ธรรมะ..กับวิทยาศาสตร์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย โสภา จาเรือน, 21 กรกฎาคม 2008.

  1. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    วันนี้เป็นโอกาสดีที่โยมพุทธศาสนิกชนที่มีจิตใจเป็นบุญกุศสตั้งใจมาทำงาน


    ศีลเจริญภาวนา ก็เป็นนิมิตหมายแห่งการทำความดีให้แก่ตัวเราที่อาจารย์นิสิตนักศึกษาได้มาทำความดีเป็นการปฏิบัติบูชาด้วยกาทำจิตรใจเราให้เป็นความสงบสุขแม้สงบสุขชั่วขณะหนึ่งก็ยังได้ชื่อว่าบริสุทธ์อย่างแท้จริง


    บุญคือความดีนั้นเองภาวนาทำให้ใจเราดีสุดยอดของภาวนาคือเมื่อภาวนาแล้วความเสียใจความทุกข์ใจจะหมดไปเรียกว่าภาวนาเป็นทางสายกลางถ้าเราไม่มีการปฏิบัติตนให้เป็นคนมีศีลมีธรรมแล้วเรียกว่าเป็นคนที่เดินผิดทางเดินไม่ถูกทางสายกลางไม่ตรงตามมรรคมีองค์ 8 โดยเฉพาะสัมมาสติสติเราขาดสัมมาสมาธิใจของเราไม่มั่นคงในการดำรงชีวิตหรือปฏิบัติตนเป็นคนดีเป็นต้น


    ***ฉะนั้นการให้ทานได้ชื่อว่าให้เสียสละของที่เรามีอยู่ เรามีเหลือฟือเราพอมีพอกอนก็สละให้กับฝ่ายที่ไม่มีหรือกำลังปฏิบัติอย่าวพระสงฆ์นี้ไม่มีอะไรไม่มีบ้านไม่มีเรือนไม่มีหม้อข้าวเตาไฟท่านสละหมดแล้วตามวินัย ***


    แม้แต่เงินบาทเดียวก็มีไม่ได้เพราะเป็นวัตถุอนามาสไม่พกเครื่องประดับประดาตกแต่งเพราะสสงฆ์เป็นผู้ประพฤติพรหมจรย์ตามพระพุทธเจ้าเรามาให้นี้เราให้กับผู้เสียสละผู้บำเพ็ญประโยชน์กับพระศาสนาการเป็นประโยชน์กับศาสนาคือพระสงฆ์ผู้เข้าถึงศีลเข้าถึงสมาธิ เข้าถึงปัญญาแล้วย่อมเป็นผู้หลุดพ้นจาความโลภโกธร หลง เป็นผู้นำทางวิญญาณนำไม่ให้ทุกคนโลภ โกธรหลงตัวตนปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า


    ...ทุกวันนี้ คนเรามีทุกข์เพราะไม่มีททางเดินทางพระสงฆ์ ไม่เดินตามธรรม เดินทางผิด ไท่เดินทางสายกลาง คือมัชณิมา ทางสายกลางคือ สัมมาสติ สัมมาสมาธิตั่งใจมั่นในการทำความดีขาดสติแล้วอะไร ๆ ก็ไม่ดี เช่น จะโกธรเขาทันที พยาบาทเขาทันที ถ้าเรามีสติเราก็รู้ทันทีว่าเขาว่าเราแต่ไม่มีเราเสียเวลา เราไม่มีตัวตน เราเป็นด้อนดินก้อนน้ำ ก้อนลม ก้อนไฟ เราวางเฉยเสีย เขาด่าเราก็อยู่ที่ปากเขา ไม่ใช่อยู่ที่ตัวเราเมื่อมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิเกิดขึ้นเสียแล้วเราก็ระงับควานโกธรเสียได้ด้วยการมองตัวเองใจเราก็สบายมีความสุขคนที่เขาชมแล้วลืมตัว คือ คนขาดสติ คนมีสติทำอะไรก็ได้ น่านับถือ ไม่ผิดพลาดเมื่อคขาดสติ ตัณหาจะเข้าครอบงำทันทีมีแต่ความอยากพอไม่สมใจก็เป็นทุกข์


    พระพุทธเจ้าสอนว่าคนเรานี้เสียใจเศร้าใจเพราะความอยากจน อยากเกินกว่าความสามารถของตน ต้องดิ้นรน เดือดร้อนมากที่สุดก็ไม่ได้สงบได้เลย


