ปิดรับบริจาค บุญด่วน ขอเชิญร่วมบุญสมทบทุนจัดส่งพระพุทธรูป ขนาดหน้าตัก ๗๙ นิ้ว ไปประเทศอินเดีย

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย diya, 1 เมษายน 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    [​IMG]

    ปิดรับบริจาค

    ดิย่าขอฝากข่าวงานบุญนี้ไว้ด้วยนะคะ...

    ติดตามที่มาข่าวสารบุญได้ที่ http://palungjit.org/threads/ไม่เคย...งสื่อได้-คล้ายๆจะมาทางด้านนี้.177072/page-555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2013
  2. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    คำสอนของหลวงพ่อลีก่อนท่านมรณะภาพที่มีให้กับลูกศิษย์...คัดมาจากเรื่องเล่าของญาติธรรมนะคะ

    -------------------------------------------------------------------------------------

    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ค่ะ 2 มี.ค. 56 (เวลา 8.29น.)
    อ่านและทำความเข้าใจบทความนี้นะคะ อ้อมพยายามนึกบทสนทนาเท่าที่หน่วยความจำในหัวจะพอนึกได้นะคะ
    (อย่าเผลอปรามาสในสิ่งที่เราไม่รู้นะคะ)

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเวลา 8.29 น. อ้อมตื่นงัวเงียขึ้นมารับสาย (วันหยุดไม่ค่อยจะตื่นเช้านะค่ะ แฮ่ะๆ)

    อ้อม : ค่าา

    ....... : โยมอาตมาโทรมาเพื่อจะอนุโมทนาบุญนะ พอดีโทรศัพท์ที่โยมส่งข้อความไว้ปัจจัยในเครื่องหมดอาตมาเลยยืม โทรศัพท์ของลูกศิษย์อาตมาโทรมา ตอนนี้อาตมาอยู่กรุงเทพ (เป็นเสียงผู้ชายเหมือนคนไม่ค่อยสบาย คัดจมูก)
    อ้อม : ยังไม่ตื่นดี พยายามจูนคลื่นสมองให้นึกออก นิ่งสักพัก อ้อ! เรื่องที่ร่วมทำบุญห้องน้ำใช้มั้ยเจ้าคะหลวงพ่อ...

    หลวงพ่อ : นั่นแหละโยมอาตมาจะอนุโมทนาให้คุณโยมนะ โยมไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนล่ะ

    อ้อม : ทางอินเตอร์เน็ตเจ้าค่ะ พี่น้องให้กลุ่มส่งต่อๆ กันมาเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : อาตมาฝากบอกเค้าหน่อยนะเรื่องห้องน้ำน่ะ ว่าไม่ต้องแล้วนะ ไม่อยากให้ใหญ่โตอะไรมาก แค่กระดาน4 แผ่นตีติดกันก็ใช้ได้แล้ว เวลาที่อาตมาตายแล้วก็แค่เอาขายันมันให้ล้ม รวมกับต้นไม้ในป่าก็พอแล้ว (ท่านใช้คำพูดนี้น่ะ) อาตมาไม่อยากให้คนสร้างกรรมเพิ่มด้วยนะ

    อ้อม : เริ่มงง???? คิดในใจทำไมทำบุญแล้วสร้างกรรมเพิ่ม

    หลวงพ่อ : เวลาคนที่เค้าไม่รู้น่ะ เค้าจะคิดว่าทำไมพระรูปนี้มาเรี่ยไรเงินชาวบ้านเค้า เป็นพระจากที่ไหนก็ไม่รู้ อาตมาไม่อยากให้เค้าปรามาสเพราะความไม่รู้น่ะโยม เค้าทำบุญแต่เค้าก็ว่าพระ แต่ละคนมีกรรมเป็นของตัวเองมากพออยู่แล้ว ตัวอาตมาเองก็ไม่ได้รับกรรมอะไร แต่ไม่อยากให้ใครมีกรรมเพิ่มขึ้นนะ เดี๋ยวอาตมาจะเล่าเรื่องเพื่อนสหมิกธรรม เค้าเรียกอย่างงี้ใช่มั้ย ที่เป็นเพื่อนพระอาตมาน่ะ

