บารมีไม่ถึงห้ามสวดคาถาชินบัญชรจริงหรือเปล่า?

คนที่พูดมาตัวเขายังติดกรรม สวดชินบัญชรเถิดบุญบารมีจะเกิดกับท่าน

 

ถ้าบารมีไม่ถึงก็ไม่ต้องสวด ให้ท่องเอาก็ได้นิครับแล้ว

 

เอามาจากไหน..ผมว่าทุกคนที่อ่านพูดได้ มีจิตคิดพูดในใจได้ ก็มีบารมีถึงที่จะสวดคาถานี้กันได้ทั้งนั้นครับ

คนบารมีไม่ถึง คงเป็นคนที่อ่านคาถาไม่ได้อ่านหนังสือไม่ออก และไม่สามารถจดจำคาถาได้หากว่ามีคนถ่ายทอดให้ท่องจำ นอกนั้นน่าจะถึงหมดนะบารมีที่ว่าเนีย ...อิอิ

 

ผมว่าไม่จริงนะครับ ผมเองก็สวดมาตั้งแ่ต่ตอนเด็ก ๆ แล้ว แล้วบทสวดก็เป็นมงคลกับผู้สวดอยู่แล้วครับ

 

สาธุเจ้าคะ เห็นด้วยคะ สวดเพื่อเคารพและบูชาพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวก เป็นมงคลกับผู้สวดนะคะ
หลักธรรมสอนนั้นให้คลายความยึดมัน จะ ไปยึดมั่น ทำไมคะ

 

ช่างคิดเนอะ!....ใครเชื่อก็เสื่อมแล้ว จงเชื่อมั่นในการทำความดี การสวดมนต์เป็นสิ่งดีทั้งนั้น เป็นการเสริมบารมีจ้ะ

 

การสวดคาถาชินบัญชร

สวดมนต์เป็นการบูชาพระพุทธองค์ และต้องรู้ทุกตัวอักษรที่สวด แล้วใจเราจะอยุ่ที่ทุกตัวอักษร โดยเฉพาะ คาถาชินบัญชร ใจนิ่งมากอยู่ที่ตัวอักษร ถ้ามีเวลาท่องได้ 10 เที่ยว/วัน แล้วจะรู้ว่า สิ่งดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน ลองทำคูนะคะ แล้วสังเกตความเปลี่ยนแปลง แต่ต้องสวดทุกวันนะคะ ทำด้วยจิตศรัธา เชื่อมั่น นอบน้อม บูชาท่าน ศักดิ์สิทธิ์มากๆ คะ แล้วจะเป็นจริงคะ ดิฉันเชื่อ ลองใหม่นะคะ

 

ที่หลวงปู่ท่านห้ามนะท่านห้ามสวดมหามัยสูตรในบ้านครับท่านให้สวดแต่ในวัดเพราะเทวดาจะมาฟังกันมาก

 

สวดไปเถอะครับมีแต่ความเป็นมงคลกับชีวิตครับ

 

เอาเคล็ดไปนะครับ หาเสียงสวดมาฟัง แล้วอ่านตามนะขั้นแรก แล้วคิดว่าพอได้ทำนองแล้วก็่ท่องจำ ที่สำคัญ ก่อนจะสวดจะจำ กำหนดลมหายใจเข้าออกเพื่อให้เป็นสมาธิสักนิด(รู้ลมหายใจเข้าออกตลอดเวลาจะสั้นจะยาวก็ได้) ปัญหาของผู้เริ่มสวด คือได้อ่านได้ฟังถึงคุณของคาถาแล้ว เลยตั้งใจท่องมากไปจนเกรง เอาตั้งใจพอดีๆครับ

 

เมื่อได้มีโอกาสมีดวงตาเห็นธรรม ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และถ้าได้เข้าใจธรรมอันลึกซึ้ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ปฏิบัติ สู่ความเข้าใจในสัจธรรม นำไปถึงหนทางแห่งการพ้นทุกข์ ก็ถือว่าเป็นผู้มีบุญที่เคยปฏิบัติไว้ก่อนแล้ว นับว่าเป็นมงคลสูงสุด ดังนั้น หากมั่นใจว่าปฏิบัติดีแล้ว จะเกิดผลเช่นไร ก็ขอให้ตั้งมั่นไว้ ว่าผลทั้งหลาย ย่อมส่งผลที่ดีและจะชัดเจนขึ้น เมื่อกรรมเก่าหมดสิ้นไป

สิ่งสำคัญสำหรับการสวดมนต์ต่างๆ คือต้องเข้าใจว่าสวดเพื่ออะไร และบทสวดมีความหมายอย่างไร ส่วนใหญ่แล้วเพื่อให้เราระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม และคุณพระสงฆ์ ซึ่งมีพระพุทธเป็นองค์พระศาสดา ให้เข้าใจว่า พระองค์ทรงตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง จากการเพียรบารมีต่างๆ ให้เป็นแบบอย่างเพื่อการปฏิบัติ โดยมีพระธรรม ทั้งวินัยยุทธ และธรรมยุทธ ชี้ทางให้ดวงตาได้เห็นธรรม และมีพระสงฆ์ คุ้มครองภัยทั้งหลาย

สำหรับชินบัญชร ก่อนสวดให้ระลึกถึง คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และนมัสการพระพุฒาจารย์โต เพราะบทนมัสการกล่าวถึงมงคลสูตรที่ควรแก่การปฏิบัติให้ถึงความร่มเย็นเป็นสุข

