ปัญญาของพระโสดาบันต่างจากปุถุชนยังไง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย จิตสิงห์, 12 พฤษภาคม 2011.

  1. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287

    วิปัสสนาญาณมันเป็นอะไรเหมือนจำกับลืมมากว่า ไม่ใช่เหมือนศึกษา
    จนเข้าใจมันจะเสือมหรือเปล่ามันไม่ได้อยู่ที่เข้าใจคาดเคลื่อนหรอกนะ
    ครับแต่อยู่ที่จำได้หรือหรือลืมมากกว่า เวลาคุณนึกอะไรออกมันก็เร็ว
    ใช่ไหม นึกออกปุ๊บมันก็เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเลย เหมือนกระโดดแบบ
    นั้น แต่เมื่อคุณรู้ก่อนที่คุณจะเข้าใจคุณก็ต้องมาหาคำอธิบายมันอีก ถึง
    แม้เห็นสิ่งเดียวกันแต่อาจจะพูดกันเป็นคนละแบบก็ได้ และอีกอย่าง
    หนึ่งความจริงของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันหรอกครับ แต่ละคนมี
    ความจริงเป็นของตัวเอง
     
  2. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +697
    ตอนเด็กๆเคยเล่น ส่งข้อความต่อๆกันไหมครับ
    คนแรกอาจพูดว่า จิตนุปัสสนา
    คนสองอาจพูดว่า จิตภาวนา
    คนที่สามอาจพูดว่า บริกรรมจิต
    คนที่สี่อาจพูดว่า ดูจิต
    คนที่ห้าอาจพูดว่า ดูจริต
    คนที่หกอาจพูดว่า ดูเฉยๆ
    คนที่เจ็ดอาจพูดว่า ตามรู้
    คนที่แปดอาจพูดว่า จิตคือนิพพาน
    สุดท้ายกลายเป็นอัตตา

    แล้วการทัชี่ทำตามๆกันมาจะถูกต้องได้อย่างไร
    แม้พระพุทธเจ้ายังทรงกำหนดให้พระธรรมเป็นตัวแทน
    มิได้ให้สาวกรูปใดเป็นตัวแทน
    นั้นหมายความว่าอะไร
    พระธรรมจะผิดเพี้ยนไปเรื่อยๆตามเวลารึเปล่าครับ
     
  3. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +335
    ธรรมแท้จะเกิดจากการคาดคะแนเอาเองไม่ได้
    จะต้องดำเนิตามรอยครูบาอาจารย์ไม่ผิดเพี้ยน
    จะต้องลงมือปฏิบัติ ฆ่ากิเลศเดียวนั้น ฆ่าทันทีทันควัญ
    กิเลศจะขาดก็ขาดลงต่อหน้าต่อตา จะเอาการคาดคะแน
    มาแล้วคาดคะแนละกิเลศไม่ได้

    ธรรมอยู่กับคนทั่วไป ย่อมเป็นธรรมปลอม
    ต่อเมื่ออยู่กับพระอรหันต์ ย่อมเป็นธรรมแท้ ข้าวที่กินได้ อยู่ในจาน ย่อมกินได้
    ข้าวที่กินได้ อยู่ในโถ่ส่วม จะหยิบมากินได้อย่างไร

    โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว

    ธรรมจะเพี้ยน เมื่อคนพูดเป็นคนทั่วไป
    ธรรมจะแท้ เมื่อคนพูดเป็นพระพรหันต์
    ไม่มีทางบิดเบือนผิดเพี้ยนไปได้เลย

    ที่กล่าวมาทั้งหมด ผมเอาคำครูบาอาจารย์มากล่าวไว้ทั้งหมด
    ไม่ได้กล่าวมาจากตัวผมเอง ท่านทั้งหลายจงพิจารณาตาเหตุตามผลเอาเถิด
    จบลงเพียงเท่านี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    วู้วู้

