได้ว่าศิวลึงค์นี้คือเลือดเนื้อและชีวิตของท่านก็ไม่ปาน ด้วยศิวลึงค์ได้ชื่อว่าเป็นอำนาจแห่งการสร้างสูงสุด เป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่เหนือพลังทั้งปวง(ท่านว่าแม้ใครมีวิชาดีมีอำนาจบารมียิ่งใหญ่เพียงใด ก็แข่งขันกับเราไม่ได้ เราข่มเขาได้ทั้งหมด) เป็นสัญลักษณ์แห่งการบูชาและประสาทพรของพระศดาศิวะเจ้า
    ซึ่งการสร้างศิวลึงค์นั้นก็มีหลายประเภทตั้งแต่ทำด้วยมูลโค ดินแม่น้ำ เมล็ดข้าวธัญพืช ศิลา แก้วอัญมณี ไม้ หรือวัสดุมีค่าต่างๆเช่นเงินหรือทองคำ ซึ่งศิวลึงค์ประเภทต่างๆนั้นก็จะมีค่าและมีพลังอำนาจแตกต่างกันออกไปตามวัสดุที่นะมาใช้สร้าง แต่เหนืออื่นใด พ่ออาจารย์ท่านว่าศิวลึงค์ที่มีอำนาจมากที่สุดเหนือกว่าการสร้างด้วยวัสดุทั้งปวงนั้น คือการสร้างด้วยธาตุกายสิทธิ์ที่ขอมาแต่พระเป็นเจ้า ซึ่งเมื่อทำแล้วนั้นท่านว่าจะมีค่ามากเสียกว่าศิวลึงค์ที่ทำด้วยทองคำเสียอีก ว่ากันว่าศิวลึงค์ทองคำนั้น หาผู้ใดบูชาหมั่นขอพรระลึกนึกถึงเสมอ จะทำให้เปลี่ยนชีวิตดึงดูดความมั่นคงร่ำรวยเข้ามา ท่านว่าเป็นเศรษฐีไปตลอดชาตินั่นเอง แต่นี่คือธาตุกายสิทธิ์พ่ออาจารย์ท่านว่าดีขึ้นไปอีกมากกว่านั้นเจ็ดชั่วโคตร จะไม่รู้จักคำว่าตกต่ำเลย
    พ่ออาจารย์ท่านได้มนต์ดวงธาตุนี้ให้เป็นดั่งศิวลึงค์นำมาอัญเชิญญานบารมีของเสด็จปู่ใหญ่พระศิวะ ผ่านพิธีประสระโลหิตและพิธีต่างๆมาแล้วมากมาย ท่านว่าเพื่อให้มีพลังศิกดิ์สิทธิ์แห่งจิตวิญญาณสูงสุดที่จะบันดาลให้เกิดได้ทุกสิ่ง เอาว่าขออะไรยิ่งได้ ยิ่งขอยิ่งสำเร็จด้วยมหากรุณาส่วนนี้ของพระเป็นเจ้าด้วยพระศิวะนั้นท่านก็เป็นผู้ประทานโชคลาภ คนจะไปคิดกันเอาเองว่าท่านเป็นแต่พนักงานทำลายฝ่ายเดียว ซึ่งจริงๆแล้วพ่อนั้นเป็นผู้ทำลายความเศร้าโศก เป็นผู้ทำลายกาลเวลา(ใครตกอยู่ในกาลแห่งทุกข์ท่านนำออกได้ ท่านทำลายให้พ้นได้) เป็นผู้ลิขิตโชคชะตาไม่ว่าร้ายหรือดี ซ้ำยังเป็นผู้สร้างอาคม นี่รู้หรือไม่ว่าพลังงานพระเวทย์อาคมต่างๆล้วนมีจุดกำเนิดมาจากพระองค์ทั้งสิ้น เป็นต้นกำเนิดทุกสิ่่ง
    พ่อคือผู้ประทานโชคลาภที่ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ให้ความผาสุข ประทานทุกสิ่งทุกอย่าง ชนแต่โบราณเค้ารู้กันถึงกับขนานนามไว้ว่าสรวัทบ้าง ศุภัทบ้าง สุขทะบ้าง นั่นคือพ่อผู้ประทานโชคลาภอันยิ่งใหญ่ ให้ได้ทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเองด้วยศิวลึงค์นั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งพระผู้สร้างหรือการให้กำเนิดมีอานุภาพถึงขนาดว่าสามารถกระทำสิ่งสมมติให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ ด้วยเชื่อถือกันว่าครูพระสยมนั้นคือเทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์และให้กำเนิดชีวิต ทั้งศิวลึงค์ยังเป็นตัวแทนครูพระสยม มีอานุภาพดลบันดาลปาฏิหาริย์และอำนวยพรแก่ผู้ครอบครองได้ แม้ผู้ใดได้อาราธนาองค์ศิวลึงค์นั้นย่อมพิทักษ์รักษาชีวิตมิให้ต้องอันตรายทั้งปวง ทั้งยังเป็นเครื่องหมายแห่งอำนาจแลความสำเร็จซึ่งเป็นดั่งเกียรติยศสามารถนำพาความเจริญมาสู่ตัวเองตลอดจนครอบครัวและบริวารนับพันนับหมื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์
    ผู้ที่อาราธนาองค์ศิวลึงค์นั้นจะมีอำนาจมากเป็นที่เกรงขามแก่ชนทั่วไป แม้กระทำการแข่งขันหรือกระทำการค้าทำกิจใดๆที่มีคู่แข่งเราก็จะมีอำนาจอยู่เหนือผู้อื่นเสมอ เรียกว่าทำอะไรก็ได้กำไรมหาศาล นอกจากนั้นยังอาราธนาขอต่ออายุคนที่ใกล้สิ้นใจให้พอมีสติเอ่ยวาจาสั่งเสียได้ อาราธนารักษาโรคหรือความเจ็บไข้ที่มองไม่เห็นไม่รู้สาเหตุให้บรรเทาสูญหายได้ ทั้งป้องกันภูติผีปีศาจและไสยศาสตร์ทุกชนิดไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ สามารถบันดาลให้พ้นจากความยากจน เมื่อสิ้นธาตุดับขันธ์ไปย่อมได้อยู่ในคณะของครูพระสยมไม่ตกลงสู่อบายภูมิองค์ศิวลึงค์เห็นเล็กๆอยู่เพียงนี้ท่านมีดวงตามหาศาลถึงหนึ่งพันดวงปรากฏโดยรอบ เป็นดวงตาของครูพระสยมที่จะสอดส่องการมองเห็นออกไปในทุกทิศทาง เป็นดวงตาที่เกิดจากน้ำพระทัยและกำลังวิญญาณของพระองค์ท่านที่ได้มาสถิตย์เพื่อคุ้มครองและอำนวยพรให้กับผู้ที่ได้สักการะ ผู้ใดมีไว้บูชาย่อมถือว่าเป็นวาสนาและบุญลาภของบุคคลนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าศิวลึงค์นี้มีสร้างขึ้นด้วยสิ่งของหลายชนิด แต่หากเป็นศิวลึงค์ธรรมชาติจะมีฤทธิ์มากเป็นที่สุด ยิ่งเป็นศิวลึงค์ที่เกิดจากธาตุกายสิทธิ์ด้วยแล้ว ท่านว่าย่อมมีพลังเหนือธรรมชาติ ใครจะได้ใครจะพบก็ให้เป็นเรื่องของวาสนาแล้วกัน


    4. ผู้กลืนกินตรีโลก(มัจฉาอานนท์)
    อันเขาตรีกูฏดุจหินสามเส้ารองเขาพระสุเมรุ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงใช้ผงกำแพงจรกรวาลปั้นเป็นรูปปลาอานนท์หนุนเขาไว้ทำหน้าที่เสมือนส่วนฐานมีภาระที่หนักหนา ใหญ่หลวง เพราะต้องแบกรับภพภูมิต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก ด้วยเขานี้จะแบ่งเขตแดนโลกต่างๆให้ขาดออกจากกันด้วย หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นสถานที่แบ่งเขตสวรรค์ มนุษย์ และบาดาล แยกดินแดนมนุษย์ เทวดา พรหม เปรต อสุรกาย พ่ออาจารย์ท่านจึงเปรียบเขาพระสุเมรุเป็นรากฐานของวัฏจักรภพภูมิทั้งหมด ท่านว่าเมื่อปลาอานนท์หนุนเขาก็จะยกเขาพระสุเมรุที่เป็นแกนผลึกจักรวาลขึ้นพร้อมๆกันด้วย เมื่อยกขึ้นจึงดุจยกได้ทั้งหมดลั่นฟ้าสะเทือนสวรรค์
    นับจากอดีตกาลเนิ่นนานผ่านพ้นมา พ่ออาจารย์ท่านว่ามนุษย์นั้นแบกรับเศษเสี้ยวกฏของวัฏสงสารเอาไว้ บางคนเกิดมาตามกรรมลิขิต มีภาระความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่นเขา ต้องทำงานใช้ชีวิตเหมือนแบกโลกอยู่ทั้งใบแม้กระนั้นก็ยังหาประโยชน์และความสุขอะไรกับใครเขาไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาชีวิตคนเหล่านั้นเสมือนยอดเขาตรีกูฏ เพราะเขานั้นล้วนมีภาระหนักเทียมฟ้าที่ต้องแบกเอาไว้ตลอดเวลาเสมอกันด้วยท่านเวทนาเหล่าคนที่มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบหนักทั้งหลาย ท่านว่าบางคนหนักจนรู้สึกเหมือนภาระจะทับตัวตายตอนไหนก็ได้ ตรงนี้ใครไม่เคยเจอเขาก็จะไม่รู้ ทั้งๆที่เป็นคนเสมอกัน แต่ความรับผิดชอบหน้าที่กลับมีไม่เท่ากัน บางคนนั้นภาระก็หนักเกินกำลังของเขาไปมาก ยิ่งแบก ยิ่งรับ ก็ยิ่งบีบชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเอาเคล็ดการสร้างมัจฉาโต้วารีที่มหาพรหมยมราชได้เคยแนะนำสอนสั่งท่านไว้ ว่าให้ทำวิชานี้ให้กับคนที่หน้าที่มีปัญหามาก มีภาระความรับผิดชอบหนักได้ลอยตัว ให้ชีวิตพ้นจากเศษกรรมนั้นจึงเป็นที่มาของการสร้างปลาอานนท์ผู้กลืนกินตรีโลกนี้ นอกจากจะได้สร้างปลาอานนท์แล้วรูปปลานี้พ่ออาจารย์ท่านยังถือเป็นกฤติยาคมแฝดอีกขนานหนึ่งด้วย
    - ประการแรก คือความเชื่อเรื่องปลาอานนท์ ด้วยตามลัทธิพราหมณ์นั้นว่าปลาอานนท์นอนหนุนโลก เพราะมีร่างกายใหญ่โตโอฬารมากมายเหลือคณา เล่ากันว่าหากวัดความยาวของปลาอานนท์นี้นับได้เป็นพันๆโยชน์ทีเดียว โดยปกตินั้นปลาอานนมักจะนิ่งสงบและแบกโลกไว้ แต่อยู่มาก็อาจจะเกิดความเมื่อยขบ ก็เลยพลิกตัวบ้างเพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบทที่ได้แบกโลกไว้จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวภัยพิบัติเหนือผิวโลก ลมฟ้าแปรปรวน....เป็นต้น พ่ออาจารย์ท่านจึงถือคติที่ปลาอานนท์นั้นรองรับยอดเขาตรีกูฏอีกชั้นหนึ่งว่าเขาเป็นปลาที่มีภาระหนักมาก เพราะจะต้อง แบกน้ำหนักของโลกแลภพภูมิต่างๆไว้ ที่จะมีสิ่งใดแบกรับภาระยิ่งใหญ่หนักหนาเกินปลาอานนท์นี้เป็นไม่มี
    - ประการที่สอง คือความเชื่อดึกดำบรรพ์ของกำเนิดมนุษยชาติ ที่องค์ศรีหรินารายณ์ทรงอวตารมาเป็นปลาศะผะริ ในกาลนั้นลูกปลาน้อยได้ถูกพระมนูช้อนเอาไปเลี้ยง แต่เมื่อเอาไปเลี้ยงในภาชนะเล็กๆปลาก็โตใหญ่คับภาชนะอย่างรวดเร็ว เอาไปใส่ในสระไม่นานก็คับสระ เอาไปใส่ในคลองไม่นานก็คับคลอง เอาไปใส่ในแม่น้ำไม่นานก็โตใหญ่เต็มแม่น้ำ พ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาปลาศะผะรินี้แม้อยู่ในที่ไหนเปลี่ยนถิ่นไปสถานที่ใดๆแม้นมีภัยจากนาคาและมัจฉาสังหารมากมาย แต่ปลาน้อยก็กลับแคล้วคลาดรอดพ้นเติบใหญ่อุดมสมบูรณ์ชนิดโตไวไปยิ่งกว่าโตวันโตคืนเสียอีก ท่านว่าปลาศะผะรินี้มีพลังในการพัฒนาการแม้นนำมาสร้างเป็นเครื่องราง ใครได้ใช้เขาก็จะใหญ่โตคับบ้านคับเมือง ซ้ำเมื่อน้ำท่วมโลกพระมนูได้นำคนและสิ่งจำเป็นต่างๆของมนุษยชาติลงเรือใหญ่ ปลาศะผะรินี้ก็ได้ชักลากจูงเรือไปให้พ้นจากเขตอันตราย พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเป็นปลาวิเศษเพราะเขาให้ความช่วยเหลือในเวลาที่มนุษยชาติเข้าตาจนให้รอดพ้นจนอยู่รอดปลอดภัย จึงเป็นอีกคติหนึ่งที่ว่าพญาปลาต้องช่วยคน ต้องแบกภาระใหญ่ช่วยคนทั้งโลกชักจูงไปส่งให้ถึงฝั่ง ซ้ำยังซ้อนด้วยฤทธิ์อันเป็นปัจเจกแห่งนารายณ์อวตารที่อยู่ไหนก็เจริญเติบโตคับที่ คับบ้าน คับเมืองเช่นนั้น
    ด้วยท่านประสงค์ที่จะใช้เคล็ดวิชามัจฉาโต้วารีของมหาพรหมยมราชสร้างวาสนาใหม่ให้กับมนุษย์ ดุจช่วยเขายกตรีโลก แบกวัฏจักร แบกภาระ แบ่งปันกฏของกรรม ท่านจึงยกพญาปลาทั้งสองนั้นเพื่อมาทำวิชาร่วมกันทั้งปลาอานนท์และปลาศะผะริท่านจึงได้นำผงกำแพงจักรวาลปั้นเป็นรูปปลาหนุนดวงธาตุที่ใช้แทนเขาพระสุเมรุ ท่านว่าตอนเสกนั้นก็ยากเพราะต้องแบ่งจิตปลาอานนท์มาตั้งเป็นรูปนามเสียใหม่ซ้ำยังต้องเชิญองค์ศรีหรินารายณ์ให้อวตารเล่นฤทธิ์ไปพร้อมกัน ท่านว่าวิชาปลานี้จึงสำคัญมาก แต่หากจะทำให้เพียงแรงฤทธิ์แล้วก็จะเสียประโยชน์ใหญ่ไป เพราะในหลายๆครั้งของที่มีอานุภาพมาก มีฤทธิ์แรง มีเทวดารักษาแต่กลับใช้ช่วยสงเคราะห์คนไม่ได้ก็มีอยู่มากมาย ทั้งนี้ท่านจึงได้ยกพญาปลาทั้งสองอันมีวิสัยเบื้องต้นที่ต้องแบกภาระยิ่งใหญ่แทนมวลมนุษย์อยู่แล้วมาเป็นหัวใจหลักกอปรกับวิสัยปลาเวลาเจอเคราะห์กรรมแลภัยอันตรายมักจะดีดตัวพลิกตัวต่อต้านคลื่นลมแรงกรรมเสมอ พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำของมงคลเอาไว้ดีดชีวิตด้วยอานุภาพพญาปลาทั้งสองขึ้นมา ดุจพญาปลาร่วมแบ่งปันรับภาระแบกกฏวัฏจักรสงสารนั้นไว้แทนตัวเรา ไอ้ที่หนักหนาสาหัส มันก็จะเบาลง และเบาลง ค่อยๆหมดไป
    ท่านว่าปลาของเรานี้ใหญ่โตนักพอที่จะโอบโลกได้ ทั้งยังมีอายุนับกัปกัล เป็นปลาที่มีฤทธิ์มาก แม้เทวดาหมู่อมรคนธรรพ์ ฤาษีสิทธิ์วิทยา นาคา นาคี หรืออสุรกายภูติผีใดๆ ก็ล้วนแล้วแต่หลีกเลี่ยงเลือกที่จะไม่ยุ่งไม่เข้าใกล้เสียดีกว่า ดังนั้นคนใช้ชีวิตจึงไร้ปัญหาไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆเรียกว่าแม้มีมารมาผจญก็แคล้วคลาดไปเพราะเขาไม่อยากยุ่งไม่อยากแตะต้องเราด้วยเกรงอานุภาพพญาปลานั้น พญาปลานี้ท่านว่ายิ่งใช้ยิ่งเก่ง ยิ่งเลี้ยงยิ่งโตมีฤทธิ์มาก เพราะเขาจะแบกรับภาระปลดเปลื้องจิตวิญญาณเราให้เบาสบายอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าอะไรที่หนักๆเอาไปลงกับปลา ตัวเรานี้ไม่เอาเลย เคราะห์กรรมอะไร เรื่องหนักหนาสาหัสอะไรเข้ามายกปลาเทิดหัวบอกเขาไว้ ว่า"พ่อปลาจ๋ารับแทนฉันหน่อยสิ " ท่านว่ากาลแห่งทุกข์และภาระหมักหมมทั้งหลายล้วนไม่ได้กล้ำกรายทีเดียว พอเรายกไปลงกะปลาแล้ว เรื่องต่างๆนั้นล่วนอัศจรรย์ทั้งสิ้น ดุจเข้าไม่ถึงตัวเรา ไม่ใช่ธุระหรือภาระของเรา ซ้ำปลานี้ท่านยังเสกไว้ให้เก่งครบถ้วนด้วยมีแท่งยามหาสะเดาะให้เสี่ยงโชคเรียกลาภกันได้อยู่เนืองๆ


    5. ดวงแก้วจตุธาตุมณี
    เมื่อสร้างดวงธาตุนั้นพ่ออาจารย์ท่านก็คิดถึงของวิเศษสี่ประการที่มีอำนาจล่วงกฏเกณฑ์ของมหาวัฏฏะได้ นั่นคือจตุรมณีสี่ชนิดอันมีกำเนิดขึ้นมาเองในมหาจักวาล เป็นยอดยิ่งของแก้วมณีและธาตุทั้งหลายอันประเสริฐยิ่งกว่าแก้วจักรพรรดิ์ ซึ่งการเกิดขึ้นของดวงแก้ววิเศษทั้งสี่นี้ ด้วยมหาอานุภาพที่ยังผลให้ผู้ครอบครองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตจากสามัญขึ้นสู่จุดสูงสุดในฉับพลันทันที แก้วมณีทั้งสี่อันมีอานุภาพไร้ขอบเขตสิ้นสุดนั้น บางชนิดก็ให้ลาภผลให้ทรัพย์ต่อเนื่องในทุกๆวันไม่ขาดตกบกพร่อง บ้างก็คุ้มครองไม่ให้อคติและทุกข์คติใดมาล่วงเกินทำอันตรายแก่ผู้ครอบครองได้ บ้างก็คุ้มกันอันตรายทั้งหลายอันเกิดจากมหาธาตุทั้งสี่ บ้างก็ดลบันดาลให้สำเร็จกิจทุกประการดั่งใจนึก บ้างก็เปลี่ยนแปลงฐานแห่งดวงชะตาและโชคชะตาเสียใหม่ให้ดีดขี้นและเจริญยิ่งๆขึ้นในฉับพลันทันที แก้วมณีอันประเสริฐทั้งสี่ประการนี้ ได้แก่
    - แก้วเกาสตุภะ
    - แก้วจินดามณี
    - แก้วศยามันตะกะ
    - แก้วรุทรมณี
    ซึ่งการปรากฏขึ้นของมหามณีทั้งสี่นี้ยังความเป็นไปให้มหาจักรวาลโกลาหล ด้วยทุกสรรพชีวิตล้วนคาดหวังจะครอบครองดวงแก้ววิเศษดวงใดดวงหนึ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะมนุษย์ เทวดา อสูรตลอดจนสิ่งมีชีวิตทุกจำพวก ก่อให้เกิดมหาสงครามแย่งชิงกันอยู่เนืองๆ สุดท้ายดวงแก้วทั้งสี่อันมีมหาคุณเป็นอเนกประการแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในพิภพและมหาวัฏฏะใด ก็ได้ไปอยู่ในความครอบครองของบุคคลต่างๆทั้งสี่ท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าอันแก้วเกาสตุภะกับแก้วศยามันตะกะนั้นได้อยู่ในความครอบครองของพระวิษณุนารายณ์ ในส่วนของแก้วศยามันตะกะนั้นเบื้องหลังพระวิษณุเจ้าก็ได้ประทานไว้ให้เป็นของคู่สวรรค์แก่องค์อินทร์อีกชั้นหนึ่ง แก้ววิเศษจินดามณีนั้นอยู่ในครอบครองของท้าวมหาพรหมพ่ออาจารย์ท่านว่าแม้มนต์จินดามณีที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเพียงมนต์กำกับดวงแก้วซึ่งเรียนสืบต่อกันมาจากท้าวมหาพรหมประทานให้องค์อินทร์และสืบเนื่องมาถึงในชั้นมนุษย์ แม้เป็นเพียงมนต์ก็มีอานุภาพมากเหลือคณา แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ยังไม่เท่าอานุภาพของดวงแก้วจินดามณีที่แท้จริง ประการสุดท้ายแก้วรุทรมณีนั้นก็อยู่ในการครอบครองของครูพระสยมหรือองค์พระศดาศิวะนั่นเอง เมื่อแก้วทั้งสี่ได้รับการถือครองและใช้เป็นเครื่องประดับวรกายก็ดลให้เกิดความความเจริญ รุ่งโรจน์ มั่งคั่งแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนแก่ผู้ครอบครอง ทั้งยังอภิบาลรักษาปกป้องภัยทั้งหลายไม่ให้กระทำอันตรายใดๆได้ ซึ่งเมื่อแก้วทั้งสี่ได้ผู้ครอบครองที่แท้จริงแล้วก็ไม่เคยเปลี่ยนมืออีกเลย จนทำให้เรื่องราวของดวงธาตุจตุรมณีแห่งสรวงสวรรค์นั้นขาดการกล่าวถึงและเลือนหายไป
    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าบางครั้งคนบูชาองค์เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ด้วยจริตและการกระทำของตัวมนุษย์เองก็ยังทำให้เทพถอยห่าง เกิดธรรมสังเวช และวางเฉยเอาได้ เรียกว่าไม่เข้าตาและไม่ถูกโฉลกกันก็ได้ทำให้ท่านวางเฉยไม่เอาเป็นธุระ ไม่ช่วยเหลือใดๆ เนื่องจากองค์เทพทั้งหลายท่านก็มีทัศนะและความคิดเป็นของท่านเองเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริว่าหากจะเอาอิทธิมงคลที่ยังผลช่วยเหลือผู้ครอบครองโดยไม่ต้องมีชีวิตและความนึกคิดเป็นของตัวเองแล้วก็คงจะต้องใช้อัญมณีสุดประเสริฐทั้งสี่ประการของมหาจักรวาลแต่เพียงเท่านั้นเพราะสามารถพลิกฟ้าคว่ำดินได้ฉับพลันทันทีและมีอานุภาพแรงกล้าที่สุดในบรรดาของวิเศษอันจะเกิดมีในมหาจักรวาลทั้งปวง แต่ดวงแก้วทั้งสี่นี้ก็ยังเป็นของมีจิตวิญญาณในตัวเองถ้าเอาไปใช้ก่อกรรมกระทำชั่วรังแกเอาเปรียบผู้อื่น อานุภาพของดวงแก้วก็จะดลให้เกิดผลร้ายแก่ผู้ครอบครองเช่นกัน
    พ่ออาจารย์ท่านว่าดวงแก้วทั้งสี่นี้สร้างยากมากเพราะท่านต้องทำตามคำแนะนำของครูทั้งสี่คือครูพระสยม ครูพระวิษณุนารายณ์ ครูท้าวมหาพรหม ครูพระอินทร์ โดยท่านได้เชิญครูมากำกับวิชาประสิทธิมหาธาตุด้วยแก้วทั้งสี่ของครูให้มีอานุภาพเสมอกัน
    ทั้งยังต้องแสวงหามวลสารตามที่ครูสั่งซึ่งหายาก บางอย่างก็อยู่ในป่า อยู่ใต้ดิน อยู่ในถ้ำ อยู่ในน้ำแตกต่างกันไป ตลอดจนได้หาศิลาวิเศษตามธรรมชาติอันเป็นที่สิงสถิตย์แฝงญาณของครูทั้งสี่ตั้งแต่ศิวลึงค์ธรรมชาติของพระศิวะ ศาลิครามอันเป็นตัวแทนที่พระวิษณุเจ้าสาปตัวเองมายังโลก ศิลาพรหมลูกฟักอันเป็นจุดนิทราแห่งท้าวมหาพรหม ศิลาดวงตาสวรรค์ของพระอินทร์ที่ท่านสาปสรรค์ให้เป็นตัวแทนท่านปรากฏแก่ตาโลก พ่ออาจารย์ท่านนำมหาศิลาทั้งสี่อันมีธาตุและอิทธิคุณสูงสุดในเทวานุภาพและมวลสารว่านยามาบดแยกกันกอปรด้วยผงวิเศษที่ท่านลบด้วยพระเวทย์และหัวใจของดวงแก้วทั้งสี่ ตลอดจนคาถากำกับแก้วทั้งสี่ตามที่ครูทั้งสี่สอนและมอบให้ทำเป็นการเฉพาะ ซ้ำยังย้ำให้เก็บเป็นเรื่องลับหนักหนาห้ามถ่ายทอดหรือเผยแพร่ออกไป ท่านว่าใช้ว่านใช้ยามานั่งลบผงแต่ละอย่างร้อยรอบพันรอบ ก่อนจะนำผงเหล่านั้นมาเข้ากับน้ำทิพย์อันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่ท่านเก็บสะสมไว้ ทั้งน้ำในรอยพระพุทธบาท น้ำผุดในวิษณุบาท น้ำในเศียรพระพุทธรูป น้ำที่หลั่งออกมาเองจากเทวรูปพระอรรถนารีศวรเนื้อสัมฤทธิ์ ตลอดจนน้ำในบ่อธรรมชาติที่มีอาถรรพ์และความศักดิ์สิทธิ์แต่โบราณที่ท่านเก็บรวบรวมไว้ท่านนำมาผสมปั้นเป็นฐานเข้ากับผงกำแพงจักรวาลเพื่อใช้รองดวงธาตุ พ่ออาจารย์ท่านได้เชิญครูถ่่ายทอดกำลังแก้วทั้งสี่ชนิดคือแก้วเกาสตุภะ,แก้วจินดามณี,แก้วศยามันตะกะ,แก้วรุทรมณี ท่านว่าทำทั้งทีก็เอาให้ดีที่สุดแบบไม่เคยปรากฏมีเป็นประวัติการณ์มาก่อนที่ดวงแก้วทั้งสี่นี้จะได้มาอยู่รวมกัน
    ด้วยดวงแก้ววิเศษทั้งสี่นั้น แม้ปกติแยกกันอยู่ ก็มีอานุภาพดลบันดาลให้มหาเทพทั้งสี่เป็นยอดบุรุษของจักรวาล สูงสุดจนไม่มีผู้ใดคิดล่วงเกินหรือล่วงละเมิดได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งนำมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วยิ่งไม่ต้องคิดเลย ทั้งนี้ดวงแก้วยังมีญาณบารมีจากครูพระสยม ครูพระพรหม ครูพระวิษณุนารายณ์ ครูพระอินทร์สถิตย์อยู่ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องใดที่ครูองค์ใดท่านไม่ยุ่งไม่ช่วยครูอีกองค์ก็จะช่วยฉับพลันทันที ขึ้นอยู่ที่ว่าเรื่องที่เราขอเป็นหน้าที่ของผู้ใด เช่นหน้าที่แห่งการสร้างสรรค์พัฒนาความเจริญของพระพรหม หน้าที่แห่งการทำลายล้างอัปมงคลเพื่อให้เกิดมหามงคลตลอดจนประทานพรอันประเสริฐของครูพระสยม หน้าที่แห่งการธำรงค์พิทักษ์รักษาชีวิตให้ดำเนินไปอย่างปรกติสุขของพระวิษณุนารายณ์ หน้าที่แห่งการบังคับควบคุมมหาธาตุตลอดจนอภิบาลรักษาผู้ประพฤติธรรมของพระอินทร์
    ดวงแก้วทั้งสี่ที่รวมเป็นหนึ่งนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราแทบจะไม่ได้เสกเลย เพราะต้องรบกวนครูทั้งสี่เท่านั้น แม้นจะระดมครูพระครูเทพซักหมื่นแสนก็ทำไม่ได้ เนื่องจากเป็นของวิเศษในมหาจักรวาลและเป็นของคู่บารมีเฉพาะผู้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านต้องอาราธนาครูทั้งสี่ให้เมตตาทำให้เป็นดวงแก้วสำเร็จ ซึ่งครูทั้งสี่ก็ได้เมตตาถ่ายพลังจากแก้วต้นกำเนิดให้เต็มที่ท่านว่าต้องทำไปทีละขั้นทีละชนิดก่อนจะเสกรวมและให้ครูพระวิษณุนารายณ์สำเร็จแก้วเกาสตุภะเป็นลำดับสุดท้าย ท่านว่าทำยากมากกว่าจะได้แก้วที่มีชื่อว่าเหนือกว่าแก้วจักรพรรดิ์เช่นนี้ กว่าจะได้แก้วทั้งสี่อันประเสริฐซึ่งไม่มีผู้ใดระลึกนึกถึงแล้วในมหาจักรวาล ท่านว่าทำครั้งนี้ก็เพื่อเปลี่ยนตำนานให้กลับคืนสู่ความเป็นจริง


    เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำหนักหนาว่าดวงธาตุยาตรานี้เป็นของสูงและทำยาก ต้องเสกกันเป็นสิบปี ไม่ใช่ของเล่นๆด้วยเป็นตัวแทนของมงคลวัตถุห้าชนิดซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ล้วนแต่ทรงพลังและเป็นมหามงคลทั้งสิ้น ท่านต้องแยกทำวิชาทีละอย่างทีละพิธีจนเสร็จจนเต็ม พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้ด้านไหนทางไหนก็อธิษฐานกันเอาเลย จะให้เป็นอะไรในห้าสิ่งนี้ก็บอกกับเขาเอา ฉันบอกได้คำเดียวว่า...นี่เป็นของทิพย์

    ### วิธีใช้
    ท่านให้หาน้ำอบน้ำปรุงประพรมดวงธาตุยาตราเวลาอธิษฐานขอพรเสร็จ แล้วจึงเอาดวงธาตุนั้นมาเจิมหน้าเปิดบารมี พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเพียงเท่านี้ชีวิตเราก็จะเดินต่อไปไม่มีวันถอยหลังลงเหว คือก้าวไปข้างหน้าและเจริญขึ้นเรื่อยๆ ด้วยดวงธาตุเป็นที่สุดแห่งความปรารถนาทั้งหกภพและหมื่นจักรวาล ไม่มีสิ่งใดเกินคุณค่าของดวงธาตุนี้เลย ท่านตั้งใจทำให้ไว้ปรับพื้นฐานเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเอง เมื่อประสบพบความสุขเสมอใจแล้วก็ให้เร่งพิจารณาธรรม สร้างกุศลกรรม อย่าหลงไปกับอำนาจเงินตราและความสุขจอมปลอมใดๆ

    *** ดวงธาตุยาตราเบญจราชันมหาวิสุทธิวัตถุนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะไปทำเครื่องประดับทับอกห้อยคอหรือทำเป็นกำไลข้อมือก็ได้(##ท่านกะซิบว่ามวลสารบางตัวที่ใส่ลงไปตอนหลอมนั้นเกินค่าเกินราคาที่จะนึกคิดกันออก และก็เป็นของสูงมาก ท่านว่าในยุคปัจจุบันนั้นท่านพูดออกไปไม่ได้เลยเพราะมันเสี่ยงที่จะพูด) ดวงธาตุนี้ท่านทำไว้สิบสององค์ท่านอาราธนาทำเครื่องคาดเอวซ้ายขวาข้างลำตัวท่านสององค์จึงมีให้บูชาสิบองค์เท่านั้น ท่านว่าของแบบนี้เป็นของทิพย์เขามีเจ้าของอยู่แล้ว คนที่พรหมลิขิตถูกผูกกับเขา ดึงเข้าหาเขา นั่นคือคนที่ได้รับเลือกแล้ว ส่วนคนที่วาสนาไม่ต้องกันทำอย่างไรชีวิตนี้ก็คว้าไว้ไม่ได้ รายการนี้รับจองเฉพะทาง PM ผู้บูชาพ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งชื่อนามสกุลและเรื่องที่ปรารถนาจะขอต่อดวงธาตุตลอดจนหน้าที่การงานของตนเอาไว้ด้วย ท่านจะอธิษฐานเปิดบารมีให้อีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กชาวเขาด้อยโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ดวงธาตุยาตราเบญจราชันมหาวิสุทธิวัตถุ (ผังจักรวาลศรีจักราสุริยันจันทรโคจร) บูชา 2,500 บาท

    75625332-1041744379490631-4370233230608039936-n.jpg 74643578-1035851880084665-7097467992472027136-n.jpg
    75262300-574422209998189-5024309393479434240-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าสะกดเบี้ยดูดจิตพลิกผันสนองกลับปัดอุปสรรค(ผงเหยียบเซียน)

    พระพิมพ์เพชรกลับของพ่ออาจารย์นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าท่านเสกให้มีคุณทางกลับร้ายเป็นดี แต่ถ้าชีวิตใครดีอยู่แล้วจะกลับหนุนให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก * ทั้งใช้พลิกชีวิต,เปลี่ยนชะตาจากหน้ามือเป็นหลังมือให้ดีวันดีคืน ซึ่งการทำพระพิมพ์เพชรกลับนั้นท่านว่าไม่ใช่นั่งทำบล๊อกทำแม่พิมพ์แล้วกดพระขึ้นมาจะมีอานุภาพเป็นเพชรกลับได้ ด้วยพระพิมพ์นี้ผู้ที่จะกระทำการปลุกเสกต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูงซ้ำต้องชำนาญในการเข้าออกสมาธิและเหนือสิ่งอื่นใดเลยนั่นคือต้องทำเป็นต้องรู้คาถาว่าใช้อะไรใช้อย่างไรต้องบริกรรมคาถาปลุกเสกเฉพาะทั้งอนุโลมและปฏิโลม ท่านว่าตอนเสกนี่สำคัญสุดต้องวางอารมณ์ให้เป็นด้วยทำพระเพชรกลับนี้หากจะทำให้ใช้ได้จริงไม่ได้มีดีแค่พิมพ์ทรงแล้วท่านว่าย่อมมีคุณมากแม้วางอารมณ์ผิดคนเสกก็เป็นบ้าได้ทีเดียว(ดังนั้นพระพิมพ์จึงมีอาถรรพ์มาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำพิมพ์แบบบ้านๆไม่ค่อยงามเท่าไหร่เลยกลัวคนเขาจะปรามาสเอาเพราะไม่รู้ว่านี่แหละยอดของดีท่านจึงเก็บไว้เรื่อยมา) ด้วยเพชรกลับนี้ท่านทำให้ดีทั้งนอกและดีทั้งในจึงมีอิทธิฤทธิ์อิทธิคุณที่เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของคนที่นำไปบูชาติดตัวไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแม่นมั่น

    นอกจากพิมพ์พระแล้วพ่ออาจารย์ท่านยังเน้นเรื่องมวลสารให้เข้มข้นที่สุด ท่านว่าทำพระหนหนึ่งต้องมีดีให้เค้าใช้ได้หลายด้าน ท่านจึงใช้ผงที่ลบเก็บสะสมไว้หลายสูตรมาเข้ากับพระเพชรกลับนี้ ได้แก่
    - ผงมหาสะกดไมยราพสะกดทัพ ใช้สะกดวิญญาณ,ล้างอาถรรพณ์ ดีเด่นทางด้านป้องกันภูตผีปีศาจ วิญญาณร้าย,ผีภูต,ผีพรายมิกล้ากล่ำกลาย ทั้งผงนี้ยังใช้ล้างอาถรรพณ์อันไม่เป็นมงคลต่างๆในชีวิตเราได้ทั้งสิ้น(ท่านว่าเดี๋ยวนี้คนต้องอาถรรพ์กันเยอะทั้งคนเล่นของก้มากขึ้นทุกวันจนคุมไม่อยู่จะทำพระเพชรกลับไปกลับชีวิตใครเขาได้ก็ต้องเอาเรื่องล้างตัวอาถรรพ์ออกให้ได้ก่อนจึงจะกลับได้) ทั้งเป็นมหาสะกด ใช้สะกดจิตสะกดใจถึงมีฤทธิ์เก่งกล้าดั่งหนุมานชาญสมรก็ยังสะกดให้หลับได้(ไมยราพสะกดทัพ) ตามตำรากล่าวไว้ว่าวิชากล้องยาเป่ามนต์สะกดทัพของพญาไมยราพนั้นมีฤทธิ์มากแม้จะสะกดองค์นารายณ์อวตารก็ยังทำได้ ดังนั้นวิชาผงนั้นก็เช่นกันพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใช้สะกดได้แม้เทพยดานั่นแหละจึงจะกดตัวอาถรรพ์ลงไปได้
    - ผงตัดพลัง(สยบดวง) วิชานี้จริงๆแล้วท่านว่าต้องเรียกสยบดวงแต่ท่านเอาที่วิธีใช้พอจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็เหมือนเราตัดพลังคนอื่นเค้า เวลาเราจะทำกิจอันใดที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้อื่นคุณวิชานี้จะสยบดวงของเขาไว้ ใช้สะกดดวงทั้งลูกค้า คู่แข่งและคนรอบข้างเพื่อเบิกทางสู่ความมั่งคั่งของตนเอง ท่านว่าอะไรก็ตามที่เป็นการแข่งขันทั้งการค้า,ธุรกิจ,การเสี่ยงโชค หรือคนที่รู้ตัวว่าชีวิตมีความเสี่ยง เราทำแล้วมันไม่แน่ไม่นอนนะแบบไม่แน่ว่าจะได้ ผงนี้จะหนุนเราให้กิจที่ทำเป็นไปได้ด้วยดีดั่งเราตัดพลังคนอื่นเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้เพิ่มโอกาสในหน้าที่การงานจะได้มีทรัพย์สินดั่งที่ต้องการ ให้ชีวิตรับเอาแต่สิ่งที่ดีมากกว่าคนอื่น จะทำอะไรก็มีลาภลอยไม่ขัดสน
    - ผงพระเจ้าดับทุกข์ ท่านว่าผงนี้ดีเพราะมีตัวรู้ ให้เราอธิษฐานดับทุกข์ได้ตามสั่ง จะใช้ปัดเคราะห์กันความก็ทำได้ตามต้องการ ทั้งยังเป็นกำบังแม้แต่อริศัตรูหมู่มารร้ายมาพบเจอย่อมไม่เห็นเราทำร้ายเราไม่ได้ไม่ต้องเนื้อตัว ท่านว่าผงนี้สำคัญเพราะผสมลงไปให้องค์พระมีคุณทางดับทุกข์,ปัดเคราะห์,เตือนภัย ถ้าเมื่อไหร่ที่ชีวิตเรามีภัยจะมีเหตุดลใจให้ฉุกคิดก็เป็นอันที่รู้กันว่าจะเกิดภัยอันตรายมาสู่ตัวให้ระวังภัย ทั้งคุณวิชานี้ยังมีผลงอกงามใครที่ขยันหมั่นสวดหมั่นอธิษฐานสิ่งใดไว้อะไรๆก็จะดีขึ้น แม้ฉุกเฉินต้องเผชิญอันตรายก็จะบังเกิดเป็นเกราะคุ้มภัยไม่ให้มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นเลย
    - ผงไก่กุกเรียกทรัพย์ ผงไม้นี้ท่านว่าเป็นทั้งเสน่ห์ก็ได้ใช้ทางเรียกทรัพย์ก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกเสริมใส่ไว้ด้วยวิชาเมตตาอันเหลือล้นด้วยคนไหนพกไม้ไก่กุกไม่ว่าชายหรือหญิงย่อมเป็นที่ต้องจิตตรึงตาสะกดใจชนทั้งผองเมื่อได้พบหน้า จะเจรจาความอะไรก็เป็นไปตามปากสำเร็จสมหวังทุกประการ ผงนี้ท่านว่าดีทางเมตตาหากิน จะหาคู่หาทรัพย์ก็ใช้ได้ทั้งนั้นสุดแท้แต่จะต้องการเถิด
    - ผงเหยียบเซียน ท่านว่าวิชานี้ก็เป็นการหนุนดวงอย่างหนึ่ง แต่ต้องเรียกว่าหนุนเน้นไปในทางโชคลาภและการแข่งขันทุกรูปแบบโดยเฉพาะ ชนิดที่ว่าหากไปเจอใครมีอาถรรพ์มีวิชาอะไรในตัวเราข่มเขาหมด ของที่ผู้อื่นใช้จะอ่อนแรงดั่งเสือที่ว่าดุยังนอนหมอบสยบลง จะใช้ทางไหนก็ได้ท่านว่าใช้เพื่อให้ทุกสิ่งที่มันได้ชื่อว่าดีกับตัวเราเข้ามาในชีวิต หนุนให้ตัวเราสูงยิ่งขึ้นเหยียบเอาชัยเหนือผู้อื่นจนเขาหมอบกราบยอมแพ้กันแบบนั้น คนที่ชีวิตไม่ค่อยจะดีท่านว่าผงนี้จะพลิกกลับให้ชีวิตพลิกผัน จะกลับร้ายกลายเป้นดี พลิกชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองทั้งการเงินการงานความรักการเสี่ยงดวง...ครบเครื่อง
    - ผงภาคพระราหู วิชาสายราหูนั้นใช้ได้หลายเรื่องจะเน้นให้บังเกิดโชคลาภ ถามหาโชคใหญ่ เปลี่ยนคนโชคร้ายให้โชคดีมีทรัพย์ คนที่ดวงตกดวงไม่ดีดวงด้านการเงินเจ๊งเปลี่ยนให้ทำมาค้าขึ้นค้าขายคล่อง คนที่ดวงด้านความรักไม่ดีก็จะมีแต่คนรักคนเมตตา คนไม่มีคู่ก็จะพบคู่เรียกว่าใช้ได้หลายทาง แต่วิชานี้ส่วนใหญ่ต้องทำในคืนราหูอมจันทร์บางอย่างพ่ออาจารย์ท่านต้องทำอาถรรพ์นำผงออกมาอาบแสงจันทร์เป็นปี บางอย่างก็ผ่านพิธีรับส่งราหูมาหลายพิธี ที่เรียกว่าผงภาคพระราหูนั้นเพราะท่านท่านทำผงวิชาราหูหลายตำรับนำมาลบรวมกันเพื่อเน้นกำลังให้แรงที่สุดด้วยวิชาสายราหูนั้นจะเรียกเรียกเงินเรียกทองเรียกโชคลาภทรัพย์สินความร่ำรวยยิ่งยิ่งขึ้นไปให้เกิดกับผู้ที่นำมาสักการะบูชา ท่านว่ามีครบหมดทั้งราหูหาทรัพย์,ราหูค้นทรัพย์,ราหูรับทรัพย์,ราหูสะกดภูมิ(ท่านว่าตัวนี้แรงเพราะสะกดได้หมดแม้แต่เจ้าที่พระธรณีหรือเทวดาทั้งหลายรวมไปถึงสะกดอาถรรพ์สถานที่ต่างๆที่เราอาศัย) ท่านอธิษฐานจิตฝากพระราหูให้ช่วยเรื่องทรัพย์และการเสี่ยงดวงเป็นทางเฉพาะ ให้ผู้สักการะมีคนอุปถัมภ์คอยช่วยเหลือเวลาไร้ที่พึ่งพิง
    - ผงสมบัติพระอินทร์ ใช้สร้างคนให้เป็นมหาเศรษฐีเน้นทางมหาลาภใหญ่ ให้ผู้อาราธนาประสบความสำเร็จสมหวังในสิงที่ปรารถนาทั้งค้ำคูณหนุนดวงให้เจริญรุ่งเรืองดุจมีสมบัติเทวดาสมบัติพระอินทร์มีวาสนาจอมเทพนำทางชีวิต ผงนี้ท่านว่าใส่ไว้เดินไปทางไหนติดต่อใครไม่มีคนกล้าเกลียดเป็นที่รักของทั้งคนและเทวดาทั้งหลาย ไม่มีคำว่าอดอยากยากจนเพราะเป็นของทิพย์ ต่อให้ยามขัดสนหมดหนทางจริงๆก็จะเห็นทางไป เห็นทางออกที่ใช้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
    - ผงมนต์ดูดจิต ใช้ดูดจิตดูดใจให้มีคนมารักใคร่จะดูดจิตให้รักหรือดูดทรัพย์เข้ามาหา ดูดอะไรมาใส่ปากให้เรากลืนให้เรากินก็ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่ที่เจตนาเอาไปใช้ เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมและมหาลาภอยู่ในตัวเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือดูดจิตเรียกใจคนได้
    - ผงเต่าเลือนสูญความ ท่านว่าปกติวิชาเต่าก็ดีทางทำมาค้าขึ้นหนุนดวง เป็นสุดยอดทางมหาลาภเน้นโชคลาภดีอยู่แล้ว แต่เต่าเลือนนี้ยังช่วยให้ทุกข์ให้ถ้อยความสูญไปผ่านพ้นไปด้วยดีให้มีชัยชนะเหนือศัตรูคู่แข่ง ชนะคดีทำให้ศัตรูเลอะเลือนงุนงง ถ้าเราใช้เพื่อการแข่งขันผงนี้จะช่วยให้เรามีชัยเหนือศัครูคู่แข่งเสมอ ที่ทุกข์ที่ร้อนนั้นสูญสิ้น มีเรื่องมีความติดตัวก็เบาลงคลายลงผ่อนลง พ่ออาจารย์ท่านว่ามีชีวิตอยู่ย่างปกติสุขตามที่ควรจะเป็นนั้นแหละดีที่สุด

    เพื่อจะเน้นให้องค์พระเพชรกลับนั้นใช้ได้หลายทางครบเครื่องพ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นลงเรื่องสำคัญๆโดยเฉพาะเรื่องโชคลาภเรียกเงินเรียกทองเรียกโชคอย่างมหาศาล ท่านว่ารุ่นนี้ใช้เสี่ยงดวงเสี่ยงโชคได้กลับคนที่ไม่เคยโดนไม่เคยถูกให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเป็นเมตตามหานิยมให้มีคนรักคนเมตตาต่อเราไม่ขาดเลย ตลอดจนสะกดศัตรูคู่แข่ง พระเพชรกลับรุ่นนี้นอกจากเน้นผงแล้วยังมีมวลสารที่พ่ออาจารย์ท่านจดไว้คร่าวๆผสมลงไปด้วยอีกมากทั้งผงว่านไพรดำ,ผงดินเจ็ดท่าน้ำ,ดินใจกลางประสาทขอมเจ็ดแห่ง,ผงอิทธิเจ,ผงเทพรัญจวน,ผงเทพรำลึก,ผงเทพทันใจ,ผงเทวดาตาทิพย์,ผงคาถาเสี่ยงโชค,หัวใจนางกวัก,เทวดาล่องหน,ผงนะเศรษฐีนะมีนะเงิน,ผงจิ้งจกสองหาง,ผงเดือยงูเหลือม,ผงดีจรเข้,ผงหิงหายผี,ผงเทพสังหรณ์,ว่านช้างผสมโขลง,ว่านเสน่ห์จันขาว,ว่านเสน่ห์เขียว,ว่านเพชรหึง,ว่านดอกทองตัวผู้,ว่านดอกทองตัวเมีย,ว่านจูงนาง,ว่านห้าร้อยนาง,ว่านแก้วสารพัดนึก,ว่านสาลิกาลิ้นทอง,เต่านำโชค,ลูกไก่ทอง,ว่านมหาโชค,เครือเขาหลง,ว่านมหาลาภ,ว่านรางเงิน,ว่านเศรษฐีน้ำเต้าทอง,ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์,ผงรักซ้อน,ไม้ยอ,ไม้มะยม,ไม้งิ้วดำ,ว่านกระบี่ทอง,ว่านนางวันทองห้ามทัพ,ว่านกาสัก,ว่านเสือนั่งร่ม,ว่านกำแพงขาว,ว่านเขาควายใหญ่,ว่านคางคก,ว่านพญาปลิง,ว่านจักรไกร,ว่านจักรพรรดิ์,ว่านท้าวชมพู,ว่านนารายณ์แปลง,ว่านปัดตลอด,ว่านกายประสิทธิ์,ว่านปราบสมุทร,ว่านเพชรคง,ว่านเพชรกลับ,ว่านเพชรใหญ่,ว่านเพชรหน้าทอง,ว่านเพชรน้อย,ว่านเพชรไพรวัลย์,ว่านรางเงิน,ว่านสบู่หลวง,ว่านหนุมานนั่งแท่น,ผงกะลาตาเดียว,ผงกบตายคารู,ผงดินขุยปู,ผงรังผึ้งร้างขวางตะวัน,ผงรังต่อปิดตาพระเจ้า...
    - ฝังตะกรุดเปิดดวงรับโชค
    ท่านว่าตะกรุดนี้จะลงมหายันต์ในด้านการเสี่ยงดวง มีอานุภาพทางด้านเรียกโชคลาภทรัพย์สินเงินทองเรียกเงินเรียกโชคหนุนดวงทางด้านเสี่ยงโชคเสริมลาภโดยเฉพาะให้ดวงด้านนี้เปิดออก ทั้งจะใช้ทางการค้าการขายหรือธุรกิจการงานก็ใช้ได้ดี จะอธิฐานขอโชคลาภอธิฐานเวลาเสี่ยงดวง(ก่อนจะทำให้อธิษฐานก่อน) ดวงเราจะเปิดโชคเปิดลาภให้กับตัวเองใช้เรียกหาทรัพย์หรือจะใช้ทางทำมาค้าขึ้นก็ได้ ท่านว่าทำให้ชีวิตสำเร็จทุกประการในเรื่องเงินทองมีกินไม่หมดไม่อดไม่อยากไม่ยากไม่จน เพราะท่านกำกับด้วยนะมีกินไม่รู้สิ้น

