พระพุทธเจ้า สอนพระจูฬปันถกเถระ ภาวนา ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะในด้านชำนาญในมโนมยิทธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Saber, 29 ธันวาคม 2015.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    พระจูฬปันถกเถระ

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    <table class="toccolours" id="WSerie_Buddhism" style="float: right; margin: 0 0 1em 1em; text-align:center; border: 1px solid #060;" cellpadding="1" cellspacing="0" width="170px"> <tbody><tr> <td colspan="2" style="font-size: 100%"> <small>ส่วนหนึ่งของ</small>
    ศาสนาพุทธ

    [​IMG] สถานีย่อย
    <hr> [​IMG]
    ประวัติศาสนาพุทธ
    </td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">ศาสดา</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 90%;"> พระโคตมพุทธเจ้า
    (พระพุทธเจ้า)
    </td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">จุดมุ่งหมาย</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 90%;">นิพพาน</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">พระรัตนตรัย</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 90%;"> พระพุทธ · พระธรรม · พระสงฆ์
    </td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">ความเชื่อและการปฏิบัติ</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 90%;">ศีล (ศีลห้า) · ธรรม (เบญจธรรม)
    สมถะ · วิปัสสนา
    บทสวดมนต์และพระคาถา</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">คัมภีร์และหนังสือ</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 90%;">พระไตรปิฎก
    พระวินัยปิฎก · พระสุตตันตปิฎก · พระอภิธรรมปิฎก</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">หลักธรรม</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 90%;">ไตรลักษณ์ · อริยสัจ 4 · มรรค 8 · ปฏิจจสมุปบาท · มงคล 38</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">นิกาย</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 90%;">เถรวาท · มหายาน · วัชรยาน</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">สังคมศาสนาพุทธ</td> </tr> <tr> <td style="font-size: 90%;">ปฏิทิน · บุคคล · วันสำคัญ · ศาสนสถาน</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">การจาริกแสวงบุญ</td> </tr> <tr> <td style="font-size: 90%;">พุทธสังเวชนียสถาน ·
    การแสวงบุญในพุทธภูมิ</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 95%; color:#ffffff; background-color:#8A9E49;">ดูเพิ่มเติม</td> </tr> <tr> <td colspan="2" style="font-size: 90%;">อภิธานศัพท์ศาสนาพุทธ
    หมวดหมู่ศาสนาพุทธ</td> </tr> </tbody></table> พระจูฬปันถก หรือ พระจูฬปันถกเถระ, พระจุลลปันถกะ เป็นชาวเมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เป็น 1 ในพระอสีติมหาสาวก ของพระพุทธเจ้า
    พระจูฬปันถก เป็นน้องชายของพระมหาปันถก ท่านบวชตามการสนับสนุนของพี่ชาย เมื่อแรกบวชท่านเป็นคนมีปัญญาทึบมาก ไม่สามารถท่องมนต์หรือเข้าใจอะไรได้เลย จึงทำให้ท่านถูกพระพี่ชายของท่านขับไล่ออกจากสำนัก เมื่อพระพุทธเจ้าทราบความจึงได้ให้ประทานผ้าเช็ดพระบาทสีขาวบริสุทธิ์ให้ ท่านไปลูบ จนในที่สุดท่านพิจารณาเห็นว่าผ้าขาวเมื่อถูกลูบมีสีคล้ำลง จึงนำมาเปรียบกับชีวิตของคนเราที่ไม่มีความยั่งยืน ท่านจึงได้เจริญวิปัสสนาและบรรลุพระอรหันต์เพราะสิ่งที่ท่านพบจากการลูบผ้า ขาวนั่นเอง
    เมื่อท่านบรรลุพระอรหันต์ ท่านได้ปฏิสัมภิทาญาณชำนาญในการใช้มโนมยิทธิ ท่านจึงได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าให้เป็นผู้เป็นเอตทัคคะในด้านชำนาญในมโนมยิทธิ<sup id="cite_ref-1" class="reference">[1]</sup>
    พระจูฬปันถก เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ปัญญาในการตรัสรู้ไม่เกี่ยวกับปัญญาในการจำเรียนรู้ทั่วไป (สัญญา) ปัญญาในการตรัสรู้คือจินตมยปัญญา กล่าวคือความสามารถที่จะใช้ปัญญาแยบคายที่เกิดจากใช้ปัญญาภายในพิจารณาให้ เห็นความจริงของโลกได้ด้วยตนเองได้หรือไม่ การท่องจำหรือเรียนเก่งไม่เก่งจึงไม่ใช่อุปสรรคในการตรัสรู้ธรรม
    เนื้อหา






