พระผงไตรมาสครูบาศรีนวลวัดเจริญเมืองเชียงรายพระสมเด็จทรงครุฑลป.ผลวัดเนินทองสมเด็จผง๑๒กษัตริย์วัดเสด็จ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    พระธาตุพนม_วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร.jpg
    1742741536955.jpg

    หลวงปู่ตื้อ-อจลธัมโม-วัดป่าอรัญญวิเวก-บ้านข่า.jpg

    paragraph__400_443.jpg

    พระผงนาคปรก พระธาตุพนม เนื้อผงว่านสภาพสวย เดิมๆ หน้าตายังคงชัดเจน ด้านหลังยันต์ชัด ที่ระลึกสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ วัดพระธาตุพนม อ.เมือง จ.นครพนม ปี 2518 รวมเกจิสายอีสาน ร่วมปลุกเสก โดยเฉพาะอาจารย์ฝั้น อาจาโร ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกโดยคณาจารย์จากทั่วประเทศ และ สายอีสานพระอาจารย์มั่น รวมจำนวนกว่า 100 รูป พิธียิ่งใหญ่มาก งานนี้พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพฯ นครพนม, หลวงปู่คําพันธ์ วัดธาตุมหาชัย, หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก และคณาจารย์สายกรรมฐานอีกหลายรูป ปัจจุบันหายากแล้วนะครับ สายอีสานไม่ควรพลาด สภาพเดิมๆจากวัด พระพุทธคุณสูง พิธีดี พระรุ่นนี้จัดสร้างขึ้นในปี 2518 ในการฉลองการบูรณะพระธาตุพนม ซึ่งมวลสารที่ใช้ก็มีทั้งปูนพระธาตุ ว่านมงคล ผงวิเศษ แร่มงคล ปลุกเสกโดยเกจิสายกรรมฐานหลายสิบรูป ร่วมทำการปลุกเสกด้วย นับว่าเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชาโดยแท้ องค์นี้พระสวยมาก ไม่เคยใช้เลย เก็บก็ดี บูชาก็เยี่ยม
    พระผง พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนม ปี2518 ที่ระลึกในงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ วันที่ 26 ธันวาคม 2518 รวมเกจิสายอีสาน ร่วมปลุกเสก โดยเฉพาะอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ เกจิสายอาจารย์มั่น ร่วมปลุกเสก "พระธาตุพนม" ปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของชาวพุทธสองฝั่งโขง ประดิษฐานอยู่ที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นใน พ.ศ. 8 มีอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ บรรจุสิ่งของมีค่ามากกว่า 2,500 ชิ้น และบรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า) และพระบรมสารีริกธาตุอีกหลายองค์ ตลอดระยะที่ผ่านมามีการบูรณปฏิสังขรณ์รวม 5 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2518 องค์พระธาตุพนม ปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนครพนม ได้ล้มครืนพังทลายลง ได้สร้างความเศร้าสลดให้กับพุทธศาสนิกชนไทยทั้งประเทศ พระบรมธาตุเจดีย์แห่งนี้บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก) พระพุทธเจ้าและพระบรมสารีริกธาตุอีกหลายองค์ภายหลังพบพระอุรังคธาตุได้ 2 เดือน 26 วัน ในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้จัดงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุอื่นๆ อีก 115 องค์ อัญเชิญประดิษฐานในพลับพลาพิธี ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่รวม 7 วัน 7 คืน ในระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2518 - 1 ม.ค. 2519 ถือเป็นงานสมโภชระดับชาติ ที่มีพิธีทางพระพุทธศาสนาและพิธีทางบ้านเมืองไปพร้อมกันวันที่ 26 ธันวาคม 2518 ประมุขฝ่ายสงฆ์ นำโดยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ 17 รูป เฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯทรงสรงพระกรัณฑ์พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรซากปรักหักพังขององค์พระธาตุพนม ก่อนเริ่มพระราชพิธี 3 วัน จังหวัดนครพนม โดยนายพิศาล มูลศาสตรสาทร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้จัดสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก "สมโภชพระธาตุพนม" นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่ลานต้นศรีมหาโพธิภายในวัด ปลุกเสกโดยคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมจากสำนักต่างๆ จำนวน 9 รูป หนึ่งในนั้นมีพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระเกจิชื่อดังร่วมในพิธีแผ่เมตตาจิต วัตถุประสงค์ตั้งใจ เพื่อนำปัจจัยมาบูรณะองค์พระธาตุพนม รุ่นนี้ได้รับการกล่าวขานว่ามีประสบการณ์สูง ด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เป็นที่นิยมในหมู่ทหาร ตำรวจ ตชด. และ นปข.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสมรภูมิ เป็นวัตถุมงคลที่เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองและมีพุทธานุภาพสูง วัตถุมงคล พระธาตุพนม ที่ระลึกในงานสมโภชพระบรมสารีริกธาตุปี 2518 เกจิดังสายกรรมฐานปลุกเสกหลายองค์ จัดสร้างเป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2518 ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกโดยคณาจารย์จากทั่วประเทศ และสายอีสานพระอาจารย์มั่น รวมจำนวนกว่า 100 รูป พิธียิ่งใหญ่มาก งานนี้พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพฯ นครพนม, หลวงปู่คําพันธ์ วัดธาตุมหาชัย, หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก และคณาจารย์สายกรรมฐานอีกหลายรูป ได้ร่วมในพิธีด้วย เนื่องจากเป็นพิธีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินในคราวนี้ด้วย พระรุ่นนี้ออกให้ประชาชนเช่าบูชาพร้อมกับเหรียญพระธาตุพนม เพื่อนำปัจจัยมาทำการบูรณะพระธาตุพนม ซึ่งได้ สร้างเสร็จเมื่อปี 2522 วัตถุมงคลรุ่นนี้มีประสบการณ์ดีมาก ทางด้านแคล้วคาด คงกะพันชาตรี เป็นนิยมในหมู่ทหาร ตำรวจ และ นปข. (หน่วยปฏิบัติการตามลำน้ำโขง) พระธาตุพนมเป็นพระธาตุที่บรรจุพระอุรังคธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครที่ไปสักการะถือเป็นมงคลต่อชีวิตอย่างยิ่ง พระธาตุพนมนั้นประดิษฐานพระอุรังคธาตุของสมเด็จพระบรมศาสดาเอาไว้ และมีพญานาคจากนครพิภพพลัดกันเข้าเวรอารักษ์ขาพระธาตุ ดังนั้นปรกพระธาตุพนมจึงแทนองค์พระธาตุพนมและพญานาค ผู้ใดมีไว้ติดตัวเรื่องแคล้วคลาดดีนัก
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250323_214746.jpg IMG_20250323_214825.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2025 at 21:56
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    get_auc3_img (9).jpeg
    พระผงพิมพ์ชนะมาร เนื้อมวลสารอริยะธาตุกว่า ๑,๐๐๐ ชนิด ฝังพระธาตุสมเด็จพระพุทธกัสสป(ทรายคำศรีจอมทอง)
    กองทุนหลวงปู่ปานฯ ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา และบูชาคุณพระรัตนตรัยและคุณครูบาอาจารย์ เนื่องในงานเททองหล่อรูปเหมือนอริยะและอริยะเถรี เพื่อตอบแทนบุญท่านผู้ร่วมหล่อรูปเหมือนดังกล่าว และสมทบบุญโครงการบุญต่าง ๆ ของกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ
    ด้านหน้า เป็นรูปองค์พระพุทธนั่งปางชนะมารใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์ ใต้บัลลังก์มีรูปพระนางธรณีบีบมวยผม ตอนเป็นพยานบุญให้พุทธองค์มีชัยเหนือพญามาร โดยรูปทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบสี่เหลี่ยมทรงสมเด็จ
    ด้านหลังได้นำพระยันต์ยอดพระไตรปิฏกอันศักดิ์สิทธิ์ประทับไว้ด้านหลัง ภายใต้พระยันต์มีคำว่า "กองทุนหลวงปู่ปานฯ"
    เนื้อพระเป็นมวลสารล้วน ๆ ครับ จะมีผสมทรายกับปูนเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
    ขนาดประมาณ 2.5 x 3.5 ซม.
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 250 ค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250323_223516.jpg IMG_20250323_223600.jpg
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    FB_IMG_1742752539651.jpg

    หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด รุ่นกระทรวงกลาโหม 115 ปี ปี 2545 เนื้อว่าน เสกวัดพระโค๊ะและบนเรือรบหลวงกลางทะเล จ.สงขลา วัตถุมงคลหลวงพ่อทวด ที่ระลึก115ปีกระทรวงกลาโหม เป็นรุ่นที่ดีทั้งมวลสาร เจตตนาการสร้าง โดยเฉพาะพิธีพุทธาภิเษก ฤกษ์ดีแและยิ่งใหญ่มาก ส่วนเนื้อเหล็กน้ำพี้เป็นเนื้อพิเศษ คงสิทธิ์ในตัว จำนวนการจัดสร้างค่อนข้างซับซ้อน เป็นเนื้อที่ปัจจุบันหายากมาก ส่วนมากอยูกับผู้ใหญ่หรือนายทหารชั้นผู้ใหญ่
    วัตถุมงคลหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด รุ่น ๑๑๕ ปี กระทรวงกลาโหมนี้ มีพระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะหนใต้และกรรมการมหาเถรสมาคม วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ฝ่ายบรรพชิต พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ เป็นประธานที่ปรึกษาฝ่ายคฤหัสถ์ ที่ปรึกษาประกอบด้วย พล.อ.สมทัต อัตตะนันต์ พล.อ.อุทัย ชินวัตร พล.อ.อู๊ด เบื้องบน ฯลฯ โดย พล.อ.อัครเดช ศศิประภา เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการ
    สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรและไฟพระฤกษ์โดย พล.ท.อนันต์ เครือแก้ว เป็นผู้อัญเชิญ พล.อ.ประยูร มีเดช ประธานดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อทวด รุ่นครบรอบกระทรวงกลาโหม 115 ปี เป็นผู้รับไฟพระฤกษ์และผ้าไตรพระราชทาน ซึ่งทำพิธีกันที่วัดพะโคะ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา
    พิธีปลุกเสกครั้งนี้ยิ่งใหญ่จริง ๆ เพราะได้รวบรวมเกจิอาจารย์จากภาคต่าง ๆ มาหลายรูปเพื่อสวดคาถาพุทธาภิเษก อธิษฐานจิตภาวนา อาทิ
    พระพิศาลพิพัฒนพิธาน หรือหลวงปู่ผัน วัดทรายขาว, พระครูประสุตโศภณ หลวงพ่ออั้น วัดในวัง, พระครูขันตยาทร หลวงพ่อทอง วัดท่าประดู่, พระปริยัติวรานุกูล หลวงพ่อสุนทร วัดหงษ์ประดิษฐาราม, พระครูอรรถธรรมนาถ หลวงพ่อบุญ วัดคลองเห, พระปริยัติมุนี หลวงพ่อสัมพันธ์ วัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างให้), หลวงพ่อดำ วัดเขาพูนทอง จ.จันทบุรี,หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ, หลวงพ่อพิมพ์ วัดพฤษะวัน จ.พิจิตร และหลวงพ่ออุดมทรัพย์ วัดประสิทธิเวช จ.นครนายก
    หลวงพ่อทวดรุ่นนี้ พิธีพุทธาถิเษก ปลุกเสก ณ.วัดพะโค๊ะ และบนเรือรบหลวงกองเรือยุทธการภาคที่ 2 กลางทะเล จังหวัดสงขลา วันที่ 29 - 30 พฤศจิกายน 2545 พระดี พิธียิ่งใหญ่
    -พุทธคุณทุกด้าน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    หลวงปู่ทวดเนื้อผงว่าน ๒ องค์คู่

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250324_004248.jpg IMG_20250324_004307.jpg
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    1661222655049.jpg

    หลวงปู่กลั่น คุณวโร แห่งวัดอินทราวาส อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง แรกเริ่มเดิมที ท่านเป็นชาวโพธิ์พระยา จ.สุพรรณบุรี สมัยยังเป็นฆราวาส ก็มีชีวิตเหมือนลูกผู้ชายไทยในอดีต คือ.เสือเก่า ท่านมีความสนิทสนม กันมากกับ อดีตเสือใหญ่แห่งเมืองสุพรรณฯ (เสือฝ้าย เพ็ชนะ)
    ท่านขลังมาตั้งแต่ก่อนบวชเสียอีก เพราะยามว่างท่านก็ไปรับจ้างลงใบลานในวัด และ เล่าเรียนวิชาจาก
    พระอาจารย์ (หลวงปู่อ่อน อุตโม วัดชีสุขเกษม เป็นพระอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาหลักๆของท่านเป็นส่วนใหญ่-ต้นตำหรับพระยันต์ที่ท่านใช้เป็นตัวหลักคือ."น.ทอทรหด")
    หลวงปู่คำ วัดหน่อพุทธางกูล (อยู่ตรงกันข้าม) ท่านแสวงหาวิชา-พระอาจารย์ผู้ทรงคุณมากมายหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น
    หลวงพ่ออี๋(ไปเอา"กันหะ เนหะ"),
    หลวงพ่อภักต์ วักโบสถ์,
    หลวงพ่อภู วัดดอนรัก (เอาการสร้างตะกรุด),
    หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ,
    พ่อท่านคล้าย สวนขัน (เอา ฤ ฤามา-ฦ ฦาไป ใช้เวลา.6 เดือนกว่าจะได้.ใช้เวลาเรียนมาที่สุดในเท่าที่เรียนมาทุกๆ พระอาจารย์ฯ) และ ฆราวาส(อิสลาม) จ.ปัตตานี (เอาวิชาดูตูดจาน"เปิด3โลก")
    ส่วนที่ว่า ท่านเป็นลูกศิษย์ ลพ.ดิ่ง วัดบางวัวนั้นไม่จริง ท่านไม่เคยไปเรียนกับ ลพ.ดิ่ง บางวัวเลย วิชา.ลิง(หนุมาน) และปลักขิก ท่านเรียนมาจาก ลป.อ่อน อุตโม ทั้งสิ้น เพราะ ลป.อ่อน อุตโม ท่านสร้างปลัดขิก และ ลิงไม้แกะ ด้วย ส่วนพระยันต์ (สัพวิชาต่างๆ) ลป.กลั่น คุณวโรท่านนำมาใส่เสริมลงไปในวัตถุมงคลท่าน (เปรียบเสมือนยาหม้อใหญ่) วัตถุมงคลของท่านที่ทุกท่านรู้จักเสียส่วนใหญ่ ก็คือ.ปลัดขิก แต่จริงๆท่านสร้างไว้มากมาย ล้วนแล้วแต่มากประสบการณ์มากมาย วัตถุมงคลท่านๆท่านเสกเอง องค์เดียว ไม่นิมนต์ท่านใดมาร่วมเสก
    ท่านเคยบอกว่า (สมัยสร้างพระประธานในโบสถ์"หลวงพ่อในโบสถ์"พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์")ว่า.
    (ลูกศิษย์): ลป.ครับ จะนิมนต์พระอาจารย์รูปใดบ้าง มาฉลองโบสถหลังใหม่และพระประธาน
    (ลป.กลั่น คุณวโร): จะเชิญท่านมาทำไม เราก็สร้างเอง-เสกเองได้ ดั่งที่ที่โบราณท่านว่าไว้.ชาติเสือ ไม่ขอเนื้อใครกิน
    วัตถุมงคลของท่านก่อนที่จะให้ใครไป ท่านจะต้องมั่นใจดีแล้วจึงให้ไป ท่านว่า.มันจะเป็นบาป-เป็นกรรม แต่ท่านก็ไม่เคยบอกกล่าวใครนะว่า.ของท่านดีอย่างไร-กันอะไร ท่านก็แค่กล่าวว่า.ของดี-ของมงคล จะเอาไว้ที่บ้านก็ดี เป็นมงคลบ้าน ไว้ที่ตัวก็ดี เป็นมงคลตัว ใครจะมาบอกว่า.พอเอาของท่านไปๆพบเจออะไรบ้างท่านก็เฉย กล่าวแต่ว่า.ก็ดี เป็นของมงคล แล้วก็ยิ้ม /
    พระผู้ที่ชาวอ่างทองให้ความเคารพนับถือมาก ท่านดังทางด้านปลัดขิกครับ วัตถุมงคลท่านมีประสบการณ์มาก โดยเฉพะด้านเมตตา และมหาอุตม์ นั้นเป็นที่เลื่องลือมาก คนเฒ่าคนแก่เคยบอกว่า หลวงพ่อกลั่น ท่านขลังขนาดเคยนั่งปรกปลุกเสก จนปลัดสั่นเขยื้อน กระโดดในบาตรไปมาเลยที
    ขอขอบคุณ
    หลวงปู่กลั่น คุณวโร แห่งวัดอินทราวาส อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง แรกเริ่มเดิมที ท่านเป็นชาวโพธิ์พระยา จ.สุพรรณบุรี สมัยยังเป็นฆราวาส ก็มีชีวิตเหมือนลูกผู้ชายไทยในอดีต คือ.เสือเก่า ท่านมีความสนิทสนม กันมากกับ อดีตเสือใหญ่แห่งเมืองสุพรรณฯ (เสือฝ้าย เพ็ชนะ)
    ท่านขลังมาตั้งแต่ก่อนบวชเสียอีก เพราะยามว่างท่านก็ไปรับจ้างลงใบลานในวัด และ เล่าเรียนวิชาจาก
    พระอาจารย์ (หลวงปู่อ่อน อุตโม วัดชีสุขเกษม เป็นพระอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาหลักๆของท่านเป็นส่วนใหญ่-ต้นตำหรับพระยันต์ที่ท่านใช้เป็นตัวหลักคือ."น.ทอทรหด")
    หลวงปู่คำ วัดหน่อพุทธางกูล (อยู่ตรงกันข้าม) ท่านแสวงหาวิชา-พระอาจารย์ผู้ทรงคุณมากมายหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น
    หลวงพ่ออี๋(ไปเอา"กันหะ เนหะ"),
    หลวงพ่อภักต์ วักโบสถ์,
    หลวงพ่อภู วัดดอนรัก (เอาการสร้างตะกรุด),
    หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ,
    พ่อท่านคล้าย สวนขัน (เอา ฤ ฤามา-ฦ ฦาไป ใช้เวลา.6 เดือนกว่าจะได้.ใช้เวลาเรียนมาที่สุดในเท่าที่เรียนมาทุกๆ พระอาจารย์ฯ) และ ฆราวาส(อิสลาม) จ.ปัตตานี (เอาวิชาดูตูดจาน"เปิด3โลก")
    ส่วนที่ว่า ท่านเป็นลูกศิษย์ ลพ.ดิ่ง วัดบางวัวนั้นไม่จริง ท่านไม่เคยไปเรียนกับ ลพ.ดิ่ง บางวัวเลย วิชา.ลิง(หนุมาน) และปลักขิก ท่านเรียนมาจาก ลป.อ่อน อุตโม ทั้งสิ้น เพราะ ลป.อ่อน อุตโม ท่านสร้างปลัดขิก และ ลิงไม้แกะ ด้วย ส่วนพระยันต์ (สัพวิชาต่างๆ) ลป.กลั่น คุณวโรท่านนำมาใส่เสริมลงไปในวัตถุมงคลท่าน (เปรียบเสมือนยาหม้อใหญ่) วัตถุมงคลของท่านที่ทุกท่านรู้จักเสียส่วนใหญ่ ก็คือ.ปลัดขิก แต่จริงๆท่านสร้างไว้มากมาย ล้วนแล้วแต่มากประสบการณ์มากมาย วัตถุมงคลท่านๆท่านเสกเอง องค์เดียว ไม่นิมนต์ท่านใดมาร่วมเสก
    ท่านเคยบอกว่า (สมัยสร้างพระประธานในโบสถ์"หลวงพ่อในโบสถ์"พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์")ว่า.
    (ลูกศิษย์): ลป.ครับ จะนิมนต์พระอาจารย์รูปใดบ้าง มาฉลองโบสถหลังใหม่และพระประธาน
    (ลป.กลั่น คุณวโร): จะเชิญท่านมาทำไม เราก็สร้างเอง-เสกเองได้ ดั่งที่ที่โบราณท่านว่าไว้.ชาติเสือ ไม่ขอเนื้อใครกิน
    วัตถุมงคลของท่านก่อนที่จะให้ใครไป ท่านจะต้องมั่นใจดีแล้วจึงให้ไป ท่านว่า.มันจะเป็นบาป-เป็นกรรม แต่ท่านก็ไม่เคยบอกกล่าวใครนะว่า.ของท่านดีอย่างไร-กันอะไร ท่านก็แค่กล่าวว่า.ของดี-ของมงคล จะเอาไว้ที่บ้านก็ดี เป็นมงคลบ้าน ไว้ที่ตัวก็ดี เป็นมงคลตัว ใครจะมาบอกว่า.พอเอาของท่านไปๆพบเจออะไรบ้างท่านก็เฉย กล่าวแต่ว่า.ก็ดี เป็นของมงคล แล้วก็ยิ้ม /
    พระผู้ที่ชาวอ่างทองให้ความเคารพนับถือมาก ท่านดังทางด้านปลัดขิกครับ วัตถุมงคลท่านมีประสบการณ์มาก โดยเฉพะด้านเมตตา และมหาอุตม์ นั้นเป็นที่เลื่องลือมาก คนเฒ่าคนแก่เคยบอกว่า หลวงพ่อกลั่น ท่านขลังขนาดเคยนั่งปรกปลุกเสก จนปลัดสั่นเขยื้อน กระโดดในบาตรไปมาเลยที
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระผงรูปเหมือนซุ้มมังกรหลวงพ่อกลั่นวัดอินทราวาส ด้านหลัง มีรอยจาร อักขระลายมือหลวงพ่อ ฐานหลวงพ่อ มีลิงอุ้มปลัด วิชาถนัดของ หลวงพ่อ