    เรามาหัดทำความอยากให้ลดลงน้อยลงพอใจแค่ที่เรามีอยู่เป็นอยู่ ไม่อยากให้เกินขอบเขตคนเรายิ่งเลิก ยิ่งละยิ่งมีความสุข ถ้าเราไม่เจอกับตัวเองเราจะยังไม่เห็นพอเจอเข้ากับตัวจะเห็นว่าจริงเช่นคนดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เป็นตัวอย่างของคนที่ตัดความอยากไม่ได้ ดื่มหนัก ๆ เข้าสูบหนัก ๆ เข้าต้องเข้าดรงพยาบาลอายุสั้นผู้หญิงส่วนใหญ๋ตัดความอยากเรื่องการดื่มเหล้าสูบบุหรี่เที่ยงดลางคืนได้อายุเขาจึงยืนถ้าผู้ชายตัดสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพได้อายุจะยืนเช่นกัน

    นี่อาตมาไม่ได้ว่าใครแต่ที่ยกตัวอย่างนี้เพื่อจะให้โยมได้เห็นว่าคนเราถ้าละถ้าตัดความอยากหรือตัณหาเสียได้ก็จะมีความสุขและแก้ปัญหาทางใจได้


    คนเราทุกคนเกิดมามีทุกข์ทั้งนั้นแต่ทุกข์เรามองไม่เห็นทุกข์ที่เกิดจากการขาดสติมีมากเลยเราต้องพยายามค้นหาว่าอะไรทำให้เราเป็นทุกข์อะไรจะช่วยให้เราเป็นสุขได้สงบใจได้เป็นบรมสุขอย่างยิ่งสมถภาวนาวิปัสสนาภาวนาเป็นสิ่งที่ดับความคิดตนเองได้ดีมากถ้าคนไหนทำได้ 15 วัน ไม่ต้องกินก็ได้อยู่เลย ๆ 15 วัน ไม่หิวเลยคนที่อยากที่หิวเพราะจิตไม่หยุดจิตทุรนทุรายกระสับกระสายตลอดวันมันก็ดิ้นรนอยู่เรื่อย ๆ พระลองอยากซิอยู่ไม่ได้หรอกเพราะพระก็มาจากลูกชาวบ้านแต่ที่อยู่เป็นพระได้เพราะเรามาอยู่ในขอบของศีลพยายามตัดอยากออกไปเพื่อจะได้ชีวิตที่ดีที่ถูกต้อง


    การโกธรโลภ หลง ความรักชังอิจฉาริษยาทำให้ชีวิตนี้ไม่ดีต้องพยายามเอาออกญาติโยมไม่เอาออกกลับเอาเข้ามาอีก ก็ยิ่งเป็นทุกข์เพราะเดินทางไม่ถูกทุกสิ่งทุกอย่างแก้ที่ใจอย่างเดียวเท่านั้นชีวิตก็จะเป็นสุข สบายเข้าหาหลักธรรมคำสอนอันเป็นยอดบุญยอดกุศส ไม่ไปอบายเป็นมนุษย์ที่ดีแม้ว่าเราไม่เชื่อเรื่องนรก สวรรค์ไม่เชื่อบุญบาปก็ตามก็ของให้ทำชีวิตให้มันยืดยาวเป็นชีวิตที่ดีก็แล้วกัน
    แต่อาตมาขอรับรองว่าบุญบาป นรก สวรรรค์มีจริงทำไมเราจึงตกนรกขึ้นสวรรค์เราไม่มีปัญญาเป็นนามธรรมเราคิดแต่ทางวัตถุอย่างเดียว ปัญญาที่เข้าสู่ความเงียบความสงบความสว่างไม่มีอันนี้เราต้องเข้าสู่ทางสงบหาความเงียบ จึงจะถึงปัญญาเชื่อบุญบาปสวรรค์นรก


    คนเราพอเป็นนักเรียนเป็นครูเป็นอาจารย์มันยิ่งเรียนไกลความเจริญใหญ่ยิ่งเรียนยิ่งไปไปนอกโลกเลยผลที่สุดกลับไม่ถูกทางชีวิตเลยเป็นโมหะรู้ผิด ๆทำผิด ๆ ปัญญาผิด ๆไม่ได้ธรรมเลยเป็นชาวพุทธเพียงพ่อแม่ไม่เข้าถึงแก่นแท้ของพุทธศาสนาเลยเป็นคนหลงโลก


