พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    สวัสดียามเช้าครับ
     
  2. danaitorn

    danaitorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2015
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +257
    ขอบูชา 227
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    228. พระผู้วิเศษแห่งแดนใต้ครับ!!! พระผงว่าน พิมพ์สี่เหลี่ยม หลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี พ.ศ.2506 ให้บูชา 900 บาท


    upload_2022-5-24_10-16-10.png
    หลวงพ่อในกุฏิวัดกุยบุรี เป็นเกจิอาจารย์ผู้วิเศษองค์หนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือเป็นอาจารย์ผู้วิเศษทางภาคใต้ก็ว่าได้ ตามตำนานและคำบอกเล่ากันต่อๆ มาว่า เดิมท่านชื่อมาก หรือบุญมาก เป็นชาวปักษ์ใต้ แต่ไม่ทราบหรือปรากฏแน่นอนว่าท่านมีถิ่นฐานอยู่ที่ไหน ได้มีเรื่องเล่ากันมาเป็น ๒ นัยด้วยกันคือ นัยหนึ่งว่าเป็นคนตำบลนาทุ่งอำเภอเมือง จังหวัดชุมพร อีกนัย หนึ่งว่า เป็นชาวหลังสวนนั้นเอง ทั้ง ๒ นัยที่ว่ามานี้ ก็หาได้มีหลักฐานปรากฏชัดเจนแน่นอนไม่ แต่ที่แน่ นอนที่สุดนั้น ก็คือ ท่านเป็นชาวปักษ์ใต้แน่นอน หลวงพ่อในกุฏิ มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันมาทั้งหมด ๔ คนด้วยกัน มีพี่ชาย ๒ และมีน้องสาว ๑ คน ส่วนตัวท่านเป็นลูกคนที่ ๓ ของบิดามารดาท่านเกิดในราวปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๐๔ สมัยแผ่นดินพระเจ้าเอกทัศ กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พี่ชายของท่านคนหนึ่งชื่ออินทร์ คนรองชื่อม่วง ส่วนน้องสาวคนสุดท้องนั้นว่ากันว่าชื่อพริ้มเพรา ตระกูลของหลวงพ่อเป็นตระกูลที่มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก ผู้ชายในตระกูล เมื่อมีอายุครบ ๒๐ ปีแล้วจะต้องบวชกันทุกคน พี่ชายคนโตที่ชื่ออินทร์ เมื่อได้มีอายุครบก็บวช คนรองที่ชื่อม่วง ครั้นเมื่ออายุครบก็บวช หลวงพ่อในกุฏิเองก็บวชเช่นเดียวกัน สันนิษฐานว่าหลวงพ่อในกุฏิ บวชในราวปี พ.ศ.๒๓๒๔ หรือ พ.ศ.๒๓๒๕ ใน ๒ ปีนี้ ปีฉลู หรือปีขาล นั่นเอง ตระกูลของหลวงพ่อในกุฏิทั้ง ๓ พี่น้อง เมื่อบวชแล้วก็ได้ศึกษาเล่าเรียนกันมา ตามยุคตามสมัย ที่มีการศึกษาอยู่ในสมัยนั้น พอมีความรู้พระธรรมวินัยพอที่จะรักษาตัวได้แล้ว ก็พยายามศึกษาเล่าเรียนในทางเวชกรรมและในทางไสยศาสตร์ และวิปัสสนากรรมมัฏฐานอีกทางหนึ่งด้วย จนสามารถชำนิชำนาญแตกฉานกันทุกองค์ทั้ง ๓ พี่น้อง แต่ละองค์ล้วนพอที่จะเป็นเกจิอาจารย์ของขลังได้กันทุกองค์ เมื่อได้อยู่จำพรรษาที่วัดเดิมกันมาตามสมควรแล้ว จึงได้ชักชวนกันเดินธุดงค์ขึ้นมาทางเหนือ พักแรมกันเรื่อยมาตามสถานที่ต่างๆ ที่นั้นบ้างที่นี่บ้าง แห่งละพรรษาหนึ่งบ้าง จนได้เดินทางมาถึงเมืองกำเนิดนพคุณหรือบางสะพานในปัจจุบัน
    พี่ชายองค์ใหญ่ คือหลวงพ่ออินทร์ ท่านได้เห็นพื้นที่และทำเลที่นั่นอุดมสมบูรณ์ดีพอที่จะพักพิงอยู่อาศัยในที่นั้นได้ ท่านจึงขอพักอยู่จำพรรษา ณ ที่นั้น ต่อมาท่านได้เป็นที่เลื่อมใสของชาวเมืองกำเนิดนพคุณ จนท่านได้ถึงการมรณภาพอยู่ ณ วัดนั้นเอง ชาวเมืองกำเนิดนพคุณจึงได้ช่วยกันสร้างรูปเหมือนของท่านไว้สักการบูชาและปิดทอง ปัจจุบันนี้รูปของท่านได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาโบสถ์ อำเภอบางสะพาน

    เมื่อเหลืออีกสองพี่น้อง คือหลวงพ่อม่วงกับหลวงพ่อมาก หรือหลวงพ่อในกุฏิ ทั้งสองก็ได้ธุดงค์กันขึ้นมาตามลำดับ จนได้มาถึงถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างบ้านกรูดกับทับสะแก หลวงพ่อม่วงท่านเห็นถ้ำเข้าก็พอใจในถ้ำนั้น ท่านเห็นเป็นถ้ำที่สวยดี จึงได้บอกกับหลวงพ่อในกุฏิซึ่งเป็นน้องชายว่า ขอพักอยู่จำพรรษา ณ ที่ถ้ำนั้น ถ้ำนั้นก็คือถ้ำคีรีวงศ์ใน ปัจจุบัน ซึ่งอยู่ไกลกับป้ายสถานีโคกตาหอม หลวงพ่อม่วงอยู่ที่นั้น ได้เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในแถบนั้น ครั้นเมื่อได้ล่วงลับดับจิตไปแล้ว ประชาชนทั้งหลายจึงได้พร้อมใจกันปั้นรูปเหมือนของท่าน ไว้สักการบูชา และก็ได้ประดิษฐาน อยู่ที่ถ้ำคีรีวงศ์นั่นเอง ปัจจุบันถ้ำนั้นได้เป็นวัดในพระพุทธศาสนาแล้วชื่อวัดถ้ำคีรีวงศ์

