ฝึกสมาธิแล้วรู้สึกว่าด้านมืดเข้าครอบงำ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Zeratul, 14 ธันวาคม 2016.

  1. Zeratul

    Zeratul สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ฝึกสมาธิมาได้เดือนนึงแล้วครับ ช่วงแรกๆรู้สึกจิตใจสงบดีมาก แต่พอหลังๆมารู้ก็รู้สึกสงบ นิ่ง แต่มันไม่เหมือนช่วงแรกๆ รู้สึกว่านิ่งแบบเย็นชา ไร้ความรู้สึก ขาดความเมตตา ประหนึ่งว่าหากจะหยิบมีดมาแทงใคร ก็แทงได้อย่างเยือกเย็นขึ้น แบบนั้น ผมควรทำอย่างไรดีครับ
     
  2. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ทาน,ศีล,ภาวนา,ต้องควบคู่กัน
    ฝึกให้ทาน หรือช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนโดยไม่หวังผลตอบแทน
    สมาทานศีล(ศีล ๕ หรือ ศีล ๘)
    ทุกๆครั้งหลังเสร็จนั่งสมาธิ กล่าวคำแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
    และกรวดน้ำ(เทน้ำ)อุทิศส่วนบุญกุศลให้สรรพสัตว์ด้วย
     
  3. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ถ้ามีวัตถุมงคล ประเภทเสน่ห์ ที่แรงๆ
    หรือเครื่องลางประเภทที่มีวิญญาณ ที่ต้องเซ่นไหว้ ก็ให้เอาออกจากตัว(ทิ้ง)
     
  4. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    แผ่เมตตา
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    คงเป็นช่วงทดสอบจิตใจครับ
    ส่วนตัวเรียกวิบาก
    วิบากคือกะแสภายนอกที่จะมาแหย่
    ว่าเราจะเล่นด้วยไหมไม่ว่าเรื่องอะไร
    ก็ตามที่จะดึงหรือโน้มทำให้เราไม่ดีครับ
    แต่ถ้าเรา
    ถ้าผ่านจุดนี้ได้
    จากคำแนะนำที่ผ่านมาก่อนหน้านั้น
    ใช้ได้หมดครับ
    เรา ก็จะไปต่อได้ครับ (^_^)
     
  6. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
    ...ปฏิบัติสมาธิมาได้เดือนหนึ่ง รู้สึกใจสงบดีมาก...(อนุโมทนาบุญด้วยครับ)...เป็นบุญกุศลอย่างยิ่ง...
    ...แต่พอหลัง ๆ มารู้สึกสงบนิ่ง ไม่เหมือนช่วงแรก มันเย็นชา ไร้ความเมตตา ไร้ความรู้สึก
    ประหนึ่งว่าจะหยิบมีดแทงใคร ก็แทงได้อย่างเยือกเย็น...เป็นวิบาก ที่มาทดสอบกำลังใจ
    จะมาทางด้านความรู้สึก หรือแม้กระทั่งความฝัน ควรแก้ด้วย ก่อนนั่ง อาราธนาศีล นึกถึง
    ครูบาอาจารย์ หลังจากนั้นก็แผ่เมตตา ครับ ถ้าทำแบบนี้ทุก ๆ ครั้ง อีกไม่นาน ความรู้สึก
    จะกลับมาครับ...อนุโมทนาบุญ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ปรกติ ดีแล้ว

    ถ้าฝึกสมาธิถูก สัมมาสมาธิ จะไม่กดข่มจิต
    ให้นิ่งทื้อ จนเหมือนจิตไม่มีกิเลส จนนำพาไป
    เข้าใจผิดว่าบรรลุธรรม โดยที่ไม่เคยเหนกิเลส
    เลย

    สิ่งที่คุณขาดไป คือ การกำหนดรู้ ความยินดี
    ยินร้าย เวลาเหน อุปกิเลส ที่หมักดองในจิต