    .ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250324_105841.jpg IMG_20250324_105911.jpg
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    FB_IMG_1742794237097.jpg
    ประวัติพ่อท่านคลิ้ง(ข้อมูลแน่นๆครับจากหนังสือที่กำลังจะออกมา)
    พ่อท่านคลิ้ง เดิมชื่อ คลิ้ง นามสกุล ฉิมแป้น เป็นบุตร นายแก้ว และ นางทุ่ม ฉิมแป้น เกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน ๙ ขึ้น ๑๐ ค่ำปีจอ ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๒๙ ที่บ้านหมู่ที่ ๑ ตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช หมู่บ้านที่พ่อท่านเกิดชื่อหมู่บ้านถลุงทอง เป็นบุตรโทน คนเดียวของพ่อ-แม่ ซึ่งมีอาชีพทำนาทำสวน
    ครั้นเจริญวัยอายุได้พอสมควร บิดาได้สอนหนังสือไทยให้ ปรากฏว่า เรื่องราวใดๆ ก็ตามที่บิดาสอนให้ก็สามารถจดจำได้ ครบถ้วน การเขียน การอ่านเป็นไปอย่างรวดเร็ว เฉลียวฉลาดผิดปกติเด็กธรรมดาบิดาถ่ายทอดความรู้ภาษาไทยให้เพียงปีเดียวก็หมดสิ้นความรู้ที่มีอยู่ ปรากฏว่าพ่อท่านอ่านออกเขียนได้สิ้น บิดาเห็นเช่นนั้นจึงอยากจะให้บุตรคนเดียวของตนมีความรู้มากขึ้น ครั้นจะเอาไปเรียนที่ใดก็ไม่เห็นลู่ทาง จึงได้นำไปปรึกษากับ พระอาจารย์ขำวัดถลุงทอง
    พระอาจารย์ขำ เห็นหน่วยก้านดีมีลักษณะเป็นคนมีบุญ จึงได้รับไว้ให้ศึกษาเล่าเรียนด้วย ขณะศึกษาอยู่กับพระอาจารย์ขำ ก็ขยันขันแข็งในการเล่าเรียน ครั้นกลับบ้านก็ช่วยบิดามารดาทำงานทางบ้านทุกสิ่งสรรพเป็นที่รักใคร่ของพ่อแม่ และผู้พบเห็นทั่วไป ไม่ผิดหวังกับพ่อแม่ที่มีลูกโทนเพียงคนเดียว
    อายุได้ ๑๗ ปี พ่อท่านเป็นกำลังแข็งขันช่วยกิจการงานทางบ้านได้คล่องแคล่วพอจะแทนบิดามารดาได้ ก็พอดีมารดาถึงแก่กรรมยังเศร้าโศกเสียใจให้กับบิดาและตัวท่านเองมาก ด้วยความกตเวทิตาคุณมารดาและด้วยการส่งเสริมจากบิดา พ่อท่านจึงบวชเป็นสามเณร ตั้งแต่บัดนั้น คือ ปี พ.ศ.๒๔๔๖ โดยพระอาจารย์ขำนำไปบวชเป็นสามเณรให้ที่วัดป่าตอ (ขณะนั้น วัดถลุงทอง ยังไม่มีวิสุงสีมา) โดยนิมนต์เอา เจ้าคุณศรีธรรมราชมุณี วัดหน้าพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช มาบวชให้ นับเป็นนิมิตอันดีเมื่อท่านเจ้าคุณเห็นสามเณรคลิ้งขณะนั้นเข้า ก็ถึงกับกล่าวชมว่ามี ลักษณะบุคลิกดี เป็นผู้มีบุญวาสนา จะสืบอายุพระศาสนาต่อไป และจะสำเร็จกิจ
    ในทางธรรมสูงสุดในภายภาคหน้า เมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วก็กลับมาอยู่ยังวัดถลุงทอง ศึกษาอัขระขอมสูตรเลขยันต์ เวทมนต์คาถา วิชาแพทย์แผนโบราณ และโหราศาสตร์ กับ พระอุปัชฌาย์ขำ (ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ขณะที่บวชสามเณรคลิ้ง) ขณะเป็นสามเณรก็รับใช้พระอาจารย์ทุกสิ่งทุกอย่างจนเป็นที่รักใคร่ของพระอุปัชฌาย์ขำเป็นอย่างยิ่ง มีวิชาอันใดก็สั่งสอนให้ไม่ปิดบังหวงแหน
    เมื่อวัยครบจะอุปสมบทเป็นภิกษุได้ในปี พ.ศ. ๒๔๔๙ บิดาจึงได้ขอร้องให้พ่อท่านอุปสมบทต่อไป ด้วยความเต็มใจของพ่อท่านอยู่แล้วพระอุปัชฌาย์ขำ จึงได้พาสามเณรคลิ้งเดินทางไปอุปสมบทให้ ณ พัทธสีมา วัดป่าตอโดยมีพระอุปัชฌาย์ขำ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเอียด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า “จนทสิร” เมื่ออุปสมบทแล้วก็กลับมาจำพรรษายังวัดถลุงทอง ขยันหมั่นเพียรท่องบ่นมนต์คาถาเป็นประจำเพียงพรรษาได้ไม่มากก็ท่องสวดปาฎิโมกข์และบทสวดมนต์ได้เจนจบสิ้น ไม่ว่าจะเป็นบทใดในคัมภีร์ พ่อท่านค้นเอามาท่องจำได้หมด เป็นที่ชื่นชอบของพระอุปัชฌาย์ขำมาก ต่อมาพระอุปัชฌาย์ขำได้ถ่ายทอดวิชาที่มีอยู่ทั้งหมดให้ก็สามารถศึกษา ได้เจนจบ ต้องถึงกับมอบตำราของ หลวงพ่ออยู่ ซึ่งนำมาจากกรุงศรีอยุธยาจำนวนหลายสิบเล่มให้พ่อท่าน พ่อท่านก็ศึกษาจนทะลุปรุโปร่ง พระอุปัชฌาย์เห็นคล่องแคล่วในวิชาการดีแล้วจึงสอนปฎิบัติปัสสนาธุระให้ พ่อท่านก็ปฎิบัติได้สมปรารถนาของอาจารย์อย่างรวดเร็ว เป็นเหตุอัศจรรย์ใจยิ่ง
    ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๖๗ พระอุปัชฌาย์ขำได้มรณภาพลง ก่อนมรณภาพก็ได้สั่งเสีย พ่อท่านคลิ้งขอให้สืบตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดถลุงทองต่อ และฝึกฝนญาณสมาธิให้แก่กล้าเพื่อความหลุดพ้นในขั้นต่อไป อย่าได้ทิ้งเสีย พ่อท่านก็รับคำพระอาจารย์ทั้งสิ้น

