พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณแดง ที่ บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ส่งรูปงานบุญวันวิสาขบูชา ที่พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง (ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ) มาให้ชม

    ขอบคุณ และ โมทนาบุญกับ คุณแดง และทุกๆท่านด้วยครับ

    พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง (ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ) เป็นพระเจดีย์ที่พระอาจารย์นิล ท่านไปสร้างไว้บนยอดเขาผาผึ้ง การสร้างทำได้ยากและลำบากมาก บนยอดเขา พื้นเป็นหิน จึงทำให้การก่อสร้าง เป็นไปด้วยความลำบาก อีกทั้งการขนวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆขึ้นไปบนยอดเขาผาผึ้ง มีระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร แต่การเดินทางขึ้นไปนั้น หากเป็นหน้าฝน ต้องใช้รถโฟว์วิลขึ้นไปเท่านั้น แต่พระอาจารย์นิลท่านใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปีเท่านั้นครับ

    ผมเองก็ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือพระอาจารย์นิลท่านที่ดำเนินการก่อสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง นึกถึงบุญครั้งใด อิ่มใจทุกครา โมทนาสาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 113447.t.mp4
      ขนาดไฟล์:
      5.5 MB
      เปิดดู:
      786
    • 113448.t.mp4
      ขนาดไฟล์:
      8 MB
      เปิดดู:
      866
    • 113452.jpg
      113452.jpg
      ขนาดไฟล์:
      179.7 KB
      เปิดดู:
      169
    • 113455.jpg
      113455.jpg
      ขนาดไฟล์:
      273.1 KB
      เปิดดู:
      123
    • 113456.jpg
      113456.jpg
      ขนาดไฟล์:
      232.7 KB
      เปิดดู:
      206
    • 113458.jpg
      113458.jpg
      ขนาดไฟล์:
      345.5 KB
      เปิดดู:
      148
    • 113462.jpg
      113462.jpg
      ขนาดไฟล์:
      366.4 KB
      เปิดดู:
      176
    • 113464.jpg
      113464.jpg
      ขนาดไฟล์:
      363.1 KB
      เปิดดู:
      206
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2018
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    งานบุญ การสร้างพระพุทธรูป "พระพุทธยมก ปาฎิหาริย์"

    ในวันพุธที่ 27 มิถุนายน 2561 เวลา 11.30 น.

    #วัดป่าภัทรปิยาราม
    ตำบลโคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี

    การร่วมทำบุญ
    เริ่มต้นวันที่ 20 มิถุนายน 2561 เวลาในขณะที่แจ้งให้ทราบ(ตามเวลาของไลน์ หรือ เฟสบุ๊ค หรือ อินเตอร์เน็ต)
    สิ้นสุดการร่วมทำบุญ วันที่ 26 มิถุนายน 2561 เวลา 12.00 น.

    การร่วมทำบุญ

    บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 983-2-94326-4
    ชื่อบัญชี นายสิทธิพงศ์ สงวนศักดิ์
    บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัล พลาซา พระราม 2

    สำหรับท่านใดที่โอนเงินมาทำบุญหลังเวลาที่สิ้นสุดการร่วมทำบุญ ผมขออนุญาตนำไปทำบุญในวาระอื่นๆต่อไป

    สำหรับท่านใดว่าง ไม่มีภาระกิจที่ไหน ขอเชิญร่วมงานได้ที่วัดป่าภัทรปิยารามกันครับ
    ผมเองไปไม่ได้ ติดงาน งานในช่วงใกล้ๆสิ้นเดือนหรือสิ้นเดือน งานเยอะมากครับ

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 97805.jpg
      97805.jpg
      ขนาดไฟล์:
      172.9 KB
      เปิดดู:
      179
    • 983-2-94326-4.png
      983-2-94326-4.png
      ขนาดไฟล์:
      341.8 KB
      เปิดดู:
      144
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การร่วมทำบุญในวาระการสร้างองค์หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร เพื่อแสดงกตัญญุตาสามัคคีธรรมต่อองค์หลวงปู่ฯ ในครั้งนี้

    .

    1.ร่วมเป็นเจ้าภาพการสร้างองค์หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และวิหาร ที่ประดิษฐานองค์หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ซึ่งจะประดิษฐานองค์หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ที่อาศรมศรีชัยรัตนโคตร

    .

    องค์หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรที่จะสร้างในครั้งนี้ คือ หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า หรือ หลวงปู่อิเกสาโร หรือ หลวงปู่โลกอุดร องค์ที่ 3 ในคณะโลกอุดร(คณะพระธรรมทูต คณะโสณะ-อุตระ) ทุกชื่อ คือหลวงปู่องค์เดียวกัน

    .

    2.ร่วมทำบุญสร้างวิหาร ที่ประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม ที่อาศรมศรีชัยรัตนโคตร

    .

    3.ร่วมทำบุญในเรื่องต่างๆ แล้วแต่ความประสงค์ของพระอาจารย์นิล ท่านต้องการที่จะนำไปทำบุญในส่วนอื่นๆ

    สามารถร่วมทำบุญ โดยโอนเข้าบัญชีได้

    .

    บัญชีเลขที่ 983-2-94326-4

    ชื่อบัญชี นายสิทธิพงศ์ สงวนศักดิ์

    บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัล พลาซา พระราม 2

    .

    เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2561 เวลาในปัจจุบันที่ลงในเฟสบุ๊ค และ ไลน์

    .

    สิ้นสุดวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 เวลา 12.00 น.

    .

    หากมีการโอนเงินเข้ามาบัญชีข้างต้น หลังจากเวลาที่สิ้นสุดการรับบริจาค ผมถือว่า ท่านได้มอบเงินให้ผม ไปทำบุญในวาระอื่นๆ ตามแต่ความประสงค์ของผม

    .

    ขอโมทนาบุญในทุกบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญในวาระงานบุญนี้

    ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด งานนี้ผมตั้งใจไปร่วมงานครับ

    .

    ผมมีพระวังหน้ามอบให้ แต่ขอให้ไปดูได้ที่ เฟส หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า

    ตามลิงค์นี้ https://www.facebook.com/หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร-พระวังหน้า-1503999719890625/

    ////////////////////////////////////////////////////////

    รายละเอียดที่พี่แอ๊วได้แจ้งผมมา ด้านล่าง ครับ

    เรียนญาติธรรมทุกท่านค่ะ

    .

    ขออนุญาตแจ้งข่าวกิจกรรมอันเป็นกุศลยิ่งของอาศรมศรีชัย รัตนโคตร ในวาระอันใกล้นี้ คือ

    การหล่อรูปเปรียบรูปเหมือน หลวงปู่พระเทพโลกอุดร องค์ใหญ่ (ประมาณ 2.5 เมตร พร้อมฐาน)

    .

    ในวันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม 2561 เวลา 13.00 น.

    ณ โรงหล่อพระสมบุญไฟน์อาร์ต อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

    .

    โดยได้รับความเมตตาจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก) เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี

    .

    และพระพิศาลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ) ประธานสงฆ์วัดใหม่ปลายห้วย จ.พิจิตร

    .

    เป็นประธานร่วมกันในการอธิษฐานจิตเพื่อหล่อองค์หลวงปู่พระเทพโลกอุดรครั้งนี้

    .

    รูปปั้นต้นแบบ โดยนายช่างปัทม์ บุณยรังคะ ผู้ปั้นองค์นารายณ์กวนเกษียรสมุทร ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

    .

    การหล่อรูปเปรียบรูปเหมือนหลวงปู่พระเทพโลกอุดร ในครั้งนี้ ถือเป็นวาระที่ สำคัญยิ่งอีกวาระหนึ่ง เป็นโอกาสในการแสดงกตัญญุตาสามัคคีธรรมต่อองค์ พระอริยสงฆ์ ผู้อยู่เหนือกาลเวลา ผู้ที่แม้ว่าจะเข้าพระนิพพานได้นานแล้ว แต่ได้เสียสละในการอฐิษฐานเพื่อทรงอยู่แห่งกายทิพย์กายธรรม ในการดูแลพระธรรมวินัย ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อส่งถึงสิ้นพุทธันดร

    .

    ในการนี้ พระอาจารย์นิลได้เตรียมการในการก่อสร้างมณฑปหลวงปู่พระเทพโลกอุดร ณ อาศรมศรีชัยรัตนโคตร เพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปเปรียบรูปเหมือนขององค์หลวงปู่ใหญ่ ไว้เป็นที่เคารพสักการะ เป็นสังฆานุสสติที่พึ่งที่ระลึกแก่เหล่าพุทธบริษัทในการปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์สิ้นเชื้อ

    ดังนั้น โครงการสร้างมณฑปและรูปเปรียบรูปเหมือนหลวงปู่พระเทพโลกอุดร จึงเป็นมหากุศลวิหารทานเป็นปีที่สอง ของอาศรมศรีชัยรัตนโคตร ต่อเนื่องจากวิหารสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งใกล้แล้วเสร็จ

    .

    และในวาระแห่งกาลกฐิน ประจำปี 2561 นี้ ขอเชิญท่านร่วมเป็นเจ้าภาพกองกฐินสามัคคี เพื่อรวบรวมปัจจัยในการน้อมถวายงานวิหารทาน แด่องค์หลวงปู่พระเทพโลกอุดร โดยพระอาจารย์นิล ได้กราบขออนุญาตองค์หลวงปู่ในการจัดสร้างรูปเปรียบรูปเหมือนของท่าน ขนาด 5 นิ้ว 3 นิ้ว และ ขนาดจิ๋วสำหรับห้อยคอ เพื่อมอบเป็นพระของขวัญมงคล แก่เจ้าภาพทั้งหลายด้วย

    .

    ขอบคุณพี่แอ๊ว ที่ได้แจ้งข่าวงานบุญนี้ให้ทราบ

    .