    อ้อม : น่าจะใช่เจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : คือเพื่อนอาตมาน่ะเค้าป่วย แล้วก็มีญาติโยมต้องการจะช่วย ก็ทำกันเป็นกลุ่มเรียไรเงินกันเพื่อจะได้พาเพื่อนอาตมาเข้ามารักษาใน รพ.ในกรุงเทพ ทีนี้เงินที่พามาน่ะเป็นเงินส่วนตัวเค้าก็ให้เพื่อนอาตมารักษาในโรงพยายาบาลเอกชน ที่จริงพระน่ะเค้ามีกองทุนรักษาฟรีกันอยู่ ใน รพ.ของรัฐ ทีนี้กลุ่มที่เค้าร่วมด้วยเค้าก็ทำบุญนะ แต่เค้าก็ว่าพระว่ามาเรี่ยไรเงิน ทีนี้ล่ะมีเรื่อง เค้าตั้งให้อาตมาเป็นคนที่โดนฟ้อง มีแจ้งความเรื่องราวใหญ่โต ก็มีการต้องพากันไปชี้แจงกัน แต่เค้าขอเงินทำบุญคืนทั้งหมด อาตมาก็คืนเค้าไป แต่อาตมาไม่อยากให้เค้าสร้างกรรมเพิ่มอีก แต่ละคนน่ะมีกรรมหนักๆ ติดตัวกันอยู่แล้ว มาเพิ่มกรรมเข้าไปอีกก็จะยิ่งหนักกันใหญ่นะ ยังไงโยมก็ช่วยบอกให้หน่อยนะ แต่ว่าต้องบอกเรื่องบุญห้องน้ำนี้น่ะเยอะมั้ย ใครรู้บ้างล่ะ

    อ้อม : เจ้าค่ะหลวงพ่อ หนูบอกได้แค่ในกลุ่มเล็กๆ ของหนูน่ะเจ้าค่ะ ส่วนจะมีการบอกต่อข้อมูล ไปอีกแค่ไหน หนูไม่ทราบจริงๆ เจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : ที่จริงอาตมาก็เป็นแค่พระป่า พระกรรมฐานธรรมดา อยู่รูปเดียวในป่า ไม่ค่อยออกมายุ่งอะไรกับใคร เท่าไรหรอกนะ ชอบภาวนาเงียบๆ เคยเข้าเมืองก็ตอนที่จะมากราบครูบาอาจารย์นั่นแหละ ก็มากราบหลวงปู่บุญฤทธิ์ท่านนั่นแหละ เวลาที่เข้ามาในเมืองน่ะ อาตมาก็ไม่มีลูกศิษย์เยอะแยะเหมือนพระรูปอื่นนะ เวลาใครเข้ามาห้อมล้อมเยอะๆ อาตมาก็จะไล่เค้าไปหมด บอกเค้าไปว่า อย่ามารุมตอมกันเหมือนแมลงวันรุมตอมขี้ พวกนี้พอไล่ก็ไปกันนะ ก็มีพวกลูกศิษย์อาตมานี่แหละ 2-3 คน ก็หมอนี่แหละ บอกว่า ไม่ไปหรอกครับ ชอบหลวงพ่อแบบนี้ แนวฮาร์ดคอร์ดี เวลาโดนดุ ตัวกิเลสของพวกผมจะได้กระเจิง

    หลวงพ่อ : โยมเวลาโยมทำบุญน่ะดีนะ แต่เวลาถวายอาหาร พอพระฉันท์เสร็จถ่ายออกไปก็หมดประโยชน์ พวกทำบุญวิหารน่ะก็ดี ทำไปก็ได้บุญนานๆ ทำบุญกับคนเยอะๆ นี่ก็ต้องระวัง ทำบุญทำทาน ก็ต้องใช้ปัญญาพิจารณาด้วยนะว่าดีหรือไม่ดี เวลาทำอะไรก็อย่าให้เกินตัวเรามันจะกลายเป็น
    เบียดเบียนตัวเราเองได้

