มาดูผลคาถาปลุกพระ..กันครับ

ดีคับพี่ jackman คาถาหัวใจที่พี่แนะนำใช้ยังไงคับ (หมายถึงว่าให้ใช้กับพระหรือท่องธรรมดาคับ หรือว่าใช้กับยันต์ที่สัก) แต่หนุมานผมกลัวปลุกด้วยคาถาหัวใจแล้วจะเอาลงไม่ได้สิคับ มันคงจะแรงกว่า นะมะพะทะ แน่เลยอะ
ปล.ยังไงผมก็จะลองคับ เพื่อจะได้บอกต่อ แล้วรอฟังผลจากผมนะคับ

 

ให้ถ่องธรรมดานี่หละครับเหมือนกับปลุกพระแต่ไม่ต้องใช้พระใดๆ
ขอให้จิตเป็นสมาธิดีๆก่อนนะครับค่อยทำนึกถึงครูบาอาจารย์ด้วยนะครับ

 

อ่าวพี่ jackman คับแล้วของจะขึ้นยังไงอะคับในเมื่อเราไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับหนุมานอยู่เลยอะ ตอบทีคับ จะได้ทำถูกวิธี

 

ผมเองลองแล้วครับ ใช้ สุนัคขัตตัง สุมังคะลัง ครับ ปกติสมาธิผมจะสงบได้เร็วพอสมควรครับ ผมเองลองปลุกตะกรุด ครับ 2 อาจารย์ ตามแบบที่บอก คือพนมมือไว้บริเวณหน้าอก แล้วท่องคาถา ผลคือ อาจารย์แรก เป็นตะกรุดเก่าเนื้อตะกั่ว ภาวนาไปไม่ถึงนาที ตัวเริ่มโยกไปหน้า หลัง มือก็พนมแล้วชี้ไปข้างหน้า แล้วขึ้นบน จนกลั้นแทบไปอยู่ รู้สึกว่า ตัวจะพองออก เลยรีบตั้งสติแล้ววางตะกรุดลง เพราะรู้สึกว่าใช้พลังงานเยอะครับ ส่วนตะกรุดอีกดอก จะสั่นครับ แล้วมือสั่นไปมา คล้ายๆเวลาคนจีนไหว้เจ้า ชอบสั่นมือประหลกๆ แต่นี่จะแรงกว่า จนต้องรีบวางตะกรุดลงครับ

เมื่อวาน เลยลองปลุก พระหลวงพ่อขาว วัดบางโฉลงนอก จ.สมุทรปราการ (เหรียญพระพุทธ สร้าง ปี 2499 หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และอีกหลายคณาจารย์ปลุกเสก) ขึ้นแรงมากจนไม่ไหวครับ เลยต้องรีบวางพระลงครับ

ยังไงลองดูกันนะครับ แต่ก่อนผมเองเคยทดสอบพุทธคุณพระ โดยใช้นิ้วชี้ กับนิ้วหัวแม่มือ นั่งสมาธิใช้นิ้วทั้งสองจับพระไว้แบบไม่เกร็ง แต่มั่นคง ปล่อยมือวางสบายๆบนหน้าตัก แต่เพ่งจิตไปที่นิ้วมือทั้ง 2 ข้าง ที่สัมผัสพระ ทำจิตนิ่งๆไม่ต้องท่องอะไร เพ่งไปเรื่อยๆ จะรู้สึกเหมือนมีอะไรตอดๆที่ปลายนิ้วทั้งสองนื้ว หลังจากนั้นได้เรื่องละครับ

นิ้วที่คีบพระจะกวัดแกว่งไปเรื่อยๆ แล้วแต่พุทธคุณพระ และบางครั้งก็จะแกว่งเร็วขึ้นๆ บางครั้งก็จะไปวนๆเหนือหัว เรา บางองค์จะง้างข้อมือเข้าหาตัวแขนแทบหักเลย บางครั้งแก่งเร็วจนพระแทบหลุดนิ้ว ทีใช้การเพ่งปลายนิ้ว อาจเป็นเพราะสามารถสัมผัสพลังองค์พระได้ง่าย และไม่เป็นอุปาทานครับ เพราะสัมผัส เฉพาะปลายนิ้ว ซึ่งจะรับพลังได้ง่าย และรู้สึกได้ ยังไงควรระวังอย่าแกว่งจนพระกระเด็นหลุดนะครับ ระวังพระชำรุดกันด้วย

ว่ากันว่า ถ้าพระแก่วงขึ้นเหนือหัว เขาว่าพุทธคุณครบทุกด้าน ถ้าง้างเข้าตัวนี่จะมหาอุตม์ คงกะพัน ถ้ารู้สึกเย็น ซ่านๆ จะเด่นด้านเมตตาครับ: bat: (good)

