น่าจะเป็นเทวภูมิชั้นไหนกันครับ

ไปมาหลายที่ หลายภพ หลายภูมิ แต่ครั้งนี้ไม่แน่ใจครับ คือว่า
เมื่อเช้ามืดวันก่อน ขณะกำลังเริ่มนั่งสมาธิ ปรากฏภาพหน้าเสือใหญ่เต็มหน้า (ซึ่งผมคุ้นเคยกันอยู่แล้ว) ต่อจากนั้นได้เคลื่อนไหวออกมาจนเห็นเต็มตัว ผมทราบในใจทันทีว่าจะพาไปเที่ยว จึงได้ขึ้นไปนั่งบนหลัง หลังจากนั่งแล้วได้เห็นปีกทั้งสองข้างปรากฏด้านข้างของตัวเสือ ทันใดนั้นสถานที่ปรากฏเป็นบนอากาศ มองเห็นเทวดา ต้นไม้ คล้าย ๆ กับภาพวาดบนฝาผนังโบสถ์ ดูแปลก ๆ มาก (คือว่าเห็นร่างกายเฉพาะเป็นขอบเส้นร่างกาย ส่วนข้างในตัวดูโปร่งแสง) ซึ่งผมใช้เวลาสักครู่ก็สามารถปรับตัวได้ แล้วผมเห็นตัวผมเอง และเสือที่พามากลายเป็นร่างเทวดาเหมือนกับเทวดาในชั้นนั้น
- มีเทวดาผู้หญิงมาหาผม จำได้ว่าเคยมีกรรมเกี่ยวข้องกัน เมื่ออยู่ใกล้กันมีความสุข พอใจแล้วโดยไม่ต้องสัมผัสร่างกายกันเลย
- เทวดาเสือพาไปยังบ้านของเขา สภาพคล้ายตึกสีขาว ผมถามว่าทำใมถึงเลือกอยู่ชั้นนี้ เสือตอบว่าการพาเพื่อน ๆ จากป่าหิมพานต์ มาได้ชั้นสูงสุดก็ชั้นนี้
- เพื่อนเทวดาอยู่บ้านตรงข้ามเข้ามาทักทาย รู้ได้เนื่องจากมีแสงสว่างวาปปรากฏขึ้นมาทั่วทั้งตึกแสดงว่าเจ้าของบ้านกลับมาแล้ว แล้วยังชี้ให้เห็นบ้านอีกหลังที่ดูทรุดโทรม นั้นแปลว่าเจ้าของบ้านออกไปไม่กลับมาแล้ว
- เห็นบ้านอีกหลังแปลกกว่าบ้านอีกมีลักษณะคล้ายเจดีย์ สีทอง ซึ่งเป็นบ้านของพระอริยเจ้า ซึ่งเคยอยู่ที่ชั้นนี้ โดยนาน ๆ จะกลับมาแสดงธรรมให้กับเทวดาในชั้นนี้ แล้วผมเห็นเทวดาองค์หนึ่งกาย และรัศมีเปลี่ยนเป็นสีทอง เดินเข้าไปในเจดีย์ เข้าไปนั่งแสดงธรรม แล้วเห็นเทวดาเข้ามานั่งเต็มไปหมด ซึ่งธรรมที่แสดงมี ๒ เรื่อง คือ เรื่องการแบ่งเวลาจากความสุขมาบำเพ็ญตบะ อีกเรื่องคือให้นำแสดงพลังธรรมของพระพุทธเจ้า ลงมาช่วยกัลยานมิตร ในภพมนุษย์บ้าง อันเป็นกุศลแก่ตัวท่านด้วยให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
- ต่อจากนั้นได้เดินเที่ยว จนไปถึงสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ดูเหมือนคล้ายกลุ่มพลังแสงสีขาว วิ่งวนเป็นวงแหวน เป็นพลังผลักออกมา ซึ่งเทวดาในชั้นนี้ไม่สามารถเข้าไปได้ (เป็นเส้นทางไปยังชั้นอื่นที่สูงกว่า) ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเข้าไปได้ แต่เทวดาเสือเข้าไม่ได้ แต่ผมสามารถพาไปได้ ซึ่งทันใดนั้นปรากฏ วัตถุคล้ายกับเรือ แต่เป็นหงษ์ สีทอง แต่ไม่ทันจะนั่งได้หลุดออกจากการเชื่อมต่อนี้ เมื่อมีเสียงประตูที่บ้านดังขึ้น
เล่าสู่กันฟังครับ เป็นประสบการณ์ส่วนตน ซึ่งอาจเป็นนิมิตหลอกก็ได้ หรือว่าท่านใดมีความเห็นเป็นเช่นไรกัน แลกเปลี่ยนกันครับ

