บอกเคล็ดลับในการสร้างพระแก้วด้วยเตาอบเพียงใบเดียว

ขออนุญาตเวปพลังจิตตั้งกระทู้นี้เพื่อเป็นทั้งวิทยาทานและการแจ้งข่าวงานสร้างพระพุทธรูปแก้ว ( พระแก้ว ) บนโลกนี้ เพราะเหตุที่ผมเป็นอดีตนักหลอมแก้วและนักสร้างชิ้นงานแก้วในเชิงอุตสาหกรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 - 2520 และต่อมาได้เป็นนักสร้างชิ้นงานแก้วโดยเฉพาะพระพุทธรูปแก้ว ( พระแก้ว ) ในเชิงนักวิชาการพร้อมด้วยการติดตามข่าวสารวิทยาการใหม่ๆในวิชาแก้วของทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ทราบว่าปัจจุบันโลกได้ไปถึงไหน และพอจะทราบแนวทางในอนาคตว่า น่าจะไปทางไหน

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามกระทู้นี้ได้ตลอดไปนะครับ เพราะกระทู้นี้น่าจะถือว่าเป็นจุดหักเหของงานสร้างพระพุทธรูปแก้ว จากเดิมที่ต้องใช้ศิลปินหรือช่างที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ มาเป็นใครก็ได้ที่มีความตั้งใจจริงอยากจะสร้างพระพุทธรูปแก้ว หรือจะเรียกสั้นๆว่า พระแก้ว โดยไม่ต้องไปเรียนหรือฝึกฝนทักษะวิชาช่างแก้วที่ไหนแต่อย่างใด ทุกอย่างถูกจัดมาให้ไม่ต้องเป็นศิลปินหรือช่าง แต่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างได้โดยไร้ฝีมือหากแต่สร้างได้สวยปานดังเทพมาสร้างสรรค์ด้วยตนเอง

โลกในปัจจุบันกำลังก้าวกระโดดเข้าสู่ยุคไร้ฝีมือแต่สร้างพระแก้วได้เต็มขั้นยิ่งกว่ายุคใดๆบนโลก

ท่านที่มีคำถามเกี่ยวกับแก้วสามารถโพสต์คำถามของท่านบนกระทู้และผมจะมาตอบเมื่อมีโอกาสครับ

 

สำรองพื้นที่

 

ท่านที่สนใจเป็นศิลปินแก้วหรือช่างแก้วที่ต้องใช้ทักษะฝีมือ ขอให้ติดตามอีกกระทู้หนึ่งครับ กระทู้นั้นจะยังคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เนื่องจากบนโลกนี้มีหลายวิชาแก้ว มากมายหลายแขนงครับ

https://palungjit.org/threads/วิธีสร้างศิลปินปั้นพระพุทธรูปแก้วของไทย-หน้า-15-290-ขึ้นไป.688522/

 

ภาพคุณแม่ผมเอง เมื่อครั้งที่ผมฝันว่า ท่านท้าวสักกะเทวราชท่านปลอมตัวมาเป็นคุณพ่อผม โอบอุ้มผมตอนอายุ 7 - 8 ขวบจากด้านหลังสไลด์โขดหินลื่นบนน้ำตกแห่งหนึ่ง เมื่อลงมาถึงท่านจับมือผมปั้นพระแก้ว ใจผมบอกว่า ตอนนี้ที่ติดขัดคือปัญหาการลดอุณหภูมิของแก้วไม่ใช่การปั้น เมื่อผมหันไปมองท่านก็พบว่า ท่านคือท้าวสักกะเทวราช จึงทราบว่าเป็นนิมิตให้สร้างพระแก้วที่กำลังติดขัดต่อไปได้ ดังนั้นผมจึงขอให้คุณแม่ผมมายืนหน้าเตาอบลดอุณหภูมิของโรงงานแก้วเจษฏา สมุทรสาคร ซึ่งคุณแม่ผมเองก็เคยเป็นเจ้าของโรงงานหลอมแก้วเช่นเดียวกับโรงงานแก้วเจษฏาเช่นกันทั้งขนาดโรงงานและสินค้าที่สร้างจากแก้วก็ใกล้เคียงกัน และงานสร้างพระแก้วได้สำเร็จต่อมาจวบจนปัจจุบันนี้

หมายเหตุ
ภาพปี พ.ศ. 2550 ที่หน้าเตาอบลดอุณหภูมิ โรงงานแก้วเจษฏา สมุทรสาคร

 

ภาพที่สวนสามพราน นครปฐม ยืนซ้ายสุดคือผมเอง ยืนขวาสุดคือคุณแม่ผม ขณะนั้นผมอายุประมาณ 13 - 14 ขวบ ถ่ายกับพี่น้องๆ