    พระเพชรกลับนี้..ท่านเน้นทางกลับให้ได้ผลงอกเงย พอกพูน เรียกทรัพย์กลับเงินเข้าไม่ขาด เน้นให้ดวงให้โชคนั้นเด่นมากกว่าคนอื่น จะแข่งขันกับใครก็ได้สำเร็จสมหวัง ท่านว่าทำไว้ให้หมั่นใช้หมั่นขอติดขัดอะไรก็ให้อธิษฐานขอเลย ใครดวงตกอาภัพโชคลาภการงานไม่ดีให้ลองขอดูจะพลิกกลับเร่งโชคเร่งลาภเร่งให้รวยเร่งให้เร็วจะไปแห่งหนตำบลใดขอให้อธิษฐานใช้เปิดทรัพย์กลับดวงกลับโชคลาภวาสนารับรองว่ามีกินไม่หมดไม่มีคำว่าอดอยาก ทั้งยังจักห้ามเสียได้ซึ่งยังภัยทั้งหลายไม่ว่าจะกันฟ้าฝ่า กันไฟไหม้ ชนะภัยร้ายทั้งปวง บรรเทาทุกข์จากการเจ็บป่วยและเป็นมหาโชคมหาลาภแก่ผู้ที่บูชากราบไหว้อันตรายทั้งปวงจักมิบังเกิดมีมาให้อยู่เย็นเป็นสุข จะบังเกิดอำนาจวาสนาในบุญบารมี มีโชคมีลาภเลื่อนฐานะก้าวหน้าทำมาค้าขึ้น แม้ประสงค์ทรัพย์อันใดในโลกให้เร่งอาราธนาจักร้อนถึงเทวดานำมาให้ ขอให้ขยันทำมาหากินเท่านั้นองค์พระจะกลับจะหนุนให้มีกินมีใช้ตลอดไป เมื่อถามหาโชคท่านว่าบางคนก็อยู่ที่วาสนาแลบุญของเขาด้วย บางคนไม่เคยมีโชคเรื่องพนันเสี่ยงดวงเลยก็จะได้ลาภจากการขอลาภทางหน้าที่การงานเข้ามาแทน ทำให้ผู้ใหญ่เพื่อนฝูงเอ็นดูเมตตาให้สิ่งต่างๆเช่นนี้

    ### องค์พระนี้ท่านว่าให้หมั่นสวดปลุกคาถาเป็นประจำ ถือเสียว่าสวดเพื่อสั่งสมโชคให้ตัวเอง ให้วาสนาพอกพูนขึ้นเรื่อยๆเสมอด้วยคำสวดคำอธิษฐาน เวลาจะไหนมาไหนพอนึกออกก็สวดปลุกได้ตลอดเวลาที่ต้องการจะตอนไหนก็ได้ โดยหลักในการท่องคาถาหรือบทสวดต่างๆนั้น ขอแค่ตัวเรามีสมาธิ มีใจที่ตั้งมั่นหรือมีความเชื่อความศรัทธาภายในจิตใจเป็นพื้นฐานเสียก่อนนั่นถึงจะเห็นผลได้ไว

    คาถาบูชา
    นะลาโภ ละพะติลาภัง นะจังงัง สวาโหมติด ใช้อาราธนา
    อุเยอะเย เพงๆ พาๆ หาๆ รือๆ สัมปะติจฉามิ ใช้อธิษฐานหาทรัพย์ได้มากตามที่ต้องการ
    พุทธะ นิมิตตัง มะอะอุ ปัจจะยะ ลาโภ นะโมพุทธายะ ชนะภัยร้ายทั้งปวงทั้งบรรเทาทุกข์จากการเจ็บป่วยและเป็นมหาโชคเรียกทรัพย์ กลับชะตาชีวิต

    *** องค์พระเพชรกลับรุ่นนี้ เป็นพระที่พ่ออาจารย์ท่านเน้นในการทำผง ใช้มวลสารล้วนๆมากดพิมพ์ ท่านว่าเน้นให้กลับทุกทางจากร้ายไปหาดี ไม่มีว่าจะกลับดีให้ทรุดลงเลย คนที่มีวาสนาพอตัวนั่นแหละเขาถึงจะได้ไปต่อบารมีเขา ท่านว่าทำไว้ได้ไม่มากมีอยู่สิบหกองค์ ผู้ที่บูชาก็ให้หมั่นใช้หมั่นอาราธนาตามพระคาถานั่นเลยว่างเมื่อไหร่จะใช้ทางไหนก็ให้สวดให้ขึ้นใจตอนนั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาและซื้อหนังสือให้เด็กชาวดอยต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าสะกดเบี้ยดูดจิตพลิกผันสนองกลับปัดอุปสรรค(ผงเหยียบเซียน) บูชา 900 บาท

    72146636-3308881819153776-473681205657600000-n.jpg 75603440-848619612220167-1074889503686000640-n.jpg
    74209149-411865303082953-2157374218948313088-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญสั่งฟ้าทวิราชรุกฆาตสิงหบัณฑูร(พระอวตารชัยราชยกศร,สังวาลย์สิบหกดอก)

    เหรียญรุกฆาตนี้ถือว่ามีความสำคัญมากและนับว่าลึกลับอย่างยิ่ง ด้วยคนเรานั้นพอเติบโตขึ้นเป็นลำดับชีวิตย่อมผ่านวิกฤติ ความสุข ทุกข์ ความอยากได้ใคร่ดี ตัณหามากมีต่างๆ..ชีวิตที่เปื้อน ที่สกปรก สูญเสียสมดุลเสียความบริสุทธิ์ ถูกอวิชชาตัณหาครอบงำแม้มีบารมีเก่าทำมาดีหรือมีบารมีใหม่ที่พร้อมส่งผลด้วยบุพกรรมความดีความชอบทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้มันก็ไม่ให้ผล เหมือนภาชนะที่สกปรกแม้เอาสีใดๆไปแต้มไปเจิมมันก็ปรากฏให้เห็นยาก เหรียญรุกฆาตเป็นวิชาที่ปรับเปลี่ยนกฏแห่งกรรมในวัฏสงสาร ให้โอกาสสรรพชีวิตได้เริ่มต้นใหม่ จากที่แปดเปื้อนก็เปลี่ยนให้ขาวสะอาดด้วยพุทธานุภาพและมายาศาสตร์คติแห่งคุณวิชา วิชานี้ท่านว่าเป็นวิชารุกฆาตนั่นคือกินเขาไปเรื่อย แม้รุกเข้าไปในแดนศัตรูมีอันตรายรอบด้านก็ยังเอาชัยเขาได้ ท่านว่ากินแล้วกินอีกเป็นการรุกคืบเพื่อความสำเร็จเพื่อการณ์ใหญ่ เช่นนั้นท่านจึงทำเหรียญเป็นรูปสิงโตเพราะเป็นราชาแห่งสัตว์อยู่ที่ไหนไม่ว่าถิ่นใครก็กินเขาหมด สำเร็จประโยชน์ ได้ทุกสิ่งเช่นนี้นั่นเอง มีแต่รุกไปไม่ถอยหลังกลับ ท่านว่าด้วยอาถรรพ์แห่งคุณวิชาพกเอาไว้เถิด เดี๋ยวจะรู้เองว่ากินเขาได้ กินหมดทั้งกระดานนั้นเป็นอย่างไร แต่ให้พึงสังวรณ์ไว้ว่ากระดานที่จะเดินจะกินเขานี้มันไม่ใช่เกมส์ แต่เป็นหมากกระดานชีวิต เดินไปไหนทำอะไรก็รุกฆาตมีแต่จะเจริญก้าวหน้าตามลำดับไม่ถดถอย แก้ดวงแก้อาถรรพ์ชีวิตที่แปดเปื้อนมีมลทินอย่างใหญ่หลวงให้บริสุทธิ์

    " ดั่งสิงโตยอดเสาอโศก ใช้ประกาศศาสนา ปักที่ไหนเจริญรุ่งเรืองเป็นศูนย์กลางตรงนั้น เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าทั้งหลาย "
    กาลจักร - พยุหไกรสี
    สองชื่อนี้คือชื่อสิงโตที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ในเหรียญรุกฆาต ซึ่งท่านปั้นหุ่นเทียนไว้ได้สวยสง่าและมีอาถรรพ์ตั้งแต่ยังเป็นหุ่น ด้วยสิงโตนั้นมีลักษณะแห่งความเป็นเจ้า ใช้อาราธนาในการปกป้อง ทั้งป้องกันอันตรายและป้องกันความคิดไม่ดีทั้งสลายพลังชั่วร้ายในตัวและรอบตัวของเรา ช่วยเรียกโชคเรียกลาภ ด้วยเป็นสัตว์เทพที่มีศักดิ์สูงมีพลังงานมากมหาศาล จึงเป็นของสูงที่อดีตจักรพรรดิ์มักจะนิยมใช้กันสืบมา พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติเขาจะเป็นตัวแทนของการปกปักรักษาพูดง่ายๆคือพิทักษ์เรารวมไปถึงอาณาเขตที่เราอยู่ด้วยเขาจะกำจัดสิ่งชั่วร้ายต่อเราทั้งหมดในอาณาเขตรอบๆตัวเรา ท่านว่าสิงโตนี้ต่างจากสัตว์เทพหรือพยนต์อื่นๆนอกจากความแข็งแรง ตรงที่เขาฉลาด มีอำนาจความกล้าหาญ ทั้งดุร้ายกับหมู่มาร และมีสัญชาตญาณของผู้ล่าอยู่อย่างเต็มเปี่ยม(ในขณะที่สัตว์อื่นๆนั้นเป็นเพียงผู้ถูกล่า) เช่นนั้นท่านจึงปั้นหุ่นเป็นสัตว์เทพของเสด็จพระใหญ่นั่นคือกาลจักร - พยุหไกรสี สิงโตสองผัวเมียที่คอยเป็นพาหนะให้พระองค์ท่าน พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าทำสิงโตสำคัญของท่านคู่นี้ ท่านกำชับไว้เลยว่าขนหัวหยิก ตาใหญ่ อ้าปากกว้างเพียงแค่มองก็ดูมีพลังอำนาจ ด้วยเขาเป็นเจ้าแห่งสัตว์ และเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและเกียรติภูมิทั้งผองจัดเป็นสัตว์เทพตระกูลสูงเหนือสัตว์ใดๆ
    เหรียญรุกฆาตนี้พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากใช้เพื่อเสริมอำนาจ ยังเป็นที่สุดในการได้มาซึ่งยศถาบรรดาศักดิ์(ความก้าวหน้าแบบก้าวไกล) และยังปกป้องคุ้มภัยให้เจ้าของ ทั้ง"กาลจักรและพยุหไกรสี" นั้นเป็นสิงโตคู่ที่แยกจากกันไม่ได้ เมื่ออยู่ร่วมกันจะเป็นที่มาแห่งเกียรติยศความรุ่งเรืองช่วยให้เจ้าของมีฐานะและชื่อเสียง(ด้วยปกติเป็นสัตว์พาหนะในแดนทิพย์ขององค์ปฐม) ทั้งยังมีอำนาจขจัดปีศาจและสิ่งชั่วร้าย นำมาซึ่งความสุขสมหวัง จะยังให้ต่อไปนั้นชีวิตของเราปราศจากซึ่งการรบกวนของภูตผีปีศาจ,คุณไสย,มนต์ดำและคนพาล(พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้สำคัญที่สุดก็คือน้ำใจคน สิ่งนี้น่ากลัวกว่าผีก็คือคนหลอกคน สมัยนี้ใครไม่ชอบหน้าใครเขาจองล้างจองผลาญกันจนตายกันไปข้างแบบไม่มีเหตุผลเช่นนั้นคนพาลจึงมีอยู่ทั่ว) ดังนั้นท่านจึงนำกาลจักรและพยุหไกรสีซึ่งให้คุณทางด้านข่มจิตคนให้ยำเกรง ช่วยให้ผู้ใช้ปราศจากการรบกวนของคนใจพาลทุจริตที่คอยหาเรื่องหาราวมาให้ ทั้งเขายังจะช่วยหนุนส่งวาสนาเราให้รุ่งเรืองขึ้นด้วยวิธีของเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะเพิ่มพลังอำนาจที่จะแผ่ออกมาจากตัวเราจนคนรอบข้างสัมผัสได้
    ท่านเห็นว่ากาลจักรและพยุหไกรสีนั้นเป็นสิงโตคู่ ท่านจึงยืมรูปลักษณ์ของสิงโตจีนมาใช้เพราะท่านถือว่าเป็นลักษณะมงคล การวางคู่กันทั้งเพศผู้และเพศเมียกลมกลืนนั้นก็เป็นกระแสพลังงานของหยินและหยางที่สมดุลย์กัน ซึ่งสิงโตเพศผู้เท้าหน้าจะเหยียบลูกบอล และสิงโตเพศเมียเท้าหน้าจะเหยียบลูกสิงโต โดยคนจีนเชื่อว่าสิงโตเพศผู้มีบรรดาศักดิ์เป็น“ไท่ซือ”อันแปลว่ามหาเสนาบดี มีหน้าที่เป็นราชองครักษ์ของกษัตริย์หรือฮ่องเต้ ดังนั้นแม้แต่เชื้อพระวงศ์หรือบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ยังต้องให้ความเกรงใจและเกรงกลัว ส่วนเพศเมียมีบรรดาศักดิ์เป็น“เส้าเป่า” มีหน้าที่เป็นราชองครักษ์ให้กับองค์ชายของราชวงศ์ ด้วยเป็นตำแหน่งขุนนางชั้นสูงสุดเช่นนั้นรูปลักษณ์สิงโตคู่ของจีนพ่ออาจารย์ท่านว่าจึงเหมาะสมเพราะเป็นยอดของมงคล มีทั้งศักดิ์และสิทธิ์คือเป็นรูปเคารพที่มีบรรดาศักดิ์สูงอยู่ในตัวเอง
    ท่านว่าของเช่นนี้มีอาถรรพ์มานับพันปีถือเป็นของสูงที่จะหนุนคนใช้ให้สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวตามวาสนาสัตว์เทพพิทักษ์นี้ ท่านว่าสิงโตเทพทั้งคู่นี้จะนำชีวิตเรารุกฆาตไปเรื่อยๆและเมื่อใดที่เราจับเราฝากชีวิตไว้กับท่านทั้งสอง ### ฉันบอกได้คำเดียวว่างานที่ท่านรับไปนั้นไม่เล็กเลย คนที่ท่านหนุนท่านช่วยล้วนเป็นใหญ่เป็นโตเกินคนทุกยุคทุกสมัยทั้งสิ้น จำคำฉันไว้คำเดียวนั่นคือ"เป็นใหญ่เป็นโต" ไม่ว่าจะเอาดีทางไหนจะทำอะไรก็แล้วแต่ไม่มียกเว้น

    กาลจักรและพยุหไกรสีนั้นท่านว่าเขามีบริวารเป็นสิงโตและเหล่าสัตว์ตระกูลสูงทั้งหมด ***เพราะเป็นราชาแห่งสัตว์และมนุษย์ ไม่ใช่เป็นเจ้าเฉพาะเหล่าสัตว์เท่านั้นที่เราใช้แล้วเจริญรุดหน้ารวดเร็วนั้นเพราะเขามีอำนาจเหนือมนุษย์ทั้งหลายด้วย เรียกได้ว่าเป็นใหญ่ในโลกดั่่งสิงโตที่เหยียบโลกไว้ใต้อุ้งเท้าเหยียบแผ่นดินไว้ทั้งสี่ทวีป อุปมาเหมือนทุกสิ่งนั้นล้วนอยู่ในอุ้งมือในควบคุมของเขาทั้งหมดแม้ชีวิตของเราหรือสรรพสัตว์ทั้งหลาย เรียกว่ามีศักดิ์ใหญ่แต่กำเนิด เกิดมาก็เป็นเจ้าตั้งแต่ครั้งบรรพกาลก่อนเกิดโลกแตกดับนับครั้งไม่ถ้วน เช่นนั้นผู้ที่ขอให้เขาช่วยเหลือจึงหนีไม่ได้ที่เขาจะช่วยให้มีฐานะและชื่อเสียงรุ่งเรืองถึงพร้อมทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ทั้งดับล้างสิ่งทรามอันชั่วร้ายทั้งหลาย นำมาซึ่งความสุขสวัสดี ชีวิตใครที่โดนรบกวนโดยภูติผีหรือเทวดาเกเรนี่เอาพี่กาลจักรและพยุหไกรสีของพ่ออาจารย์ท่านอาราธนาได้เลย ท่านว่าเขาไม่มาวอแวเราหรอกเพราะทั้งสองนั้นเขาจับวิญญาณร้ายกินหมด(เรียกว่าใครมาร้ายต่อหน้าเราไม่ได้เลย) วิชาสิงโตคู่นี้ปกติเขาจะสงวนกันไว้มาก ยิ่งกาลจักรและพยุหไกรสีที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างยิ่งต้องสงวนไว้ ### นั่นเพราะเป็นวิชาที่จะหนุนคนให้รวย เกินคน เหนือคน จึงเป็นของที่มีแต่คนรวยคนมีฐานะจะใช้ ดั่งในสมัยโบราณที่รูปสิงโตคู่นี้อยู่หน้าบ้านไหนย่อมบ่งบอกถึงฐานะทางการเงินของบ้านนั้นทีเดียว

    ท่านทั้งสองนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสูงเหนือสัตว์เทพอื่นๆ แม้เราไม่อาราธนาติดตัวเพียงยกมือไหว้จบหัวท่านก็ครอบตัวเราคลุมทั้งบ้านทั้งอาณาเขตของเราแล้ว ใครมีความทุกข์เดือดร้อนมากให้เอาท่านทำน้ำมนต์อาบ(อธิษฐานไปเลยว่าขอพ่อพระพุทธมีองค์ปฐมเป็นที่พึ่งสูงสุดตลอดจนกาลจักรและพยุหไกรสีนี้ทำน้ำมนต์ล้างทุกข์ให้ด้วย) เดือดร้อนมากเท่าไหร่,ชีวิตร้อนอย่างไร อาบน้ำมนต์ล้างตัวล้างเสนียดไล่วิบากอุบัติภัยร้ายทั้งหลายทุกข์ภัยหายทันที คนที่ทำมาหากินไม่สะดวกการงานไปไม่ได้ไม่เจริญก้าวหน้าก็ขอบารมีท่านทั้งสองเอา พ่ออาจารย์ท่านว่าจะหากินคล่องแบบคาดไม่ถึง ดั่งสัตว์เทพอันมีศักดิ์สูงโดยกำเนิดแม้อยู่ที่ไหนย่อมไม่ต้องออกหาอาหารเอง จะมีคนหามาให้กินถึงปาก เงินทองก็เข้ามาง่าย หากินคล่องดั่งมีคนคอยเปิดทางให้ได้กินอย่างง่ายดาย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสิงโตนั้นมีศักดิ์สูงมากโดยธรรมชาติ ให้เธอสังเกตุดีๆว่าแม้บ้านเราคนในสมัยโบราณยังไม่เอาสิงโตมาทำสัตว์พาหนะหรือเทียมเกวียนเทียมราชรถใดๆเลย เขาจะมีหน้าที่เฝ้าสถานที่สำคัญหรือล้อมสถูปเจดีย์และยืนอยู่บนยอดเสาของพระเจ้าอโศกเช่นนั้นนี่จึงเป็นอาถรรพ์ที่จะดึงชีวิตเธอ ทั้งกาลจักรและพยุหไกรสีมาอยู่ด้วยกัน นั่นคือดึงขึ้นไปให้เกิดสภาวะสมดุลย์ ไม่ใช่ดึงๆร่วงๆขาดๆเกินๆ ชีวิตผู้ใดที่หากินไม่ขึ้น,คนชั่วคนพาลรังแก,ถูกกลั่นแกล้งหรือกระทำทั้งจากสิ่งที่มองเห็นหรือมองไม่เห็น,มีเรื่องให้ชีวิตร้อนอยู่เป็นประจำ,เป็นโรคที่หาสาเหตุไม่เจอ,ต้องอุบาทว์หน้าหมองคล้ำไร้สง่าราศี... สิงโตคู่นี้แก้อาถรรพ์กลับร้ายกลายดีหนุนส่งเราได้ทั้งหมดดั่งผู้นำที่คอยเป็นมือมืดช่วยเหลืออยู่ในเงาของราชาทั้งหลาย ด้านหลังท่านอุดด้วยผงวิเศษสกุลสูงต่างๆทั้งผงมหาชัย,ผงมหาจักรพรรดิ,ผงทิพย์เกษรจุฬามณี,ผงพระพุทธเจ้าถอดรูป,ผงพระพุทธเจ้าแปลงรูป,ผงพระพุทธเจ้าแบ่งภาค,ผงพระพุทธเจ้าเปล่งรัศมี,ผงพระพุทธคุณ,ผงรัตนมาลา,ผงมหาปราบ,ผงมหาระงับ,ผงยันต์คู่ชีวิต,ผงตารางเพชร,ผงเฉลียวเพชร,ผงเกราะเพชร,ผงเงินล้านของหลวงพ่อปานที่ใช้อุดในพระพิมพ์ทรงสัตว์,ผงเอกลาภเรืองยศ,ผงโพธิสัตว์ค้าสำเภา,ผงทศชาติเงินไม่ขาดมือ,ผงเร่งลาภ,ผงมารุมให้ทรัพย์,ผงราชาโชค,ผงสิบสองนักษัตร,ผงพญาหนูขนคำ,ผงเงาะถอดรูป,ผงนารายณ์นั่งเมือง,ผงนาคราชคายแก้ว,ผงอุดมทรัพย์,ผงขอลาภพระฉิมพลี,ผงสิทธิลาภเจริญยศ,ผงยันต์พระฤาษีตาไฟ,ผงหัวใจกวักทรัพย์,ผงพระเจ้าค้าคำ ผสมด้วยผงมวลสารวิเศษทางกลับดวง หนุนดวง พลิกดวง และทนสิทธิ์ที่มีฤทธิ์ผิดธรรมชาติเหนือกฏวัฏจักรอันไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้แต่ก็เกิดขึ้นโดยโลกวิสั