    อ้อม : ตอนนี้หนูก็ทำบุญตามกำลังเจ้าค่ะ ทำเสร็จก็ไม่คิดแล้วว่าเงินมันจะไปที่ไหน หรือได้อะไร

    หลวงพ่อ : นั่นแหละ ทำบุญก็อย่าได้หวังผล เอาแค่ทำแล้วเรามีความสุขก็พอแล้วนะโยม แต่อาตมาเองไม่อยากให้เน้นทำทานกันเท่าไร อยากให้ภาวนากันให้มากๆ นะ มีประโยชน์มาก

    หลวงพ่อ : ขอโทษนะโยม ตอนนี้โยมมีครอบครัวแล้วยังล่ะ

    อ้อม : ยังไม่มีเจ้าค่ะหลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : เอ้อไม่มีน่ะดีแล้วโยมนะ

    อ้อม : หนูก็กลัวอยู่เจ้าค่ะ ตอนนี้ยังไม่มี แต่ก็ไม่รู้เค้าจะมาตามหนูทันมั้ยนะเจ้าคะ หนูเองก็ไม่อยากทุกข์

    หลวงพ่อ : เอาอย่างงี้นะ ให้โยมตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า ถ้าโยมจะมีคู่ ขอให้คู่ของโยมที่มาเกิดแล้วในชาตินี้ เป็นคู่ที่คอยเกื้อหนุนกัน เป็นคนดี คอยส่งเสริมกันสร้างบุญสร้างกุศล ช่วยกันพัฒนาจิตเพื่อให้สูงขึ้นไปนะ

    อ้อม : เจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : โยมให้โยมเห็นเหรียญบาทเท่ากระด้งนะ

    อ้อม : หลวงพ่อเจ้าคะหนูไม่เข้าใจเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : ให้เห็นเหรียญบาทเท่ากระด้งหมายถึง เงินเหรียญบาท 1 เหรียญ ก็มีค่านะโยม ค่อยๆ เก็บมันก็มีหลายบาท เวลาจะทำทานอะไรก็ให้เห็นค่าของมันนะ อย่าเห็นว่าเป็นแค่เศษเหรียญ ถ้าตอนที่โยมแก่เงินที่โยมเก็บ จะได้ใช้รักษาตัวเวลาเจ็บป่วย ถ้าไม่มีคู่ครอง เงินเก็บของโยมก็จะได้ทำให้หลานๆ เข้ามาดูแลโยมยามแก่ คนสมัยนี้หายากถ้าเค้าจะดูแลเรานะ เป็นกุศโลบายนะ โยมเก็บเงินไว้มากๆ ลูกหลานก็จะต้องมาดูแลโยม ตอนนั้นโยมก็พิจารณาดูว่าควรให้เงินกับหลานคนไหน เขียนพินัยกรรมทิ้งเอาไว้ เค้าก็จะดูแลเราจนกว่าเรา จะหมดลม หลานมันไม่มาดูแล พ่อแม่หลานจะก็จะบังคับให้มันมาดูแลเองนั่นแหละ โยมจะได้ไม่ลำบากมาก

    หลวงพ่อ : ตอนนี้โยมฝึกสมาธิบ้างมั้ย

    อ้อม : ก็มีนั่งสมาธิบ้างก่อนนอนเจ้าค่ะ ถ้าวันไหนเหนื่อยก็ใช้จับภาวนาให้หลับไปเลยเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : เอ้อดีแล้วๆ ทำต่อไปนะ แล้วเริ่มทำสมาธิมาตั้งแต่ตอนไหนล่ะ