    รูปสงวนลิขสิทธิ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0 001.png
      0 001.png
      ขนาดไฟล์:
      541.8 KB
      เปิดดู:
      197
    • 0 002.jpg
      0 002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.7 KB
      เปิดดู:
      221
    • 0 003.jpg
      0 003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68 KB
      เปิดดู:
      198
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วาระแห่งมหากุศล ในวันอาสาฬหบูชา (วันที่ 27 กรกฎาคม 2561) และ วันเข้าพรรษา (วันที่ 28 กรกฎาคม 2561)

    ขอเรียนเชิญทุกท่าน ร่วมทำบุญในวาระแห่งมหากุศลในครั้งนี้ โดยรายละเอียดจะอยู่ด้านล่าง

    ขอเชิญร่วมทำบุญโดยท่านสามารถโอนเงินร่วมทำบุญได้ที่

    บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 983-2-94326-4
    ชื่อบัญชี นายสิทธิพงศ์ สงวนศักดิ์
    บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัลพลาซา พระราม2

    ท่านใดมีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญในครั้งนี้ สามารถโอนเงินร่วมทำบุญได้ตั้งแต่บัดนี้
    .
    สิ้นสุดการร่วมทำบุญในวันนี้ (วันที่ 30 กรกฎาคม 2561) เวลา 18.00 น.
    .
    แต่หากโอนมาร่วมทำบุญหลังเวลา 18.00 น. ท่านได้อนุญาตให้ผมดำเนินการในการนำเงินที่ท่านโอนมาร่วมทำบุญ ไปทำบุญในเรื่องอื่นๆ และในสถานที่ต่างๆได้ ครับ

    รายละเอียดต่างๆ ที่พี่แอ๊วแจ้งผมมา อยู่ด้านล่างครับ

    -----------------------------------------------------------------------

    เรียนญาติธรรมทุกท่าน

    เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ซึ่งจะตรงกับวันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคมศกนี้ ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพุทธศาสนิกชน ในการที่จะได้ประกอบกิจอันเป็นกุศล เพื่อน้อมบูชาคุณของพระรัตนตรัย

    ในการนี้ ถือเป็นวาระแห่งมหากุศล ซึ่งจะบังเกิดขึ้น ณ อาศรมศรีชัยรัตนโคตรอีกวาระหนึ่ง โดยในปีนี้ มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษา ณ อาศรมฯ จำนวน 6 รูป

    คณะศิษย์อาศรมฯ จึงขอเรียนเชิญญาติธรรมทั้งหลาย ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในกองบุญผ้าป่ากตัญญุตาสามัคคีธรรม เพื่อทอดถวายในวันอาสาฬหบูชานี้

    ปัจจัยที่รวบรวมจากกองบุญผ้าป่ามหากุศลครั้งนี้ ขอน้อมนำไปเพื่อ :-

    1. จัดสร้างกุฏิชั่วคราวจำนวน 5 หลัง เพื่อเป็นที่จำพรรษาของพระสงฆ์ ณ อาศรมฯในกาลพรรษานี้

    2. ถวายเทียนพรรษาณ อาศรมฯ และวัดอีก 2 แห่ง เพื่อจุดถวายเป็นพุทธบูชา ตลอดทั้งพรรษา

    3.ถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุสงฆ์ 6 รูป

    4.ร่วมสร้างวิหารสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม

    5.ร่วมกองบุญภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ของอาศรมฯ

    ทั้งนี้ การสร้างกุฏิชั่วคราวจำนวน 5 หลัง พร้อมห้องน้ำ ได้ดำเนินการล่วงหน้ามาพอสมควร เนื่องจากอาศรมฯ ยังไม่มีที่พักสำหรับพระสงฆ์ที่จำพรรษา พระอาจารย์นิล ท่านพิจารณาเห็นความจำเป็นในส่วนนี้ จึงได้เริ่มดำเนินการมาก่อนหน้านี้ โดยเน้นรูปแบบที่เรียบง่ายและประหยัด

    ในวาระแห่งวันอาสาฬหบูชานี้ จะได้มีการน้อมถวายกุฏิสงฆ์เพื่อการพักจำพรรษาของพระสงฆ์ 5 รูป ของอาศรมฯด้วย

    *****ท่านที่ประสงค์จะเป็นเจ้าภาพกุฏิสงฆ์พร้อมห้องน้ำ หลังละ 60,000 บาท หรือร่วมทำบุญตามกำลัง*****

    โครงสร้างกุฏิเป็นโครงเหล็ก หลังคาเมทัลชีท ไม้ฝาเทียม

    พระสงฆ์จำพรรษา ณ อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ปี 2561 จำนวน 6 รูป
    (รูปที่ 2 ถัดจาก พระอาจารย์นิล คือเจ้าอาวาสวัดป่าโคกกลาง มาร่วมบุญที่อาศรมฯ)

    ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากพี่แอ๊ว ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันที่ 27 กรกฎาคม 2561
    #วันอาสาฬหบูชา @ #อาศรมศรีชัยรัตนโคตร

    ทอดผ้าป่าถวาย #เทียนพรรษา #ผ้าอาบน้ำฝน และ #ปัจจัยบริวาร ณ อาศรมศรีชัยรัตนโคตร

    หลังจากนั้น #พระอาจารย์นิล นำคณะสงฆ์ลงปาฏิโมกข์ และเข้ากราบสักการะ #พระเทพสิทธิโสภณ #เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร

    ทำวัตรเย็น ณ อาศรมศรีชัยรัตนโคตร

    #เทียนพรรษา ประจำปี 2561 ได้ถูกจุดส่องสว่างขึ้นแล้ว..

    วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 เวลา 17.30 น.

    พระอาจารย์นิลนำคณะสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร เจริญพระพุทธมนต์ น้อมถวายพระพรชัยมงคล แด่ในหลวงรัชกาลที่ 10 เนื่องในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษา

    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจากพี่แอ๊วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 00 10.png
      00 10.png
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      189
    • 00 11.png
      00 11.png
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      165
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอประกาศข่าวบุญด่วนเพื่อการ #สงเคราะห์ผู้ประสบภัย ที่ #แขวงอัตตะปือ #สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (#สปปล.)
    .
    #พระเทพสิทธิโสภณ #เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ได้จัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว โดยท่านเล่าว่า ทาง #วัดพระธาตุเชิงชุม มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ #สมเด็จพระสังฆราชลาว และมีการไปมาหาสู่ระหว่างสองฝั่งโขงเป็นประจำ จึงได้จัดหาสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นส่งไปช่วยอย่างเร่งด่วนในรอบแรกแล้ว แต่สิ่งจำเป็นเร่งด่วนคือข้าวปลาอาหารและน้ำดื่ม
    .
    ดังนั้นทางวัดพระธาตุเชิงชุม จึงเตรียมการชุดที่สอง ในการส่งทีมแม่ครัวอาสาพร้อมเสบียงอาหาร เพื่อไปตั้งโรงทานเลี้ยงพระเลี้ยงคนผู้เดือดร้อนในพื้นที่แขวงอัตตะปือ
    .
    ท่านใดประสงค์จะสละทรัพย์เพื่อทานบารมีในการสงเคราะห์ ผู้ประสบภัยทั้งพระสงฆ์และพี่น้องชาวลาวสามารถร่วมทำบุญได้ภายในวันที่ 29 กค.นี้ โดย #พระอาจารย์นิล จะรวบรวมปัจจัยไปถวายหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดต่อไป

    ----------------------------------------------------------------------

    วันที่ 29 กรกฎาคม 2561 เวลา 16.00 น.

    พระอาจารย์นิลได้นำปัจจัยจำนวน 26,000 บาท ที่ทุกๆท่านได้สละมา น้อมถวายร่วมทำบุญกับหลวงพ่อพระเทพสิทธิโสภณเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร เพื่อสงเคราะห์ผู้ประสบภัยชาวลาวที่แขวงอัตตะปือ

    หลวงพ่อท่านเจ้าคุณกล่าวว่า..ได้บุญเท่ากันเด้อ..ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน...ส่ งโรงครัวไปตั้งที่โน่น เอาของ เอามุ้งไป 2,000 หลังแล้ว..

    ขอเรียนเพิ่มเติมว่า ทางวัดพระธาตุเชิงชุม จัดชุดจิตอาสาและแม่ครัว พร้อมเสบียงอาหารและของใช้จำเป็น เดินทางไปที่อัตตะปือ เป็นระลอกๆ ในแต่ละอาทิตย์จะมีชุดคาราวาน ออกเดินทางไปทำอาหารและแจกทานแก่พี่น้องผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

    ขอขอบคุณ ทั้งคลิป ทั้งภาพและข้อมูลจากพี่แอ๊วด้วยครับ

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 00  90.png
      00 90.png
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      191
    • 00 93.mp4
      ขนาดไฟล์:
      6 MB
      เปิดดู:
      662
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ทนายใกล้ตัว อยู่ที่ ทนายใกล้ตัว

