“พระขรรค์ถอนโบสถ์”ปี59 วัดธรรมยาน(สุดยอดพระขรรค์กันคุณไสย มนต์ดำ สายวัดท่าซุง)น.85ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย punnapak, 1 มิถุนายน 2014.

  1. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    จัดส่งพัสดุEMSให้คุณjaru แล้วนะคะ^^

    รหัสEMS EL0559 3122 7TH
    ขอบคุณมากค่ะ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2017
  2. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    จัดส่งพัสดุEMSให้คุณบอยแล้วนะคะ^^

    รหัสEMS EL0559 3121 3TH
    ขอบคุณมากค่ะ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2017
  3. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 6 พระผงอายุยืน ปี17 หลวงปู่สี เนื้อแก่ชานหมาก

    พระผงอายุยืนหลวงปู่สี สร้างขึ้นในปี 2517
    โดยพระครูวิศิษฎ์สมโพธิ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ท่าเตียน กรุงเทพฯ เป็นผู้ขออนุญาตหลวงปู่สีจัดสร้าง

    หลวงปู่สี ได้มอบผงวิเศษของท่านที่ท่านทำขึ้นเองให้ไปพร้อมทั้ง เกศา ชานหมาก น้ำหมากของท่าน เมื่อสร้างเสร็จ ได้นำมาให้หลวงปู่ปลุกเสกเดี่ยว

    พระผงอายุยืน เป็นพระผงพิมพ์รูปไข่ องค์พระมีความกว้าง 2 เซนติเมตร สูง 3 เซนติเมตร หนา 0.5 เซนติเมตร จำนวนสร้าง 22,999 องค์ มีเนื้อต่างๆ ดังนี้ เนื้อพิเศษผสมชานหมาก น้ำหมาก เกศา จีวร จำนวน 999 องค์ เนื้อพิเศษผสมชานหมาก จำนวน 2,000 องค์ เนื้อธรรมดาแก่ปูนเปลือกหอย 20,000 องค์

    ด้านหน้าพระผง เป็นรูปเหมือนหลวงปู่นั่งเต็มองค์ ด้านล่างเขียนว่า "อายุยืน" เป็นลายเส้นนูน ที่สังฆาฏิ มีอักขระขอมอ่านว่า "อะ นะ อะ"

    ด้านหลังพระผง มียันต์สามเหลี่ยม ในขมวดยันต์ มีอักขระขอมอ่านว่า "มะ อะ อุ" ใต้ยันต์สามเหลี่ยมเขียนเป็นอักขระขอมว่า "พุท ธะ สัง มิ อะ อะ" คือ หัวใจพระไตรสรณคมน์ที่มีพุทธคุณครอบจักรวาล ด้านล่างเป็นเลขไทย "๒๕๑๗" ด้านข้างบนเขียนว่า "หลวงปู่สี ฉันทสิริ"

    พระผงอายุยืน นอกจากผสมมวลสาร ผงวิเศษ ชานหมาก น้ำหมากและเกศาของหลวงปู่แล้ว พระครูวิศิษฎ์สมโพธิ์ ได้นำส่วนผสมที่สำคัญของท่านมาเพิ่มเติมอีก ได้แก่ ผงว่าน 108 ดอกบัวบูชาหลวงพ่อโสธร ขี้ธูปจากที่บูชา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม วัดชนะสงคราม วัดอรุณราชวราราม ขี้ธูปและดอกไม้จากศาลหลักเมือง ดอกไม้บูชาพระแก้วมรกต ดอกไม้บูชาพระนอนวัดโพธิ์ และศาลหลักเมืองที่สำคัญ เป็นต้น

    องค์นี้เป็นเนื้อผสมชานหมากค่ะ คราบเดิมๆ

    พระผงอายุยืนปี17 ของหลวงปู่สีนี้ เป็นพระที่ติดทำเนียบพระน่าบูชาเป็นอย่างยิ่งค่ะ เนื่องด้วยมวลสารของท่านซึ่งหาไม่ได้อีกแล้วสำหรับพระอรหันต์ 7 แผ่นดิน หลวงปู่สี แห่งวัดถ้ำเขาบุญนาค

    ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพหลวงปู่สีจากเว็บเพื่อนบ้านด้วยค่ะ^^

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
    ปิดรายการแล้วค้า^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2014
  4. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 7 รอยเท้าหลวงปู่แว่น วัดถ้ำพระสบาย ลำปาง ศิษย์เอกหลวงปู่มั่น

    รอยเท้าหลวงปู่แว่น วัดถ้ำพระสบาย จ.ลำปาง ปี 2533
    (อายุ 80 ปี) ศิษย์เอกสายหลวงปู่มั่นค่ะ

    <table style="BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px" id="table1" class="MsoTableGrid" border="0" cellpadding="0" width="96%"><tbody><tr><td style="WIDTH: 68.4pt" width="91">นามเดิม




    </td><td>แว่น ทุมกิจจะ เป็นบุดรของนายวันดี และนางคำไพ ทุมกิจจะ




    </td></tr><tr><td style="WIDTH: 68.4pt" width="91">เกิด




    </td><td>วันเสาร์ที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ เดือน ๔ ปีจอ ณ บ้านบัว อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร




    </td></tr><tr><td style="WIDTH: 68.4pt" valign="top" width="91">บรรพชา




    </td><td>เมื่ออายุ ๑๘ ปี พ.ศ. ๒๔๗๑ ณ วัดศรีรัตนาราม อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร พระอาจารย์สีทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้พบหลวงปู่สิม พฺทธาจาโร (เป็นญาติลูกผู้พี่ผู้น้องใกล้ชิดท่าน) เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก จึงสนใจการปฏิบัติทางสายธุดงค์กัมมัฏฐาน




    </td></tr><tr><td style="WIDTH: 68.4pt" valign="top" width="91">อุปสมบท




    </td><td>สายธรรมยุต เมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม จังหวัดนครพนม โดยพระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสารภาณมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ เคยรับการอบรมธรรมกับท่านพ่อลี ธมฺมธโร) ที่วัดป่าคลองกุ้ง จังหวัดจันทบุรี ก่อนที่จะเข้ามาเป็นศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาสอยู่ ๖ ปี จึงได้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำพระสบาย อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง กระทั่งมรณภาพ




    </td></tr><tr><td style="WIDTH: 68.4pt" width="91">สมณศักดิ์




    </td><td>เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูภาวนาทัศนวิสุทธิ




    </td></tr><tr><td style="WIDTH: 68.4pt" width="91">มรณภาพ




    </td><td>วันอังคารที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ สิริรวมอายุได้ ๘๘ ปี ๘ เดือน ๒๑ วัน พรรษา ๖๘




    </td></tr></tbody></table>

    เมื่อท่านอายุได้ 18 ปี ท่านได้อำลาเพศฆราวาส ขอบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดศรีรัตนาราม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยมีท่านพระอาจารย์สีธร เป็นพระอุปัชฌาย์
    หลวงปู่แว่นได้พบกับ หลวงปู่สิม พุทธาจาโรซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระภิกษุหนุ่ม และยังเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกับท่าน ท่านจึงขอติดตามไปอยู่ด้วย ณ ป่าช้า บ้านเหล่างา จ.ขอนแก่น
    หลวงปู่แว่น
    ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงปู่เทศก์ เทสรังษี จริยานิสัยอันงดงาม มีความเชื่อมั่น กตัญญูรู้คุณของครูบาอาจารย์ และท่านยังมีความอ่อนน้อมเจียมตนอยู่เป็นนิจ ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายปฏิบัติธรรม ในสายของหลวงปู่มั่นที่อาวุโสพรรษา อีกทั้งยังแตกฉานในธรรมองค์หนึ่ง แต่หลวงปู่ก็สามารถวางตัวเป็นพระผู้น้อยอยู่เสมอ

    ปฏิปทาอันน่านิยมนี้ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เคยมอบหมายให้ หลวงปู่แว่น ธนปาโล ปกครองวัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนครมาแล้วสมัยหนึ่ง ปกติท่านเป็นพระสงฆ์ที่รักความสันโดษ เก็บตัวเงียบ มุ่งหวังความหลุดพ้น จากทุกข์ทั้งปวงภายในชาตินี้ ท่านจึงไม่ประมาท รีบค้นคว้าหาธรรมะตามป่าดง เช่น วัดถ้ำพระสบาย จ.ลำปาง

    รอยเท้าหลวงปู่แว่นผืนนี้ หายากมากค่ะ ไม่เคยพบเห็นในท้องตลาดเลย ไปกราบท่านมาเมื่อปี33 ซึ่งเป็นปีที่ท่านอายุครบ 80 ปีค่ะ และได้เช่าบูชามาโดยตรงจากวัด

    ปัจจุบันอัฐิธาตุของหลวงปู่แว่น ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุแล้วค่ะ...สาธุ

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    บูชาแล้วค่ะ
    มีให้บูชาอีก 1 ผืนค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2016
  5. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 8 องค์เกศาครูบาพรหมา พระอริยสงฆ์ผู้เหยียบศิลาเป็นรอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า

    ครูบาพรหมา เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งดินแดนล้านนา เป็นพระวิปัสสนากรรมฐาน หยั่งรู้จิตใจ หยั่งรู้อนาคต บางท่านก็กล่าวว่าท่านมีตา
    ทิพย์ ได้ชื่อว่า

    พระอริยสงฆ์ผู้เหยียบศิลาเป็นรอย

    ครูบาเจ้าพรหมจักรได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนา เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๒๗ เวลา ๐๖.๐๐ น.อายุ ๘๗ ปี ๖๗ พรรษา คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา ๓ ปี ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงครูบาเจ้าพรหมจักรด้วยพระองค์เองหลังจากพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นแล้วได้เก็บอัฐิ ปรากฏว่า

    อัฐิของครูบาเจ้าพรหมจักรได้กลายเป็นพระธาตุ มีวรรณะสีต่างๆ หลายสี



    "องค์เกศาครูบาพรหมา"
    องค์ประกอบการจัดสร้าง มีดังนี้
    เกศาท่านครูบา ผงธูปจากวัดที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ 70 จังหวัด อาทิ พระธาตุดอยสุเทพ วัดพระแก้ว พระธาตุพนม พระปฐมเจดีย์ ฯลฯ ครั่ง ชัน แผ่นทองคำเปลว ว่านสเน่ห์จันทร์ขาว ว่านพญานางกวัก ว่านสามพันตำลึง ว่านนาคบ่วงบาศ ว่านมหานิลดำ ว่านทรหด ว่านงาช้าง ว่านหางช้าง ดอกบัวสัตตบงกช ดอกมะลิ ดอกหอมไกล ดอกราตรี ดอกแก้ว ดอกจำปา ดอกจำปี ดอกบุญนาค ดอกสารภี ส้มป่อย
    และดินอีก 7 มหานคร


