พระพรหมดาบส

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย จันทโค, 27 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    พระพรหมดาบส
    กาลครั้งหนึ่ง เมื่อพระบรมโพธิสัตว์เจ้าจุติจากเทวโลกแล้วก็มาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ มหาศาลมีพระนามว่า พรหมกุมาร ครั้นเจริญวัยวัฒนาการแล้ว ก็ได้ศึกษาจนสำเร็จในไตรเวทางค์ และได้เป็นอาจารย์ผู้บอกเวทย์แก่มาณพห้าร้อยคนผู้เป็นนักศึกษา ครั้นจำเนียรกาลนานมา เมื่อท่านมารดาบิดาทั้งสองล่วงลับไปแล้ว พรหมกุมารจึงเรียกมาณพทั้งหลายผู้เป็นศิษย์มาพร้อมหน้ากันแล้ว ก็เร่งบอกมนต์ซึ่งตนควรจะสอนให้เสร็จสิ้นแล้ว ได้จัดการแบ่งปันทรัพย์สมบัติของตนสิ้นทั้งเรือนนั้นให้แก่มาณพผู้เป็นศิษย์ ถ้วนทุกคนแล้วก็ให้โอกาสอนุสาสน์ และกล่าวคำอำลาเพื่อจะไปบรรพชาเป็นดาบส มิใยที่ศิษย์ทั้งหลายจะอาลัยไหว้วอนกล่าวห้ามด้วยความคารวะเป็นอันมากประการ ใด ก็มิได้เอื้อเฟื้ออาลัย สละฆราวาสวิสัยเที่ยวไปแต่พระองค์เดียว เข้าไปอาศัยบัณฑรบรรพต บรรพชาเป็นดาบส ปฏิบัติตนเลี้ยงชีพด้วยผลาผลเป็นอยู่เป็นสุขสืบมา
    ฝ่ายมาณพทั้งหลาย ผู้เป็นศิษย์ของพรหมดาบสนั้นครั้นมารดาบิดาของตนๆ ล่วงลับไปแล้ว ต่างก็พากันออกมาบวชเป็นดาบสอยู่กับพระโพธิสัตว์ทั้งนั้น ด้วยเหตุที่มีความรักเป็นกำลังมาแต่ปางก่อนพระโพธิสัตว์ก็สอนให้ประพฤติวัตร บำเพ็ญพรตตามแบบอย่างของดาบสโดยถ้วน อยู่ร่วมกันมาโดยผาสุกตามสมควร
    วันหนึ่ง เมื่อดาบสทั้งหลายเที่ยวไปแสวงหาผลาผลยังมิได้กลับมา ท่านอาจารย์พรหมดาบสจึงเรียกศิษย์ผู้ใหญ่ซึ่งอยู่เฝ้ากุฏิใกล้ตนมาแล้ว ชวนกันขึ้นไปสู่บัณฑรภูผาเพื่อแสวงหาผลไม้ เมื่อเที่ยวไปในที่นั้นๆ ก็มิได้ผลไม้อันใดอันหนึ่งเลย จึงแลลงไปที่เชิงภูเขาก็ได้เห็นแม่เสือตัวหนึ่ง มีลูกอ่อนออกใหม่ได้ประมาณสองสามวัน แม่เสือตัวนั้นอดอาหารอยู่แลเขม้นดูลูกของตนด้วยจิตโหดร้าย คิดจะใคร่จับลูกของตนเองเคี้ยวกินเป็นภักษา พระพรหมดาบสแลเห็นอาการก็รู้ว่าแม่เสือจะกินลูกของตนเองแน่แล้ว จึงรำพึงในหฤทัยว่า
    “โอหนอ วัฏสงสารนี้ ควรที่จะพึงติเตียนโดยแท้ ดูรึแม่เสือตัวนี้คิดจะขบกัดเคี้ยวกินลูกที่เกิดแต่สายโลหิตตน เพื่อจะรักษาชีวิตแห่งตนไว้ถ่ายเดียว เช่นนี้ จึงควรที่เห็นว่าวัฏสงสารนี้เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก” ครั้นรำพึงดังนั้นแล้วพระพรหมดาบสจึงใช้ดาบสศิษย์ผู้ใหญ่ซึ่งไปด้วยกันนั้น ว่า “ท่านจงรีบไปหาเนื้อเดนเสือหรือราชสีห์ตามข้างๆ ภูเขานี้ดูทีหรือ หากว่าจะมีอยู่บ้าง แม้นได้แล้วจงรีบนำมาโดยเร็ว เราจักให้แก่แม่เสือตัวนี้” ดาบสศิษย์ผู้ใหญ่รับคำแล้ว ก็รีบไปหาเดนมัสสะในที่ทั่วๆไป แต่ก็หามิได้