    กรณีรถหายในห้าง ห้างไม่จ่ายบัตรรับรถ ใช้กล้องวีดีโอแทน ลูกค้านำรถไปจอด แล้วรถหาย ห้างต้องรับผิดชอบ !!
    .
    คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น รถของใครๆก็รักเดิมทีศาลฎีกาเคยพิพากษาว่า กรณีที่ห้างให้นำรถมาจอดแล้วแลกบัตรผ่าน ห้างต้องรับผิดต่อกรณีรถหาย เพราะมีการแลกบัตรจึงต้องมีการตรวจสอบการเข้าออกของรถอย่างดี
    .
    ในคดีนั้นห้างโยนความผิดให้ รปภ. ว่า รปภ.ประมาทเลินเล่อเอง ห้างไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ศาลฎีกาไม่เห็นด้วยโดยให้เหตุผลว่า ห้าง เป็นผู้ว่าจ้าง รปภ ดังนั้น รปภ เปรียบเสมือนตัวแทนของห้าง เมื่อความเสียหายเกิดจากตัวแทนตัวการต้องรับผิดอย่างเลี่ยงไม่ได้หลังจากแพ้คดีนั้น ห้างสรรพสินค้าบางแห่ง ก็เลิกแจกบัตรผ่าน แล้วมาใช้กล้อง วีดีโอตรวจแทน ไม่ให้ รปภ แจกบัตรผ่านอีกต่อไป ซึ่งห้างฯเชื่อว่าต่อไปนี้รถหาย ตนไม่ต้องรับผิด
    .
    คดีนี้ รถหายในห้าง ฯ จึงไม่ได้แจกบัตรผ่าน ห้างฯปฎิเสธความรับผิด อ้างว่า ห้างไม่ต้องรับผิดเพราะ ห้างไม่ได้รับฝากรับดูแล และไม่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบ ขอให้ยกฟ้อง
    .
    คดีนี้สู้กันมาถึงศาลฎีกา คำพิพากษาฎีกาที่ 7471/2556
    .
    จำเลยเป็นห้างสรรพสินค้าขายปลีกและขายส่งสินค้าอุปโภคและบริโภค ย่อมต้องให้ความสำคัญด้านบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการเกี่ยวกับสถานที่จอดรถซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของลูกค้าที่จะเข้าไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการอื่น ๆ หรือไม่ แม้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา 8 (9), 34 บัญญัติให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของอาคารต้องจัดให้มีพื้นที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การจราจร แต่จำเลยยังต้องคำนึงและมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของลูกค้าทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน มิใช่ปล่อยให้ลูกค้าระมัดระวังหรือเสี่ยงภัยเอาเอง การที่จำเลยเคยจัดให้มีการแจกบัตรสำหรับรถของลูกค้าที่เข้ามาในห้างซึ่งเป็นวิธีการที่ค่อนข้างรัดกุม เพราะหากไม่มีบัตรผ่าน กรณีจะนำรถยนต์ออกไปจะต้องถูกตรวจสอบโดยพนักงานของจำเลย แต่ขณะเกิดเหตุกลับยกเลิกวิธีการดังกล่าวเสียโดยใช้กล้องวงจรปิดแทน เป็นเหตุให้คนร้ายสามารถเข้าออกลานจอดรถห้างฯ ของจำเลยและโจรกรรมรถได้โดยง่ายยิ่งขึ้น แม้จำเลยจะปิดประกาศว่าจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายหรือเสียหายใด ๆ รวมทั้งการที่ลูกค้าก็ทราบถึงการยกเลิกการแจกบัตรจอดรถ แต่ยังนำรถเข้ามาจอดก็ตาม ก็เป็นเรื่องข้อกำหนดของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่มีผลเป็นการยกเว้นความรับผิดในการทำละเมิดของจำเลย
    .
    สรุป ห้างไหนใช้กล้องวงจรปิด โดยไม่แจกบัตรผ่านเข้า-ออก หากรถหายภายในห้าง ห้างต้องรับผิดชอบครับ
    .
    คำแนะนำเพิ่มเติมจากทนายความ
    .
    1.เมื่อขับรถเข้าจอดในห้างใดหรือเข้าพักในโรงแรมหรือรีสอร์ทใด ไม่ว่าในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด เราควรจะถ่ายภาพรถให้เห็นป้ายทะเบียนและให้เห็นสภาพสถานที่จอดให้ชัดเจนว่าเป็นที่ใดด้วยโทรศัพท์มือถือหรือกล้องดิจิตอล
    .
    2.ถ้ารถหายในห้างอย่าเพิ่งโวยวาย ถ้ายังไม่มีใบเสร็จในการซื้อสินค้าให้รีบเข้าซื้อสินค้าในสรรพสินค้าเพื่อให้ได้ใบเสร็จว่าเราได้เข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าในห้างนั้นจริง
    .
    3.จากนั้นแจ้งห้างว่ารถหายกับแจ้งความกับตำรวจถ่ายสำเนาใบเสร็จให้ไปแต่เราเก็บใบเสร็จตัวจริงไว้ ถ้าห้างฯไม่จ่ายจะได้ใช้ใบเสร็จกับภาพถ่ายรถในโทรศัพท์มือถือเป็นพยานหลักฐานในการฟ้องร้องทางศาล
    .
    4.ต้องฟ้องภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันรถหาย ถ้าเกิน 1 ปี คดีจะขาดอายุความ
    .
    ที่มา ทนายใกล้ตัว
    https://www.facebook.com/closelawye...D6Tr4KpCMPpS3bvoRU0gGl0GuJm6pr6kc6NsA6DlsP5js
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องการขอให้ #เจ้ากรรมนายเวร #อโหสิกรรม ที่เราได้กระทำไว้กับท่าน
    ถึงแม้จะทำวิธีใดๆก็ตาม
    แม้ #ทำบุญ #กรวดน้ำ ถวายท่าน
    หากท่าน #ไม่อโหสิกรรมให้
    กรรมนั้น ต้องกลับไป #ชดใช้
    .
    ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ อำนาจ ที่มีอยู่
    ช่วยอะไรไม่ได้เลย
    .
    ตัวอย่าง
    เรื่องเจ้ากรรมนายเวร ของอาจารย์ผม
    อาจารย์ผม ทำบุญให้ตลอด
    ในทุกๆเดือน มีการทำบุญถวาย #สังฆทาน ที่ #โรงพยาบาลสงฆ์ ทำมาเป็นสิบปีแล้ว
    เจ้ากรรมนายเวรของอาจารย์ผม รับบุญมาโดยตลอด แต่ไม่อโหสิกรรม ยังต้องให้อาจารย์ผมชดใช้ และ อาจารย์ผมก็ชดใช้ให้
    เจ้ากรรมนายเวรของอาจารย์ผม ท่านไม่เอาถึงตาย แต่เจ็บปางตาย
    .
    เรื่องนี้ ผมจะบอกว่า อย่าไปสร้าง เจ้ากรรมนายเวร กันขึ้นมาอีก
    ที่สำคัญกว่านััน จะเชื่อผมหรือไม่ ผมไม่ได้ใส่ใจ ครับ
    ส่วนตัว พยายามไม่สร้างกรรมขึ้นอีก
    .
    .
    ----------------------------
    .
    .
    .
    ชีวิตดีขึ้นแน่นอน ! การขออโหสิกรรม "เจ้ากรรมนายเวร" ให้ถูกวิธี ตามแบบฉบับโบราณ
    Publish 2018-08-17 10:18:47

    ตามความเชื่อ ทุกคนนั้นเกิดมาหลายภพหลายชาติแล้ว โดยแต่ละคนจะมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกันออกไป โดยที่เขาอาจจะจองเวรเราอยู่ทุกภพชาติก็เป็นไปได้ ทำให้ชีวิตติดขัด วันนี้จึงมีวิธีขอขมาเจ้ากรรมนายเวรที่ถูกต้องมาฝาก แต่บอกไว้ก่อนว่านี่ไม่ใช่การลดกรรม แต่เป็นการขอขมาต่อสิ่งที่เคยล่วงเกิน ให้เขาเหล่านั้นอโหสิกรรมให้แก่เรานั่นเอง

    สิ่งที่ต้องเตรียม

    1. ธูป 36 ดอก

    2. ดอกบัว 1 กำ

    เมื่อเตรียมทุกอย่างหมดแล้วให้ทำตามดังนี้

    ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และทำก่อนเวลา12.00 น. เฝ้ารอจนธูปดับ หากธูปติดลุกเป็นไฟ ถือว่าไม่ผ่าน หลัง 6 เดือนไปค่อยทำใหม่

    โดยจุดธูป 36 ดอก หมายถึงไตรภูมิทั้ง 36 ชั้น ประกอบด้วย 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน อบายภูมิ 4 มนุษย์โลก 1 รวมทั้งหมด 36 ชั้น เพื่อให้ทุกชั้นภูมิจะได้รับทราบอย่างทั่วถึง

    เตรียมดอกบัว 1 กำ ไหว้พระแก้วมรกต หลังทำพิธีนี้ด้านนอกแล้ว (หากไม่ได้ไปวัดพระแก้ว ให้ฤลึกนึกถึงเอาเองก็ได้) ดอกบัวหรือดอกไม้ เมื่อทำเสร็จ ถวายแก่ศาล หรือพระบูชาในบ้านได้

    ต่อจากนั้นให้กล่าว (นะ โม 3 จบ) และตามด้วย...

    "สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ขะมามิ ภันเต"

    เมื่อจบแล้วจึงกล่าว คำขออโหสิกรรม เจ้ากรรมนายเวร ดังต่อไปนี้...

    "ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม กรรมอันใดที่ข้าพเจ้าเคยได้ล่วงเกินแล้ว ทางกายก็ดี ทางวาจาก็ดี ทางใจก็ดี เจตนาก็ดี มิได้เจตนาก็ดี ในชาติก่อนก็ดี ในชาตินี้ก็ดี ทั้งที่เป็นมนุษย์ก็ดี เทพเทวดาก็ดี พระพรหมก็ดี สัตว์ดิรัจฉานก็ดี สัตว์นรกก็ดี เปรตก็ดี อสุรกายก็ดี พระภูมิเจ้าที่ ภูตผีปีศาจ ดวงจิตวิญญาณทั้งหลายก็ดี ทั้งที่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ที่ท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสาร 31 ภูมิ เสวยสุขอยู่ก็ดี เสวยทุกข์อยู่ก็ดี ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง จงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า เพิ่มพูนทานบารมีแก่ตน อย่าได้มีเวรต่อกันอีกเลย

    และกรรมใด ๆ ที่ใคร ๆ ได้ล่วงเกินแล้วแก่ข้าพเจ้า ทั้งทางกายทวาร วจีทวาร มโนทวาร ทั้งที่ได้ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะในชาตินี้หรือชาติไหน ๆ ก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ท่านเหล่านั้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรมีกรรมต่อกัน

    ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัว บุตรหลาน ตลอดวงศาคณาญาติ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ และผู้มีอุปการคุณทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีแต่ความสุข ความเจริญ ปฏิบัติสิ่งใดที่เป็นไปในทางที่ชอบประกอบด้วยธรรม ขอจงสำเร็จผลดังปรารถนาต้องการ เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในเร็ววันด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ"

    http://www.partiharn.com/contents/br/7819

    เรียบเรียงโดย : ปิยะนัย เกตุทอง
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    #ความโลภ
    ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไร ต้อง #ศึกษา ให้ #ลึกซื้ง และ #รู้จริง
    #สำคัญที่สุดห้ามโลภ
    .
    .*****______________*****
    .
    .
    มีลิงจำนวนมากอาศัยอยู่ใกล้ๆตามหมู่บ้าน
    วันหนึ่ง..มีพ่อค้ามาถึงหมู่บ้านเพื่อซื้อลิงเหล่านี้ !

    เขาประกาศว่า เขาจะซื้อลิงที่ราคาตัวละ 5,000 บาท
    ชาวบ้านคิดว่า ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคนบ้าแน่

    คนปกติที่ไหน จะซื้อลิงในป่าตัวละตั้ง 5,000 บาท
    เพื่ออะไร ?

    แต่ก็มีใครบางคนจับลิงบางตัวมา แล้วนำมันไปยังร้านของพ่อค้าคนนี้ และเขาก็ได้เงินมา 5,000 บาทจริงๆ
    .
    .
    ข่าวนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวไฟไหม้ป่า แล้วผู้คนก็พากัน เข้าไปจับลิง นำมาขายให้ที่ร้านพ่อค้า

    หลังจากผ่านไปสองสามวันพ่อค้าก็ประกาศว่า จะซื้อลิงที่ราคาตัวละ 10,000 บาท !

    ชาวบ้านแห่กันเข้าป่า เข้าไปหาจับลิงที่ยังมีเหลือ
    และพวกเขาได้ขายลิงที่จับมาได้ทั้งหมด
    ที่ราคาตัวละ 10,000 บาทจริง !

    จากนั้น..พ่อค้าก็ประกาศว่า จะซื้อลิงที่ราคาตัวละ 50,000 บาท !

    ชาวบ้านไม่เป็นอันกินอันนอน ! ... พวกเขาจับลิงคนละ 6 - 7 ตัว ซึ่งเป็น "ลิงที่เหลือทั้งหมดในป่า" และขายได้ราคาตัวละ 50,000 บาทจริง !

    ชาวบ้านกำลังรออย่างใจจดใจจ่อ..สำหรับการประกาศรับซื้อในครั้งต่อไป...

    และแล้ว...พ่อค้าก็ประกาศว่า เขาจะขอกลับบ้านเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และเมื่อเขากลับมา เขาจะซื้อลิงในราคาใหม่ "ตัวละ 100,000 บาท "

    เขาสั่งให้ลูกจ้างดูแลลิงที่เขาซื้อมาทั้งหมด..ลูกจ้างมีเพียงคนเดียว ต้องดูแลลิงทั้งหมดในกรง
    .
    .
    .
    พ่อค้ากลับบ้านไป..

    ชาวบ้านรู้สึกเสียดายมากที่ไม่มีลิงให้จับขายอีกในครั้งนี้ เพื่อจะเอาไว้ขายให้ได้ในราคา 100,000 บาท

    จากนั้น ลูกจ้างได้บอกพวกเขาว่า เขาจะแอบขายลิงบางตัวให้ก็แล้วกัน ที่ราคาตัวละ 70,000 บาท

    ข่าวนี้แพร่กระจายอย่างไฟไหม้ป่าอีก เนื่องจากพ่อค้าจะซื้อลิงที่ราคาตัวละ 100,000 บาท ในครั้งต่อไปซึ่งคิดดูแล้ว ก็ยังมีกำไรถึง 30,000 บาท สำหรับลิงแต่ละตัว ..ก็ซื้อสิครับ..