    องค์เกศาท่านครูบาได้จัดสร้างตามศาสตร์โบราณเมืองเหนือไว้ถูกต้องทุกขั้นตอน คงความศักดิ์สิทธิ์ คงความขลัง พุทธคุณเมตตามหานิยม มหาเศรษฐี มหาโชค มหาลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย


    องค์เกศาครูบาพรหมานี้ได้เช่าบูชามาเองที่วัดพระพุทธบาทตากผ้าค่ะ จ.ลำพูน ค่ะ เก็บรักษาไว้อย่างดี คงความศักดิ์สิทธิ์ในมวลสารต่างๆสมบูรณ์เต็ม100%


    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการแล้วค้า โดยคุณเตชินธ์^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2014
  6. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 9 พระปิดตาแป้งเสก 100ปี หลวงปู่บุดดา ปี36

    พระปิดตาแป้งเสก 100 ปี หลวงปู่บุดดา ปี36

    แห่งวัดกลางชูศรีเจริญสุข จังหวัดสิงบุรี เกจิอาจารย์ชื่อดังอีกท่าน ที่มีอายุยาวนานถึง 101 ปี

    ท่านได้มีโอกาสพบ และสนทนาธรรมกับพระสุปฏิบัติหลายรูป อาทิเช่น หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ครูบาศรีวิชัย ธัมมวิตักโฏ ภิกขุ เป็นต้น นอกจากนั้น ท่านยังได้รับความนับถือจากพระเถราจารย์ ผู้ทรงคุณธรรมหลายรูป เช่น ครูบาพรหมา พรหมจักโกหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นต้น ซึ่งย่อมเป็นการแสดงให้เห็นถึงภูมิรู้ ภูมิธรรม และคุณธรรมอันสูงส่งของหลวงปู่ได้เป็นอย่างดี

    หลวงปู่บุดดา ถาวโร
    วัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
    "เกิดเป็นมนุษย์ ถ้าล่วงศีล 5 ก็เป็นอบายภูมิเหมือนกัน ไม่ต่างจาก สัตว์เดรัจฉาน เพราะยังเบียดเบียนกัน สร้างกรรมเรื่อยไป มนุษย์ ถ้าเบียดเบียนกันก็เป็นอมนุษย์ทันที ขาดจากศีลธรรมไม่ได้หรอก เป็นเปรต อสุรกายทันที เดี๋ยวนั้นเลย "

    นามเดิม บุดดา มงคลทอง กำเนิด 5 ม.ค. 2437 สถานที่เกิด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี อุปสมบท อุปสมบท ณ วัดเนินยาว อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2465 โดยมี พระครูธรรมขันธสุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์ มรณภาพ 12 ม.ค. 2537 อายุ 101 ปี 73 พรรษา
    ขณะที่ยังเป็นเด็กมีอายุได้ 5 ขวบ หลวงปู่เคยขอโยมบิดา มารดา บวชเณร แต่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากอายุยังน้อย กระทั่งหลวงปู่อายุ 28 ปี โยมบิดา มารดา จึงอนุญาตให้บวช ได้รับฉายาว่า "ถาวโรภิกขุ"หลวงปู่นับเป็นพระภิกษุผู้เคร่งครัดยิ่ง ถือธุดงควัตร ครองผ้าสามผืนเป็นวัตร ชีวิตเป็นอยู่เรียบง่ายทุกอย่างพอดีหมด หลวงปู่ได้ทุ่มเทชีวิตให้แก่การปฏิบัติธรรมชนิด เอาชีวิตเป็นประกัน เดิมพันด้วยความตาย และความสำเร็จ โดยเฉพาะยามประเทศชาติมีภัยสงคราม ปัจจัยสี่ทุกอย่างขัดสน ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ ช่วงนั้นหลวงปู่ต้องอดทนกับความทุกข์ยากอย่างยิ่ง แต่ด้วยความมุ่งมั่นมานะอย่างเด็ดเดี่ยว ในการประพฤติปฏิบัติธรรม หลวงปู่ก็สามารถต่อสู้กับความทุกข์ยากนั้นได้อย่างกล้าหาญยิ่ง หลวงปู่นับเป็นพระเถระที่มีคุณธรรม และมีพรรษามาก

    พระปิดตาแป้งเสกนี้ แทบจะเป็นวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายที่ทันท่านได้ปลุกเสกค่ะ ปี36
    ท่านได้ละสังขารเมื่อปี37
    รวมอายุท่านได้ 101 ปี

    สภาพพระสวยเดิมค่ะ ไม่เคยผ่านการใช้งาน เก็บอยู่ในซองพลาสติกเดิมมาตลอดค่ะ

    ขนาด 1.2 *1.5 ซม.ค่ะ

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
    บูชาแล้วค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2019
  7. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    จัดส่งพัสดุให้คุณบุญชัยแล้วนะคะ^^

    รหัสEMS EL0550 9473 6TH
    ขอบคุณมากค่ะ
    (รายการที่แจ้งไว้ ถ้าได้มาเมื่อไหร่จะรีบจัดส่งตามไปภายหลังนะคะ^^)

    อนุโมทนาด้วยค้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. rungnaja

    rungnaja Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +90
    รบกวนขอทราบราคาของหลวงปู่สี ทุกรายการเลยได้ใหมครับ.
     