 

เคยดูรายการตีสิบ เทปที่เค้าเสนอการระเบิดจิต
ก็จะท่องว่า นะมะพะทะ นี่แหละครับ โดยมีอาจารย์
บอกให้ท่องช้า หรือเร็ว ซักพักก็จะเกิดอาการต่าง
แล้วอาจารย์ก็จะแปลความออกมาว่าเราไปทำกรรมใด
ที่ติดตามตัวมา อะไรประมาณนี่

 

ผมก็เคยท่องไม่ยักเกิดอะไร คงสมาธิไม่ดีนั่นเอง

 

พระพุทธเจ้ามีปลอมด้วยเหรอ
แล้วทำไมต้องปลุก

 

การปลุกพระตามที่ท่านอาจารย์สอนมา...(เป็นพระกรุวัดเนินมะปรางที่พิษณุโลก) เราเพิ่งได้มาจากพระอาจารย์ที่แพร่ มีลูกศิษย์ท่านนำมาให้ทั้งไห...พระอาจารย์จึงให้ลูกศิษย์ช่วนกันสกัดออกมาโดยไม่ให้ไหแตก...หาชมได้ที่ธรรมสถานเต้าจี้ที่จ.แพร่...เราได้มา 2องค์เป็นพระนางพญาเข่าโค้ง 1 องค์ และพระพุทธชินราช 1 องค์...ท่านจะให้เฉพาะศิษย์ที่บำเพ็ญธรรม...
สวดคำบูชาพระรัตนตรัย...สวดนมัสการพระพุทธเจ้า...สวดถวายพรพระ...สวดชัยมงคลคาถา...สวดบทมหากา..
สวดชุมนุมเทวดา...สวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก
และจบท้าย...สวดนมัสการพระพุทธเจ้าอีกครั้งเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ท่าน...
พระกรุนี้สร้างขึ้นเพื่อมอบให้แด่เหล่านักรบผู้กล้าในสมัยโบราณเพื่อให้เป็นเครื่องรางของขลัง ให้ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ
ช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง...

 

การปลุกพระที่ถูกต้อง...ต้องอาราธนาพระพุทธคุณทุกครั้ง...แล้วเราจะไม่มีอาการต่างๆทางร่างกาย แต่เราจะรับรู้ได้โดยจิตของเราเอง..ที่จะรู้สึกเหมือนมีพลังประหลาดที่อบอุ่นครอบตัวเราไว้...และเราจะรู้สึกเบาสบายตลอดทั้งวันที่จิตระลึกถึงอยู่...
ส่วนการปลุกของขลังอื่นๆเราไม่ขอตอบ.....

 

หัวใจหนุมาน= หะ-นุ-มา-นะ อุต-ทัง-อัต-โธ

 

ไม่ต้องปลุกไม่ต้องลอง...ของจะดีไม่ดีอยู่ที่ใจ..พระที่ว่าดีๆๆมะมีแต่ธาตุ..ดินน้ำลมไฟผสม..
แม้แต่เราหยิปหินก้อนหนึ่งขึ้นมาบอกว่าศักดิ์สิทธิ์ ..ใจก็เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์.. มันก็จะศักดิ์สิทธิ์

ที่ผมพูดอย่างนี้ก็เพราะว่า...เครื่องรางของคลั่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น อะไรก็ดี พระเครื่องก็ดี...เป็นเครื่องมือที่จะทำให้เรานั้น..รำลึกนึกถึง...บารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..นึกถึงคำสอนของท่าน..ต่างหาก..อย่าได้ไปยึดติดกับมันมากเลย..ละได้ก็ละ

ฝากไว้ด้วยก็แล้วกัน
ดีไม่ดีแล้วแต่จะพิจรณา

 

แล้วจะลองดูครับ

 

ขอบคุณครับอยากได้มานานแล้ว

 

ดีครับ.... หลากหลายแนวดี

 

ผมทำไม่ได้อ่ะครับ ทั้ง 2 คาถาเลย บริกรรมไปเป็น10 นาที ยังนิ่งเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าพระไม่จริง หรือ สมาธิผมไม่มีกันแน่....ลองกับขุนแผนซุ้มกอครับ

หรือว่าต้องถอดพระที่ห้อยคอออกก่อน ห้อย พระนเรศวร, พระพิฆเนศวร และหลวงปู่ทวดครับ

 

เดวไปลองมั่งดีกว่าอิอิ

 

