พลังแห่งคำพูด

การทดลองนี้เป็นของดร. Masaru Emoto ดร.คนนี้เป็นคนทำการทดลองเกี่ยวกับผลึกน้ำ ที่ว่ารูปร่างผลึกน้ำจะเปลี่ยนไปตามคำพูดที่เราพูดใส่ ในการทดลองของเค้าแล้ว ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นคำพูดอย่างเดียว ป้ายคำพูดที่แปะอยู่ที่ขวดที่ใช้ทดลองก็มีผลเช่นกัน เสียงเพลงก็ด้วย

ทีนี้มีการทดลองอันนึงที่ดร.เค้าเขียนไว้ ไม่เกี่ยวกับน้ำแต่เกี่ยวกับข้าวนี่แหล่ะ โดยการแยกข้าวที่หุงแล้วเป็นสองขวด ขวดนึงเขียนคำว่า arigako(ขอบคุณ) อีกขวดนึงเขียนว่า bakayaro(ไอ้บ้า) แล้วก็พูดใส่ทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน ผลปรากฏว่า ข้าวในขวดที่พูดคำว่า "ขอบคุณ" ใส่จะฟูและมีกลิ่นหอมเหมือนส่าเหล้า ส่วนข้าวที่ฟังคำว่า "ไอ้บ้า" จะเน่าและมีสีออกดำ (ผลการทดลองคัดมาจากหนังสือที่เค้าเขียน)

การทดลองนี้ก็มีคนหลายคนได้ลองทดลองตาม ผลที่ได้ก็ออกมาเหมือนๆ กัน และเห็น ดร.บอก(เขียน)ว่า มีบ้านนึงได้ลองเพิ่มอีกข้าวอีกขวดนึง ข้าวขวดนี้ ไม่ติดฉลากอะไร ไม่พูดอะไรกับมัน และไม่แยแสมันเลยด้วย ผลออกมาก็คือ ขวดที่ไม่ได้รับการสนใจแยแส อยู่ในสภาพที่เน่าดำยิ่งกว่าขวดที่โดนด่าว่า "ไอ้บ้า" เสียอีก อาจสรุปได้ว่า การที่ไม่สนใจไม่แยแสนั้น ทำให้เจ็บปวดมากกว่าการโดนดูถูกเสียอีก

การทดลองกับข้าวนี้ใครอยากลองก็น่าลองได้ไม่ยาก

นอกจากข้าวแล้ว ยังได้มีคนไปทดลองกับต้นไม้ด้วย คนๆ นี้ได้ทดลองกับต้นทานตะวัน การทดลองของเขาทำดังนี้
- ปลูกต้นทานตะวันภายใต้สภาพแวดล้อมเดียวกัน
- ไม่เพียงแต่จะเขียนคำว่า ขอบคุณ และ ไอ้บ้า แปะไว้ แต่ยังจะพูดใส่ด้วย
- ให้น้ำต้นทานตะวันด้วยน้ำ 200 cc ทุกเช้าและเย็น

การทำการทดลอง
1. วันที่ 2 มิถุนายน นำซองเมล็ดทานตะวัน, กระถางต้นไม้ และขวดพลาสติกใส่น้ำที่นำไปรดน้ำ แยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มนึงเขียนคำว่า "thank you" และอีกกลุ่มเขียนว่า "you fool"
2. วันที่ 6 มิถุนายน เริ่มปลุกต้นทานตะวัน โดยปลูกแยกสองกระถาง
3. วันที่ 20 มิถุนายน ต้นไม้ทั้งสองกระถางแตกใบอ่อน ลำต้นและใบของกระถางที่เขียนว่า "thank you" เรียบและกลม กระถางที่เขียนว่า "you fool" แหลมๆ และมีสีออกแดงๆ เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่าเนี่ย?
4. วันที่ 22 มิถุนายน ต้นไม้ในกระถางที่เขียนว่า "you fool" แตกหน่อออกมา
5. วันที่ 25 มิถุนายน ใบของต้นที่เขียนว่า "thank you" ออกกลมๆ มนๆ ส่วนต้นที่เขียนว่า "you fool" ใบออกจะเรียวๆ แหลมๆ
6. วันที่ 28 มิถุนายน ต้นที่เขียนว่า "thank you" โตสูง ส่วนต้นที่เขียนว่า "you fool" ออกจะงอโค้ง และมีรู ฉันเป็นกังวล ฉันต้องการที่จะให้พวกมันโตสุขภาพดี แต่นี่กลับเป็นตรงกันข้าม มันออกมาแตกต่างกันเลย
7. วันที่ 2 กรกฏาคม ต้นที่เขียนว่า "thank you" เริ่มที่จะมีขนที่ลำต้นและดูเหมือนจะสูงกว่าฉัน ส่วนต้นที่เขียนว่า "you fool" ใบมันออกจะเหี่ยวๆ แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ต่างกันมาก
8. ดูที่ภาพตัดขวางของลำต้น