    พระพุทธเจ้าค้นหมดแล้วเจอจิตวิญญาณว่าสิ่งสุดยอดของโลกก็คือจิตไวและมีพลังไม่มีอะไรเกินจิตจิตไวจริง ๆ นั่งอยู่นี่ แว่บไปถึงอเมริกาได้พลังจิตทำอะไรได้อย่างรวดเร็วจิตไวมากเราจึงไม่สามารถควบคุมจิตให้อยู่เหมือนว่าเราเอาปรอทมาฆ่าให้ตายสมมุติว่า ถ้าเราเอาจิตมารวมไว้ได้ทีเดียวเราจะวิเศษได้ทันที เห็นสวรรค์ เห็นนรกรู้นิพาน เห็นอดีตของเราได้



    อัลเบิร์ต ไอน์ส ไตน์ก็เคยวางไว้แล้วว่าถ้าคนเราไวกว่าแสงไวกว่าเสียง คนเราจะย้อนกลับไปรู้ที่เกิดได้อัลเบิร์ตไอสน์ ไตน์ คิดได้แต่ทำไม่ได้เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทุกคนยกย่องถ้าคนเราทำอะไรให้เร็วกว่าเสียงกว่าแสงจะไปเจอที่เกิดได้หมายถึงว่าทำความไวของจิตให้เร็วกว่าจรวดหลายร้อยเท่าจะกลับไปย้อนดูอดีตหมด


    ที่เขาค้นคว้าตามไอน์สไตน์จนเดี๋ยวนี้ฝรั่งเขาทำได้ว่าคนยืนตรงนี้ออกไปสัก 10 นาทีเขาจะถ่ายรูปคนนั้นได้เอาความไวมาจับได้ภาพทันทีแต่ก็ค้นได้แค่นั้นมันไม่สามารถค้นได้ถึงวิญญาณทางจิตได้ว่าชาติก่อนเราเกิดมาจากอะไรความไวของอนาคตเป็นเรื่องของฌาน ญาณ ที่จะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไปทำอะไร


    พระพุทธเจ้ามีความไวของจิตความไวเกิดจากจิตที่มารวมทำจิตให้ผ่องใส จึงได้เห็นอดีตเห็นอนาคตรู้ได้ทุกอย่างเป็นสัพพัญญูแต่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถไปค้นถึงบุญถึงบาปได้อาศัยทำโลกนี้ให้เจริญทางวัตถุเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำธรรมให้เจริญได้และไม่ทำให้คนเรามีจิตใจสงบได้


    ทำอย่างไรเราจะปรับความรู้สึกให้มาทันกับจิตใจเราเราเรียนมาเราก็ควรน้อมเข้ามาจะได้ความรู้ที่ดีที่สุดเราจะไม่หลง ไม่เพ้อเจ้อว่าเราวิเศษเราเก่งแล้วความคิดโง่ ๆจะได้ออกไปจากตัวเราเสียที

    เรามาดูว่าคนเราไม่มีอะไร ที่เราอยู่กันนี้มันอยู่ด้วยอำนาจของอะรที่มันบังคับบัญชาเราอยู่ คนเราเกิดมาทำไม ? เกิดมาเพื่ออะไร ? ทำอะไร ? ทำให้ใคร ? ใครเป็นผู้ได้ ? ใครสมหวัง ?


    เรามาดูจะได้ตีแตกในชีวิต ทำอะไรเราก็ระมัดระวัง ไม่เพ้อเจ้อร่างกายเรานี่ พอแปรไปทางวิทยาศาสตร์แล้วมันก็กลายเป็นดินน้ำไม่มีอะไรเป็นของเราเราก็หาทางที่จะดับทุกข์ซีคราวนี้เราจะไม่เป็นทาสของกิเลสตัณหาไม่ให้มีนมาใช้เราทำไปทางที่ผิดเราจะทำบุญทำกุศลสร้างบารมีให้ถูกต้อง