    หลวงพ่อบุญมากหรือหลวงพ่อในกุฏิ ท่านเหลือเพียงองค์เดียวก็ได้ธุดงค์เรื่อยขึ้น มา พักผ่อนรอนแรมจำพรรษาตลอดมา จนกระทั่งได้เดินทางขึ้นมาถึงเมืองกุยบุรี สมัยนั้นกุยบุรียังเป็นเมืองอยู่ สันนิฐานว่าอยู่ในราว พ. ศ. ๒๓๔๐ กุยบุรียังมีเจ้าเมืองปกครอง ในขณะนั้นวัดกุยบุรีกำลังว่างเจ้าอา วาสปกครองวัด เจ้าเมืองกุยบุรี และประชาชนชาวเมืองกุยบุรีจึงได้อ้อนวอนและอาราธนาให้หลวงพ่อ ได้รับเป็นเจ้าอาวาสปก ครองวัดกุยบุรี หลวงพ่อในกุฏิได้พิจารณาเห็นว่า วัดกุยบุรีนี้เป็นวัดเก่าวัดแก่ เป็นวัดที่คู่บ้านเมืองมาก่อน พร้อมทั้งได้เห็นทำเลที่ตั้งวัดอยู่ในที่เหมาะ สม และถูกลักษณะการสร้างวัดมีแม่น้ำกุยบุรีไหลผ่านทางด้านหลังวัด และตั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ที่พระภิกษุจะต้องออกไปบิณฑบาตในเวลาเช้า นับว่าเป็นสับปายะของผู้อยู่อาศัยถึงจะไม่ไกลจากหมู่บ้านแต่ก็ปราศ จากเสียงอื้ออึงเข้ามารบกวน สมเป็นที่หลีกอยู่ของสมณะผู้ใคร่หาความสงบ หลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้ที่ใฝ่ใจ ในด้านหาความสงบทางจิตอยู่แล้ว จึงได้รับอาราธนาจากเจ้าเมือง และชาวกุยบุรีปกครองวัดกุยบุรีตลอดมา หลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้ที่มีเมตตาจิต ได้ช่วยเหลืออนุ เคราะห์ และสงเคราะห์ให้กับคนทุกเพศ ทุกวัยทุกชั้นทุกหมู่เหล่า ตลอดถึงลูกเล็กเด็กแดงได้รับความป่วยไข้ ก็ช่วยพ่นปัดและต้มหยูกต้มยาให้ ท่านช่วยสงเคราะห์ให้ด้วยจิตเมตตา อยู่ตลอดเวลา นับได้ว่าท่านได้เป็นที่พึ่งของปวงชนทั้งหลายจริงๆ เมื่อเป็นดังนี้ ชาวกุยบุรีจึงได้มีหลวงพ่อในกุฏิเป็นสรณะ เพิ่มขึ้นอีกองค์หนึ่ง นอกจากไตรสรณะคมน์ ในสมัยหนึ่ง คนเฒ่าคนแก่เล่ากันมาว่า ครั้งหนึ่งที่เมืองกุยบุรีนี้ได้มีโรคระบาดเกิดขึ้นอย่างร้ายแรง ผู้คนล้มตายกันเป็นจำนวนมาก ในสมัยก่อนเรียกกันว่าโรคห่าลง ปัจจุบันก็คืออหิวาตกโรคนั่นเอง ล้มตายกันจนใบไม้เหลือง คำว่าใบไม้เหลืองนั้นก็คือ คนโบราณเมื่อมีคนตายแล้ว จะต้องนำไปฝังไว้ในป่าช้า แล้วตัดต้นไม้หรือกิ่งไม้ปักไว้ที่หลุมฝังศพเพื่อเป็นเครื่องหมายพอจำได้ ประชาชนตายเช้าตายเย็นกันทุกวัน หลวงพ่อท่านก็ได้พยายามช่วยอนุเคราะห์ด้วยการแผ่เมตตาจิต และเจริญพระพุทธมนต์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อขับไล่เสนียดจัญไร พร้อมทั้งได้ใช้เวทมนต์คาถาอาคมทางไสยศาสตร์ ช่วยปัดเป่าให้ชาวกุยบุรีได้ผ่อนคลายและผ่านพ้นจากทุกข์ภัยและมรณภัยไปได้เป็นอย่างมาก

