น้อมส่งพระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ สู่แดนนิพพานหรือแดนสรวงสวรรค์

​

1.พระกริ่งชัยวัฒน์ รุ่นรวยตลอดกาล พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ บูชา 280 บาท คุณ naron รับไปบูชาแล้วครับ

พระกริ่งชัยวัฒน์ รุ่นรวยตลอดกาล เนื้อเงิน พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ตอกโค๊ดหมายเลข ๖๖๙

พระกริ่งชัยวัฒน์ รุ่นรวยตลอดกาล พระอาจารย์สมบัติ จิตตปญฺโญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ สร้างเพื่อหารายได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญวัดป่าโพธิ์ศรีวิไล และขยายที่สำนักสงฆ์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

​

พระกริ่งชัยวัฒน์ รุ่นรวยตลอดกาล, พระกริ่งมหาสมบัติ, พระสังกัจจายน์มหาลาภ และอื่นๆ ผ่านการเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกมาแล้ว 4 วาระ คือ

วาระที่ 1 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2555 ณ.วัดศรีสรรเพชร บ.กำแพงเพชร ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ โดยมีหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมร่วมในพิธีด้วยเป็นจำนวนมากรวมทั้งพุทธบริษัทผู้ถือบวชเนกขัมมะจำนวนหลายพันคน

วาระที่ 2 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2556 ณ.วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จำนวน 100 กว่ารูปร่วมสวดเจริญพระคาถาพุทธาภิเษก และพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจำนวนมากร่วมอธิษฐานจิตโต้รุ่ง ร่วมกับพุทธบริษัทผู้ถือบวชเนกขัมมะหลายพันคน โดยพระประภัสสสรมุณี เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้จุดเทียนชัย หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม อธิษฐานจิตประจุพระคาถาใส่เทียนนพเก้า เพื่อจุดเทียนชัย และพระอาจารย์สมบัติ จิตตปญฺโญ เป็นผู้ดับเทียนชัย

วาระที่ 3 เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกเหมือนวาระที่ 2 ทำพิธี เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2557

วาระที่ 4 เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกเหมือนวาระที่ 3 ทำพิธี เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

การเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งที่ 1 มีครูบาอาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก ดังนี้ :
1.พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงพ่อทองพูล สิริกาโม)
2.พระครูอุทัย วรคุณ (เจ้าคณะอำเภอเมืองบึงกาฬ)
3.พระไพศาล ธรรมมงคล (พระอาจารย์บุญอุ้ม วัดป่าโนนแพง)
4.พระครูบวร ธรรมรักขิต (หลวงปู่เลิศ ชินวังโส เจ้าคณะอำเภอพรเจริญ)
5.พระครูโอภาส ธรรมรส (รองเจ้าคณะอำเภอเมืองบึงกาฬ)
6.พระครูอภิบาล ธรรมมาภิวัฒน์ (เจ้าคณะอำเภอเฝ้าไร่)
7.พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ (วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล)
8.พระภาวนา ธรรมวิสุทธิ์ (หลวงตาสมพร บ้านห้วยก้านเหลือง)
9.พระครูพิทักษ์ นทีเขต (เจ้าคณะอำเภอปากคาด)
10.พระมหาธีระมหาวีโร (เจ้าคณะอำเภอศรีวิไล)

รูปภาพงานมหาพุทธาภิเษก วาระที่ 1 เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2555

ทำพิธีที่วัดศรีสรรเพชร บ.กำแพงเพชร ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

<img src="http://palungjit.org/picture.php?albumid=7974&pictureid=125165" alt="DSC0991443" height="272" width="452">

<img src="http://palungjit.org/picture.php?albumid=7974&pictureid=125163" height="272" width="452">

<img src="http://palungjit.org/picture.php?albumid=7974&pictureid=125169" height="272" width="452">

<img src="http://palungjit.org/picture.php?albumid=7974&pictureid=125167" height="259" width="402">

<img src="http://palungjit.org/picture.php?albumid=7974&pictureid=125161" height="259" width="402">​

 

พระเครื่องและวัตถุมงคล ที่ให้เช่าบูชานี้ ผมเก็บสะสมมา รับประกันแท้ 100%

ท่านที่สนใจเช่าบูชา ลงจองในกระทู้นี้ได้เลยครับ หรือติดต่อหาผมทางมือถือ หรือทาง PM ครับ

ท่านที่ได้จองเอาไว้ จองได้ 3 วัน ถ้าเลยกำหนดแล้วไม่ได้โอนเงิน ก็ขอยกเลิกสิทธิ์การจองครับ

ท่านที่เช่าบูชาพระเครื่องวัตถุมงคล หรือหนังสือบุญบันดาล กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 50 บาท

 

จอง รายการนี้ครับ พระกริ่งชัยวัฒน์ รุ่นรวยตลอดกาล พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ บูชา 280 บาท

 

รับทราบครับ

 

​

2.พระกริ่งมหาสมบัติ พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ บูชา 280 บาท ปิดรายการให้คุณ pasit_ok ครับ
พระกริ่งมหาสมบัติ พระอาจารย์สมบัติ จิตตปญฺโญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ สร้างเพื่อหารายได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญวัดป่าโพธิ์ศรีวิไล และขยายที่สำนักสงฆ์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

พระกริ่งมหาสมบัติ, พระสังกัจจายน์มหาลาภ, พระกริ่งชัยวัฒน์ รุ่นรวยตลอดกาล และอื่นๆ ผ่านการเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกมาแล้ว 4 วาระ คือ

วาระที่ 1 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2555 ณ.วัดศรีสรรเพชร บ.กำแพงเพชร ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ โดยมีหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมร่วมในพิธีด้วยเป็นจำนวนมากรวมทั้งพุทธบริษัทผู้ถือบวชเนกขัมมะจำนวนหลายพันคน

วาระที่ 2 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2556 ณ.วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จำนวน 100 กว่ารูปร่วมสวดเจริญพระคาถาพุทธาภิเษก และพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจำนวนมากร่วมอธิษฐานจิตโต้รุ่ง ร่วมกับพุทธบริษัทผู้ถือบวชเนกขัมมะหลายพันคน โดยพระประภัสสรมุนี เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้จุดเทียนชัย หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม อธิษฐานจิตประจุพระคาถาใส่เทียนนพเก้า เพื่อจุดเทียนชัย และพระอาจารย์สมบัติ จิตตปญฺโญ เป็นผู้ดับเทียนชัย

วาระที่ 3 เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกเหมือนวาระที่ 2 ทำพิธี เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2557

วาระที่ 4 เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกเหมือนวาระที่ 3 ทำพิธี เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

การเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งที่ 1 มีครูบาอาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก ดังนี้ :
1.พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงพ่อทองพูล สิริกาโม)
2.พระครูอุทัย วรคุณ (เจ้าคณะอำเภอเมืองบึงกาฬ)
3.พระไพศาล ธรรมมงคล (พระอาจารย์บุญอุ้ม วัดป่าโนนแพง)
4.พระครูบวร ธรรมรักขิต (หลวงปู่เลิศ ชินวังโส เจ้าคณะอำเภอพรเจริญ)
5.พระครูโอภาส ธรรมรส (รองเจ้าคณะอำเภอเมืองบึงกาฬ)
6.พระครูอภิบาล ธรรมมาภิวัฒน์ (เจ้าคณะอำเภอเฝ้าไร่)
7.พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ (วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล)
8.พระภาวนา ธรรมวิสุทธิ์ (หลวงตาสมพร บ้านห้วยก้านเหลือง)
9.พระครูพิทักษ์ นทีเขต (เจ้าคณะอำเภอปากคาด)
10.พระมหาธีระมหาวีโร (เจ้าคณะอำเภอศรีวิไล)

 

​

3.พระสังกัจจายน์มหาลาภ พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ บูชา 280 บาท พิเศษลดเหลือ 250 บาท (ปิดรายการให้สมาชิกที่จองทาง PM ครับ)

พระสังกัจจายน์มหาลาภ พระอาจารย์สมบัติ จิตตปญฺโญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ สร้างเพื่อหารายได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญวัดป่าโพธิ์ศรีวิไล และขยายที่สำนักสงฆ์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

