ประวัติหลวงพ่อแป๊ะ พระครูยติธรรมานุยุต วัดสว่างอารมณ์(แคแถว)จ.นครปฐม

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย kukkai.W, 7 กุมภาพันธ์ 2020.

  1. kukkai.W

    kukkai.W สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2017
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +1
    “พระครูยติธรรมานุยุต” หรือ “หลวงพ่อแป๊ะ” หรือ “พระอาจารย์แป๊ะ” พระเกจิอาจารย์ ของเมืองนครปฐม เจ้าตำรับสุดยอดเครื่องรางของ ขลัง...เป็นที่นับถือศรัทธาจากชาวบ้านโดยทั่วไป อีกทั้งท่านยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “พระนักพัฒนา” แห่งลุ่มแม่น้ำนครชัยศรี

    พลิกปูมประวัติเมื่อครั้งเป็นฆราวาสท่านชื่อ นายสมทรง เกิดในสกุล เดชจินดา เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ในฐานะสามเณร เมื่อปลายปี พ.ศ.2519 บรรพชาที่วัดไทร ท่านชอบเดินตามธุดงค์เพื่อแสวงหาประสบการณ์ ความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆเพิ่มเติม โดยคอยสดับข่าวว่าที่ไหนมีพระอาจารย์เก่งๆก็จะไปกราบนมัสการ ฝากตัวเป็นศิษย์ขอศึกษาวิชาด้วย หรือ...บางทีได้ข่าวว่าเขาประกอบพิธีกรรมปลุกเสกก็จะไปดูไปศึกษา

    บางวัด...ไปอยู่จนสนิทสนมแล้วค่อยๆ เลียบๆเคียงๆขอศึกษาวิชาจากพระอาจารย์ต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะไม่หวงวิชา เพราะเห็นสามเณรสมทรงมีความตั้งใจ ชอบจด ชอบจำ

    สามเณรสมทรงได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากพระอาจารย์เก่งๆหลายรูป อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง, หลวงพ่อถิ่น วัดป่าเลไลยก์, หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย, พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง และเกจิคณาจารย์ดังในอดีตอีกหลายรูป กระทั่งเข้าพิธีอุปสมบท

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2522 ณ พัทธสีมาวัดตุ๊กตา โดยมีพระครูวิบูลย์สิริธรรม เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานาม “ธมฺมทินฺโน” ...มีความหมายว่า “ผู้ให้ซึ่งธรรม ผู้ให้ความรู้”

    @ @ @ @

    ขณะนั้น วัดสว่างอารมณ์ (แคแถว) ร้างเจ้าอาวาสปกครอง คณะกรรมการวัด...ชาวบ้านใกล้ๆวัดส่วนใหญ่ก็เคยได้ยินกิตติศัพท์หรือรู้จักพระภิกษุสมทรงมาก่อน เมื่อคราวอยู่วัดตุ๊กตาถึงวัตรปฏิบัติอันน่าเลื่อมใสศรัทธาของพระภิกษุสมทรง คณะกรรมการวัดแคแถวจึงไปกราบเรียนพระผู้ใหญ่และหลวงพ่อเพี้ยน เจ้าอาวาสวัดตุ๊กตา เพื่อขอให้พระภิกษุสมทรงมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ฯ ท่านก็เห็นสมควรตามที่ร้องขอ

    แต่พระภิกษุสมทรงเองกลับไม่มั่นใจ ท่านเล่าถึงสาเหตุนั้นให้ฟังว่า...“ตอนนั้นฉันยังหนุ่มมาก อายุเพียงแค่ 22-23 ปี อุปสมบทได้ไม่ถึงพรรษา ความรู้ก็มีไม่มาก ไปเพียงลำพังที่ห่างไกลครูบาอาจารย์ ก็กลัวจะไปทำอะไรผิดพลาดเข้า อีกทั้งกลัวจะไปขัดแย้งกับญาติโยม จึงได้ปรึกษาหารือกับญาติโยมที่ไปนิมนต์ว่า เราต้องทำความเข้าใจอะไรกันก่อน คือทะเลาะกันเสียก่อนที่ฉันจะไป เพราะถ้าฉันไปอยู่ ตัดสินใจจะทำอะไรแล้วทำไม่ได้ก็ไม่รู้จะไปทำไม ก็พูดคุยกันหลายเรื่อง ญาติโยมเขายอมรับ ฉันก็เลยมาและอยู่วัดนี้ตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา”

    ตอนนั้นหากโยมมาเห็นสภาพวัดแล้วก็จะรู้สึกใจหาย เพราะมันไม่มีอะไรเลย มีแต่ที่ดินรกๆ ติดทุ่งนาโล่งๆ กุฏิก็มีสองหลัง และก็จะพังมิพังแหล่อยู่ทั้งนั้น ศาลา ห้องน้ำ ห้องส้วม ไม่มีเลย ข้าวของเครื่องใช้ในวัดก็ไม่มีอะไรเลย ธูปเทียนจะเอามาบูชาพระยังไม่มี เพราะวัดเกือบตกอยู่ในสภาพวัดร้างมานานหลายปี...

    ไม่มีเจ้าอาวาสอยู่แน่นอน พระที่มาอยู่เพียงแวะผ่านมา สักระยะหนึ่งพอเบื่อก็ไป

    จากบัดนั้นจนบัดนี้ เกือบร่วม 40 ปี จากเรื่องราวคำบอกเล่าของหลวงพ่อแป๊ะ ด้วยการเริ่มต้นบูรณะเพียงหนึ่งสมอง สองมือของสมภารหนุ่ม จากวัดเล็กๆซอมซ่อ กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างผิดหูผิดตา จวบจนปัจจุบันหลวงพ่อแป๊ะท่านสามารถพัฒนาวัดให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีสถานที่ให้ศึกษาและถ่ายรูป

    อาทิ พิพิธภัณฑ์เรือโบราณ เป็นต้น อีกทั้ง...เมื่อมีรายได้เข้าวัด หลวงพ่อแป๊ะท่านจะเก็บปัจจัยไว้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้จ่ายค่าสาธารณูปโภคภายในวัด รวมถึงบูรณะซ่อมแซมวัด ส่วนที่เหลือทั้งหมดท่านจะนำไปมอบให้แก่โรงเรียนสำหรับนักเรียนเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โรงพยาบาล หรือนำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับสาธารณกุศลทั้งหมด โดยท่านไม่เคยเก็บเข้าพกเข้าห่อ และไม่มีเงินเก็บส่วนตัวสักบาท

    หลวงพ่อแป๊ะท่านกล่าวเพียงสั้นๆว่า “ญาติโยมเขาทำบุญบริจาคถวายให้วัดแคแถว ไม่ใช่บริจาคให้ฉัน ฉันต้องทำให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของเขา”

    #เหนือฟ้าใต้บาดาล 26/1/63 ไทยรัฐ — ที่ วัดสว่างอารมณ์แคแถว 佛統府三王阿隆佛寺watsawangarom
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...