    หลวงพ่อในกุฏิท่านเป็นผู้เคร่งครัดในด้านวิปัสสนา กัมมัฏ ฐาน และชำนิชำนาญคล่องแคล่วทางด้านไสยศาสตร์ พร้อมทั้งเป็นผู้มีเมตตาจิตอย่างสูง ทั้งเป็นผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย คือเมื่อพูดคำใดแล้วจะต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อเป็นดังนี้ชาวเมืองกุยบุรี เมืองคลองวาฬ เมืองปราณ ตลอดถึงเมืองใกล้เคียง จึงได้ศรัทธาเลื่อมใสในบุญบารมีเป็นอันมาก เมื่อใดได้รับความทุกข์ก็จะต้องหาโอกาสมาบนบานศาลกล่าว ขอให้ช่วยปัดเป่าให้ผ่อนคลายหายจากทุกข์นั้นๆ ครั้นเมื่อได้รับความสำเร็จแล้ว หรือสมความปรารถนาจากที่ตนได้บอกกล่าวต่อหลวงพ่อไว้แล้ว ก็จะต้องมานมัสการ และปิดทองที่ตัวท่านเป็นจำนวนมาก จนไม่สามารถที่จะปฏิเสธในการที่ได้บนบาน ของผู้ที่ศรัทธาเลื่อมใสได้ จึงจำต้องยอมให้เขาเหล่านั้นปิดทอง ตามที่เขาได้บนบานเอาไว้ เล่ากันว่าหลวงพ่อท่านต้องถูกปิดทองทั้งเป็น คือปิดตั้งแต่หัวเข่าของท่านลงไปจนถึง ปลายเท้าทั้งสองข้าง ในเรื่องไสยศาสตร์เวทมนตร์คาถานั้นนับว่า หลวงพ่อเป็นผู้มีอาคมขลัง และศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษองค์หนึ่ง ดังมีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่ง เมื่อหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ ได้มีพวกกะเหรี่ยงเดินทางมาขอพักอาศัยค้างคืนที่วัดคืนหนึ่ง ด้วยความที่หลวงพ่อเป็นผู้ที่มีเมตตาจิตต่อคนทุกชั้นทุกภาษา ท่านก็อนุญาตให้พวกกะเหรี่ยงเหล่านั้นพักพิงอาศัยภายในวัดได้ พวกกะเหรี่ยงในสมัยนั้นนับว่าเป็นผู้ที่มีเวทมนต์คาถาขลังเป็นอย่างยิ่ง ครั้นเมื่อได้เข้ามาพักพิงอาศัยก็ได้ผูกช้างม้าให้พักผ่อนภายในวัด แล้วพวกตนก็ต้องหุงหาอาหารกินกันในตอนเย็น ความที่เป็นคนเกียจคร้านและเชื่อมั่นในอาคมขลังของตน ในการหุงหาอาหารนั้นพวกกะเหรี่ยงได้ใช้เวทมนต์คาถาที่ขลังของตน แสดงให้ประ ชาชน ดูโดยใช้วิธีบัง คือเอามีดมาถากหน้าแข้งของตน เอามาเป็นฟืนหุงข้าว โดยแสดงมนต์บังให้ชาวบ้านได้รู้อย่างนั้น ว่าตนนี้เป็นผู้วิเศษ มีอาคมขลังชาวบ้านชาวเมือง ได้ฮือฮากันมาก จึงได้นำความไปบอกเล่าให้หลวงพ่อ ซึ่งท่านได้อยู่บนกุฏิของท่านได้ทราบ แต่หลวงพ่อท่านทราบก่อนแล้วว่า พวกกะเหรี่ยงนี้ได้ลองดีกับท่าน โดยพวกกะเหรี่ยงเหล่านั้นมิได้ถากหน้าแข้งของตนเลย แต่ได้ไปถากเอาเสาศาลาของท่านมาหุงข้าว เมื่อเป็นดังนี้หลวงพ่อจึงได้คิดจะทรมานสั่งสอนพวกกะเหรี่ยงเหล่านี้ ให้รู้สำนึกตนเสียบ้าง ท่านจึงได้ร่ายเวทมนตร์อาคมขลัง นำกะลามะพร้าวไปครอบ ช้างม้าของพวกกะเหรี่ยงไว้หมด ครั้นเมื่อพวกกะเหรี่ยงได้พักผ่อนค้างคืนแล้ว รุ่งเช้าขึ้นจะต้องเดินทางต่อไป ก็ได้เที่ยวหาช้างม้าของตนก็ไม่พบเลยสักตัวเดียว หากันทั่วทั้งบริเวณวัด ก็ไม่พบช้างม้า จึงได้ชักชวนกันไปหาหลวงพ่อ ได้เรียนถามว่าช้างม้าของพวกตนหายไปไหน หลวงพ่อจึงตอบว่าเรารู้ว่าช้างม้าของพวกเจ้าอยู่ที่ไหนแต่เราขอถามพวกเจ้าว่า เหตุใดเจ้าจึงได้กระทำความชั่วช้าเลวทรามโดยถากเสาศาลาของเราไปหุงข้าวกัน พวกกะเหรี่ยงตอบว่าพวกตนมิได้ถาก พวกตนถากหน้าแข้งตนเองต่างหาก หลวงพ่อจึงได้ชี้ให้ไปดู และบอกว่าเรารู้ทุกอย่างถึงการกระทำของพวก เจ้า พวกเจ้ากระทำกันอย่างนี้ไม่ได้ทีหน้าทีหลังอย่าได้กระทำกันอย่างนี้อีกเป็นอันขาด ทั้งที่นี้และที่อื่นๆ หลวงพ่อจึงได้ให้พวกกะเหรี่ยงรับคำปฏิญาณว่า จะไม่ทำอย่างนี้อีก หลวงพ่อจึงบอกว่าช้างม้าอยู่ไหน ถ้าไม่รับคำก็จะไม่บอก เมื่อโดนไม้นี้เข้าพวกกะเหรี่ยง จึงต้องยอมจำนนและรับปาก กับหลวงพ่อ พวกตน จะไม่ขอลองวิชาที่อันเป็นเหตุที่ทำให้ผู้อื่น เดือดร้อน และทำให้ของผู้อื่นเสียหาย หลวงพ่อจึงได้ให้พวกกะเหรี่ยง ไปเปิดกะลามะพร้าวที่คว่ำอยู่ตามข้างศาลาดู และบอกว่าช้างม้าของพวกเจ้า อยู่ที่นั้นแหละ เมื่อพวกกะเหรี่ยงได้ทำตามที่หลวงพ่อบอก ก็ได้พบช้างม้าของตนอยู่ในกะลา มะพร้าวนั้นเอง และทั้งอยู่ครบอีกด้วย จึงได้เกิดความเลื่อมใสในหลวงพ่อเป็นอันมาก ถึงกับยอมยกย่องนับถือ และยอมตนขอเป็นศิษย์ ตั้งแต่นั้นมาพวกกะเหรี่ยง ทั้งหลายก็เล่ากันต่อๆ ไปถึงความที่หลวงพ่อได้มีเมตตาจิตและมีเวทมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาก็ได้มีพวกกะเหรี่ยงได้เดินทางเข้ามาพักพิงอาศยที่วัดกุยบุรีเป็นประจำ เมื่อหลวงพ่อต้องการเครื่องยาสมุนไพรรากไม้ในป่า พวกกะเหรี่ยง ก็ได้ขวนขวายหามาถวายหลวงพ่อ อยู่เป็นประจำ เรื่องที่ท่านเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์นั้น ก็ได้มีเรื่องเล่ากันมาว่า หลวงพ่อในกุฏิท่าน ได้มีลิงเลี้ยงไว้ตัวหนึ่ง ท่านได้เลี้ยงไว้ตั่งแต่เล็กแต่น้อย ไม่ทราบว่าได้มีใครนำมาถวายให้ท่าน หลวงพ่อเลี้ยงไว้จนโตและเชื่องสามารถที่จะใช้ให้ทำงานบางสิ่งบางอย่างได้ เรียกว่ารู้ภาษาคนได้ดีทีเดียว วันหนึ่งลิงนั้นได้เที่ยวซุกซนตามสันชาติญาณของสัตว์ เที่ยวปีนป่ายต้นไม้ขึ้นโน่นรื้อนี่ หลวงพ่อจึงได้ร้องเรียกให้ลงมาลิงนั้นก็ไม่ยอมลงยังเที่ยวปีนป่ายอยู่อย่างนั้น หลวงพ่อได้เรียกจนรำคาญจึงได้พูดไปว่า เที่ยวปีนป่ายไม่ลงมา ประเดี๋ยวก็พลัดตกลงมาตายหรอก หลวงพ่อท่านพูดไปก็มิได้มีเจตนา เป็นอกุศลแต่อย่างไร ที่พูดไปก็เพราะ ว่าร้องเรียกเสียจนรำ คาญ จะด้วยเพราะวาจาอันศักดิ์ สิทธิ์ของท่าน หรือจะอย่างไรก็ไม่ทราบได้ ลิงนั้นกระโดดโลดเต้นอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น ก็ได้พลาด และตกจากยอดไม้ลงมากระแทกพื้นขาดใจตายทันที จะด้วยเพราะชะตาชีวิตของลิงมีเท่านั้น หรือเพราะว่าเป็นวาจาอันศักดิ์ สิทธิ์ของหลวงพ่อก็ไม่ทราบได้ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วชาวบ้านชาวเมืองทั้ง หลายจึงได้ศรัทธาเลื่อมใสว่า ท่านเป็นผู้ที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ จะทำอะไรก็พยายามมิให้หลวงพ่อกล่าวตำหนิติเตียนได้ อันนี้เป็นเครื่องส่งเสริมบารมีของท่านขึ้นอีกเป็นอันมาก หลวงพ่อเมื่อคราวท่านว่างจากภารกิจต่างๆ ของวัดแล้ว ท่านจะต้องบำเพ็ญภาวนาของท่านอยู่เป็นประจำ เล่ากันว่าบางครั้งท่านจะเข้าสมาธิเจริญวิปัสสนาอยู่แต่ในกุฏิของท่าน ตลอด ๗ วันบ้าง ๑๕ วันบ้าง โดยท่านจะไม่ลุกและออกจากกุฏิของท่านไปไหนเลย ด้วยเหตุอันนี้เอง จึงได้มีคำเรียกท่านอีกคำหนึ่งว่า “หลวงพ่อในกุฏิ” คำที่เรียกว่าหลวงพ่อในกุฏินั้น ก็มาจากสาเหตุที่ ท่านนั่งสมาธิแล้วไม่ออกจากกุฏิ ของท่านไปไหน ชาวบ้าน จึงเรียกท่านอย่างนั้นเรื่อยมาตลอด คำว่าหลวงพ่อมากหรือบุญมากตามชื่อเดิมของท่าน จึงได้เลือนหายไป นิยมแต่คำว่าหลวงพ่อในกุฏิกันเท่านั้นจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อท่านได้ปกครอง วัดกุยบุรี และได้เป็นที่พึ่งอาศัยแก่ปวงชนทั้งหลาย ได้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ให้ความอบอุ่นและอุปการะเผื่อแผ่ แก่ผู้ที่ได้รับความทุกข์ฯ
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    229. พระดีพิธีใหญ่ สุดยอดทั้งมวลสารและพิธี!!! พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ ปี 2516 ให้บูชา 750 บาท ปิดครับ


    upload_2022-5-24_10-32-41.png


    ในการจัดสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศนี้ท่านบรมครูสำนักปู่สวรรค์มีพระบัญชา และประทานขั้นตอนแนวทางในการดำเนินการจัดสร้างอย่างพิถีพิถัน ให้ถูกต้องตาม เทวะบัญญัติ พรหมบัญญัติ เพื่อให้เกิดความ เข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์สมเป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งยุค จึงได้มีการลงพลังจิตมวลสารก่อนที่จะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกถึง ๒ ครั้งดังบันทึกต่อไปนี้

    พิธีลงพลังจิตครั้งที่ ๑

    ระหว่างวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๑๖ - ๗ เมษายน ๒๕๑๖ เป็นพิธีปลุกเสกดินศักดิ์สิทธ์ ณ สำนักปู่สวรรค์ ( วันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ , เป็นวันเสาร์ห้า ) ในพิธีนี้มีพระเถระฝ่ายโลกมนุษย์ผู้ทรงวิทยาคุณ รอบรู้พุทธศาสน์และวิทยาคม จำนวน ๒ รูป คือ พระราชญาณดิลก ( ชิต กันตสีโล ) วัดเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขัณฑ์ และพระราชธรรมกวี วัดเสน่หา จ.นครปฐม ร่วมนั่งปรกด้วย

    พิธีลงพลังจิตครั้งที่ ๒

    พิธีปลุกเสกดินศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สองนี้ จัดขึ้น เมื่อ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๗ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชา ณ ถ้ำสาลิกา หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ผู้สำเร็จของโลกวิญญาณที่เมตตาเสด็จมาลงพลังจิตในพิธีนี้ได้แก่

    ๑.สมเด็จพระสังฆราชคุรูปาจารย์ หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) องค์ประธานสำนักปู่สวรรค์