  9. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    แจ้งราคาทาง PMแล้วนะคะ^^

    ขอบคุณมากค่ะ^^
     
  10. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    แจ้งจัดส่งพัสดุEMSให้คุณกิตติฤกษ์แล้วนะคะ^^

    รหัสEMS EL2190 6770 2TH
    ขอบคุณมากค้า^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    แจ้งจัดส่งพัสดุให้คุณเตชธรรม แล้วนะคะ^^

    รหัสEMS EL2190 6771 6TH
    ขอบคุณค้า^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. เตชินธ์

    เตชินธ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +98
    ผมน่าจะอายุน้อยกว่าพี่แพรนะครับ ที่ผมขอบูชาพระครูบาพรหมจักร
    แล้วจะโอนเงินให้ในวันอาทิตย์ ต้องขอขอบคุณมากนะครับ หวังว่า
    โอกาสข้างหน้าคงจะได้ร่วมทำบุญกับพี่แพรนะครับ
     
  13. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    ยินดีค้า^^

    อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ^^
     
  14. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 10 พระธาตุข้าวบิณฑ์ เกศา จีวร ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    พระธาตุข้าวบิณฑ์ เกศา จีวร หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา
    วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน


    พระธาตุข้าวบิณฑ์ไม่จัดเป็นพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ แต่จัดเป็น
    พระธาตุเทพนิมิต


    ตามตำรากล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ วันหนึ่งได้เสด็จมาไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแม่ระมิงค์เพื่อไปโปรดพวกละว้า พวกละว้าเหล่านั้นอยู่ในภาวะอดอยาก ผืนดินแห้งแล้งทำการเพาะปลูกไม่ได้ผล ต้องหาหัวเผือกหัวมันมาต้มผสมกับข้าวกินเป็นอาหาร เมื่อพระพุทธองค์ได้เสด็จมาถึงที่นั่น พวกละว้าก็เอาข้าวผสมมันซึ่งเป็นโภชนาหารของตนมาใส่บาตร พระบรมโลกนาถก็ทรงรับแล้วฉันภัตตาหารเช้า ณ ที่นั้นซึ่งเรียกว่า ดอยน้อย เสร็จแล้วก็ทรงให้ศีลให้พรพวกละว้าทั้งหลาย หลังจากนั้นจึงทรงโปรดให้พระอานนท์นำข้าวในบาตรหลังจากฉันเสร็จไปเทคว่ำไว้ และแสดงปาฏิหาริย์ให้ข้าวนั้นกลายเป็นหิน กลายเป็นพระธาตุข้าวบิณฑ์ เพื่อให้พวกลั้วะ หันมานับถือพระรัตนตรัย แทนการนับถือผี และเพื่อเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ บางคนเรียกว่า
    "พระธาตุข้าว หรือ พระธาตุพุทธนิมิตร" ลักษณะเป็นองค์กลมๆสีขาวแกมเหลือง พวกละว้าเมื่อเห็นดังนั้นก็เกิดเลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก พระพุทธองค์จึงทรงให้ศีล 5 และแสดงธรรม และรับสั่งให้พวกละว้ารักษาดอยน้อยไว้ให้ดี ให้รักษาศีล 5 ไว้เป็นปกติ ถ้ารักษาศีลได้ก็เหมือนอยู่ใกล้พระพุทธองค์ ถ้ารักษาศีลไม่ได้ก็เหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้าจักรวาล


    เมื่อพระครูบาชัยยะวงศาพัฒนาได้มาจำพรรษาเพื่อพัฒนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ณ อ.ลี้ จ.ลำพูน ท่านได้นิมิตเห็นพระธาตุข้าวซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กม. ที่ดอยเกิ้ง ท่านจึงได้อัญเชิญพระธาตุข้าวบางส่วนมาไว้ที่วัดและแจกให้ลูกหลานนำไปสักการบูชา


    ผู้ที่อยู่ในศีลในธรรมที่มีพระธาตุข้าวไว้บูชาแล้ว ความอดอยากขาดแคลนจะไม่บังเกิดขึ้น การทำมาค้าขายโดยสุจริตจะได้ผลเจริญงอกงาม เมื่อประสงค์สิ่งใดให้ทำสมาธิ จิตระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและครูบาชัยวงศาฯ แล้วตั้งจิตขอในสิ่งที่ปรารถนา จะได้ผลดีมากสำหรับผู้ที่มีศีล 5 เป็นปกติ


    ข้าวก้นบาตรที่กลายเป็นหินนี้ แต่ละเม็ดมีเทพคุ้มครองอยู่ พระธาตุข้าวอาจเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ หากเกิดโรคภัยไข้เจ็บที่รับประทานยาแผนปัจจุบันแล้วไม่สามารถบรรเทาทุกข์เวทนาให้หายลงได้ ก็ให้ทำน้ำพระพุทธมนต์โดยจุ่มพระธาตุข้าวลงในภาชนะใส่น้ำที่จะทำน้ำพระพุทธมนต์ ตั้งจิตอธิษฐานแล้วดื่มน้ำพระพุทธมนต์นั้น จะบรรเทาทุกข์เวทนาที่เกิดขึ้นได้