    FB_IMG_1742794241552.jpg
    ความกตเวทิตาคุณในอาจารย์อันยิ่งใหญ่ พ่อท่านจึงได้ตั้งใจว่าจะสร้างศาลาโรงธรรมขนาดใหญ่เพื่อตั้งศพอาจารย์ให้สมเกียรติ จึงได้ประชุมชาวบ้านญาติโยมให้ช่วยกันสร้างกุศล เพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าของพ่อท่าน โรงธรรมขนาดกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๓๕ เมตร ก็สำเร็จลุล่วงลง ชาวบ้านเห็นความดีของท่านที่มีความตั้งใจแสดงกตเวทิตาอาจารย์แรงกล้าเช่นนั้นจึงพร้อมใจกันนิมนต์ พ่อท่านให้เป็นเจ้าอาวาสสืบมาเป็นที่รักใคร่นับถือของชาวบ้าน เป็นที่พักพิงอาศัยในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บขจัดทุกข์โศก และอบรมสั่งสอนให้ลูกศิษย์และชาวบ้านตั้งอยู่ในคุณงามความดี
    พ่อท่านคลิ้ง นับว่าเป็นพระเถระที่น่ากราบไหว้ ท่านบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ในศีลาจารวัตร ปฏิบัติแต่วิปัสสนาธุระ บำเพ็ญเพียรทางใจทรงไว้ด้วยญาณสมาธิอย่างแก่กล้า ท่านมักจะพูดน้อย และดำรงตนอยู่อย่างสมถะมักน้อย ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างมีเมตตาธรรม เป็นที่รักใคร่แก่ทุกคนที่พบเห็น ท่านมีเมตตาอยู่ในตนเองอย่างประหลาด ท่านจะสวดมนต์อยู่เสมอในเวลาว่าง และปฏิบัติวิปัสสนาเป็นประจำในยามราตรีอันวิเวก ฉันอาหารเพียงครั้งเดียวในหนึ่งวัน แต่ร่างกายท่านสมบูรณ์ ใบหน้าแดงผ่องผุดเต็มไปด้วยบุญญาราศี กล่าวกันว่าท่านปกครองพระในวัดด้วยสายตา เพียงแต่มองเท่านั้น ก็ทราบว่าท่านตำหนิหรือชมเชย และสิ่งสำคัญคือ วาจาของท่าน “ศักดิ์สิทธิ์” และเป็นไปได้ทุกประการตามคำทุกคำของท่านที่ได้กล่าวออกไป พ่อท่านคลิ้งมีความสนิทและชอบพอกันดีกับ พ่อท่านคล้าย และพ่อท่านคล้ายมักจะ
    กล่าวยกย่องท่านอยู่เสมอในบรรดาลูกศิษย์เป็นที่ทราบกันดีในระหว่างลูกศิษย์ใกล้ชิด ระหว่าง พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน กับ พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
    เมื่อพ่อท่านคลิ้งกับพ่อท่านคล้ายพบปะกันท่านมักจะดีใจยิ้มแย้มเข้าหากัน และสนทนากันเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ถึงการปฏิบัติธรรมของกันและกันอย่างสนิทสนม เถราจารย์อันแก่กล้าสององค์นี้มีความเหมือนกันเป็นประจักษ์ใน ความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา พ่อท่านคล้ายมีความเชื่อมั่นในตัวพ่อท่านคลิ้งมาก ถึงกับเคยพากฐินไปทอดที่วัดถลุงทองถึงสองครั้งด้วยกัน
    เมื่อครั้งที่อาจารย์นำ วัดดอนศาลา พัทลุง ยังมีชีวิตอยู่ ท่านเคยพูดถึง พ่อท่านคลิ้ง เสมอ และให้นิมนต์ไปร่วมปลุกเสกมงคลวัตถุชิ้นสุดท้าย คือรูปเหมือนและกริ่งทักษิณชินวโรด้วย อาจารย์นำเคยกล่าวกับ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคคลว่า
    “หากสิ้นบุญฉันแล้ว มีกิจอันใดที่สำคัญก็จงไปหาพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์นครศรีฯเถิด ท่านเก่งและแก่กล้าทางญาณสมาธิมาก”
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ๑ เหรียญพ่อท่านคลิ้ง รุ่นพิเศษ สร้างปี ๒๕๒๑ สร้าง ๑,๐๐๐ องค์
    ให้บูชา 270 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250324_112228.jpg IMG_20250324_112303.jpg

    ๒ เหรียญเสมาเมตตาให้วัดอินทารามอยุธยา ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250324_112330.jpg IMG_20250324_112358.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    FB_IMG_1742819161311.jpg FB_IMG_1742819295802.jpg FB_IMG_1742819285556.jpg