    ๒.สมเด็จพระพุฒาจารย์( โต ) พรหมรังสี องค์อำนวยการสำนักปู่สวรรค์

    ๓.ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ เจ้าพิธีการแห่งโลกวิญญาณ

    ๔.องค์อมรินทร์จอมเทพ

    ๕.ท้าวมหาพรหมสามภพ

    ๖.ท้าวมหาพรหมสามวิจิตร

    ๗.ท้าวจตุรพรหม

    ๘.พระวิษณุมหาเทพ

    ๙.พระนาคราช

    พระสงฆ์ฝ่ายโลกมนุษย์ คือพระอาจารย์ฮ้อ กัสสะโร เป็นผู้ปลุกเสกเดี่ยวตลอดคืน



    พิธีมหาพุทธาพิเษก

    วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๑๗ เป็นวันเริ่มต้นพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีบันทึกการจัดงานดังนี้

    เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาแด่พระภิกษุสงฆ์และพระราชาคณะที่รับอาราธนามาร่วมในพิธี

    เวลา ๑๓.๐๐ น. รองนายกรัฐมนตรี สุกิจ นิมมาเหมินทร์ เดินทางมาถึงหุบผาสวรรค์เมืองศาสนาเพื่อเป็นประธานเปิดงาน คุณบุญยง ว่องวานิช เลขาธิการสำนักปู่สวรรค์ เป็นผู้กล่าวรายงานการจัดงาน

    หลังจากท่านรองนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานแล้ว ศาสตราจารย์ ดร.คลุ้ม วัชโรบล, อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ , พล.ต. ถวิล เกษตรทัต อัญเชิญธงชาติไทย พานพุ่มและธูปเทียนแพ พร้อมทั้งเรียนเชิญท่านรองนายกรัฐมนตรี อัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา เป็นปฐมฤกษ์ กองดุริยางค์กองทัพบกบรรเลงเพลงชาติ

    ศาสตราจารย์ ดร.หลวงสมานวนกิจ , พระครูวามเทพมุณี , คุณฉันท์ บุรารักษ์ นำเรียนท่านรองนายกรัฐมนตรีขึ้นสู่ศาลาชินนะปูโตอนุสรณ์ เพื่อจุดเทียนชัย ประจำชาติไทย ต่อจากนั้นจึงเรียนเชิญเอกอัครราชทูตอีก ๘ ประเทศอัญเชิญธงชาติและจุดเทียนชัยของแต่ละประเทศตามลำดับ พระสงฆ์จำนวน ๙๙ รูป สวดชยันโต ตลอดพิธี

    ช่วงเวลาอันสำคัญ

    เวลา ๑๗.๓๕ น. ม.จ.ชุมปกะบุตร ชุมพล ได้อัญเชิญดวงประทีปพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อมาจุดเทียนชัยในพิธีมหาพุทธาภิเษกนี้เป็นกรณีพิเศษ ยังความปลาบปลื้มมายังคณะกรรมการจัดงานและผู้เข้าร่วมงานนี้เป็นอย่างยิ่ง

    ในงานนี้ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์ผู้ทรงคุณทั่วราชอาณาจักรที่เข้าร่วมในพิธีมหาพุทธาภิเษกนี้ จำนวน ๙๙ รูป พิธีนั่งปรกลงพลังจิตในแต่ละวันนั้นจะมีพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเข้านั่งปรกครั้งละ ๙ รูปเจริญสมาธิ แผ่พลังจิตพุทธาภิเษกไปจนรุ่งสาง เป็นเช่นนี้ตลอด ๙ วัน ๙ คืน ในวันสุดท้ายของพิธี พระอมฤตนันทะมหาเถโร ประธานสงฆ์ประเทศเนปาล ซึ่งมีเชื้อสาย ศากยวงศ์เป็นประธานดับเทียนชัย ตามบันทึกกล่าวไว้ว่า เมื่อทางสำนักเปิดให้ผู้ที่สั่งจองมารับพระได้ ก็ได้มีสาธุชนเข้ามารับพระกันอย่างเนืองแน่นเป็นประวัติการณ์

    ๙ มวลสาร มงคล ในพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

    ๑.มวลสารปฐมบทอันใช้คุลีการพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศคือ ดินศักดิ์สิทธิ์จากปูชนียสถาน ๙ ประเทศที่อัญเชิญมาจาก ไทย ลาว เขมร พม่า เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย และเนปาล ผืนแผ่นดินในประเทศดังกล่าว เชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์เมื่อครั้งพระพุทธกาลมาแล้วทั้งสิ้น ทำให้เนื้อดินจากสถานที่เหล่านั้นล้วนเปี่ยมไปด้วยพุทธบารมี แห่ง พระปัญญาคุณ พระกรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระสมเด็จดินเก้าประเทศจึงเป็นพระพุทธปฏิมากรรมที่ทรงด้วย บุญญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ ด้วยกระแสแห่งพุทธานุภาพโดยตรงจากองค์พระบรมศาสนดาเอกของโลก

    ๒.มวลสารทุติยบท คือว่านมงคล ๑๐๘ ประการ อันเป็นเนื้อหาที่เป็นมงคลยิ่งอาธิเช่น

    ๑.ว่านเศรษฐี มีคุณภาพทางกระทำให้เกิดความมั่งคั่งสมบูรณ์นาฐานะกิจการอาชีพ(สัมมาชีพ) ก่อให้เกิดความมั่นคงในฐานะทางครอบครัวอีกส่วนหนึ่งด้วย

    ๒.ว่านชัยมงคล มีคุณในทางก่อให้เกิดความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตแก่เคหสถานและอาณาบริเวณอันเป็นที่อยู่อาศัย

    ๓.ว่านมหาอุตม์ ขึ้นชื่อลือมาแต่ครั้งโบราณว่าใครมีว่านมหาอุตม์แล้วอาวุธปืนไม่ระคายผิวหนังซ้ำสามารถกระทำให้ดินระเบิดหมดอำนาจลงได้ด้วย

    ๔.ว่านเสน่ห์จันทน์ มีคุณาธิคุณทางพืชอาถรรพณ์ก่อให้เกิดเสน่ห์เกิดความรักใคร่แก่ผู้ที่ได้ประสบพบปะสมาคมด้วย นี้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาด้านว่านที่มีอยู่ในองค์พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ


    ๓.มวลสาร ตติยบท คือดอกไม้นานาพันธุ์ ๑๐๘ พันธุ์ อาธิเช่น เกสรดอกบุนนาค เป็นยาบำรุงหัวใจให้กระชุ่มกระชวย เบิกบาน เกสรสัตตบุศย์ เกสรโกมุท เกสรลินจง อันดอกไม้นานาพันธุ์พร้อมด้วยเกสร ๑๐๘ ชนิดทุกๆชนิดล้วนมีอารักขเทพประจำรักษาอยู่ด้วยกันทั้งหมดดังนั้นมวลสารตติยบทในพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ จึงเป็นที่สถิตแห่งเทพเจ้าประจำบุปผาชาติถึง ๑๐๘ องค์ พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศจึงทรงด้วย เทวานุภาพ อีกประการหนึ่งด้วย

    ๔.มวลสารจตุตถบท คือผงสมเด็จอิทธิเจ (รวมด้วยผงพระพุทธคุณ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงปถมัง หรือเรียกอีกนามหนึ่งว่าผงวิเศษ ๕ ประการ

    ผงอิทธิเจ เป็นผงที่เกิดจากดินสอดินขาวปั้นเป็นแท่งๆ มีกรรมวิธีการทำดินสอผงนี้โดยเฉพาะ ผู้ที่จะทำดินสอนี้ชนิดนี้ใช้ได้จะต้องเป็นผู้สำเร็จในวาชาไสยเวทย์วิทยาคุณ ( สายขาว ) อันเป็นวิทยาการที่มีอาจารย์น้อยคนที่จะเรียนสำเร็จได้ แต่เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังสี ท่านเรียนวิชานี้สำเร็จตั้งแต่ยังเป็นสามเณร