พระสังกัจจายน์มหาลาภ, พระกริ่งมหาสมบัติ, พระกริ่งชัยวัฒน์ รุ่นรวยตลอดกาล และอื่นๆ ผ่านการเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกมาแล้ว 4 วาระ คือ

วาระที่ 1 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2555 ณ.วัดศรีสรรเพชร บ.กำแพงเพชร ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ โดยมีหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมร่วมในพิธีด้วยเป็นจำนวนมากรวมทั้งพุทธบริษัทผู้ถือบวชเนกขัมมะจำนวนหลายพันคน

วาระที่ 2 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2556 ณ.วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จำนวน 100 กว่ารูปร่วมสวดเจริญพระคาถาพุทธาภิเษก และพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจำนวนมากร่วมอธิษฐานจิตโต้รุ่ง ร่วมกับพุทธบริษัทผู้ถือบวชเนกขัมมะหลายพันคน โดยพระประภัสสรมุนี เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้จุดเทียนชัย หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม อธิษฐานจิตประจุพระคาถาใส่เทียนนพเก้า เพื่อจุดเทียนชัย และพระอาจารย์สมบัติ จิตตปญฺโญ เป็นผู้ดับเทียนชัย

วาระที่ 3 เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกเหมือนวาระที่ 2 ทำพิธี เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2557

วาระที่ 4 เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกเหมือนวาระที่ 3 ทำพิธี เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

การเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งที่ 1 มีครูบาอาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก ดังนี้ :
1.พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงพ่อทองพูล สิริกาโม)
2.พระครูอุทัย วรคุณ (เจ้าคณะอำเภอเมืองบึงกาฬ)
3.พระไพศาล ธรรมมงคล (พระอาจารย์บุญอุ้ม วัดป่าโนนแพง)
4.พระครูบวร ธรรมรักขิต (หลวงปู่เลิศ ชินวังโส เจ้าคณะอำเภอพรเจริญ)
5.พระครูโอภาส ธรรมรส (รองเจ้าคณะอำเภอเมืองบึงกาฬ)
6.พระครูอภิบาล ธรรมมาภิวัฒน์ (เจ้าคณะอำเภอเฝ้าไร่)
7.พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ (วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล)
8.พระภาวนา ธรรมวิสุทธิ์ (หลวงตาสมพร บ้านห้วยก้านเหลือง)
9.พระครูพิทักษ์ นทีเขต (เจ้าคณะอำเภอปากคาด)
10.พระมหาธีระมหาวีโร (เจ้าคณะอำเภอศรีวิไล)

 

พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ
วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล บ.โพธิ์ศรีวิไล
ต.โพธิ์ศรีวิไล
อ.โพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ​

พลังจิตสื่อกรรม พลิกชะตาเสริมบารมี
ด้วยบุญอธิษฐาน
ผู้มีวาสนาบารมีสื่อธรรมสงเคราะห์โลก​

เมตตาบารมีให้มีชีวิตเจริญรุ่งเรือง

ผู้คนจำนวนมากมายที่รับรู้เรื่องราวของพระอาจารย์สมบัติ จากหนังสือ พลังจิตสื่อกรรมเล่ม 1 ต่างได้เดินทางหรือสนทนาธรรมปรึกษาขอรับพลังเมตตาจิตจากท่าน บางท่านก็ไม่ได้ผลสมปรารถนา บางท่านก็ได้ผลสมปรารถนา บางท่านก็ได้เพียงความสบายใจที่ได้มาทำบุญกุศลทำนุบำรุงพระศาสนา

การนับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ทำให้กิจการงานต่างๆ เจริญรุ่งเรืองด้วยการที่ผู้นั้นเป็นผู้มีศีลธรรม ปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนาย่อมทำให้ตนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ด้วยธรรมบารมี

การเป็นชาวพุทธ มิได้หมายความว่าผู้นั้นจะต้องเข้าใจพระธรรมทั้งปวงที่บัญญัติไว้ทั้งหมด การเป็นชาวพุทธที่ดี เพียงแค่มีจิตสำนึกของชาวพุทธ รู้หลักธรรม ที่เป็นประโยชน์ของตน ด้วยการรักษาศีล ทาน ภาวนาก็นับได้ว่าเป็นชาวพุทธแท้ ถึงแม้หลักการปฏิบัติจะเป็นเพียงกระพี้ของแก่นพุทธศาสนาก็ตาม จะไปถึงขั้นวิสุทธิปัญญาในการตัดกิเลสละเอียดยิ่งสู่แดนนิพพาน ก็ยังเป็นสิ่งยากสำหรับมนุษย์ทั่วไป ขอเพียงแต่ให้หมั่นให้ทาน รักษาศีลเจริญจิตภาวนา สม่ำเสมอไม่หยุดยั้งในการทำดีสักวันหนึ่ง ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้าหรือภพชาติต่อๆ คงจะไปถึงแดนนิพพานด้วยกันทุกคน เหมือนดั่งสายฝนหลั่งไหลทีละหยด ยังสามารถเต็มเปี่ยมในโอ่งน้ำได้

“เทวา น อิสฺสนฺติ ปุริส ปรกฺกมสฺส”

“ความเพียรของคนไม่ลดละ ถึงเทวดาก็กีดกันไม่ได้”

บุญ วาสนา บารมี คืออะไร? ชีวิตมนุษย์เกิดขึ้นมาทุกคนก็นึกอยากได้ อยากดี อยากเป็นเศรษฐี คหบดีกันทั้งนั้น แต่แล้วมันก็มีเพียงแค่นี้ ได้เพียงแค่นี้ สิ่งที่มนุษย์ต้องการความเป็นอยู่มีกินที่ดีนั้นขึ้นกับตนเองกระทำทั้งสิ้น

มนุษย์จึงควรทำเหตุให้ดี ผลจึงจะปรากฎสมบูรณ์ สมบัติภายนอกมนุษย์ผู้ใดมีมากมายขนาดใดนั้นย่อมเป็นผลมาจากบุญวาสนาบารมีมาจากอดีตชาติได้บำเพ็ญมา และกรรมดีในชาติปัจจุบันจึงเป็นเหตุของบุญ วาสนาบารมี ที่มาจากการกระทำกุศลของผู้นั้นทั้งสิ้น กุศลคือความฉลาดของจิตของใจ ที่มนุษย์ทุกนามควรถือนำมาปฏิบัติ ....

สตรีนางหนึ่งได้ทราบเรื่องราวของพระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ จากหนังสือพลังจิตสื่อกรรม จึงได้เขียนจดหมายมากราบนมัสการพระอาจารย์สมบัติให้ได้รับทราบในทุกข์เรื่องการดำรงชีพของครอบครัวที่ขัดสนเงินทอง เงินที่ได้รับไม่พอกับรายจ่ายในแต่ละเดือน จึงได้กราบเรียนเพื่อขอเมตตาจิตจากพระอาจารย์สมบัติ คือ ขอให้บ้านจัดสรรที่ซื้อไว้มีคนมาเช่า ทำกิจการร้านเสริมสวย ขอให้มีลูกค้ามากๆ เพราะมีภาระหน้าที่ด้านการเงินที่ต้องส่งชำระธนาคารเดือนละ ๙๐,๐๐๐ บาท แต่มีรายรับเพียงเดือนละ ๕๐,๐๐๐ บาท ด้วยความเมตตาจากพระอาจารย์สมบัติจึงได้แนะนำสตรีนางนี้ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการปฏิบัติตนด้วยการไหว้พระสวดมนต์เป็นประจำทุกวัน ใส่บาตรพระทุกวัน และตั้งจิตอธิษฐาน

“ถ้าหากข้าพเจ้าร่ำรวยขึ้นมาแล้วจะอุปถัมภ์วัดตลอดชีวิต”

พระอาจารย์สมบัติรับเรื่องแล้วจึงได้นั่งสมาธิภาวนาแผ่เมตตาให้สม่ำเสมอด้วยการส่งเมตตาจิตไปถึงเหล่าเทพเทวดาที่ดูแลครอบครัวหญิงสาวผู้นี้ให้ได้รับความสุขความอิ่มในบุญ แล้วได้อบรมเทพเทวดาที่อยู่ดูแลครอบครัวสตรีผู้นี้เพื่อให้ช่วยส่งเสริมกิจการให้ก้าวหน้า ระยะเวลาผ่านไปประมาณ ๒ เดือน สตรีนางนี้ได้โทรศัพท์มากราบเรียนพระอาจารย์สมบัติให้ได้รับทราบ