    ด้านหลังท่านฝังด้วยของมงคลสามสิ่งอันมีฤทธิ์เป็นที่สุดของพลังงานอย่างแท้จริง ได้แก่
    - พระอวตารชัยราชยกศร
    คติการสร้างพระชัยนั้นเพื่อหมายเอาอำนาจเอาชัยอันจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ให้ชนะทุกเภทภัย ให้มีชัยแม้ในความเดือดร้อนทุกทิศทาง เป็นยอดพระแห่งการขจัดปัดเป่าอุปสรรคทั้งปวงให้มลายหายไปสิ้นต้องเสกเบิกฟ้าเบิกไพรให้ชนะไพรีและศัตรูอันจะคิดทำร้าย ให้คนก้าวข้ามผ่านอุปสรรคปัญหาในชีวิตโดยเฉพาะโรคเจ็บโรคจนจะไม่ต่ำกว่าคนอื่น ใช้พลิกชะตาให้มีชัยไปตลอดชาติ ทั้งกลับร้ายกลายเป็นดี หนุนชะตาให้สูงส่ง
    แต่พระชัยตำรับพ่ออาจารย์นั้นท่านสร้างเป็นรูปพระอวตาร(องค์ศรีราม)ยกศรชัย อันเป็นมหาธนูโมลีขององค์พระอิศวร ที่ในประวัติศาสตร์นั้นนอกจากองค์ครูพระสยมเองล้วนไม่มีใครยกขึ้นแม้ซักคน อย่าว่าแต่ยกขึ้นเลยทำให้ขยับแค่เพียงข้อนิ้วหรือหนึ่งองคุลีก็ยังทำกันไม่ได้ การยกศรของพระรามนั้นเป็นชัยชนะเหนือชัยชนะ เป็นการประกาศก้องทั้งตรีโลกไม่ว่าจะเทวดาหรือกษัตริย์ทั้งร้อยแปดพระนคร แลอสูรคนธรรพ์ทั้งหลาย เพราะในพิธีนั้นมีคนมาลองยกศรทุกเผ่าพันธ์แม้เทพและกษัตริย์อันเป็นใหญ่ในโลกทั้งร้อยแปดพระนครหรือแม้กระทั่งตัวทศกัณฐ์เองก็ยั่งแพ้พ่ายไม่สามารถยกขึ้น
    อันมหาธนูโมลีของครูพระสยมนั้นมีสัณฐานใหญ่โต พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะเชิญออกมายังต้องวางอยู่บนแท่นที่มีล้อแปดล้อต้องใช้คนที่มีกำลังมากที่สุดกว่าร้อยคนในการดันชักเลื่อนรถเทียมคันศรนั้นให้ขยับ ทั้งศรนี้ไม่มีแม้เทพเทวาคนธรรพ์นาคครุฑผู้ใดยกได้ไม่ว่าจะมีพละกำลังประเสริฐอย่างไร
    ...การยกศรชัยจึงเป็นการประกาศชัยชนะต่อบรรดากษัตริย์ทั้งร้อยแปดนคร พ่ออาจารย์ท่านว่า
    เพียงยกศรขึ้นก็คือชนะแล้ว กษัตริย์ร้อยแปดทั้งหลายนั้นรู้แล้วว่าไม่มีแสนยานุภาพพอจะต่อต้านพระรามได้ซักนครหนึ่ง ทั้งการยกศรขึ้นก็ยังหมายถึงการประกาศว่าตนนั้นพร้อมรบแล้ว ###ยกศรชัย ประกาศชัย ได้บำเหน็จ ดั่งพระรามได้นางสีดา ดั่งองค์สิทธัตถะราชกุมารได้พระนางพิมพา นั่นคือยกแล้วต้องได้ลาภ ได้นั่งเมืองเรืองยศ มีเกียรติปรากฏไปทั่วทั้งสิบทิศ ดั่งนั้นพระชัยราชยกศรนั้นจึงเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่เข้ามาพร้อมกับการเสวยสุข ไม่ใช่ว่าดีใจแล้วได้ทุกข์ตามมา ท่านทำตามตำรับกลับดวง พลิกดวง ฟื้นวาสนา เปลี่ยนแปลงชะตาลิขิต โดยอุปมาเหมือนกับว่า ตัวเราเป็นเพียงมนุษย์สองมือก็ยังมีวาสนายกคันศรเจ้าโลกขึ้นได้
    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำคุณวิชามหาปราบเต็มวิชาโดยตั้งใจว่าจะทำให้เขาเอาไปใช้กันง่ายๆ ท่านตั้งใจจะทำให้พวกคนที่ไม่มีอาคม ไม่มีตบะ ไม่มีสมาธิให้เขาใช้ได้ เรียกว่าใครเอาไปถือครองก็ใช้ได้โดยเฉพาะพวกคนที่คิดการณ์ใหญ่ คนที่โดนเบียดเบียนรังแก เป็นไก่รองบ่อน วาสนาน้อย เหล่านั้น ซึ่งเหรียญรุ่นนี้ท่านว่าหากคนใช้เขาปราดเปรื่องก็ยังเล่นใช้ได้หลายทาง พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำวิชาทำตะกรุดมหาปราบทุกตำรับของท่านมาเข้ากับที่สุดของวิชาสายมหาปราบคือวิชาสายปราบโลกและปราบแผ่นดินทั้งสี่ทวีป อันเป็นอะไรที่เกินและมากกว่าวิชามหาปราบทั่วไป โดยหลอมรวมกับธาตุกายสิทธิ์และชนวนสำคัญเพื่อเทเหรียญพระชัยนี้
    พ่ออาจารย์ท่านได้กำหนดรูปแบบทำพิมพ์เป็นองค์พระอวตาร ท่านว่าต้องใช้พิมพ์นี้เท่านั้นเพราะองค์พระอวตารนั้นเป็นการแบ่งภาคของพระเป็นเจ้าลงมาปราบยุค ล้างอธรรม เป็นหน้าที่ตายตัวที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับมวลมนุษย์ ด้วยกำลังพระอวตารอันเป็นผู้เป็นใหญ่ เป็นแม่ทัพสยบศึก มีอานุภาพทางมหาอำนาจ มหาปราบ มหาระงับ ...พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เหรียญนี้ไปตกอยู่กับใคร เขาก็จะมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปโดยเร็วพลัน ดั่งพระรามปราบโลก ล้างยุคเข็ญ ชนะพญายักษ์ที่อยู่ในจุดสูงสุดของโลก เป็นศัตรูที่เหนือกว่ามนุษย์และเทวดาอย่างทศกัณฐ์ได้ฉันใด ท่านบอกว่าแม้ตัวคนที่เอาไปใช้ก็ต้องชนะอุปสรรคขวากหนามทุกอย่างได้ฉันนั้น ท่านให้ใช้ทางดับทุกข์ ดับภัย ดับเคราะห์กรรม ระงับเหตุร้าย ระงับอันตราย ระงับเรื่องไม่ดีทั้งหลาย ทั้งยังใช้กันภัย กันความเดือดร้อนได้ทุกอย่าง ปราบเขาได้ทั่ว สยบเขาได้ทั้งโลก ท่านว่าต่อให้เป็นมดตัวเล็กๆก็ล้มช้างได้ เป็นคนตัวเล็กๆก็ฆ่ายักษ์ได้เช่นนั้น
    ท่านเสกแช่น้ำมนต์ล้างพิษไฟลง
    ระงับดับพิษ ดับภัย ดับอุปสรรคปัญหาอันตรายใดๆไม่ให้เข้ามาใกล้ชีวิตได้เช่นนั้น ท่านว่าเอาติดตัวไว้เถิดชีวิตจะสดใสทุกข์ภัยไม่มี ขอเพียงอย่างเดียวคือให้พกติดตัวจริงๆท่านจะแก้กันปัญหา แรงกรรมจะเสื่อมถอย คราเคราะห์จะหมดไป ระงับดับเรื่องร้อน เรื่องร้าย เรื่องไม่ดี ทั้งใช้ปราบคู่แข่งขันในทุกๆด้านไม่ว่าจะเรื่องรัก เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวสารพัดเรื่องท่านว่าปราบเขาได้หมดทุกท่วงทำนองแห่งชีวิตเพราะครูท่านปกาศิตไว้ให้ใช้ปราบและปราบเท่านั้น ดังนั้นเหรียญนี้จึงเป็นยอดแห่งการปราบปรามและสะกดข่มทุกสรรพชีวิต ท่านว่าหนนี้เน้นไปที่พวกมีบารมีมาก มีบุญเยอะ มีวาสนาสูง ปกติเจอคนพวกนี้เราจะทำอะไรไม่ได้เลย แม้ห้อยพระชั้นครูอย่างไรก็เงียบ แต่ท่านว่าครานี้เหรียญนี้ทำมาเพื่อแก้กลเหตุเหล่านั้นโดยเฉพาะ ให้ปราบโลกสะกดไว้ทั้งหมด ระงับเหตุได้แม้ขึ้นโรงขึ้นศาล พ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้พกไว้เถิดแล้วก็ใช้ชีวิตของเราไปแบบปกติรับรองว่าสยบ ได้ทั้งหมดทุกคน ทุกจำพวก และแม้แต่วิชาที่เขาจะใช้หรือบูชาติดตัว ทั้งมายาศาสตร์แลเวทย์มนต์กลใดย่อมไม่มีผลแก่เราทั้งสิ้น มีฤทธิ์เก่งกาจปราบไตรจักรหมายถึงปราบอันตรายของสามโลก ทรงอานุภาพทางป้องกันอันตรายทั้งบนบกในน้ำและอากาศ มีมหาอำนาจข่มศัตรูทุกกรณีเป็นเดชเดชะชนะไพรีได้ทั้งปวง
    ทุกการกระทำที่
    ผู้อาราธนานึกถึงองค์รามตราบใดที่ยังมีเหรียญพระชัยยกศรนี้อยู่ ท่านว่าทุกความปรารถนานั้นจะต้อง “สัมฤทธิ์ผล” พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่มีติดตัวขอให้หมั่นออกนามท่านถิด รามๆๆๆเถิด ชีวิตจะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บและเคราะห์หามยามร้ายได้ทั้งปวง

    - ตะกรุดสังวาลย์สั่งฟ้ามหาโสฬส
    ตะกรุดสั่งฟ้า
    นี้ท่านให้ใส่กำลังโสฬสเอาไว้ โดยหมายถึงว่าตวาดสั่งฟ้าได้ครอบคลุมทั้งสิบหกชั้นฟ้าจึงต้องทำทั้งหมดสิบหกดอก โดยท่านลงมหาอักขระศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนพลังจักรวาล ท่านว่าใครมีกำลังโสฬสหนุนดวงนี่ชีวิตเขาจะออกแนวสบายๆไม่ต้องลำบากดิ้นรนมาก จะได้ทรัพย์สินหรือทำสิ่งใดก็ได้ก็สำเร็จมาแบบฟลุคๆง่ายๆ ทั้งโชคลาภเข้ามาไม่ขาด หนุนชีวิตเขาด้วยตะกรุดสิบหกดอกนี้จะเปิดบารมีเก่าดึงมาไว้ใช้กับตัว เทวดาทั้งสิบหกห้องสวรรค์ชั้นฟ้าจะเกื้อหนุนชะตาชีวิตจะไม่อับจน ต่อให้ลงกำลังใดๆซักร้อยแปดท่านว่าก็หนุนสู้กำลังโสฬสนี่ไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีตัวนี้ลำบากกันทั้งชีวิตเลย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้ลงตะกรุดทั้งสิบหกดอกเท่ากำลังโสฬส
    วิชาสังวาลย์มหาโสฬสนี้ ถ้าลงเป็นเส้นใหญ่ๆยาวๆต้องสะพายแล่งท่านกลัวว่าคนจะพกกันยาก แต่ก็รู้มือกันดีว่าเมื่อไหร่ที่พ่ออาจารย์ท่านออกตะกรุดสังวาลย์จะสี่หรือห้าดอกก็ตาม หรือแม้แต่ท่านยอมทำตะกรุดสังวาลย์ฝังไว้ในเครื่องมงคลชุดใด แน่นอนว่าเครื่องมงคลชุดนั้นต้องเป็นอะไรที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์รุนแรงเต็มไปด้วยแรงครูขั้นสูงสุดอย่างแท้จริง หลายคนจึงหมายปองและรอเครื่องมงคลที่ท่านจะลงวิชาตะกรุดสังวาลย์ฝังไว้ด้วยเป็นตะกรุดที่สร้างยากลงยาก(กะซิบว่าปกติแค่บูชาตะกรุดสังวาลย์ของท่านๆเส้นๆนึงยังมีค่าหลายพันหรือเกินหมื่น) เมื่อจะเสกก็ต้องแยกเสกจนสำเร็จก่อนจึงนำมาฝังได้ ท่านว่าตะกรุดสั่งฟ้านี้แม้อยู่กับใครย่อมจะเป็นใหญ่เหนือคนอื่นทั้งหมด ทั้งเป็นที่รักของจิตวิญญาณและสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ท่านว่าสารพัดจะใช้เลยสำหรับตะกรุดชุดนี้
    - อธิษฐานจิตคิดสิ่งใดที่เป็นไปตามครรลองคลองธรรมย่อมสำเร็จผลอย่างอัศจรรย์
    - จะเป็นเลิศกว่าคนทั้งปวง รู้ความคิดกลอุบายทันเล่เหลี่ยมคนอื่น
    - มีลาภมาก ลาภผลถ่ายเทไม่ขาดตกบกพร่อง
    - เป็นตะกรุดชัย ทำอะไรก็ตามเราแพ้ใครไม่เป็น
    - ไม่ตายด้วยอุบัติภัยทั้งปวง
    - แม้มีภัยศัตรูมองไม่เห็นตัว
    - เจ้านายเอ็นดู คนโกรธเกลียดยิ้มรับมีมิตรไมตรี
    - เป็นเมตตาแก่ผู้อื่นในทิศทั้งสิบ
    - พบเจอเนื้อคู่หากมีวาสนาสมพงษ์
    - จะพูดะไรเสียงก็ก้องหูติดใจผู้อื่น
    - คุ้มทั้งคนทั้งบ้าน คนในครอบครัวไม่ทะเลาะเบาะแว้ง
    - ติดตัวไว้แคล้วคลาดปลอดภัย
    - แช่น้ำทำน้ำมนต์ได้สารพัดอธิษฐาน
    - เอาแช่น้ำให้ผู้อื่นดื่มกินเขารักเราดุจลูกในอุทร
    - ระงับอันตรายทุกข์โทษโทสา
    - ลูบหน้าตามีราศี ใบหน้าผ่องใสจะนำมาซึ่งวันเวลาที่ดี....


    คาถาบูชา
    เอหิจิตตัง มหาจิตตัง กาลจักร-พยุหไกรสี เมกะมุอุเมตตามะมะ มานิมามา...ขอให้(คำอธิษฐาน)..จงสัมฤทธิผล

    เคล็ดลับ
    # ท่านว่าคนที่ดวงชะตาเกิดไม่ดี เปลี่ยนดวงเกิดตัวเองย่อมทำไม่ได้ ท่านให้แก้เคล็ดด้วยการเอามือเราลูบหัวสิงโตทั้งสอง พร้อมกับบอกท่านว่าขออำนาจท่านช่วยให้เรามีชัยชนะเหนือศัตรู ทั้งคุ้มครองป้องกันดวง อุ้มชะตาเราให้เจริญก้าวหน้า ร่ำรวย และสำเร็จ (ตามแต่จะอธิษฐานเอาไว้) แม้ดวงตกชีวิตต่ำ ก็จะมีผลมาก...รวดเร็วดังปาฏิหาริย์

    *** เหรียญสั่งฟ้านี้ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เจ็ดเหรียญ ท่านอาราธนาเององค์หนึ่งและพลีให้เสด็จพระใหญ่(เนื่องจากเป็นพาหนะของท่านไปองค์หนึ่ง) จึงเหลือเพียงห้าองค์ให้บูชา รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ###ผู้จองให้แจ้งปัญหาสารพัดในชีวิตของตนเอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการบอกกล่าวให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างอาคารเรียนในชนบทสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญสั่งฟ้าทวิราชรุกฆาตสิงหบัณฑูร(พระอวตารชัยราชยกศร,สังวาลย์สิบหกดอก) บูชา 4,000 บาท

    76695056-1777083219092691-793319543773593600-n.jpg 75513464-445026016197964-6137361678750187520-n.jpg
    75369276-2225763397722748-369810848987742208-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2019
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดทุ่นแรงดอกครูเนื้อติดหล่ม,นกติดบ่วง,ปลาติดเบ็ด(ใช้เหยื่อล่อ - ได้ล่อเหยื่อ)

    "ตะกรุดนี้เป็นวิชาที่ฉันรักและพึงใจพอใจเป็นที่สุด เพราะฉันตั้งใจจะทำให้เป็นตำนาน"

    วิชาสร้างตะกรุดชุดนี้เป็นตะกรุดสองกษัตริย์ในดอกเดียวกัน คือท่านแยกลงวิชาไว้สองแขนง ทั้งแผ่นตะกั่วอาถรรพ์และแผ่นทองแดง ท่านว่าแผ่นหนึ่งคือใช้เป็นเหยื่อล่อ ส่วนอีกแผ่นนึงใช้ล่อเหยื่อ วิชาชุดนี้จัดเป็นของที่พ่ออาจารย์ท่านรักและไม่ค่อยจะให้ใครใช้เพราะท่านว่าตะกรุดชุดนี้แรงครูเขาสูง คนที่เคยรับไปนั้นส่วนมากจะมีแต่ชีวิตเกินทนจริงๆท่านพิจารณาดวงชะตาแล้วจึงให้บูชา ก็ได้ประสบการณ์มาอย่างน่าอัศจรรย์หลายๆครั้ง บางคนนำไปใช้แม้การงานจะไม่ได้ดีขึ้นวันพรุ่งนี้แบบเห็นทันตาก็กลายเป็นว่าค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ แต่ระหว่างนั้นกลับถูกหวยรวยเบอร์ชนิดที่ว่าถูกทั้งชาติเอาให้เข็ด พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนถ้าเราเล่นกันทางตรงกว่าจะหากินได้มันก็ลำบาก กว่าจะมีเงินก็ต้องค่อยๆเก็บ ครูท่านเลยให้เงินด่วนเป็นก้อนๆทยอยกันเก็บไว้ก่อนล่วงหน้าให้มาเอาทางลัด...จวบจนทุกวันนี้ท่านเห็นว่าการค้าขาย - เศรษฐกิจเงียบเหงาเหลือเกินกว่าจะหาเงินได้นั้นยากนัก มีแต่คนร้อนกันไปทั่ว ท่านไปแห่งไหนจะนั่งรถลงเรือเจอพ่อค้าแม่ขายก็มีแต่คนเล่าให้ฟังว่าแย่กันมานานแล้ว ท่านจึงตัดสินใจออกตะกรุดชุดที่ท่านรักนี้ให้นำไปบูชา

    วิชานี้เป็นวิชาค่ายกลที่ให้ผลสอดคล้องกันตามลำดับ นั่นคือมีทั้งเหยื่อล่อและใช้ทั้งล่อเหยื่อ ซึ่งเหยื่อในที่นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่เราจะให้เป็นเถิด จะเอาดีทางทำมาหากิน ทางเล่นสาว ทางเสี่ยงโชค ทางการงาน ทางการแข่งขัน ทางค้าขาย ทางคู่ค้าเจรจา....ล้วนใช้ได้ทุกประการ ดังนี้วิชานี้จึงถือเป็นตะกรุดสุดรักของท่านที่ไม่ยอมออกให้ใครใช้ง่ายๆ วิชาเช่นนี้ท่านว่ามีอยู่จริงสมัยก่อนเพื่อนหลวงพ่อปานเขานั่งบนต้นไม้ถือเบ็ดตกปลาในอากาศตกได้แบงค์ได้เงินได้ทองก็มีมาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านเปรียบทรัพย์สินความปรารถนาของคนก็เหมือนกับสัตว์ที่รักชีวิตคอยระแวดระวังภัย ยากที่จะเดินเข้ามาหาเราง่ายๆ ถ้าอยู่ในน้ำก็เหมือนปลา อยู่บนฟ้าก็เหมือนนกอยู่บนบกก็เหมือนเนื้อเหมือนกวาง สัตว์เหล่านี้ล้วนมีอิสระที่จะไปตรงไหนก็ได้ดั่งทรัพย์สมบัติทั้งหลายที่จะแหวกว่ายหลบลี้หนีเราไป แต่วิชากลล่อเหยื่อนี้ท่านว่าเป็นยอดของวิชาลุ่มหลงเขาจะหลงเราแม้ตัวเขาตาย นั่นคือเคลิบเคลิ้มเดินมาเหยียบในบ่อในบ่วงที่เราผูกไว้ เดินเอาชีวิตตัวเองมาตกลงสู่กับดักของเรา หนีไปไหนไม่รอด เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำว่าสุดแล้วแต่จะใช้แต่ท่านลงไว้ให้ครบหมดทั้งเรียกคนเรียกลาภเรียกวาสนาเสริมชะตา...ดั่งเรามีเหยื่อล่อสิ่งที่ปรารถนาให้เดินมาตายตกลงสู่กับดักชีวิตของเรา ให้เค้ามารัก มาสนับสนุน เอาเงินมาให้ เอาน้ำใจมาสู่ ดั่งตกหลุมพรางอยู่ในเล่ห์กลตัวเราจะทำอะไรก็ได้กำไร ในเมื่อเหยื่อโดนล่อมาแล้ว นั่นก็ถึงเวลาที่เราจะได้ล่อเหยื่อเช่นนั้นเอง

    ตะกรุดตัวนี้ท่านตั้งใจไว้ให้คนทำงานได้ใช้เพื่อหากำไรชีวิต คนบางคนชีวิตต้นทุนไม่พอ ที่อยู่กันไปก็ใช้ทุนเก่าไม่ได้มีกำไร(โชค)อะไรในชีวิตเลย จะอยู่จะกินก็ยากขึ้นยิ่งในช่วงที่ชีวิตเงียบๆตามสภาพสังคม คนก็ใจแข็งเพราะเค้าระวังตัวกันแจเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี เช่นนั้นจึงต้องพิชิตใจเขาไปในตัวให้ได้ก่อนจึงจะไปหากำไรจากเขาได้ ไม่เช่นนั้นทำอะไรก็ไปไม่ตลอดรอดฝั่ง ดั่งคนเราลงทุนลงแรงทำกับดักแล้วต้องเกิดผลมีเหยื่อติด ### คนที่มีกลมีตัวล่อเหล่านี้เค้าจะไม่เหนื่อยไม่เปลืองแรงชีวิตเขามากคล้ายๆกับมีคนอื่นมาทำงานให้เรากิน มีกับดักมาวางล่อรอเวลาเราเดินไปเก็บกิน ลำบากเพียงน้อยเท่านั้น ไม่ต้องเหนื่อยใช้ความเพียรยาวนานทั้งชีวิต ตะกรุดแบบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากเพราะต้องลงตามฤกษ์ยาม บางตัวท่านว่าท่านเอาวิชาผีบอก(วิชาที่ครูแรงและอาถรรพ์สูงเป็นวิชาที่เทวดารักษาไว้นำมาบอกมาให้ห้ามถ่ายทอดให้ตายไปกับตัวเท่านั้นวิชาประเภทนี้จะเห็นผลทันตาเรียกว่าวิชาผีบอก)ลงไปด้วยเป็นวิชาเก่าแก่นับพันปีเน้นให้ผู้ครอบครองมีชีวิตที่สมบูรณ์ หากินคล่อง หาเงินง่ายด้วยมีทั้งเหยื่อล่อที่พร้อมจะให้เราล่อเหยื่อ ยิ่งผู้ใดถือก็ยิ่งขึ้น ท่านว่าคนไหนถือขึ้นมากนี่เรากลัวใจอยู่อย่างเดียว คือเอาไปแล้วขอให้เป็นคนดีก็พอจึงจะสบายใจ เพราะดั่งว่าความปรารถนาทุกสิ่งแม้เขามีเจ้าของหรือไม่ใช่ของเราแล้วเขาจะยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมาอยู่ฝ่ายเรา มาอยู่ในครอบครองของเรา ไม่ว่าจะใช้ทางการงานการเงินความรัก ต่อให้ไม่ใช่โชคไม่ใช่วาสนาของเราสุดท้ายถ้าเป็นสิ่งที่ส่งเสริมเรา ตัวเราย่อมได้รับไป ท่านกำชับหนักหนาว่านี่เป็นดอกครู เป็นตัวครู จะแรงกว่าปกติมากเน้นมาว่ามีอาถรรพ์อย่างแรงเหนือกว่าวิชาจินดามณีหรือแก้วสารพัดนึกใดๆที่ท่านเคยทำเคยลงไว้เสียอีก

    เครื่องทุ่นแรง
    ค่ายกลตัวนี้ท่านว่าเอาไว้ใช้ทุ่นแรงเวลาหาเงินได้ดีนัก คนที่เหนื่อยมาทั้งชีวิตจับอะไรม่ขึ้นไม่เจริญ รู้สึกตัวว่าไม่มีตัวช่วยขาดเครื่องทุ่นแรงนั่นแหละยิ่งสมควรใช้ เวลาลงทุนลงแรงไปแล้วจะได้ผลหรือไม่ได้ผลจะออกหัวออกก้อยบางคนต้องมานั่งลุ้นกันตัวโก่ง ท่านว่าตะกรุดนั้นเป็นเครื่องทุ่นแรงเอาไว้ดักไว้ล่อหาความสำเร็จ จะเปลี่ยนคนหาเช้ากินค่ำให้มีเหลือกินเหลือเก็บ มีวาสนาไม่ขาดหาย ไม่รู้จืดรู้จาง จะได้ในสิ่งที่อยากได้ไม่ขาดมือ ค่ายกลตัวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญนักจะเรียกลาภ ลาภก็แล่นหามาเป็นสาย จะเรียกคน คนก็วิ่งหามาไม่หยุด เป็นเลิศดุจเครื่องผ่อนปรนภาระ ที่ควรเหนื่อยกลับไม่เหนื่อย ที่ควรนานกลับไม่นาน พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจให้ลอยตัวกันได้ไปกันให้รอดในทุกสภาพสังคมไม่ใช่ถูกเขาลอยแพปล่อยทิ้งหรือต้องหนีต้องลอยชีวิตตัวเอง เช่นนั้นท่านจึงลงมนต์เหนือดวง - เหนือเคราะห์ - เหนือกรรม ทั้งสามสิ่งนี้ผูกเสริมไว้ให้แสดงผลแบบลูกโซ่ติดต่อกัน นอกจากจะเป็นเหยื่อล่อเพื่อเอาเหยื่อมาให้เราล่อแล้วยังฉุดฐานตัวเราให้ลอยสูงเหนือสัตว์อื่นที่จะโคจรเข้ามาหา ให้ดวงเรายืนเหนือชะตาเหยื่อตัวเองโดยรอบ ท่านว่ายุคนี้แล้ว ต้องเด่นต้องเหนือกว่าคนอื่นเท่านั้น ท่านลงให้ครบทั้งคนอุดหนุน ให้เจริญก้าวหน้า มีชีวิตสมบูรณ์

    ทั้งตอนลงเสด็จพระใหญ่ท่านยังแนะให้ลง
    หัวใจพระอภิธรรมทั้งเจ็ดคัมภีร์กำกับไว้ ท่านว่าอาศัยอำนาจพระอภิธรรมที่พระศาสดานั้นใช้โปรดพระมารดาและเทพยดาทั้งหมื่นโลกธาตุพร้อมๆกัน ตะกรุดนี้จึงโปรดคนได้หมดไม่เลือกชั้นวรรณะ จะอยู่ที่ไหนก็ดักทรัพย์ได้ จับลาภคล่อง ดักวาสนาดีตามแต่จะอธิษฐานใช้ได้หลายทาง ขอให้ใช้เพื่อความเจริญก้าวหน้าเท่านั้น เดี๋ยวจะรู้เองว่าต่อไปชีวิตเรานั้นจะมีอาถรรพ์แรงครูคอยเป็นสายใยเดินค่ายกลหนุนส่งเราไปหาสิ่งที่ปรารถนา บางคนก็ปรารถนาลาภ บางคนก็อยากเลื่อนยศเลื่อนศักดิ์ ที่ทำงานก็ปรารถนาความเจริญรุ่งเรือง ท่านว่าสิริมงคลเหล่านี้จะเข้าหาหนุนส่งวนกลับซ้ำไปซ้ำมาไม่มีประมาณ พูดกันง่ายๆก็คือเป็นค่ายกลที่จะเปิดวงจรใหม่ให้ต่อเนื่องเข้ามาเรื่อยๆในชีวิตเรา ซ้ำไปซ้ำมาได้ไม่หยุด

    ด้วยเป็นตะกรุดชั้นครูที่มีอาถรรพ์สูง มีครูอุปถัมภ์
    ผู้รับไปจึงดุจมีครูพระและเทพพรหมคอยดูแล ท่านว่าให้ห้อยไว้ติดคอจะรู้เองได้ว่าตะกรุดนั้นมีชีวิต ...ที่ว่ามีชีวิตนั้นมีชีวิตอย่างไร ท่านว่าคนเรามีชีวิตได้หัวใจก็ต้องเต้นถูกมั๊ย ตะกรุดค่ายกลฉันมันเชื่อมต่อเข้ากับชีวิตเธอดังนั้นตัวเขาย่อมต้องมีชีวิตเช่นกัน อัขระทุกแผ่นคาถาทุกสูตรต้องเสกกันจนดิ้นได้ เวลาห้อยเราจะรู้สึกเหมือนเค้ามีหัวใจเต้นตุบๆเป็นจังหวะของเค้า มีพลังคอยตอดคอยกระเพื่อมอยู่บริเวณที่เราใส่ ท่านว่าถ้าห้อยก็ให้ห้อยไว้บนคอเพราะใกล้หัวใจ จุดนี้พลังเขาจะยิ่งทำงานได้ดีมีคุณหมุนวนหนุนส่งเข้าใจเราโดยตรง บางครั้งก่อนเราจะลงทุนก่อนเราจะได้ทรัพย์ก้อนใหญ่ ได้จับวาสนาความสำเร็จที่เราตั้งใจไว้เขาก็จะยิ่งติดยิ่งเต้นแรงขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือแรงครู เทพพรหมท่านนิมิตให้รู้เป็นเทพสังหรณ์ว่าครูท่านช่วยอยู่นะ ท่านอยู่ตรงนี้ไม่ได้ทิ้งไปไหน