    อ้อม : ตอนเด็กๆ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเอามาจากไหนเจ้าค่ะ มันทำของมันเอง เวลานอนกลัวฝันเห็นผี ก็เลยจับลม พุท-โธ ก่อนนอนเจ้าค่ะ พอโตมาก็เริ่มมาทำช่วงหลังนี่แหละเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : ดีแล้วๆ

    อ้อม : แต่สมาธิของหนูก็ยังไม่ไปถึงไหนเลยเจ้าค่ะหลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : ไม่ต้องเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับใครนะ แต่ละคนมีของเก่ามาไม่เท่ากัน เราทำได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น แต่ก็อย่าทิ้งนะ โยมลองนึกถึงเวลาเรากินข้าวนะ คนที่อ้วนเค้าก็กินข้าวมากตามตัวเค้า เราตัวน้อยกว่า ก็กินข้าวน้อยตามตัวเรา ลองโยมกินข้าวมากเท่าเค้าสิโยมจะเป็นยังไง

    อ้อม : อึดอัดเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : นั่นล่ะ เหมือนกันสมาธิก็เหมือนกัน ทำตามกำลังของเราไม่ให้อึดอัดไม่ให้ฝืนค่อยๆ ทำต่อไป สมาธิ ถ้าทำเรื่อยๆ มันจะยกระดับจิตของเราขึ้นไปเอง โยมเอาให้เป็นพระโสดาบันให้ได้นะ พระโสดาบันเค้าก็แค่ รักษาศีล 5 นะ ไม่ถึงกับต้องไปนุ่งขาวห่มขาวในวัดหรอกนะโยม อาตมาไม่เน้นอะไรมาก เอาแค่โยมไม่เบียดเบียนคนอื่นมี 2 ข้อ และเบียดเบียนตัวเองอีก 1 ข้อ ก็พอ

    อ้อม : 2 ข้อ คือ ลักทรัพย์ กับ กาเมใช่มั้ยเจ้าคะ

    หลวงพ่อ : นั่นล่ะ อย่าไปทำให้ใครเค้าไม่สบายใจเพราะเราไปเบียดเบียนเค้า และเราก็ไม่ต้องเบียดเบียนตัวเองคือข้อ 5 สุราเมรยะนั่นแหละโยม

    อ้อม : สุรานี่รวมหมายถึง นอกจากกินเหล้าแล้ว นี่รวมเล่นหวยด้วยรึป่าวเจ้าคะ

    หลวงพ่อ : นั่นล่ะ อะไรที่หมายรวมถึงให้เราไปเสพมัน ใช้ทรัพย์สินเงินทองเราไปกับมันทำให้ตัวเราเดือดร้อนนั่นแหละ สูบบุหรี่ก็ใช่ แต่หลายคนบอกไม่ใช่อาตมาก็พูดยากนะ อีกเรื่องที่ฝากเรื่องพูดปด ก็ขอพูดในส่วนเรื่อง "สัจจะ" ให้เราพูดแล้วทำจริง เวลาครูบาอาจารย์ท่านทำกรรมฐานนะ แ่ต่ละท่านจะตั้งไว้เลยอย่าง จะสมาธิ 2-3 ชม. ท่านก็ทำตามที่ท่านตั้งใจนะ ถ้าไม่ถึงท่านก็จะยังไม่เลิก เอาให้ได้อย่างครูบาอาจารย์ท่านนะ