    วันรุ่งขึ้น ชาวบ้านมาเข้าคิวหน้าร้านค้า..
    ลูกจ้างขายลิงทั้งหมดที่ตัวละ 70,000 บาท คนรวยก็ซื้อลิงไว้เป็นจำนวนมาก คนจนก็ยืมเงินจากผู้ที่มีเงินให้กู้ เพื่อนำมาซื้อลิง !

    ชาวบ้านซื้อมาแล้ว ก็ดูแลลิงของพวกเขาอย่างดี และรอให้พ่อค้ากลับมา...
    .
    .
    แต่ไม่มีใครกลับมา ! ...

    ชาวบ้านทั้งหลาย รีบวิ่งไปตามหาลูกจ้าง ...
    แต่ลูกจ้างก็หนีหายไปแล้วเช่นกัน !

    ชาวบ้านจึงรู้ว่า พวกเขาได้ซื้อลิงที่ไม่มีประโยชน์ตัวละ 70,000 บาท และไม่สามารถเอาไปขายใครได้อีก

    บิทคอยน์.. จะเป็นธุรกิจแบบลิงตัวต่อไป

    มันจะทำให้คนจำนวนมากล้มละลาย และมีไม่กี่คน (ที่สกปรก) ก็จะร่ำรวยด้วยธุรกิจลิงนี้

    Fwdมา

    ที่มา #หลวงพ่อสอนไว้

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ว่าด้วยเรื่อง #อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ #บัญชีเงินกู้ #อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก #บัญชีเงินฝาก ของ #ธนาคาร

    เรื่องนี้ ผมเคยเขียนไว้สมัยโบราณนานมากแล้ว เขียนไว้ประมาณ 19 มิถุนายน 2551

    .----------------------------------------

    เรื่องของการเงินและการธนาคาร เป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นใคร เราจึงควรที่จะเรียนรู้ และรู้เท่าทันกับเรื่องต่างๆที่เป็นเรื่องการเงินหรือการธนาคาร อีกทั้งกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพที่นับวันจะพัฒนามากขึ้นไปเรื่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนมากตามเทคโนโลยี จนบางครั้งบางคนตามเหล่ามิจฉาชีพไม่ทัน ผมจึงได้นำเรื่องราวต่างๆที่เคยประสบพบเห็นและได้เจอ นำมาเล่าสู่กันฟังครับ

    .

    เรามาว่ากันเรื่องของบัญชีออมทรัพย์ ,บัญชีกระแสรายวัน และบัญชีฝากประจำกันก่อน

    .

    บัญชีออมทรัพย์ เป็นบัญชีที่ธนาคารเปิดให้กับผู้ที่มีความต้องการฝากและถอนเงิน โดยมีบัตรเอทีเอ็มเป็นสิ่งที่สามารถถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มจากบัญชีของตนเอง หรือการโอนเงินทางอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง อัตราดอกเบี้ยของบัญชีออมทรัพย์เป็นบัญชีที่ให้อัตราดอกเบี้ยน้อย

    .

    บัญชีกระแสรายวัน เป็นบัญชีที่ธนาคารเปิดให้กับผู้ที่มีความต้องการใช้ในธุรกิจของตนเอง มีการสั่งจ่ายเงิน(ถอนเงิน)ในบัญชีกระแสรายวันได้หลายทาง เช่น การจ่ายเช็ค ,การถอนเงินจากบัตรเอทีเอ็ม หรือการโอนเงินทางอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง อัตราดอกเบี้ยของบัญชีกระแสรายวัน ธนาคารไม่จ่ายดอกเบี้ยให้

    .

    บัญชีฝากประจำ เป็นบัญชีที่ธนาคารเปิดให้กับผู้ที่ต้องการออมเงิน โดยมีระยะเวลาต่างๆ เช่น การฝาก 3 เดือน , 6 เดือน , 12 เดือน , 24 เดือน เป็นต้น อัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารแต่ละแห่งเป็นผู้ที่กำหนดเองว่า จะให้อัตราดอกเบี้ยจำนวนเท่าไร แต่โดยปกติหากการฝากเงินในบัญชีเงินฝากประจำ ถ้าระยะเวลาที่น้อย จะได้อัตราดอกเบี้ยน้อยว่า การฝากที่ใช้ระยะเวลาที่มากกว่า ส่วนการถอนเงินเมื่อครบกำหนดที่ระบุไว้( เช่น 3 เดือน , 6 เดือน , 12 เดือน , 24 เดือน) ผู้ฝากเงินย่อมมีสิทธิที่สามารถถอนเงินจากบัญชีนั้นๆได้ โดยถอนเงินที่ทำการธนาคาร แต่ถ้าหากว่าบัญชีเงินฝากประจำที่มีกำหนดระยะเวลามากกว่า 3 เดือน เช่น ระยะเวลา 12 เดือน แต่หากเจ้าของบัญชีมีความต้องการที่จะใช้เงินก่อน สามารถถอนเงินจากบัญชีเงินฝากประจำนั้นๆได้ แต่ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารต้องจ่ายให้กับผู้ฝากเงินนั้น จะได้เป็นอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์

    .

    การฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์และบัญชีฝากประจำ จะมีอีกเรื่องที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องคือ การเสียภาษีเงินได้ของกรมสรรพากร บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หากได้ดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาทต่อปี จะต้องเสียภาษี 15 % ส่วนบัญชีเงินฝากประจำ ไม่ว่าจะได้ดอกเบี้ยเงินฝากจำนวนเท่าไร ต้องเสียภาษี 15 % เสมอ ภาษีที่ผู้ฝากเงิน(บัญชีเงินฝากประจำ) เสียให้กับกรมสรรพากร สามารถนำไปหักลดหย่อนในการยื่นแบบการเสียภาษีประจำปีได้

    .

    นอกเหนือจากบัญชีเงินฝากทั้ง 3 ประเภทแล้ว ยังมีบัญชีอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นบัญชีที่หลายๆคนชอบ และอีกหลายๆคนไม่ชอบ นั่นก็คือบัญชีเงินกู้

    .

    บัญชีเงินกู้จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ก็คือ

    1.บัญชีเงินกู้ประจำ

    2.บัญชีเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี

    3.บัญชีเงินกู้อื่นๆ

    .

    สำหรับบัญชีเงินกู้นั้น เมื่อเอ่ยคำว่า “กู้เงิน” ต้องมีสิ่งหนึ่งตามมา นั่นก็คือ “ดอกเบี้ย” ดอกเบี้ยจะแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ “ #MOR ( #MinimumOverdraftRate ) ” , “ #MLR ( #MinimumLoanRate) ” , “ #MRR ( #MinimumRetailRate) ” และประเภทสุดท้าย (ที่ใครๆไม่ต้องการ)คือ #อัตราดอกเบี้ยผิดนัด

    .

    สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ “MOR (Minimum Overdraft Rate) ” เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับบัญชีเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี

    .

    อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ “MLR” (Minimum Loan Rate) , “MRR” (Minimum Retail Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับบัญชีเงินกู้ประจำ หรือบัญชีเงินกู้อื่นๆ

    .

    อัตราดอกเบี้ยทั้งสามประเภท เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ลอยตัว ไม่ใช่ล่องลอยไปในอากาศ แต่เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารสามารถปรับขึ้นหรือลง ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศและการบริหารของธนาคารนั้นๆ

    .

    ผมมาอธิบายต่อสำหรับบัญชีเงินกู้ประเภทต่างๆนะครับ

    .

    1.บัญชีเงินกู้ประจำ เป็นบัญชีที่ธนาคารให้กู้เงินเพื่อใช้สำหรับการกู้ซื้อที่อยู่อาศัย (แม้บางครั้ง ผู้กู้จะไม่ได้ซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง แต่อาจจะเป็นการให้บุคคลอื่นเช่าก็มี) อัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันในแต่ละธนาคาร จะใช้ประเภทของอัตราดอกเบี้ยอยู่ 2 ลักษณะคือ “MLR” (Minimum Loan Rate) หรือ “MRR” (Minimum Retail Rate) แล้วแต่ แต่ละธนาคารเป็นผู้ที่กำหนด

    .

    2.บัญชีเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี เป็นบัญชีที่บุคคลที่ทำธุรกิจต่างๆ ใช้กันโดยบัญชีเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีจะเป็นบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน บัญชีเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีเป็นบัญชีที่ใช้สำหรับการหมุนเวียนในธุรกิจ โดยผู้ที่มีบัญชีประเภทนี้ ต้องนำโฉนดที่ดิน(จะมีสิ่งปลูกสร้างด้วนหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร) หรือนำบัญชีเงินฝากประจำ มาเป็นหลักประกันเงินกู้ประเภทนี้ หรือในบางครั้งก็จะเป็นผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็นผู้ค้ำประกันส่วนตัวเต็มวงเงินก็มี บัญชีเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีนี้ จะใช้อัตราดอกเบี้ย คือ “MOR (Minimum Overdraft Rate)

    .

    3.บัญชีเงินกู้อื่นๆ เช่น การมีวงเงินหนังสือค้ำประกัน ,การมีวงเงินการเปิด LC และTR , วงเงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคล ,บัตรเครดิต สำหรับบัญชีเงินกู้ในกลุ่มนี้ ผมขออธิบายเฉพาะเรื่องของวงเงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตในช่วงต่อๆไป แต่เรื่องของวงเงินกู้ในประเภทอื่นๆ เป็นเรื่องเฉพาะ ผมไม่ขออธิบายครับ

    .

    สิ่งต่างๆที่ผมได้นำมาเล่าให้ฟังนี้ หลายๆท่านคงทราบกันดีแล้ว แต่ผมนำมาเกริ่นเรื่องราวที่จะบอกกันต่อๆไป และเผื่อท่านใดที่ไม่ทราบ จะได้ทราบกัน

    .

    มาว่ากันต่อ

    .

    เรื่องของการนำเอกสาร(ของตนเอง) นำไปเปิดบัญชีกับธนาคาร เช่นบัตรประชาชน เวลาที่เราจะเซ็นชื่อเพื่อรับรองสำเนาถูกต้องนั้น เราควรที่จะเขียนลงบนสำเนาบัตรประชาชนว่า ใช้เพื่อเปิดบัญชี(ออมทรัพย์หรือกระแสรายวันหรือฝากประจำ) กับธนาคาร.....เท่านั้น และควรเขียนลงบนรูปสำเนาบัตรประชาชนด้วย

    .

