พ้นจากสภาวะความเป็นเปรตแล้วก็ต้องมาเกิดเป็นอสุรกาย

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย attasade, 7 พฤศจิกายน 2014.

  1. attasade

    attasade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +2,554
    พ้นจากสภาวะความเป็นเปรตแล้วก็ต้องมาเกิดเป็นอสุรกาย

         "..บนดินแดนของโลกมนุษย์เกลื่อนกล่นไปด้วยผี ที่เราเรียกกันว่า อสุรกายบ้าง สัมภเวสีบ้าง และเปรตเต็มไปหมด สภาพของอสุรกายมีอยู่ 2 พวกด้วยกันคือ พวกที่ 1 เป็นอสุรกายที่ยังมีกรรมหนัก มีร่างกายทรุดโทรมหน้าตาซีดเซียวไม่สวย ไม่มีความสง่าผ่าเผยผอมกะหร่อง ผมเผ้ารุงรังน่าเกลียดน่าสะอิดสะเอียน คอยหลบหน้าคนอยู่เสมอ เพราะอสุรกายแปลว่าไม่กล้า จึงมีความไม่กล้าเป็นปกติ อสุรกายพวกนี้มีความดีกว่าเปรตอยู่อย่างหนึ่งคือหากินเองได้ แต่จะต้องหากินของที่เขาทิ้งแล้วเป็นของบูดเน่าอย่างซากศพคนตาย สุนัขตาย ควายตาย สัตว์ตายหรือเศษอาหารที่เขาทิ้งไว้เน่า ๆ แล้ว อสุรกายพวกนี้กินก็มีสภาพเหมือนเรากินธรรมดา มีการเคี้ยวมีการกลืนเหมือนกินเข้าไปหมด แต่ทว่าซากเหล่านั้นยังเหลืออยู่ไม่หมดไป เพราะพวกนี้กินอาหารที่เป็นนามธรรม ไม่ใช่เป็นรูปธรรมเหมือนคนและสัตว์กินอาหาร อาหารนั้นก็ต้องหมดไป

         อสุรกายอีกพวกหนึ่ง มีความดีมากใกล้จะพ้นความเป็นอสุรกายแล้ว คือโทษทัณฑ์ที่เป็นเศษกรรมในภาวะของการเป็นอสุรกายใกล้จะหมดไป ตอนนี้มีรูปร่างหน้าตาอ้วนท้วนใหญ่โตแข็งแรงทะมัดทะแมง ผิวดำมะเมื่อม อสุรกายพวกนี้มีกำลังมาก มักจะชอบรับสินบนจากชาวบ้าน ถ้าใครนิยมนับถือเจ้าองค์ใดก็ตาม ต้องระวังให้มากเพราะพวกนี้นิยมเข้าไปแทรกผู้ที่เข้าทรงและบอกว่าเขาเป็นคนนั้น บรรดาพวกเข้าทรงทั้งหลายถูกพวกนี้ปลอมมาก เนื่องจากอสุรกายพวกนี้มีความรู้มากเหมือนกัน และเขาก็มีอำนาจบางอย่างที่จะรักษาโรคได้ จะบันดาลอะไรได้บางอย่างตามสมควรแต่ว่ากำลังไม่เสมอเทวดา จะต้องสังเกตุการแสดงท่าทางผิดปกติจากพระหรือเทวดาธรรมดา

         ดังตัวอย่างมีในที่แห่งหนึ่งกลุ่มนี้อยู่ในถ้ำ ๆ หนึ่ง เขาบอกว่าในกลุ่มของเขาเป็นศาสนาพระศรีอาริย์มีพระสงฆ์องค์หนึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม ได้นิมนต์อาตมากับเพื่อนคนหนึ่งไปร่วมในพิธีนั้นอาตมาจึงไปดูและพูดคุยกัน พระองค์นี้ท่านบอกว่าท่านเข้าถึงพระศรีอาริย์เป็นปกติ พอถึงเวลาถวายทานท่านก็ว่าอะไรพึมพำ ๆ ไปตามเรื่อง เมื่อกล่าวคำให้ทานแล้วก็ให้ลูกน้องเจริญพระกรรมฐานทำสมาธิ ขณะที่ลูกน้องทำสมาธิ ก็ปรากฎว่าพระองค์นี้นั่งสวดมนต์ใช้ภาษาที่มนุษย์ไม่สามารถจะรู้เรื่องได้แทนที่จะสงบนั่งสมาธิ ก็เห็นอสุรกายตัวดำมะเมื่อมยืนข้างหลังพระองค์นั้น

         เมื่อพระองค์นั้นสวดเสร็จแล้ว อาตมาจึงถามว่า "เวลาลูกน้องทำสมาธิท่านสวดทำไม"
         ตอบว่า "พระศรีอาริย์มายืนข้างหลังบอกให้สวด"
         จึงได้บอกว่า "พระศรีอาริย์ที่ไหน ผมเห็นไอ้ดำมันยืนอยู่ข้างหลังท่านมันเป็นอสุรกายปลอมเข้ามาในพิธี เวลาที่ลูกน้องท่านทำสมาธิต้องใช้เวลาสงบสงัด การทำแบบนี้ไม่ถูกแบบแผนของพระพุทธเจ้า"

         พระองค์นั้นน่ากลัวจะไม่ชอบใจเพราะว่าไปพูดว่าเขาต่อหน้าลูกศิษย์เขา มันก็ไม่ดีเหมือนกันแต่ถ้าจะปล่อยกันไปพระองค์นั้นก็นุ่งห่มผ้าเหลืองและก็โกนหัวเหมือนกัน เขาจะหาว่าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาเลอะเทอะเหมือนกันหมด จึงบอกท่านว่า ทางที่ดีท่านควรจะทำใจของท่านให้ดีไปกว่านี้ ให้รู้ว่าใครไปใครมา เวลานี้ยังอยู่ในเขตศาสนาของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "สมเด็จพระสมณโคดม" การที่จะมาประกาศศาสนาใหม่ว่าเวลานี้เป็นยุคของพระศรีอาริย์ ทำแบบนี้ดูท่าจะไม่เหมาะ เราก็เป็นลูกพ่อเดียวกัน อย่าทำอะไรให้มันนอกรีดนอกรอยไปเลย

         เป็นอันว่าอสุรกายพวกนี้มันปลอมตัวได้ ถ้าคนไม่เข้าใจจริง ๆ มันเล่นงานเสียหลายรายแล้ว และบรรดาอสุรกายพวกนี้ ถ้าพ้นจากสภาพความเป็นอสุรกายแล้ว ก็ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน.."

    *คัดลอกจากหนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน เรื่องที่ 151 หน้า 320 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     

แชร์หน้านี้

Loading...