สุนักขัตตัง สุมังคะลัง

คาถานี้ผมท่องได้ขึ้นใจเลยครับ แต่ไม่รุ้ว่าเอาไว้ปลุกพระ
เพราะตอนบวชเณรอยู่(หลายปีมาแล้ว) หลวงพี่เค้าเอาหนังสือสวดมนมาให้ดู
แล้วเค้าก็ขีดเส้นใต้สุนักขัตตัง สุมังคะลังเอาไว้อยู่ในบทสวดไหนจำไม่ได้
แล้วบอกว่าเป็นคาถากันหมากัด ก็เลยจำขึ้นใจเลย เวลาเดินผ่านหมาจะท่องตลอดเลยครับ
แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเหมาะสมรึป่าวครับ

 

อยู่ในบทสวด ชยันโต ครับ
โดยความหมาย ของ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง
เหมือนกับว่าการกระทำความดี "สุ มังคะลัง" เมื่อใด ก็เป็นเวลาดีฤกษ์ดี "สุ นักขัต" อย่างนั้นนะครับ

อาการ ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นเหมือน พระปิติทั้ง 5 มาบังเกิด ในกายทวาร วจีทวาร มโนทวารนะครับ ตัวสั่นโยกคลอน เป็นอุเพงคาปิติ
ถ้าเกิดได้ง่ายขนาดบริกรรมไม่กี่นาที ผมคิดว่าน่าจะสร้างสะสมบุญมามากกว่าผมนะ ยิ่งอายุเยอะมากขึ้น อย่างที่ผมเป็นต้องคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อย อุทัจจะกุกกุจจะ ก็มากไปเรื่อย จิตจึงไม่ค่อยรวมเป็นสมาธิ ไม่ค่อยเกิดปิติ

แต่ผมเคยเห็นว่ามีหลายท่าน post ข้อความในลักษณะนี้ หลายๆครั้ง ครับ

ถ้ายังมีบุญอยู่ ผมคงได้ไปกราบหลวงพี่เล็กบ้างนะครับ

 