    เรื่องของบัญชีธนาคารต่างๆที่เปิดไว้ เราควรจดประเภทของบัญชี ,เลขที่บัญชี ,ธนาคาร-สาขา และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อกับสาขาที่เราเปิดบัญชีไว้ อีกทั้งหมายเลขโทรศัทพ์ที่สามารถติดต่อกับธนาคารกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน(เช่นบัตรเอทีเอ็มหาย)ไว้

    .

    https://palungjit.org/threads/พระวั...พโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้.22445/page-873
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยาบำรุงเลือด (Antianemia Drugs)
    พรลภัส บุญสอน
    เภสัชกร
    .
    ยาบำรุงเลือดหมายความว่าอย่างไร?
    ยาบำรุงเลือด หรือยาบำรุงโลหิต หรือยารักษาเลือดจาง หรือยารักษาโลหิตจาง(Antianemia Drugs หรือ Antianemia drugs หรือ Anemia medication) หมายถึง ยาที่ใช้ป้องกันและรักษาภาวะโลหิตจาง ซึ่งภาวะนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และยาบำรุงเลือดแต่ละชนิดจะใช้รักษาตามสาเหตุนั้นๆ ดังนั้นหากสงสัยว่าตนเองมีภาวะโลหิตจางแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง ไม่ควรซื้อยาหรือวิตามินใดๆที่รวมถึงธาตุเหล็ก มารับประทานเอง เพื่อที่จะได้ใช้ยารักษาภาวะ/โรคโลหิตจางได้อย่างถูกต้องตรงกับสาเหตุของโรค

    ยาบำรุงเลือดแบ่งเป็นกี่ประเภท?
    ยาบำรุงเลือด แบ่งประเภทตามกลุ่มยาได้ดังต่อไปนี้

    1. ยากลุ่มที่เป็นสารประกอบของธาตุเหล็ก (Ferrous compound) แบ่งตามวิธีการบริหารยา/ใช้ยาได้ดังนี้ เช่น

    2. วิตามินบี 12 หรือไซยาโนโคบาลามีน (Vitamin B12) เช่นยา ไซยาโนโคบาลามีน (Cyanocobalamin) และไฮดรอกโซโคบาลามิน (Hydroxocobalamin) แบ่งตามวิธีการบริหารยาได้ดังนี้

    3. โฟเลทหรือกรดโฟลิก (Folate or Folic acid) แบ่งออกเป็น

    • โฟเลทหรือกรดโฟลิกชนิดเม็ดรับประทาน
    • โฟเลทหรือกรดโฟลิกที่อยู่ในรูปแบบยาฉีด เช่นยา กรดโฟลินิก (Folinic acid) หรือไซโทรโวรุมแฟกเตอร์ (Citrovorum factor) หรือลิวโคโวริน (Leucovorin)
    4. ยากระตุ้นการแบ่งตัวและพัฒนาการของเซลล์เม็ดเลือดแดง (Erythropoiesis-stimulating agents, ESAs) เช่นยา อิโพอิติน หรืออีพีโอ (Epoetin or EPO)

    5. ยากระตุ้นให้มีการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดแกรนูโลไซต์ (Granulocyte colony-stimulating factor, G-CSF) เช่นยา ฟิลกราสทิม (Filgrastim), เพกฟิลกราสทิม (Pegfilgrastim), ลีโนกราสทิม (Lenograstim)

    6. ยากระตุ้นให้มีการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดแกรนูโลไซต์และเซลล์มาโครฟาจ Granulocyte-macrophage colony-stimulating factor, GM-CSF) เช่นยา ซาร์กรามอสทิม (Sargramostim)

    ยาบำรุงเลือดมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
    ยาบำรุงเลือดมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น

    อนึ่ง อ่านเพิ่มเติมเรื่องรูปแบบของยาต่างๆได้จากเว็บ haamor.com บทความเรื่อง “รูปแบบยาเตรียม”

    มีข้อบ่งใช้ยาบำรุงเลือดอย่างไร?
    มีข้อบ่งใช้ยาบำรุงเลือด เช่น

    1. ธาตุเหล็ก ใช้รักษาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron deficiency anemia, IDA) ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากการเสียเลือดเรื้อรัง เช่น มีประจำเดือนมามากหรือมานาน, เลือดออกในทางเดินอาหาร, โรคพยาธิปากขอ, ภาวะร่างกายต้องการธาตุเหล็กมากขึ้น เนื่องจากอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, ภาวะร่างกายมีปัญหาในการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น โรคระบบทางเดินอาหาร

    2. วิตามินบี 12 ใช้รักษาโรคโลหิตจางชนิดร้ายแรง (Pernicious anemia) ที่เกิดจากร่างกายได้รับวิตามินบี 12ไม่เพียงพอ เช่น ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ผู้มีความผิดปกติของลำไส้เล็ก หรือผู้รับประทานมังสวิรัติ

    3. โฟเลท:

    4. Epoetin ใช้รักษาภาวะโลหิตจางจากโรคไตเรื้อรังที่ไม่พบสาเหตุอื่นที่รักษาได้ ตัวอย่างเช่น เลือดออกในทางเดินอาหาร ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน(ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ)อย่างรุนแรง ภาวะร่างกายมีการติดเชื้อ ภาวะขาดธาตุเหล็ก ขาดโฟเลท หรือขาดวิตามินบี 12 เป็นต้น

    5. ยากลุ่ม G-CSF, GM-CSF ใช้ป้องกันและรักษาภาวะที่ผู้ป่วยมีไข้ร่วมกับมีเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิลในเลือดต่ำ(Febrile neutropenia) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจรุนแรงถึงเสียชีวิต ภาวะดังกล่าวสามารถเกิดได้ในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด หรือในผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก

    มีข้อห้ามใช้ยาบำรุงเลือดอย่างไร?
    มีข้อห้ามใช้ยาบำรุงเลือด เช่น

    1. ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยานั้นๆ หรือมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรง/ปฏิกิริยาไวเกิน (Hypersensitivity)ต่อยานั้นๆ

    2. ห้ามใช้ยา Epoetin ในผู้ที่มีภาวะไขกระดูกไม่สร้างเม็ดเลือดแดง (Pure red cell aplasia, PRCA) ภาวะ/โรคความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมได้ ผู้ที่รับประทานยาป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด ผู้มีมีภาวะไวเกินต่อแอลบูมิน(Albumin)

    3. ก่อนฉีดยากลุ่ม G-CSF ให้กลับขวดยาไปมา ห้ามเขย่าขวดยาแรงๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพ

    4. ห้ามใช้ยากลุ่ม GM-CSF ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ผู้ป่วยมะเร็งได้รับยาเคมีบำบัดและ/หรือรังสีรักษา

    มีข้อควรระวังการใช้ยาบำรุงเลือดอย่างไร?
    มีข้อควรระวังการใช้ยาบำรุงเลือด เช่น

    1. การดูดซึมของธาตุเหล็กชนิดรับประทานจะขึ้นอยู่กับสภาวะของระบบทางเดินอาหาร เช่น สภาวะที่ระบบทางเดินอาหารเป็นกรดกรด จะทำให้ธาตุเหล็กถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ดังนั้นหากรับประทานธาตุเหล็กตอนท้องว่าง รับประทานร่วมกับน้ำส้มหรือ ร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซีสูง จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากรับประทานธาตุเหล็กร่วมกับ นม ยาลดกรด น้ำชา หรือกาแฟ จะ ทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ลดลง

    2. แม้ว่าการรับประทานธาตุเหล็กตอนท้องว่างจะทำให้ยาธาตุเหล็กถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี แต่อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์(ผลข้างเคียง)ต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ดังนั้นหากเกิดอาการดังกล่าว ควรรับประทานธาตุเหล็กพร้อมอาหาร หรือหลังอาหารทันที

    3. ยา Iron dextran อาจทำให้เกิดอาการแพ้ยาชนิดรุนแรงที่เรียกว่า Anaphylaxis ได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยาต่างๆอยู่แล้ว หรือกำลังใช้ยาลดความดันโลหิตในกลุ่ม ACE inhibitors จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นควรให้ยา Iron dextran ผู้ป่วยในขนาดทดลอง(Test dose)ก่อน และเฝ้าสังเกตอาการว่าผู้ป่วยจะเกิดอาการแพ้ยานี้หรือไม่ ก่อนที่จะเริ่มให้ยานี้ในขนาดของการรักษา (Therapeutic dose)

    4. ควรระวังการใช้ วิตามินบี 12 ชนิดรับประทานร่วมกับยาต่อไปนี้ ได้แก่ยา Neomycin, Chloramphenicol, Colchicine, Metformin, Cholestyramine, Potassium chloride, Methyldopa, Cimetidine, และยาเม็ดคุมกำเนิด เพราะยาเหล่านี้รบกวนการดูดซึมของวิตามินบี 12

    5. การใช้วิตามินบี 12 ร่วมกับยาต่อไปนี้ ได้แก่ ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย/ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) และยาต้านมะเร็ง/ยารักษาโรคมะเร็งในกลุ่มที่เรียกว่า Antimetabolites อาจทำให้การตรวจวัดระดับวิตามินบี 12 ในร่างกายได้ค่าที่คลาดเคลื่อนไป

    6. ผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ยาจากการใช้วิตามินบี 12 ในรูปแบบฉีด สามารถใช้วิตามินบี 12 รูปแบบรับประทานแทนได้โดยไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ

    7. เมื่อได้รับยา Epoetin แล้ว ควรตรวจติดตามระดับฮีโมโกลบินอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 2-4 ครั้งต่อเดือนตามคำสั่งแพทย์ เพื่อควบคุมให้ค่าฮีโมโกลบินอยู่ในเป้าหมายของการรักษา เพราะยานี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต และต่อการเกิดโรคหัวใจ และ/หรือโรคหลอดเลือด เช่น หลอดเลือดอุดกั้นจากลิ่มเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง

    8. ยา Epoetin เป็นยาที่พบอาการไม่พึงประสงค์จากยาได้บ่อย คือ ทำให้ความดันโลหิตสูง ดังนั้นหากผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูงอยู่ก่อนแล้ว ควรควบคุมระดับความดันโลหิตให้ได้ก่อนที่จะเริ่มใช้ยานี้ และควรตรวจติดตามระดับความดันโลหิตตลอดระยะเวลาการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์

    9. Epoetin เป็นยาที่พบอาการไม่พึงประสงค์ได้บ่อย คือ เกิดอาการชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัว (Generalised tonic-clonic seizures) ดังนั้นควรระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคลมชัก

    10. ควรระวังการใช้ยากลุ่ม G-CSF ในผู้ที่มีการติดเชื้อรุนแรง เพราะอาจทำให้เกิดการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน/กลุ่มอาการหายลำบากเฉียบพลัน(Acute respiratory distress syndrome)

    11. ไม่แนะนำให้ใช้ยากลุ่ม G-CSF ในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัดที่ไม่ได้หวังผลการรักษาให้หายขาด

    การใช้ยาบำรุงเลือดในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรเป็นอย่างไร?
    การใช้ยาบำรุงเลือดในหญิงตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือให้นมบุตรควรเป็นดังนี้ เช่น

    1. ธาตุเหล็ก, วิตามินบี 12 และโฟเลท เป็นยาที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์ในตลอดระยะเวลาที่ตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันและรักษาภาวะโลหิตจางในหญิงมีครรภ์ซึ่งอาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า และอาจทำให้มารดาเกิดภาวะช็อกได้ในกรณีที่เสียเลือดมากจากการคลอด

    2. ยาEpoetin, ยากลุ่ม G-CSF และยากลุ่ม GM-CSF เป็นยาที่ควรใช้ในหญิงมีครรภ์ก็ต่อเมื่อแพทย์พิจารณาแล้วว่า ประโยชน์จากยาที่มารดาได้รับ คุ้มค่าต่อความเสี่ยง/ผลข้างเคียงจากยาที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์

    การใช้ยาบำรุงเลือดในผู้สูงอายุควรเป็นอย่างไร?
    การใช้ยาบำรุงเลือดในผู้สูงอายุควรเป็นดังนี้ เช่น

    1. ภาวะโลหิตจางเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ และสามารถใช้ยาต่อไปนี้รักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค/ภาวะนี้ ได้แก่ ธาตุเหล็ก, วิตามินบี 12, และโฟเลท

    พยาบาล เภสัชกร ว่า กำลังใช้ยาใดอยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug interaction) ตัวอย่างเช่น หากรับประทานยาลดไขมัน Cholestyramine ร่วมกับธาตุเหล็ก จะส่งผลให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อยลง

    3. ควรระวังการใช้ยา Epoetin ในผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคตับ เพราะอาจทำให้อาการของโรคตับแย่ลง และการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง แพทย์จะปรับขนาดยาให้ได้ค่าฮีโมโกลบินอยู่ระหว่าง 10-12 กรัม/เดซิลิตร เพราะหากค่าฮีโมโกลบินสูงกว่าช่วงที่กำหนด หรือมีการเพิ่มของฮีโมโกลบินมากกว่า 1 กรัม/เดซิลิตร ภายใน 2 สัปดาห์ จะเพิ่มความเสี่ยงของผู้ป่วยต่อการเสียชีวิตและต่อการเกิดโรคหัวใจ และต่อโรคหลอดเลือด

    การใช้ยาบำรุงเลือดในเด็กควรเป็นอย่างไร?
    การใช้ยาบำรุงเลือดในเด็กควรเป็นดังนี้ เช่น

    1. ภาวะโลหิตจางในเด็กสามารถรักษาได้โดยใช้ยารักษาตามอาการเช่นเดียวกันกับในวัยอื่นๆ ได้แก่ ธาตุเหล็กและโฟเลทชนิดรับประทาน แต่ยังมีข้อมูลด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยไม่เพียงพอในการใช้วิตามินบี 12 และธาตุเหล็กชนิดฉีดในผู้ป่วยเด็ก

    2. ห้ามใช้ยาฉีดที่มี Benzyl alcohol เป็นสารกันเสีย/สารกันบูดในสูตรตำรับ เช่นยา Epoetin, ยากลุ่ม G-CSF และยากลุ่ม GM-CSF ในทารกแรกเกิดถึงอายุ 1 เดือน เพราะอาจทำให้เกิดภาวะ Gasping syndrome (ไม่หายใจ หรือหายใจไม่สม่ำเสมอ) และต้องใช้ยาดังกล่าวด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี

    อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาบำรุงเลือดเป็นอย่างไร?
    อาการไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)จากการใช้ยาบำรุงเลือด เช่น

    1. ธาตุเหล็กชนิดรับประทาน ทำให้อุจจาระมีสีดำ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูกหรือท้องเสีย เบื่ออาหาร แสบร้อนกลางอก (Heartburn)

    2. ธาตุเหล็กชนิดฉีด ทำให้เกิดอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง ความดันโลหิตต่ำ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มึนงง เจ็บ/ปวดบริเวณที่ฉีดยา

    3. วิตามินบี 12 มีโอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยาได้น้อยมาก ได้แก่ ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ (Hypokalemia) และกรดยูริคในเลือดสูง (Hyperuricemia)

    4. โฟเลท: ไม่พบอาการไม่พึงประสงค์เมื่อใช้ยานี้ในขนาดของการรักษา และถึงแม้จะใช้ยาในขนาดสูงก็ไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ใดๆ เช่นกัน เพราะตัวยาถูกขับออกจากร่างกายได้ดีโดยผ่านทางปัสสาวะ

    5. Epoetin: อาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้บ่อย ได้แก่ ความดันโลหิตสูง (Hypertension) ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะความดันเลือดสูงขั้นวิกฤต (Hypertensive crisis) อาการชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัว (Generalised tonic-clonic seizures) ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน อาการอื่นๆ ได้แก่ บวมน้ำ เวียนศีรษะ นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ คัน เจ็บตาผิวหนัง ผื่นขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูกหรือท้องร่วง/ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย ปวดข้อ อาการชา ไอ แน่นจมูก/คัดจมูก หอบเหนื่อย

    6. ยากลุ่ม G-CSF ทำให้เกิดอาการบวม แดง บริเวณที่ฉีดยา ปวดในกระดูปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ขึ้นผื่น เลือดกำเดาไหล โลหิตจาง เม็ดเลือดขาวมากผิดปกติ เกล็ดเลือดต่ำ

    7. ยากลุ่ม GM-CSF อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์เมื่อมีการใช้ยานี้ครั้งแรก (First-dose reaction) คือ ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว ใบหน้าแดง วิงเวียน หน้ามืด เป็นลม อาการอื่นๆ ได้แก่ มีไข้ หนาวสั่น ท้องเสีย อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดข้อ ปวดในกระดูปวดกล้ามเนื้อ ขึ้นผื่น หายใจลำบาก บวมบริเวณปลายมือปลายเท้า (Peripheral edema)

    สรุป
    ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาบำรุงเลือด) ยาแผนโบราญ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะ ยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิด ควรต้องปฏิบัติตาข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

    บรรณานุกรม
    1. Wells, B.G., and others. Pharmacotherapy Handbook. 8th edition. USA: McGraw-Hill, 2012.
    2. กิติยศ ยศสมบัติ. Comprehensive Pharmacy review. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: นานนะภงค์; 2554.
    3. คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ. คู่มือการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลตามบัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชี จ(2) http://drug.fda.moph.go.th:81/nlem.in.th/sites/default/files/jor_2_proof_8-final.pdf[2017,Sept23]
    4. วิระพล ภิมาลย์. เภสัชกรรมบาบัดในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิต http://www.kpi.msu.ac.th/upload/ag_tor_ref_byval/ag_16_in_1.2.4_876(2555).pdf [2017,Sept23]
    5. ธีระ ทองสง. Anemia in Pregnancies http://www.medicine.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=175:pregnancy-with-anemia&catid=38&Itemid= [2017,Sept23]
    .
    ที่มา พรลภัส บุญสอน (เภสัชกร) http://haamor.com/th/ยาบำรุงเลือด/#article106
    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันจันทร์ที่ 17 ก.ย.2561 เวลา 05.30 น.
    .
    เมื่ออาทิตย์ก่อน #พี่แอ๊วไป #อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ต.#ธาตุนาเวง อ.เมือง จ.#สกลนคร #พระอาจารย์นิล ท่าน #เข้ากรรมฐาน 7 วัน #งดฉันภัตตาหาร #ปิดวาจา #ปิดกุฏิ ..พอท่านครบกำหนด พี่แอ๊วบินไปจัด #ถวายภัตตาหาร และ #ถวายสังฆทาน ค่ะ..
    .
    ขอน้อมนำบุญกุศลในการถวายสังฆทานแด่พระอาจารย์นิล
    ในวาระ #ออกจากพระกรรมฐาน
    .
    และ #ถวายทานไถ่ชีวิตปลา 213 กิโลและ #ไถ่ชีวิตเต่า..65 ตัว ณ #อุทยานบัว ม.#เกษตรศาสตร์ #วิทยาเขตสกลนคร
    .
    ให้ญาติธรรมทุกท่านได้อนุโมทนาสาธุในบุญนี้ร่วมกัน
    .
    โมทนาสาธุ สาธุ สาธุ
    .
    ขอบคุณภาพและเนื้อหา จากพี่แอ๊ว ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คลายปมสงสัย! ทำไมศาสนาพุทธ "กินเจ" ถึงไม่ได้บุญ!
    .
    ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับเทศกาลกินเจ ปี 2561 ซึ่งตรงกับวันที่ 8-17 ตุลาคมนี้ โดยชาวจีนในประเทศไทย โดยเฉพาะย่านเยาวราช มีการจัดงานกินเจ อย่างยิ่งใหญ่ทุกปี มีการขายอาหารเจมากมาย โดยวัตถุประสงค์ของการกินเจ คือ การละเว้นเนื้อสัตว์ นั่นเอง
    .
    ทำไม ในศาสนาพุทธ กินเจ ถึงไม่ได้บุญ กินเนื้อ ถึงไม่เป็นบาป การกินเจ จาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
    .
    (ตั้งใจไม่กินเนื้อสัตว์)จริงๆไม่ได้บุญอธิบาย คือ เราไม่กินข้าวขาหมู แล้วคิด(จินตนาการ) ว่า หมูจะไม่ถูกฆ่า เปรียบได้กับเรานั่งอยู่บ้านเฉยๆแล้วคิด(จินตนาการ) ว่า เราไปช่วยสอนหนังสือคนอนาถา บุญที่เราไปสอนหนังสือคนอนาถานั้น ไม่มี ไม่เกิด เพราะเรา นึกๆคิดๆไปเองไม่ได้ทำ ไม่ได้กระทำจริง
    .
    ถ้าอยากได้บุญ เราต้องช่วยชีวิตสัตว์ มี 2 ข้อ คือ
    .
    1.ช่วยชีวิตมันโดยการไถ่ชีวิต ซื้อสัตว์ที่กำลังถูกฆ่านำมาปล่อย
    .
    2.เมตตาสัตว์ไม่ทำร้ายมัน อย่างนี้เป็นบุญ
    .
    แต่การกินเจ บุญไม่เกิด เพราะเราไม่ได้ลงมือกระทำจริง(ช่วยชีวิตสัตว์) เป็นเพียงแต่คิดไปเอง พระเทวทัตเคย มาเสนอให้ชาวพุทธไม่กินเนื้อสัตว์พระพุทธเจ้าปฏิเสธ พร้อมให้เหตุผลว่า
    .
    1. เนื้อสัตว์ไม่ใช่ของเหม็น อกุศลกรรมต่างหากที่เป็นของเหม็น
    .
    2. พระต้อง ควรเป็นผู้เลี้ยงง่าย
    .
    3. อนุญาตในการกินเนื้อสัตว์ที่ -ไม่เห็น -ไม่รู้ -ไม่ใช่เนื้อ ที่ฆ่าโดยเฉพาะให้ตน
    .
    4. อาหารเป็นแค่ของเลี้ยงกายไม่ให้ตาย อย่าสนใจมาก
    .
    การรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นบุญหรือไม่ ?

    การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำอะไร เป็นบุญหรือไม่เป็นบุญนั้น ต้องอาศัยกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่าด้วย บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง คือ
    .
    1. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
    .
    2. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
    .
    3. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
    .
    4. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยประพฤติ อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
    .
    5. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการ ช่วยเหลือขวนขวายในกิจการงานต่างๆ
    .
    6. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
    .
    7. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
    .
    8. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม
    .
    9. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม
    .
    10.ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความคิดเห็นของตนให้ตรง
    .
    เมื่อเทียบเคียงกับบุญกิริยาวัตถุ 10 วิธี แล้ว ไม่พบว่าการรับประทานอาหารมังสวิรัติ คือ รับประทานแต่พืชผักเป็นวิธีทำบุญข้อใดเลย จึงไม่นับว่าเป็นวิธีทำบุญในพระพุทธศาสนา ลองคิดดูว่าถ้าการกินพืช เช่น ผัก หญ้า ได้บุญ แล้วสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ก็ต้องได้บุญมากกว่ามนุษย์ เพราะสัตว์พวกนี้กินพืชตลอดชีวิตไม่กินเนื้อสัตว์เลย
    .
    การกินเนื้อสัตว์ บาป หรือ ไม่ ? การที่จะวินิจฉัยว่าบาปหรือไม่บาปนั้น ต้องพิจารณาว่า การกินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว เป็นการผิดศีลข้อปาณาติบาต หรือไม่ ศีลข้อปาณาติบาต คือ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ นั้นจะผิดศีลก็ต่อเมื่อประกอบด้วย องค์ ๕ คือ

    1. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
    2. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
    3. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า
    4. อุปกฺกโม พยายามที่จะฆ่า
    5. เตนมรณํ สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
    .
    เมื่อครบองค์ประกอบทั้ง 5 ข้อ จึงถือว่าเป็นการฆ่าสัตว์ ผิดศีลข้อที่ 1 เป็นบาป แต่ถ้าไม่ได้ลงมือฆ่าเอง และไม่ได้ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ก็ไม่เป็นบาป ตัวอย่าง เราไปจ่ายตลาด ซื้อกุ้งแห้ง ปลาดุกย่าง ปลาทู เนื้อหมู ฯลฯ เราได้มีส่วนร่วมในการฆ่าสัตว์เหล่านั้นหรือไม่ สัตว์เหล่านั้นย่อมตายก่อนที่เราจะไปซื้อมาเป็นอาหาร ถึงเราจะซื้อหรือไม่ซื้อ สัตว์เหล่านั้นก็ตายอยู่แล้ว เราไม่ได้มีส่วนทำให้ตาย
    .
    มีพุทธภาษิตบทหนึ่งว่า“นตฺถิปาปํอกุพฺพโต”แปลได้ความว่า“บาป ไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ”การกินผักก็อาจจะต้องฆ่าสัตว์ทางอ้อมไปด้วยเช่นกัน เพราะต้องไถดิน ใส่ปุ๋ย ใช้ยากำจัดแมลง อาจทำให้แมลงต่างๆ ไส้เดือนตายได้ ถ้าแบบนี้บาปก็คงไม่ต้องทำสัมมาอาชีพกันเลย
    .
    หลวงปู่แหวนท่านบอกว่า ”ไอ้วัวควายกินหญ้าอยู่ตั้งนาน ไม่เห็นเป็นพระอรหันต์ซักตัว”
    .
    ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
    .
    เรียบเรียงโดย : เสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ
    .
    https://www.partiharn.com/contents/bg/12312
    .
    #ศาสนาพุทธ
    #กินเจ
    #มังสวิรัติ
    #ถึงไม่ได้บุญ
    #สมเด็จพระญาณสังวร
    #สมเด็จพระสังฆราช

    #บุญกิริยาวัตถุ ๑๐
    #ปาณาติบาต
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ในวาระแห่งกาลกฐิน ณ ที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ประจำปี 2561 นี้

    .

    ขอเรียนเชิญญาติธรรมทั้งหลาย ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ณ ที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จ.สกลนคร ในวันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น.

    .

    ปีนี้เป็นกฐินปีที่2 ของอาศรมฯ ซึ่งมีการเริ่มดำเนินการก่อสร้างวิหารสมเด็จองค์ปฐม เมื่อปีที่ผ่านมา และใกล้แล้วเสร็จ

    .

    สำหรับปีนี้ ถือเป็นปีสำคัญอีกปีหนึ่ง ของงานวิหารทานที่จะเริ่มขึ้น โดยจะมีการก่อสร้างมณฑปหลวงปู่เทพโลกอุดรเพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปเปรียบรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรองค์ใหญ่ ไว้เป็นที่ เคารพสักการะ เป็นที่พึ่งที่ระลึก ถึงองค์พระอริยะสงฆ์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา ผู้ที่แม้จะเข้าพระนิพพานได้นานแล้ว แต่ได้เสียสละในการอธิษฐานเพื่อคงอยู่แห่งกายทิพย์กายธรรม ในการดูแลงานพระพุทธศาสนาจนถึงสิ้นพุทธันดร

    .

    ปัจจัยบริวารของกองกฐินในปีนี้ ขอน้อมนำเพื่อเป็นกตัญญุตาสามัคคีธรรม ของเหล่าพุทธบริษัททั้งหลายในการสร้างมณฑป และรูปเปรียบรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรองค์ใหญ่

    .

    ขอขอบคุณพี่แอ๊วที่แจ้งข่าวงานบุญนี้มาให้ทราบครับ

    *****+++++++++++++++++++*****

    1.เริ่มต้นร่วมทำบุญ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2561 เวลาที่ลงใน พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005

    สิ้นสุดการร่วมทำบุญ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 เวลา 24.00 น.

    หากโอนมาร่วมทำบุญหลังกำหนดเวลาสิ้นสุดดังกล่าว ผมถือว่าท่านยินยอมให้ผมนำเงินไปทำบุญที่ไหนก็ได้

    2.โอนเงินร่วมทำบุญเข้าบัญชีเลขที่ 983-2-94326-4 ชื่อบัญชี นายสิทธิพงศ์ สงวนศักดิ์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัลพลาซา พระรามสอง

    .

    โมทนาสาธุ

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ในวาระแห่งกาลกฐินประจำปี 2561 นี้
    .
    ขอเรียนเชิญญาติธรรมทั้งหลาย ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ณ ที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จ.สกลนคร ในวันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น.
    .
    ปีนี้เป็นกฐินปีที่2 ของอาศรมฯ ซึ่งมีการเริ่มดำเนินการก่อสร้างวิหารสมเด็จองค์ปฐม เมื่อปีที่ผ่านมา และใกล้แล้วเสร็จ

    ต้องการร่วมทำบุญและบูชาพระวังหน้า
    สามารถเข้าไปร่วมทำบุญได้ที่ เฟสฯ
    หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า

    ลิงค์

    รายละเอียด สามารถไปดูได้ตามลิงค์ครับ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    #งานกฐิน ที่ #อาศรมศรีชัยรัตนโคตร
    ต.ธาตุนาเวง อ.เมือง จ.#สกลนคร
    วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561
    .
    #พี่แอ๊ว แจ้งมาในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 (18.29 น.)
    ขอประกาศ #ยอดเงินกฐินทั้งหมด ของอาศรมศรีชัยรัตนโคตร ประจำปี 2561ค่ะ
    จำนวน 4,212,590.34 บาท
    (สี่ล้านสองแสนหนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยเก้าสิบบาทสามสิบสี่สตางค์)
    .
    #ชมรมพระวังหน้า และ #กลุ่มไลน์พระวังหน้า เป็น #ประธานกฐิน 1 กอง
    ขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วย
    .
    ในงานกฐิน ผมถวาย #พระอุปคุตเถระเจ้า หน้าตัก 9 นิ้วด้วย
    .
    ส่วนตัวผม ผมถวาย #พระอุปคุตขนาดห้อยคอของวังหน้า ที่ #หลวงปู่พระอุปคุตอธิษฐานจิต
    .
    #หลวงปู่ทวดสร้างยุครัชกาลที่4 ที่ #หลวงปู่ทวด ท่าน #มาอธิษฐานจิตที่วังหน้า #มาเป็นกายเนื้อ
    .
    #ไม้ครูของวังหน้า ที่ #หลวงปู่อิเกสาโร #อธิษฐานจิต
    .
    และ #ไม้เท้าครุฑยุดนาคของวังหน้า ที่ #องค์ศรีสุทโธนาคราช และ #พยาครุฑ อธิษฐานจิต
    .
    แด่ #หลวงพี่นิล
    มาโมทนาบุญร่วมกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 001.png
      001.png
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      143
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2018
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เช้านี้..ที่ยะลา

    .

    วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

    .

    พระอาจารย์นิล นำคณะศิษย์ถวายผ้าไตรพร้อมปัจจัยบริวาร และเครื่องอุปโภคบริโภค แด่ คณะสงฆ์ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส จากวัดในแต่ละอำเภอของ จ.ยะลา ที่ได้รับนิมนต์มารับผ้าป่ามหากุศลในครั้งนี้ ที่วัดเมืองยะลา ตำบล สะเตง อำเภอเมืองยะลา ยะลา 95000

    .

    เป็นการถวายผ้าไตรจีวร ในกาลกฐิน สำหรับวัดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพระจำพรรษาไม่ครบ5 รูป

    .

    ขอบคุณภาพจากพี่แอ๊วส่งมาให้ ส่งมาเวลา 11.15 น.

    .

    โมทนาบุญ สาธุ กับทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญในครั้งนี้

    .

    ขอบคุณ

    กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ค่ายรามคำแหง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา

    และ

    กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ค่ายพระยาลิไท ตำบล บุดี อำเภอเมืองยะลา ยะลา

    ที่ช่วยดูแล และ อารักขา พระอาจารย์นิล , พี่แอ๊วและคณะ ในการทอดกฐิน และ ทอดผ้าป่า ในครั้งนี้ ครับ

    .

    #พระอาจารย์นิล

    #อาศรมศรีชัยรัตนโคตร

    #ทอดกฐิน

    #ทอดผ้าป่า

    #วัดเมืองยะลา

    #กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่43

    #ค่ายรามคำแหง

    #กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่44

    #ค่ายพระยาลิไท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    น่าเสียดายมาก สำหรับผู้ที่ไม่ได้ร่วมทำบุญในครั้งนี้
    เราทำบุญกับพระสงฆ์ที่ท่านตั้งใจอยู่ในพื้นที่ ที่อันตราย
    เพื่อปักธงชัยพระพุทธศาสนา
    ให้คงอยู่ในดินแดน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้
    ขอโมทนาในทุกๆบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญในครั้งนี้