ซ้าย: "thank you" ขวา: "you fool"

ต้นไม้ที่เขียนคำว่า "thank you" เส้นใยของมันอยู่รวมกันกันแน่น ส่วนต้นที่เขียนคำว่า "you fool" เส้นใยมันอยู่รวมกันไม่แน่น ทำให้มีช่องว่างข้างในใหญ่กว่าอีกต้น และรวมถึงรากของมันด้วย ที่แตกต่างกัน


ซ้าย: รากต้นที่พูดคำว่า "thank you" ใส่ ขวา: รากที่พูดคำว่า "you fool" ใส่

คนทำการทดลองเขียนว่า ไม่อยากจะนึกเลยว่า ถ้านี่เป็นการเลี้ยงเด็ก อะไรจะเกิดขึ้น

การทดลองนี้มาจาก https://www.hado.net/hado/powerword.php


คงอยากจะเห็นรูปผลการทดลองกับข้าวกันแล้ว

นี่เค้าบอกว่าสองอันนี้ ใส่มาได้ 11 ปี



รูปนี้เอามาจาก http://www.masaru-emoto.net/english/ediary200508.html



และนี่เป็นผลการทดลองของ ดร. emoto



รูปนี้เอามาจาก https://www.hado.net/hado/powerword.php เวปนี้เป็นเวปของ ดร. emoto



นี่ก็เป็น blog ที่ทำการทดลองเรื่องนี้เหมือนกัน http://riceexperiment.blogspot.com/ แต่ว่าเค้าทดลองได้ 8 วัน แล้วก็ไม่ได้เขียนต่อเลย


อันนี้ก็เป็นผลการทดลองของคนอื่นที่ทำการทดลองกับข้าวมั่ง http://members.jcom.home.ne.jp/wisteria-c/rice.htm ไปเจอมาจากเวปนี้ http://imomus.livejournal.com/147426.html

อันทางซ้ายเขียนว่า ขอบคุณ อันทางขวาเขียนว่า ไอ้บ้า การทดลองนี้เป็นของผู้หญิงญี่ปุ่นคนนี้ได้อ่านหนังสือของ ดร.emoto จึงได้ทำการทดลองกับข้าวดูบ้าง แต่ละวันเธอจะพูด arigato(ขอบคุณ) สามครั้งกับข้าวที่อยู่ในถ้วยที่เขียนว่าขอบคุณ และพูดว่า bakayaro(ไอ้บ้า) กับข้าวที่อยู่ในถ้วยที่เขียนว่าไอ้บ้า สามครั้งเช่นเดียวกัน สามีของเธอก็ทำเหมือนกับเธอด้วย



ผ่านไป 2 อาทิตย์ก็เป็นอย่างในรูป ข้าวในถ้วยที่เขียนว่าขอบคุณ มีจุดเชื้อราขึ้นมานิดเดียว ส่วนข้าวในถ้วยที่เขียนว่าไอ้บ้า ก็มีจุดเชื้อราวงใหญ่



ซูมกันให้ดูชัดๆ







ส่วนนี้ก็เป็นการทดลองที่เอาข้าวใส่โถ 3 โถ เป็นการทดลองที่พูดถึงในตอนแรก อันทางซ้ายเขียนว่าขอบคุณ อันกลางไม่ได้เขียนอะไร อันซ้ายสุดเขียนว่าไอ้บ้า อันกลางที่ไม่ได้เขียนอะไร จะถูกทิ้งไว้อย่างไม่ใส่ใจ เมื่อผ่านไป 28 วัน ผลก็เป็นอย่างภาพขวา ข้าวในโถกลางมีสภาพเละคล้ายโคลน



ส่วนอันนี้ก็เป็นการทดลองของอีกคนนึง อันทางซ้ายเขียนว่า ไอ้บ้า อันทางขวาเขียนว่าขอบคุณ เมื่อผ่านไป 3 เดือน อันที่เขียนว่า ไอ้บ้า ดำปี๋เลย ส่วนอันที่เขียนว่า ขอบคุณ ยังขาวอยู่




การทดลองสองอันนี้เอามาจาก http://www.hado.com/info/koe-kake-jikken.htm

การทดลองพวกนี้ก็แสดงให้เห็นว่าคำพูดทุกคำพูดของเรา จะส่งผลถึงสิ่งต่างๆ หมด แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งไม่มีชีวิตก็ตาม การด่าว่าใส่คนอื่นจะส่งผลมากกว่าที่เราคิด เช่นกันการพูดดีๆ ให้คนอื่น ก็ได้ผลมากกว่าที่เราคิดด้วย

