พระพุทธเจ้า ถูกดูหมิ่นดูแคลนอย่างร้ายแรง ในเว็บพันทิพ

http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2006/12/Y4994533/Y4994533.html
ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรครับ สำหรับคนที่หลงทางเช่นนี้

 

I believed that every religions wanted people to lived, to loved to be good to each other. Our Lord Bhudda is the great teacher, just choose any belived to suit yourself. I always told many English who asked me about Bhuddisht that if I told you this dish is delicious don't believed me until you tasted it.

 

มิจฉาทิฏถิ..อวิชชาจริงๆ .น่าสงสารจังมีสังขารอยู่แดนพุทธแท้ๆ จำได้ว่าพระเจ้าตากสินทรงถวายแผ่นดินนี้เพื่อพระพุทธศาสนา แต่ลูกหลานไฉนไปเอาศาสนาอื่นเข้ามานะ ของดีมีอยู่แล้วเชียว

 

หลงทางไปขนาดนั้นเลย อวิชชาครอบงำ จนมองอะไรไม่ได้แล้ว ปล่อยไปตาม กรรม นำมาให้อ่านครับว่า เดี๋ยวนนี้เขาคิดกันเช่นนี้

 

เข้าไปอ่านมาแล้ว น่าสงสาร มิจฉาทิฐิ แล้วไม่รู้อีกเมื่อไหร อีกกี่แสนภพชาติ พวกเขาถึงจะกลับเข้าสู่วงจรการเห็นสัจธรรมความเป็นจริงของสรรพสิ่ง

เสียดายที่เกิดในประเทศไทย มีเพชรพลอยแต่ไปคว้าเอาขี้ดิน

แม่แต่เราพอเห็นทางบ้างแล้ว จะเดินไปให้ถึงเป้าหมายยังยาก นับประสาอะไรกับคนตาบอดสนิท

ท่านว่า ไม่มีเวรกรรมอะไรที่หนักหนาไปกว่าการเป็นมิจฉาทิฐิ เพราะเท่ากับปิดหนทางการรู้แจ้งธรรม

สัมมาธิฐิ เป็นข้อแรกของมรรค 8 ผิดของแรกเลย จบ แล้ว ทุกสิ่ง

 

นี่ละครับเขาถึงบอกว่า บางทีการตอบโต้ไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าคนเราจะเข้ารกเข้าพง แบบนี้ต้องปล่อยเขาไปแล้วครับ เสียเวลาแนะนำ มิจฉาทิฏฐิมากแล้วครับ ชูความเชื่อตนเอง เหยียบย่ำศาสนาอื่น ขอให้ชาวพุทธเร่งทำทาน ศีล ภาวนา ให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปเถอะครับ

กรรมใครกรรมคนนั้น ถ้าเราเชื่อในสิ่งไหนแล้วจิตใจดีงามไม่ลบหลู่ หรือนำความเดือดร้อนให้ใคร ก็สมควรเชื่อ แต่เขาเหล่านั้นเชื่อในสิ่งนั้นกลับลบหลู่ในความเชื่อของเรา ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ เราทำหน้าที่ชาวพุทธให้ดีที่สุด คือ การเป็นอุบาสก อุบาสิกา ให้ดีที่สุด คือ การให้ทานในพระศาสนาพุทธ ทำนุบำรุงศาสนสถาน ศาสนบุคคล และ ธรรมทาน ถือศีลให้เคร่งครัดให้ยิ่งๆขึ้นไป เจริญภาวนา สวดมนต์ นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนา แค่นี้เราก็ปกป้องศาสนาไม่ให้เสื่อมได้ระดับหนึ่งแล้วละครับ

สาธุกับผู้รักพระศาสนาพุทธทุกท่านครับ

 

ความเป็นมิจฉาทิฐิเท่ากับปิดกั้นมรรคผลนิพานในใจเขาจริงๆ สว่างมา

แล้วจะมืดไปอีกแล้วกรรมของสัตว์โลกจริงๆ


เห็นด้วยกับทุกข้อความของพี่น้องชาวเวปพลังจิตเราที่ออกมาปกป้อง

พุทธศาสนาของเรา เราไม่ละรานใครแต่ก็ไม่อยากให้ใครมาระราน

พุทธศาสนาของเรา ถ้าศาสนาท่านดีจริงก็ไม่ควรมาโจมตีศาสนาผู้อื่น

แค่ท่านมีความคิดอย่างนี้ ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าท่าน........ไม่อยากพูด

แค่นี้พอ แผ่เมตตาให้ ขอให้ท่านเอาตัวให้รอดเถอะในภพข้าง

หน้า หนทางยังยาวไกล กว่าจะพ้นสังสารวัฏฯ กรรมของสัตว์

 

พูดได้ตรงใจครับ สาธุๆ

 

สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรมครับ
ทุกคนก็มีกรรมเป็นของตัวเอง
ถ้าเราปล่อยวาง อุเบกขากับคนเหล่านี้
ใจเราก็จะเป็นสุข ไม่เร่าร้อน
ให้เขารับกรรมโดยลำพังของเขาเองเถิด

 

คน...