    พระครูมงคลกิจ (หลวงปู่ผล กาญจโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดเนินทองวราราม ต.แก่งผักกูด อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี
    หลวงปู่ผล กาญจโน เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๒ ที่ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นบุตรชายของ คุณพ่ออ๊อด คุณแม่ทอง อ่ำสอน มีพี่น้องทั้งหมด ๙ คน โดยหลวงปู่ผลเป็นบุตรคนที่ ๘
    ในวัยเด็ก
    ทางบ้านของครอบครัวหลวงปู่ผล มีอาชีพทำนา พ่อของหลวงปู่ผลเสียชีวิตตั้งแต่หลวงปู่ผลมีอายุได้๓ขวบ หลังจากพ่อเสีย เวลาแม่ไปทำนา แม่ก็จะให้พี่สาวเลี้ยงดูหลวงปู่ผลอยู่บ้าน จนมีเหตุการณ์หนึ่ง เวลาตอนกลางวันพี่สาวกล่อมหลวงปู่ผลให้หลับนอนและพี่สาวก็เผลอหลับไปด้วย ตัวหลวงปู่ผลนั้นได้ตื่นก่อนพี่สาวไม่รู้ว่าเดินหรือคลานไปทางหัวระเบียงบ้าน ไม่รู้ว่าทำอย่างไร ตกลงไปตรงอ่างขุ่นน้ำข้าวสุนัข อ่างขุ่นน้ำข้าวสุนัขแตก สงสัยสะโพกกระแทก และคงนอนสลบไป ตอนหลังพี่สาวตื่นขึ้นมาไม่เห็นน้อง ก็ร้องเรียกหาเที่ยวไปตามบ้านใกล้เรือนเคียงไม่มีใครรู้ และทางญาติก็ช่วยกันออกตามหา และได้มาเจอ เห็นนอนสลบอยู่ตรงอ่างขุ่นน้ำข้าวสุนัข และได้อุ้มขึ้นไปบนบ้าน ทางญาติคนแก่ๆก็บอกว่า ไม่ต้องไปรอแม่มันหรอก กว่าแม่มันจะกลับมาบางทีก็เย็นค่ำ ให้พาไปหาหลวงปู่มันดีกว่า(หลวงปู่นี้คือหลวงปู่จัน วัดนางหนู ปู่ของหลวงปู่ผล) บางทีท่านจะช่วยให้มันรอดตายได้ (สมัยนั้นโรงพยาบาลไม่มี) ทุกคนเห็นดีด้วย จึงพากันยกหลวงปู่ผลไปหาหลวงปู่จันวัดนางหนู พอถึงวัดนางหนู หลวงปู่จันก็ให้การรักษาอาการบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งหลวงปู่จัน ท่านก็รักษาโดนการประสานกระดูก โดยใช้น้ำมันมนต์ที่ท่านปลุกเสก จนอาการบาดเจ็บของหลวงปู่ผลบรรเทา และหายจากอาการบาดเจ็บ สะโพกของหลวงปู่ผลหลุดไม่เข้าที่ ทำให้ท่านเดินในลักษณะขาไม่เท่ากันมาตั้งแต่นั้นมา และทางหลวงปู่จัน วัดนางหนู ก็ได้รับหลวงปู่ผลมาเลี้ยงอยู่กับท่านเลย และหลวงปู่ผล ก็ได้เรียนหนังสือไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จนถึงปี ๔ ภายหลังหลวงปู่จัน จึงให้หลวงปู่ผล กาญจโน บวชสามเณร เรียนภาษาขอมและบาลี และหลวงปู่ก็ได้เรียนพระธรรมวินัย จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี
    เมื่อหลวงปู่ผลมีอายุครบ ๒๐ ปี หลวงปู่จัน จึงได้จัดแจงให้หลวงปู่ผล ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยได้บวชที่วัดบัว และได้มาจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่จัน ที่วัดนางหนู เพื่อศึกษาเล่าเรียนตำรับตำรา วิทยาคมต่างๆ จากหลวงปู่จัน จนกระทั่งมีความชำนาญ ถือเป็นตัวแทนของหลวงปู่จัน วัดนางหนู และหลวงปู่ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่จัน วัดนางหนู อย่างแท้จริง
    จนเมื่อหลวงปู่ผล กาญจโน อายุครบ ๔๕ ปี พรรษา ๒๕ หลวงปู่ผล กาญจโน ได้ทำการลาสิกขาบท ออกมาใช้ชีวิตฆราวาส และได้มีครอบครัว ภายหลังหลวงปู่ผล ได้พาครอบครัวมาทำมาหากินที่บ้านท่ากรวด ต.แก่งผักกูด อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี
    เมื่อหลวงปู่ผล กาญจโน มีอายุได้ ๕๘ ปี หลวงปู่ผล ได้หวนกลับมาสู่เพศบรรพชิตบวชเป็นพระภิกษุอีกครั้ง เมื่อคราวฉลองธงลูกเสือชาวบ้าน รุ่น ๔๐๙/๗ ต.แก่งผักกูด อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี โดยเข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดจันทาราม ต.ชัยบาดาล อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี โดยมีพระครูวิมลชยากร เป็นพระอุปัชฌาย์ และหลวงปู่ผล ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสุทธาวาส (วัดท่ากรวด ) โดยมีหลวงพ่อสุข เป็นเจ้าอาวาสในตอนนั้น
    ต่อมาหลวงพ่อสุข ได้ย้ายไปอยู่จังหวัดอุทัยธานี หลวงปู่ผล จึงได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่ากรวด แทนหลวงพ่อสุข เป็นเวลาประมาณ ๑๕ ปี โดยหลวงปู่ผล กาญจโน ได้ทำการก่อสร้าง กุฏิ วิหาร และอุโบสถ จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ต่อมาวัดท่ากรวดได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จึงทำให้หลวงปู่ผล ย้ายมาอยู่ที่วัดเนินทองวราราม ในปี พ.ศ.๒๕๓๘ ซึ่งหลวงปู่ผลก็ได้ทำการก่อสร้างกุฏิ วิหาร และอุโบสถแล้วเสร็จ ด้วยอาศัยบุญญาบารมีท่าน ท่านเป็นพระเถระที่มีวิทยาคมสูง จึงทำให้มีบรรดาลูกศิษย์มากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยพากันมาบริจาคทรัพย์ช่วยหลวงปู่ผล สร้างกุฏิห้องน้ำ ศาลาการเปรียญและอุโบสถจนแล้วเสร็จ และในปี พ.ศ.๒๕๔๗ ได้ทำการจัดงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตรอุโบสถวัดเนินทองวราราม ต.แก่งผักกูด อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี
    ในด้านผลงาน
    หลวงปู่ผล กาญจโน ได้ทำการก่อสร้างถาวรวัตถุมากมาย เช่น กุฏิ วิหาร ศาลาการเปรียญ อุโบสถทั้งหมด ๗ แห่ง
    ๑. วัดสุทธาวาส ( วัดท่ากรวด ) ได้ก่อสร้างกุฏิ วิหาร อุโบสถ สำเร็จไปด้วยดี
    ๒. วัดเนินทองวราราม ปี พ.ศ.๒๕๓๘ เริ่มก่อสร้างกุฏิ วิหาร อุโบสถ จนสำเร็จไปด้วยดี
    ๓. วัดท่ามะไฟ ต.ท่ามะไฟ อ.ท่าหลวง จ.พิจิตร เริ่มก่อสร้างห้องน้ำ กุฏิ วิหาร ศาลาหอฉัน และ อุโบสถ จนสำเร็จไปด้วยดี
    ๔. วัดเขาแก้ว ต.เขาแก้ว อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
    ๕. วัดตรีบุญ(ซอย๖) อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
    ๖.วัดมณีโสภณ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
    ๗. วัดซอย๑๑ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
    หลวงปู่ผล กาญจโน ท่านได้บริจาคทรัพย์ส่วนตัว ช่วยสร้างสำนักงานศึกษาธิการอำเภอท่าหลวง เป็นจำนวนเงิน ๑๘๐,๐๐๐ บาท
    หลวงปู่ผล กาญจโน ได้บริจาคทรัพย์ส่วนตัวช่วยสร้างวัดต่างๆ ทั้งในจังหวัดลพบุรีและต่างจังหวัด หลวงปู่ผล ท่านเป็นพระที่มีเมตตาธรรม มีคุณธรรมอันสูง มีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมานมัสการ โดยท่านไม่ถือตัว บรรดาญาติโยมเข้าพบได้ง่ายตลอดเวลา และท่านเป็นพระที่มีวิทยาคมอันสูง ท่านจะไปนั่งปรกคู่กับหลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่เป็นประจำ และวันที่๑๖เมษายนของทุกปี บรรดาศิษยานุศิษย์ก็จะพากันมานมัสการหลวงปู่ผล ในวันงานไหว้ครูเป็นประจำทุกปี จากทั่วสารทิศทั้งในประเทศและต่างประเทศ
    #สมณศักดิ์#
    - ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส ( ท่ากรวด)
    พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสังฆรักษ์
    พ.ศ. ๒๕๔๐ ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเนินทองวราราม
    พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับสมณศักดิ์พระครูมงคลกิจ(ชั้นโท)
    ในด้านวัตถุมงคล
    หลวงปู่ผล กาญจโน ท่านได้สร้างวัตถุมงคล ตั้งแต่ครั้งยังอยู่ที่วัดท่ากรวด โดยหลวงปู่ผล ท่านจัดสร้างวัตถุมงคลตามตำราของหลวงปู่จัน วัดนางหนู ซึ่งในการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้น หลวงปู่ผล ท่านได้มีการจัดสร้างเหรียญรุ่นแรก รูปหล่อปั้มรุ่นแรก ผ้ายันต์ ตะกรุดโทน สีผึ้งตระกรุดสาริกา เสื้อยันต์แดง และ ตะกรุดไม้ไผ่มหาอุต หลวงปู่ผล ท่านสร้างได้เข้มขลัง ตามตำราหลวงปู่จัน วัดนางหนู ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงปู่ผล กาญจโน โดยมีการจัดสร้างตามวาระต่างๆ เช่น งานผ้าป่า งานกฐิน ทั้งที่วัดจัดสร้างเอง และลูกศิษย์จัดสร้างถวาย โดยหลวงปู่ผล มีการจัดสร้างเรื่อยมา ทั้งตอนที่อยู่วัดท่ากรวด และที่วัดเนินทอง
    ประสบการณ์ในวัตถุมงคล
    วัตถุมงคลของหลวงปู่ผล กาญจโน นั้น มีประสบการออกมาเรื่อยๆจากลูกศิษย์ที่ได้นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ผลไปบูชา ที่มีประสบการณ์ออกมาให้เห็น ทั้งเรื่องคงกระพัน มหาอุต แคล้วคลาด เมตตามหานิยม โดยลูกศิษย์มีทั้งโดนยิง แต่ปืนไม่สามารถยิงออกได้ ขับรถยนต์ประสบอุบัติเหตุ รถพังยับ แต่คนขับรอดปลอดภัยไม่เป็นอะไรเลย และอีกหลายๆเรื่องราว ที่ลูกศิษย์ประสบพบเจอกันมามากมาย จึงทำให้ชื่อเสียงของหลวงปู่ท่านโด่งดังไปทั่วทุกสารทิศเพราะมาจากประสบการณ์จริงจากวัตถุมงคล
    อาพาธ
    หลวงปู่ผล กาญจโน เริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคประจำตัวของท่าน ตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ ถึง ๒๕๕๑ เป็นต้นมา บรรดาลูกศิษย์ได้นำตัวหลวงปู่ผล ไปส่งโรงพยาบาลท่าหลวง โรงพยาบาลศิริราช บ่อยครั้งเป็นประจำ ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๕๑ ท่านเริ่มอาพาธหนักขึ้น บรรดาศิษย์ได้ส่งท่านมารักษาตัวที่โรงพยาบาลท่าหลวง และทางโรงพยาบาลท่าหลวงได้นำตัวท่านส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเมืองใหม่ลพบุรี ซึ่งอยู่ไม่กี่วัน หลวงปู่ผล กาญจโน ได้ถึงการมรณะภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๑ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา รวมสิริอายุ ๘๘ ปี ๒ เดือน
    ซึ่งตลอดระยะเวลาในเพศพรรชิตของหลวงปู่ผล กาญจโน ท่านได้ทุ่มเทชีวิต เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อสังคม ในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อพระศาสนา ต่อประชาชนเรื่อยมาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตท่าน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลผู้เรียบเรียงอย่างสูงครับ
    ท่านเป็นครูบาอาจารย์อีกองค์ของอาจารย์ตั้ววัดซับลำใย ผู้เป็น ศิษย์หลวงพ่อกวยหลวงปู่หมุน
    พระสมเด็จทรงครุฑ รุ่นประสพการณ์และพระผงรูปเหมือนจันทร์ลอยหลวงปู่ผล กาญจโน ๒ องค์

