บทสวด สยบเหตุร้าย ให้กลายดี อุปปาตะสันติ มหาสันติงหลวง เล่มละ 30 บาท

ในห้อง 'ธรรมทาน - วิทยาทาน' ตั้งกระทู้โดย macarkira, 5 ตุลาคม 2024 at 00:49.

  1. macarkira

    macarkira ศูนย์เผยแพร่พระไตรปิฎก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2021
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +49
    e_1648044.jpg
    #หนังสือสวดมนต์ บาลี-ไทย
    บทสวดเพื่อสยบเหตุร้ายให้กลายดี 
    อุปปาตะสันติ-บทสวดมหาสันติงหลวง - พร้อมคำแปลภาษาไทย ที่นิยมสวด อย่างแพร่หลาย

    ราคาต้นทุนโรงพิมพ์ธรรมทาน 30 บาท

    บริการจัดส่งทั่วประเทศ

    รายละเอียดหนังสือเล่มนี้ ที่
    http://www.trilakbooks.com/product/...ะสันติ-บทสวดมหาสันติงหลวง-ราคา30บาท.html.html

    #และเพื่อความรวดเร็วในการสนทนา
    ช่องทางการติดต่อทาง/ #สั่งซื้อทางLine
    ~ แคปภาพหนังสือนี้ แจ้งจำนวนเล่มที่สั่ง
    ~ แจ้งสถานที่จัดส่ง
    ~ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ทาง…

    ‍ #LINE : @trilakbooks

    หรือกดที่ ลิงค์ add Line ด้านล่างได้เลยครับ
    https://line.me/R/ti/p/@trilakbooks

    สามารถโทร.สอบถามรายละเอียดอื่นๆได้ที่
    086-461-8505, 087-696-7771

    ท่านสามารถเดินทาง
    มาเลือกชมด้วยตนเองได้ที่
    --- --- --- --- --- --- ---
    ศูนย์จัดส่งพระไตรปิฎกทั่วประเทศ
    ตั้งอยู่ที่ พุทธมณฑลสาย 4
    ฝั่งเดี่ยวกันกับ พุทธมณฑลองค์พระ
    ติดกับวัดญาณเวศกวัน
    แผนที่สำหรับเดินทาง Google maps
    https://goo.gl/maps/Bym61zuguLE2

    #หนังสือสวดมนต์ #อุปปาตะสันติ
    #มหาสันติงหลวง



    p_1052473.jpg

    e_1460752.jpg

    e_1648047.jpg

    e_1460753.jpg

    e_1648046.jpg

    คัมภีร์อุปปาตะสันติภาษาบาลีนี้ มีคำชี้แจงเพื่อทราบประวัติย่อต่อไปนี้



    ๑. อุปปาตะสันติ

    แยกเป็น ๒ คำ คือ อุปปาตะ คำ ๑ และ สันติ คำ ๑ อุปปาตะ แปลว่า

    เคราะห์กรรม, เหตุร้าย, อันตราย

    และแปลว่าสิ่งกระทบกระเทือน อุปปาตะสันติ แปลว่า

    บทสวดสงบเคราะห์กรรม แปลว่าบทสวดสงบอันตราย

    แปลว่าบทสวดสงบเหตุร้าย

    และแปลว่าบทสวดสงบสิ่งกระทบกระเทือน



    ๒. คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณคดีบาลีลานนาไทย

    พระสีลวังสะมหาเถระ แต่งที่เชียงใหม่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง

    พ.ศ. ๑๘๙๓ ถึง พ.ศ. ๒๐๑๐ เป็นคาถาล้วนจำนวน ๒๗๑ คาถา

    จัดเข้าในหนังสือประเภท “เชียงใหม่คันถะ”