“ชีวิตของดิฉันดีขึ้นมาเลยค่ะพระอาจารย์สมบัติ เงินไหลกองทองไหลมา จากก่อนหน้านั้นต้องมีภาระหนี้ขาดทุนเดือนละ ๔๐,๐๐๐ บาท แต่มาเดี๋ยวนี้กลับมีเงินเก็บเดือนละ ๔๐,๐๐๐ บาท เข้าธนาคาร ส่วนลูกสาวที่พระอาจารย์สมบัติแผ่เมตตาให้จากที่เกเรก็กลับเป็นคนดีว่านอนสอนง่ายตั้งใจเรียนจากก่อนหน้านั้นดื้อรั้นบอกไม่ฟัง เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ถ้าดิฉันไม่ได้พระอาจารย์สมบัติฉันคงตายไปแล้ว”

ทั้งนี้เป็นเพราะการทำคุณงามความดีของหญิงผู้นี้ที่หมั่นสร้างกุศลด้วยการไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิภาวนาแผ่กุศลให้สรรพวิญญาณและให้ทานสม่ำเสมอ และการได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์สมบัติได้แผ่เมตตาให้พระภูมิเจ้าที่เทพเทวดาที่ดูแลรักษา เพราะกุศลแห่งการสร้างความดีแล้วส่งบุญจึงทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


กรรมจากอดีตส่งผล บรรเทาด้วยพลังจิตสื่อกรรม

มีโยมสตรีคนหนึ่งชื่อ..ประมวล อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีอาการปวดเจ็บตามร่างกายตลอดเวลาป่วยมานาน ๔-๕ ปีโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้ไปตรวจรักษาอาการที่เจ็บป่วยที่โรงพยาบาลแต่แพทย์กลับไม่สามารถวินิจฉัยรักษาให้หายได้ร่างกายมีความทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยปวดโดยที่ไม่ทราบสาเหตุมานาน พอดีได้อ่านหนังสือ พลังจิตสื่อกรรม เล่ม ๑ เป็นเรื่องราวของท่านพระอาจารย์สมบัติ ญาติจึงได้เดินทางพากันมากราบนมัสการพระอาจารย์สมบัติ

เมื่อพระอาจารย์สมบัติทราบเรื่องราวจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานเพ่งลงไปที่ขวดน้ำมนต์

“ด้วยบุญบารมีทั้งหมดทั้งสิ้นของข้าพเจ้า ขอให้ผู้ป่วยรายนี้จงหาป่วยด้วยเทอญ”

จากนั้นได้ส่งน้ำดื่มที่อธิษฐานจิตให้ผู้ป่วยดื่ม พร้อมกันนั้นพระอาจารย์สมบัติได้เพ่งพลังออกจากฝ่ามือ

“ด้วยพลังบุญทั้งหมดทั้งสิ้นของข้าพเจ้าและของโยมรายนี้จงได้เป็นพลังบุญให้แก่วิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในร่างกายนี้ได้รับผลบุญ”

พระอาจารย์สมบัติ สังเกตุดูพลังที่แผ่ออกจากฝ่ามือเห็นแสงรัศมีพุ่งกระทบสลายวิญญาณที่เกาะเกี่ยวอยู่ตามร่างกายของคุณประมวลที่บีบรัดกดทับร่างกายส่วนต่างๆในร่างกายไว้ทำให้เจ็บป่วยตลอดเวลา พลังบุญค่อยๆ ปะทะสลายเข้าทำให้วิญญาณหลุดสลายเคลื่อนออกไปพลังบุญขจัดปัดเป่าวิญญาณที่แทรกสิงสถิตย์ผู้ป่วยทำให้เจ็บป่วยไม่หายได้คลายออกไป

สักพักผู้ป่วยจากที่ยกแขนไม่ขึ้นได้โดยสะดวก ได้ทดลองยกแขนขึ้นกลับสามารถยกแขนขึ้นได้โดยง่ายดายเป็นที่น่าอัศจรรย์ จากนั้นจึงได้อยู่พักปฏิบัติธรรมที่วัดป่าโพธิ์ศรีวิไลต่อ ร่วม ๗ วัน จึงทำให้อาการที่เจ็บป่วยทุเลาลงมาก ร่างกายกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงสร้างความดีใจแก่คุณประมวลยิ่งนัก

สิ่งที่พระอาจารย์สมบัติได้พิจารณาทางสมาธิ ทราบถึงสาเหตุที่คุณประมวลมีอาการเจ็บป่วยที่รักษาไม่หายนั้นเนื่องเพราะว่าในอดีตชาติของคุณประมวลนั้นเคยเกิดเป็นผู้ชายเป็นนักรบกล้าแกร่งในสมัยอยุธยาเป็นขุนศึกนักรบผู้เกรียงไกรที่ได้ฆ่าศรัตรูล้มตายจำนวนมาก ฆ่าศรัตรูตายด้วยความทรมานด้วยการตัดศรีษะออกจากคอบ้างตัดแขน ตัดขาให้ขาดออกจากร่างให้ตายด้วยวิธีการที่ทรมานเลือดเย็น เมื่อเห็นว่าบ้านใดมีลูกสาวก็จะไปจับตัวมาข่มขืนทรมานให้ได้รับความทุกข์ใจทุกข์กายด้วยกรรมในอดีตชาติครั้งนั้นทำให้วิบากกรรมส่งผลทำให้ชาติต่อมาได้มาเกิดเป็นเพศสตรี และมีอาการป่วยทุกข์ทรมานมากจากโรคภัยไข้เจ็บที่มาจากกรรมฆ่าผู้อื่นให้ตายด้วยความทรมาน วิญญาณที่ถูกฆ่าตายอย่างทรมานมีความอาฆาตพยาบาทมากจึงได้ติดตามมาด้วยความอาฆาต เพื่อประสบวาระกรรมที่ตามติดทำให้คุณประมวลที่มารับวิบากกรรมในเพศสตรี ที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ยากลำบากแล้วในชาติปัจจุบัน พอวิบากกรรมความอาฆาตพยาบาทของวิญญาณที่ถูกฆ่าตายด้วยความทรมานได้ตามติดด้วยความอาฆาตแค้นยิ่งนักได้เข้าแล่นงานทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยทุกข์ทรมานโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่อาการค่อยๆ บรรเทาด้วยการที่พระอาจารย์สมบัติ ได้ใช้พลังจิตสื่อกรรมขอพลังบุญอุทิศบุญให้แก่วิญญาณเจ้ากรรมให้อโหสิกรรมให้ต่อกัน

ขอบคุณข้อมูล : พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ โครงการแสดงธรรม.., ข้อมูลสังเขป..หนังสือพลังจิตสื่อกรรม 2..

 

จอง 1 องค์ครับ

 

​

บทพิสูจน์ภูมิธรรมแห่งความเป็นพระอริยะเจ้า
ครั้งหนึ่งท่านหลวงปู่ทุย ฉันทกาโม พระอริยเจ้าผู้ทรงความเพียรเป็นเลิศ ได้นั่งสมาธิภาวนาพิจารณาเรื่องราวของ พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ ตื่นเช้าท่านได้มีเมตตาเล่าเรื่องราวที่ท่านได้พิจารณาเรื่องราวพระอาจารย์สมบัติ แล้วได้นำมาแจ้งให้ญาติโยมรับทราบ

“ท่านครูบาสมบัตินี้จิตสูงแล้วน่ะ ไม่ตกต่ำแน่นอน หลวงปู่นั่งสมาธิดูเมื่อคืนนี้”

ครั้งหนึ่งในขณะที่พระอาจารย์สมบัติ ได้ถวายอุปฐากนวดถวายหลวงปู่เหรียญ ท่านหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ พระอริยเจ้า ได้กล่าวถึงทายาทธรรมคือพระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ ให้พระอาจารย์สมบัติ ได้ทราบว่า