 

หลงทางสุดกู่

 

บางที่เรียกพวกหลงทางว่าเป็นพวก "กรรมพวง" มีกรรมเป็นพวง ๆ คือ ทั้งขโยงนับจำนวนมิได้

ผู้ใดตั้งตนเป็นศาสดาs (เติม s ด้วย) เจ้าลัทธิs โดยที่ตนเองยังไม่สิ้นกิเลส แล้วประกาศสอนคน คำสอนย่อมไม่เที่ยงตรง ตามสัจธรรมความเป็นจริง เพราะผู้ไม่สิ้นกิเลสจิตย่อมมีธุลี จึงเป็นเหตุให้สาวกหรือผู้ถือตาม หลง (โมหะ) หลงทางเหมือนโคกระบือที่กำลังเดินกลับบ้านในยามเย็นหลังจากเหนื่อยล้าจากการงาน แต่ด้วยตาฝ้าฟางด้วยเห็นเศษหญ้าแห้งข้างทางนึกว่าหญ้าเขียวสด แล้วก็เดินออกนอกทาง นอกลู่ไปเรื่อย ๆ แล้วก็เข้าป่าเข้ารกเข้าพงไปเลย

สักวันหนึ่งในภพหนึ่งชาติหนึ่งพวกนี้เข้าจะเข้ากระแสธรรมที่แท้จริงเหมือนกัน ด้วยเหตุที่มนุษย์ทุกคนหาความสุขที่แท้จริง แต่พวกนี้เขาจะใช้เวลานานแสนนานกว่าผู้ที่เข้ากระแสอย่างคนพุทธผู้เริ่มปฏิบัติถูกทางแล้ว

ผู้ที่จิตสิ้นกิเลสแล้ว บริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง เอาเส้นผมมาผ่าเป็นพันเสี่ยง ท่านสอนไม่มีเพี้ยนและเที่ยงตรงบนแนวเดียวกัน เพราะท่านสอนสัจธรรมความเป็นจริงที่มีมาคู่โลกคู่จักรวาล เพียงแต่คนตาดีจึงจะเห็น ดังนั้นผู้ที่รู้เห็นจะรู้เห็นในสิ่งเดียวกัน ตรัสรู้ในสิ่งเดียวกัน จึงไม่เพี้ยนเลย เพราะเป็น fact ซึ่งยากที่ผู้ตั้งตนเป็นศาสดาและเจ้าลัทธิใด ๆ ที่ยังไม่สิ้นกิเลสจะทำได้

ปล. ข้อสังเกตุ คำสอน และข้อคิดหลายอย่างของลัทธิอื่นเป็นมิจฉาทิฏฐิ
บางลัทธิสอนเรื่องศีลธรรมยอมรับได้
ศาสนาอื่น ลัทธิอื่นสอนให้ไปนิพพานไม่ได้ เพราะผู้เป็นครูยังไปไม่ได้

 

ปล่อยคนพวกนี้ไปเถอะ ครับ

ถือว่าเค้าไม่มีบุญเหมือนพวกเรา จึงต้องพลัดพรากจากพระพุทธศาสนา

เอาไข่ไปขว้างใส่หน้าผา ผลเป็นอย่างไร ใครๆก็รู้

สวรรค์ - นรก - นิพพาน อยากได้อย่างไหน ไปแสวงหากันเองแล้วกัน

 

สำหรับคนที่ปิดกั้นใจหรือมีอคติเรายากที่จะอธิบายให้เขาเข้าใจได้นะครับ ผมว่าเราชาวพุทธก็ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติธรรมให้ดีให้ถูกต้องตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนจะดีกว่า

รวมถึงเผยแผ่หลักธรรมและความเข้าใจที่ถูกต้องออกไป เมื่อคนส่วนใหญ่เข้าใจ คำพูดที่มีอคติหรือไม่เป็นจริงที่เขาใส่ร้ายพระพุทธเจ้าอย่างมีอคติก็จะไม่มีผลไปเองแหละครับ