หมายเหตุ
ภาพปี พ.ศ. 2512 สวนสามพราน นครปฐม

 

ปีเตอร์ ไซ อ่อง วิน ลูกน้องช่างแก้วผมคนหนึ่ง เราศึกษาแลกเปลี่ยนวิชาแก้วในแขนง Lost Wax Glass ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 - 2562 และปีเตอร์จากพวกเรากลับไปพม่าเมื่อประมาณกลางปี 62 เขาเป็นช่างแก้ว Lost Wax Glass เพียงคนเดียวในไทยที่ทำงานในไทยมายาวนานกว่า 36 ปีที่ทำงานในสายวิชาแก้วเพียงอย่างเดียวมาตลอด หลังสุดปีเตอร์ลาออกจากโรงงานแก้วโลตัสคริสตัล ระยองเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2561 ตามคำชักชวนจากนายทุนท่านหนึ่ง ขอให้ปีเตอร์ลาออกเพื่อมาทำงานหลอมแก้วงานหนึ่ง แต่เนื่องจากนายทุนไม่ได้ฟังคำขอจากปีเตอร์ให้ใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมจากของอเมริกา นายทุนได้สั่งซื้อก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีนในราคากิโลกรัมละ 5 หยวน ( กิโลกรัมละ 25.- บาท ) ซึ่งโรงงานนั้นเป็นโรงงานจีนที่คุณภาพต่ำมาก งานทดลองจึงไม่สำเร็จ เมื่อหลอมแก้วหล่อเป็นชิ้นงานครั้งนั้นไม่สำเร็จ นายทุนโทษว่าปีเตอร์ไม่มีฝีมือ จึงเท่ากับปีเตอร์ออกจากงานมาโดยไม่ได้รับเงินเดือนตลอด 1 ปี และเนื่องจากอายุมากแล้ว จึงกลับพม่าเพื่อไปแผ่นดินเกิดของเขา

 

ปีเตอร์นำพระบูชาหลวงปู่ทิม อิสรโก วัดละหารไร่ ระยอง จังหวัดที่เขาทำงานช่วงสิบปีหลังของชีวิตเขา ที่หลอมจากก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของจีนราคากิโลกรัมละ 5 หยวน องค์ละประมาณ 1 กิโลกรัม ต้นทุนการหลอมตกองค์ละประมาณ 317.- บาท ( เฉพาะก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อตกองค์ละ 30.- บาท นอกนั้นเป็นค่ากระแสไฟฟ้าของเตาอบเป็นส่วนมาก ) ปีเตอร์นำมาให้ผมตรวจดูคุณภาพก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของจีน และดูงานที่เขาหลอมโดยบอกรายละเอียดทั้งหมดแก่ผม

ส่วนชิ้นงานองค์ใหญ่กว่าหลวงปู่ทิมนั้น เขาก็ได้บอกผมเช่นกัน พร้อมกับภาพประกอบ แต่ผมไม่สามารถเปิดเผยงานของผู้อื่นได้ ทั้งๆที่ทราบสาเหตุของการล้มเหลวครั้งนั้นแล้ว ผมขอเลือกที่จะไม่พูดในส่วนนั้น

เลือกพูดเฉพาะในส่วนของสิทธิของปีเตอร์ที่ได้สิทธิหลอมหลวงปู่ทิมเท่านั้นครับ

 

โปรดติดตามกระทู้ต่อไป ผมจะเขียนตอนที่ผมมีโอกาสนะครับ คอยหน่อย เพราะหลังๆมาต้องเลี้ยงหลานเพิ่งคลอด อาจหลายวันค่อยเข้ามาเขียนทีครับ

 

ภาพเตาหลอมและเป็นเตาอบในตัวของงานแก้วที่สามารถสร้างพระพุทธรูปแก้วได้ ขนาดเตาใหญ่กว่าเตาอบไมโครเวปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของอเมริการูปร่างก่อนการหลอมเหลว ที่เขาตีให้แตกเพราะกะน้ำหนักแก้วได้ถูกต้องครับ

เป็นวิธีเดียวกันกับที่ปีเตอร์สร้างหลวงปู่ทิมนั่นเองครับ

 