    ตะกรุดค่ายกลที่เป็นดั่งกับดัก
    กับดักชีวิตนี้ท่านว่ามีไว้ให้คนอื่นเหยียบ ไม่ใช่เราหลงไปเหยียบเอง ในกรณีคนที่หลงเหยียบหรือจมอยู่กับบ่วงชีวิต อาถรรพ์แรงครูของค่ายกลก็จะยกเขาให้พ้นจากการที่ตัวเองถูกใช้เป็นเหยื่อล่อ ทั้งยังกลับสลับตำแหน่งทำหน้าที่ล่อเหยื่อให้เดินเข้ามาหาเราอีกด้วย กับดักค่ายกลนั้นจะพาเราไปหาความโชคดี หาความอิ่มหนำสำราญไปกับการใช้ชีวิต ใครที่หวังจะเอาไปใช้ดักเก็บทรัพย์สินเงินทองเพียงเท่านั้น ท่านว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเล็ก ยิ่งใช้เป็นยิ่งเห็นผลมาก แม้จะใช้เสริมบารมีตัวเองที่ขาดหายพร่องไปให้กลับคืนมาเป็นคนมั่งคั่งร่มเย็นอุดมสมบูรณ์อยู่ในความมั่งมีศรีสุขก็ได้

    ด้วยค่ายกลนี้มีแต่รับเข้าไม่มีไหลออก ท่านว่านิสัยคนนั้นมีเป็นประการต่างๆจะรู้จักเก็บหรือไม่หรือรู้จักใช้อย่างเดียวก็ตาม แต่ให้สังเกตุว่าเมื่อใดที่เราได้รับโชคลาภที่ปรารถนา หรือความสำเร็จที่เราตั้งเจตนาไว้ สิ่งนั้นจะอยู่ไปกับเราชั่วทั้งชีวิตไม่กลับกลายเป็นอื่น ดั่งคำพ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่รับเข้าไม่มีไหลออก ไม่ใช่ว่าห้อยแล้วต้องใช้เงินไม่เป็น หากแต่จะมีเหลือติดตัวไม่พร่องไม่หมดดั่งเข้ามาแล้วก็ออกไม่ได้..ติดบ่วงตกหล่มงับเหยื่อแล้วก็ต้องทิ้งชีวิตไว้ตรงนี้เอาไปไหนไม่ได้อีก เช่นนี้จึงแก้เคล็ดคนที่ได้ลาภและเสื่อมลาภอย่างรวดเร็วได้ ท่านว่าคนบางคนดวงชะตาเขามีลาภนะแต่ก็ขัดแย้งในตัวเองนั่นคือรักษาทรัพย์ไว้ไม่ได้นาน เก็บวาสนาไว้กับตัวไม่ได้เหล่านี้ ท่านว่าค่ายกลนี้ปิดประตูแก้อาถรรพ์ตรงนี้ได้ชะงัดนัก ต่อไปจะหวังจะอธิษฐานอะไรก็ทำให้เต็มที่เลยไม่ต้องไปกังวลถึงเหตุแห่งความเสื่อม ถึงแม้ชีวิตจะเคยผ่านจุดนั้นมาก็ตาม

    วิชาค่ายกลนี้เป็นของอาถรรพ์ท่านว่าถ้าจะเอาไปใช้ทางเสน่ห์ก็เล่นได้ไม่น้อยเลย ### แต่ให้ระวังกันเอาไว้ อย่าไปอธิษฐานปรารถนาใช้ทางลุ่มหลงกับคนที่มีคู่ครองเด็ดขาด เพราะสุดท้ายเขาจะมาหาเราแม้ต้องเลิกกับคู่ของเขาก็ตามท่านว่าเป็นบาปกรรมนักให้ใช้กันให้ดี(จะดีจะโทษจะบุญหรือบาปก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเรา)ท่านให้เอาไปใช้ทางมหานิยมก็พอท่านว่าแม้คนไม่ถูกกันยังหันมาเมตตา ท่านว่าตะกรุดนี้คนที่ชอบขอชอบอธิษฐานให้หมั่นขอทุกวันจะยิ่งดี แรกเริ่มจะเห็นผลชัดเจนว่าได้รับอะไรๆง่ายกว่าแต่ก่อน การเงินการงานเรื่องที่ขอสิ่งที่คิดคนที่เล็งไว้อะไรก็จะสำเร็จง่ายๆได้สมหวังตลอด ขอให้คิดว่าทุกอย่างเป็นเหยื่อของเรา ในขณะที่ตัวเราเป็นผู้ล่าที่จะคอยกินเหยื่อ ท่านว่าที่ฉันชอบที่ฉันภูมิใจวิชาตัวนี้เพราะใครถือขึ้นแล้ว ต่อให้เป็นศัตรูแม้เขารู้ว่าเดินเข้ามาหาเราแล้วจะตายเขายังยอมเดินเข้าไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเมตตามาหสุดแล้วแต่จะใช้เพราะแรงครูท่านสงเคราะห์ให้ทุกอย่าง เสด็จพระใหญ่ท่านก็เปล่งอุทานว่าดีแล้ว ชอบแล้วถึงสามครั้ง ขอแค่เอาไปใช้กันให้ดี

    วิธีใช้
    ตะกรุดนี้มีกลวิธีใช้หลายทาง ***ท่านว่าถ้าจะเอาให้ง่ายและได้ผลที่สุด ก็ให้ตั้งจิตนึกถึงคุณพระและเทพพรหมไว้ ท่องพุทธัง ธัมมัง สังฆังสรณังคัจฉามิบทนั้นแหละ ปรารถนาอะไรให้หลับตานึกภาพไว้จะใช้ทางด้านไหน แล้วเอาปากเราไปจ่อที่ปลายตะกรุดสูดลมกลืนเข้าไปให้เต็มปอด ท่านว่านี่เป็นเคล็ดคือเราใช้แล้ว เขาตกกับดักตัวล่อเราแล้วดุจเราได้กินสิ่งที่ปรารถนาจนอิ่มแล้ว

    หรือจะเอาตะกรุดไปแช่น้ำมันจันทร์ น้ำมันหอมที่หาซื้อได้ทั่วไปก้ได้ ท่านว่าจะใช้วางกับดักสิ่งใดนั้นก็ยิ่งง่าย ยกขวดใส่ตะกรุดขอแรงครูเข้าช่วยในสิ่งที่ปรารถนาแล้วเอาน้ำมันที่แช่ตะกรุดนั้นป้ายหรือทาตามแต่เราจะใช้ จะใช้ป้ายให้คนมาจับ ตามลูกบิดประตูก็ได้ ท่านว่าคนจับทั้งวันเค้าก็รักเมตตาเราทั้งวันกันทุกคน....ท่านว่าวิธีนี้แนะนำมากไม่ได้เดี๋ยวจะเหมือนชี้โพรงให้กระรอกเพราะใช้ได้ทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่เหมือนไปวางกับดักเขาแล้วก็รอเขามาจับรอเหยื่อมาติด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะใช้ทางความรักก็ต้องรับเลี้ยงเขา แต่จะดีมากถ้าเอาไปใช้ทางการงานหาเงินหาความก้าวหน้าแตะๆป้ายให้คนรักคนเมตตา ป้ายตามทางเดินในออฟฟิศหรือในห้องเจ้านายให้เขาเหยียบแบบนี้ ท่านว่าคนหากินเก่งจะคิดเป็นใช้เป็น จะใช้เจิมหน้าเจิมผมตนเองให้เกิดเสนห์เมตตาก็ได้

    ค่ายกลนี้ดีทางเรียกคนและเรียกสารพัดสิ่งที่เราปรารถนา ตะกรุดติดตัวเรา ตัวเราอยู่แห่งไหนแรงกระเพื่อมของตะกรุดจะพัดพาลาภสักการะไปทางนั้น ท่านว่าวิชานี้บางตัวที่ท่านลงไว้สมัยก่อนเขาใช้ลงกันเฉพาะในท้องพระคลังมหาสมบัติ เช่นนั้นชุดนี้ท่านจึงเน้นเรื่องเงินทองเต็มคลังมากเป็นพิเศษ ท่านว่ายิ่งเป็นวิชาค่ายกลยิ่งทำยากเพราะทั้งสองแผ่นที่มาวางกลืนกันนั้นต้องสอดคล้องกัน ตอนจารก็ต้องบริกรรมจนถึงสูญนิพพานบังเกิดนิมิตเห็นความปรารถนาทุกเรื่องเป็นจริงดั่งต้นปาริชาติสวรรค์ออกดอกออกผลงอกเงยขึ้นมากลางตะกรุดนั้น อันเป็นนิมิตมงคลที่จะทำให้ทุกความปรารถนาตอบสนองกับความต้องการผู้อาราธนาอย่างแท้จริง ท่านว่าเสกจนเห็นตะกรุดส่องสว่างเป็นสีทองประกายพฤกษ์เช่นนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านจึงออกปากว่าสำเร็จ

    ***ตะกรุดนี้ท่านว่าไม่ต้องใช้คาถา หากแต่ใช้ตามวิธีใช้ได้เลย เพราะเป็นตะกรุดที่เน้นการใช้งานจริงมากที่สุด

    ### ตะกรุดทุ่นแรงนี้เป็นตะกรุดครูที่พ่ออาจารย์ท่านทำเก็บมานานนับสิบปี เป็นตะกรุดสองแผ่นม้วนรวมกันโดยเก็บแผ่นตะกั่วอาถรรพ์ไว้ด้านในทองแดงสายฟ้าไว้ด้านนอก พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกดอกนั้นเป็นของมีเจ้าของ คนที่เหมาะสม ผู้ที่ถูกเลือก คนที่ชะตากำหนดไว้ตรงแล้วเดี๋ยวเขาก็มาเอาของเขาเอง รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลและอาชีพการงานไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดทุ่นแรงดอกครูเนื้อติดหล่ม,นกติดบ่วง,ปลาติดเบ็ด(ใช้เหยื่อล่อ - ได้ล่อเหยื่อ) บูชา 2,500 บาท

    76717397-3001137880110537-961750560346734592-n.jpg 75443077-533429750835926-7146773044504035328-n.jpg
    76197046-474792706722265-4372576178217680896-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระอวตารชัยราชยกศร(ชุดพิเศษผูกตะกรุดเทียมครูนารายณ์ทรงแผ่นดิน)

    คติการสร้างพระชัยนั้นเพื่อหมายเอาอำนาจเอาชัยอันจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ให้ชนะทุกเภทภัย ให้มีชัยแม้ในความเดือดร้อนทุกทิศทาง เป็นยอดพระแห่งการขจัดปัดเป่าอุปสรรคทั้งปวงให้มลายหายไปสิ้นต้องเสกเบิกฟ้าเบิกไพรให้ชนะไพรีและศัตรูอันจะคิดทำร้าย ให้คนก้าวข้ามผ่านอุปสรรคปัญหาในชีวิตโดยเฉพาะโรคเจ็บโรคจนจะไม่ต่ำกว่าคนอื่น ใช้พลิกชะตาให้มีชัยไปตลอดชาติ ทั้งกลับร้ายกลายเป็นดี หนุนชะตาให้สูงส่ง

    แต่พระชัยตำรับพ่ออาจารย์นั้นท่านสร้างเป็นรูปพระอวตาร(องค์ศรีราม)ยกศรชัย อันเป็นมหาธนูโมลีขององค์พระอิศวร ที่ในประวัติศาสตร์นั้นนอกจากองค์ครูพระสยมเองล้วนไม่มีใครยกขึ้นแม้ซักคน อย่าว่าแต่ยกขึ้นเลยทำให้ขยับแค่เพียงข้อนิ้วหรือหนึ่งองคุลีก็ยังทำกันไม่ได้ การยกศรของพระรามนั้นเป็นชัยชนะเหนือชัยชนะ เป็นการประกาศก้องทั้งตรีโลกไม่ว่าจะเทวดาหรือกษัตริย์ทั้งร้อยแปดพระนคร แลอสูรคนธรรพ์ทั้งหลาย เพราะในพิธีนั้นมีคนมาลองยกศรทุกเผ่าพันธ์แม้เทพและกษัตริย์อันเป็นใหญ่ในโลกทั้งร้อยแปดพระนครหรือแม้กระทั่งตัวทศกัณฐ์เองก็ยั่งแพ้พ่ายไม่สามารถยกขึ้น

    อันมหาธนูโมลีของครูพระสยมนั้นมีสัณฐานใหญ่โต พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะเชิญออกมายังต้องวางอยู่บนแท่นที่มีล้อแปดล้อต้องใช้คนที่มีกำลังมากที่สุดกว่าร้อยคนในการดันชักเลื่อนรถเทียมคันศรนั้นให้ขยับ ทั้งศรนี้ไม่มีแม้เทพเทวาคนธรรพ์นาคครุฑผู้ใดยกได้ไม่ว่าจะมีพละกำลังประเสริฐอย่างไร

    ...การยกศรชัยจึงเป็นการประกาศชัยชนะต่อบรรดากษัตริย์ทั้งร้อยแปดนคร พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงยกศรขึ้นก็คือชนะแล้ว กษัตริย์ร้อยแปดทั้งหลายนั้นรู้แล้วว่าไม่มีแสนยานุภาพพอจะต่อต้านพระรามได้ซักนครหนึ่ง ทั้งการยกศรขึ้นก็ยังหมายถึงการประกาศว่าตนนั้นพร้อมรบแล้ว ###ยกศรชัย ประกาศชัย ได้บำเหน็จ ดั่งพระรามได้นางสีดา ดั่งองค์สิทธัตถะราชกุมารได้พระนางพิมพา นั่นคือยกแล้วต้องได้ลาภ ได้นั่งเมืองเรืองยศ มีเกียรติปรากฏไปทั่วทั้งสิบทิศ ดั่งนั้นพระชัยราชยกศรนั้นจึงเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่เข้ามาพร้อมกับการเสวยสุข ไม่ใช่ว่าดีใจแล้วได้ทุกข์ตามมา ท่านทำตามตำรับกลับดวง พลิกดวง ฟื้นวาสนา เปลี่ยนแปลงชะตาลิขิต โดยอุปมาเหมือนกับว่า ตัวเราเป็นเพียงมนุษย์สองมือก็ยังมีวาสนายกคันศรเจ้าโลกขึ้นได้

    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำคุณวิชามหาปราบเต็มวิชาโดยตั้งใจว่าจะทำให้เขาเอาไปใช้กันง่ายๆ ท่านตั้งใจจะทำให้พวกคนที่ไม่มีอาคม ไม่มีตบะ ไม่มีสมาธิให้เขาใช้ได้ เรียกว่าใครเอาไปถือครองก็ใช้ได้โดยเฉพาะพวกคนที่คิดการณ์ใหญ่ คนที่โดนเบียดเบียนรังแก เป็นไก่รองบ่อน วาสนาน้อย เหล่านั้น ซึ่งเหรียญรุ่นนี้ท่านว่าหากคนใช้เขาปราดเปรื่องก็ยังเล่นใช้ได้หลายทาง พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำวิชาทำตะกรุดมหาปราบทุกตำรับของท่านมาเข้ากับที่สุดของวิชาสายมหาปราบคือวิชาสายปราบโลกและปราบแผ่นดินทั้งสี่ทวีป อันเป็นอะไรที่เกินและมากกว่าวิชามหาปราบทั่วไป โดยหลอมรวมกับธาตุกายสิทธิ์และชนวนสำคัญเพื่อเทเหรียญพระชัยนี้

    พ่ออาจารย์ท่านได้กำหนดรูปแบบทำพิมพ์เป็นองค์พระอวตาร ท่านว่าต้องใช้พิมพ์นี้เท่านั้นเพราะองค์พระอวตารนั้นเป็นการแบ่งภาคของพระเป็นเจ้าลงมาปราบยุค ล้างอธรรม เป็นหน้าที่ตายตัวที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับมวลมนุษย์ ด้วยกำลังพระอวตารอันเป็นผู้เป็นใหญ่ เป็นแม่ทัพสยบศึก มีอานุภาพทางมหาอำนาจ มหาปราบ มหาระงับ ...พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เหรียญนี้ไปตกอยู่กับใคร เขาก็จะมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปโดยเร็วพลัน ดั่งพระรามปราบโลก ล้างยุคเข็ญ ชนะพญายักษ์ที่อยู่ในจุดสูงสุดของโลก เป็นศัตรูที่เหนือกว่ามนุษย์และเทวดาอย่างทศกัณฐ์ได้ฉันใด ท่านบอกว่าแม้ตัวคนที่เอาไปใช้ก็ต้องชนะอุปสรรคขวากหนามทุกอย่างได้ฉันนั้น ท่านให้ใช้ทางดับทุกข์ ดับภัย ดับเคราะห์กรรม ระงับเหตุร้าย ระงับอันตราย ระงับเรื่องไม่ดีทั้งหลาย ทั้งยังใช้กันภัย กันความเดือดร้อนได้ทุกอย่าง ปราบเขาได้ทั่ว สยบเขาได้ทั้งโลก ท่านว่าต่อให้เป็นมดตัวเล็กๆก็ล้มช้างได้ เป็นคนตัวเล็กๆก็ฆ่ายักษ์ได้เช่นนั้น

    ท่านเสกแช่น้ำมนต์ล้างพิษไฟลงระงับดับพิษ ดับภัย ดับอุปสรรคปัญหาอันตรายใดๆไม่ให้เข้ามาใกล้ชีวิตได้เช่นนั้น ท่านว่าเอาติดตัวไว้เถิดชีวิตจะสดใสทุกข์ภัยไม่มี ขอเพียงอย่างเดียวคือให้พกติดตัวจริงๆท่านจะแก้กันปัญหา แรงกรรมจะเสื่อมถอย คราเคราะห์จะหมดไป ระงับดับเรื่องร้อน เรื่องร้าย เรื่องไม่ดี ทั้งใช้ปราบคู่แข่งขันในทุกๆด้านไม่ว่าจะเรื่องรัก เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวสารพัดเรื่องท่านว่าปราบเขาได้หมดทุกท่วงทำนองแห่งชีวิตเพราะครูท่านปกาศิตไว้ให้ใช้ปราบและปราบเท่านั้น ดังนั้นเหรียญนี้จึงเป็นยอดแห่งการปราบปรามและสะกดข่มทุกสรรพชีวิต ท่านว่าหนนี้เน้นไปที่พวกมีบารมีมาก มีบุญเยอะ มีวาสนาสูง ปกติเจอคนพวกนี้เราจะทำอะไรไม่ได้เลย แม้ห้อยพระชั้นครูอย่างไรก็เงียบ แต่ท่านว่าครานี้เหรียญนี้ทำมาเพื่อแก้กลเหตุเหล่านั้นโดยเฉพาะ ให้ปราบโลกสะกดไว้ทั้งหมด ระงับเหตุได้แม้ขึ้นโรงขึ้นศาล พ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้พกไว้เถิดแล้วก็ใช้ชีวิตของเราไปแบบปกติรับรองว่าสยบ ได้ทั้งหมดทุกคน ทุกจำพวก และแม้แต่วิชาที่เขาจะใช้หรือบูชาติดตัว ทั้งมายาศาสตร์แลเวทย์มนต์กลใดย่อมไม่มีผลแก่เราทั้งสิ้น มีฤทธิ์เก่งกาจปราบไตรจักรหมายถึงปราบอันตรายของสามโลก ทรงอานุภาพทางป้องกันอันตรายทั้งบนบกในน้ำและอากาศ มีมหาอำนาจข่มศัตรูทุกกรณีเป็นเดชเดชะชนะไพรีได้ทั้งปวง

    ผูก *** ตะกรุดเทียมครูพระนารายณ์ทรงแผ่นดิน

    หากใครติดตามกระทู้เสมอจะทราบกันดีตั้งแต่เมื่อก่อนว่าตะกรุดนี้ดีอย่างไร ตะกรุดนี้แน่นอนว่าต้องเป็นอะไรที่พิเศษมากๆที่พ่ออาจารย์เองยังถึงกับกล้าที่จะเเขวนเดี่ยวได้ และตะกรุดนี้มีความพิเศษมาก พิเศษเกินกว่าจะกล่าวได้หมด เพราะเป็นตะกรุดในสายวิชาที่ว่าด้วยบารมีแห่งองค์พระนารายณ์เป็นเจ้า พ่ออาจารย์ท่านเรียกตะกรุดนี้ว่าตะกรุดเทียมครูพระนารายณ์ทรงแผ่นดิน

    ### ท่านได้เมตตาทำตะกรุดลูกอมด้วยวิชานารายณ์ทรงแผ่นดินขึ้นเพื่อจะผูกไว้กำกับพระชัยชุดประวัติศาสตร์ของท่านเพียงหยิบมือ ท่านว่าวิชานี้หาผู้รู้ยาก คนตั้งใจทำก็ไม่ค่อยจะมี จะไม่ทำไว้ก็กลัวจะหลงลืมเเละสูญหายไปเสีย ก็เลยตั้งใจทำเพื่อใช้เอง ซึ่งพอดีกับสมัยนั้นได้ขออนุญาติท่านเพื่อให้ท่านลงไว้บางส่วนในคนที่ไม่สามารถบูชาชุดตะกรุดเงินไหวจะได้มีกำลังบูชาดอกเล็กแทนกันได้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็เห็นด้วย ทั้งการจะทำตะกรุดนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก ที่ว่ายากเพราะผู้ทำต้องมีตบะเเละความเพียรที่สูงมากนั่นเอง หากพ่ออาจารย์ท่านไม่มีความตั้งใจจะทำออกมาเพื่อใช้เองเเล้วเราๆคงไม่มีโอกาสได้เห็นตะกรุดพระนารายณ์ทรงแผ่นดินเเน่นอน

    ประการแรก พ่ออาจารย์ท่านต้องลบผงเสียก่อน ซึ่งจะวางพระยันต์ชักยันต์ลบถมอิติปิโสกลบทนารายณ์ทั้ง 8 ภาค ทั้งอนุโลมและปฏิโลมและทับถมอักขระลงเป็นพระนารายณ์กลืนจักร พระนารายณ์คลายจักร พระนารายณ์ประสมจักร พระนารายณ์หักจักร พระนารายณ์ถอดจักร พระนารายณ์ยกจักร พระนารายณ์ปิดสมุทร ก่อนจะกลึงเป็นพระนารายณ์ทรงแผ่นดิน ที่ว่ายากเพราะต้องทำเช่นนี้กลับไปกลับมาซ้ำกันอยู่แบบนี้ถึง 108 ครั้ง จนได้ผงลบในปริมาณกระปุกหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าท่านใช้เวลาเพียรทำเพียรสะสมมานานนับ 10 ปีเลยทีเดียว ในส่วนของเครื่องมงคลอันสำเร็จด้วยอิติปิโสกลบทนารายณ์ทั้ง 8 ภาคนั้นยังพอหาผู้กระทำได้ แต่เครื่องมงคลที่สำเร็จด้วยอิติปิโสถอดตามตำรับพระพิชัยสงครามทั้ง 7 บทหลังนั้น ถือว่าหาผู้ทำมิได้ เพราะไม่ใช่ของสามัญธรรมดา แต่เป็นพระคาถาที่จะเก็บไว้ลงเครื่องให้พระมหากษัตริย์ออกเล่นสงคราม คนธรรมดาสามัญจึงไม่มีโอกาสได้เห็น นับเป็นโอกาสดียิ่งที่พ่ออาจารย์ท่านเพียรทำจนสำเร็จ ซึ่งกว่าที่ผงนี้จะสำเร็จนั้นก็ใช้เวลานานนับ 10 ปี ซึ่งผงที่ได้จากการเล่นวิชานี้จะใช้อุดเเบบหัวเชื้อล้วนๆไม่มีการผสมปูนหรือตัวประสานใดๆทั้งสิ้นๆ อุดไว้ภายในตะกรุดเทียมครู

    ทั้งก่อนลงจารแผ่นตะกรุดนั้นต้องนำไปเผารมควันเครื่องยาที่ใช้ประกอบยาทำผงมหาระงับ ถือเคล็ดว่าระงับทุกสิ่งระงับเรื่องร้าย ดับทุกข์เพื่อก่อให้เกิดความสุข ระงับวัฏจักรเพื่อให้พ้นสงสารก่อน พ่ออาจารย์จึงจะนำมาลงด้วยพระยันต์เฉพาะด้วยยันต์พระนารายณ์ทรงแผ่นดิน เสริมด้วยอักขระคาถาต่างๆทั้งหัวใจบาตรพระสีวลี(ถือคติที่ว่าพระสีวลีนั้นมีคุณเป็นเอกเรื่องโชคลาภ ยิ่งบาตรของพระสีวลีเเล้วเมื่อเปิดขึ้นมาที่ไหน สรรพสัตว์ทั้งหลายย่อมจะมาร่วมตัวกันมิได้ช้าเพื่อปรารถนาอยากทำบุญกับท่าน)หัวใจกลบทเลขยันต์พระศรีอาริย์ให้ลาภ(ดึงเอาอำนาจบารมีของมหาพุทธิโพธิสัตว์มาช่วยสงเคราะห์เร่งลาภ) และยังมีหัวใจพระยันต์อื่นๆอีกมากที่พ่ออาจารย์ท่านลงเสริมไป

    ทำไมต้องเป็นตะกรุดเทียมครูพระนารายณ์ทรงแผ่นดิน พ่ออาจารย์ท่านว่าเปรียบกับมนุษย์นั้นเหนื่อยยากลำบากมาเหลือเเสน เพียงเพื่อจะเสวยสุขทางโลก แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ ทำเท่าไหร่ก็ไม่มีความสุข ที่เราทำตะกรุดนี้ขึ้นมาเพื่ออธิษฐานจิตเชิญเทวานุภาพเเห่งพระนารายณ์ท่าน ที่ได้อวตารลงมาปราบยุคเข็ญ ปราบยุคมืดต่างๆ แบกหามความทุกข์ของชนทั้งโลกและแก้ไขให้กลับคืนความสงบสุข ถือคตินี้ ว่าพระนารายณ์เหนื่อยเพียงใด ท้ายที่สุดพระองค์ก็ได้นั่งเมืองเป็นพระยามหาจักรพรรดิ์ตราธิราช เสวยความสุขมิรู้สิ้นในตอนท้ายนั่นเอง