ใครอยากทดลองทำมั่งก็ได้นะ

 

อันนี้ไปเจอที่ยูทูปเค้าทำการทดลองเกี่ยวกับข้าวเหมือนกันแล้วถ่ายเป็นคลิปมาให้ดู

http://www.youtube.com/watch?v=p8x5zyrGy3U
http://www.youtube.com/watch?v=HaA5YpnxSq8

เอาลิงค์มาวางไว้ก่อน เผื่อ ict ปลดบล็อค youtube

 

คือวาจาสิทธิ์หรือสัจจะนั่นเอง

 

กระทู้นี้น่าสนใจมาก น่าจะดันขึ้นกระทู้แนะนำ

 

ดิฉันจะ ทดลอง เอาครีมทาหน้าธรรมดามา แบ่งเป็น2กระปุก

เขียนคำว่า ครีมมหัศจรรย์ใช้แล้วผิวขาวใส ลดริ้วรอยได้

กับอีกกระปุก เขียนว่า ครีมห่วยแตก ใช้แล้วหน้าสิว หน้ามัน แล้วมาทดลอง

ดมกลิ่น ดูสภาพสีของครีมแล้วเอาทดลอง ทาเท้า

 

โอ้ สุดยอดเลยครับ..ความรู้ใหม่..ปรบมือๆๆๆ

อนุโมทนาครับ

เห็นด้วยนะครับ..แต่ไม่เคยคิดเลยว่าผลที่ได้จาเห็นได้ชัดขนาดนี้...คงต้องลองทำดูแล้วเนี่ย ^^

 

โอ้..ติดตามอ่านงานโพสต์ของคุณ Zipper มานาน..
บอกได้เลยครับไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆครับ..

กระทู้ดี..มีสาระ..โดนใจผมเสมอมาเลยนะเนี่ย..

..นี่สงสัยผมจะเป็นแฟนคุณแล้วนะเนี่ย..
(แฟนอ่านกระทู้นะ..ตัวเอง..อย่าคิดไปไกล)

 

มันรับอารมณ์หรือพลังอะไรไปรึป่าว
แบบพอเวลาคนอพุดไอบ้ากับขอบคุณอารมณ์
มันน่าจะต่างกันนะ
เป็นการถ่ายทอดออร่าอะไรเข้าไปในเม็ดข้าวป่าว
ผมก้ไม่รู้อะ....แค่คำพูดมันแค่นั้นจริงหรอ
แต่เป็นเรื่องที่แปลกมากเลยอะครับ
ขอบคุณนะครับที่เอาเรื่องดีๆมาลงให้ได้อ่านกัน

 

จริงๆ แล้วการทดลองนี้เป็นการทดลองย่อยของเรื่องนี้ครับ http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=607

เรื่องนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการพูดคำพูดต่างๆ ใส่น้ำ, เอาฉลากที่เขียนคำพูดต่างๆ มาแปะ, ฟังเพลง, เอาน้ำใส่โถแล้ววางไว้บนรูปต่างๆ, ฟังเพลง แล้วก็นำน้ำไปแช่แข็งแล้วส่องดูผลึกน้ำ

การทดลองพูดใส่ข้าว ก็เป็นการทดลองอันนึงที่เค้าเขียนในหนังสือของเค้า แล้วก็มีคนไปทดลองทำกันดู

อันที่จริงก็มีคิดไปเหมือนกันว่ามันเป็นเพราะจิตของเราที่ส่งไปด้วยหรือเปล่า เหมือนอย่างที่ ดร. อาจอง เคยเล่าว่า เคยทำการทดลองแบ่งต้นไม้เป็นสองกระถาง กระถางนึงให้นิสิตแผ่เมตตาใส่ ส่วนอีกกระถางนึงถ้าจำไม่ผิดจะทิ้งไว้เฉยๆ หรือว่าให้ด่าใส่ก็จำไม่ได้แล้ว ผลออกมาว่าต้นที่แผ่เมตตาใส่ เจริญเติบโตดีมาก

แต่เอ.... การทดลองของดร. อีโมโต้ เค้ามีการเอาป้ายกระดาษที่เขียนคำพูดไปแปะไว้เฉยๆ ด้วยนี่นะ โดยที่ไม่ต้องไปพูดอะไรใส่เลย

มีการทดลองนึงที่เกี่ยวกับความคิดกับสิ่งต่างๆ เหมือนกัน http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=61786