    ให้พิจารณา เวทนา ไม่เที่ยง

    อย่าตรึกว่าใครมาลองของ ใครมาทำร้าย หรือ
    เราจะไปทำร้าย อย่าตรึกให้กลายเปนเรื่องโลก
    ของสัตว์

    ให้ตรึกลงเปน กองขันธ์5

    มีจิตตั้งมั่นเปนกลางต่อการเหน ขันธ์ แต่ละกอง
    ทำงานยังไง มีสัญญาไปหมาย มีเวทนาปัก
    มีวิญญาณเข้าอุปทานถือเอา จึงสำคัญว่าเกิดปัญหา

    ถ้ามอง พิจารณาเล่ห์ กล ของกองขันธ์ ด้วยจิตตั้ง
    มั่นเปนกลาง ขันธ์5 จะทำงานเปนเพียง ทิฏฐิ ที่รวม
    ตัวกันให้เข้าใจผิดเหนเปน เรื่องของสัตว์รักกัน
    เมตตากัน พยาบาทกัน ทำร้ายกัน ลองเชิงกัน จริงๆ
    แล้ว เปนเพียง สักกายทิฏฐิ ความเหนผิด ไม่ใช่
    การเหนธรรม

    ลองพิจารณาดู

    โดยหลักการปฏิบัติ คือ ขาดการพิจารณา
    ไตรลักษณ์ ในอุปกิเลส ทำให้จิต ลืมกลับไปบริกรรม

    แต่ถ้าบอกสั้นๆ ให้มาบริกรรม จะเผลอไป บริกรรม
    เพื่อแก้ไข ข่มกิเลส อย่างนั้นไม่เอา

    ต้องเปนการเหนกิเลสมันมีในจิต ระลึกได้ว่าสิ่งใดๆ
    ก้ไม่เที่ยง แล้วจิตมันก้บริกรรมแบบชิวๆ อัตโนมัติ
    แบบนี้จะถูกต้อง เพราะ สมถะเริ่มเมื่อหมดเจตนา
    วิปัสสนาเริ่มเมื่อเท่าทันทิฏฐิ

    ถ้าทำได้ เหนกิเลสร้ายๆในจิต แล้วไม่ไปคว้า
    จิตอกุสล(พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก) กุสล(เมตตา)
    มาเปนเรา เรามี เราเปน หรือ สงสัยว่าเรามี สงสัย
    ว่าเราเปน

    ให้ทำความเหนกำกับลงไปด้วย การแยกรูป แยกนาม
    พิจารณาลงในภูมิวิปัสสานา แยกธาตุ แยกขันธ์
    จะครอบงำโลกแห่งสัตวคว่ำลงตรงหน้าได้หมด

    เทวดา อินทร พรหม ยม ยักต์ จะไม่มีอิทธิพลต่อ
    จิตผู้พิจารณาธรรม ของผู้มีพระภาค

    ถ้าตรึกนอกภูมิวิปัปสนา ที่พระพุทธประทานไว้ให้
    ต่อให้โกนหัวสู้ ก้ตกเปนทาสรับใช้เขาร่ำไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2016
  8. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ทำไม จขกท ไม่คิดไปในทางต้านกิเลสหละครับ เช่น จิตใจเย็นชาจนเห็น สตรีก็เฉยๆ หรือใครมาทำให้เราโกรธก็เฉยๆ การที่เรานึกไปถึงการหยิบมีดมองคน แสดงว่า จิตเรามีเพลิงแค้นอยู่ การบอกว่าชินชานั้นคือ การหลอกของกิเลส ลองทดสอบจิตใจตัวเองใหม่ว่า เรายังเกลียดคน โกรธคน แค้นคนไหม ถ้าเย็นชาไม่รู้สึกดังกล่าวได้จึงจะดี
     