    ชุดพระธาตุข้าวบิณฑ์นี้เลี่ยมเดิมจากวัดค่ะ ประกอบด้วยเม็ดพระธาตุข้าว ๖ องค์(ขนาดใหญ่) เกศาและจีวรของครูบาวงศ์ เลี่ยมพลาสติกเดิมจากวัด บูชาจากวัดโดยตรงเมื่อปี2533 ค่ะ



    ครูบาวงศ์ได้ละสังขารไปเมื่อปี2543 และเป็นที่อัศจรรย์ ที่สังขารหลวงปู่ไม่เน่าเปื่อย
    ยังบรรจุในโรงแก้วและเป็นที่เคารพสักการะของลูกศิษย์ทั่วประเทศ



    รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
    ปิดรายการแล้วค้า^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2014
  15. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    ประวัติหลวงปู่สี พระอรหันต์ 7 แผ่นดิน

    ท่านเป็นสหธรรมิกของลป.มั่น ภูริทัตตโต พระอาจารย์แห่งสายพระป่า เคยธุดงค์และปฏิบัติธรรมด้วยกัน และมีสหธรรมิกอีกหลายรูปที่ปรากฎชัดเจนอาทิ ลพ.กลั่น วัดพระญาติฯ ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ลป.ปาน วัดบางนมโค ส่วนตัวลป.สีท่านเองนั้นเป็นพระอาจารย์ของครูอาจารย์รุ่นหลัง ๆ หลายรูป อาทิ ลป.แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง ลป.สิม วัดถ้ำผาปล่อง ลพ.พรหม วัดช่องแค ลป.บุดดา วัดกลางชูครีเจริญสุข ลพ.ทบ วัดชนแดน ลพ.ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ลป.เย็น วัดสระเปรียญ ลพ.เจริญ วัดตาลานใต้ ซึ่งแต่ละรูปนั้นเป็นพระภิกษุที่ควรแก่การเคารพบูชา กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ

    หลวงปู่สี ท่านถือกำเนิดเมื่อวันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2392 แรม 4 ค่ำเดือน 5 ปีระกา ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี ที่บ้านหนองฮะ ตำบลหนองฮะ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
    โยมพ่อท่านชื่อ "ผา (เชียงผา)" ต่อมาใช้นามสกุลว่า "ดำริห์" โยมแม่ชื่อ "ข้อล้อ" มีพี่น้องทั้ง 6 คน โดยท่านเป็นบุตรคนโตของครอบครัว
    เด็กชายสีเติบโตท่ามกลางป่าเขาในสมัยนั้นและได้ติดตามพ่อเชียงผาพรานใหญ่เข้าไปล่าสัตว์ในป่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร และนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นข้าวของ หยูกยา เสื้อผ้า เครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ
    จวบจนเด็กชายสีอายุได้ 11 ขวบ ครั้งหนึ่งพ่อเชียงผาได้พาเด็กชายสีไปกราบนมัสการพระอาจารย์อินทร์ (หนังสือบางเล่มจะเรียกท่านเป็น "ญาคูอินทร์" โดยคำว่า "ญาคู" นั้นเป็นภาษาอีสานหมายถึงพระผู้ใหญ่)
    ซึ่งเป็นสหายเก่าของท่านแต่ได้ออกบวชและใช้ชีวิตเยี่ยงอริยสงฆ์ ถือธุดงค์และเคร่งครัดในการปฏิบัติธรรม เมื่อพระอาจารย์อินทร์ได้เพ่งพิจารณาเด็กชายสีด้วยความสนใจ ถึงกับเอ่ยปากขอจากพ่อเชียงผา
    เพราะท่านเล็งเห็นว่าเด็กชายสีนั้นเป็นคนมีบุญวาสนา น่าจะได้รับโอกาสในการศึกษาเล่าเรียนมากกว่าการใช้ชีวิตเป็นพรานป่า โดยพระอาจารย์อินทร์นั้นขอเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูอย่างดี เมื่อเป็นดังนั้นพ่อเชียงผาจึงได้อนุญาตและยกเด็กชายสีให้อยู่ในความอุปการะของพระอาจารย์อินทร์ และได้เริ่มต้นออกเดินทางตามพระอาจารย์อินทร์ โดยท่านเดินธุดงค์เข้าสู่กรุงเทพฯ ซึ่งในสมัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ การเดินทางนั้นจะต้องผ่านอุปสรรคและอันตรายต่าง ๆ มากมาย ทั้งอากาศ ทั้งสัตว์น้อยใหญ่ในป่า ทั้งไข้ป่า ตลอดระยะเวลาที่เดินทางกับพระอาจารย์อินทร์นั้น ท่านได้อบรมสั่งสอนสรรพสิ่งด้วยความเมตตามาโดยตลอด ซึ่งการเดินทางในคราวนั้นใช้เวลาหลาย ๆ เดือน ที่ท่านพระอาจารย์อินทร์พาศิษย์รักคือเด็กชายสีมาที่กรุงเทพฯ นั้น เพราะท่านมีจุดประสงค์ที่จะฝากเด็กชายสีนี้ไว้ให้เป็นศิษย์ขรัวโตแห่งวัดระฆังฯ ทั้งนี้เพราะพระอาจารย์อินทร์นั้นมีความสนิทสนมกับขรัวโตตั้งแต่คราวที่ขรัวโตไปศึกษาวิปัสสนาธุระกับพระอาจารย์แสง วัดมณีชลขันธ์ จังหวัดลพบุรี ในแผ่นดินของรัชกาลที่ 2 ซึ่งเป็นตักกะศิลาที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดในสมัยนั้น หลังจากนั้นพระอาจารย์อินทร์กับขรัวโตได้มีโอกาสมาพบกันอีกครั้งเมื่อคราวแผ่นดินรัชกาลที่ 3 โดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าให้ขรัวโตเข้าเฝ้าเพื่อแต่งตั้งให้เป็นพระราชาคณะ แต่ขรัวโตทูลเกล้าว่าไม่ขอรับตำแหน่งนี้และได้ธุดงค์ไปยังที่ต่าง ๆ และได้รับความช่วยเหลือจากพระอาจารย์อินทร์เป็นผู้นำทางเดินธุดงค์สู่เมืองเขมรและดินแดนแถบภาคอีสาน ทำให้พระอาจารย์อินทร์กับขรัวโตมีความสนิทสนมกันมากจนเรียกได้ว่า "รู้อัธยาศัยซึ่งกันและกัน"