    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250324_192308.jpg IMG_20250324_192432.jpg IMG_20250324_192452.jpg IMG_20250324_192341.jpg IMG_20250324_192408.jpg
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    FB_IMG_1742831477131.jpg

    หลวงพ่อมาลัย ท่านขึ้นชื่อวิชามหาอุต คงกระพันชาตรี สายมอญ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย หนึ่งในนั้นคือ ((ตี๋ใหญ่)) ขุนโจรมีชื่อในภาคกลาง ซึ่งได้ชื่อว่าหนังเหนียว และมีคาถาอาคมหายตัวได้ ตี๋ใหญ่ จอมโจรแห่งอำเภอดำเนินสะดวก ราชบุรี ซึ่งเป็นศิษย์หลายอาจารย์ เช่น หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม,หลวงพ่อสุด วัดกาหลง และหลวงพ่อมาลัย วัดบางหญ้าแพรก ตี๋ใหญ่สามารถหลบหนีการจับกุมตำรวจได้หลายๆครั้ง บางครั้งถูกตำรวจล้อมจับกุมก็สามารถฝ่าห่ากระสุนไปได้ อย่างไม่น่าเชื่อ จนเป็นที่แปลกใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจสมัยนั้น ซึ่งภายหลังได้ทราบว่า ตี๋ใหญ่พกของดีไว้หลายอย่างรวมทั้งี ตะกรุด หลวงพ่อมาลัย ติดตัวอยู่ ด้วย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    สิ้น"หลวงพ่อมาลัย"-อายุ80ปี
    วัดบางหญ้าแพรก สมุทรสาคร
    หนึ่งในอาจารย์จอมโจร"ตี๋ใหญ่"
    แวดวงสงฆ์สมุทรสาครสูญเสียพระดีเกจิดังไปอย่างน่าใจหาย...พระครูอุทัยธรรมสาคร "หลวงพ่อมาลัย อุทโย" เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทร สาคร มรณภาพแล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2563 เวลา 17.08 น. ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร สิริอายุ 80 ปี 7 วัน 55 พรรษา
    ท่านเกิดในสกุล "แตงอ่อน" เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 8 ก.ย. 2483 ณ บ้านเลขที่ 63 หมู่ 8 ต.แสมดำ อ.บางขุนเทียน จ.ธนบุรี(สมัยนั้น)บิดาชื่อ "นายบุญธรรม" มารดาชื่อ "นางกิม" มีพี่น้องรวม 6 คน
    อุปสมบทเมื่อวันที่ 4 มี.ค 2509 ณ วัดบางกระดี่ ต.แสมดำ อ.บางขุนเทียน เมื่ออายุ 25 ปี พระเทพญานมุนี วัดราชโอรสาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ อาจารย์สง่า การวิโก วัดบางกระดี่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และอาจารย์สงวน อาสโภ วัดกำพร้า เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    เดิมทีท่านตั้งใจบวชแค่พรรษาเดียว เพราะฐานะทางบ้านยากจนและไม่มีใครช่วยพ่อ-แม่ ส่วนญาติพี่น้อง ก็มีเหย้ามีเรือนกันไปหมดแล้ว เหลือแต่น้อง ๆ อีก 2 คน
    เพียงพรรษาแรกท่านก็สวดพระปาฎิโมกข์ภาษารามัญได้ชัดเจน จนเพื่อนพระด้วยกันขอคำแนะนำ แต่ก็ล้มเหลว วันหนึ่งมีคุณสุนทร เขาแกร่ง บ้านเดิมอยู่บางกระดี่บวชอยู่ที่วัดบางหญ้าแพรก ท่านได้ขักชวนหลวงพ่อมาลัย มาเที่ยวที่วัดบางหญ้าแพรก กับเพื่อนพระด้วยกัน ซึ่งขณะนั้นมีพระครูสาครอรรถโกวิท เป็นเจ้าอาวาส อายุท่านประมาณเกือบ 70 ปี สมัยนั้นวัดบางหญ้าแพรกมีพระจำพรรษาไม่เกิน 9 รูป หลวงพ่อมาลัยขึ้นแสดงพระปาฎิโมกข์ มีโยมฝั่งมอญ โยมเป๊อะ โยมแหยบที่มาคอยสังเกตการณ์
    ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2517 พระเทพสาครมุนี (หลวงปู่แก้ว) วัดสุทธิวาตวราราม (ช่องลม) มอบตราตั้งเจ้าอาวาสแก่หลวงพ่อมาลัยโดยให้ดูแลพระภิกษุ สามเณร ภายในอาวาสให้เรียบร้อย ซึ่งสมัยนั้นพระครูโกมุทธรรมธาดา (พระมหาสมัย) วัดป้อมวิเชียรโชติการามเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองได้พิจารณาว่าในตำบลท่าฉลอม วัดใดที่มีเจ้าอาวาสที่ดำรงตำแหน่งก่อน ซึ่งหลวงพ่อมาลัยก็เป็นเจ้าอาวาสก่อนวัดอื่น ๆ จึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลมาจนวาระสุดท้ายของชีวิต
    หลวงพ่อมาลัย ท่านขึ้นชื่อวิชามหาอุด คงกระพันชาตรี สายมอญ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย หนึ่งในนั้นคือ "ตี๋ใหญ่" ขุนโจรขมังเวทย์แห่งอำเภอดำเนินสะดวก ราชบุรี ซึ่งได้ชื่อว่าหนังเหนียว และมีคาถาอาคมหายตัวได้โดยตี๋ใหญ่มีตะกรุดหลวงพ่อมาลัยพกติดตัว
    วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมพระเครื่องและประชาชนทั่วไปมากมาย เช่น เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก สมเด็จไผ่ ตะกรุดตี๋ใหญ่ไม้แก่นมะขาม สมเด็จนางพญา พระปิดตา เป็นต้น
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จกล่องไม้ขีดหลวงพ่อมาลัยวัดบางหญ้าแพรก
    ๒ องค์ ขนาดใหญ่
    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250324_225553.jpg IMG_20250324_225611.jpg IMG_20250324_225631.jpg IMG_20250324_225730.jpg IMG_20250324_225747.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2025 at 08:59
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    วันนี้และเมื่อวานจัดส่ง