  9. นทีบุญ

    นทีบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    939
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +795
    จขกท. รู้ตัวว่าเป็นแบบไหน แสดงว่ามีสติอยู่
    และก็เป็นไปได้ว่าการทำสมาธิทำให้จิตละเอียดมากขึ้นและเห็นกิเลสได้ชัดเจนมากกว่าเดิม มันเลยแสดงออกมาอย่างนั้น
    ีอีกอย่างก็คือครูบาอาจารย์ท่านว่า มันต้องกระทบอยู่แล้ว อะไรที่ไม่กระทบไม่มีและจะหลีกเลี่ยงการกระทบไม่ได้ ถ้าไม่กระทบก็จะไม่เห็นสภาวะ
    ก็ให้พิจารณาให้เห็นความเกิดดับของอารมณ์ไปเลยค่ะ
    ฟังธรรมะของหลวงพ่อชา ท่านว่า ให้เรารู้จักมัน(กิเลส) แต่อย่าไปเป็นมัน
    ถ้ามีเวลาไล่ๆฟังธรรมะหลวงพ่อชาในยูทูปดูค่ะ ท่านสอนเรื่องการทำสมาธิไว้เข้าใจเป็นอย่างดี

    อนุโมทนาบุญกับความตั้งใจในการปฏิบัติธรรมด้วยค่ะ สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2016
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กำลังใจตก
     
  11. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ จะเรียกว่า "สมาธิ" ก็ได้ แต่ถ้าเอาเข้าให้จริง ๆ แล้วเห็นว่า เป็นการฝึกแบบ "สะกดจิตตนเอง ให้สงบนิ่ง" (ช่วงแรก ๆ ใหม่ ๆ จะสงบดีมากและรวดเร็ว) แต่พอนาน ๆ เข้า มันจะวิวัฒนาการมาเป็น "เฉื่อยชา + แข็งทื่อ" จะเรียกว่า "นิ่งแบบเย็นชา" ก็ได้

    +++ อาการนี้จะ "ไม่มี" การทรงต้วของ "สติ" (รู้ตัว + รู้สึกตัว) แบบต่อเนื่องได้เลย ถ้ามีก็สั้นนิดเดียว

    +++ ถูกต้อง เพราะ "ไม่มี" สติ เป็นองค์ประกอบ

    +++ เพราะอาการ "นึก+คิด" (ที่เรียกว่า "การปรุงแต่ง หรือ ฟุ้ง") มักจะออกไปทาง "อาฆาต + พยาบาท" หรือ "ชอบคิดให้ตัวเอง โกรธ อยู่เสมอ"

    +++ "เยือกเย็น" เป็นเพียงแค่ "รูปแบบ" ที่คนภายนอกมองเห็นเท่านั้น
    +++ แต่เอาจริง ๆ ตามเนื้อหาของจิตแล้วกลับ "ร้อนแรง" ด้วยไฟแห่งความนึกคิดเป็นหลัก

    +++ หากสามารถ "ทำ" การทรงต้วของ "สติ" (รู้ตัว + รู้สึกตัว) แบบต่อเนื่องได้ จะสามารถ "แก้ไข" ได้ตรงทางที่สุด
    +++ แต่ถ้า "ทำไม่ได้" ก็ให้ "หัด" มองเห็น ความสวยงาม ซุกซน หรือ ความน่ารักของ "สรรพสัตว์" รอบ ๆ ตัว ก็พอจะแก้ได้เหมือนกัน นะครับ
     
  12. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    สงสัยเพราะไม่รู้ เมื่อรู้แล้วก็ทำให้รู้ยิ่งๆขึ้นไป..ทุกอย่างทางสมาธิที่เกิดขึ้นกับคุณ
    มันก็เคยเกิดมาแล้วกับคนที่เคยทำแบบคุณ..ทำก่อนรู้ก่อน คนที่รู้ก่อนก็มาบอกคนที่เพิ่งรู้อีกทีค่ะ
     