    ฝ่ายพระพรหมดาบสผู้โพธิสัตว์ เมื่อศิษย์ผู้ใหญ่ไปนานแล้ว และยังมิได้กลับมาจึงรำพึงในหฤทัยว่า
    “โอ ร่างกายนี้ เป็นของเปล่าปราศจากแก่นสารเป็นที่อาศัยแห่งชาติ ชรา พยาธิ มรณะ และมีโสกะความแห้งใจ ปริเทวะความร่ำไรรำพัน ทุกข์ยากลำบากกายไม่สบายใจโทมนัสขุ่นข้องหมองใจอุปายาสะความคับแค้นใจ อนึ่งกายนี้เป็นที่เกิดของกองทุกข์กับทั้งมีราคะกิเลสเป็นประดุจหัตถีที่ บ้างคลั่งเมามัน มีโมหะมืดมิดปิดธรรมเป็นประดุจดังผีเสื้อน้ำรักษาสระมีอุปนาหะความผูกโกรธ เป็นประดุจดังแว่นแคว้นเมืองมากด้วยคนพาล มีมักขะความลบหลู่คุณท่านเป็นประดุจที่อยู่ของกุมภัณฑ์ มีปลาสะความสำคัญวิปลาสเป็นประดุจดังนายทวารผู้มีสันดานดื่มไปด้วยอิสสาฤษยา มีทุจริตเป็นบริวารแวดล้อมไปด้วยโลภ มีนันทิภวราคะความกำหนัดยินดีในภพเป็นมหาโยธา มีมิจฉาทิฐิเป็นธรรมวินิจฉัย คือ ราชบัญญัติบทอัยการ มีอวัณณะความพรรณนาโทษเป็นกองทุกข์มาก มีวิตกความตรึกตรองเป็นหมู่แมลงวันพึงเกลียดชัง มีมทะความมัวเมาเป็นเหล่าคนธรรพ์ขับร้อง มีปมาทะความมัวเมาเป็นช่างฟ้อนมาซ่องเสพอยู่ มีทิฐิเป็นที่อาศัย มีอนุสัยเป็นบ้านที่อยู่ของหมู่พราหมณ์ มีสัญโภชน์ความผูกล่ามไว้ในสามภพเป็นอำมาตย์ผู้ใหญ่ในกายนคร และมีอวิชชาเป็นอันธการราชบรมกษัตริย์เถลิงราชสมบัติเป็นอิสสราธิบดีอยู่ใน กายนครนี้”
    ครั้นพระมุนีพรหมดาบสพิจารณารำพึงถึงธรรมสรีระดังนี้แล้ว ดาบสศิษย์ผู้ใหญ่ที่ตนใช้ให้ไปหาเศษเนื้อก็ยังไม่กลับมา จึงจินตนาการสืบไปอีกว่า ในเมื่อสัตว์ทั้งหลายบรรดาที่มีรูปกายครองอยู่ได้เสวยทุกข์เห็นปานนี้ จะมีทางปลดเปลื้องทุกข์นั้นด้วยธรรมสิ่งไร เมื่อนึกไปก็เห็นว่าพุทธกรธรรมเท่านั้นที่สามารถจะทำสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้ เมื่อมองเห็นแท้แน่ฉะนี้แล้วจึงจินตนาการต่อไปว่า
    “อันพุทธการกธรรมนี้ ถ้าบุคคลใดไม่สามารถที่จะทำกรรมที่บุคคลอื่นทำได้ยาก ไม่สามารถบริจาคสิ่งที่บุคคลอื่นบริจาคได้ยาก ไม่สามารถให้ทานที่บุคคลอื่นให้ได้โดยยาก ไม่สามารถอดกลั้นกรรมที่บุคคลอื่นอดกลั้นโดยยาก อย่างนี้แล้วบุคคลนั้นจะบำเพ็ญพุทธการกธรรมนี้ให้สำเร็จหาได้ไม่ ก็แลสรีราพยพคือร่างกายของเรานี้ ย่อมมีอาทีนวโทษเป็นอันมากมิได้ยั่งยืนอยู่สิ้นกาลนาน และจิตใจเรานี้อาศัยอยู่ในร่างกายนี้ย่อมมีอารมณ์ไม่เป็นหนึ่ง คือ ไม่เที่ยงแท้แน่นอน ย่อมแปรปรวนไปเป็นนิตย์ เอาเถิด บัดนี้เราจักให้สรีระร่างของเรากับทั้งชีวิตนี้ให้เป็นทานแกแม่เสือหิวตัว นี้ ให้ทันกาลที่จิตกำลังเสื่อมใสใคร่บริจาคในกาลนี้เถิด เออ ก็เราจะเป็นห่วงอันใดด้วยการจะให้อาหารที่อื่นเล่า”