    เราเชื่อไอน์สไตน์แต่ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าไอน์สไตน์เก่งมากทางวิทยาศาสตร์แต่ไอน์สไตน์ ทำคนไปสวรรค์ ไปนิพพานไม่ได้ไอน์สไตน์เองไปอยู่อบายขุมไหนยังไม่รู้เพราะไอน์สไตน์คิดสิ่งที่ทำให้คนฆ่ากันได้


    พระพุทธเจ้าไม่สอนให้ใครทำลายกันท่านค้นได้ของที่บริสุทธิ์ เป็นวิทยาศาสตร์ที่บริสุทธิ์ให้ทุกคนได้รับสุขเป็นสันติวีธีทั้งหมดเป็นทางดับทุกข์


    วิทยาศาสตร์คันคว้าเหมือนดับทุกข์แต่มันแยกไปทางมีทุกข์ เอามาให้ดูเหมือนมีสุข เช่น ไฟฟ้าสามารถใช้พัดลมพัดแล้วเย็นสบายได้ ทำไฟก็สว่างได้ ทำเสียงให้ดังได้ แต่ก็ทำลายคนได้เช่นกันนั่นคือวิทยาศาสตร์ เหมือนดาบสองคม


    แต่ธรรมมีแต่ความพ้นทุกข์อย่างเดียวไม่ทำให้เสียคน


    คนที่เป็นนักวิทยาศาสตร์มานั่งฟังก็จะไม่เสียอาจารย์วิทยาศาสตร์เป็นคนฉลาดรู้แล้วมานั่งฟังแสดงว่าเข้าใจอะไรดีนักศึกษามานั่งฟังก็แสดงว่าค้นคว้าถึงพุทธะได้กำลังค้นคว้าความจริงขึ้นมาไอน์สไตน์เพียงคิดว่าทำอย่างไรจึงจะทำจิตของเราให้ย้อนกับไปสู่ที่เดิมได้ไอน์สไตน์ทำไม่ได้แต่นักวิทยาศาสตร์ชาวพุทธของเราสามารถค้นได้ทำได้เราจึงเข้าใจยิ่งกว่าไอน์สไตน์เสียอีกค้นคว้าได้ลึกซึ้งทีเดียวไม่ใช่รู้ธรรมแล้วไม่ดีคนรู้ธรรมสามารถเอาตัวรอดพ้นจากกรรมได้รู้วิทยาศาสตร์เอาตัวไม่รอดสามารถเบียดเบียนตนและผู้อื่นได้คนที่รู้ธรรมจะทำอะไรเพื่อชาติเพื่อสังคมทำให้ไม่มีความเห็นแก่ตัวนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายก็ควรหันหน้าเข้าหาธรรมบ้างชาวพุทธโชคดีมีบุญวาสนาสามารถค้นพบสิ่งที่วิทยาศาสตร์ค้นไม่ได้ถ้าโยมค้นคว้าคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ได้อีกหน่อยฝรั่งจะมากราบโยมโยมจะเป็นอาจารย์ของพวกฝรั่งเพราะพุทธศาสนามีเหตุผล



    เคยไปคุยกับบาทหลวงฝรั่งท่านหนึ่งเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องศาสนาหลักธรรมเลยเพราะเขารู้ว่าพุทธมีเหตุผลที่จะลบล้างคำพูดของเขาได้ เขาเถียงเราไม่ขึ้นตอนนั้นอาตมามาอยู่ชุมพรหน้าวัดมีโบสถ์คริสสต์วันเปิดโบสถ์เขามานิมนต์อาตมาไปร่วมด้วยเพราะคิดว่าชักจูงอาตมาคนเดียวได้ก็จะจูงคนทั้งหมู่บ้านได้เพราะชาวบ้านนับถือพระกัมมัฏฐานมากพระกัมมัฏฐานไปอยู่ที่ใดชาวบ้านศรัทธาเลื่อมใสมากยอมรับกันหมดไม่มีใครกล้าติเตียนฝรั่งที่นิมนต์อาตมาไปก็ต้อนรับอย่างดีเขากล่าวอบรบว่าให้รักกันสามัคคีกัน



    พอฉันอาหารเสร็จอาตมาก็ได้คุยกับเขาเรื่องเกี่ยวศาสนาพุทธว่าศาสนาพุทธไม่ใช่เรียนคัมภีร์จบก็เป็นบาทหลวงได้แต่ศาสนาพุทธไม่ใช่อย่างนั้นถ้าเรียนพระไตรปิฏกจบก็ยกย่องกันทางความรู้ทางอวุโสเท่านั้น