    เมื่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านทำผงได้แล้ว ท่านก็เก็บผงนี้ไว้ในเต้าปูนแดง กาลต่อมาได้มีอุบาสกท่านหนึ่งได้เก็บรักษาไว้ ( กล่าวกันว่าอุบาสกผู้นี้เป็นคนวัดสังเวชวิศยาการ บางลำพูบน ได้ติดตามเจ้าประคุณสมเด็จ มาตั้งแต่ครั้งสมเด็จเป็นสามเณร )

    ผงวิเศษห้าประการนี้ได้รับมรดกมาจากท่านผู้เฒ่าแห่งวัดสังเวชฯมอบให้นำมาคุลีการในการสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศ และการสร้างพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศในครั้งนี้มีคณาจารย์ได้นำผงวิเศษห้าประการของสมเด็จฯผสมลงทั้งหมด ( สำนักวัดสังเวชวิศยาราม มีพระอาจารย์คือ พระบวรวิริยเถร )

    ๕.มวลสารปัญจบท ผงพระคาถาชินปัญชร เป็นผงที่เกิดจากดินสอหินขาวบริสุทธิ์ ดินขาวชนิดนี้ในต่างประเทศเรียกว่า ดินกัวลีน เป็นของบริสุทธิ์โดยธรรมชาติมีค่าสูงมาก เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี ท่านเป็นผู้ค้นพบบ่อดินขาวนี้ คราวที่ท่านธุดงค์ไปเมืองกำแพงเพชร เป้นบ่อดินบริสุทธิ์ที่สมเด็จค้นพบได้อย่างอัศจรรย์ ( และจนกระทั่งปัจจุบัน [ ข้อมูลอ้างอิงเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ ] ยังไม่มีผู้ใดสามารถค้นพบบ่อดินชนิดนี้อีกเลย )

    ท่านได้นำดินขาวมาทำเป็นดินสอมงคล และเขียนพระคาถาชินปัญชรด้วยอักขระขอมลงในกระดานชนวนไม้มะละกอ จากนั้นก็เก็บผงสีขาวนั้นไว้นำมาสร้างเป้นพระประติมากรรมองค์เล็กๆบังเกิดกิติคุณความศักดิ์สิทธิ์ จนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องทรงตรัสถามสมเด็จฯ

    ๖.มวลสาร ฉมหามงคล ผงผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช ผงนี้เกิดจากผ้ายันต์พิทักษ์เอกราชอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่องค์พระพรหมและเทพยเจ้าชั้นสูงในพรหมโลกร่วมเป็น “ เทพสภา ” สร้างไว้ในสำนักปู่สวรรค์ มีความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นเครื่องคุ้มครองปกป้องภัยแก่ทหารตำรวจและผู้มีส่วนในการพิทักษ์เอกราชของชาติไทยที่มีชีวิตอยู่ในแดนทุรกันดาร

    ผงผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช นับเป็นผงที่มีความพิสดารอัศจรรย์เพราะผงนี้จะรวมตัวกันเป็นรูปร่างต่างๆและจะปรากฏในองค์พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ เมื่อการสร้างพระได้ผ่านไปครบ ๙ ปีแล้ว รูปลายลักษณะเป็นภาพมงคลประจำแต่ละองค์ไม่เหมือนกันแล้วแต่ผู้เป็นเจ้าของพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ จะบูชาหนักไปทางด้านใดด้านหนึ่ง รูปลายลักษณ์มงคลอาจเกิดเป็นภาพ วัตถุทิพย์ ในสรวงสวรรค์อาจเกิดเป็นภาพเครื่องมงคล ๙ ประการอันได้แก่ คธา สังข์ จักร หม้อน้ำ ธงสามชาย กรอบหน้า โคอุคุภราช ขอช้าง อันงดงามในเมื่อถึงวาระปีที่เก้าแห่งการสร้างพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

    ๗.มวลสารสัตตมงคล น้ำพระพุทธมนต์ในพิธีเสาร์ ๕ สามโลก ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ของไทยเราถือกันโดยเคร่งครัดว่าวันเสาร์ ๕ ( เดือน ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ วันเสาร์ ) เป็นวันสำคัญในทางไสยศาตร์ ( ไสยฝ่ายขาวอันเป็นเวทวิทยาการที่ให้คุณแก่มนุษย์โดยฝ่ายเดียว

    เทพพระเสาร์ อันเป็นดาวประจำดาวเสาร์ จะเสด็จมาประกอบพิธีบวงสรวงเทพยเจ้าพระผู้เป็นเจ้าและบำเพ็ญกุศลในพระพุทธศาสนา ( ด้วยปัตตานุโมทนามัยคือ อนุโมทนาการบุญของมนุษย์ )ในวันเสาร์ห้านี้ น้ำพระพุทธมนต์ในวันเสาร์ ๕ นี้จึงเป็นน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ และน้ำพรหมมนต์พร้อมกันในคราวเดียวกัน จึงเกิดความศักดิ์สิทธิ์สูงยิ่ง

    น้ำพระพุทธมนต์พิธีเสาร์ห้า ๓ โลก ที่นำมาผสมสร้างพระคราวนี้สำเร็จโดยการอัญเชิญ พรหมโลก เทวโลก และมนุษยโลก ร่วมทำพระปริตร พร้อมกันไป น้ำพระพุทธมนต์ตำรับนี้จึงเรียกว่า น้ำทิพย์อันเกิดจาก พรหมฤทธานุภาพ และเทวานุภาพ ด้วยกันสองประการ

    ๘.มวลสารอัฏฐมงคล น้ำมันพระพุทธมนต์ครอบจักรวาล มวลสารชุดนี้เป็นตัวประสานให้ผงวิเศษและดินบริสุทธิ์รวมตัวกันเป็นรูปแบบที่นายช่างต้องการ ( เป็นรูปองค์พระ ) นอกจากนั้นยังช่วยให้เกิดความสะอาดแวววาวสะท้อนแสงในเนื้อผงอีกด้วย

    น้ำมันต์พุทธมนต์ครอบจักรวาลเป็นน้ำมันจากพืชบริสุทธิ์ เช่น น้ำมันสกัดจากผลนาฬิเกร์ (ผลมะพร้าวสีแสด เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งในบางแห่ง ) น้ำมันสกัดจากผลมะเค็ด ( คล้ายน้ำมันตังอิ๊ว ที่มาจากประเทศจีน ) น้ำมันสกัดจากผลพระเจ้า ๕ พระองค์ (มีลวดลายเป้นพระเจ้าห้าพระองค์ปรากฏอยู่ที่ผิว) น้ำมันสกัดจากผลไม้ที่ขึ้นในลังกาทวีป เป็นต้น

    ๙.มวลสาร นวมงคล โองการใบลานพิธีมงคลโบราณ ในตำรับไสยเวทวิทยาคม อันเป็นตำรับหนึ่งในไตรเพทางคศาสตร์ ท่านกำหนดให้อัญเชิญเทพเจ้าในเทวโลกเสด็จมาร่วมพิธีมงคลในมนุษยโลกเป็นการ อนุโมทนาการทำบุญเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ในพิธีนั้นๆด้วยทุกครั้งทุกคราวไป การพิธีนี้เป็นประเพณีของชาติไทยตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย การอัญเชิญเทพเจ้าก็คือพราหมณ์อ่านโองการอัญเชิญจากคัมภีร์ใบลาน และคัมภีร์ใบลานใบลานโบราณอันเป็นโองการศักดิ์สิทธิ์นี้ใช้ในการคุลีการพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

    รายนามของพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ในพิธีมหาพุทธาพิเศกพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ ณ อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
    ๑.สมเด็จสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธ ประธานในพิธี
    ๒.สมเด็จพระธีรญาณมุณี วัดจักวรรดิ์
    ๓.พระสาสโสภณ วัดเทพศิรินทราวาส
    ๔.พระพรหมมุนี วัดราชผาติการาม
    ๕.พระพุทธพจนวราภรณ์ วัดราชบพิธ
    ๖.พระเทพคุณาภรณ์ วัดเทพธิดาราม
    ๗.พระเทพเมธี วัดเศวตรฉัตร
    ๘.พระมหารัชมังคลาจารย์ วัดราชบพิธ
    ๙.พระเทพโสภณ วัดพระเชตุพนฯ
    ๑๐.พระเทพประสิทธิคุณ วัดประยุรวงศาวาท
    ๑๑.พระเทพวิสุทธิโมลี วัดมหาธาตุ จังหวัดราชบุรี
    ๑๒.พระราชธรรมกวี วัดเสน่หา จ.นครปฐม
    ๑๒.พระราชญาณดิลก วัดเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขัณฑ์
    ๑๓.พระราชปัญญาภรณ์ วัดไร่ขิง จ.นครปฐม
    ๑๔.พระวินัยวาศาจารย์ วัดท่าตำหนัก จ.นครปฐม
    ๑๕.พระครูประสิทธิวรญาณ วัดอุดมรังษี กรุงเทพมหานคร
    ๑๖.พระครูพรหมโชติวัฒน์(หลวงพ่อบุญมี) วัดอ่างแก้ว
    ๑๗.พระครูประยงค์ ชาคโร วัดศรีสำราญ จ.นครปฐม
    ๑๘.พระครูวิจิตรนวการ วัดโคนอน
    ๑๙.หลวงพ่อสมศักดิ์ สันติจิตโต วัดธรรมศาลา
    ๒๐.พระราชญาณกวี วัดขันเงิน จ.ชุมพร
    ๒๑.พระอโนมคุณมุนี วัดโพธิการาม
    ๒๒.พระราชสารโสภณ วัดตันตริยสภิรมย์ จ.ตรัง
    ๒๓.พระราชญาณเวที วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช
    ๒๔.พระอาจารย์บุญคง วัดภัทยาราม จ.สงขลา
    ๒๕.พระเทพสารสุธี วัดภูผาภิมุข จ.พัทลุง
    ๒๖.พระราชพุทธิรังษี วัดมุจลินทวาปีวิหาร
    ๒๗.พระครูใบฎีกาขาว วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี
    ๒๘.พระพิศิษฐ์ธรรมภาณ วัดเจริญสมณกิจ จ.ภูเก็ต
    ๒๙.พระครูอุปถัมภ์บุรกร วัดจันทาราม จ.ระนอง
    ๓๐.พระธรรมาวุธวิศิษฐ์ วัดธรรมวาวุธฯ จ.กระบี่
    ๓๑.พระพุทธวิริยากร วัดสัตตานาถฯ จ.ราชบุรี
    ๓๒.พระครูอินทโชติวัฒน์ วัดปากท่อ จ.ราชบุรี
    ๓๓.พระครูวรกิจจาภิวัติ วัดป่าไก่
    ๓๔.พระครูภาวนานิเทศน์ก์ วัดเขาวัง
    ๓๕.พระครูสตาธิการุณ(หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง
    ๓๖.พระครูสถิตธรรมสาคร วัดนางสาว
    ๓๗.พระครูภาวนาวรคุณ วัดเกตุมดีสีวราราม
    ๓๘.พระครูพิศาลสุตาคม วัดหนังราชวรวิหาร
    ๓๙.พระราชโมลี วัดราชโอรส
    ๔๐.พระวิมลกิจจารักษ์ วัดชนะสงคราม
    ๔๑.พระปลัดพลายงาม วัดกำแพง
    ๔๒.พระมหาพิสูจน์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    ๔๓.พระครูกิตตินนทคุณ(หลวงพ่อกี๋) วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
    ๔๔.พระครูสังฆรักษ์ วัดนครชื่นชุ่ม
    ๔๕.พระอธิการพวง วัดตะโน
    ๔๖.พระครูถาวรวิทยาคม(หลวงปู่เพิ่ม) วัดสรรเพชร
    ๔๗.พระครูสมุห์ศรีวงศ์ วัดแก้วแจ่มฟ้า
    ๔๘.พระครูปลัดเยื้อน(พระมหาสิทธิการ) วัดเพชรสมุทรวรวิหาร
    ๔๙.พระราชสังวรวิสุทธิ์ วัดป่าโมก จ.อ่างทอง
    ๕๐.พระครูภาวนารังสี วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๕๐.พระครูพิพิธวิหารการ(หลวงพ่อเทียม)วัดกษัตราธิราช
    ๕๑.พระโฑธาราคณวัฒน์ วัดเฉลิมอาสน์
    ๕๒.พระครูอาจารโสภณ วัดกลางวังเย็น
    ๕๓.พระครูวิจิตรธรรมรส วัดบ้านโปร่ง
    ๕๔.พระครูโสภณรัตภรณ์(เพิ่ม เขมกาโม) วัดดอนตูม
    ๕๕.พระครูสมุทรกิจโกศล วัดป้อมแก้ว
    ๕๖.พระครูสมุทรสารโสภณ วัดบางกะพ้อม
    ๕๗.พระครูสุวรรณสมุทรคุณวัดเทพประสิทธิคณาวาส
    ๕๘.พระครูสมุทรเมธี วัดอัมพวันเจติยาราม
    ๕๙.พระครูสมุห์ทองก้อน วัดเพชรสมุทรวิหาร
    ๖๐.พระครูอดุลวิหารกิจ วัดสระแก้ว
    ๖๑.พระอาจารย์วิโรจน์รัตนโนบล (หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี)
    ๖๒.พระเกษตรศีลาจารย์ วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ศรีสะเกษ
    ๖๓.พระครูศรีไคลคณารักษ์ วัดกัลยาโฆสิตาราม
    ๖๔.หลวงพ่ออ่อน วัดเพียมาตร
    ๖๕.พระเมธีธรรมาราม วัดอสาณ
    ๖๖.พระปริยัติวรคุณ วัดกลาง
    ๖๗.หลวงพ่อสาม(หลวงปู่สาม อกิญฺจโน)วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์
    ๖๘.พระครูสุนทรธรรมโกวิท วัดบึง
    ๖๙.พระปทุมญาณมุนี วัดบึง
    ๗๐.พระอริยานุวัตร วัดนาควิชัย
    ๗๑.พระสุเมธีธรรมภาณ วัดประชาบำรุง
    ๗๒.พระศิริวุฒิเมธี วัดบูรพาภิรมย์
    ๗๓.พระราชสารธรรมมุนี วัดศรีนวล จ.ขอนแก่น
    ๗๔.พระวินัยสุนทรเมธี วัดศรีจันทร์
    ๗๕.พระครูโอภสสมณกิจ วัดป่าวิเวกธรรม
    ๗๖.พระราชธรรมานุวัตร์ วัดประชานิยม
    ๗๗.พระเทพรัตนโมลี วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม
    ๗๘.พระครูอรรถการโกวิท วัดศิลาอาสน์
    ๗๙.พระครูวิจิตรนิโรธคุณ วัดทุ่งสว่าง
    ๘๐.พระครูอมรวิสุทธิ์ วัดศรีธรรมาราม
    ๘๑.พระครูจันทรังษี วัดบางขนาก
    ๘๒.พระครูสาทรพัฒนกิจ(หลวงพ่อลมูล)วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
    ๘๓.พระครูสะวิมลกิจ วัดบางแคน้อย
    ๘๔.หลวงพ่อมุด มหาปทุโม วัดยางสุทธาราม
    ๘๕.หลวงพ่อผ่อง วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส
    ๘๖.หลวงพ่อเส่ง(หลวงปู่เส่ง โสภโณ) วัดกัลยาณมิตร
    ๘๗.พระครูสังวรวิมลเถร(หลวงปู่โต๊ะ)วัดประดู่ฉิมพลี
    ๘๘.พระครูสังวรธรรมานุวัตร์(หลวงปู่พล)วัดหนองคณฑี
    ๘๙.พระครูภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี)
    ๙๐.หลวงพ่อฮ้อ สำนักสงฆ์หุบผาสวรรค์
    ๙๑.พระอาจารย์บุญคง
    ๙๒.พระอาจารย์บุตร
    ๙๓.พระอาจารย์มั่น
    ฯลฯ
    *** พระอมฤตนันทะมหาเถโร ประธานสงฆ์แห่งประเทศเนปาล เป็นประธานในพิธีดับเทียนชัย