“ต้องแบบนี้สิจึงชื่อว่าภาวนาเป็น ถือว่าประดับวัด องค์นี้เป็นคนมีบุญแต่ปางก่อนเยอะ มาชาตินี้ก็ภาวนาได้ง่าย เป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่มาเกิด ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ อนาคตจะได้เป็นที่พึ่งทางใจของท่านทั้งหลาย”

จึงเป็นที่น่าอนุโมทนาศรัทธายิ่งในธรรมที่พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง จึงได้รับการรับรองจากครูบาอาจารย์

พระอาจารย์สมบัติปฏิบัติในแนวทางปัญญาจิตได้ประมวลสภาวะธรรมทั้งอดีตปัจจุบัน จิตสามารถรู้เข้าใจสภาวธรรมแห่งจิตด้วยการละสักกายทิฏฐิ ความยึดมั่นเห็นในตัวตน จิตเข้าใจรู้สิ่งเหล่านี้ไม่มี เป็นอนิจจัง อนัตตา ตัวตนเขาเรา สิ้นความลังเลสงสัยในคุณพระพุทธเจ้า จิตไม่มีวิจิกิจฉา คุณพระธรรม พระสงฆ์มีจริง สีลพัตปรามาสจิตเข้าใจรู้ในตัวตนแห่งความบริสุทธิ์ในศีล จิตละสังโยชน์ได้ในขั้นต้น ขณะภาวนาอยู่นั้นได้เห็นภาพนิมิต มีภูเขาสี่ลูก พระธรรมผู้รู้แจ้งบอกให้ทราบ

“เนินที่หนึ่งท่านสามารถทำลายได้แล้ว”

จึงเป็นเหตุทำให้มั่นใจในสภาวะธรรมแห่งภูมิจิตที่ได้ประมวลมรรคผลเข้าในชาติปัจจุบัน ความเป็นพระอริยะโสดาบัน ภูมิธรรมอริยเจ้าขั้นต้นเกิดขึ้นในจิตแล้ว จิตพ้นจากอบายภูมิแน่นอน จึงทำให้สภาวะจิตนั้นปลอดโปร่งโล่งเหมือนยกภูเขาแห่งเพลิงทุกข์ออกจากอก

การปฏิบัติภาวนาทางจิตในทางมรรคจนเกิดผลในภูมิอริยะขั้นต้นแล้ว จิตพระอาจารย์สมบัติไม่ได้หยุดการเพียรภาวนาเพียงเท่านั้นยังคงปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานต่อไป จิตภาวนาทบทวนในกายสังขารอย่างนั้นนานหลายชั่วโมงจนสภาวะจิตรู้แจ้งเห็นจริงในกองสังขาร ด้วยสติปัฏฐาน ๔ รู้เท่าทันสามารถยกระดับภูมิจิตแห่งพระอริยะได้สูงขึ้น ต่อมาได้เกิดภาพนิมิต พระธรรม ผู้รู้ได้แจ้งให้จิตทราบ

“ภูเขาลูกที่สอง ท่านทำลายได้แล้ว ขออนุโมทนาด้วย”

ภูมิธรรมแห่งพระอริยเจ้า ขั้นสกิทาคามี เกิดขึ้นในจิตแล้ว จิตองอาจหาญกล้าในธรรมมากขึ้น....การปฏิบัติภาวนาแห่งจิตได้ดำเนินต่อเนื่อง จนสามารถเข้าใจในกิริยาแห่งธรรมที่ปรากฏจนสามารถเข้าใจจิตสามารถรู้การละสังโยชน์การพิจารณากามราคะเน้นอยู่ในเรื่องอสุภกรรมฐาน สู่การยกระดับจิตภูมิธรรมแห่งขั้น อนาคามี และอรหันตผล ต่อไป คือการปฏิบัติเพื่อยกภูมิจิตให้หลุดพ้นในวัฏฏสงสาร ยุติแห่งการเวียนว่ายในวัฏฏโลกสงสาร.....

การเจริญสมณกิจเพื่อความสิ้นในวัฏทุกข์โลกสงสาร ต้องเพียรชำระอวิชชาให้จบสิ้นจึงจะถือได้ว่าอยู่ในเพศพรหมจรรย์ได้จบสิ้นสมบูรณ์ พระอาจารย์สมบัติ ได้นิมิตแห่งจิตได้ทำลายภูเขาลูกที่ สองจนราบเป็นหน้ากอง การปฏิบัติความเพียรยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องทั้งการบำเพ็ญด้วยจริตอดนอน ผ่อนอาหาร ใช้ปัญญาธรรมพิจารณาโทษของความกำหนัดในกามราคะ ความหลงติดในรูปตนและผู้อื่น ทั้งรูปหญิงชาย ทั้งรูปเทพ จนจิตไม่หลงพิจารณาเข้าใจแจ่มชัดและสามารถใช้ปัญญาธรรมฟาดฟันจนสลายสิ้นจากใจ พิจารณาเหตุที่มากระทบจิตอันเป็นเหตุทำให้จิตเกิดความหงุดหงิดด้วยอำนาจโทสะ รู้เข้าใจถึงเหตุแห่งปฏิฆะ และดับเหตุลง...สะบั้นลงจากใจ จิตมีความรู้สึกโล่งเบาสบาย ขณะภาวนาอยู่นั้นได้เกิดภาพนิมิตพระธรรมผู้รู้ได้แจ้งให้จิตทราบ

“ภูเขาลูกที่สาม ท่านทำลายได้แล้วขออนุโมทนา”

ภูมิธรรมแห่งอริยเจ้า อนาคามีผล บังเกิดขึ้นในจิต

จิตองอาจหาญกล้าในธรรมมากขึ้น....การปฏิบัติภาวนาแห่งจิตได้ดำเนินต่อเนื่อง จนสามารถเข้าใจในกิริยาแห่งธรรมที่ปรากฏจนสามารถเข้าใจจิตสามารถรู้การละสังโยชน์ การพิจารณากามราคะและปฏิฆะสามารถทำลายลงจากจิตได้

การเจริญสมณกิจเพื่อความสิ้นในวัฏทุกข์โลกสงสารต้องค่อยๆพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนค่อยๆชำระกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิต ต้องเพียรชำระอวิชชาให้จบสิ้นจึงจะถือได้ว่าอยู่ในเพศพรหมจรรย์ได้จบสิ้นสมบูรณ์ พระอาจารย์สมบัติ ได้นิมิตแห่งจิตได้ทำลายภูเขาลูกที่สามจนราบเป็นหน้ากอง การปฏิบัติความเพียรยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องทั้งการบำเพ็ญด้วยจริตอดนอน ผ่อนอาหาร

พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ จึงไม่ปล่อยให้ช่วงโอกาสนั้นหลุดลอยเพื่อการปฏิบัติให้ถึงความสิ้นทุกข์ในชาติปัจจุบันจึงได้เพียรเพ่งพยายามในการห้ำหั่นต่อกรกับกิเลสข้าศึกที่อยู่ในใจด้วยอุบายธรรมเข้าประหัตประหารกับข้าศึกที่เป็นกิเลสภายใน

ด้วยอุบายแห่งธรรมที่สำคัญ มหาสติปัญญาพิจารณา ความติดใจอยู่ในธรรม ทั้งที่ ชอบใจบุคคลบางคน หรือในวัตถุบางสิ่ง อันเป็นอารมณ์แห่งรูปญาณ (รูปราคะ) พิจารณาธรรมด้วยปัญญาละในความติดใจอยู่ในอรูปธรรม ที่มีความพอใจในสุขเวทนา พิจารณาธรรมด้วยปัญญาละจากความสำคัญตน(มานะ) พิจารณาธรรมด้วยปัญญาละจากความคิดพล่าน ฟุ้งซ่านแห่งจิต (อุทธัจจะ) 1 พิจารณาธรรมแห่งปัญญาขั้นละเอียดในความหลงอันเป็นเหตุไม่รู้จริง ในกาย เวทนา จิต ธรรม เห็นโทษภัยของการเวียนว่ายตายเกิด

ความหลงที่พระอาจารย์สมบัติเคยติดมานานนับภพชาติไม่ได้ได้รู้ถึงเหตุและดับเหตุนั้นลง

“เย ธัมมา เหตุ ปัพพวา เตสัง เหตุง ตถาคโต เตสัญจะ โย นิโร โธ จะ
เอวัง วาที มหาสมณโณ”

“ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ
พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น
พระมหาสมณะมีปกติ ทรงสั่งสอนอย่างนี้”

ปัญญากำลังแห่งความเป็นปราชญ์ละจากกิเลสที่ฝังอยู่ในใจของตนมาเป็นเวลานานหลายภพหลายชาติ ไม่หลงติดในสิ่งเหล่านี้ ละสังโยชน์ ตัดขาดละลงที่ใจจิตมีความรู้สึกถึงความสงบ สะอาด บริสุทธิ์ ผุดผ่อง เป็นสุญญตา (ความว่างเปล่าจากความชั่ว) ดับเพลงทุกข์ เพลิงกิเลส ในจิตลงได้เป็นผลสำเร็จ ไม่มีเชื้อหลงเหลือในใจอีกต่อไป

บุพพนิมิตธรรมได้ปรากฏขึ้นเด่นชัดในจิต

““ภูเขาลูกที่สี่ ท่านทำลายได้แล้วขออนุโมทนา พรหมจรรย์ของท่านจบแล้ว ชาติเป็นอันสิ้นสุด”

ขณะนั้นพระอาจารย์สมบัติได้มองเห็นเหล่าเทพเทวดา พรหม และครูบาอาจารย์ผู้ทรงธรรมทั้งหลายได้มาปรากฏอนุโมทนาในครั้งนี้..ด้วยปิติแห่งจิตครั้งนี้ถึงกับทำให้จิตพระอาจารย์สมบัติโล่งจากสภาวะทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเครื่องร้อยรัดให้จิตหลงในภพชาติ จิตเกิดปิติน้ำตาไหลอยู่อย่างนั้น จึงก้มกราบถึงคุณพระพุทธเจ้าอยู่อย่างนั้นทั้งคืน วันเวลาในโลกสมมติเป็นเวลา ๐๓.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๙ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๔๓

เต็มภูมิธรรมควรแก่การสักการบูชา ของมนุษย์ เทพเทวดา อินทร์ พรหม ทั้งหลาย น้อมลงเป็นธรรมวิสุทธิจิตความแจ้งประจักษ์ในดวงจิต...

สภาวะภูมิธรรมที่เกิดขึ้นกับพระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ นั้นเป็นสภาวธรรมที่ละเอียดยากแก่ที่ผู้คนจะสามารถเข้าใจได้ แต่ด้วยคุณธรรมที่อยู่ในจิตใจได้ปรากฏแสดงรูปธรรมออกมาให้เห็นชัดเจนเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลก

ครั้งนั้นพระอาจารย์สมบัติ ได้รวบรวมเส้นเกศาของท่านเก็บไว้ และนำมาล้างน้ำสบู่ออกจากเส้นเกศาจนเสร็จเรียบร้อย ท่านพระอาจารย์สมบัติ จึงได้นำไปวางไว้ตกดึกกลางคืนนั่นเอง ด้วยอำนาจแห่งธรรม พุทธธรรม สังฆบารมี ปรากฏว่าจู่ ๆ เส้นเกศาที่พระอาจารย์สมบัติ นำเกศาของท่านนำมาวางผึ่งไว้ ได้แสดงให้ประจักษ์ถึงอำนาจรูปธรรม แห่งจิตบริสุทธิ์ กายบริสุทธิ์ เมื่อจู่ๆ ปรากฏว่าเส้นเกศาเหล่านั้นวิ่งมาจับรวมกันเป็นก้อนกลมๆนั้นคือ เส้นเกสา ของท่านได้จับกันรวมเป็นก้อนอย่างน่าอัศจรรย์

ความอัศจรรย์ที่เป็นประจักษ์พยานทางรูปธรรมแสดงให้ทราบผลที่มาจากความบริสุทธิ์ภายในใจสู่ความบริสุทธิ์ให้รับรู้ทางภายนอกที่เกิดขึ้นนั้นเป็นด้วยคุณธรรมแห่งความบริสุทธิ์แห่งจิต ที่สามารถพิสูจน์ได้ในขณะที่ผู้นั้นดำรงธาตุขันธ์ให้เห็นเป็นประจักษ์จิตในปัจจุบัน โดยไม่ต้องหาหลักฐานใดๆมาพิสูจน์ให้ยุ่งยาก ของจริงต้องบริสุทธิ์และต้องแปรเป็นพระธาตุ ของจริงต้องมีหลักฐานให้รู้เห็นได้ สำหรับอวัยวะต่างๆของพระอาจารย์สมบัติ นั้น ท่านเองมีประจักษ์พยานคือใจของท่านแล้วโดยที่ไม่ต้องมีผู้ใดรับรอง เพราะธรรมนั้นรับรองตัวเองทั้งสิ้น แต่ผลทางรูปธรรมทางร่างกายของท่านที่แสดงประจักษ์ให้ชาวโลกรับรู้คือเส้นเกสาที่จับกันเป็นก้อนแล้วจะแปรสภาพเป็นพระธาตุที่ใสบริสุทธิ์สีสันวรรณะงดงาม และอวัยวะต่างๆในร่างกายของท่านนั้นล้วนแล้วที่พร้อมจะแปรสภาพให้เห็นทุกเมื่อ ที่เป็นผลแสดงออกมาจากข้างในคือใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่องที่แท้จริง

ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม เหล่านี้มันเพียงตั้งอยู่ตามธรรมชาติของเขาอยู่อย่างนั้นส่วนที่ไปซักฟอกผ่านเข้าออกคือจิตตามส่วนต่างๆในร่างกาย จิตที่บริสุทธิ์ซักฟอกธาตุขันธ์เหล่านี้อยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ธาตุส่วนต่างๆใสบริสุทธิ์ไปตามจิต สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้ที่ทราบแจ้งในจิตของพระอาจารย์สมบัติ แล้ว

การที่ครูบาอาจารย์จะรับรองภูมิธรรมให้หรือไม่นั้น สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับการรู้ใจตนเอง รู้จิตตนเองมีกิเลสในจิตหรือไม่ หากรู้ใจของตนที่แท้จริงแล้วไซร้นั่นคือสิ่งที่รับรองตนเอง ถึงแม้จะมีผู้มาพรรณนาให้ว่าตนบริสุทธิ์ผุดผ่องเท่าใด หากจิตตนยังไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องแล้วคำรับรองให้ต่างๆนั้นก็ไม่มีผล

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับพระอาจารย์สมบัติ นั้นท่านรับรองตนเองทั้งทางนามธรรมที่รู้ถึงสภาวะจิตที่ผุดผ่องของท่านแจ่มชัดและสิ่งที่รับรองให้ทราบทางรูปธรรมนั้นคือ เส้นเกสาที่จับกันเป็นก้อนกลมแล้วพร้อมที่จะแปรสภาพเป็นพระธาตุ แน่นอนแล้วนั้นคือสิ่งที่รับรองให้แก่ตนเองแน่ชัดแล้ว

สมดังกล่าวรับรองจากหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ พระอริยเจ้า ได้กล่าวถึงทายาทธรรมคือพระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ ให้ได้ทราบว่า

“ต้องแบบนี้สิจึงชื่อว่าภาวนาเป็น ถือว่าประดับวัด องค์นี้เป็นคนมีบุญแต่ปางก่อนเยอะ มาชาตินี้ก็ภาวนาได้ง่าย เป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่มาเกิด ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ อนาคตจะได้เป็นที่พึ่งทางใจของท่านทั้งหลาย”

คำพยากรณ์จากหลวงปู่ในวัง(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) ที่เคยกล่าวไว้เมื่อหลายสิบปีล่วงมา บัดนี้คำพยากรณ์เป็นจริงขึ้นมาแล้วที่ปัจจุบันพระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ นั้นเป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนจำนวนมากที่ต่างได้พากันเดินทางเพื่อมานมัสการและพึ่งบารมีในกิจธุระต่างๆมากมายจากความที่ท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร สร้างความสุขความเจริญเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตามหาคุณ ทำประโยชน์อนุเคราะห์สงเคราะห์เกื้อกูลหนุนโลกให้แก่ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา

ด้วยอำนาจแห่งศีล สมาธิ ปัญญา ที่พระอาจารย์สมบัติได้นำมาเป็นแนวสงเคราะห์ เมตตาช่วยเหลือผู้คนให้มีความเป็นอยู่มีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อญาติโยมท่านใดมีปัญหาเดือดร้อน ในธุรกิจการงาน ด้วยจริตการภาวนาเป็นประจำ เมื่อจิตท่านรวมก็จะพิจารณาและแผ่เมตตาช่วยเหลือญาติโยม ได้เป็นจำนวนมากครั้นยังไม่สำเร็จผลก็พยายามเรียนแจ้งให้ท่านทราบตลอดเวลา จนหลายๆกิจการที่ล้มไม่เจริญรุ่งเรือง กลับเจริญงอกงามขึ้นมาตามลำดับ เนื่องเพราะอำนาจการสงเคราะห์ในศีล สมาธิ ปัญญาของพระอาจารย์สมบัติที่ท่านนำมาสงเคราะห์มวลชน

 

จองรายการอะไรครับ รายการที่ 2 พระกริ่งมหาสมบัติ หรือรายการที่ 3 พระสังกัจจายน์มหาลาภ

 

พระกริ่งชัยวัฒน์ ที่ยังไม่ได้ลงในกระทู้ เป็นพระกริ่งชัยวัฒน์สีทอง ตอกโค๊ทหมายเลข ๙ ซึ่งผมจะเก็บไว้บูชาเอง แต่ถ้ามีท่านใดสนใจก็คุยกันทางหลังไมค์ ซึ่งราคาบูชาคงมากกว่า 700 บาทนะครับ เพราะโค๊ทหมายเลข ๙ มีแค่องค์เดียวและอยู่ที่ผม

ส่วนพระกริ่งมหาสมบัติ ที่ยังไม่ได้ลงในกระทู้ มีอีกประมาณ 3 องค์ และพระสังกัจจายน์มหาลาภ ที่ยังไม่ได้ลงในกระทู้ มีอีก 2 องค์ ท่านใดสนใจก็ PM หรือโทรคุยกันได้ครับ

คือองค์พระจริงๆ สวยครับ แต่รูปที่ผมถ่ายขึ้นมา อาจสวยไม่เท่า เพราะแสงสะท้อนบ้าง อาจเบลอเล็กน้อยบ้าง และถ่ายจากกล้องมือถือนะครับ ถ่ายรูปประมาณ 100 รูป ผมคัดรูปที่ดูดีและใกล้เคียงความจริงที่สุดได้ราว 20 รูป อีกอย่างผมเพิ่งเป็นสมาชิก Premium อาจเก่งไม่เท่าผู้ให้บูชาแบบมืออาชีพ คือพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

 

​

สารบัญ หนังสือพลังจิตสื่อกรรม 2
บทที่...1 พลังอำนาจจิต
บทที่...2 พบคู่กรรมจองเวรจากอดีต
บทที่...3 ฤทธิ์อภิญญาพลังอำนาจจิต
บทที่...4 พลังบุญสื่อจิต ให้มีเมตตาธรรม
บทที่...5 จิตหาสิ่งของ
บทที่...6 ครูบายกย่องให้การรับรอง
บทที่...7 หยุดการสร้างกรรมฆ่าสัตว์เสียเถิด
บทที่...8 กรรมเกิดเหตุวิบัติเพราะผู้ขับขี่ประพฤติผิดศีลธรรม
บทที่...9 ลูกค้าคือพระเจ้า
บทที่...10 เมตตาช่วยให้ได้ย้ายสถานที่ทำงาน..ผลกรรมจากการตัดสินคดีที่เกินเหตุ
บทที่...11 สุนัขชื่อเจ้ากาแฟ อาฆาตพยาบาท
บทที่...12 ลูกในอดีตกลับมาเกิดในครรภ์
บทที่...13 กราบขอเมตตาบารมีให้มีชีวิตเจริญรุ่งเรือง
บทที่...14 กรรมจากการปล่อยสัตว์ต่อชะตาให้ยืนยาว
บทที่...15 พญานาคแจ้งข่าวฝนตก
บทที่...16 เหรียญทองโอลิมปิคเหรียญแรกของไทย
บทที่...17 สัญญาเก่าที่ผุดขึ้นให้รับทราบ
บทที่...18 อานุภาพวัตถุมงคล จากพลังจิตอธิษฐาน
บทที่...19 กรรมจากอดีตส่งผล บรรเทาด้วยพลังจิตสื่อกรรม
บทที่...20 ไอเรื้อรัง ท้าวพญายมบาลช่วยรักษา
บทที่...21 รู้เห็นกรรมของสัตว์โลก

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ พระอริยเจ้า ได้กล่าวถึงทายาทธรรมคือพระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ ให้ได้ทราบว่า
“ต้องแบบนี้สิจึงชื่อว่าภาวนาเป็น ถือว่าประดับวัด องค์นี้เป็นคนมีบุญแต่ปางก่อนเยอะ มาชาตินี้ก็ภาวนาได้ง่าย เป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่มาเกิด ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ อนาคตจะได้เป็นที่พึ่งทางใจของท่านทั้งหลาย”

นั่งสมาธิตัวลอย
เมื่อครั้งได้มาพำนักปฏิบัติภาวนาในสถานที่วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล การทำความเพียรของพระอาจารย์สมบัติทุกอิริยาบทจิตมีสติรู้อยู่กับผู้รู้เท่านั้น นั่ง เดิน ยืน ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ระมัดระวังมิให้จิตออกนอกจากกายจากใจ ธรรมที่แท้จริงนั้นมิได้อยู่นอกเหนือไปจากร่างกาย และใจ การชำระต่อกรกับกิเลส ความรัก ความชอบ ความอยาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความยึดมั่นถือมั่น ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่กายและใจเท่านั้น สิ่งภายนอกนอกจากกายและใจตนแล้ว นั้นไม่มีอำนาจใดสำคัญดีเกินไปกว่า การเอาชนะใจของตน ชนะผู้อื่นล้านครั้ง ก็มิเท่ากับการได้ชนะใจตนเพียงครั้งเดียว เพราะการชนะใจตนนั้นทำให้ โลภะ โทสะ โมหะ ค่อยๆ ลดลงไปละออกไป จิตคลายละจากความยึดมั่นถือมันอันผูกติดอยู่กับความยึดมั่นอุปาทานได้มากเพียงใด ใจก็ย่อมสงบใจก็ย่อมเย็นสบาย ใจก็บริสุทธิ์ เป็นดวงจิตที่ทรงธรรมบริสุทธิ์มากขึ้นตามลำดับ

ปีพรรษา พ.ศ. 2542 เป็นปีแห่งความเพียรของพระอาจารย์สมบัติที่เด็ดเดี่ยวด้วยการบำเพ็ญเพียรด้วยการนั่งสมาธิตลอดทั้งคืนและในพรรษานี้ได้อธิษฐานภาวนาด้วยการไม่นอนตลอดระยะเวลา 3 เดือน และอดข้าวอดอาหารนานเป็นเวลา 3 วัน แล้วจึงออกมาบิณฑบาตฉันอาหาร 1 มื้อ (๓ วันต่อมื้อ) ควบคู่กันไปอย่างนี้ทั้งพรรษา(ติดต่อกันสามเดือนเต็ม)

พบพญานาคที่กลางแม่น้ำโขง
ในช่วงที่แสวงหาธรรมด้วยการพำนักอยู่กับครูบาอาจารย์ ครั้งนั้นในการได้มาอยู่ที่วัดอรัญบรรพต พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ ได้มาจำวัดอยู่ ณ วัดล่าง ที่อยู่ติดกับฝั่งแม่น้ำโขงขณะที่นั่งสมาธิอยู่นั้น ได้มีผู้บุรุษลึกลับเดินทางมาจากลำแม่น้ำโขง ได้เข้ามากราบเรียน

“ขอให้ทางท่านพระอาจารย์ ลงไปเยี่ยมพวกข้าน้อยด้วย”

ในความรู้สึกขณะนั้นพระอาจารย์สมบัติ ได้ตัดสินใจเดินตามมาณพ ลึกลับลงไปยังริมฝั่งแม่น้ำโขง มาณพหนุ่มนั้นได้เดินหายลงไปในแม่น้ำโขงที่กว้างใหญ่ กายพระอาจารย์สมบัติ ยืนนิ่งอยู่ ณ ริมฝั่งแม่น้ำ ในคืนเดือนสว่างมองเห็นอาณาบริเวณโดยรอบชัดเจน ได้มองลงไปในลำแม่น้ำโขง ปรากฏว่าได้มองเห็นรูปร่างพญานาคตัวใหญ่ปรากฏขึ้นกลางลำแม่น้ำโขง ได้สื่อสารให้พระอาจารย์สมบัติ ทราบ