    คือ คัมภีร์เชียงใหม่มีอายุประมาณ ๖๐๐ ปีเศษแล้ว

    มีคำเล่าว่า สมัยแต่งอุปปาตะสันตินั้น ที่เมืองเชียงใหม่นั้นมีโจรผู้ร้ายและ

    คนอัทธพาลชุกชุมมากผิดปกติมีเหตุร้าย

    และสิ่งกระทบกระเทือนอยูเสมอ พระสีลวังสะ จึงให้พระสงฆ์

    สามเณรและประชาชนพากันสวดและฟังอุปปาตะสันติ

    เพื่อกลับร้ายให้กลายเป็นดี มีผู้เลื่อมใสคัมภีร์นี้มาก

    และถือว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์



    ต่อมาชาวพม่ามีความเลื่อมใส

    นำคัมภีร์นี้เข้าไปในประเทศพม่า เข้าใจว่านำเข้าไป

    ที่เมืองอังวะก่อนแล้วแพร่หลายไป

    ทั่วประเทศพม่าสมัย ๕๐๐ ปีที่ล่วงแล้ว

    ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์และประชาชนถือว่า

    คัมภีร์อุปปาตะสันติ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก นิยมท่อง

    นิยมสวดและนิยมฟังอย่างกว้างขวาง

    มีคำเล่ากันว่า สมัยหนึ่งพวกจีนมาตีเมืองอ้งวะ

    ประเทศพม่า ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์ ข้าราชการ

    และประชาชนพากันสวดคัมภีร์อุปปาตะสันติ

    พวกจีนได้ฟังอุปปาตะสันติโฆษณาคือ

    เสียงกึกก้องของอุปปาตะสันติ ก็มีความกลัวแล้วพากันหนีกลับไป

    e_1648045.jpg


    ๓. บุคคลและสภาวะที่อ้างถึง

    ในคัมภีร์อุปปาตะสันติมี ๑๓ ประเภทคือ


    ๓.๑ พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตถึงปัจจุบัน (เน้นที่ ๒๘ พระองค์)

    ๓.๒ พระปัจเจกพุทธเจ้า

    ๓.๓ พระพุทธเจ้าในอนาคต ๑ พระองค์ คือ พระเมตไตรย

    ๓.๔ โลกุตตรธรรม ๙ และพระปริยัติธรรม ๑ ๓.๕ พระสังฆรัตนะ

    ๓.๖ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ๑๐๘ รูป

    ๓.๗ พระเถรีชั้นผู้ใหญ่ ๑๓ รูป

    ๓.๘ พยานาค

    ๓.๙ เปรตบางพวก

    ๓.๑๐ อสูร

    ๓.๑๑ เทวดา

    ๓.๑๒ พรหม

    ๓.๑๓ บุคคลประเภทรวม เช่น เทวดา ยักษ์ ปีศาจ

    คือผีที่ทำสิ่งใดๆ อย่างโลดโผน

    และวิชชาธรหรือพิทยาธร(สันสกฤตเรียกวิทยาธร)

    44444.jpg
    ถ้าเป็นภาษาอังกฤษเรียกพวกเซอเร่อ คือ พ่อมด แม่มด หรือผู้วิเศษ พวกวิชชาธร