พระพุทธรูปแก้วรุ่นที่ผมเป็นเจ้าของโครงการ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว สร้างด้วยแก้วคริสตัลเนื้อตันๆ น้ำหนักเฉพาะองค์พระแก้ว 6 กิโลกรัม ฐานผมเลือกใช้อลูมีเนียมเพื่อให้เป็นโลหะทึบแสง ตัวฐานเป็นที่ซ่อนหลอดไฟ บางองค์ผมเลือกใช้หลอดคอมแพคขั้วเกลียว E27 ในขณะที่บางองค์ผมเลือกใช้หลอด LED จำนวนหนึ่งร้อยกว่าหลอดชนิดผสมสีได้ ทั้งหมดสร้างจำนวนไม่ถึง 10 องค์และได้น้อมถวายไว้ในพระพุทธศาสนาทั้งหมด

 

ในปีใกล้เคียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย ฝรั่งเศสโดยลาลีคและบัคคาฮ่าได้สร้างพระพุทธรูปแก้วหน้าตัก 8 นิ้วเศษขึ้นจากเทคนิค Pressed Glass ที่ต้องใช้เวลาฝึกฝนทักษะช่างแก้วนานถึง 7 ปี ในราคาองค์ละ 4 แสนกว่าบาทและ 2 แสนกว่าบาทตามลำดับ โดยลาลีคเลือกใช้ฐานแก้วกับองค์พระเป็นชิ้นเดียวกันไม่ตัดไม่ต่อ ส่วนบัคคาฮ่าเลือกใช้ฐานไม้ย้อมสีแดงและสีดำ

ทั้งหมดเป็นการสร้างขึ้นโดยไม่ได้นัดหมาย และเป็นเพียงครั้งแรกและครั้งเดียวในโลกที่สร้างขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในขณะนั้นได้สำเร็จ 3 ราย

 

ในยุโรปและอเมริกาได้มีการสร้างเตาหลอมแก้วซึ่งเป็นทั้งเตาหลอมและเตาอบในเตาเดียวกันขึ้น โดยเตานี้มีหลายขนาด แล้วแต่ขนาดของชิ้นงาน แต่ส่วนมากมักสร้างแบบสำเร็จรูปที่มีขนาดประมาณในภาพนี้ ซึ่งเตานี้เป็นจุดเปลี่ยนจากการที่เดิม ศิลปินแก้วหรือช่างแก้วต้องใช้โรงงานแก้วขนาดใหญ่ เนื้อที่หลายๆไร่ ราคานับร้อยนับพันล้านบาทในการสร้างพระพุทธรูปแก้ว มาเป็นเตาที่มีขนาดใหญ่กว่าเตาอบไมโครเวฟเพียงนิดเดียว ราคาก็แค่หลักแสนบาทเท่านั้น

 

จุดเปลี่ยนอีกเรื่องหนึ่ง คือการที่จีนแผ่นดินใหญ่และจีนไต้หวัน ได้ทำการค้นคว้าวิจัย สร้างก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อที่ใช้จุดหลอมเหลวที่ต่ำกว่าอดีตที่ผ่านมานับพันๆปี จากเดิมที่ทั่วโลกหลอมแก้วกันที่ประมาณ 1,480C ลงมาเหลือแค่หลักไม่กี่ร้อยองศาเซลเซียส ซึ่งจีนเคยประกาศว่า เขาจะทดลองสูตรแก้วให้หลอมเหลวได้ที่ไม่เกิน 450C ( แต่ไม่เป็นที่เปิดเผยว่า โรงงานสร้างก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของจีนโรงงานใดบ้างที่สร้างก้อนแก้วที่จุดหลอมเหลวเท่าไร )

 

ผิดกับทางยุโรปและอเมริกาที่โรงงานแก้วที่สร้างก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อ ได้สร้างก้อนแก้วพร้อมกับระบุจุดหลอมเหลวของแก้วที่เขาสร้างแทบทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น โดยขณะนี้ จุดหลอมเหลวของทางอเมริกาค่อยๆลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 6 - 7 ร้อยกว่าองศาเซลเซียส กล่าวคือค่อยๆพัฒนาให้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของเขามีจุดหลอมเหลวลดลงเรื่อยๆตามหลักวิชาการ โดยไม่ก้าวกระโดดเร็วเกินไป

หมายเหตุ
แต่ก็ใช่ว่าจีนจะก้าวกระโดดเร็วเกินไปทั้งหมดทุกโรงงานก็หาไม่ มีบางโรงงานที่ทำตามสเต็ปทุกประการ ในขณะที่บางโรงงานสามารถก้าวกระโดดได้ก็ทำไป เพียงแต่ข้อมูลไม่ค่อยเป็นที่เปิดเผย ทำให้ยากแก่การคาดเดาหากผู้ซื้อไม่ใช่มือโปรอย่างแท้จริงครับ

 