    1742900963258.jpg 1742901019163.jpg

    ขอบคุณครับ
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    1742895329678.jpg
    ครูบาศรีนวล.jpg
    ยันต์นาคเขาคำ อีกตำราเรียกว่า
    นาคพระโสมหรือสำเภานาค เพราะพญานาคคอคำเป็นพาหนะของพระโสมที่ใช้ทรงขี่เหาะข้ามไปในนภากาศ อุปเท่ห์ของยันต์นี้มีมากมายนับเป็นตำราเก่าแก่ของชาวล้านนาอีกยันต์นึ่งที่เจอเกือบทุกสำนักและบันทึกในปั๊บสาแทบทุกที่ และมีพุทธคุณเป็นที่ยอมรับ ในอดีตมีครูบาสายล้านนาหลายท่านที่สร้างยันต์นี้จนเป็นที่โด่งดัง เช่น ครูบาบุญทาวัดสันป่าเหียง ครูบาหล้า ตาทิพย์ ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง และครูบาศรีนวล วัดเจริญเมือง และอีกอีกหลายครูบาอาจารย์ที่สร้างตะกรุดนาคขึ้นมา.............
    ทีนี้จักขอกล่าวยังอุปเท่ห์ช่องใช้ยันต์นาคคอคำตำราล้านนาก่อนแล ผิว่า จักรบทับจับศึกให้คาดตะกรุดไว้ที่เอวแล้วผลัดหมุนตะกรุดไปทางขวาสามรอบ แล้ว ทำเสียง อะแฮ่มๆๆ 3ครั้ง ชนะท่านแล หากเราพ่ายแพ้ท่านให้ผลัดหมุนตะกรุดจากทางซ้ายไปทางขวาสามรอบแล้วเอาตะกรุดไว้ด้านหลังท่านไล่ตามเราไม่ทันแลจักไปที่ๆมีผีร้ายอยู่ให้ผลัดหมุนไปทางขวาสามรอบ แล้วเอาตะกรุดไว้ด้านหลัง ทำเสียงอะแฮ่มสามที ผีอยู่มิได้เลยแล
    หากเราจะไปหาขุนนางผู้ใหญ่ให้ผลัดหมุนตะกรุดจากทางขวามาทางซ้ายสามรอบแล้วเอาตะกรุดไว้ด้านขวา ท่านรักเมตตาเราแลไปหาอิตถีนารี(ผู้หญิง)ให้ผลัดหมุนตะกรุดไปทางขวาสามรอบแล้วไว้ตรงสะดือ เป็นที่ปิยะเสน่หานักแลจะช้ามแม่น้ำใหญ่ที่มีสัตว์ร้ายให้ผลัดหมุนไปทางขวาสามรอบแล้วถอดตะกรุดไว้บนศีรษะ ทำร้องอะแฮ่ม สามครั้ง เงือกกินมิได้สัตว์ร้ายไม่ทำอันตราย
    หากจะไปที่ต้นไม้ใหญ่อันมีผีร้ายให้ผลัดหมุนสามรอบร้องอะแฮ่มสามที ผีอารักษ์นั้นหนีไปสิ้นแล หากจะไปหาคนทั้งหลายผลัดหมุนตะกรุดไปทางขวาสามรอบ เป็นที่รักชอบแก่คนทั้งหลายแล หากเราจะปกป้องรักษาลูกเมีย หมู่คณะบริวารและช้างม้าวัวควายสัตว์เลี้ยงต่างๆ หรือจะเดินทางก็ดี ให้ผลัดหมุนตะกรุดสามรอบแล้วทำเสียงอะแฮ่มสามที แล้วเอาหมุนตะกรุดมาไว้ด้านหลังคุ้มลูกน้องได้300คนให้เอาตะกรุดนี้แช่น้ำตบหัวเสียทุกคนเถิดคุ้มได้สิ้นแล หากเกิดการต่อสู้กับผู้ใดหากเราแพ้ท่านต้องการจักกำบังตนเพื่อหนีภัย ให้ผลัดหมุนตะกรุดจากขวาหาซ้ายสามรอบทำเสียงอัแฮ่มสามทีเป็นกำบังท่านมองมิเห็นแลหากจะให้ศัตรูหลวงทางไปทางอื่นให้เอามือต่อยสายตะกรุดสามทีแล้วชี้ไปทางอื่นศัตรูก็จะตามไปทางที่ชี้ไปนั้นแลหากปราถนาต้องการสิ่งใดให้ผลัดหมุนไปทางขวาวามรอบแล้วเอาไว้ตรงท้องอธิษฐานขอเอาได้ดั่งใจมักแล หากจะขึ้นเจ้าเฝ้านายขุนนางผู้ใหญ่เอาตะกรุดแช่น้ำตบหัว แล้วเอาตะกรุดนั้นคาดไว้ด้านขวาท่านรักเราเมตตาเราแล หากเรามีโทษท่านจะกระทำโทษ เฆี่ยนตีเราให้เอายันต์นี้แช่น้ำ เอาน้ำนั้นมาสระผมเอาตะกรุดนั้นเช็ดศีรษะขึ้นสามทีท่านใจอ่อนไม่กระทำร้ายกลับรักสงสารเราแล หากจะนอนกลางป่ากลางดงที่ใดเอาตะกรุดนี้แช่น้ำประพรมล้อมรอบที่เราอยู่แลอดภัยจากอันตรายดีนักแล หากเจ็บป่วยเป็นไข้ได้หนาวเอาตะกรุดนี้แช่น้ำดื่มกิน หายสิ้นแล หากจะเจรจาว่าความต่างๆ(ขึ้นโรงขึ้นศาล)ให้ผลัดหมุนตะกรุดจากซ้ายไปขวา ผลัดไว้หน้าผลัดไว้หลังแล้วไปเถิดเราชนะความท่านแลหากจักไปหามิตรสหายเพื่อนสนิทก็กระทำทำอย่างเช่นเดียวกันแล หากวัวควายหายไปจากคอก(หรือสัตว์เลี้ยงหายไป)เอาตะกรุดนี้แขวนไว้ที่สูุงที่หนึ่งแล้วยอมือไหว้อธิษฐานขอท่านท้าวทังสี่(ท้าวจตุโลกบาล)ว่า ขอให้มารักษาคุ้มครองสัตว์ของข้าพเจ้าอย่าให้มีภัยอันใด สัตว์นั้นปลอดภัยแล
    ข้าร้ายขโมยโจร มิอาจมาขโมยได้แล
    หากจะไปค้าขายให้ผลัดหมุนตะกรุดไปทางขวาแล้วหมุนมาไว้ที่เอวจักค้าขายดีแลหากเกิดโรคห่าโรคระบาดให้เอาจะกรุดนี้แช่น้ำประพรมไปให้ทั่วบ้านแลเมือง แม้นว่าไร่นาก็ดีหายภัยร้ายสิ้นแล
    หากผู้หญิงคลอดบุตรยาก ให้เอาตะกรุดนี้แช่น้ำแล้วตบหัวลูบหัวจะคลอดง่ายแลเอาตะกรุดนี้แช่น้ำพรมของขายก็ค้าขายดีขายคล่องแลหากจักไปขอที่พักพิงหรือขอความช่วยเหลือกับท่านผู้ใดให้เอาตะกรุดผลัดหมุนไว้ที่ท้องท่านจะเมตตาให้พักพิงช่วยเหลือแลบุคคลใดรักษาถือบูชาตะกรุดยันต์นาคนี้ไว้กับตนแม้นว่าปืนผาหน้าไม้ก็มิมาถูกต้องกายได้แลกล่าววิธีอุปเท่ห์ตะกรุดยันต์นาคคอคำไว้เท่านี้ก่อนแล
    เเครดิด ควีคเนศ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ประวัติครูบาศรีนวล ญาณสิริ(พระครูสิริญาณโสภณ )
    นักบุญแห่งวัดเจริญเมือง (ดอยเต่า) ต.เจริญเมือง อ.พาน จ.เชียงราย
    เมื่อท่านมีอายุได้ 15 ปี โยมบิดาจึงพาไปฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ที่วัดศรีโคมคำ อ.พะเยา จ.เชียงราย ปัจจุบันเป็นจังหวัดพะเยา เมื่อปลายปี พ.ศ.2463 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่ท่านครูบาศรีวิชัย ถูกคณะสงฆ์นำตัวไปสอบสวนที่กรุงเทพฯ เมื่อทางคณะกรรมการตัดสินแล้วว่าท่านถูกกลั่นแกล้งโดยที่ท่านไม่มีความผิดแต่อย่างใด ท่านครูบาศรีวิชัยจึงได้รับความเห็นใจจากสมเด็จพระสังฆราช โดยพระราชทานเงินส่วนพระองค์ถึง 60 บาท
    บรรพชา
    ครูบาศรีนวลได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเจริญเมือง เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2476 มีท่านครูบากันชนะ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่มีความสำคัญรูปหนึ่งของครรูบาศรีนวล เป็นผู้บรรพชาให้ อุปสมบทครูบาศรีนวล ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2476 ณ วัดศรีโคมคำ ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา มีครูบาศรีวิลาศ วชิรปัญญา เป็นพระอุปัชฌาย์ ครูบาเถิงวัดหลวงใน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ครูบาอ้าย วัดปูปอเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ญาณสิริ
    สำหรับการปฏิบัติธรรมและการเจริญภาวนาสมาธิภาวนาพระกรรมฐานของครูบาศรีนวล ท่านเริ่มปฏิบัติโดยศึกษามากับท่านครูบาศรีวิชัยแต่ครั้งยังเป็นฆราวาสและเมื่อท่านอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุแล้วก็ได้ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเจริญภาวนาทางด้านพุทธานุสติกรรมฐาน ธัมมานุสติกรรมฐาน และสังฆานุสติกรรมฐาน อย่างสม่ำเสมอทุกเช้าค่ำมิเคยขาด
    ครูบาศรีนวลท่านฉันอาหารประเภทมังสวิรัติเพียงมื้อเดียวมาเป็นเวลา 30 ปี ตั้งแต่เริ่มบรรพชาเป็นสามเณร ภายหลังท่านเกิดอาพาธหนักเกี่ยวกับดวงตา นายแพทย์ลงความเห็นให้ท่านฉันอาหารคาวหวานโดยทั่วไป มิเช่นนั้นดวงตาต้องพิการ ท่านจึงจำใจเลิกฉันอาหารมังสวิรัติ
    ครูบาศรีนวลเป็นพระเกจิจารย์ที่มีปฏิปทาและวัตรปฏิบัติเจริญรอยตามแบบอย่างครูบาศรีวิชัยทุกประการทั้งทางด้านการก่อสร้างทำนุบำรุงศาสนา ด้านการศึกษาปฏิบัติธรรมเจริญพระกรรมฐาน นับตั้งแต่ครูบาศรีนวลมีอายุ 14 ปี ติดตามครูบาศรีวิชัยไปก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ อย่างมากมายหลายจังหวัดในภาคเหนือจวบจนครูบาศรีวิชัย ถึงแก่มรณถาพไปครูบาศรีนวลก็ได้รับเป็นประธานในการก่อสร้างแทน จนไม่สามารถจดจำนำมากล่าวได้หมด ส่วนใหญ่ครูบาศรีนวลจะออกแบบและลงมือก่อสร้างด้วยตัวเอง เพราะท่านมีความเชี่ยวชาญการก่อสร้างมากเป็นพิเศษ ในบั้นปลายชีวิตแห่งครูบาศรีนวลชราภาพมาก จึงหยุดดการก่อสร้างลันมาปฏิบัติธรรมหนักทางด้านพระกรรมฐาน เพื่อแสวงหาความหลุดพ้น ฉะนั้นครูบาศรีนวลจึงเป็นที่เคารพของชาวเจริญเมืองทั้งปวง และได้รับคำยกย่องว่าเป็น นักบุญแห่งวัดเจริญเมือง ผู้มีวัตรปฏิบัติธรรมเจริญรอยตามครูบาศรีวิชัยผู้เป็นอาจารย์ทุกประการ
    นอกจากนี้ยังมีศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกัน แต่ยังไม่เคยร่วมงานกันก็มี ครูบาคำแสน วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ครูบาอินทจักรรักษา วัดน้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ครูบ่าซุ่ม วัดวังมุย อ.เมือง จ.ลำพูล ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ฯลฯ และเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2533 ครูบาศรีนวลก็ล้มป่วยลง ศรัทธาณาติโยมได้นำส่งโรงพยาบาลพาน อ.พาน จ.เชียงราย แต่แพทย์เห็นอาการท่านหนักมาก เลยแนะนำให้ท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แต่อาการของท่านไม่ดีขึ้นเลย กระทั่งถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2533 เวลา 20.151 น. ครูบาศรีนวลก็ได้มรณภาพ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระผงรูปเหมือนไตรมาสครูบาศรีเมืองวัดเจริญเมือง หลังยันต์นาคเขาคำวิชาเอกของครูบาศรีเมือง
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250325_145729.jpg IMG_20250325_145711.jpg
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    FB_IMG_1742827347445.jpg FB_IMG_1742827392423.jpg FB_IMG_1742827611986.jpg