    ประวัติ

    ออกบวชเพราะพี่ชาย

    พระจูฬปันถกะ เป็นน้องชายร่วมมารดาบิดาเดียวกันกับพระมหาปันถกเถระผู้ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ไปก่อนหน้า พระจูฬปันถกได้เห็นพี่ชายมีแต่ผู้คนเคารพกราบไหว้ ดูแล้วอยากเป็นบ้าง จึงถามพี่ชายทำอย่างไรถึงมีผู้คนเคารพกราบไหว้ แล้วน้องจะเป็นได้ไหม พี่ชายจึงให้ออกบวช จากนั้นพี่ชายก็ขออนุญาตจากธนเศรษฐีผู้เป็นคุณตา ซึ่งก็ได้รับอนุญาตด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง เพราะคุณตาก็เป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากอยู่แล้ว
    ถูกไล่สึกโดยพี่ชาย

    เมื่อท่านออกบวชพระพี่ชายของท่านได้สอนให้ท่องคาถาบทหนึ่งคือ
    <table style="border-collapse: collapse; margin: default 10px auto 10px auto; width: auto;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="center"> <tbody><tr> <td style="padding: 10px;" valign="top" width="20">[​IMG]</td> <td>
    ปทุมํ ยถา โกกนุทํ สุคนฺธํ ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ องฺคีรสํ ปสฺส วิโรจมานํ ตปนุตมาทิจฺจมิวนฺตลฺเข ฯ
    คำแปล: ดอกปทุมชาติที่ชื่อว่าโกกนุท ขยายกลีบแย้มบานตั้งแต่เวลารุ่งอรุณยามเช้า กลิ่นเกษร หอมระเหยไม่รู้จบเธอจงพินิจดูพระสักยมุนีอังคีรส ผู้มีพระรัศมีแผ่ไพโรจน์อยู่ ดุจดวงทิวากร ส่องสว่างอยู่กลางนภากาศ ฉะนั้น
    </td> <td style="padding: 10px;" valign="bottom" width="20">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ปรากฏว่าเวลาผ่านไปถึง 4 เดือน ท่านก็ไม่สามารถท่องคาถาดังกล่าวที่มีเพียง 4 บรรทัดได้ <sup id="cite_ref-2" class="reference">[2]</sup> เพราะท่านเป็นคนปัญญาทึบมาก (ท่านกล่าวถึงตนเองเมื่อภายหลังว่า "เมื่อก่อน ญาณคติเกิดแก่เราช้า") จากการผลของกรรมที่ท่านทำไว้ในอดีต ท่านจึงถูกพระพี่ชายของท่านไล่ออกจากสำนัก
    พระพุทธเจ้าโปรดพระจูฬปันถก-บรรลุอรหันต์

    หลังจากท่านถูกพี่ชายไล่สึก ท่านมีความน้อยเนื้อต่ำใจมาก เพราะยังมีความอาลัยในผ้าเหลือง จึงไม่ยอมรับแม้กิจนิมนต์ที่หมอชีวกโกมารภัจจ์นิมนต์พระ 500 เพื่อรับฉันภัตตกิจในวันรุ่งขึ้น ท่านได้ไปยืนร้องไห้อยู่ที่ใกล้ซุ้มประตูวัดชีวกัมพวัน พอดีกับพระพุทธเจ้าเสด็จผ่านมาเห็น จึงทรงเขาไปถาม เมื่อทรางทราบความจึงได้ตรัสว่า "ท่านไม่บวชพระเพื่อุทิศพระพี่ชายที่ไหน ท่านบวชเพื่ออุทิศให้เราต่างหาก ท่านมาอยู่กับเราดีกว่า" จากนั้นทรงลูบศีรษะและจับแขนพากลับเข้าวัดไปที่หน้าพระคันธกุฏี จากนั้นพระพุทธเจ้าได้ประทานผ้าเช็ดพระบาทสีขาวบริสุทธิ์ให้ท่านพร้อมกับ สั่งให้ท่านลูบผ้านั้นไปเรื่อย ๆ พร้อมกับภาวนาว่า รโชหรณํ ๆ (แปลว่า เศร้าหมอง) ท่านลูบผ้าได้ไม่นานผ้าขาวนั้นก็หมองคล้ำลง ท่านจึงสติคิดได้ว่า "ผ้านี้แต่ก่อนก็ขาวบริสุทธิ์ แต่พอถูกลูบบ่อย ๆ ก็กลับดำ สรรพสิ่งมันช่างไม่ยั่งยืน" แล้วท่านจึงได้เจริญวิปัสสนากรรมฐานยกผ้าผืนนั้นขึ้นเปรียบเทียบกับอัต ตภาพร่างกายเป็นอารมณ์จนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาในวันนั้นเอง แต่บางตำนานกล่าวว่าพระพุทธเจ้าเล่าเรื่อง จูฬเศรษฐิชาดกให้พระจูฬปันถกเถระฟัง
    แสดงฤทธิ์-ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะ

    เช้าวันต่อมาพระสงฆ์ 599 องค์ พร้อมทั้งพระพุทธองค์เสด็จไปรับภัตตกิจที่บ้านหมอชีวกโกมารภัจจ์ พอหมอชีวกนำภัตเข้ามาถวายพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ทรงปิดบาตรและตรัสว่า "ยังเหลืออีกรูปหนึ่งในวัด" หมอชีวกจึงใช้ให้คนไปนิมนต์ ปรากฏว่าคนนิมนต์เข้าไปวัดเห็นแต่พระสงฆ์นับพันที่พระจูฬปันถกเนรมิตด้วย ฤทธิ์มโนมยิทธิขึ้นมา จึงกลับมา พระพุทธองค์จึงให้คนนิมนต์กลับไปบอกพระเหล่านั้นอีกว่า พระพุทธองค์เรียกพระจูฬปันถก เมื่อคนนิมนต์ไปที่วัดและเรียกเช่นนั้น ปรากฏว่าพระทุกรูปตอบว่าตนคือจูฬปันถกหมด คนนิมนต์จึงกลับมาอีก คราวนี้พระพุทธเจ้าจึงตรัสให้คอยส่งเกตว่าองค์ไหนพูดก่อน ให้คว้ามือองค์นั้นไว้ ปรากฏว่าคนนิมนต์กลับไปทำเช่นนั้น พอจับมือพระจูฬปันถกตัวจริง พระที่ถูกเนรมิตรก็หายไปหมด จึงเป็นที่รู้กันว่าพระจูฬปันถกได้กลายเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญาในครั้ง นั้นเอง
    ในวันนั้น พระพุทธองค์จึงทรงให้พระจูฬปันถกทำอนุโมทนาแก่หมอชีวก และด้วยเหตุดังกล่าวพระพุทธเจ้าจึงยกย่องให้พระจูฬปันถกเป็นเอตทัคคะในด้าน ผู้ชำนาญในมโนมยิทธิ <sup id="cite_ref-3" class="reference">[3]</sup>
    ท่านดำรงสังขารอยู่พอสมควรแก่กาลก็ได้ดับขันธปรินิพพาน


    https://th.wikipedia.org/wiki/พระจูฬปันถกเถระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2016
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    พระจูฬปันถกเถระได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะในด้านชำนาญในมโนมยิทธิ

    ใครคิด ใครว่า มโนมยิทธิ ไม่มีอยู่จริง หรือ อสะท้อนภาพกิเลสความต้องการของตนเองหรือเปล่า ภาพเพ้อฝันจากกิเลสของตนเอง มโนไปเอง ใช้จิตสร้างภาพต่างๆตามกิเลสตนต้องการ เป็น ตุ เป็น ตะ หรือป่าว

    พิจารณาดูด้วยภูมิธรรมตัวเองก็แล้วกันครับ ^^

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2015
  3. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    960
    ค่าพลัง:
    +711
    เรื่องนี้ให้ข้อคิดหลายอย่าง

    บทที่พระพุทธเจ้าสอน

    "ผ้านี้แต่ก่อนก็ขาวบริสุทธิ์ แต่พอถูกลูบบ่อย ๆ ก็กลับดำ สรรพสิ่งมันช่างไม่ยั่งยืน"

    แต่พอบรรลุธรรม กลับได้ อภิญญา และยัง เลิศในด้านมโนมยิทธิ


    อีกอย่าง

    พี่ชายพระมหาปันถก เป็นพระอรหันต์ ปฏิสัมภิทามรรค
    แต่ ไม่สามารถ สอนพระจูฬปันถกได้

    พระพุทธเจ้าทรงเป็นเลิศในการสอนจริงๆ

    ใครอ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรบ้างก็ลองสังเกตุเอาในเรื่องพระจูฬปันถก

    ไม่ควรดูถูกตัวเอง ว่า ไม่มีบารมี ไม่มีบุญ
    ด้วยเหตุว่า เราไม่รู้ว่า เราเคยเกิดตายมากี่ชาติและทำอะไรมาบ้าง

    ไม่ควรท้อแท้สิ้นหวัง เห็นคนที่เขาอวดว่ามีอภิญญา ทำได้เป็น ตุ เป็น ตะ
    ก็อย่าไปน้อยใจ ด้วยเหตุว่า เราไม่รู้ว่า เราเคยเกิดตายมากี่ชาติและทำอะไรมาบ้าง


    หากท่านๆมุ่งตั้งใจจริงอย่างพระจูฬปันถก
    ใครจะไปรู้ เมื่อท่านๆบรรลุธรรม อภิญญาจะเกิดกับท่านๆอย่างไม่มีประมาณ
     

แชร์หน้านี้

Loading...