ภาพเตาหลอมแก้วมาตราฐานที่ต้องใช้เงินมากกว่าหลายร้อยล้านบาทต่อ 1 โรงงานในการสร้างขึ้นมา ที่ต้องใช้พื้นที่หลายไร่ นับเป็นความไม่สะดวกแก่ศิลปินแก้วที่ต้องการเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆที่ตนเองจะบริหาร


ลดลงมาเหลือแค่เตาหลอมซึ่งก็เป็นเตาอบด้วยในเตาเดียวกันที่มีขนาดไม่ใหญ่กว่าเตาอบไมโครเวฟเท่าไรเลย ราคาก็แค่หลักแสนบาท คนที่ต้องการสร้างชิ้นงานแก้วเช่นพระพุทธรูปหรือชิ้นงานแก้วอื่นใด ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปินแก้วหรือช่างแก้วที่ต้องฝึกทักษะใดๆเลย คือไม่ต้องมีความรู้ใดๆเลยก็สร้างชิ้นงานแก้วได้ทันที

 

ชิ้นงานแก้วคริสตัลในตลาดทั่วโลก หากเป็นพระพุทธรูปอย่างในภาพนี้ หน้าตักประมาณ 3 - 4 นิ้ว ราคามักอยู่ที่ประมาณ 3 - 4 หมื่นบาทเศษ

หากหน้าตักใหญ่ขึ้นในยี่ห้ออื่นๆ เช่นหน้าตัก 4 นิ้วขึ้นไป ไม่เกิน 4 นิ้วครึ่ง ราคามักจะอยู่ที่ประมาณ 6 - 7 หมื่นกว่าบาท ในบางยี่ห้ออาจเกิน 1 แสนบาทขึ้นไป

หน้าตักใหญ่เต็มที่ที่ประมาณ 8 นิ้ว ราคาจะตกประมาณองค์ละ 2 - 4 แสนกว่าบาท

 

ในขณะที่ต้นทุนพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว ที่ใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีน อย่างที่ลูกน้องผมสร้าง ตกต้นทุนองค์ละ 317.- บาทเท่านั้น

 

คุณภาพก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของจีนเป็นดังในภาพ จะว่าต่ำก็ว่ากันไปครับ ผมในฐานะที่เคยเป็นนักหลอมแก้ว บอกได้เลยว่า ราคากิโลกรัมละ 25.- บาทนั้นถือว่าถูกมากๆ ให้เราสร้างก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อแล้วมาขายกิโลกรัมละ 25.- บาท ( จีนกำหนดราคาขายปลีกครั้งละ 300 kg ขายกิโลกรัมละ 25.- บาท หากซื้อครั้งเดียวนับพันหรือนับหมื่นกิโลกรัม ราคาจะลดลงไปอีกมาก ) ผมพูดได้เลยว่า ผมเองก็สร้างไม่ได้ในราคานี้ครับ

 

ขนาดใหญ่ใกล้เคียงกัน เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ของลาลีคหน้าตักประมาณ 4 นิ้ว ราคาองค์ละ 4 แสนบาทเศษ แต่แน่นอนครับ ยี่ห้อลาลีคฝรั่งเศสเป็นแบรนด์เนมอันดับต้นๆของโลกอยู่แล้ว

 

เช้าตรู่วันพุธที่ 23 ต.ค. 2562 ผมตื่นตั้งแต่ประมาณตี 5 และนั่งคิดพิจารณาว่า ผมคงต้องบอกเคล็ดลับในการที่ผู้อ่านกระทู้นี้ ผู้ที่จะเข้ามาสู่งานอดิเรกนี้ หรืออาจจะเป็นอาชีพนี้ ได้ทราบอย่างลึกและรอบ เพราะหากผมไม่บอกเคล็ดลับนี้ ท่านเหล่านั้นที่ซื้อเตาอบแก้วไปแล้ว ไม่รู้ความจริง ถึงตอนนั้นอาจต้องเปลี่ยนเตาอบเป็นใบที่ 2 กว่าจะพบว่า ท่านควรซื้อแบบไหน ? อย่างไร ? แต่ถ้าหากท่านเป็นผู้ที่คิดว่า เงินค่าซื้อเครื่องมือไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด จะซื้ออีกกี่เตาหรือจะต้องซื้อเครื่องมืออะไรเพิ่มก็ไม่เป็นปัญหา เพราะมีเงินเยอะ ท่านก็สามารถทำไปโดยไม่ต้องอ่านตรงนี้ก็ได้ครับ

ต่อไปจะเป็นประเด็นของเคล็ดลับว่า ท่านควรเลือกเตาอบแบบไหน ? เพราะอะไร ?