    ตะกรุดพระนารายณ์ทรงแผ่นดินนั้น เป็นพลังที่จะช่วยให้สัตว์ทั้งหลายก้าวล่วงความทุกข์ความยากลำบากโดยเร็วไว ให้ได้พบกับความสุข ความเป็นหญ่เหนือสรรพชีวิต ความมั่งคั่งมั่งมีรวมอยู่ตรงนี้ทั้งหมด แม้นมีผู้บัญชาการหรือมีลูกน้องบริวาร ทุกคนย่อมให้การสนับสนุนเคารพและเกรงกลัวเรา เลื่อนขั้นเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งมีวิชานารายณ์ทรงแผ่นดินทรงเมืองทับเมืองนี่อยู่ เปรียบเสมือนเป็นปกาศิตที่ขัดไม่ได้ เพราะวิชานารายณ์ทรงแผ่นดินนั้นเป็นใหญ่กว่าเขาหมด เปรียบกับมหาราชาได้ครอบครองกลืนโลกไว้ทั้งใบเช่นนั้น เหมาะกับคนแสวงหาความก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโตติดตัวไว้ตนเองจะมีสง่าราศีดวงดีไม่มีวันตก เหมาะกับคนที่อยากมั่งมีเพราะผู้ที่มีไว้จะไม่รู้จักคำว่าไม่มี ติดสถานบ้านเรือนที่ทำงานจะโอฬารอุดมสมบูรณ์กว่าหมู่ชนอื่น กันเสนียดกันทุกข์ พระยันต์นี้เป็นปฏิปักษ์กับความทุกข์ทั้งหลาย เรื่องไม่ดีเรื่องทุกข์ทั้งหลายต้องดับสูญทั้งหมด ใช้แก้อาถรรพ์ทั้งปวงได้ทุกชนิด เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์โลกปัจจุบันพ่ออาจารย์จึงเชิญครูเชิญบารมีพระนารายณ์ลงมาประจำทุกดอก อธิษฐานจิตให้ท่านช่วยสงเคราะห์ผู้ใช้ในส่วนของเรื่องโชคลาภ กิจการ หน้าที่การทำงานเป็นพิเศษ

    สำหรับเหรียญนี้ทุกการกระทำที่ผู้อาราธนานึกถึงองค์รามตราบใดที่ยังมีเหรียญพระชัยยกศรนี้อยู่ ท่านว่าทุกความปรารถนานั้นจะต้อง “สัมฤทธิ์ผล” พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่มีติดตัวขอให้หมั่นออกนามท่านถิด รามๆๆๆเถิด ชีวิตจะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บและเคราะห์หามยามร้ายได้ทั้งปวง

    คาถาบูชา
    โอม นารายัน วิทัมเห อูมฮะรีมดรีมทรูม ชัยยะนมัส


    *** รายการพระชัยชุดพิเศษนี้ของมีน้อยมากเพียงหยิบมือ พ่ออาจารย์ท่านว่าใครรู้คุณค่าก็มาเอาไป เขาก็ย่อมสนองคุณสมกับคนที่รู้คุณของเขา พระชัยชุดนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยท่านจะเจิมประสิทธิให้อีกคำรบหนึ่ง

    ร่วมทำบุญบูชา พระอวตารชัยราชยกศร(ชุดพิเศษผูกตะกรุดเทียมครูนารายณ์ทรงแผ่นดิน) บูชา 900 บาท

    77343524-434804993805825-6109398156003246080-n.jpg 77402023-556947271542614-5114376313670467584-n.jpg
    78527151-945869272448533-7018753474003206144-n.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูเขียนฝันใจปรารถนาธรรมนิรมิต - ได้ดั่งใจ (ทุกสิ่งไม่เกินเอื้อม,ฝันที่เป็นจริง)

    "วิชาของโยคะนิทรา(ภาคหนึ่งของพระแม่ทุรคา)"

    ด้วยเหล่าครูบาอาจารย์ในแดนทิพย์ท่านเล็งเห็นว่าปัญหาความเสื่อมโทรมและทุกข์ยากของผู้คนนั้นกำลังจะแผ่ขยายมายังศิษย์ทั้งหลาย ท่านเมตตาด้วยว่ายังมีบางคนที่ลุกขึ้นสู้ถึงแม้จะมีฐานะยากจนหรือประสบชะตากรรมอันยากลำบากแต่ก็มีความขยันอดทน และตั้งใจเดินตามความใฝ่ฝันที่ดีของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเหล่าทิพย์กายทั้งหลายท่านยังเมตตาอยู่ตรงนี้เพราะคนที่มีฝันเหล่านั้นเมื่อฝันแล้วเดินตามจึงจะเกิดพลังงานสร้างสรรค์เหนือพรหมหรือกรรมลิขิต เรียกว่าชีวิตยังมีไฟเพียงมุ่งเดินไปตามฝันก็จะพบแสงสว่าง เช่นนั้นครูท่านจึงให้วิชามาชุดนึงซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าชุดฝันที่เป็นจริง ท่านว่าให้เอาไว้ใช้ช่วยคนที่เขาไม่ย่อท้อเพื่อดึงเขาเข้าสู่ทางแห่งความสำเร็จ ในขณะเดียวกันวิชาชุดนี้จะมีอานุภาพมากยิ่งขึ้นทางด้านระบบความคิด เพราะแรงครูจะช่วยจุดประกายความคิด ควบคุมพลังงานด้านบวกทุกๆสิ่งมาเกื้อกูลเราโดยตรง ท่านว่าไม่ว่าเราจะเป็นใครจะมีความฝันอย่างไรวิชาชุดนี้ย่อมทำฝันของเราให้เป็นจริงได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติคนนั้นย่อมมีความปรารถนาไม่สิ้นสุด มีความคิดที่จะทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา บางคนก็ละเมอเพ้อพกในสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ จึงเรียกว่ามีทั้งคนประเภทที่สามารถทำให้ความฝันเป็นจริงได้ผ่านการกระทำของตนเอง(เป็นประเภทคิดแล้วลงมือทำ) กับอีกประเภทนึงคือฝันเกินจริงเป็นเพียงจินตนาการที่ตนติดอยู่ในความปรารถนานั้น ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเข้าใจว่าการทำความฝัน,ความคิด,ความปรารถนา(ที่เราตั้งไว้ให้เป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต)นั้นให้เป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ก่อนที่เราจะผ่านไปยังจุดที่สูงที่สุดได้เราต้องผ่านอะไรมา ต้องแลกมาด้วยอะไร บางคนอาจจะเเลกมาด้วยอุปสรรคและความยากลำบากมากมายกว่าจะพบความสำเร็จ ตรงนี้พอทำได้ใจมันก็ปิติเกิดความภูมิใจในตนเอง ท่านว่าคนประเภทนี้ต่อให้ตัวเขาไม่มีอะไรเลยเขามีแต่พลังใจที่เข้มแข็งเขาก็เดินก้าวออกไปได้ ใช้ใจที่เข้มแข็งไม่ย้อท้อต่อความลำบากเป็นจุดยืนและใช้กำลังใจจากคนรอบตัวที่รักเราหวังดีกับเรามาเป็นแรงผลักดันคอยสนับสนุนส่งเราอีกต่อหนึ่ง เรียกว่ามีทั้งกำลังภายนอกและภายในหนุนกัน *** ถึงแม้จะประสบความสำเร็จแต่เส้นทางนั้นกลับไม่ง่ายเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่มีแต่แรงใจอย่างนี้ย่อมเหนื่อยมากและใช้เวลานานมากเกินไปเช่นกัน

    เช่นนั้นตะกรุดครูธรรมนิรมิตนั้นจึงเป็นเครื่องมงคลที่จะชักนำเราไปสู่ความฝันขั้นสูงสุดแบบที่ไม่ต้องรอเวลาไม่ต้องใช้กำลังเกินตัว ท่านว่าด้วยความสำเร็จนั้นมันมีอยู่หลายแบบ แต่เนื่องจากเรานั้นเป็นมนุษย์ดังนั้นรู้ไว้เลยว่าทุกอย่างมันเป็นความว่างเปล่าอะไรที่อยากอะไรที่ต้องการมันมักจะไม่ได้มา ส่วนอะไรที่เราไม่คิดไม่ปรารถนานั่นย่อมได้มาง่ายๆ เช่นนั้นพอคนเราตั้งปณิธานตั้งความหวังไว้แล้วเดินไปตามฝัน เส้นทางนั้นจึงมักเปนอะไรที่ยากเป็นพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเพราะเราเป็นมนุษย์ส่วนความสำเร็จ(ที่ยิ่งใหญ์ไม่ใช่ได้ในเรื่องฉาบฉวย)นั้นเขาเป็นนามธรรมเป็นกฏของวัฏจักร ดังนั้นความฝันที่จะสำเร็จได้จึงเป็นนามธรรมที่สูงส่งยิ่งเกินกว่าความคิดเหลวไหลที่ไขว่คว้าไม่ได้ ทีนี้เมื่อมนุษย์เอาตัวเองเข้าไปหาไปไขว่คว้านามธรรมเช่นนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากและเกินกำลัง แต่ด้วยแรงครูของตะกรุดนั้นท่านจะเอื้อให้ปัจจัยทั้งปวงเกิดขึ้นได้เพื่อดึงเอามโนและความคิดของเรามาทำให้มันเป็นจริงในโลกแห่งความจริง ท่านจึงเปรียบตะกรุดนี้ว่าสำคัญนักด้วยเขาเป็นปัจจัยที่จะสร้างตัวตนของเรา สร้างความคิดเราให้ปรากฏในโลกความจริง ในขณะเดียวกันมโนความคิดของเราก็เป็นปัจจัยที่จะถูกป้อน เป็นพลังงานให้เขาเช่นกัน จึงเรียกได้ว่าเป็นการทำงานที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง

    ตะกรุดธรรม...ปัจจัยที่จะสร้างตัวตนของเราในโลกแห่งความจริง
    ไม่ว่าจะเป็นจินตนาการหรือความฝันง่ายๆแต่ทำไม่ได้ แม้กระทั่งเรื่องฝันอันสูงสุดที่ตั้งไว้เป็นเป้าสุดท้ายในชีวิตว่าชาตินี้ต้องทำให้ได้เพราะเป็นเรื่องอันยากที่มนุษย์จะทำ ไม่ว่าจะเรื่องใดนั่นก็ล้วนเป็นความปรารถนาที่จะจุดไฟในชีวิตของตัวเราอยู่ลึกๆทั้งสิ้น แต่ทุกคนคงรู้ดีกันอยู่ว่ามันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน *** บางคนนั้นเหนื่อยเพราะเดินตามฝันมามากและเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทำตามฝันให้สำเร็จหรือเป็นจริงได้ บางคนนั้นยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ด้วยอาชีพกับสิ่งที่คิดนั้นเป็นคนละเรื่องกันเลยจึงไม่มีโอกาสเดินตามความตั้งใจของตนเอง ด้วยพันธะต่างๆมากมายที่เกี่ยวรัดพัวพันเนื้อตัวและชีวิตเราอยู่ บางครั้งจึงทำได้เพียงเสียดายและเสียใจทำได้เพียงแค่ยืนมองฝันนั้นอยู่ในความคิดในขณะที่บางคนยืนมองความฝันนั้นหลุดลอยไป บางทีเห็นคนอื่นทำในสิ่งที่เราคิดไว้จนสำเร็จก็ยังทอดถอนใจว่าทำไมคนๆนั้นถึงไม่ใช่ตัวเรา
    ในขณะที่คนอีกประเภทหนึ่งนั้นก็มีความฝันซึ่งไม่ได้ทำไม่ได้รับการเติมเต็มเหมือนกัน หากแต่ต่างกับประเภทแรก
    เพราะความฝันเขาเป็นเพียงความคิดเพ้อเจ้อ ซ้ำเขายังหลอกตัวเองอยู่เสมอด้วยว่าไม่ได้ทำก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ชีวิตทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็มีความสุขดี...เราเพียงพออยู่แค่นี้มันก็โอเคแล้วนะ....ท่านว่าคนแบบนี้นี่แหละน่ากลัวเพราะเขาหลอกได้แม้กระทั่งตัวเองเพื่อความสบายใจของเขา ไม่ได้เอาความคิดมาจุดพลังไฟเป็นประกายกับชีวิต ปล่อยมันไปกับตรรกะผิดๆเพราะในใจลึกๆแล้วตัวเองย่อมรู้ดีที่สุดว่าเราพอใจชีวิตจริงหรือ พอใจแล้วหรือที่ตัวเองยังห่วยอยู่ ยังก้าวไปได้ไม่สุดทั้งที่ตนมีแรง ยังไม่ประสบความสำเร็จ คนแบบนี้เรียกได้ว่าไม่รู้จักตัวเองถึงเขาจะหลอกตัวเองได้แต่ก็ต้องใช้ชีวิตเสแสร้งค้างคาใจไปวันๆอยู่เช่นนั้นไปจนตาย
    อาการค้างคาใจและปล่อยไปเหล่านี้ มันทำให้เราเดินวนอยู่ในเกมส์ชีวิตที่เราเล่นไม่ชนะ ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งก่อสร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จดุจนั่งอยู่ในบ้านที่ไม่มีหลังคาพอฝนมันตกฟ้ามันผ่าก็กังวลหาทางรอดไปวันๆ ด้วยความฝันนั้นถึงบางทีพอทำจริงๆแล้วอาจจะดูยากเกินไป บางคนพยามจนเหนื่อยแทบตายก็ไปไม่ถึงเสียทรัพย์สินลงทุนลงแรงไปเปล่าๆ ความคิดว่าเราเสียดายเวลาเสียดายนั่นนี่ไปเรื่อยมันจึงเป็นความคิดที่เราบั่นทอนกำลังใจตัวเอง
    พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากไม่มีปัจจัยบวกแล้วเรายังสร้างปัจจัยลบมาปิดตายความปรารถนาตัวเองด้วย เช่นนั้น
    ### สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยหากจะเดินไปให้สุด ไปยืนอยู่ในจุดสูงสุด คว้าเอานามธรรมที่ยิ่งใหญ่ดึงมันลงมา สิ่งสำคัญนั้นก็คือปัจจัยบวก..ปัจจัยที่จะเป็นพลังช่วยสร้างตัวตนของเราขึ้นมาในโลกแห่งความจริง(เพราะบางคนนั้นความฝันเขายิ่งใหญ่แต่ในความจริงตัวตนเขาเป็นเพียงนายกอ นายขอ ที่ไม่มีใครรู้จัก)จึงเรียกว่าไร้ตัวตนในโลกจริง ยิ่งคนที่คิดว่าฝันไม่มีทางเป็นจริงหรือเคยสู้แล้วแต่ทำไม่ได้ไปไม่ถึงจึงเลือกที่จะหยุดและจบมันไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเพราะคิดแต่จะดิ้นรนไป เหมือนเดินขึ้นทางลาดชันที่มีหินกลิ้งพร้อมทับเราตลอดนั่นคือคนลงทุนในเรื่องเสี่ยง ไม่มีปัจจัยรอบตัวคอยสนับสนุน หากแต่ตะกรุดดอกครูนี้เขามีกำลังสนับสนุนเราให้ความฝันเปลี่ยนถ่ายปัจจัยเกื้อกูลกันในโลกจริง ดั่งเราจะมุ่งหน้าขับรถไปในถนนที่ลาดยางแล้วไร้อุปสรรคไร้อันตรายไร้คู่แข่งเช่นนั้น

    ชีวิตใครที่หมดหวัง หมดสิ้นกำลัง...แลหยุดเดินแล้ว อาจด้วยเพราะเดินไปได้ไม่สุด นั่นก็เพราะตัวเขาขาดพลัง ซึ่งตะกรุดใจไม่ปรารถนานี้จะเป็นดั่งกุญแจเพียงดอกเดียวที่ใช้ไขเปิดชะตาเรา ผลักให้เราเข้าใกล้ความฝันช่วยให้เรามีความคิดบวกเอาชนะความคิดและจิตใจตัวเองเป็นปฐมก่อนจะเอาชนะทุกสิ่งในโลกแห่งความจริง ท่านว่าขอแค่เพียงเราลงมือและอาราธนาตะกรุดไว้ปัจจัยเสี่ยงต่างๆในชีวิตจะจางลางเลือนไป ขอแค่เรากล้าในสิ่งที่ถูก คุณของตะกรุดนั้นจะผลิดอกออกผลให้เราเห็นให้เราค้นหาอีกตัวตนนึงที่ซ่อนอยู่ในตัวเองของเราเจอ ทั้งปลดปล่อยตัวเราออกจากโลกแห่งความฝัน โลกที่ปิดตาย โลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง เขาจะชนเข้ากับทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในทุกสิ่งที่เราปรารถนา ขอเพียงตัวตนของเรามีความต้องการและมีความพร้อมที่จะรับทุกอย่างเพื่อเป้าหมาย ท่านว่า *** หากใครรู้ตัวนั่นนับว่ายังทันให้รีบอาราธนาเสียแต่ตอนนี้ไม่มีคำว่าสาย ด้วยความปรารถนาให้ชีวิตตนสมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องที่มีวันหมดอายุ ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับอายุขัยว่าจะหนุ่มจะแก่ทุกคนมีความฝันได้หมด ทั้งฝันเรื่องการทำงานการประสบความสำเร็จต่างๆในขณะที่ความสำเร็จบางคนไม่อยู่ที่การเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคนั่นก็มี ด้วยตะกรุดนี้จะนำเราเข้าหาสุขที่แท้จริง สุขอันเกิดขึ้นจากฝันที่สมปรารถนา ทั้งยังจะเป็นเกาะเพชรกำแพงเห็ลกป้องกันตัวเรายามเจออุปสรรคทั้งหลายในปัจจัยเสี่ยงรอบตัว

    ตะกรุดฝันนี้พ่ออจารย์ท่านว่าอย่าเห็นเป็นตะกรุดแล้วจะคิดว่าเป็นเพียงท่อนเหล็กธรรมดา ด้วยเขานั้นมีจิตวิญญาณมีชีวิต เขาจะคอยช่วยเติมเต็มให้เราสมหวังในความฝันไม่ว่าจะเรื่องความรักหรือเรื่องอะไรก็ดี ขอเพียงใจเรามีปรารถนาเพียงเท่านั้นไม่ต้องพูดไม่ต้องขอก็ได้ดั่งใจ ใครได้ไว้บูชาจะเกิดความเจริญรุ่งเรืองมีโชคลาภไม่ขาดดั่งอยู่ในแผ่นดินที่พลิกกลับหน้าดินเพื่อประโยชน์สูงสุดของเราและถูกยกให้สูงขึ้น จะมีอำนาจวาสนาบารมี มีคนนับหน้าถือตาอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งยังใช้สะกดให้คนเชื่อฟังอยู่ในอำนาจของเรา ท่านว่าติดตัวไว้เถิด *** ใครที่ดวงตก ทำมาหากินไม่ขึ้น ไม่เคยมีโชคเลย ท่านเปิดดวง ลงวิชาเบิกฟ้า ใช้ทั้งฤกษ์โจรเพื่อให้เราทำตามความฝันได้ง่ายๆ ทำอะไรก็สำเร็จง่ายดายได้สิ่งที่ต้องการจากคนอื่นง่ายๆเหมือนเขาโดนโจรปล้น บางคาถาบางวิชาก็ลงในฤกษ์เศรษฐีบ้าง ราชาฤกษ์บ้าง กว่าจะได้ตะกรุดดอกนึงนั้นท่านว่าไม่ง่ายเลยแต่ละตัวต้องรอฤกษ์ยามทั้งสิ้นกว่าจะผูกตะกรุดได้ดอกนึงท่านต้องลงเป็นสิบวิชาตามที่ครูสั่ง ท่านว่าตะกรุดนี้ใครมีไว้จะรุ่งเรือง เอาชนะคนใจแข็ง เอาชนะคนรัก เหนือคู่แข่ง เหนือศัตรู แม้ลงมือทำอะไรย่อมกินใจผู้อื่น ขอเพียงมีความปรารถนาไม่ว่าจะเรื่องใดตะกรุดนั้นจะดักมาให้ทุกสิ่ง ดั่งตัวเราเปรียบว่าไม่ต้องขอไม่ต้องอธิษฐานไม่จำเป็น เพียงเราใช้ชีวิตของเราไปตะกรุดเขาก็จะนำมาความปรารถนาซึ่งก็คือเหยื่อมาให้เราถึงที่ท่านว่าตะกรุดนี้อยู่ที่ไหนชีวิตไม่มีตกอับ

    วิชานี้ในอดีตพ่ออาจารย์ท่านตั้งค่ากำนลครูไว้สูงมากถึงดอกละห้าหมื่นบาท ท่านว่าที่ตั้งราคานี้ไม่ใช่เพราะเราโลภ แต่ท่านตั้งให้รู้ว่าตะกรุดนี้มีค่ามากนักพอที่จะทำตามความฝันของคนให้เป็นจริงได้ด้วยความสำเร็จอย่างสูงนั้นเป็นของสูงค่าเหนือทุกสิ่ง จะเห็นว่าท่านตั้งราคาไว้สูงลิบมากกว่าตะกรุดหลักๆของท่านทุกชนิด ซ้ำยังไม่ให้วางไม่ให้ลงเพราะกลัวใจคนเขาไม่รู้ก็จะพูดไปเรื่อย ท่านว่าเอาจริงๆนอกจากทำยากแล้ว ตะกรุดนี้อย่างอื่นไม่มีอะไรยากเลยเพราะใช้ก็ง่ายทั้งยังช่วยให้ชีวิตเปลี่ยนไปแบบง่ายๆ ท่านว่ามีดีเสมอใจขอแค่เรามีฝันเรามีไฟ ใจเรามีกำลังใจฮึดสู้มากเท่าไหร่เขาก็ดีมากเป็นเงาตามตัวเราเพียงนั้น เพราะใช้ง่ายๆอย่างนี้ท่านจึงตั้งราคาไว้สูงด้วยไม่ปรารถนาจะให้คนเอาไปใช้กันง่ายๆ ท่านว่าคนไม่รู้ค่าได้ไปก็เสียดายขอ

    วิธีใช้
    ตะกรุดดอกนี้ท่านว่าใจเราปรารถนาอะไรในโลกนี้ไม่มีใครรู้กับเรา ให้เอากระดาษเขียนความปรารถนาในใจของเรายัดไว้ใส่ตะกรุด เป็นเคล็ดว่าความในใจของเราทั้งโลกนี้เรารู้เขารู้ ใส่ใจของเราลงไปใส่ความปรารถนาเราไปในตะกรุด ปรารถนาสิ่งใด..ปรารถนาผู้ใดทุกอย่างจะสำเร็จไวดั่งต้องมนต์โดนอาถรรพ์ จะทำให้ฝันของเรานั้นเป็นจริง พ่ออาจารย์ท่านว่าเขียนในสิ่งที่ควรเขียนย่อมไม่มีสิ่งใดเกินเอื้อม

    ตะกรุดนี้ท่านให้ใช้เพื่อช่วยให้ฝันเป็นจริง เพราะครูเบื้องบนท่านรับรู้และรับทราบว่าตอนนี้ทุกคนมีความคิดหากแต่ทำไม่ได้ จึงติดกันอยู่ในความคิดความฝัน ได้แค่คิดแต่ไปไม่ถึง ครูท่านจึงให้พ่ออาจารย์ท่านนำตะกรุดนี้ออกมาให้ใช้กันทั้งยังกำชับไว้ว่าให้ลดค่ากำนลครูลงพอดีๆเพราะเวลานี้คนที่เขาได้ไปจะรู้ค่าและเห็นค่าในตัวตะกรุดอย่างแน่นอน ที่จริงท่านกำชับว่าไม่ต้องไปพูดหรือไปบอกอะไรเขามาก บอกไว้แค่เป็นตะกรุดฝันก็พอ (ทีแรกผมเองยังคิดเลยว่าถ้าพิมพ์สั้นๆมาว่าตะกรุดฝันแค่นั้นใครจะเข้าใจกับท่านได้) จึงได้ขอให้ท่านลงรายละเอียดพอสมควร ซึ่งท่านก็ให้รายละเอียดมาคร่าวๆ ท่านว่าเอาไปใช้เถิดไม่มีสิ่งใดเกินเอื้อม เขาจะสานฝันและเติมเต็มความปรารถนาของเราให้ถึงฝั่ง
    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ตอนทำที่ว่ายากเพราะเสี่ยงตายทำ ตอนกำหนดฤกษ์ลงเป็นครั้งๆยังไม่เท่าไหร่ แต่พอครูซึ่งเป็นทิพย์กายทั้งหลายท่านบอกวิธี ตอนแรกเราก็ใจหายเพราะต้องไปขอขมาแม่พระธรณีก่อน จากนั้นจึงนั่งใช้หัวแม้เท้าปิดปากรูแมงมุมชนิดนึง(เป็นอาถรรพ์ลับหากแต่แมงมุมยักษ์ชนิดนี้มีพิษกัดคนถึงตาย) พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้จึงเรียกว่าเสี่ยงตายทำต้องตัดกังวลทิ้งไปเลยดั่งยกชีวิตให้ครูท่านแล้วต้องเชื่อใจกันเพราะในรังของมันไม่ได้มีแค่ตัวเดียว เช่นนี้ท่านจึงตั้งค่ากำนลครูไว้สูงและไม่อยากออกให้ใครใช้ เพราะตะกรุดนี้ตอนทำต้อแลกมาด้วยชีวิตตัวเอง ใครเอาไปใช้ก็ต่อความฝันต่อชีวิตเขาได้ด้วยว่าตะกรุดนี้นอกจากเขียนฝันเขียนความปรารถนาจะเป็นจริงแล้ว ท่านว่าหากเหลือบ่ากว่าแรงจริงให้เอาตะกรุดปักแม่พระธรณี(แผ่นดิน)...แล้วขออะไรกับแม่พระธรณีย่อมได้ทั้งสิ้น

    *** คาถา พ่ออาจารย์ท่านว่าของที่มีชีวิตคาถานั้นไม่จำเป็นเลย เพียยงจดจำวิธีใช้เอาไว้และพกติดกายอย่าให้ห่าง เวลานอนก็ให้นำตะกรุดสอดไว้ใต้หมอนท่านว่าจะไม่ฝันเรื่องไร้สาระทั้งยังง่ายต่อการเกิดเทพสังหรณ์หรือฝันที่จะเกิดขึ้นจริงเป็นการบอกเตือนเหตุการณ์ล่วงหน้าในชีวิตเรา