     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ชอบมากครับ
    เรื่องนี้ สอนหลายๆเรื่อง รวมทั้งเรื่อง #พ่อแม่รังแกฉัน
    ขอบคุณบทความดีๆ ครับ
    *******************************
    พอลล่า พอลล่าไวท์
    14 พฤศจิกายน เวลา 18:56 น.
    .
    #บ้านติดกันที่ฉันเห็นมา...
    .
    บ้านหลังแรก...
    ขายอาหารตามสั่ง
    บ้านอีกหลังติดกัน ให้เช่าวีดีโอ
    .
    บ้านอาหารตามสั่งมีลูกคนนึง
    บ้านให้เช่าวีดีโอ ก็มีลูกรุ่นราวคราวเดียวกัน
    .
    หลังเลิกเรียน
    ลูกบ้านตามสั่ง จะมาช่วยแม่ขายอาหาร
    เก็บจาน เสริฟอาหารให้ลูกค้าถึง3ทุ่มทุกวัน
    .
    บ้านให้เช่าวีดีโอ
    ลูกนั่งเล่นเกมส์อยู่ชั้นสอง
    เวลาหิวขาว ตะโกนลงมาสั่งให้ป๊ะป๋า
    ไปซื้อข้าวร้านติดกันมาให้ถึงห้อง
    .
    ลูกร้านตามสั่ง
    อยากได้ มอร์ไซค์
    จะขับไปโรงเรียน กว่าจะได้
    ปาเข้าไป ม.6เทอมสุดท้าย
    .
    เพราะแม่ ให้ค่าแรง
    วันละ100ที่ช่วยงานที่ร้าน
    อีก40 ให้ค่าขนมไปโรงเรียน
    .
    อยากได้เก็บเงินซื้อเอา
    .
    ลูกร้านวีดีโอ
    โทรศัพท์ วันทูคอล ออกมาใหม่ๆ
    แค่ขอแม่ให้ซื้อ เขาก็มีถือไปโรงเรียนคนแรก
    มีก่อนครูด้วยซ้ำ
    .
    ลูกร้านตามสั่ง
    เสาร์อาทิตย์ ต้องไปตลาดแทนพ่อ
    ไปซื้อของด้วยตัวเอง มาที่ร้าน
    .
    ลูกร้านวิดีโอ
    เสาร์อาทิตย์หยิบเงินในเก๊ะ
    ไปดูหนังเดินห้างกับเพื่อน
    .
    วันนึง...
    .
    สองบ้านไปทอดผ้าป่าต่างจังหวัด
    ขากลับพ่อแม่ทั้งสองคนรถคว่ำตาย
    .
    ลูกร้านตามสั่งเรียนจบ ม.6ได้
    ใช้มอร์ไซค์ที่หามาจากค่าแรงตัวเอง
    ไปตลาด ซื้อของมาขาย
    เปิดร้านตามสั่งเลี้ยงน้อง
    .
    ลูกร้านวิดีโอ
    จบ ม.6ได้ ใช้เงินที่พ่อแม่ทิ้งไว้จนหมด
    ในไม่กี่ปี สุดท้ายบอกขายตึก
    .
    ลูกร้านตามสั่งเห็นลูกร้านวีดีโอติดป้ายขาย
    เขาเอากำไรและเงินเก็บของพ่อแม่
    ไปซื้อตึกติดกันไว้
    .
    ลูกร้านวีดีโอ
    ได้เงินไปหลายล้าน ผลาญจนสนุก
    .
    ลูกร้านตามสั่ง
    ทุบผนังให้เป็นร้านเดียวกัน
    ขยายโต๊ะ มากขึ้น ทำให้ลูกค้ามากขึ้น
    ขายดีกว่าเดิม
    .
    ไม่กี่ปีลูกร้านตามสั่งมีชีวิตดีขึ้น
    เพราะขายของดี
    .
    ส่วนลูกร้านวีดีโอ
    ใช้เงินหมดจนต้องไปรับจ้าง
    .
    คนนึงเคยสุขสบายไปลำบาก
    จากคนเคยลำบาก กลายเป็นสุขสบาย
    .
    คนนึงเคยอยากได้ทุกอย่าง
    แค่เพียงชี้นิ้ว
    .
    อีกคนกว่าจะได้อะไรมา
    ต้องทำและสร้างมันด้วยตัวเอง
    .
    สุดท้าย
    .
    หลังจากพ่อแม่ตาย
    แต่ละคนก็มีชีวิตตามที่พ่อแม่เลี้ยงมา
    .
    #ทนเห็นลูกลำบากวันนี้ไม่ได้
    #ก็อย่าหวังว่าลูกจะสบายในวันที่คุณจากลา
    .
    ตราบใดที่เรามีอายุไม่ถึงพันปี
    ต้องสอนลูกให้รู้ผิดชอบชั่วดี
    รู้จักความยากลำบากของชีวิตตั้งแต่วันนี้
    .
    คุณก็รู้ดีไม่มีใคร
    อยู่หาเงินให้ใครใช้ไปตลอดชีวิตได้
    .
    แล้วทำไม่...ไม่สอนเขาหาเงินใช้เอง
    ตั้งแต่วันนี้...?
    .
    cr.สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
    .
    เป็นบทความที่ดีที่แบ่งปันแก่สังคม
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    “หยวกกล้วย-โฟม-ขนมปัง-กรวยไอติม” ทำกระทงแบบไหนไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม?
    .
    เผยแพร่ 25 พ.ย. 2558,15:21น.
    .
    ปรับปรุงล่าสุด 2 พ.ค. 2560,00:23น.
    .
    ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยเผยลอยกระทงหยวกกล้วยดีสุด ชี้ย่อยสลาย-กำจัดง่าย แนะลอยร่วมกัน 1 กระทงต่อ 1 ครอบครัว ลดผลกระทบต่อน้ำ เตือนกรวยไอติมไม่ควรนำมาใช้ลอยกระทง! เหตุค่าบีโอดีสูง
    .

    ในอดีตเราจะเห็นว่ากระทงจะทำมาจากหยวกกล้วยและใบตองเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่ากระทงมีหลายรูปแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระทงโฟม กระทงกะลามะพร้าว กระทงเทียนหอม กระทงหัวปลี กระทงผัก และกระทงกรวยไอติม แล้วทุกคนรู้กันหรือเปล่าว่ากระทงที่เรานิยมนำมาลอยกันส่วนใหญ่นั้น ทุกชนิดมีผลกระทบต่อน้ำทั้งสิ้น
    .
    ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เปิดเผยกับทีมข่าว "PPTV HD" ว่าปัจจุบันนี้กระทงที่เป็นที่นิยมจะมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ กระทงหยวกกล้วย กระทงขนมปัง และกระทงโฟม ซึ่งกระทงแต่ละชนิดนั้นส่งผลกระทบต่อน้ำหมด แต่จะดูเพียงผลกระทบอย่างเดียวไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าลอยที่ไหน ถ้าเป็นสระปิด เวลาลอยกระทงเสร็จ เจ้าของสระเขาก็จะต้องเก็บกระทงขึ้น พอเก็บกระทงขึ้น ก็จะส่งผลกระทบพอๆกัน คือ กระทงทุกรูปแบบถูกเก็บขึ้นหมด แต่ว่าประเด็นจริงๆแล้วคือต้องดูการย่อยสลายหลังจากการทิ้ง
    .
    กระทงแบบไหนย่อยสลายดีสุด?
    .
    ดร.ขวัญฤดี กล่าวว่า ถ้าเทียบระหว่างใบตองกับโฟม จะเห็นได้ว่า หากเศษขยะของโฟมมาก โฟมก็จะใช้เวลาย่อยสลายนาน แต่ว่าโฟมสามารถรีไซเคิลได้ แต่ข้อดีก็จะสู้กระทงหยวกกล้วยไม่ได้ เพราะกระทงหยวกกล้วยจะย่อยสลายได้ง่ายกว่า
    .
    ดร.ขวัญฤดี กล่าวต่อว่า ส่วนกระทงขนมปัง ถ้าใช้ลอยในแหล่งน้ำไม่ว่าจะเปิดหรือปิด ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นแหล่งน้ำปิดแล้วมีบ่อปลา ก็จะสามารถใช้ได้ จะมีประโยชน์ เพราะปลาสามารถกินขนมปังได้ แต่ถ้าเป็นแหล่งน้ำปิดแล้วไม่มีบ่อปลา จะอันตรายต่อสภาพน้ำ เพราะขนมปังจะเกิดการยุ่ย และทำให้น้ำมีค่าบีโอดี หรือค่าสารอินทรีย์สูง ไม่สมควรนำมาลอย
    .
    ถ้าเป็นแหล่งน้ำปิดหรือตามแม่น้ำ หากมีคนเก็บกระทงขึ้น ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า กระทงหยวกกล้วยจะดีกว่ากระทงโฟมตรงที่เวลาเก็บขึ้นมาแล้วจะย่อยสลายง่ายกว่า ส่วนข้อดีของกระทงโฟมคือสามารถนำไปรีไซเคิลได้ โดยกระบวนการคือแกะออกมาแล้วเอาไปหลอมเป็นพลาสติกได้ใหม่ เป็นเม็ดโฟม ส่วนกระทงขนมปัง ถ้าไปเป็นกระทงอยู่ในสระปลา จะมีประโยชน์กับปลา แต่ถ้าเป็นสระน้ำปกติก็ไม่มีประโยชน์อะไร
    .
    เกร็ดความรู้
    .
    บีโอดี (Biochemical Oxygen Demand, BOD) หมายถึง ปริมาณของออกซิเจนที่แบคทีเรียใช้ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ ในเวลา 5 วัน ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส มีหน่วยเป็น มิลลิกรัม/ลิตร ค่าบีโอดีเป็นค่าที่มีความสำคัญอย่างมากในการออกแบบและควบคุมระบบบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพ โดยใช้บ่งบอกถึงค่าภาระอินทรีย์ (Organic Loading) ใช้ในการหาประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสีย และใช้สำหรับการตรวจสอบคุณภาพของน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ
    .
    เวลาในการย่อยสลายของกระทงแต่ละชนิด?
    .
    ดร.ขวัญฤดี กล่าวว่า เวลาในการย่อยสลาย ขนมปังจะเร็วสุด ใบตองจะช้าหน่อย โฟมจะใช้เวลาย่อยสลายนานมาก ซึ่งขนมปังประมาณ 3 วันก็จะเห็นเป็นรูปของน้ำที่เริ่มมีสารอินทรีย์สูง เหยือกกล้วยเป็นเดือนขึ้นไป ซึ่งทุกรูปแบบจะทำให้น้ำมีค่าบีโอดีสูงและทำให้น้ำเสียได้ แต่ในรูปแบบที่ต่างกัน ซึ่งเหยือกกล้วยจะเก็บง่ายสุด
    .
    นอกจากนี้ยังมีกระทงอีกรูปแบบที่คนเริ่มนิยมนำมาลอยมากขึ้นคือกระทงกรวยไอติม ดร.ขวัญฤดี กล่าวว่า กระทงกรวยไอติมจะคล้ายกับกระทงขนมปัง แต่กระทงกรวยไอติมจะส่งผลให้ค่าบีโอดีในน้ำสูง ก็จะเน่าเสียเร็วขึ้น ไม่เหมาะเอามาลอยเลย ยกเว้นลอยในอ่างปลา ปลาสามารถกินได้ ส่วนกระทงผักหรือหัวปลีก็เหมือนกับหยวกกล้วย
    .
    ส่วนกระทงเทียนหอม ดร.ขวัญฤดี กล่าวว่า ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ เป็นเทียนหรือก็คือน้ำมัน
    .
    "จริงๆ คือนำกระทงหยวกกล้วยมาลอยจะดีที่สุด เพราะย่อยสลายง่ายและนำไปกำจัดได้ง่าย แต่ทางที่ดีสุดคือลอยร่วมกัน คือ 1 ครอบครัวต่อ 1 กระทง เพราะจะเป็นการลดทำลายทรัพยากรน้ำได้ดีที่สุด" ดร.ขวัญฤดี กล่าว
    .
    ข้อมูลเพิ่มเติม
    .
    ในปี 2553 นางประพิมพ์ บริสุทธิ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาย่อยสลายกระทงแต่ละประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้

    – กระทงที่ทำจากต้นกล้วย ใบตอง กะลามะพร้าว (ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 14 วัน)

    – กระทงที่ทำจากขนมปัง โคนไอศกรีม (ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 3 วัน)

    – กระทงที่ทำจากขนมปัง (ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 3 วัน)

    – กระทงที่ทำจากกระดาษ (ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 2 – 5 เดือน)

    – กระทงที่ทำจากโฟม (ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 50 ปี)

    – กระทงมันสำปะหลัง (ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง )
    .
    ที่มา https://www.pptvhd36.com/sport/news/19051
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...