    จนกระทั่งเข้าแผ่นดินรัชกาลที่ 4 ท่านจึงกลับมาสู่กรุงเทพฯอีกครั้งหนึ่ง พระอาจารย์อินทร์ได้พาเด็กชายสีมากราบนมัสการขรัวโตที่วัดระฆังฯ เมื่อปี พ.ศ.2403 ซึ่งขณะนั้นท่านได้รับโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่ง "พระเทพกวี"
    และเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ เมื่อขรัวโตได้พบเห็นเด็กชายสี ท่านยินดียิ่งนักด้วยบุคลิกลักษณะของเด็กชายสีถูกชะตาท่านนัก จึงได้รับเด็กชายสีไว้เป็นศิษย์ตั้งแต่นั้นสืบมา
    ขรัวโตท่านมีความเอ็นดูและเมตตาเด็กชายสีเป็นอันมาก ด้วยความที่เด็กชายสีเป็นผู้ที่มีความอดทน ขยัน สนใจข้อธรรม และตั้งใจศึกษาอย่างจริงจัง ขรัวโตท่านจึงอบรมสั่งสอนถ่ายทอดสรรพวิชาทั้งอ่านเขียนไทยและขอม จนเด็กชายสีนั้นมีความแตกฉานเป็นอย่างดีและเนื่องด้วยเด็กชายสีได้รับการอบรมเรื่องการปฏิบัติเป็นอย่างดีจากพระอาจารย์อินทร์ตลอดการเดินทางจากจังหวัดสุรินทร์เข้าสู่กรุงเทพฯ จึงทำให้การศึกษาในสรรพวิชามีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเด็กชายสีก็อยู่ปรนนิบัติขรัวโตท่านอย่างใกล้ชิดจนกระทั่งขรัวโตท่านได้รับพระราชเลื่อนสมณศักดิ์เป็น "สมเด็จพระพุฒจารย์ (โต)" เมื่อปีพ.ศ.2407 ณ ในกาลนั้นวัดระฆังฯ นั้นคราคร่ำไปได้ฝูงชนที่เป็นลูกศิษย์ลูกหาของเจ้าประคุณสมเด็จโต
    ท่านได้เดินทางมาร่วมฉลองกันอย่างเอิกเกริกที่วัดระฆังฯ และได้จัดให้มีการบวชพระและเณร จำนวน 108 รูป ในครั้งนั้นเด็กชายสีก็ได้ปลงผมบวชเป็นเณรด้วยเช่นกันโดยมีเจ้าประคุณสมเด็จโต เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุได้ 15 ปี เมื่อบวชเป็นสามเณรแล้ว ท่านยังคงรับใช้ใกล้ชิดเจ้าประคุณสมเด็จโตท่าน และได้รับการถ่ายทอดวิชาอื่น ๆ อีกมากมาย ตลอดเวลาที่อยู่รับใช้สนองงานท่าน
    นอกจากสามเณรสีจะได้เรียนรู้เรื่องอักขระขอมไทยแล้ว ยังร่ำเรียนการทำผงปถมังเป็นปฐม และตามด้วยผงวิเศษต่าง ๆ การทำผงยา ผงว่านต่าง ๆ อีกมากมายอันเป็นสูตรการทำผงวิเศษที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต นำมาใช้พระสมเด็จอันลือลั่นที่ทรงคุณวิเศษและแพงที่สุดในโลก ซึ่งสรรพวิชาที่ท่านถ่ายทอดให้สามเณรสีนั้น ท่านเคยถ่ายทอดให้บางคนเท่านั้นนั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าสามเณรสีนี้ได้รับการคัดเลือกจากเจ้าประคุณสมเด็จโตเป็นอย่างดีให้เป็นผู้สืบทอดวิชาต่อจากท่านมาจนครบทุกสูตร