    พระโพธิสัตว์เจ้าคำนึงจินตนาการดังนี้แล้ว จึงตั้งจิตปณิธานว่า
    “ด้วยเดชะบุญกรรมนี้ ขอเราจงได้ตรัสเป็น
    พระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ให้เรานำสัตว์ทั้งหลาย
    ออกจากวัฏสงสารให้ถึงความระงับดับทุกข์ด้วยเถิด”
    ครั้นตั้งจิตปณิธานปรารถนาพระพุทธภูมิดังนี้แล้ว เพื่อจะประกาศแก่หมู่เทพยดาให้รู้ทั่วกันอีกเล่า พระพรหมดาบสโพธิสัตว์เจ้าจึงประกาศเป็นเนื้อความว่า
    “ขอทวยเทพเจ้าทั้งปวงคือ ภูมิพฤกษาเทวา และอากาสเทวาทั้งสมเด็จพระอัมรินทราเจ้า และท้าวมหาพรหมปชาบดี ศศิธรเทพบุตร ทั้งพญายมและท้าวจาตุมหาราชโลกบาลทั้งสี่ ทวยเทพซึ่งสถิตอยู่ ณ สถานทุกถิ่นที่ ตลอดจนนารทบรรพตจอมภูผาขออัญเชิญทั่วทุกพระองค์ จงมากระทำอนุโมทนาในชีวิตสรีรทานของข้าที่ได้รับอบรมสั่งสมกระทำ ณ กาลบัดนี้เถิด”
    ครั้นประกาศแก่ทวยเทพเจ้าดังนี้ ขณะที่ดาบสศิษย์ผู้ใหญ่ยังมิทันได้กลับมาถึง พระพรหมดาบสซึ่งมีน้ำใจกล้าหาญก็โจนทะยานจากยอดบัณฑรภูผาตกลงเฉพาะหน้าเสือ โคร่งแม่ลูกอ่อน ขณะนั้นนางพยัคฆ์ที่กำลังหิวกระหายนักหนา เมื่อเห็นอาหารตกลงมากองอยู่ข้างเช่นนั้นก็ละไม่กินลูกของมัน แล่นมาบริโภคมังสะสรีราพยพของพระบรมโพธิสัตว์เจ้าในกาลบัดนั้นทันที
    ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย บรรดาที่มีใจเคารพเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนา จงพิจารณาดูเถิดว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านปรารถนาพระพุทธภูมิเพื่อตรัสเป็นพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ท่านต้องมีน้ำพระทัยมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวอาจหาญเพียงไร ใช่แน่แล้ว พระองค์ต้องทรงสละชีวิตเข้าแลกกับพระโพธิญาณมาจนนับครั้งไม่ถ้วน เช่นครั้งที่พระองค์เสวยพระชาติเป็นพรหมดาบสที่เล่ามาแล้วนี้ นี่เป็นเพียงครั้งหนึ่งในจำนวนมายหลายเท่านั้น นอกจากนี้แล้วในระยะการสร้างพระบารมีตอนต้นนี้ พระองค์ยังต้องประสบกับความทุกข์ยากมากมาย เพราะอำนาจของการเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารตามเรื่องที่ปรากฏมีในพระคัมภีร์ ทางพระพุทธศาสนาดังต่อไปนี้
     
  2. arnonpattana

    arnonpattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +216
    ขอบคุณสำหรับธรรมมะทาน

    สาธุครับ

    ขออุทิศส่วนกุศลที่ได้จากการอนุโมทนาบุญนี้ให้กับเจ้าของกระทู้นะครับขอให้มีความสุขมากๆนะครับและรักษาตนไปรอดจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ สาธุ

    ขอให้สัตว์ผู้นี้จงอย่าได้พรัดพรากจากสมบัติที่ตนได้รับเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...