 

เพิ่มเติมอีกนิด จำได้อีกว่า สวรรค์ชั้นนี้ เห็นฝนตกด้วย แต่ไม่เปียกเนื่องจากมีบ้านหรือวิมาน แต่ไม่
ตัวเอง เชื่อในเบื้องต้นว่าเป็น สวรรค์ชั้น ๑ โดยมีวิมานตั้งอยู่บนอากาศ อยู่สูงกว่าอีกครึ่งชั้น เป็นภูมิที่ขึ้นมาจากเทวดาจากป่าหิมพานต์ชั้นสูง ประเภทลอยอยู่บนอากาศ

 

เมื่อเช้า ขณะพิจารณาในสมาธิ ถึงเรื่องดังกล่าว โดยพิจารณาในเรื่องของกายเทวดาที่ได้เห็น กับกายเทวดาอื่น ๆ ที่เคยเห็นมาก่อน สิ่งที่เทวดาที่เห็นในครั้งนี้แตกต่างกันคือ ตัวกายจะไม่ทืบแสง คล้ายโปร่งแสง การที่ผมเห็นเป็นตัวกายได้เนื่องจากแสงสว่างออกจากขอบรอบ ๆ กาย นั่นเอง ส่วนกรณีเทวดาชั้น ๑ กับ เทวดาชั้น ๒ ที่ตั้งวิมาณอยู่บนพื้นนั้น กายจะทืบแสง แล้วเทวดาชั้นที่ ๓ ขึ้นไป กายจะกึ่งโปร่งแสง
จึงเป็นไปได้ว่าเทวดาชั้นนี้ น่าจะเป็นพรหมชั้นที่ ๑ เนื่องจากมีกายโปร่งแสง ประกอบกับในป่าหิมพานต์มีฤาษีปฏิบัติฌาณอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วการได้มรรคฌาณชั้น ๑ จำเป็นต้องกลับมาเกิดเป็นคนเพื่อให้ได้ผลฌาณ ๑ ในชาติต่อไป ดังนั้นพรหมชั้นนี้จึงมีเสือองค์นี้เป็นยานพาหนะนำพามาจุติ ณ ที่แห่งนี้

 

การปฏิบัติธรรมเพื่อละกิเลสเหตุแห่งทุกข์ ธรรมที่ควรพิจารณาควรเป็นโอปะนะยิโก คือควรพิจารณาตัวเอง กายของตัวเอง( อาการ 32 ) จิตของตัวเอง( เจตสิกและวิญญานที่ ) กิเลสของท่านมันอยู่ที่ไหนล่ะ? มันไปอยู่ภพภูมิอื่น? หรืออยู่ในใจของท่านเอง?
การไปเที่ยวยุ่งกับเรื่องของคนอื่นหรือสัตว์ในภพภูมิอื่นมันช่วยให้กิเลสของท่านลดลงหรือเพิ่มพูนขึ้น? ท่านน่าจะพิจารณาให้ถ้วนถี่ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะออกนอกทางมรรคอริยสัจได้ครับ