    หลวงพ่อ : เวลาโยมศึกษาธรรมะโยมศึกษาจากที่ไหนล่ะ

    อ้อม : ส่วนมาก็อ่านจากไหนเน็ตนี่แหละเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : เวลาโยมอ่านหรือฟังให้ใช้ปัญญาพิจารณาให้ดีนะ พระพุทธเจ้ากว่าท่านจะตรัสรู้นำคำสอนมาสอนพวกเรา ท่านลำบากมากแค่ไหน ท่านต้องบำเพ็ยภาวนาลำบากยากเข็ญ ท่านยอมตัดทุกๆ อย่างเพื่อพวกเรานะ ท่านรักพวกเราอยากให้เราเดินตามทางท่าน พระน่ะต้องรักษาศีลให้ได้ 227 ข้อนะ ถ้าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ สมัยนี้ก็ดีนะ ศีลอาจจะมีถึง 20000 ข้อก็ได้ เพราะกิเลสมันมาก ครูบาอาจารย์ท่านน่ะก่อนที่ท่านจะออกจากป่ามาสอนคนได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะได้ยินเสียงระฆังดังกิ๊ง แต่พระสมัยนี้สอนคนกันง่าย มีหนังสือ มีซีดี พระบางรูปยังไม่ถึงเลยก็สอนกันแล้ว ใช้ปัญญาพิจารณาให้ดีนะ

    อ้อม : เจ้าค่ะพระไหนที่หนูไม่รู้จัก หรือไม่รู้จริง ก็ไม่ยุ่งเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : อาตมาเคยอ่านหนังสือของครูบาอาจารย์ท่าน ก็มีหลวงปู่มั่น หลวงตามหาบัวนี่แหละ(ที่จริงท่านบอกชื่อหนังสือด้วยค่ะแต่อ้อมจำไม่ได้ละ) ให้อ่านให้ปฏิบัติตามท่านไป โยมธรรมะน่ะคือ ธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ป่าไม้นะ เป็นธรรมดาของเราที่รู้ที่เห็นทั่วไปนี่แหละ เวลาอะไรที่มากระทบเราทำให้เราเป็นทุกข์ก็ให้ปล่อยวาง พระอริยะสงฆ์ท่านน่ะ ท่านไม่ทุกข์แล้วนะ เพราะท่านเห็นเป็นธรรมดา ให้โยมทำให้ถึง ทำให้ได้อย่างท่านนะ ให้ยึดหลักอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โยมลองนึกต้นไม้นะ เวลาใบไม้มันออกใหม่ๆ มันก็สดดี สักพักมันก็เหี่ยว แล้วก็ร่วง ใบไม้ก็คือ กรรมนะโยม อันเก่าร่วงไป อันใหม่ก็เกิดขึ้นอีก ทางเดียวที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกก็ต้องตัดต้นมันทิ้ง ถอนรากถอนโคนมันออกไป ให้โยมฝึกพิจารณาอย่างนี้ อะไรที่มากระทบเราก็ให้ปล่อยวาง เวลาที่โยมทุกข์กับคนนี่โยมเบื่อมั้ย ถ้าเบื่อก็เพิ่มตัดร่างกายเข้าไป โยมคนธรรมดาก็เป็นอริยะได้นะ ไม่ใช่เรื่องยาก มีมาเยอะแล้วนะ

    อ้อม : หนูแน่ใจค่ะว่ามีมาเยอะแล้ว แต่ตัวหนูเองก็ไม่เคยเห็นเลยสักทีเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : อาตมายกตัวอย่างนะ มีแม่ชี..... แม่ชี..... แล้วก็แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ (อ้อมจำได้แค่ชื่อเดียวค่ะ) นั่นน่ะท่านเ็ป็นพระอรหันต์นะ

    อ้อม : แล้วถ้าคนธรรมดาอย่างหนู ถือศีล 5 ปกติ ทำงานใช้ชีวิตปกติจะเป็นได้มั้ยเจ้าคะ หรือต้องไปนุ่งขาวถือศีล 8 ที่วัดเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : ไม่ได้หรอกโยม ศีลคือ ปกติ ถ้าโยมถือศีล 5 เป็นปกติ ฝึกภาวนาไป ระดับของจิตจะยกขึ้นเองจนเป็นปกติ เราจะค่อยๆเปลี่ยนเองนะ

    อ้อม : หลวงพ่อเจ้าคะพระอรหันต์ดูกันยังไงเจ้าคะ คือแบบเราจะรู้ได้ยังไงเจ้า
    คะว่าท่านไหนเป็นพระอรหันต์น่ะเจ้าค่ะ