อิติปิโสภะคะวา ราชาโต ท้าวเวชสุวรรณโต พลังสุขโข
พรหมรังสี นะมะโต อะระหังพุฒะโต นะโมพุฒายะ

คือให้เข้าใจว่า ทุกที่(บ้านเมืองหรือหน่วยงาน) จะร่มเย็นเป็นสุขได้ ย่อมประกอบด้วยผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจ บารมี และเมตตา มีผู้ร่ำรวยเงินทองมากมายจากที่เคยสร้างบุญบารมีมาก่อน และผู้คนทั้งหลายมีความสุขความเจริญ ทั้งหมดนี้โดยมีธรรมเป็นแนวทางปฏิบัติ หรือมีผู้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

 

อนุโมทนา สาธุ

ชินะ ปัญญะระ ปะริตตัง มังรักขะตุ สัพพะธา

 

สั้นๆ
ไม่น่าจะใช่นะ
งั้นคงบ้ากันเยอะมาๆๆเลย

 

สาธุ เห็นด้วยที่สุดเลยค่ะ

 

ขนาดผมบุญบารมีของผมไม่ค่อยดี มีแต่ปัญหา ทำอะไรติดขัดไปหมดอยากให้เขาช่วยก็ติดไปหมด ตั้งแต่สวดคาถาทุกคาถา เช่น พาหุง ชินบัญชร มาอะไรที่ติดก็ไม่ติด แต่มันติดตรงที่มีเพื่อนเลว (ปาปมิตร) มักจะบอกจะสวดทำไมได้อะไร ขอมาตั้งนา่นไม่ได้อะไร สู้ไปทำยังงั้นยังงี้ดีกว่า เช่น ไปเล่นพนันได้ตังเร็วกว่าสวดอีก ยังงี้แหละเพื่อนเลว ตัวเองไม่ลงทุนไรแล้วจะหวังผลสูงอีก แต่ถ้าเพื่อนดี(กัลยาณมิตร)บอก เขาจะบอกว่า สวดมนต์เพื่อให้เรามีกำลังใจทำอาชีพสุจริตได้ดี เวลาเราจะทำความดีมักมีตัวถ่วง มีมารขัดกลัวเราจะได้ดีอะครับ แต่ถ้าคุณทำคุณก็ไปดี คุณทำความเลว คุณก็รู้ว่าจะไปไหนนะครับ..... ช้าเร็วเดียวก็รู้เวรกกรมมีจริง และอีกอย่างตัวเรามีพระอยู่ในตัว มีเทวดาปกปักรักษา ยังมีเพื่อนในเวปพลังจิตคอยชี้ทาง ยังเกจิอาจารย์และผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่านที่จะให้คำตอบนะครับ สาธุ

 

ถ้าจะบ้า..ก็บ้าบุญบ้ากุศล..ดีกว่า..บ้าบาป..เน๊าะ:boo:

 

บ่อยครั้งที่ในภาษาไทยนำคำบาลีมาใช้เคลื่อนจากความหมายเดิม อย่างเช่น อันธพาลเดินกร่างไปทั่วก็บอกว่ามีบารมีน่าเกรงขาม ซึ่งจริงๆแล้วคำว่า "บารมี"ในทางพุทธศาสนา แบ่งบารมีได้ ๑๐ อย่างที่เรียกว่า "ทศบารมี" หรือ บารมี ๑๐ คือ กำลังใจที่ต้องทำให้เต็ม ไม่พร่อง มี ๑๐ อย่าง ได้แก่
๑. ทาน การให้โดยไม่หวังผล
๒. ศีล การรักษาศีลให้เป็นปกติ
๓. เนกขัมมะ การถือบวช
๔. ปัญญา ความรู้
๕. วิริยะ ความเพียร
๖. ขันติ ความอดทนอดกลั้น
๗. สัจจะ ความตั้งใจจริง เอาจริง จริงใจ
๘. อธิษฐาน ความตั้งใจมั่น ไม่เปลี่ยนแปลง
๙. เมตตา ความรักด้วยความปรานี
๑๐. อุเบกขา ความวางเฉย

ซึ่งจะเห็นได้ว่าความเข้าใจผิดๆ ความไม่รู้ ย่อมเป็นเครื่องกีดกันกุศล บทพุทธมนต์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นการกล่าวถึงคุณแห่งพระรัตนตรัย อันเป็นสรณะสูงสุดของเราชาวพุทธ ขอให้เพียงสวดด้วยศรัทธา สติ และให้ปัญญาพิจารณาในข้อธรรมต่างๆที่อยู่ในบทพุทธมนต์นั้น อย่างน้อยที่สุดในขณะที่สวดจิตระลึกมั่นถึงพระรัตนตรัย เปรียมด้วยสมาธิจิต ศีลของเราในขณะนั้นก็ครบถ้วนบริบูรณ์ จิตในขณะนั้นย่อมบังเกิดเป็นกุศลในที่สุด.....ขอเป็นกำลังใจแก่ท่านเจ้าของกระทู้ครับ 阿弥陀佛。

 

อะไรเป็นเครื่องวัดว่าบารมีถึงหรือไม่ถึง ขอให้ทุกคนสวดคาถาชินบัญชรครับไม่ว่าใครก็สวดได้ ถ้าจิตเป็นกุศล