    ก็คุณ จิตสิงห์ ยังพูดคำว่า "จิตตานุปัสนา" ได้อยู่เลย

    หากพูดคำนี้ได้อยู่ พี่จิตสิงห์จะไปสนใจคำอื่นทำไม หาก
    คำนี้คำเดียวยังปรากฏอยู่บนโลก พี่จิตสิงห์กล่าวออกมาได้

    เมื่อนั้น ก็ถือว่า "พระสัทธรรม" ยังอยู่......จร้า
     
  5. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +697
    อนุโมทนาครับ

    ปัญญาเกิดได้3ทาง ปัญญาปุถุชนเกิดจากการฟัง การคิด ซึ่งมีเสื่อมได้ ตามความเข้าใจ

    ปัญญาอริยะ คือภาวนาปัญญา ไม่มีเสื่อม

    คำถามคือ เรายังเป็นปุถุชน ควรเจริญปัญญาด้านไหน จึงได้ชื่อว่าไม่หลงทาง

    อยู่จะไปเจรฺญตามอริยะแล้วรู้แบบอริยะเลยได้ไหมครับ
     
  6. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ปัญญาที่ทำให้พระโสดาบัน ต่างจาก ปุถุชน คือ การรู้อริยสัจ 4
    อริยสัจ 2 ข้อ คือ ทุกข์ กับ สมุทัย รู้ง่าย หมาแมวก้รู้ได้
    เจ็บเพราะหนามตำ เจ็บ คือ ทุกข์ หนามตำ คือ สมุทัย

    ส่วนอริยสัจ 2 ข้อหลัง คือ นิโรธ กับ มรรค รู้ยาก ท่านว่า เหมือนกับการปราถนาเอามือยื่นไปยังภควันพรหม เอาเท้าไปเหยีบอเวจี คือเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก ทำจิตให้ยินดีได้ยาก

    นิโรธ ปรากฎแก่คนที่เป็นสัสสตทิฐิ ประดุจเหวลึก น่าหวาดกลัว เมื่อจิตไม่ยินดีใน นิโรธ การเดินตามมรรคย่อมไม่มี อริยมรรค อริยผล ก็ไม่มี

    มรรค ปรากฎแก่คนที่เป็น อุทเฉททิฐิ ว่าเป็นสิ่งไร้สาระ เมื่อจิตไม่ยินดีในมรรค8 การเดินตามมรรคก็ไม่มี อริยมรรค อริยผลก็ไม่มี

    ส่วนพระอริยเจ้าทั้งหลาย ได้กำหนดรู้ถึงความทุกข์โดยสภาพความเป็นจริง รู้ว่าสมุทัย คือ เหตุให้เกิดทุกข์ มี ตัณหาเป็นต้น ควรละ รู้ว่า นิโรธ ควรทำให้แจ้ง และมรรค ควรทำให้เจริญ

    พระอริยเจ้าผู้เข้าใจอริยสัจตามความเป็นจริง ย่อมยินดีใน วิราคธรรม คือธรรมที่ทำให้สิ้นตัณหา เมื่อเจริญมรรคมีองค์ 8 โดยเคารพเอื้อเฟื้อ ปฎิบัติติดต่อกันไป ย่อมบรรลุอมตธรรม

    ผิดพลาดอย่าไรขออภัย

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  7. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +697
    คุณว่าพระนิพพานหลายๆสำนัก ตรงกันเหมือนกันหมดไหมครับ
     
  8. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ผู้รู้ ถกกัน ตามประสา ผู้รู้
    ผู้ไม่รู้ นั่งทำตา ปริบๆ

    เพิ่มเติม: จ้ะ..เอ๋...ปิดตาซ่อนแอบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2011
  9. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    นิพพานในหลายๆสำนัก ตรงกันไหม มันก็เรื่องของท่าน