“ข้าพเจ้าเคยเป็นญาติกับท่านมาก่อน ข้าน้อยไม่ทำอันตรายใดๆแก่ท่านหรอกขอเชิญขึ้นมาเถอะ”

สภาวะความรู้สึกนั้นของพระอาจารย์สมบัติ ทั้งแปลกใจและตกใจที่เห็นรูปร่างพญานาคหน้าตาคล้ายงูที่มีหงอนอยู่บนศรีษะเห็นเด่นชัดเจนทั้งสองตา จึงตัดสินใจเดินลงไปในแม่น้ำโขง แล้วว่ายน้ำลอยตัวไปกลางแม่น้ำโขง ว่ายน้ำจนถึงตัวพญานาคจากนั้นปีนขึ้นไปบนลำตัวพญานาคนั้น ร่างกายเนื้อของพระอาจารย์สมบัติขึ้นไปนั่งอยู่บนลำตัวพญานาค

จากนั้นพญานาคได้นำพาร่างแหวกว่ายเลี้ยวลำตัวไปมาบนแม่น้ำ บรรยากาศเย็นสบายจึงทำให้พระอาจารย์สมบัติ เคลิ้มหลับไปในขณะที่นั่งอยู่บนลำตัวพญานาค และไม่รู้สติตัวใดๆแต่ก่อนที่จะหลับไปบนลำตัวพญานาคนั้นพระอาจารย์สมบัติ จำเวลาได้ว่าเป็นช่วงระยะประมาณเวลา ๒๐.๐๐ น. พญานาคนำพาร่างกายเนื้อของพระอาจารย์สมบัติมาหยุดอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง ได้พบกับบุรุษเพศชายลึกลับสวมอาภรณ์มีเส้นสังวาลย์พันรอบพาดบ่ามารอต้อนรับและได้กล่าวทักทายพระอาจารย์สมบัติ

“ในอดีตท่านก็คือญาติพี่น้องของพวกกระผม ท่านได้มาเยี่ยมเยือนกันในครั้งนี้นับว่าเป็นมงคลดีแล้ว”

จากนั้นได้เดินตามบุรุษลึกลับเข้าไปในเวียงวังข้างในที่มีความใหญ่โตสวยงามตามธรรมชาติ พระอาจารย์สมบัติเดินเข้าสู่เวียงวังข้างในของดินแดนพญานาคราชได้เที่ยวชมดูสถานที่ต่างๆพอสมควรพอดีกับครั้งนี้ได้พบธิดาพญานาคของพญานาคนางหนึ่งเข้ามานมัสการกราบเรียนให้ทราบเรื่องราวในอดีตให้รับรู้

“ในอดีตที่ผ่านมาท่านเคยเป็นสามีของข้าน้อยมาก่อน”

เป็นเวลาสมควรพระอาจารย์สมบัติจึงได้รับการนิมนต์ให้เดินทางกลับเพราะเป็นเวลา ใกล้รุ่งสว่างกายเนื้อเดินตามทางที่บุรุษพญานาคเดินนำทางจนรู้สึกตัวพ้นขึ้นมาเหนือผิวน้ำในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้ตัวอีกครั้งเมื่อปรากฏว่าพญานาคที่เคยขี่หลังไปก่อนหน้านั้นได้หายไปแล้ว

พระอาจารย์สมบัติจึงเดินขึ้นมาจากแม่น้ำโขงเดินขึ้นมาริมฝั่งแม่น้ำ ในสภาพจีวรเปียกปอนเดินกลับเข้ากุฏิ อย่างน่าฉงนอัศจรรย์ที่ได้ประสบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
การที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดจะมีความเกี่ยวข้องกับสถานที่ถิ่นฐานใด ๆ ตลอดจนการได้รู้จักกับผู้คนต่าง ๆ นั้นต้องเป็นด้วยบุพพกรรมเก่าที่เคยสะสมอบรมร่วมกันมา ถ้าไม่มีวาสนาบุพพกรรมร่วมกันมาในปางก่อนนั้นก็ยากที่จะมีโอกาสได้รู้จักพึ่งพิงอาศัยกัน การไปเยือนนาคพิภพด้วยกายเนื้อของพระอาจารย์สมบัตินั้นก็เช่นกัน หากไม่มีวาสนาบุพพกรรมต่อพวกพญานาคแล้วก็ไม่สามารถลงไปยังดินแดนเขตเวียงวังของพวกพญานาคได้ เหตุที่พระอาจารย์สมบัติสามารถลงไปเมืองพญานาคด้วยกายเนื้อจริง ๆ ได้นั้นเพราะในอดีตชาติหนึ่งของท่านเคยเกิดเป็นลูกพญานาคมาก่อน…. ถ้าไม่มีวาสนาเกี่ยวข้องกับพวกพญานาคแล้วพวกพญานาคจะไม่อนุญาตให้ใครลงไปยังดินแดนของเขาได้โดยง่าย ๆ คนที่จะลงไปเยี่ยมยามถามข่าวเขาก็เหมือนเรามาเยี่ยมเยือนกันเช่นนี้ ต้องมีความผูกพันกันจึงจะไปได้ในเมืองของพญานาค เขาไม่ใช่สัตว์ เป็นกึ่งเทพกึ่งสัตว์เดรัจฉาน แต่ในเมืองของพวกพญานาคจริง ๆ (เมืองชั้นใน)นี่เข้าไปไม่ได้ ถ้าเข้าไปแล้วจะออกมาไม่ได้ เขาจึงให้ไปถึงแค่บริเวณที่เป็นเวียงวังชั้นนอกเท่านั้น

อานุภาพวัตถุมงคล จากพลังจิตอธิษฐาน
ครั้งนั้นมีโยมชื่อชาติ อยู่อำเภอศรีวิไล ได้วัตถุมงคลสมเด็จงาช้างจากพระอาจารย์สมบัติ ได้นำไปบูชาขณะที่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลี มีความรู้สึกว่า เป็นที่รักของเจ้านายชาวเกาหลีมากอย่างน่าประหลาด ทั้งได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งนายชาติมีปากเสียงทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน วันนั้นได้ถอดเสื้อออกแล้วนั่งสูบบุหรี่ด้วยความสบายอารมณ์ และได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับนายชาติเมื่อเพื่อนร่วมงานได้แอบนำมีดมาสับลงกลางหลัง ปึ๊ก เพื่อนที่แอบมาทำร้ายจึงหลบไป จากนั้นนายชาติจึงมาตรวจดูร่างกายปรากฏว่าไม่มีบาดแผลขึ้นมีเพียงร่องรอยที่ถูกคมมีดปรากฏให้เห็นเท่านั้น นายชาติดีใจสุดขีดจึงได้นำพระสมเด็จงาช้างที่ได้รับมาบูชาจากพระอาจารย์สมบัติยกขึ้นบูชาเหนือหัวที่ช่วยให้แคล้วคลาดจากคมมีดที่จะก่อให้เกิดบาดแผลที่น่าสยดสยองไปได้

วัตถุมงคลบางรุ่นที่พระอาจารย์สมบัติสร้างขึ้นและอธิษฐานจิต ด้วยการอธิษฐานนำบุญพลังเสริมเข้าไปปรากฏว่าคนผู้หนึ่งได้รับไปบูชาจากที่ไม่เคยซื้อหวยถูกแต่อย่างใดมาก่อนกลับได้ทดลองไปซื้อหวยปรากฏว่าโชคดีถูกหวยติดต่อกันหลายงวด ค้าขายสิ่งใดก็ซื้อง่ายขายคล่องไม่พอจะได้ก็ได้ ชีวิตสุขสบายใจมากขึ้นสังเกตดูมีแต่คนรักคนชอบ การงานรุ่งเรืองขึ้น

บางคนได้วัตถุมงคลจากพระอาจารย์สมบัติไปบูชาบางคนที่ทำธุรกิจค้าขายไม่ดีกลับไปปรากฏว่าทำมาค้าขายดีผิดหูผิดตา บางคนพระอาจารย์สมบัติได้มอบกำไรข้อมือให้ไปบูชา ขณะนั้นได้เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์สามีขับลูกเล็กนั่งกลางภรรยานั่งซ้อนท้าย ขับขี่ไปตามปกติแต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเมื่อมีรถบรรทุก ๖ ล้อพุ่งมาชนท้ายจนล้มกระเด็นตกรถประสบอุบัติเหตุรถชนกลับลุกขึ้นมาได้เป็นปกติทำให้รอดตายได้อย่างปาฏิหาริย์....