    สามเณรอยู่รับใช้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตจนกระทั่งลุเข้าปี พ.ศ.2411 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จสวรรคตอย่างสงบ เจ้าประคุณสมเด็จโตท่านมีความโศกเศร้าเสียใจและเก็บตัวเงียบ ทำให้สามเณรสีไม่ค่อยได้รับใช้สมเด็จฯ ท่านในช่วงเวลานั้น ประกอบกับในปีนั้นพระอาจารย์อินทร์ได้กลับจากธุดงค์และได้เดินทางมาแวะเยี่ยมเจ้าประคุณสมเด็จโตที่วัดระฆังฯ สามเณรสีจึงถือโอกาสขออนุญาตสมเด็จฯ ท่านกลับไปเยี่ยมโยมพ่อโยมแม่ที่จังหวัดสุรินทร์พร้อมกับพระอาจารย์อินทร์ ซึ่งสมเด็จโตฯ ท่านก็อนุญาตให้กลับไปเยี่ยมบ้านได้ สามเณรสีเมื่อเดินทางกลับถึงบ้านได้เห็นภาพความลำบากของโยมพ่อโยมแม่ จึงอนุญาตพระอาจารย์อินทร์สึกเป็นฆราวาส ซึ่งพระอาจารย์อินทร์ได้ตรวจดวงชะตาแล้วทราบว่า "ชะตาต้องเกี่ยวข้องกับทางโลก เมื่อพ้นวาระกรรมแล้วจะบวชไม่สึกและจะสำเร็จในบั้นปลายชีวิต" จึงได้อนุญาตตามคำขอ หนุ่มสีจึงได้ใช้ชีวิตทางโลกตั้งแต่นั้นมา

    จนกระทั่งในปี พ.ศ.2416 ได้มีโอกาสเดินทางมากรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่งและตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมนมัสการสมเด็จโต แต่ไม่ทันการณ์เสียเพราะสมเด็จโตท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2415 หนุ่มสีจึงใช้ชีวิตทางโลกตั้งแต่รับราชการทั้งทหารและตำรวจจนได้ชายาว่า "ไอ้เสือหาญ" เพราะท่านมีจิตใจเด็ดเดี่ยวประกอบวิชาต่าง ๆ ที่ท่านได้ร่ำเรียนจากสมเด็จโตฯ นั้นได้ถูกนำมาใช้ในช่วงนี้ อาทิ อยู่ยง คงกระพัน ตลอดจนเวทย์มนต์คาถาต่าง ๆ

    จนกระทั่งในปี 2431 ขณะนั้นหนุ่มสีมีอายุได้ 39 ปีได้เกิดความเบื่อหน่ายต่อทางโลกจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดบ้านเส้า อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี มีพระครูธรรมขันธ์ เป็นพระอุปัชฌาย์

    ได้รับฉายาว่า "ฉันทสิริ" หลังจากนั้นท่านได้ขออนุญาตพระอุปัชฌาย์สมาทานธุดงควัตร พระอาจารย์ท่านเห็นว่าท่านได้เคยบวชเรียนมาแล้ว เป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ ความสามารถ ประกอบกับท่านเคยบวชเรียนอยู่กับสมเด็จโตฯ มานานจึงได้อนุญาต ท่านจึงเริ่มชีวิตแบบพระป่าโดยจาริกแสวงบุญไปยังสถานที่ต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 9 ปีอาทิ พระบาทสี่รอย พระมหาเจดีย์ชะเวดากอง หลวงพระบาง และที่ป่าหลวงพระบาง

    เมื่อปี 2438 ท่านได้พบกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และร่วมเดินธุดงค์ไปด้วยกัน ยามพักผ่อนก็นั่งสนทนาธรรมกัน พระอาจารย์มั่นอายุอ่อนกว่า ลป.สี 21 ปี และพรรษาอ่อนกว่า ลป.สี 6 พรรษา แต่ถึงแม้ครูบาอาจารย์ทั้งสองรูปนี้จะมีอายุที่แตกต่างกัน แต่มีปฏิทาในการปฏิบัติและมุ่งมั่นในพระศาสนาเหมือนกัน พระอาจารย์มั่นจึงเคารพ ลป.สี โดยเรียกท่านว่า "หลวงพี่" จริง ๆ ลป.สีท่านยังพบพระที่ปฏิบัติชอบในป่าอีกหลายรูปแต่ท่านไม่เคยเล่าให้ผู้ใดฟัง เพราะตลอดชีวิตของท่านเป็นพระพูดน้อย เรียกได้ว่า หาคนที่จะทราบประวัติที่แท้จริงของท่านนั้นน้อยมาก นอกจากคนที่ปรนนิบัติท่านใกล้ชิดจริง ๆ ครั้งหนึ่งเคยมีคนถามโน่นถามนี่ท่านได้แต่ตอบว่า "บ่มีอดีต มีแต่ปัจจุบัน ชีวิตมีแต่พุทธศาสนา ป่าและวัด..