    ### ตะกรุดเขียนฝันนั้น พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพียงหกดอกด้วยเนื้อตะกั่วสูตรลับ(หลอมรีดจากจะกั่วขอมโบราณผสมกับแร่โคตรเศรษฐีและเงินพดด้วงอาถรรพ์)ก่อนนำมาทำการลงถม ด้วยท่านใช้ประจำตัวอยู่หนึ่งดอกจึงมีให้บูชาเพียงห้าดอกเท่านั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ท่านว่าผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ท่านจะทำการบอกกล่าวแก่ครูโยคะนิทราให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูเขียนฝันใจปรารถนาธรรมนิรมิต - ได้ดั่งใจ (ทุกสิ่งไม่เกินเอื้อม,ฝันที่เป็นจริง) บูชา 4,000 บาท

    78320550-417737962444238-5182273695011307520-n.jpg
    78398167-749749938841382-1731343940273045504-n.jpg
    74484502-740727786336012-7153707466771922944-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2021
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์องค์ธาตุฆ่าวิชาทรงกิเลนฟ้าสวรรค์ (ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก)

    "องค์ธาตุนี้เหมาะกับคนที่มีศัตรูเยอะๆ ทั้งศัตรูที่มองเห็นและมองไม่เห็น"

    องค์ธาตุหรือเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์อันหล่อเลี้ยงโลกตัวนี้ พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า "มหาธาตุฆ่าวิชา" ท่านว่าเนื้อเหล็กไหลชุดนี้ท่านได้มาจากพม่านับว่ามีปาฏิหาริย์มากทางด้านดับล้างศัตรูคู่อริ แม้เป็นยอดคนทรงอาคมมีวิชามีบารมีมากเพียงใดหากมาประทุษร้ายคิดไม่ชอบกับเราพระเวทย์นั้นก็เสื่อมถอยหมด ท่านจึงแปลกใจในอานุภาพองค์เหล็กอย่างมาก จนได้สอบถามสมเด็จองค์ปฐมบรมครู ซึ่งท่านก็ให้นามเรียกองค์เหล็กนี้ว่ามหาธาตุฆ่าวิชา ...ด้วยองค์ธาตุนี้มีคุณจำเพาะพิเศษเหมาะจะใช้ล้างอาถรรพ์ในร่างกายคนหรือสถานที่ต่างๆที่มีอาถรรพ์มาก # ร่วมไปถึงกายสังขารใดที่ปนเปื้อนด้วยอวิชชาการกระทำสั่งสมมานับแต่อดีตชาติมิอาจสำนึกรู้ได้ อาถรรพ์และอวิชชาที่ขัดขวางให้เจ็บไข้ได้ป่วย ขัดขวางการทำมาหากิน ขัดขวางความสำเร็จในทุกสถาน ทั้งคุณผี,คุณเจ้า,คุณเทวดา,คุณปีศาจทั้งหลายที่รังแกเราจะกระทำต่อตัวเราหรือสถานที่ของเราไม่ว่าจะที่ทำมาหากินที่ดินหรือบ้านเรือนก็ดี สิ่งเหล่านั้นจะจางลับดับหายไปและจะมากระทำต่อเราไม่ได้อีกเลย(เรียกว่าไปแล้วไปลับไม่กลับมาทักทายเราเรื่อยๆนั่นแหละ) ท่านว่านี่แหละชีวิตใครที่ว่าเดือดร้อนหรือคับขันให้เชิญองค์ธาตุฆ่าวิชาไปบูชา ศัตรูจะทำอันตรายอะไรเราไม่ได้เลยทั้งที่ตามองเห็นและมองไม่เห็น(พ่ออาจารย์ท่านว่ามันลึกล้ำมากกว่าคำว่าศัตรูเพราะแท้จริงองค์เหล็กยังกำราบอวิชชาคำสาปและอาถรรพ์แต่ปางบรรพ์ในเนื้อตัวของคนห้อยด้วย) แม้บุคคลใดที่เล่นคุณวิชาหรือมีของดีรักษาตัวก็จะมาแข่งวาสนาบารมีกับเรานั้นไม่ได้ ด้วยองค์ธาตุท่านกำจัดไม่มีเหลือ ทั้งนี้หากองค์ธาตุได้ปราบปราม,ข่มเหง,ผูกมัดหรือขับไล่แก้ไขแก่สิ่งใดในชีวิตเราแล้วท่านว่าไม่ต้องกลัวว่าจะตกเป็นเวรกรรมต่อกัน เพราะองค์ธาตุฆ่าวิชานี้เป็นยอดกายสิทธิ์สายบารมี สด็จพระใหญ่ท่านบอกเราว่าเขาจะขับความพยาบาทให้จางหายไม่อาฆาตจองเวรต่อกันทั้งองค์ธาตุนี้จิตของเขายังแผ่กำลังกุศลตั้งจิตของเขาให้อภัยไม่ผูกติดพยาบาทสิ่งใดก็ตาม จึงเป็นของอาถรรพ์ที่ทรงกำลังทั้งยังอยู่เหนือกฏของเวรกรรมอย่างแท้จริง ท่านว่าใครที่กลัวๆว่าจะใช้ของแล้วจะติดเวรกรรมกับผู้อื่นต้องใช้องค์ธาตุที่ให้คุณเช่นนี้

    พ่ออาจารย์ท่านได้เชิญองค์ธาตุนี้มาฝังไว้ในพระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์ทรงกิเลนฟ้าของท่าน โดยเจาะจงฝังองค์ธาตุไว้ใต้ที่ประทับพระศาสดา และตั้งสถิตย์อยู่บนหลังกิเลนฟ้าสวรรค์ ท่านว่า *** วิชาสร้างองค์พระเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้น คือการนำกำลังของเจตนาความตั้งใจมุ่งหมาย หรือจงใจจะกระทำให้เป็นไป เป็นเจตนาของสวรรค์ที่จงใจจะโปรดเราแม้ขัดกับพรหมลิขิตหรือกรรมบันดาลต่างๆ...ท่านว่าเรื่องมันใหญ่แต่เราพูดได้แค่คร่าวๆเท่านี้เสด็จพระใหญ่ท่านให้เลี่ยงไปพูดอย่างอื่นดีกว่าท่านว่าให้เขารู้แค่เท่านี้ นอกเหนือจากนี้ผู้ใดอาราธนาองค์พระก็เสมือนอยู่ในบัญชรแวดล้อมของเหล่าพระพุทธเจ้าและพระอสีติมหาสาวกทั้งหลายตลอดเวลา ดุจมีดวงแก้วเจตน์จำนงค์สวรรค์จะใช้ทางอธิษฐานบอกกล่าวต่อเจตน์จำนงค์ของโลกและสวรรค์โดยตรงก็ได้หรือจะอาราธนาเปิดภูมิปัญญาและวิปัสนาของตนก็ได้ โดยผู้ที่อาราธนาองค์พระนั้นจะมีญาณทัศนะเฉพาะตนที่กระจ่างเเจ่มชัดขึ้นกว่าเดิมดุจสัมผัสพิเศษได้ถูกขัดเกลา ทั้งจะชักนำตัวเองไปสู่หนทางของความสุขอันประเสริฐ ชีวิตจะไม่ตกต่ำหรือหยุดอยู่จุดเดิม แม้ภูติผีปีศาจก็ไม่กล้าเข้าใกล้ สิ่งที่ขัดขวางหรือคนที่เป็นภัยคอยทำอันตรายจะทำลายเราไม่ได้เลย ปัญหาและข้อขัดข้องในชีวิตทั้งหลายจะจืดจางหายไป..จะใช้เรียกโชคลาภใดๆก็ง่ายดุจใจปรารถนา

    พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมมวลสารมงคลต่างๆ เช่น พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108,คดไม้มงคล108,ไม้มงคลที่ตายพราย108,ว่าน108,เกสร108,ไม้ไผ่ตัน,ไม้รวกตัน,คดข้าวสารดำ,ข้าวสารหิน,สมุดใบข่อยใบลานเก่า,ผงธูปบูชาพระ,ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธเจ้า,กะลาตาเดียว,กะลาไม่มีตา,คดมะพร้าว,กิ่งโพธิ์นิพพาน,ไม้ไก่กุก,ปูนากระตุกเดือน5,กบจำศีลเดือน5ตายคารู,เขี้ยวงูจงอางที่ฝักไข่จนตายคาไข่,ไม้คานคุก,ไม้คานประตูคุก,ชันโรงกลางแจ้ง,ไม้คานแม่หม้าย,สากกะเบือแม่หม้าย,ไม้คานและสากกะเบือของหญิงที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร,เขาควายเผือกฟ้าผ่า,เขี้ยวเสือโปร่ง,เขี้ยวหมูตัน,คดสมองวัว,คดขนุน,งาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,เขากวางคุด,เขากระจงคุด,งูปากเป็ด,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่เจดีย์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ดินสังเวชนียสถาน,เพชรน่าทั่ง,ดินกากยายักษ์,เหล็กสังขวานร,เหล้กน้ำพี้,รังเหล็กไหล,ข้าวตอกพระร่วง,จิ้งจกสองหาง,จิ้งจกห้าหาง,อัญมณี,ตะไคร่หลักเมือง,น้ำฝนกลางหาว,ผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช.. ท่านว่ากว่าจะรวบรวมมวลสารจนครบตามตำราพ่ออาจารย์ท่านว่าเราต้องเจออาถรพพ์อะไรมามากมายเเละยากกว่านั้นก็คือการบดเป็นผง ของบางอย่างกว่าจะบดได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงกินเวลาหลายสิบปี เมื่อรวบรวมผงได้แล้วท่านจะนำมาปั้นเป็นแท่งชนวนลงวิชาหมื่นกาลผันชีวิต ท่านว่าวิชานี้สามารถใช้แปรเปลี่ยนเหตุของทุกข์ได้นับหมื่น ไม่ว่าจะเหตุของทุกข์ที่เชื่อมโยงกับกาลเวลาใดทั้งในอดีตและปัจจุบันย่อมแก้ไขได้ แปรเปลี่ยนได้ ผกผัน กลับตาลปัตได้เช่นนั้น เรียกว่าอะไรที่มันดีก็ดีดให้มันดีกว่าเดิม อะไรที่มันแย่มีต้นเหตุมาจากกรรมนำพาแต่ชาติก่อนๆหรือหาสาเหตุไม่ได้ก็ผันกลับให้มันดีขึ้นมาได้ วิชานี้ท่านว่าเป็นวิชาเอาไว้กลับวาสนาชะตาคนที่ร้ายก็เปลี่ยนให้ดี

    พระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นท่านทำวิชากิเลนฟ้าสวรรค์เป็นฐานแบกองค์ธาตุและองค์ธรรม(สมเด็จองค์ปฐม)เอาไว้ด้วย ท่านว่าทำเช่นนี้จึงครบทั้งธาตุและธรรมพระผงรุ่นนี้จึงเป็นสิ่งแทนครูแทนใจขององค์ต้นธาตุต้นธรรมเมื่ออาราธนาจึงได้ชื่อว่าครูอยู่ครบทั้งธาตุทั้งหลายยังมาชุมนุมเกื้อหนุนเราทั้งสิ้น นอกจากนี้วิชากิเลนตำรับพ่ออาจารย์ท่านก็ยังให้คุณมากดั่งที่ทราบกันดี..ว่า
    หากกล่าวถึงกิเลนนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสัตว์สวรรค์ที่มีตัวตนอยู่จริงเพราะท่านเคยเห็นมันมาก่อนและท่านก็รู้ว่าหากใครมีวาสนาดีพอจะได้เห็นกิเลนแล้ว ชีวิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

    ด้วยเชื่อว่ากิเลนนั้นมีลักษณะของสัตว์มงคลห้าชนิดรวมกัน คือ หัวมังกร เขายูนิคอร์น ตัวเป็นกวาง มีเกล็ดเหมือนปลา มีหางเหมือนวัว และยังเกิดจากธาตุทั้งห้า คือ ดิน, น้ำ, ไฟ, ไม้ และทอง ผสมกันจึงเป็นสัตว์สวรรค์ชนิดเดียวที่มีความสมดุลย์ของเบญจธาตุซ้ำยังมีอายุอยู่ได้ถึงหลายพันปีและถือว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี เมื่อจะปรากฏให้เห็นครั้งใดก็จะเกิดผู้มีบุญมาปกครองบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุขเมื่อนั้น ดั่งในยุคของฝูซีเป็นผู้ปกครองโลกกิเลนได้ปรากฏตัวขึ้นที่แม่น้ำฮวงโห หลังกิเลนมีลายอักขระจารึกซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายมาเป็นตัวอักษร กิเลนจึงถือเป็นหนึ่งในสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยกิเลนเป็นสัญลักษณ์ของวาสนาและความมั่นคง ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ายังใช้ป้องกันสิ่งอัปมงคลได้ เรียกได้ว่ากิเลนเมื่อปรากฏขึ้นที่ไหนหมายถึงสถานที่นั้นกำลังจะมีเรื่องมงคลเกิดขึ้น หรือผู้ใดได้เห็นกิเลนบุคคลผู้นั้นก็จะมีแต่โชคดีไม่มีเรื่องร้าย ซ้ำพลังงานของกิเลนยังจะช่วยกรองและขจัดสิ่งอัปมงคลต่างๆให้พ้นตัวไปแลจะนำเอาความโชคดี ข่าวดีมาให้ด้วยเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
    ด้วยคุณลักษณะดังกล่าว ทั้งยังมีนิสัยเชื่องและเป็นมิตรกับมนุษย์ แม้จะมีฤทธิ์มีอำนาจแต่ก็ไม่เคยทำร้ายคน ไม่ทำลายต้นไม้ใบหญ้าจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่ากิเลนนั้นเป็นสัตว์ห้าธาตุที่เหนือกว่าเทพพิทักษ์ประจำธาตุทั่วๆไปจึงมีขนห้าสีปรากฏอยู่กลางหลัง ซ้ำยังมีกำลังนำธาตุทั้งห้ามาเล่นฤทธิ์ได้เช่นพ่นน้ำ พ่นไฟ ทำเสียงคำรามเหมือนฟ้าดินแปรปรวน มีเขาเป็นอาวุธวิเศษ คนจีนโบราณเรียกกิเลนว่าเหรินโซ่ว ด้วยเพราะกิเลนมีนิสัยประหลาดไม่เคยทำร้ายใครถึงขนาดที่ว่าจะไม่เดินเหยียบย่ำลงไปในใบหญ้าที่ยังเขียวสด อีกทั้งไม่เหยียบย่ำแมลงเล็กๆที่มีชีวิตนี่จึงเป็นคุณลักษณะทางเมตตาที่กิเลนแสดงออกอย่างใหญ่หลวงต่อสรรพชีวิต ต่างจากสัตว์เทพชนิดอื่น ด้วยเป็นสัตว์มีเมตตาสูง มีใจอารี ไม่ทำร้ายมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์จึงใช้ฤทธิ์ของกิเลนที่มีครบทั้งห้าธาตุทั้งยังมีลักษณะเชื่องด้วยเมตตาแลเป็นมิตรกับมนุษย์อย่างที่สุดมาสร้างเป็นฐานรององค์ธาตุองค์ธรรม
    นอกจากกิเลนเป็นสัตว์ที่มีเมตตามีคุณธรรมสูงอีกทั้งซื่อสัตย์ แม้ในเรื่องการสลายพลังงานพิฆาตเขาก็ยังทำได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่ทำเครื่องมงคลอันมีลักษณะเฉพาะเกี่ยวข้องกับพลังงานลบทั้งหลายก็ทำได้เพียงการขับดันดูดกลืนถ่ายเทให้เกิดสมดุลย์ทำได้เพียงกลับสถานการณ์เลวร้ายให้ค่อยๆดีขึ้น แต่กับกิเลนนั้นเค้ามีสายเลือดพิเศษและมีพลังเฉพาะตัวของเขาจะเรียกว่ามีคุณเฉพาะทางก็ได้นั่นคือการสลายพลังพิฆาต ไม่ใช่การดูดขับปรับสมดุลย์แต่เป็นการสลายทิ้งไปเฉยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอพอจะนึกออกมั๊ย สลายก็คือหมดไป อยู่ดีๆมันก็หมดไปไอ้ตัวเคราะห์ร้ายทั้งหลายนั่นแหละ คือไม่ใช่มันไม่เกิดนะแต่มันหมดมันจึงเกิดไม่ได้ กิเลนจึงนับว่าแตกต่างกับสัตว์อื่นๆเช่นเสือสิงห์ มังกรแลสัตว์เทพทั้งหลายดังนี้ และผู้รู้มักจะใช้กิเลนเป็นเทพพิทักษ์คือใช้ไปในทางปกปักรักษามากกว่านำไปใช้ทำลายล้างผลาญใคร ด้วยเป็นสัตว์เทพที่ให้คุณอนันต์ชนิดที่แม้เทวดาหรือโพธิสัตว์ยังปรารถนาจะได้มาเลี้ยงไว้เพื่อดึงดูดสิริมงคล เพราะกิเลนนั้นนอกจากเขาจะสลายพลังพิฆาตแล้ว เมื่อเขาสลายพลังงานนั้นหมด พลังของเขาจะเริ่มดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาผู้ดูแลเป็นระบบของเขาด้วย
    ด้วยเป็นสัตว์เทวะที่คอยปราบปรามความชั่ว คอยปกป้องคนดี และมอบความโชคดีให้คนเหล่านั้น เช่นนั้นใครที่ได้บูชากิเลนจึงนับว่าเป็นโชคอย่างมหาศาล เพราะกิเลนเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดโชคลาภและวาสนาที่จะดีดสูงขึ้นอย่างมากมายมหาศาลจนน่าประหลาดใจเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยปกตินิสัยสัตว์เทพตัวนี้จะรักสิ่งสวยงาม รักทรัพย์สมบัติและของมีค่าเช่นนั้นจึงถือว่าเขาแสวงหาทรัพย์ทั้งหลายเก่งกว่าผู้ใด เพราะในที่สิงสถิตย์ของเขาแม้จะเป็นที่นอน ที่นั่ง หรือที่ซึ่งเขาจะยืนเป็นประจำนั้นล้วนแต่ต้องมีทรัพย์สินเงินทองมณีจินดาอันสูงค่าทั้งหลายวางกองไว้ ด้วยนิสัยกิเลนนั้นจะเรียกว่ามักใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองก็ไม่ผิด เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำรูปกิเลนหนนี้ ด้วยนอกจากจะตั้งใจสลายพลังงานพิฆาตดึงดูดโชคดีแล้ว ยังเป็นเมตตามหานิยมอย่างสูงจนน่ากลัว และปรับวาสนาคนให้ผกผันมาใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองเช่นกิเลนฟ้าได้ ด้วยปกติกิเลนนั้นจะนั่งทับเงินทองของมีค่าต่างๆจึงถือเป็นเคล็ดที่จะใช้เพื่อดึงดูดโชคลาภและรายได้ให้ไหลเข้ามาเหมือนกระแสน้ำ ช่วยให้คนเลี้ยงประสบความสำเร็จทั้งมีวาสนาบารมีให้ชีวิตมีความมั่นคง

    *** กิเลนตำรับพ่ออาจารย์ท่านนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่เหมาะจะใช้กิเลนของฉันนั้นมีทั้งหมดสองประเภท นั่นคือคนที่โชคร้ายตั้งแต่เกิด กับคนที่เพียรกระทำตามความฝัน ทำอย่างดีที่สุดแล้ว และอยากจะประสบโชควาสนานี่จึงเอากิเลนฉันไปใช้ได้ ส่วนคนที่งอมืองอเท้าไม่ทำอะไรอย่าเอาไป ด้วยกิเลนถือว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ฉันทำกิเลนในครั้งนี้ใครที่มีกิเลนของฉันต่อไปเขาจะเกิดความรู้แจ้งบางอย่าง สิ่งใดที่เป็นปัญหาเขาจะแก้ไขได้ คนเหล่านี้ต่อไปจะพึ่งพาตนเองได้ เธอจงจำเอาไว้ให้ขึ้นใจเถิดว่ากิเลนของฉันนั้นจะนำสิ่งมงคลดึงเข้ามาหาตัวเธอ ด้วยปกติชีวิตคนนั้นมักจะแหวกว่ายฟันฝ่าไปหาโชคลาภวาสนา พยายามทุกทางเพื่อจะไปหาความสำเร็จ แต่คุณวิเศษในตัวกิเลนนั้นเมื่อเค้าอยู่คู่กับเธอแล้วไอ้สิ่งที่พวกเธอทั้งหลายตามหานั่นแหละที่มันจะต้องเปลี่ยนมาตามหาเธอแทน พอจะเข้าใจหรือไม่ว่าไม่ใช่เราที่ต้องไปไขว่คว้าแต่เป็นตัววาสนาต่างหากที่มันจะพยายามไขว่คว้าเข้ามาให้ถึงตัวเรา เช่นนั้นฉันจึงถือว่ากิเลนของฉันได้นำความสุขแลความเป็นมงคลมาสู่มนุษย์แล้ว ถ้าเธอเป็นคนมีจิตใจดีกิเลนนั้นจะสงสารให้ความช่วยเหลือ สำหรับมิตรกิเลนเขาจะปฏิบัติตัวอย่างมิตรและให้ความเป็นมิตรที่ซื่อสัตย์หมดหัวใจ แต่สำหรับศัตรูของเธอนั้นเขาจะตอบโต้เหมือนดั่งศัตรูของเขาเช่นกัน รับรองว่าใครที่กิเลนโต้ตอบเช่นศัตรูนั้นไม่มีดีให้เหลือแน่นอน
    ด้วยกิเลนนั้นเป็นต้นกำเนิดของแผนภูมิสวรรค์ทั้งแปดทิศ หรือที่คนพอจะนึกภาพออกคือยันต์แปดทิศนั่นเองด้วยที่หลังของกิเลนนั้นจะมียันต์แปดทิศประทับไว้เช่นนั้นจึงถือเสมอว่ากิเลนนั้นเป็นผู้มอบแผนภูมิสวรรค์ เป็นผู้มอบความรู้ มอบภาษา มอบตัวอักษรให้กับมนุษย์ ซึ่งต่อมาตัวอักษรนั้นก็พัฒนาขึ้นเป็นองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเขาเป็นสัตว์เทพที่ผูกพันธ์กับการใช้ชีวิตของมนุษย์โดยตรงมาตั้งแต่ต้นต่างจากสัตว์เทพตัวอื่นๆที่ไม่ไยดีมนุษย์ เพราะเขาสามารถบัญชาได้ทั้งห้าธาตุ และยังเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อมนุษย์โลก ให้เธอคิดกันให้ดีว่ามีวันไหนบ้างที่เธอไม่พูด ไม่ใช้ภาษา ไม่ได้ใช้ชีวิตโดยอาศัยองค์ความรู้อยู่ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ นั่นย่อมไม่มีเช่นนั้นกิเลนจึงมีพลังทางด้านความคิดและสติปัญญาอันสูงส่ง แม้ผู้ใดได้ครอบครองชีวิตเขาก็อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยกิเลนกำเนิดจากธาตุทั้งห้าคือ ดิน น้ำ ไฟ ไม้และทองรวมกัน ตัวเขาจึงเป็นความกลมกลืนของสรรพสิ่ง ทั้งยังทรงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ในทุกที่อันเขาสถิตย์อยู่ มีทั้งความแข็งแกร่ง ทรงพลัง มั่นคงและยั่งยืน เรียกว่าสถานะของกิเลนเทียบเท่ามังกรเลยทีเดียวด้วยเป็นสัตว์สวรรค์ที่ให้คุณเรื่องโชคลาภทรัพย์สินและยังถือเป็นสัตว์สวรรค์ชั้นสูงในห่วงโซ่อาหาร จึงเป็นธรรมดาที่ผู้มีบารมีกิเลนเกื้อหนุนจะเจริญในกิจการที่กระทำอยู่มากเพราะเขาเป็นตัวแทนแสดงถึงอำนาจและยศศักดิ์เรียกว่าใครที่ชีวิตยังไม่เจริญนี่จะไต่เต้าไปได้ไกลมาก ส่วนใครที่ขึ้นไปแล้วแต่ยังไม่สุดเขาก็จะดันให้ขึ้นไปได้อีก ซ้ำบารมีกิเลนเมื่อปรากฏที่ไหนสถานที่นั้นจะผูกสมัคร รักใคร่ กลมเกลียวกันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
    ด้วยกิเลนนี้มีความเชื่อว่าแค่ได้เห็นก็เป็นบุญตา หากได้พบก็ถือเป็นวาสนาเปลี่ยนชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดสร้างกิเลนขึ้นมาเพื่อให้คนใช้พบเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ท่านว่าขอแค่ได้เห็นได้มองทัศนาก็นับว่าชีวิตเปลี่ยนกลับวาสนา บางคนรู้จึงเอามาดูบ่อยๆ แน่นอนว่าการใช้เพียงแค่เราหยิบเขามาดูบ่อยๆแค่นั้นก็นับว่าเปิดประตูความโชคดีแล้ว แม้จะหมั่นพูดหมั่นคุยกับเขาได้อันนั้นก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก หากว่าวันใดเขาปรากฏตัวในนิมิตหรือในความฝันแน่นอนว่าวันนั้นจะได้ลาภใหญ่หรือมีวาสนาไม่คาดฝันมาถึงตัว