ปลุกพระไม่เป็น.พยามยามจนเกิดผล

ผมคนหนึ่งที่ปลุกพระไม่เป็น.มานั่งนึกนั่งคิดว่าคนอื่นทำไมเขาทำได้เราทำไม่ได้ไม่มีอาการใดๆเลย เหนื่อยเปล่า.. เขาปลุก ธาตุกัน นะ มะ พะ ทะ จนกระโดดตัวลอย ข้าพเจ้าทำแทบตายก็ไม่ขึ้น อยู่มาวันหนึ่งนั่งสมาธิจนจิตสงบ
เพราะจิตมันดิ่งลงชั่วครู่ กำลังจะออกจากสมาธิ เลยนึกขึ้นมได้เลยลองปลุกธาตุ นะ มะ พะ ทะ ดู ภาวนาไปๆ สักครู่ ลมหายใจมัน ถี่ขึ้นๆ จนตัวเริ่ม ชา เราก็ว่าเร่งเข้าไปอีก ที่นี้ เจ้าประคุณ เอ๋ย เหมือนกระแสไฟฟ้าเป้นหมื่นโวลท์ เข้ามาในร่างเรา มันพาเรากระโดด กระแทกตัว ดังตั้มๆๆ ตรงนั้นเอง จนพักใหญ่ คเราหยุดภาวนาลง มาก็คลายๆออกมาครับ..คราวนี้เราอยากรู้ว่าพระพุทธคุณของพระที่บรรจุไว้มีมากน้อยเท่าไร ดีทางไหน ก็อธิษฐานเอา ทางคงกระพันมันก็พาออกฤทธิ์ ขึ้นตั้มๆๆพาเรากระแทกตัวอยู่ตรงนั้นแหละ พออธิฐานจิตว่ามีพลังทางเมตตาไหม มีก็จะเป้นครับแต่ไม่พากระโดด มันเย็นซาบซ่านเป็นสุขครับ ผมเคยเอาพระดินเผามาปลุกแต่ไม่รู้ว่าพระอะไรครับ พอจับกำหนดจิตพนมมือแล้วเอาจิตไปเกาะเข้าไปในองค์พระ ชั่วครู่เท่านั้นเอง เหมือนไฟฟ้าเข้ามาบนศรีษะเพิ่มจนหัวตัวชามากขึ้นๆ และค้างชาอย่นานมากเลยเท่าที่เคยปลุกมาไม่เหมือนพระองค์อื่นๆ หลังจากเอาพระออกแล้ว ผมก็ถามเขาว่าพระอะไร
ทำไมแรงจังไม่เหมือนพระองค์อื่นๆ พลังมากมายเหลือเกิน ขนาดเอาออกจากมือแล้วพลังยังค้างอยู่ต้องนาน ถามเขาว่า พระอะไร เขาตอบว่าพระหลวงพ่อโหน่ง เป็นดินเผา ครับ พุทธคุณสูงมากไม่เคยเจอพลังอะไรมากมายขนาดนี้เลย..พระบางองคืปลุกแล้ว.พลังมันออกร้อน จนผมรู้สึกโมโหบอกไม่ถูก เวลาเราปลุกไปเรื่อยๆ พลังมันมารวมตัวกัน แทบระเบิดครับ..ต้องหยุดให้มันคลายตัวออก.จนหมดแล้วค่อยปลุกองค์ใหม่ต่อๆไป นะครับ. ลองดูครับสำหรับท่าน
ที่ปลุกพระ หรืออาราธนาพระเพื่อตรวจสอบ พุทธคุณ หรือพลังวิชาอาคมต่างๆที่บรรจุไว้ในองค์พระ บางองค์ผมปลุกไม่ขึ้น เพราะเจ้าของเขาลองจิตเราเราก็อธิษฐานเปิดดูครับ ใช้โลกะวิทู ขออาราธนา บาระมีพระพุทธเจ้ามาเป็นประธาน แล้วใช้โล กะ วิ ทู เลย แล้วเอาจิตเข้าไปจับเข้าไปภายในองค์พระใหม่
เหมือนเราเอาลมหายใจไปสูดดม ดอกไม้แหละครับกำหนดความรู้สึกเข้าไปลึกๆ แป๊บเดียว อีพ่อ เอ้ย..คราวนี้พลังมาพาตั้งตัวไม่ติด นำหูนำตาไหลพรากเลย สั่นกระโดด ตู้มๆเลย ครับ..ลองดูนะครับ อาจเป้นที่พอใจ สำหรับคนที่ปลุกพระไม่เป้น อยากรู้ ก็สมใจอยาก นะครับ..ทำได้เป้นอย่างไรก็บอกด้วยก็แล้วกัน เอาใจช่วย..นะครับติดพระพุทธคุณ ติดเครื่องราง ..ไงไง ก็ดีกว่าติดยา..นะจะบอกให้..อ้อลืมไปหัดปลุกแบบใช้จิตเพ่งบ้างน๊ะ เราไม่ต้องเอามือไปจับองค์พระเลย แล้วน้อมเอาพลังเข้าตัวก็รู้เหมือนกัน ทำบ่อยๆ
คราวนี้เขาแขวนอะไรมาเขามีอะไรติดตัวมาเราก็รู้ แม้มีผีคลุมแฝงมา เทพแฝงมาก็รู้ เห็นไหมใช้ได้กว้าง ขวางเลย..อิอิ แปลกกว่าการจับมาปลุกอีก...เห็นไหม ..ผลพลอยได้จากการปลุกพระ.เป็นสมถะกรรมมัฐฐานในตัวเลย..
...ถ้าปลุกพระมากจนร้อนทั้งหัวทั้งตัวทั้งกายทั้งใจ.อันเนื่องจากการรับพลังงานจากวัตถุมงคลที่ถูกบรรจุลงไปด้วยวิทยาคม อันเนื่องมากตบะของครูแรงครูฤาษี หรือ การบรรจุหัวใจหนุมาณ หัวใจสัตว์ หรือกสิณไฟหรืออำนาจของ ธาตุไฟ ที่ร้อน อันเกิดแต่ฌาณ ส่วนอำนาจพุทธคุณทางเมตตา จะเย็นสบายอยู่แล้วครับ วิชาอาคม ทีมีฤทธิ์ จนผู้ปลุกรับพลังกระแสที่ไหลเข้ามาในกาย ซึ่งแสดงออก มาจากวัตถุ
ต่างๆที่บำเพ็ญและบรรจุเข้าไว้ทำให้ร้อน และโมโหแทบระเบิดท่านให้ใช้พระคาถานี้บริกรรมเสกลงน้ำแล้วดื่มก็จะหายครับ
พุทธธังล้างทุกข์ ธัมมังเป็นสุข สังฆังสบาย.

หรือ บริกรรมภาวนาเอามือลูบหน้าอกก็จะคลายออกและเย็นไปเองครับ

 

มีบางท่านถามว่าทำไปทำไม? พระพุทธเจ้าไม่ศักสิทธิ์หรือ?


คือตัวผมอยากจะชี้เเจงว่า ผมไม่ได้ลองเพื่อลบลู่ดูหมิ่น ลองความศักสิทธิ์นะครับที่ผมทำไปก็เพื่อปลุกความเชื่อมั่น เพื่อพิสูจน์ตัวเองเพื่อที่จะทำให้ใจเรามีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นไปอีก ให้ใจเราเชื่อและเคารพสิ่งสักศิทธิ์ยิ่งๆข้ึนไป ถ้าเราปลุกพระได้ ก็อาจถือได้ว่าเป็นการเปิดก้าวแรกที่จะทำให้ใจเรามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า"เวทมนต์ คาถา สิ่งศักสิทธิ์ มีจริง ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลอย่างที่ใครบางคนเข้าใจ"