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ผู้ประสบอุบัติเหตุรอดพ้นจากการเสียชีวิตหลายครั้งหลายคราวด้วยพลังบุญคุ้มครอง พระอาจารย์สมบัติกล่าวให้ทราบถึงที่มาขอพลังคุ้มครองให้รับรู้ว่า

“สิ่งที่ปลุกเสกลงไปในวัตถุมงคล เมื่อคราวเกิดอุบัติเหตุสิ่งนี้จะเป็นสื่อพลังช่วยคุ้มครองร่างผู้ประสบอุบัติเหตุไว้ได้ วัตถุมงคลนั้นเป็นนิมิตหมายสื่อให้เหล่าเทพเทวดารับรู้เพื่อช่วยคุ้มครองช่วยเหลือให้แคล้วคลาดรอดปลอดภัยจากอันตราย”

การได้ดีตกยาก เจ็บไข้ได้ป่วยของมนุษย์และสัตว์ ส่วนหนึ่งเกิดจาก ผลกรรมในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ อีกส่วนหนึ่งได้รับเหตุปัจจัยกระทบจากสิ่งรอบข้าง อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการกระทำของสิ่งลี้ลับที่ เรามองไม่เห็น เช่น เทวดาช่วยเหลือ เทวดาให้โทษ ผีให้โทษ เจ้ากรรมนายเวรที่เคียดแค้น ชิงชังให้โทษ

คนเราทุกคนจะมีเทวดาประจำตัวทั้งเทวดาที่เป็นพระภูมิเจ้าที่ก็ดีนั้นจะคอยติดตามรักษา เทวดานี่เองคือผู้ที่ชอบช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จ หรือช่วยปกป้องคุ้มครองให้เรารอดพ้นจากภัยอันตรายที่น่าหวาดเสียวได้อย่างอัศจรรย์ ซึ่งบางทีเราก็ยกให้เป็นคุณงามความดีของวัตถุมงคลที่แขวนคอเสียก็มี เด็กน้อยบางคนไม่มีวัตถุมงคลแขวนคอเลย แต่ตกบ้านตกเรือนด้วยความซุกซน แต่ไม่ได้รับอันตราย เพราะเหมือนมีใครมาอุ้มไว้ก่อนตกพื้น บุคคลบางคนไม่มีวัตถุมงคลติดตัวเลยแต่สามารถหลุดพ้นจากอุบัติเหตุ และการดักทำร้ายของศัตรูมาได้ อย่างปาฏิหาริย์ นั่นคือการปกป้องรักษาจากเทวดาประจำตัวเขาและหรือ ญาติในโลกทิพย์ของเขา


ขอบคุณข้อมูล : พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ โครงการแสดงธรรม.., ข้อมูลสังเขป..หนังสือพลังจิตสื่อกรรม 2..

 

รายการที่1โอนให้แล้วครับ 330บาท 25/09/58 19:13 ส่งมาที่
พลภัทร อภัยโส บ้านอบอุ่น 70/30 ซ.ศรีจันทร์ ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย 42000

 

รับทราบครับ จัดส่งให้วันจันทร์ที่ 28 กันยายนครับ

 

จัดส่งให้แล้วครับ

รหัสตรวจสอบ EMS = EN070746307TH

ขอบคุณครับ

 

​

4.ล็อคเก็ตพระอาจารย์สมบัติ รุ่นบูชาแล้วรวย บูชา 280 บาท พิเศษลดเหลือ 240 บาท (ปิดรายการให้คุณสักการะ)

ล็อคเก็ตพระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ สร้างเพื่อหารายได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญวัดป่าโพธิ์ศรีวิไล และขยายที่สำนักสงฆ์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

ล็อคเก็ตพระอาจารย์สมบัติ รุ่นบูชาแล้วรวย ผ่านการเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกมาแล้วหลายวาระ

​

 

​

สมาชิกเวบพลังจิตท่านหนึ่ง PM มาหาผม เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 แจ้งว่าอยากได้เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์สมบัติ หรือพระกริ่งมหาสมบัติ, พระกริ่งสังกัจจายน์ เพราะพี่ที่มีตาในตรวจดูแล้ว บอกว่ามีผลช่วยทางร่างกายด้วย

 

​

5.เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ บูชาที่ 1,950 บาท (เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์สมบัติ หมดจากวัดนานปีกว่าแล้ว ปัจจุบันบางที่ให้เช่าบูชาที่ 2,000 บาท)

เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์สมบัติ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ หมดจากวัดประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว เริ่มหายาก อนาคตราคาค่อนข้างสูง อาจเป็นที่ 3 พันหรือ 4 พันบาท

ประวัติพระอาจารย์สมบัติหาอ่านได้จากหนังสือพลังจิตสื่อกรรม 1 และ 2

​

สารบัญ หนังสือพลังจิตสื่อกรรม 2
บทที่...1 พลังอำนาจจิต
บทที่...2 พบคู่กรรมจองเวรจากอดีต
บทที่...3 ฤทธิ์อภิญญาพลังอำนาจจิต
บทที่...4 พลังบุญสื่อจิต ให้มีเมตตาธรรม
บทที่...5 จิตหาสิ่งของ
บทที่...6 ครูบายกย่องให้การรับรอง
บทที่...7 หยุดการสร้างกรรมฆ่าสัตว์เสียเถิด
บทที่...8 กรรมเกิดเหตุวิบัติเพราะผู้ขับขี่ประพฤติผิดศีลธรรม
บทที่...9 ลูกค้าคือพระเจ้า
บทที่...10 เมตตาช่วยให้ได้ย้ายสถานที่ทำงาน..ผลกรรมจากการตัดสินคดีที่เกินเหตุ
บทที่...11 สุนัขชื่อเจ้ากาแฟ อาฆาตพยาบาท
บทที่...12 ลูกในอดีตกลับมาเกิดในครรภ์
บทที่...13 กราบขอเมตตาบารมีให้มีชีวิตเจริญรุ่งเรือง
บทที่...14 กรรมจากการปล่อยสัตว์ต่อชะตาให้ยืนยาว
บทที่...15 พญานาคแจ้งข่าวฝนตก
บทที่...16 เหรียญทองโอลิมปิคเหรียญแรกของไทย
บทที่...17 สัญญาเก่าที่ผุดขึ้นให้รับทราบ
บทที่...18 อานุภาพวัตถุมงคล จากพลังจิตอธิษฐาน
บทที่...19 กรรมจากอดีตส่งผล บรรเทาด้วยพลังจิตสื่อกรรม
บทที่...20 ไอเรื้อรัง ท้าวพญายมบาลช่วยรักษา
บทที่...21 รู้เห็นกรรมของสัตว์โลก

 

ได้รับเงินโอนแล้วครับ จะจัดส่งพระกริ่งมหาสมบัติไปให้ ในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ครับ

ขอบคุณครับ

 

ประสบการณ์บูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล :

​

ในอดีตที่ผ่านมาผมได้บูชาพระกริ่งมหาสมบัติ และพระสังกัจจายน์มหาลาภ(พระกริ่งสังกัจจายน์มหาลาภ) จัดสร้างโดยพระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ เมื่อได้รับพระกริ่งมหาสมบัติ และพระกริ่งสังกัจจายน์มหาลาภ ผมก็ได้อธิษฐาน สามารถสัมผัสพลังความศักดิ์สิทธิ์ได้ และรู้สึกว่าช่วงนั้นจะขายของได้ดี แต่ช่วงนั้นก็ได้บูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล หลวงปู่สุภา ได้รับพระเครื่องวัตถุมงคล ในช่วงไล่เลี่ยกัน