    ผมสนใจ นิพพานในมุมของคุณ จิตสงห์มากกว่า ว่าเป็นอย่างไร

    คนรู้จริงอย่าง พี่จิตสิงห์ จะตีแผ่สิ่งที่ตนรู้ซึ้งอยู่ ย่อมไม่ยากเย็นเข็นใจ

    อ้าว ทุกคน ปูเสื่อกันหน่อยเนาะ
     
  10. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +697
    ขอบคุณครับ
    ธรรมที่เกิดในปัจจุบัน เห็นลงในปัจจุบัน เอาปัจจุบันมาพูดมันเพี้ยนกันไม่ได้ นอกจากคนพูดมองเพี้ยนไปจากธรรม

    ความร้อน ทุกคนเข้าใจเหมือนกันว่านี่ร้อน ไม่ใช่เย็น
    ในปรมัตถ์ หมายถึงความจริงสูงสุด ไม่เปลี่ยนไปจากอื่น
    ถูกต้องตรงธรรม เข้าใจเหมือนกันหมด เป็นภาษาสากล

    ดังนั้นความจริงในแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมเห็นด้วยในแบบโลกๆ แล้วแต่ใครมีนิสัยอะไรมา

    ถึงพยายามถามว่าปัญญาพระโสดาบันต่างกับปุถุชนอย่างไรครับ
     
  11. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +697
    ผมไม่รู้พระนิพพานครับ

    เห็นแต่เขาว่านิพพานเป็นเมืองสวยมาก เป็นทิพย์ เป็นแก้ว
    บางที่เขาว่า เป็นจักรวาลนี่แหละ
    สามารถไปได้ด้วยจิต เพ่งลูกแก้ว ถอดกายได้

    ผมยังไม่เคยทำสักที ขอไม่ตอบ ไม่รู้จริงครับ
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ปัญญาของพระโสดาบันไม่ตีบตันแล้ว
    เพราะเป็นผู้เห็นกระแสนิพพานแล้ว
    และกล้ายันว่าพระนิพพานมีจริง

    ส่วนปัญญาปุถุชนก็ยังตีบตันอยู่
    เพราะยังไม่เคยสัมผัสรสของพระนิพพาน
    ก็เลยออกมาในรูปตรึกนึกเดาอาการนิพพาน
    อย่างเช่นนั้นเป็นอย่างนี้สรุปโลเลลังเลเรรวน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  13. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    พระโสดาบันท่านจะต่างจากปุถุชนอย่างไร นั่นก็เรื่องของท่าน

    ผมสนใจ ความแตกต่างจากปุถุชนของคุณ จิตสิงห์ ณ ปัจจุบันมากกว่า
    ว่าเป็นอย่างไร

    คนรู้จริงเห็นจริงอยู่กับตัว พี่จิตสิงห์ จะตีแผ่สิ่งที่ตนรู้ซึ้งอยู่ ย่อมไม่ยากเย็นเข็นใจ

    อ้าว ทุกคน ปูเสื่อกันหน่อยเนาะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +697
    ขอเข้าเรื่องเลยครับ
    ปัญญาพระโสดาบัน ท่านรู้ธรรมอะไร
    แล้วรู้นั้นต่างจากรู้ของปุถุชนอย่างไร
     
  15. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ถูกตีหัว หัวเราแตก เอง เจ็บเอง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน
    คริ คริ

    ...
    มาอวดฉลาด อีกหน่อย ขอรับ
     
  16. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +697
    ตอบแบบไม่รู้อะไร

    อะไรที่ไม่ใช่สติปัฏฐานสี่ แนวนั้นย่อมไกลปัญญา

    ใครที่ภวนาปัญญา เจริญสติปัฏฐาน แต่ไม่รู้ธาตุ ก็ไม่เรียกว่าเจริญสติปัฏฐาน

    ฟังเขามาอีกทีนะครับ ไม่ทราบว่าคิดกันอย่างไร
     
  17. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    พระโสดาบัน ท่านรู้ว่าตัวก็ไม่ใช่ของเรา จิตก็ไม่ใช่ของเรา
    ปุถุชนคนเขลาก็ว่าตัวของเราจิตก็ของเรา
    ด้วยเหตุนี้ปุถุชนคนหนาแน่นไปด้วยกิเลส
    จึงห่างจากกระแสนิพพานนัก
     