    มวลสาร พระผงที่อธิษฐานจิตแล้วจำนวนมาก น้ำมนต์
    จาก 100 กว่าวัดดอกไม้บูชา พระผงธูป ดินเวชนียสถานทั้ง 4 ดินกากยายักษ์ ทรายเสกหลวงปู่พรหมมาจีวรหลวงปู่กองเป็นต้น
    อธิษฐานจิต โดย
    ๑.หลวงปู่กอง อายุ102ปี
    ๒.หลวงปู่หงษ์พรหมปัญโญ
    ๓.พระอาจารย์ดร.สิงห์ทน นราสโภ เป็นต้น
    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250324_215450.jpg IMG_20250324_215347.jpg IMG_20250324_215320.jpg
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,993
    ค่าพลัง:
    +21,371
    FB_IMG_1742898392177.jpg

    ประวัติ
    พระครูอดิสัยกิจจาทร หรือ หลวงปู่สุข ปุญญวันโต เจ้าอาวาสวัดทางกระบือ อดีตเจ้าคณะอำเภอบ้านนา ต.บ้านพร้าว อ.บ้านนา จ.นครนายก
    หลวงปู่สุข พระเกจิอาจารย์ผู้เรื่องเวทย์พุทธาคม เปื่ยมล้นด้วยเมตตาบารมี ถือมักน้อยโดยสันโดษ มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ช่ำชองในพระเวทย์ไสยเวทย์พุทธาคม อักขระ คาถาวิชา เป็นอย่างยิ่งทั้งลงอักขระเลขยันต์ ทำยงพุทธคุณเมตตามหานิยม มหาเสน่นห์ อยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุตม์ ป้องกันคุณไสย ขับไล่คุณไสย ทำเลขยันต์ทำมาค้าขายซื้อง่ายขายคล่อง เสกมนต์อาถรรพณ์ขจัดสิ่งชั่วร้ายให้กลับกลายเป็นดี สำเร็จวิชามหายันต์ 8 บุรุษ วิชาพอกแป้งถอนคุณไสย เปลื่ยนแปลงแก้ไขต้านสิ่งอาถรรพ์ ขจัดมนต์ดำ ขับถอนอาเพศทั้งปวง ทั้งเชี่ยวชาญในสมถกรรมฐาน วิปัสนากรรมฐาน มีสมาธิจิตและญาณสมาบัติแก้ช่กล้า เป็นศิษย์ผู้สืบทอดไสยเวทย์ เวทย์มนต์คาถา สายหลวงปู่สิงห์ วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา จากพระสีหราชสมาจารมุนี(หลวงพ่อเพ็ง วัดบึง)โคราช สืบทอดไสยเวทย์สายพรหมศรรอดจากหลวงพ่อแป้น วัดโคก สืบทอดพุทธธาคมจากหลวงปู่นิล วัดครบุรี จ.นครราชสีมา ปัจุบัน ครบ 83 พรรษาในวันที่ 24 มีนาคม 2555 วัตถุมงครชิ้นหลัก เหรียญดอกพิกุลปี 16 เหรียญรุ่นแรก เด่นด้านคงกระพัน
    ปัจจุบัน หลวงปู่มรณภาพแล้วครับ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    รวม ๒ องค์
    ๑.พระสมเด็จสายพิรุณหลวงพ่อสุข จะมีพอกแป้ง วิชาของท่านในองค์พระ
    ๒.เหรียญหลวงพ่อสุข
    ปี๒๕๒๖
    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250325_173622.jpg IMG_20250325_173643.jpg IMG_20250325_173714.jpg IMG_20250325_173738.jpg IMG_20250325_173803.jpg IMG_20250325_173824.jpg
     
  12. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +1,102
    จอวพระผงนาคปรก/พระชนะมาร
     

แชร์หน้านี้

Loading...