ถ้าอ่านในพระไตรปิฎกจะเห็นว่าในสมัยพุทธกาลก็มีเหตุการณ์แบบนี้อยู่มากมายครับ พระองค์ก็ทรงค่อยๆอธิบายพูดคุยชี้แจงด้วยเหตุผล จนผู้ที่มีมิจฉาทิฏฐิกลับตัวกลับใจกันมากมายทีเดียวครับ

 

มีนิทานอยู่เรื่องหนึ่ง...พ่อเราเล่าว่า...มีคน2คนเป็นเพื่อนกัน...คนหนึ่งเป็นคนไม่สนใจการทำความดีหรืออะไรเลย...คงใช้ชีวิตไปตามกิเลสของตนเท่านั้น...ส่วนอีกคนสนใจปฏิบัติตามคำสั่งสอนของนักธรรมและอดทนที่จะฝึกฝนตนเองนั้นเสมอไม่ปล่อยให้ตนเองหลงไปกับกิเลสแห่งตน....เมื่อทั้งสองตายไป...คนที่ไม่สนใจในธรรมได้ไปเกิดเป็นหนอนในส้วมคอยดูดกินมูลถ่ายเป็นอาหาร...และคนที่ปฏิบัติอยู่ในธรรมได้ไปเกิดเป็นเทวดาอยู่เบื้องบนสวรรค์...มาวันหนึ่งท่านได้นิมิตเห็นเพื่อนไปตกระกำลำบากในส้วม...ท่านก็เวทนาปราถนาจะช่วยเพื่อนคนนั้น...ท่านจึงลงไปเมืองมนุษย์...และไปที่ส้วมแห่งนั้น...เมื่อไปถึงท่านก็เรียกเพื่อนของท่านและชักชวนว่า"เพื่อนเอ๋ยบัดนี้เราได้ไปเกิดยังบนสวรรค์มีความสุขมากทีเดียว...เรามาชวนเจ้าไปอยู่ด้วยกันกับเรา" เพื่อนคนนั้นซึ่งขณะนี้เป็นหนอนก็ได้ถามกลับมาว่า"อยู่ข้างบนมีอาหารกินไหม"...เทวดาตนนั้นบอกว่า"ไม่มีอาหารกินหรอก...เราอิ่มทิพย์...ไม่ต้องกินอะไร" ...หนอนตัวนั้นจึงบอกว่า"เราไม่ไปหรอก...ไม่มีอาหารกิน อยู่ที่นี่เราสบายถึงเวลาก็มีคนเอาอาหารมาให้...ไม่ต้องทำอะไร...เราไม่ไปกับเจ้าหรอก...เจ้ากลับไปเถิด...เราสบายแล้ว...ไม่ต้องทำอะไรเราก็มีกิน"...แม้เพื่อนที่เป็นเทวดาจะอ้อนวอนขอร้องเช่นไร...เจ้าหนอนน้อยตัวนั้นก็ยังยืนกรานเช่นเดิม...จนเพื่อนสุดปัญญา...จึงเหาะกลับวิมานแห่งตน...
พ่อเราบอกว่า...ลูกเอ่ย...หากเจ้าจะสอนใคร...จงดูความต้องการของเขาก่อน...ดูสติปัญญาของเขาด้วย...ว่าเขาสามารถรับคำสอนของเจ้าได้หรือเปล่า...นี่คือนิทานของพ่อที่ประเสริฐของเรา....

 

เฮ่อ...ไม่รู้จะว่ายังไง

ยังไงก็ขอมุ่งหน้าสร้างกรรมดีไว้ต่อไป

..................................................................................................................
ขอดวงจิตข้าพเจ้าอยุ่ใต้ร่มพระศาสนาตลอดกาลลล

 

ผมชอบ ข้อความที่ 17 ของคุณ amm
อุปมาอุปมัยได้ชัดเจนมาก ขออนุญาต save ไว้ให้คนอื่นอ่านต่อเพื่อประโยชน์ แต่ผมจะอ้างอิงชื่อคุณนะ

 

.

 

คนประเภท บัวในตม พระพุทธเจ้าท่านไม่ตรัสสอนค่ะ

เราเองก็ไม่ควรไปสนใจ เดี๋ยวจิตจะเศร้าหมองพากันลงนรกตามเขาไปด้วย

เราเองก็ต้องไม่ประมาทเช่นเดียวกัน เพราะคนที่นับถือพระพุทธศาสนา พลาดพลั้งลงนรกก็มีเยอะแยะ แต่ดีตรงมีโอกาสมากกว่าคนเหล่านั้น

ปล่อยๆคนพวกนี้ไปนรกของเขาเถอะค่ะ