    ที่มาแหล่งข้อมูล : http://poosawan.org/index.php/2013-07-29-08-39-22/126-2013-11-20-11-21-40
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2022
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    สนใจรายการไหนสอบถามได้ครับ
    Tel. 0652696697
    Line : himhirose
    เพิ่มค่าจัดส่ง 50 บาท

    ***ช่องทางการโอนเงินค่าบูชาครับ
    1. พร้อมเพย์ : 0652696697
    2. ธ.กรุงศรีอยุธยา เลขที่ 795-1-05564-7
    ชื่อ นายเธียรวิชญ์ จรัญเดชากาญจน์

    _/I\_ "ขอบคุณลูกค้าทุกท่านครับ" _/I\_
     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    230. ของดีวัดป่าบ้านตาดยุคต้น ๆ สารพัดสุดยอดชะนวนมวลสาร!!! พระสมเด็จ หลังรูปเหมือนนั่งเต็มองค์ รุ่นชนะมาร ปี ๒๕๔๗ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด ให้บูชา 1350 บาท


    upload_2022-5-24_12-16-33.png

    upload_2022-5-24_12-17-0.png
     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    231. สุดยอดของดีพระอริยะครับ!!! เหรียญหลวงตามหาบัว ปี 2544 รุ่นแรก ให้บูชา 1,550 บาท


    upload_2022-5-24_12-30-40.png



    เป็นอีกรุ่นที่ หลวงตามหาบัว พระอริยะสงฆ์ศิษย์สายหลวงปู่มั่น ผู้มากด้วยบารมีธรรม เมตตาอธิษฐานจิต ให้แน่นอน อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งโอกาสน้อยนักน้อยหนาครับ ที่หลวงตามหาบัว จะเมตตา อนุญาตให้จัดสร้างพระเครื่องให้สักครั้ง โดยเฉพาะรูปลักษณ์ของท่านเอง และเมตตาอธิษฐานจิตให้

    เหรียญรุ่นนี้นับว่าเป็นครั้งแรก รุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาโดยท่านอนุญาตและเมตตาอธิษฐานจิตให้ครับเหรียญหลวงตามหาบัว ปี 44 จัดสร้างขึ้น ในโอกาศวันครบรอบ จัดตั้งเมืองอุดร ครบ 118 ปี ในวันที่ 18 มกราคม 2544

    เนื้อเงิน 200 เหรียญ
    เนื้ออัลปาการ์ลงยา 2000 เหรียญ
    นวะโลหะ 5000 เหรียญ

    เนื้อเงิน เนื้ออัลปาการ์ เนื้อนวะโลหะ ตอกโค๊ต นะ และโค๊ต ใบใม้ (บางท่านเรียกเป็นดอกบัว) ทั้งสามเนื้อ ใช้โค๊ตตัวเดียวกัน

    เนื้อเงิน และอัลปาก้า มีหมายเลขกำกับ นวะโลหะไม่ตอกหมายเลข
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    232. เหรียญฉีดหลังธรรมจักร(ล้อแม็ก)รุ่นแรกเนื้อโลหะผสมรุ่น.เมตตาบารมี .หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน(พระธรรมวิสุทธิมงคล) วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี สร้างปี2547 ให้บูชา 999 บาท

    upload_2022-5-24_12-33-23.png


    upload_2022-5-24_12-33-44.png

    #เหรียญล้อแม็กรุ่นแรก(เหรียญธรรมจักร)
    #ตอกสองโค้ต รุ่นเมตตาบารมี พิธีเดียวกับรูปหล่อรุ่นแรกฐานภูเขา
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี พ.ศ.๒๕๔๗
    หลวงตามหาบัวเมตตาอธิษฐานจิตสามวาระ
    #วาระที่๑ อธิษฐานจิตพร้อมกับพระกริ่งรูปเหมือนฐานเขียง รุ่นเมตตา ณ วัดป่าบ้านตาด (เปิดโครงการช่วยชาติ เป็นการรวมยอด ๑๕ ก.พ. ๒๕๔๗
    #วาระที่๒ อธิษฐานจิต ณ สวนอัมพร คราวถวายทองคำตันที่ ๑๐ สมเด็จพระราชินีเสด็จเป็นองค์ประธานฝ่ายฆราวาส ๑๒ เม.ย. ๒๕๔๗
    #วาระที่๓ อธิษฐานจิตคราวถวายทองคำตันที่ ๑๑ ปิดโครงการช่วยชาติ ณ สวนแสงธรรม ๑๒ ส.ค. ๒๕๔๗
    "นับเป็นของดีที่หายากมากๆ”
    "งดงามด้วยพุทธศิลป์ เข้มขลังด้วยพุทธคุณ"
     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    ###ปิดครับ
     
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    ###ปิดครับ
     
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    233. ประสบการณ์มากมายครับ!!! รูปหล่อหลวงพ่อกวยเนื้อนวะโลหะ พระอาจารย์ตั้วจัดสร้างวัดทับขี้เหล็กปี33 ให้บูชา 999 บาท ปิดครับ


    upload_2022-5-24_21-50-12.png

    upload_2022-5-24_21-50-35.png

    upload_2022-5-24_21-50-44.png
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2022
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    สนใจรายการไหนสอบถามได้ครับ
    Tel. 0652696697
    Line : himhirose
    เพิ่มค่าจัดส่ง 50 บาท
     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    สวัสดียามเช้าครับ
     
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    234. พระผงพุทธจาโร รุ่นเมตตา หลังยันต์ ปั๊มหมึก หลวงปู่สิม พุทธจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ ให้บูชา 900 บาท


    upload_2022-5-25_16-34-19.png

    upload_2022-5-25_16-36-25.png


    พระผงพุทธจาโร รุ่นเมตตา หลังยันต์ ปั๊มหมึก หลวงปู่สิม พุทธจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ เป็นพระผงรูปเหมือนที่จัดสร้างขึ้นพร้อมกับเหรียญหล่อรุ่นเมตตา พระผงรุ่นนี้จัดว่าเป็นพระเนื้อผงที่มีเนื้อหามวลสารและการผสมเนื้อได้ดีมากอีกรุ่นหนึ่ง และเป็นพระหลักอีกชุดหนึ่งของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร จัดสร้างปี 2517 จำนวน 9,999 องค์ ผู้จัดสร้างโดยคุณธงชัย อุดมความสุข

    "เป็นพระเครื่องเพียงรุ่นเดียวที่หลวงปู่สิม พูดถึงอยู่บ่อยครั้งที่สุด และสั่งให้ลูกศิษย์ลูกหาหาบูชาเอาไว้ให้จงดี ก็คือ พระชุดเมตตา
    "เมตตานี้ดีนะ มีไว้แล้วหรือยัง "ให้หาเอาไว้ให้ได้นะ " หลวงปู่สิมสั่งศิษย์ใกล้ชิด "
    "พระผงรูปเหมือนหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    หลังยันต์ห้า (รุ่นเมตตา)ปี๑๗
    ถือว่าเป็นของดีหน้าใช้อีกรุ่นหนึ่งครับพระผงรุ่นนี้ จัดว่าเป็นพระเนื้อผงที่มีเนื้อหามวลสารดีมากๆ
     
  16. Parichati

    Parichati Parichati

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2020
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +48
    233. ประสบการณ์มากมายครับ!!!
    รูปหล่อหลวงพ่อกวยเนื้อนวะโลหะ
    พระอาจารย์ตั้วจัดสร้าง
    วัดทับขี้เหล็กปี33
    ให้บูชา 999 บาท