    ไม่ใช่รู้แก่นของพระศาสนาเป็นเพียงสงฆ์สมมุติไม่ใช่สงฆ์วิมุตติที่บาทหลวงเข้าใจว่าสมเด็จพระสังฆราชสำเร็จสูงสุดทางพระพุทธศาสนาแล้วนั้นยังเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่มาก


    ทีจริงแล้วคนที่จะสำเร็จได้ต้องบำเพ็ญสมาธิทำใจให้ลึกซึ้งถึงปัญญาจึงจะเข้าถึงแก่นของพระพุทธศาสนาได้สมาธิทำลายความตึงเครียดของชีวิตปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีตัวไม่มีตนไม่มีเราไม่มีเขาไม่มีโลภโกธรหลงถ้าพระสงฆ์ในเมืองไทยเข้าใจเรื่องนี้ได้รับรองว่าเราสามารถคุยกับทุกศาสนาได้


    มีบาทหลวงขี่รถมาจากโบสถ์บ้านโ)งราชบุรีพอมาถึงหมู่บ้านที่ชาวพุทธเขาจะพยายามเผยแพร่พอมาถึงก็ปล่อยมือพนมมือทำอย่างนี้ทุกครั้งคล้าย ๆ กับจะแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าของเขาคุ้มครองได้สวดมนต์ถึงพระเจ้าแล้วไม่ตายหรอก ไม่ต้องจับแฮนด์ก็ได้อาตมาเห็นแล้วนึกว่าต้องแน่นอนไม่รอดหรอกพระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้ไม่ช้าไม่นานรถเครื่องก็คว่ำตายตรงนั้นแหละอาตมาเสียดายเพราะบาทหลวงคนนั้นพูดภาษาไทยได้ดีคุยเรื่องศาสนาได้ดีเขาไม่หน้าประมาทเลยหลงพระเจ้าเสียจนงมงายคนใหม่มาก็ได้คุยกันอีกอาตม่ให้หนังสือสวดมนต์แปลให้เขาเขาพอใจมาก


    ศาสดาคือพระพุทธเจ้าก็ไม่มีอะไรเทียบได้โยมควรสนใบ้างว่าพุทธศาสนาค้นคว้าแล้วจะหมดสงสัยในเรื่องโลกทั้งปวงดวงดาวทุกดวงโยมเข้าใจดวงจันทร์ดวงอาทิตย์โยมเข้าใจว่าเกิดจากอะไร ? ดับแล้วเป็นอะไร ?


    โยมก็ควรจะมาเข้าใจตัวเองด้วยว่าดยมเกิดใาเมื่อใด ? จะดับเมื่อไร ? จะเป็นอย่างไร ? จิตใจของเราเกิดอย่าวไร ? ดับอย่างไร ? ต้องมาค้นคว้าวิทยาศาสตร์ทางจิตก่อนจึงจะหมดสงสัยแต่ถ้าโยมไม่น้อมเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาก็ยังสงสัยในโลกนี้โลกหน้าอย่างไม่มีวันจะสิ้นสุดถ้าทำได้เราจะรู้สิ้นสุดเหมือนกันโดยที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็รู้ได้


    ถ้าวิทยาศาสตร์กับพุทธศาน์มาสัมพันธ์กันได้ก็จะหมดความสงสัยได้วิชชาในพุทะเราคือรู้จิตรู้โลภ โกธรหลงถ้าไม่รู้ก็เป็นอวิชชาถึงจะเรียนจบปริญญาถ้าไม่รู้จักจิตก็เป็นอวิชชาจึงอยากให้นักวิชาการทั้งหลายสนใจเรื่องสมาธิจะได้เข้าใจธรรมเลิกสงสัยในโลกนี้โลกหน้าเลิกสงสัยในนรกสวรรค์เพราะเตุใด ? ก็เพราะรู้จิตเห็นจิตตรงนี้เอง

    หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ<O:p></O:p>
    Sanghathandhamma.com<O:p></O:p>
     
  2. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    วิทยาศาสตร์มีเหตุ-ผลแต่บางกรณียังโต้แย้งกันอยู่ แต่ ธรรมะมีเหตุ-ผล ขัดแย้งไม่ได้เลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...