  13. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    ผมก็เป็นครับ แม่แต่ปัจจุบันนี้ก็เป็น เหมือนเตาไฟแช่แข็ง รู้ว่าอารมณ์ร้ายถูก ฟรีซ เอาไว้ พอมีทริกเกอร์มันก็พร้อมจุดระเบิดได้ตลอด จิตสงบจริง แต่ เย็นชา คม กระด้าง ครับ
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ตรงที่ ปรารภว่า เห็น " อารมณ์ถูกฟรีซเอาไว้ " ให้กำหนดรู้ไปซื่อๆ
    อย่ายินดี ยินร้าย

    อารมณ์ดีถูกฟรีซเอาไว้ ก็รู้
    อารมณ์ร้ายถูกฟรีซเอาไว้ ก็รู้
    อารมณ์กลางๆถูกฟรีซเอาไว้ ก็รู้

    กำหนดรู้ไปตรงๆ

    กำหนดรู้แล้วได้อะไร

    จะเห็นว่า มันเกิด แล้วก็ดับ มันห่างออกไปจากจิต ไม่ใช่จิต
    เป็นเพียง อาการของจิต

    แยก ภวสวะออกมา แล้วอย่า ประคอง จิต ที่แยกออกมาซ้ำซ้อน(แช่แข็ง)

    วางจิตลงไป อย่ากำหนดเห็นว่า จิตเป็นเรา เป็นของเรา

    ลองดู ไม่ตายหลอก หากมันยังมี อาการรู้ๆๆๆๆๆ แต่จะข้ามฝากตายได้
    โดยที่ยังเดินเหิน ทำงานทำการ พูดคุย ดื่ม ทำพูด คิด ปรกติ


    ปล. ถ้าจิตมันสัดส่ายวี๊ดๆ ให้กำหนดรู้ พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก ถ้าเท่าทัน
    วิตกสองตัวนี้ ไม่แล่นไปแก้กรรม ไม่แล่นไปกราบนายเวร เห็นเป็นเพียง
    สภาวะธรรมที่ครอบโลก3 ทั้งหมด มีจิตตั้งมั่น เป็นกลาง ....จะยกวิปัสสนาได้

    ถ้ายกไม่ได้ ก็ได้แต่ ลูบคลำ ศีลพรต เป็น คนดีเวียนว่ายตายเกิดเป็นฤาษี ไปวันๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2016
  15. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ความเมตตามันมีอยู่ในการทำสมาธิ พอจิตสงบเป็นอารมณ์เดียวก็ไม่มีคิดว่าแบ่งแยกกับใคร ไม่มีความอยากที่จะทำร้ายใคร แต่บางที่เราไม่สามารถรับรู้ถึงมันได้ เพราะมันอยู่ข้างในต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยมันออกมา อย่างการแผ่เมตตา คือเอามันออกมาเราจะเริ่มรับรู้ถึงความเมตตาภายในมากขึ้น สลับกันระหว่างการนั่งสมาธิกับแผ่เมตตาเรื่อยๆ ก็จะรู้สึกได้เอง เวลาที่ออกจากสมาธิก็นึกเอาความรู้สงบสุขแผ่ไปยังทุกคนที่เราเจอ คนใกล้ชิด เราก็จะรักและเมตตาทุกคนเอง
     
  16. pinit417

    pinit417 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +164
    ถ้าเป็นระหว่างในการทำสมาธิ นั่นแสดงว่าจิตยังไม่รวมเป็นสมาธิ ยังมีการปรุงแต่ง ยังมีความสงสัยอยู่ จริงๆก็ไม่น่ามีอะไรมาก ก็พยายามรวมจิตให้เป็นสมาธิให้ได้..

    ส่วนถ้าเป็นระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ต้องเจริญสติให้มาก เพราะเมื่อใดเราขาดสติ หรือ กำลังของสติอ่อนลง จิตก็สามารถแวปไปปรุงแต่งโน่นนี่ ทั้งดีและไม่ดีได้
     
  17. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    เดินจงกรม แผ่เมตตาช่วยได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...