    " ปีพ.ศ.2440 ท่านธุดงค์กับบ้านหมกเต่าบะฮี ตำบลเบิด อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เพื่อโปรดญาติโยมที่บ้านเกิดและจำพรรษาอยู่ที่วัดอิสานหมกเต่า และถือโอกาสอยู่ดูแลโยมพ่อโยมแม่จนถึงวาระสุดท้าย แต่ท่านก็ออกธุดงค์เหมือนเช่นเคยแต่ไม่ได้ไปไกลมากเพราะเป็นห่วงโยมทั้สอง จวบจนโยมพ่อของ ลป.สี เสียชีวิตในปีพ.ศ.2475 และโยมมารดาเสียชีวิตในปีพ.ศ.2485 ขณะนั้น ลป.สีอายุ 93 ปีและเป็นครูบาใหญ่ที่วัด หลังจากสิ้นโยมพ่อและโยมแม่แล้วท่านจึงธุดงค์ต่อไปอีกหลายสถานที่จน

    กระทั่งในปีพ.ศ.2512 ปู่โทร หลำแพร ซึ่งเป็นศิษย์สาย "หลวงปู่โลกเทพอุดร" เหมือนท่านได้เป็นผู้แนะนำพระอาจารย์สมบูรณ์ สำนักสงฆ์เขาถ้ำบุญนาคในเวลานั้น ให้ไปนิมนต์ ลป.สี มาร่วมสร้าง โดยพระอาจารย์สมบูรณ์พร้อมด้วยคณะชาวตาคลีได้เดินทางไปนิมนต์ ลป.สีท่านที่วัดบ้านหนองลุมพุก ตำบลหนองเรือ อำเภอโนนสัง จังหวัดอุดรธานี (ปัจจุบันเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู)

    ขณะนั้น ลป.สีมีอายุ 120 ปี ที่น่าแปลกใจแก่พระอาจารย์สมบูรณ์และคณะที่เดินทางไปในเวลานั้นก็คือ ลป.สีท่านสามารถหยั่งรู้ด้วยญาณทิพย์ ว่าจะมีผู้มารับท่านไปสร้างบารมี ท่านจึงเตรียมตัวรออยู่แล้ว ท่านจึงรับนิมนต์ไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาถ้ำบุญนาคในปีนั้น

    จึงถึงวาระสุดท้ายคือท่านมรณภาพเมื่อวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ขึ้น 6 ค่ำเดือน 4 มะเส็ง ตรงกับรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีนับได้ว่าท่านเป็นพระภิกษุผู้มีอายุยืนนานถึง 7 รัชกาล

    ขอบพระคุณข้อมูลจากเว็บเพื่อนบ้านค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2014
  16. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
    ให้บูชาเท่าไหร่ครับ
     
  17. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    ได้รับเงินจากคุณเตชินธ์แล้วค้า^^

    ขอบพระคุณมากๆค่ะ และขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 11 ล็อคเก็ตฉลอง100ชันษา สมเด็จพระญาณฯบรรจุเกศา จีวร เทียนชัย

    ล็อคเก็ตฉลอง100ชันษา สมเด็จพระญาณฯบรรจุเกศา จีวร
    เข้าพิธีใหญ่ วันที่ 9 เดือน 9
    ขนาด 2.5*3.5 ซม.


    ในล็อกเก็ตบรรจุเทียนชัย(ไม่ควรเก็บไว้ที่ร้อนนะคะ เพราะเทียนจะละลายค่ะ) พร้อม เกศา จีวร ของสมเด็จพระญาณฯและมวลสารศักสิทธิ์มากมายเช่น ผงสมเด็จจิตรลดา เกศาหลวงปู่เหรียญ หนองคาย เกศาครูบาศรีวิชัย เกศาหลวงปู่ทิมระยอง ผ้าเช็ดหน้าหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค ผงหลวงปู่แหวนเสก3ปี ผงเสกเจ้าคุณนร ผงเสก หลวงปู่ฝั้น ผงเสก หลวงปู่ทิม ตะใบพระของหลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่น สมเด็จเมตตาอธิษฐานจิต
    และ
    ยังเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่9เดือน9 แจกหมอและพยาบาลที่จุฬา


    และมอบเกศา จีวร ของสมเด็จพระญาณฯ ชิ้นส่วนหน้าเช็ดหน้าหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค


    และมอบพระผง100ปีสมเด็จพระญาณฯติดจีวรของสมเด็จท่านอีก 2 องค์




    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการแล้วค้า



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2014
  19. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 12 ล็อคเก็ตหลวงปู่มั่น บรรจุพระธาตุหลวงปู่มั่นและมวลสารครูบาอาจารย์

    ล็อคเก็ตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หมายเลข ๖๑
    บรรจุพระธาตุหลวงปู่มั่น
    บรรจุอังคารธาตุพ่อแม่ครูอาจารย์ ดังนี้
    1 อังคารธาตุหลวงปู่ชอบ
    2 อังคารธาตุหลวงปู่สิม
    3 อังคารธาตุหลวงปู่เหรียญ
    4 อังคารธาตุหลวงตามหาบัว
    5 อังคารธาตุหลวงปู่อ่อนสา
    6 อังคารธาตุหลวงปู่หล้า
    7 อังคารธาตุหลวงปู่ผาง
    8 อังคารธาตุหลวงปู่เพียร
    พร้อมทั้งข้าวก้นบาตรครูบาอาจารย์
    (องค์นี้พิเศษมีพระธาตุเสด็จเกาะที่ข้าวก้นบาตร)
    ติดจีวรและฝังตะกรุงเงิน 3 ดอก
    จำนวนการจัดสร้างเพียง 300 องค์
    จัดสร้างเป็นรุ่นแรก โดยวัดหนองน้ำขุ่น จ.บุรีรัมย์

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการแล้วค้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2014
  20. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,804
    ค่าพลัง:
    +725
    ปิดรายการแล้วค้า โดยคุณ bankru

    ขอบพระคุณมากค้า ยินดีที่ได้ร่วมบุญกันนะคะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...