    หลวงพอ : โยมเคยเห็นคนที่ขาวๆ มั้ย ถ้าเอาไปยืนข้างท่านน่ะ รัศมีท่านกลบหมด ความผ่องใส ความสว่างท่าน จะขาวกว่าทุกคนให้สังเกตอย่างงี้

    หลวงพ่อ : ที่จริงหลวงพ่อน่ะปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านะ ปรารถนามาหลายภพหลายชาติแล้ว พอมาชาตินี้ แรกๆ ก็ยังปรารถนาอยู่ แต่เห็นว่าต้องเกิดกันอีกหลายชาติกว่าจะบำเพ็ญถึงก็ไม่เอาละ ลาเป็นสาวกในชาตินี้ของพระพุทธเจ้าท่านนี่แหละ ที่จริงพระปัจเจกท่านจะไม่สอนธรรมะใคร สอนเท่าที่จำเป็นน่ะ

    อ้อม : แล้วที่หลวงพ่อสอนลูกศิษย์ของหลวงพ่อล่ะเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : มันมีความเกี่ยวเนื่องกันมานะ อาตมาเมตตาจะสอนเฉพาะคนที่เกี่ยวเนื่องกันนะ ลูกศิษย์อาตมาที่กรุงเทพก็มีหมอแค่คนเดียว คนที่รู้จักอาตมาจริงๆ น่ะ ไม่เกิน 300 คนได้น่ะ คนน่ะถ้าไม่ใช่กลุ่มเดียวกันจะสอนกันไม่ได้นะ เหมือนกันพระไหนที่ไม่ดี ลูกศิษย์ที่ห้อมล้อมก็จะคอยแต่อิจฉากัน เอาล่ะคงมีเท่านี้นะ

    อ้อม : งั้นลูกขอขมากับอโหสิกรรมกับหลวงพ่อด้วยนะเจ้าคะ หากการสนทนาใดที่มีการล่วงเกินลูกขอกราบขอขมาอโหสิกรรมด้วยเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : หลวงพ่ออโหสิกรรมให้นะ และไม่ว่าจะเคยล่วงเกินกันมาก็ดีกี่ภพกี่ชาติ หลวงพ่อขออโหสิกรรมให้ลูกทุกประการ

    อ้อม : สาธุเจ้าค่ะ หลวงพ่อเจ้าคะลูกขอทราบชื่อของหลวงพ่อได้มั้ยเจ้าคะ

    หลวงพ่อ : ชื่อพระอาจารย์ลี สุทธปัญโญ (ท่านสะกดให้ว่า สอ-เสือ-สะ-ระ อุ-ทอ-ทะ-หาน-ทอ-ทง ปัญโญ ให้เขียน ปอ-ปลา ไม้หันอากาศ-ยอ หญิง-สระโอ-ยอหญิง) สุทธปัญโญ แปลว่า ผู้มีปัญญาบริสุทธิ์ ในสมัยพระพุทธเจ้าน่ะ ท่านจะเรียกชื่อทางธรรมเป็นตัวหลัง จะไม่เรียกชื่อตัวหน้านะ อาตมาจะชื่อ พระสุทธปัญโญ ชื่อด้านหน้าเป็นชื่อทางโลก

    อ้อม : แล้วหลวงพ่ออยู่ที่ไหน จังหวัดอะไรเจ้าคะ

    หลวงพ่อ : อาตมาอยู่ สำนักปฏิบัติธรรมสวนป่าพระอรหันต์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร (ทดลองหาในกูเกิลแล้วไม่เจอค่ะ)

    อ้อม : หลวงพ่ออายุเท่าไรแล้วเจ้าคะ

    หลวงพ่อ : 74 ปีแล้ว

    อ้อม : หลวงพ่อเจ้าคะเสียงหลวงพ่อเหมือนเสียงของหลวงพ่อครูบาเจ้าเพชรมากเลยเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : หลวงพ่อครูบาเจ้าเพชรนี่ท่านอยู่ไหนนะ