    ขอจองค่ะ
     
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับพี่
     
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    สวัสดียามเช้าครับ^^
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    235.พระผงหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ พิมพ์รูปเหมือนกลีบบัว ออกวัดสัมพันธวงศ์ ปี ๒๕๑๖ ให้บูชา 650 บาท


    upload_2022-5-26_12-17-37.png


    พิธีปลุกเสกในวาระแรก ปี 2516
    -วัตถุมงคลชุดนี้มี พระพุทธรูปบูชาจำลอง ขนาด 5 นิ้ว 9 นิ้ว รวมพระเครื่องของหลวงปู่แหวน สุจินโณ ซึ่งได้อนุญาตให้ทางวัดเกาะจัดสร้างหลายชนิด เมื่อปีพ.ศ.2516
    -ปลุกเสกครั้งที่ 1 ในวันมาฆะบูชา 7 กุมภาพันธ์ ปี 2516
    -ปลุกเสกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 หลวงปู่อายุครบ 7 รอบ 16 มกราคม ปี 2517

    พิธีมหาพุทธาภิเษกวาระที่ 2 หมายกำหนดการ ไว้ 3 วัน

    -ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก พระพุทธปฏิมาปรานประจำพระอุโบสถสร้างใหม่ ของวัดสัมพันธวงศ์, พระพุทธรูปบูชาจำลองหน้าตัก 5 นิ้ว 9 นิ้ว และพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระเกศพระพุทธปฏิมาประธาน โดยกราบทูลอาราธนา เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเสด็จเป็นประธานประกอบพิธี กับได้ทูลเชิญพลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล เป็นประธานอำนวยการจัดงาน และทูลเชิญ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์ องค์อุปถัมภ์ของวัด เป็นประธานที่ปรึกษา
    ณ พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) กรุงเทพมหานครวันที่ 29 30 31 ธันวาคม พ.ศ. 2517

    กำหนดมหาพุทธาภิเษกเฉพาะวันที่ 30 ธ.ค. 2517
    -มีพิธีในวันจันทร์ที่ 30 ธ.ค. 2517 สมเด็จพระสังฆราช ทรงประกอบ พิธีจุดเทียนชัยมหาพุทธาภิเษก เวลา 20.36 นาฬิกา มีพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ จากภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวม 60 รูป มานั่งปรกบริกรรมภาวนาปลุกเสกตลอดคืน มีดังนี้

    1.หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี (ชรามาก จะแผ่พลังเมตตาจิตมาในวันพิธี)
    2.หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ (ชรามาก จะแผ่นพลังเมตตาจิตมาให้ในวันพิธี)
    3.พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโต วัดสิริสาลวัน อุดรธานี
    4.พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ วัดนิโครธาราม อุดรธานี
    5.พระอาจารย์บุญ ชินวโส วัดศรีสว่างแดนดิน สกลนคร
    6.พระอาจารย์จันทร์ เขมปปตโต วัดจันทาราม หนองคาย
    7.พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร
    8.พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดภูทอก หนองคาย
    9.พระอาจารย์ลี ฐิตธมโม วัดศรีชมพู สกลนคร
    10.พระอาจารย์แว่น ธนปาโล วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร
    11.พระอาจารย์อุ่น กลยาณธมโม วัดป่าบ้านโคก สกลนคร
    12.พระอาจารย์สุภาพ ธมมปญโญ วัดทุ่งสว่าง สกลนคร
    13.พระอาจารย์คล้าย ทานรโต วัดสุจินต์ประชาราม สกลนคร
    14.พระอาจารย์เตรียม ธมมธโร วัดสามัคคีธรรม สกลนคร
    15.พระอาจารย์เคน เขมาสโย วัดป่าบ้านหนองหว้า สกลนคร
    16.พระอาจารย์บุญมี ฐิตปุญโญ วัดประชานิยม สกลนคร
    17.พระอาจารย์ประสาร ปญญาพโล วัดคามวาสี สกลนคร
    18.พระอาจารย์บัว วัดป่าบ้านเสาเส้า อุดรธานี
    19.พระอาจารย์ปั่น ญาณวโร วัดพุฒาราม สกลนคร
    20.พระอาจารย์สมัย ทีฆายุโก วัดโนนแสงทอง สกลนคร
    21.พระอาจารย์เกิ่ง วิทิโต วัดสามัคคีบำเพ็ญผล สกลนคร
    22.พระสังวรวิมลเถร (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    23.พระวิบูลเมธาจารย์ (หลวงพ่อเก็บ) วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
    24.พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดหนองพะอง สมุทรสาคร
    25.พระครูวิจารณ์สมถกิจ (จรัญ เขมจารี) วัดประชารังสรรค์ ศรีสะเกษ
    26.พระครูพิเนตสมณกิจ วัดประชารังสฤษฎ์ ศรีสะเกษ
    27.พระครูพิพิธพัชรศาสน์ (หลวงพ่อจ้วน) วัดเขาลูกช้าง เพชรบุรี
    28.พระครูพิทักษ์วิหารกิจ (หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ
    29.พระครูญาณจักษ์(ปรมาจารย์ผ่อง จินดา) วัดจักรวรรดิ กรุงเทพฯ
    30.พระศีลขันธโสภณ (หลวงพ่อสนิท) วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
    31.พระโพธิสังวรเถร (หลวงพ่อฑูรย์) วัดโพธินิมิต กรุงเทพฯ
    32.พระอุดมสารโสภณ (ผาสุก) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ
    33.พระญาณโพธิ (หลวงพ่อเข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
    34.พระครูวรพรตศีลขันธ์ (หลวงพ่อแฟ้ม) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
    35.พระสิรินันทมุนี (สนั่น) วัดพิตรพิมุข กรุงเทพฯ
    36.หลวงปู่ฟัก วัดวังไทรติ่ง ประจวบคีรีขันธ์
    37.พระครูประจักษ์ตันตยาคม (เฉลา) วัดคีรีภาวนาราม ระยอง
    38.พระอาจารย์พวง สุวีโร วัดป่าบ้านปูลู อุดรธานี
    39.พระอาจารย์แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร
    40.พระอาจารย์ศรีนวล สิริปญโญ วัดศรีไตรรัตนนิมิต อุดรธานี
    41.พระอาจารย์บุญมี วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
    42.พระอาจารย์หนู สุจิตโต วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
    43.พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อหิน) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
    44.พระปัญญาพิศาลเถร (สงวน) วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯ
    45.พระธรรมภาณโศภน (สวัสดิ์) วัดปลดสัตว์ อ่างทอง
    46.พระพ่อสาม อภิญจโน วัดไตรวิเวการาม สุรินทร์
    47.พระพ่อศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม ร้อยเอ็ด
    48.พระสุทธิสารโสภณ(โสภณ) วัดศรีโพนแท่น เลย
    49.พระอาจารย์เปลี่ยน วัดบ้านปง เชียงใหม่
    50.พระชินวงศาจารย์(พุธ) วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา
    51.หลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา ระยอง
    52.หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหน้า ระยอง
    53.พระครูวิจิตรธรรมภาณี(สิงห์) วัดหนองบัว อุบลฯ
    54.พระอาจารย์เมือง พลวฑฺโฒ วัดป่ามัชฌิมวาส กาฬสินธุ์
     
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,011
    ค่าพลัง:
    +458
    236. ตะกรุดหล่อเนื้อขวานฟ้า หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์ จังหวัด บึงกาฬ ให้บูชา 650 บาท


    upload_2022-5-26_17-1-58.png

    upload_2022-5-26_17-3-31.png

    upload_2022-5-26_17-2-10.png
    ตะกรุดเนื้อ ขวานฟ้า หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม เสกไตรมาส วัดสามัคคีอุปถัมภ์ ตอกโค้ต พร้อมกล่องเดิม
     

แชร์หน้านี้

Loading...