อันนี้จะเป็นการทำเครื่องที่ผลิต white noise ออกมา ได้ลองทำการทดลองโดยให้คนคิดถึงเครื่องหมาย + และอีกครั้งก็ให้คิดถึงเครื่องหมาย - ปรากฏว่าค่าที่ได้มันขึ้นและลดสอดคล้องกับที่คนคิด แล้วก็เลยลองติดตั้งเครื่องที่ว่านี้ไว้ตามที่ต่างๆ ทั่วโลก แล้วก็ลองวัดค่าออกมา รายละเอียดมีเยอะมาก ลองเข้าไปอ่านดู

เกี่ยวกันหรือเปล่าก็ไม่รู้นะเรื่องนี้


แล้วอันนี้เป็นคลิปที่พูดถึงมาก่อนนี้ ที่เป็นการทดลองเกี่ยวกับข้าวเหมือนกัน แต่ในคลิปดูท่าจะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษแฮะ ฟังไม่ออกเลย
http://seedang.com/stories/8664
http://seedang.com/stories/8665

 

เพิ่งนึกออกครับ มิน่าล่ะตอนเด็กๆ พวกผู้ใหญ่จึงมักจะสอนให้ขอบคุณอาหารก่อนรับประทาน
อาจมีผลทำให้เพิ่มพลังดีๆบางอย่างลงไปในอาหาร ทำให้เติมพลังทั้งทางร่างกาย และ จิตใจ

 

พูดถึงข้าวเลยนึกถึงเรื่องแม่โพสพเลย นึกถึงเรื่องทำขวัญข้าว

 

คำพูดนี่แหละตัวดีเลยล่ะ

 

วิเศษไปเลยแหะ จะว่าไป ผมก็เคยทำ เขียนคำว่าโชคดีใส่กระดาษแล้วใส่กระเป๋าเสื้อไป ร.ร. ก็มีความสุขกับการเรียนทั้งวันเลย

 

สิ่งที่แฝงอยู่ในคำพูด ตัวอักษร และทุกสิ่งที่เราแสดงออกไปทั้งหมด แม้แต่การนิ่งเฉย
คือเจตนา รึป่าวคะ (คิดเล่นๆ ตอบไปงั้นๆเอง มะมีไรในกอไผ่)

 

คิดเล่นๆ เหมือนกัน

เคยดูสารคดีที่ว่า พูดแช่งไปในน้ำ แล้วรูปเกร็ดน้ำแข็งจะเปลี่ยน น้ำแข็งจะเป็นก้อน

หากพูดดี เกร็ดน้ำแข็งจะเป็นระเบียบ น้ำแข็งจะเป็นเกร็ดหิมะ ปุยนุ่ม

มาถึงคราวพูดเล่น

สมมติว่า ฝนแล้ง ไม่ตก ด่าแช่งเทวดา โดยคนแช่งจะแหงนหน้า
ขึ้นมองฟ้า ว่าขี้เมฆที่ลอยอยู่(น้ำ) ก็ไม่แน่นะ ถ้าตกลงมาเป็นลูกเห็บ
เม็ดเป้งๆ ชนิดโดนหัวแตกนี่ ก็เพราะ หลักการแช่งน้ำ พลังแห่งคำพูด

คือ งานนี้เทวดาไม่เกี่ยว คนเราเองนั้นแหละ สร้างมันขึ้นมา !!!???

 

เสร็จแล้วเล่าให้ฟังมั่งเน้อ




โดยส่วนตัวเรามักเชื่อตั้งแต่เด็กๆแล้วว่าในโลกนี้มีพลังหลายๆอย่างที่เรามองไม่เห็น (เชื่อเอง ไม่มีใครสอน ไม่รู้ไปเอาความคิดนี้มาจากไหน) แต่เกี่ยวข้องกับตัวเรา รวมถึงสิ่งต่างๆรอบตัว ถ้าเรามีจิตใจที่ดี ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราจะดีไปด้วย แม้กระทั่งถ้วยชามรามไห ดอกไม้ประตูแจกัน ดินทรายต้นไม้ใหญ่ ฯลฯ

คิดงั้นนะ เพราะเชื่อว่าแม้จะเป็นสิ่งไม่มีชีวิต แต่ก็สามารถถ่ายทอดหรือซึมซับพลังงานจากคนไปได้เช่นกัน

ไม่รู้เขาเรียกอะไร แต่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทุกสิ่งมีความเกี่ยวเนื่องกัน สัมพันธ์กัน และสามารถเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ (ความเชื่อส่วนบุคคลเด้อ)

 

กาย วาจา ใจ
สำคัญ