    อ้อม : ท่านอยู่วัดป่ากล้วยไม้ดินเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : ปากช่องใช่มั้ย ท่านเป็นพระดีนะ

    อ้อม : เจ้าค่ะ เห็นตอนแรกหลวงพ่อบอกว่ามากรุงเทพหลวงพ่อมาทำอะไรเจ้าคะ

    หลวงพ่อ : หลวงพ่อไม่ค่อยสบายน่ะ พอบอกลูกศิษย์เค้าก็ให้อาตมามา กรุงเทพ อาตมาก็ถามว่าจะให้มายังไง เค้าเลยต้องไปรับอาตมาเข้ามา

    อ้อม : หลวงพ่อป่วยเป็นอะไรเจ้าคะ

    หลวงพ่อ : นั่งกรรมฐานนาน พวกเส้นพวกอะไรมันก็ยึด จะเหยียดก็เหยียดไม่ค่อยจะได้น่ะ

    อ้อม : งั้นลูกขออวยพรให้หลวงพ่อหายป่วยไวๆ นะเจ้าคะ

    หลวงพ่อ : หลวงพ่อเบื่อแล้วน่ะ ขันธ์ 5 มันจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ

    อ้อม : หลวงพ่อพูดเป็นลางเลยเจ้าค่ะ งั้นลูกขออวยพรให้หลวงพ่อมีขันธ์ 5 ที่ไม่เป็นอุปสรรคให้การปฏิบัติธรรมนะเจ้าคะ

    หลวงพ่อ : งั้นหลวงพ่อจะอวยพรให้นะ ธรรมใดๆ ที่หลวงพ่อได้ถึงแล้วก็ดี ขอให้ลูกได้ถึงเหมือนกันทุกประการ เอาล่ะสว่างแล้วนะ เอาเท่านี้ล่ะ

    อ้อม : สาธุเจ้าค่ะ

    (ที่จริงท่านเทศน์สอนนานมากค่ะ ประมาณ 1 ชม. แต่อ้อมนำมาพิมพ์เท่าที่จำได้ ข้อความอาจไม่ได้เรียงลำดับตามที่ท่านสอนทั้งหมดพิมพ์เท่าที่นึกออกจริงๆค่ะ หากมีข้อความผิดพลาดประการใด ลูกขอขมาอโหสิกรรมไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยเจ้าค่ะ )
     
  3. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    อัฐิธาตุของหลวงพ่อลีค่ะ หลังจากที่ท่านมรณะภาพไปยังไม่ถึงเดือน

    [​IMG]


    อัฐิของหลวงพ่อลี ได้กลายเป็นพระธาตุที่สวยงามมากค่ะ

    [​IMG]
     
  4. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    เรื่องเล่าเกี่ยวกับองค์พระนี้ค่ะ

     
  5. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    หากได้รับปัจจัยค่าขนส่งเกินมา จะนำเงินส่วนเกินไปสมทบเป็นค่าบูชาองค์พระที่ลูกศิษย์หลวงพ่อลี สุทธปัญโญได้นำเงินส่วนตัวออกไป 67,000 บาท เพื่อที่พวกเราทุกคนจะได้มีส่วนร่วมและได้อานิสงค์ในงานบุญนี้ทั้งหมดทุกประการ ตั้งแต่ค่าบูชาองค์พระจนถึงการจัดส่งไปยังประเทศอินเดียตามความตั้งใจของหลวงพ่อ ค่ะ

    ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งองค์พระ ๒๕,๐๐๐ บาท

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2013
  6. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    แจ้งยอดทำบุญล่าสุดค่ะ

     
  7. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    เหลือเวลาอีกเพียง ๔ วันที่จะได้ร่วมบุญนี้กันค่ะ สาธุ อนุโมทามิ
     
  8. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    ปิดรับบริจาคแล้วค่ะ

     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...