    เป็นพวกรอบรู้เรื่องเครื่องรางและเสน่ห์ต่างๆ สามารถไปทางอากาศได้

    เรื่องราวเย็นอกเย็นใจที่สังคมมุ่งหวังและเสาะแสวงหา

    ที่กล่าวถึง ในคัมภีร์อุปปาตะสันติ

    มีประการที่สำคัญ ๓ อย่างคือ



    ก. สันติหรือมหาสันติ ความสงบ ความราบรื่น ความเยือกเย็น ความไม่มีคลื่น

    ข. โสตถิ ความสวัสดี ความปลอดภัย ความเป็นอยู่เรียบร้อย หรือตู้นิรภัย

    ค. อาโรคยะ ความไม่มีสิ่งเป็นเชื้อโรค ความไม่มีโรคหรือความมีสุขภาพสมบูรณ์




    คัมภีร์อุปปาตะสันติ มีข้อความขอความช่วยเหลือ ขอให้พระรัตนตรัยและบุคคล

    พร้อมทั้งสิ่งทรงอิทธิพลในจักรวาลรวม ๑๓ ประเภทดังกล่าวมาแล้วช่วยสร้างสันติ

    หรือมหาสันติ ช่่วยสร้างโสตถิและอาโรคยะ ช่วยปรุงแต่งสันติและอาโรคยะ

    ขอให้ช่วยรวมสันติ รวมโสตถิและรวมอาโรคยะ และขอให้ช่วยเป็นตู้นิรภัยคุ้มครองและ

    กำจัดเหตุร้ายอันตรายหรือสิ่งกระทบกระเทือนต่างๆ อย่าให้เกิดมีในตน ในครอบครัว

    ในหมู่คณะ หรือในวงงานของตน และในวงงานของคนอื่นทั่วไป




    ๔. อานิสงฆ์การสวดและการฟังอุปปาตะสันติ

    มีคุณประโยชน์ตามที่กล่าวไว้ ในท้ายคัมภีร์ มีดังนี้


    ๔.๑ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมชนะเหตุร้ายทั้งปวงได้ และมีวุฒิภาวะคือ

    ความเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ



    ๔.๒ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมได้ประโยชน์ที่ตนต้องการ คือ

    ผู้ประสงค์ความปลอดภัยย่อมได้ความปลอดภัย คนอยากสบายย่อมได้ความสุข

    คนอยากมีอายุยืน ย่อมได้อายุยืน คนอยากมีลูก ย่อมได้ลูกสมประสงค์



    ๔.๓ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมไม่มีโรคลมเป็นต้นมาเบียดเบียน

    ไม่มีอกาละมรณะคือตายก่อนอายุขัย ทุนนิมิตรคือลางร้ายต่างๆมลายหายไป



    ๔.๔ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ เมื่อเข้าสนามรบย่อมชนะข้าศึก

    ทั้งปวงและแคล้วคลาดจากอาวุธทั้งปวง




    ๕. เดชของอุปปาตะสันติ

    การสวดอุปปาตะสันติเป็นประจำ ย่อมมีเดชดังนี้

    ๕.๑ อุปปาตะ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน

    อันเกิดจากแผ่นดินไหวเป็นต้น ย่อมพินาศไป (ปะถะพะยาปาทิสัญชาตา)



    ๕.๒ อุปปาตะ คือ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน

    อันเกิดจากลูกไฟที่ตกจากอากาศหรือสะเก็ดดาว ย่อมพินาศไป (อุปปาตะจันตะลิกขะชา)



    ๕.๓ อุปปาตะ คือ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน

    อันเกิดจากการเิกิดจันทรุปราคาหรือสุริยุปราคา เป็นต้น ย่อมพินาศไป (อินทาทิชะนิตุปปาตา)



    ๖. คัมภีร์อุปปาตะสันติ

    เป็นคัมภีร์ไทย แต่ต้นฉบับได้จากเมืองไทย


    ไปอยู่เมืองพม่าเสียนาน จนแทบกล่าวได้ว่า

    คนไทยสมัยหลังไม่มีใครรู้จัก ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ

    ข้าพเจ้าจึงชำระและจัดพิมพ์เป็นอักษรไทย

    ด้วยวิธีเขียนให้คนอ่านคำบาลีทั่วไป สำหรับต้นฉบับนั้น

    ข้าพเจ้ามีแต่ฉบับเมืองพม่า และเป็นอักษรพม่า

    โดยท่านอาจารย์ธรรมานันทะธัมมาจริยะ ครูพระไตรปิฏก

    ประจำวักโพธาราม ได้กรุณาถวาย ข้าพเจ้าจึงขอขอบคุณอย่างยิ่งไว้ในที่นี้



    การที่ข้าพเจ้าได้ชำระและจัดพิมพ์อุปปาตะสันติ

    เป็นอักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรกนี้

    ข้าพเจ้าถือว่าเป็นการนำคัมภีร์ไทยโบราณกลับคืนสู่เมืองไทย เพื่อให้คนไทยได้รู้จัก

    ได้ศึกษา ได้สวด และได้ฟังให้เกิดประโยชน์ทางสันติ ทางโสตถิและทางอาโรคยะ

    สืบไป ในที่สุดนี้ข้าพเจ้าขอถือโอกาสเชิญชวนมวลพุทธศาสนิกชนชาวไทย

    พร้อมกันยกมือสาธุแสดงความชื่นชมโสมนัสต่อการกลับมา

    โดยสวัสดีของคัมภีร์อุปปาตะสันติ

    โดยทั่วกันทุกท่านเทอญ


    พระเทพเมธาจารย์ ๗ สิงหาคม ๒๕๐๕ วัดโพธาราม จ.นครสวรรค์

    e_1599880.jpg

    e_1599886.jpg

    อุปปาตะสันติ ทางเมืองเหนือเรียกว่า "มหาสันติงหลวง"

    แปลว่า บทสวดเพื่อสงบเคราะห์กรรม สวดเพื่อสงบเหตุร้าย และสวด

    เพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน

    อุปปาตะสันติ แยกเป็น ๒ คำ คือ อุปปาตะ และ สันติ

    อุปปาตะ แปลว่า เคราะห์กรรม เหตุร้ายอันตราย และสิ่งกระทบกระเทือน

    สันติ แปลว่า สงบ

    เมื่อ รวมกัน จึงได้ความหมายดังกล่าว

    e_1599887.jpg

    e_1599888.jpg

    e_1599889.jpg

    e_1599890.jpg

    e_1599891.jpg

    e_1599895.jpg

    e_1599896.jpg

    e_1599899.jpg

    e_1599902.jpg




    e_1599908.jpg

    ........................................................



    อานุภาพ

    ของอุปปาตะสันติ



    ผู้ใดสวดหรือฟังอุปปาตะสันติ อันกล่าวแล้วด้วยประการฉะนี้

    บุคคลนั้นจะพึงชนะจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง

    จะเจริญด้วยคุณ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ

    และปฏิภาณ ความวิบัติย่อมไม่มาแผ้วพาน

    ย่อมได้รับความอิ่มใจในกาลทุกเมื่อ

    ยาพิษและศาสตราวุธย่อมไม่มากล้ำกราย ย่อมชนะข้าศึกทั้งมวล

    โรคาพยาธิย่อมไม่เบียดเบียน ย่อมเจริญด้วยทรัพย์ศฤงคาร ภัยจากมนุษย์ อมนุษย์

    และสัตว์ร้ายน้อยใหญ่ย่อมสงบไปด้วยเสียงแห่งการสวดอุปปาตะสันติ


    ผู้ที่สวดอุปปาตะสันติแล้วอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปก็ดี ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ดี

    จะช่วยให้เขาเหล่านั้นพ้นจากมหันตทุกข์

    ย่อมเข้าถึงสุขในกาลทุกเมื่อ ทวยเทพเทวดาทั้งหลาย

    ท้าวพระยามหากษัตริย์ทั้งหลาย จักเป็นผู้เจริญด้วยเดชและสิริมงคล

    ด้วยกฤตยานุภาพแห่งพระคาถาอุปปาตะสันติ

    เหตุร้ายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ

    มีแผ่นดินไหวและน้ำท่วมเป็นต้น เหตุร้ายอันเกิดจากฟากฟ้า

    เหตุร้ายอันเกิดจากสุริยุปราคา จันทรุปราคา เหตุร้ายอันเกิดจากบาปกรรม

    เหตุร้ายทั้งปวงจักพินาศไปด้วยเดชแห่งอุปปาตะสันติ

    ....................................................................................
     

แชร์หน้านี้

Loading...