    ด้านหลังนั้นท่านได้ฝังปี่เซี๊ยะลูกขี่แม่เอาไว้ ท่านว่าเป็นกำลังของมารดาที่จะคอยปกปักคุ้มครองลูก เป็นห่วงลูก จับลูกอุ้มใส่หลังอย่างไม่ถือตัวทั้งยังยกลูกให้สูงเหนือกว่าตนเอง ตรงนี้ท่านว่าเป็นกฤติยาคมแฝดของการป้องกันและผลักดันตัวเรา ดั่งเรามีกำลังของแม่ยกเราไว้เสมอ ด้วยรักที่มารดามอบให้ย่อมอบอุ่นจริงใจและบริสุทธิ์ที่สุดฉันใดพลังนั้นก็สนองถึงตัวเราแบบไม่หวังผลใดๆเช่นกัน ทั้งนี้ปี่เซี๊ยะนั้นปกติเขาจะคอยเรียกโชคลาภทำให้การทำมาหากินธุรกิจการค้าที่เราทำอยู่ให้ดีขึ้นด้วยเขาเป็นสัตว์ที่มีญานวิเศษมีทั้งอำนาจจากมังกร มีพลังปราบปรามได้ทั่วไปดั่งสิงโต ทั้งเป็นราชาแห่งผืนฟ้าไปได้ในทุกที่ดั่งพญาอินทรีย์ เป็นตัวแทนของยศถาบรรดาศักดิ์ ที่มาพร้อมความยั่งยืนร่ำรวยและชื่อเสียง ทั้งยังมีตาทิพย์มองเห็นในที่มืดและมองเห็นสิ่งชั่วร้ายได้ นอกจากนี้หางสามารถขจัดปัดสิ่งชั่วร้ายขณะเดียวกันก็กวาดโชคลาภเข้าตัวด้วย
    พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ใช้ปี่เซี๊ยะธรรมดาส่วนมากก็ให้ผลแค่เสมอตัว แต่หากใช้ปี่เซี๊ยะคู่แม่ลูกนั้นจะโดดเด่นเป็นเลิศกว่าปกติอุปมาดั่งเอากำลังสุนัขมาเทียบกับช้างสารเช่นนี้ย่อมเห็นได้ว่าไกลกันมาก ที่ให้ผลดังนี้ก็เพราะว่าความรักและความผูกพันธ์ของแม่ลูกนั้นมีกำลังมากกว่ารักใดๆในโลก เขาจะรักษาทรัพย์สินและโชคลาภของเราไว้ ขจัดความยุ่งยากในชีวิตเราออกไป ทั้งช่วยให้มั่งคั่งร่ำรวยและใช้กำราบอัปมงคลความชั่วร้ายทั้งหลายได้ และเหนือสิ่งอื่นใดเขายังซื่อสัตย์และเชื่อฟังเจ้าของมากๆ

    ปี่เซี๊ยะที่ท่านลงตั้งธาตุขึ้นรูปปลุกเสกลงอาการไว้และสร้างจากแผ่นยันต์เรียกทรัพย์เข้าด้วยวัชรธาตุนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์มาก(ท่านว่าแม้ยอดหยกหรือทองคำก็ไม่อาจเทียบได้ ด้วยปี่เซี๊ยะของเรานั้นตั้งต้นด้วยแรงครู แรงวิชาเรียกทรัพย์ตลอดจนกายสิทธิ์ธาตุอันคู่ควรจะเป็นที่สถิตย์แห่งจิตวิญญาณชั้นสูงมากกว่าธาตุใดๆจึงครบทั้งพลังและธาตุขันธ์) พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้เฉพาะคนที่ "ต้องการให้เงินเข้ากับคนที่ชีวิตไม่อยากเป็นหนี้ได้ใช้" ด้วยคุณลักษณะที่เขาหนุนเรานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่เงินเข้าไม่มีไหลออกมีเป้าหมายหลักในการขจัดสิ่งชั่วร้ายเลวทรามทั้งยังบันดาลให้เกิดอำนาจความยิ่งใหญ่ในชะตาชีวิต ด้วยเขาเป็นสัตว์ที่อ้าปากได้กว้างและไม่มีรูทวารจึงเป็นที่มาของการดูดทรัพย์สินอย่างเดียวไม่ให้ทรัพย์นั้นพร่องไปไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าสองแรงทั้งแม่และลูกยากที่จะมีอะไรมาสู้ฤทธิ์ได้ ท่านทำให้ตรงตามลักษณะคือยกหัวสูงข่มศัตรูคู่แข่ง อ้าปากกว้างดูดทรัพย์ลิ้นคอยตวัดเงินทองเข้าท้อง อกตั้งตรงผึ่งผายน่าเกรงขาม ขาก้าวนำให้ชีวิตเราเดินหน้า เท้าตะปปเงิน หางกวักขึ้นเรียกโชคลาภ ด้วยไม่มีรูทวารจึงกินแล้วไม่ถ่ายออกเป็นเคล็ดให้ชีวิตเรามีแต่รับสถานเดียวและนอกจากนี้ตัวปี่เซี๊ยะเองยังสามารถสัมผัสกลิ่นของโชคลาภได้รวดเร็ว,ชัดเจนและแม่นยำจึงหาวาสนามาให้เราได้ตลอดเสมอๆ
    ปี่เซียะแม่หนุนลูกนั้น
    ให้คุณกับผู้ศรัทธาเชื่อถือโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังเรียกว่าเราผู้เป็นนายตัวตนจะเป็นอย่างไรเขาก็สวามิภักดิ์รักเราหมดใจ ทั้งยังเสริมบารมีให้กับเจ้าของได้ทุกชะตาราศีท่านว่าใช้เขาแล้วปล่อยวางเปลื้องปลดเรื่องปีชงกลัวดวงชะตาดวงดาวขัดแย้งกันไปได้เลย

    ด้วยมีคุณของปี่เซี๊ยะแม่ลูกทั้งยังมีกิเลนฟ้าสวรรค์รวมอยู่ในองค์เดียวกันเช่นนี้จึงเหมาะสมที่จะแบกรับกำลังเจตน์จำนงค์สวรรค์ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระผงรุ่นนี้ฉันบอกเธอได้คร่าวๆว่ามีกำลังมากเหนือกรรมลิขิตและพรหมลิขิตใด เพราะเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นคือความต้องการของอาตมันมีมาก่อนจะเกิดสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาเสียอีก ทั้งยังให้คุณหนักแน่นรุนแรงกว่าแรงกรรมแรงเทพพรหมใดๆ
    ท่านลงตะกรุดโองการเจตน์จำนงค์สวรรค์ฝังไว้ ด้วยเมื่อกำลังฟ้ามีเจตน์จำนงค์ปกาศิตใดๆออกไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย หากเราอธิษฐานต่อองค์พระขอต่อเจตน์จำนงค์สวรรค์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นย่อมอยู่เหนือลิขิตทั้งหลายอย่างแท้จริง...ถือว่าเราได้ทำสิ่งที่เป็นตำนาน จากตำนาน สืบตำนาน... ให้ชีวิตเราเป็นดั่งตำนาน

    คาถาบูชา
    อุกาสะ วันทิตวา สิริสัมพุทธัง อันตรายัง ปะนะมามิหัง อิถัญจะปูชิตัง เหฏฐายะฉะทินนา จัตตาสัตถา สาคะระมุนี ยักขะลา เวสสุวันโน อาทิปัตติราชา มหาสัตถา สาคโร ประสิทธิเมสัทธา
    อาราธนาองค์พระ อังคะสัมพุทโธ โลกะหิโตจะเสฏโฐ ธัมมะยะโก เทวิเทโว โลโกหิ หาทายะ จิเจรุนิจิตตัง เจตตสิกกัง รูปังนิพพานัง นะมะพะทะ วาโยธาตุทิสังวา จะภะกะสะ วาโตเสโน อัสสะโส นิพพานังสูญญัง นะปะทุกะ จิปะตินะ หะกะ อิคะวิติ ปติ เอหะติอิกะวิปะติ


    ท่านว่าเมื่ออาราธนาและกำองค์พระไว้ในมือจะรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นขนลุกขนชันผมตั้งมีกระแสพลังขับผ่านเข้าออกอย่างบอกไม่ถูกสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คุณพระท่านเริ่มสงเคราะห์เรา เมื่อเราว่าคาถาอธิษฐานสิ่งใดแล้วมีอาการเช่นนี้แน่นอนว่าแม้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็ยังทำสำเร็จได้ แต่หากอาราธนาองค์พระวันใดแล้วมีอาการพิกล รู้สึกว่าวันนี้เครียด โมโหร้าย หงุดหงิดง่าย ท่านว่าให้หยุดกิจที่จะทำเสีย อย่าทำ อย่าไปเลย ถึงทำไปก็ไม่มีโชคใดๆ

    ### พ่ออาจารย์ท่านกำชับไว้ว่าพระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นเป็นของสูงมีค่าควรเมืองยิ่งกว่าสมบัติจักรพรรดิแม้ม้ารถคชพลหรือปราสาทแก้วใดๆ ด้วยเจตน์จำนงค์นั้นเขาจะเลือกผู้เหมาะสมและคู่ควรสำหรับตัวเขาเอง ใครที่มีชะตาต้องกันย่อมถูกกำหนดไว้ทั้งหมดแล้ว พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้แค่ห้าองค์เท่านั้น ท่านว่าทำยาก พอทำมารุ่นนี้แม้ตัวเราเองก็ไม่มีวาสนาได้ใช้เพราะสมเด็จองค์ปฐมท่านบัญชาไว้ให้เอาไปช่วยคนที่เดือดร้อนและเป็นคู่วาสนากันจริงๆดีกว่าด้วยตัวของท่านหวังเอาดีทางธรรมไม่ได้เดือดร้อนสิ่งใด ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนที่อยากได้วาสนาทางโลกเขาครอบครอง ...รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด หน้าที่การงาน ความปรารถนาหลักในชีวิตไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสให้ครบสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์องค์ธาตุฆ่าวิชาทรงกิเลนฟ้าสวรรค์ (ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก) บูชา 4,000 บาท

    79743533-2655383851196102-8940704845942226944-n.jpg 78655094-2259571667668589-4073387532312641536-n.jpg
    78663336-818315548589490-452504981073821696-n.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก(ผูกตะกรุดแกขอฉันให้สูตรมหาทานปรมัตถบารมี)

    " บางคนเล่าว่าครูไปหา ให้หามาไว้ใช้บ้างเดี๋ยวตามคนอื่นเขาไม่ทัน ....ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่แรงครูสูงเพราะหล่อหลอมจากแผ่นยันต์ที่ตรงกับความสามารถของเขาจริงๆ "
    ปี่เซี๊ยะลูกขี่แม่ ท่านว่าเป็นกำลังของมารดาที่จะคอยปกปักคุ้มครองลูก เป็นห่วงลูก จับลูกอุ้มใส่หลังอย่างไม่ถือตัวทั้งยังยกลูกให้สูงเหนือกว่าตนเอง ตรงนี้ท่านว่าเป็นกฤติยาคมแฝดของการป้องกันและผลักดันตัวเรา ดั่งเรามีกำลังของแม่ยกเราไว้เสมอ ด้วยรักที่มารดามอบให้ย่อมอบอุ่นจริงใจและบริสุทธิ์ที่สุดฉันใดพลังนั้นก็สนองถึงตัวเราแบบไม่หวังผลใดๆเช่นกัน ทั้งนี้ปี่เซี๊ยะนั้นปกติเขาจะคอยเรียกโชคลาภทำให้การทำมาหากินธุรกิจการค้าที่เราทำอยู่ให้ดีขึ้นด้วยเขาเป็นสัตว์ที่มีญานวิเศษมีทั้งอำนาจจากมังกร มีพลังปราบปรามได้ทั่วไปดั่งสิงโต ทั้งเป็นราชาแห่งผืนฟ้าไปได้ในทุกที่ดั่งพญาอินทรีย์ เป็นตัวแทนของยศถาบรรดาศักดิ์ ที่มาพร้อมความยั่งยืนร่ำรวยและชื่อเสียง ทั้งยังมีตาทิพย์มองเห็นในที่มืดและมองเห็นสิ่งชั่วร้ายได้ นอกจากนี้หางสามารถขจัดปัดสิ่งชั่วร้ายขณะเดียวกันก็กวาดโชคลาภเข้าตัวด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ใช้ปี่เซี๊ยะธรรมดาส่วนมากก็ให้ผลแค่เสมอตัว แต่หากใช้ปี่เซี๊ยะคู่แม่ลูกนั้นจะโดดเด่นเป็นเลิศกว่าปกติอุปมาดั่งเอากำลังสุนัขมาเทียบกับช้างสารเช่นนี้ย่อมเห็นได้ว่าไกลกันมาก ที่ให้ผลดังนี้ก็เพราะว่าความรักและความผูกพันธ์ของแม่ลูกนั้นมีกำลังมากกว่ารักใดๆในโลก เขาจะรักษาทรัพย์สินและโชคลาภของเราไว้ ขจัดความยุ่งยากในชีวิตเราออกไป ทั้งช่วยให้มั่งคั่งร่ำรวยและใช้กำราบอัปมงคลความชั่วร้ายทั้งหลายได้ และเหนือสิ่งอื่นใดเขายังซื่อสัตย์และเชื่อฟังเจ้าของมากๆ

    ปี่เซี๊ยะที่ท่านลงตั้งธาตุขึ้นรูปปลุกเสกลงอาการไว้และสร้างจากแผ่นยันต์เรียกทรัพย์เข้าด้วยวัชรธาตุนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์มาก(ท่านว่าแม้ยอดหยกหรือทองคำก็ไม่อาจเทียบได้ ด้วยปี่เซี๊ยะของเรานั้นตั้งต้นด้วยแรงครู แรงวิชาเรียกทรัพย์ตลอดจนกายสิทธิ์ธาตุอันคู่ควรจะเป็นที่สถิตย์แห่งจิตวิญญาณชั้นสูงมากกว่าธาตุใดๆจึงครบทั้งพลังและธาตุขันธ์)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้เฉพาะคนที่ "ต้องการให้เงินเข้ากับคนที่ชีวิตไม่อยากเป็นหนี้ได้ใช้" ด้วยคุณลักษณะที่เขาหนุนเรานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่เงินเข้าไม่มีไหลออกมีเป้าหมายหลักในการขจัดสิ่งชั่วร้ายเลวทรามทั้งยังบันดาลให้เกิดอำนาจความยิ่งใหญ่ในชะตาชีวิต ด้วยเขาเป็นสัตว์ที่อ้าปากได้กว้างและไม่มีรูทวารจึงเป็นที่มาของการดูดทรัพย์สินอย่างเดียวไม่ให้ทรัพย์นั้นพร่องไปไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าสองแรงทั้งแม่และลูกยากที่จะมีอะไรมาสู้ฤทธิ์ได้ ท่านทำให้ตรงตามลักษณะคือยกหัวสูงข่มศัตรูคู่แข่ง อ้าปากกว้างดูดทรัพย์ลิ้นคอยตวัดเงินทองเข้าท้อง อกตั้งตรงผึ่งผายน่าเกรงขาม ขาก้าวนำให้ชีวิตเราเดินหน้า เท้าตะปปเงิน หางกวักขึ้นเรียกโชคลาภ ด้วยไม่มีรูทวารจึงกินแล้วไม่ถ่ายออกเป็นเคล็ดให้ชีวิตเรามีแต่รับสถานเดียวและนอกจากนี้ตัวปี่เซี๊ยะเองยังสามารถสัมผัสกลิ่นของโชคลาภได้รวดเร็ว,ชัดเจนและแม่นยำจึงหาวาสนามาให้เราได้ตลอดเสมอๆ

    ปี่เซียะแม่หนุนลูกนั้นให้คุณกับผู้ศรัทธาเชื่อถือโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังเรียกว่าเราผู้เป็นนายตัวตนจะเป็นอย่างไร,จะเป็นคนอย่างไร,มีนิสัยอย่างไรเขาก็สวามิภักดิ์รักเราหมดใจ ทั้งยังเสริมบารมีให้กับเจ้าของได้ทุกชะตาราศีท่านว่าใช้เขาแล้วปล่อยวางเปลื้องปลดเรื่องปีชงกลัวดวงชะตาดวงดาวขัดแย้งกันไปได้เลย

    ตะกรุดแกขอฉันให้สูตรมหาทานปรมัตถบารมี

    ท่านว่าส่วนนี้คือวิชาขั้นสูงสุดในหมู่นิยตโพธิสัตว์ ท่านเดินบทมหาทานว่าด้วยปรมัตถบารมีอันยิ่งยวดขององค์พระเวสสันดร ซึ่งเป็นพระชาติสุท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระเวสสันดรนี้มีกำลังของการให้สูงมาก เพราะท่านถึงที่พระเจ้าจักรพรรดิราช แต่กลับบำเพ็ญปรมัตถบารมีตามประเพณีแห่งพระบรมโพธิสัตว์ ท่านพร้อมที่จะสละทรัพย์ภายนอกทั้งปวงให้แก่ผู้ต้องการและมาขอท่านเพื่อที่สุดแห่งมหาทานบารมี พ่ออาจารย์ท่านพูดให้คิดว่า วิชานี้เราเป็นผู้ขอ เอาไปใช้เถิด ไม่มีอะไรจะง่ายและสบายเท่านี้อีกแล้ว

    ท่านว่าครูบาอาจารย์แต่เดิมจึงหยิบยกพรรณคุณวิเศษตรงนี้มาทำเป็นตะกรุด แต่ว่ามันเป็นตะกรุดเฉพาะทางสายบารมีพระมหาโพธิสัตว์เจ้าที่ไม่มีใครปรารถนาจะยกให้ใครทำให้ใครสอนใครให้สืบทอดเท่าไหร่ เพราะเป็นวิชาเฉพาะที่เวลาเราไปขออะไรใคร เค้าก็ต้องจำยอมโอนอ่อนยกให้ตามปากเราเช่นนั้น ดุจดั่งลูกขอพ่อก็ต้องตามใจพร้อมที่จะป้อนให้ เหมือนองค์พระเวสสันดรหน่อพระพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านปรารถนาจะเข้าไปถึงข่ายแห่งพระโพธิญาณจึงกระทำมหาทานปรมัตถบารมีอย่างสุดกำลัง ให้ทุกอย่าง ทรัพย์ภายนอก ทรัพย์แห่งโลกีย์วิสัยผู้ใดปรารถนาสิ่งใดพระองค์ยกให้ทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น

    วิชานี้ท่านว่าแปลกนักขอให้สิ่งที่เราขอเขามี...เขาให้หมดเลย ไม่เช่นนั้นปรารถนาอะไรก็อธิษฐานเอากับกับตะกรุดกับคุณวิชาย่อมสัมฤทธิผลทุกประการ เพราะตะกรุดนี้เป็นศูนย์รวมผลแห่งมหาทานปรมัตถบารมีเต็มขั้นของหน่อพระชินสีห์เจ้านั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านลงเหล็กจารเต็มสูตรผูกเป็นตะกรุดลูกอมเฉพาะกาล อธิษฐานบารมีด้วยความเที่ยงแท้ต่ออำนาจพระโพธิญาณในกาลเบื้องหน้า ว่าให้ลูกหลานญาติวงศ์ที่มีบุญญา มีวาสนากับเวทย์วิชานี้มารับไปครอบครอง

    ตะกรุดที่ลงวิชาว่าด้วยมหาทานปรมัตถบารมีของนิยตโพธิสัตว์ ท่านว่าพุทธคุณตรงตัว นั่นคือเวลาลูกขอพ่อต้องให้ พ่อในที่นี้คือพ่อพระพุทธเจ้า พ่อในพระชาติที่เป็นมหาเวสสันดรโพธิสัตว์ พ่อของลูกๆพุทธบุตรทุกคน อันทรงไว้ด้วยมหากรุณาญาณอย่างแท้จริง ปรารถนาจะขนถ่ายสรรพสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏสงสาร ท่านว่าวิชานี้ทำยากมากเพราะมันเหนือสงสาร เมื่อลงเสร็จต้องบอกกล่าวชุมนุมเหล่ามหาโพธิสัตว์อันมีบารมีเต็มที่กับที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว แม้อยู่ในที่แห่งใดไม่ว่าจะพิภพดุสิต พิภพนาคบาดาล ตลอดจนพิภพต่างๆต้องชุมนุมมาบอกกล่าวเชิญท่านมาบรรจุบารมีทั้ง 30 ทัศน์ หนุนกันขึ้นมาเป็นชั้นๆ เป็นกลุ่มๆไปทั้งอนิยตโพธิสัตว์ แลนิยตโพธิสตว์ ท่านว่ามาทำให้กันเป็นกลุ่มเป็นลำดับกลุ่มไหนปัญญาธิก กลุ่มไหนสัทธาธิก กลุ่มไหนวิริยาธิก พระองค์ไหนหรือใครอยู่กลุ่มใดก็หนุนเนื่องสืบกันมาบรรจุพระบารมี ...เมื่อชุมนุมเหล่าพระมหาโพธิสัตว์แล้ว ก็ต้องเชิญสมเด็จองค์ปฐมมาบรรจุธาตุบรรจุธรรม และเชิญครูทั้งหลายมาสำเร็จตะกรุดด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตะกรุดนี้มีจุดเด่นกว่าตะกรุดทางโชคลาภอื่นๆคือ " ทรัพย์มันจะเข้ามาหาเราเอง นี่ถ้ามันมีเท้ามันจะรีบวิ่งเข้ามาเลย "

    พ่ออาจารย์ท่านนำตะกรุดสำคัญนี้มาผูกไว้กับปี่เซี๊ยะ ท่านว่าจะเป็นกำลังของวงจรที่สอดรับกันเพราะเทพปี่เซี๊ยะเขาก็อ้าปากรับทรัพย์ตลอดทั้งกินอะไรแล้วย่อมไม่คอยออก เป็นสัตว์เทพที่มีสมบัติมากรอเราจับ รอเราลูบ รอเราขอ รอเราสัมผัสเขาใช้เขา ทีนี้เมื่อท่านนำตะกรุดขึ้นมาเรียกมนต์เรียกทรัพย์กำกับผูกเอาไว้ท่านจึงย้ำว่านี่นะเธอจำไว้ ตะกรุดนี่นี่เหมือนอาญาสิทธิ์อยู่อย่างนึง นั่นคือแกขอเขาต้องให้ พอผูกกำกับกันไว้นี่ขออะไรย่อมได้ทั้งหมดเลย เพราะเราเอากำลังเหล่ามหาโพธิสัตว์มาครอบเขาไว้อีกที มีอะไรเขาก็ให้เราหมด ไม่มีหวง ไม่มีของตน ของฉัน ขออะไรต้องได้ทั้งสิ้น นี่คือปี่เซี๊ยะตำรับที่ท่านทำเข้าตะกรุดดอกสำคัญนี้

    ทั้งท่านยังให้ข้อคิดว่าปี่เซี๊ยะนี้เหมาะแก่คนที่รากฐานจตุปัจจัยในชีวิตยังไม่พร้อม ชีวิตยังขาดอยู่ พร่องอยู่ ยังหายังขวนขวายมาได้ไม่เต็ม เช่นบางคนยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ยังไม่มีรถ ยังไม่มีทรัพย์ไว้ดูแลตนเองยามแก่เฒ่า ยังทำความปรารถนาตัวเองได้ไม่ดีพอ..... เช่นนี้แหละพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องยกขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าใครจะมายกเราก็ได้ เพราะหากให้ปี่เซี๊ยะของท่านยกและหนุนเหมือนแม่หนุนลูก กำลังนี้จะคอยหนุนเราแบบเอื้ออาทรตลอดไป เรียกว่าหนุนกันด้วยความผูกพันธ์ ต่างกับหนุนด้วยอาถรรพ์หรือแรงครูใดๆอย่างสิ้นเชิง เพราะการณ์ที่เขาสวามิภักดิ์รักเจ้าของและผูกพันธ์กับเราอย่างยิ่งยวดนั้นเป็นพลังที่ดีที่สุดและซื่อตรงเข้าถึงชะตาชีวิตเรามากที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไปอย่าเก็บ ### ต้องใช้ต้องรักษากันให้ดี หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดเขาอย่าปล่อยให้เขาสกปรก ท่านว่ายิ่งถูยิ่งขึ้นเงา ชะตาเราจะมีแต่ดีกับดีแล้วก็ดี อย่าปล่อยให้เขาหมองหม่นเด็ดขาด

    ข้อควรจำ
    ท่านว่าปี่เซี๊ยะของท่านให้ใช้ได้เลยไม่ต้องถนอม แค่ดูแลเขาหน่อยอย่าให้สกปรก ถ้าจะเลี่ยมใช้ก็ให้เลี่ยมเปิดหน้าเปิดหลังให้เขาสัมผัสเนื้อตัวเราจะดีที่สุด เรียกว่าใช้แบบลุยๆ หากจะขออะไรเขาที่หนักมือหน่อย เกินวาสนาของเราไปหน่อย แบบที่รู้ว่าทั้งชีวิตขอไปก็ไม่ได้ ท่านว่าให้อ้างกำลังพระเจ้าสิบชาติอธิษฐานขึ้นมาก่อนเตชะสุเนมะภูจะนาวิเว หลังจากนั้นก็ท่องคำว่าทานะ ทานะ ทานะๆๆๆๆย้ำไปจนจิตทรงตัว จิตนิ่งไม่วอกแวกแล้วขอเอากับเทพปี่เซี๊ยะเขา

    *** เทพปี่เซี๊ยะนี้ท่านย้ำว่าจะให้ดีที่สุดต้องบูชาเป็นคู่ คาดเอวไว้ซ้ายขวาจะยิ่งมีกำลังมาก เหนือกว่าใช้ตัวเดียวโดดๆอย่างมหาศาล เวลาใช้อธิษฐานสิ่งใดก็ไหว้ก็ขอเขาพร้อมกัน ทั้งในกรณีคนที่ขาดมากๆต้องการการรักษาเยียวยาหนักกว่าคนอื่นๆ หรือคนที่มีความฝันห่างจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่มาก ท่านว่ารู้ตัวว่าเป็นแบบนี้ให้ใช้เป็นคู่จะไวกว่า รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ## ท่านย้ำว่าผูกได้น้อยเพราะตะกรุดเป็นของเก่าทำไว้นานมากๆแล้วจึงมีจำนวนจำกัด

    ร่วมทำบุญบูชา ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก(ผูกตะกรุดแกขอฉันให้สูตรมหาทานปรมัตถบารมี) บูชา 900 บาท

    78356285-2555901191191786-1684102946444279808-n.jpg 78529134-516057992324641-1341865164726599680-n.jpg
    79098185-1052806575082197-7974335108398186496-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...