  18. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287

    ความจริงมันเป็นเรื่องส่วนบุคคลนะครับ อย่างเช่นคุณอยู่ที่อุณหภูมิ 15
    องศาแล้วหนาว ฝรั่งมาเล่นน้ำบอกอุ่นดี หรือสัตว์มันอยู่ในน้ำพุร้อน
    เอาออกมาใส่น้าอุ่มมันคงไม่คิดเย้น ร้อนหรือเย็นมันก็ขึ้นกับคนไม่ใช่
    หรือครับหรือถ้าคนตาบอดคุณบอกว่านีแสงสว่างเป็นอย่างนี้เขาจะรุ้ได้
    อย่างไร ความจริงของแต่ละคนมันก็มี แต่ถ้าจะพูดถึงความจริงสูงสุด
    หรือความจริงสากลมันไม่มีอะไรเลยมันเป็น อนัตตา ไม่มีความหมาย
    หรือสาระอะไรเลยจะพูดถึงได้อย่างไร อย่างที่พระพุทธองค์บอก สัพ
    เพธัมา อนัตตา ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา แต่ส่วนบุคคลมันก็มีอย่าง
    คุณอยากเห็นอะไรคุณก็เห็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือครับ ความเชื่อของคุณ
    มันสร้างสิ่งที่คุณเห็นแล้วคุณจะเห็นอะไรตามความจริงสากลได้อย่าง
    ไร มันเกิดขึ้นได้นะครับการเห็นไปตามความเชื่อ เคยมีการทดลองนะ
    ครับเอาของเย็นไปหลอกเด็กว่านี่ร้อนมากๆ เลยนะแล้วไปจี้เขา เขาก็
    มีประสบการณ์ว่าร้อนจริงๆ แถมมีรอยไหม้ด้วย
     
  19. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +697
    ขอบคุณครับ
    จะรู้ได้ยังไงครับ ว่าตัวไม่ใช่เรา จิตไม่ใช่เรา
    ก็มันเห็นๆอยู่ว่านี่เรา เรากิน เราเดิน เรานอน
    สั่งให้หลับ สั่งให้ขยับได้นี่ครับ
     
  20. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    แจ่มเลย พี่จิตสิงห์ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนิพพานก็ดี การปฏิบัติก็ดี

    ของจริง ณ ปัจจุบัน คือ สติปัฏฐาน4 ก็ดี พี่จิตสิงห์ยังอยู่ที่
    ได้รับฟัง เคยรับฟังมา

    พี่จิตสิงห์เมื่อฟังแล้ว ก็จะมาอาศัย ฟังเพิ่มจากผู้อื่นอีกเหตุนี้เพราะอะไร

    เพราะพี่จิตสิงห์ ลังเลถึงสิ่งที่ได้ฟังมา กระนั้นหรือ

    หาก พี่จิตสิงห์ลังเลในสิ่งที่ฟังมาว่าไม่จริง แล้ว พี่จิตสิงห์จะพึง
    ฟังความคิดผู้อื่นอีก พี่จิตสิงห์ของผมจะสะสมเพิ่มความลังเลให้พอก
    พูลกว่าเก่า

    หรือว่า จะคลายสงสัยได้จากการฟังมากๆ

    พี่จิตสิงห์เห็นเป็นอย่างไร ณ ปัจจุบันความรู้สึกที่ตามรู้กายใจตน
    อย่างเป็นกลาง ตั้งมั่น ไม่คลอนแคลน ต่อกรณี "ฟังมากๆ"
     

แชร์หน้านี้

Loading...