~:ธรรมะโมบาย:~

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เฮียปอ ตำมะลัง, 4 สิงหาคม 2008.

  1. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    29ย
    คนทุกคน ต่างก็มีความทุกข์ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น แต่ความทุกข์ทั้งหลายของเรายังไม่เป็นอริยะ
    ตราบใดก็ตามที่เรายังไม่เห็นทุกข์ คือมัวแต่เป็นทุกข์ แต่ไม่เคยเห็นความทุกข์
    ว.วชิรเมธี
     
  2. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    30ช
    เวลาคุณชมใคร คนที่ถูกชมจะจำได้สัก1ชั่วโมง แต่พอคุณด่าใครเขาจะจำได้ตลอดชีวิต
    เพราะฉะนั้นเราต้องระมัดระวังคำชมและคำด่าที่จะหลุดออกจากปากเรา อาตมาเคยพูดอยู่เสมอว่า
    30ย
    ของที่หลุดจากปากเรา เป็นของที่เราฝากไว้กับคนอื่น
    ถ้าเราด่าคนอื่น เท่ากับเราฝากคำด่าไว้ที่เขา เขาก็จะคืนกลับมาในรูปของคำด่า
    แต่ถ้าเราชมคนอื่น เราจะคืนกลับมาในรูปคำชมเช่นกัน
    31ช
    ฉะนั้น ทุกๆวัน มนุษย์เรามักจะฝากของไว้ที่คนอื่นอยู่ตลอดเวลา ทั้งคำชมและคำด่า
    เช้านี้อาตมามีคำคมธรรมะมาฝาก *งานเยอะยังดีกว่าตกงาน เหนื่อยสุดๆดีกว่าตายไปแล้ว*
     
  3. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    31ย
    งานเลี้ยงลูก ถือว่าเป็นการบำเพ็ญบารมีก็ได้นะ โดยเฉพาะถ้าลูกดื้อมากๆ
    ก็ให้บำเพ็ญบารมีคือความอดทน ถ้าพูดอะไรแล้วลูกไม่ฟัง ก็เตือนตนเองว่า
    เราต้องเป็นพ่อแม่มืออาชีพให้หนักกว่านี้อีก
     
  4. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    เมษายน 2553

    1ช
    คนไทยในสมัยโบราณสู้อุตส่าห์ตัดให้มีเทศน์มหาชาติเวสสันดาชาดก เพื่อยกย่องอุดมคติแห่งการให้
    โดยผ่านพระเวสสันดร เพื่อรังสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการให้ (มีต่อ)
    1ย
    แต่มาในเวลานี้ มีคนไทยบางส่วนดันไปแห่บูชาชูชก ที่เป็นตัวอย่างในความเลวของการโลภ ที่บริโภคจนท้องแตกตาย
    อาตมารู้สึกเสียดาย ที่สู้เทศน์มหาชาติพระเวสสันดร เป็นประจำมาทุกปี

    2ช
    ถ้านักการเมืองไม่มีธรรมะ นักการเมืองก็จะประสบความล้มเหลวในชีวิตทางการเมือง
    และประเทศที่ต้องฝากชะตากรรมไว้กับนักการเมืองที่ไร้ธรรมะ ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นประเทศที่ล้มเหลว
    2ย
    คนที่เป็นนักการเมือง ต้องอุทิศตนทำงานเพื่อประโยชน์สุขของเพื่อนร่วมชาติ ยิ่งต้องมีใจสูงมากกว่าคนทั่วไป
    และการที่มีใจสูงกว่าคนทั่วไป ยิ่งต้องใช้ธรรมะมากกว่าคนทั่วไปเป็นพิเศษ

    3ช
    ตีนกับตาอยู่ด้วยกันอย่างผาสุก มาวันหนึ่งตีนกับตาเกิดทะเลาะกัน
    ตาบอกว่าที่ตีนเดินไปไหนต่อไหนได้อย่างปลอดภัย ก็เพราะตาทำหน้าที่มองเห็น
    คอยชี้จุดที่ควรเเละไม่ควรใช่ไหม
    3ย
    ตีนก็เถียงว่า ที่ตาได้เห็นอะไรต่อมิอะไรก็เพราะตีนมันพาไป
    ถ้าตีนไม่พาไป ต่อให้ตาอยากเห็นสักเพียงใด ตาก็ไม่มีสิทธิ์ได้เห็น
    ตาเถียงกับตีน เถียงกันไปเถียงกันมา ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม (มีต่อ)
    4ช
    สุดท้ายตาก็เลยตัดสินใจไม่ลืมตาขึ้นอีกเลย ตีนก็บอกถ้าแกไม่ลืมตาฉันก็จะเดินไปไหนของฉันเองนะ
    สุดท้ายตีนก็พาตาไปตกเหว ตีนกระเด็นไปข้างหนึ่ง ส่วนตาหลุดออกจากเบ้าดิ้นกระเเด่วไปอีกทาง
    4ย
    ลำตัวที่อยู่ตรงกลางพลอยแหลกแหลวไปด้วย ร้องขึ้นว่า แล้วฉันเกี่ยวอะไรด้วย
    เห็นไหม คน2ข้างทะเลาะกัน คนที่อยู่ตรงกลางแม้จะไม่เกี่ยว
    แต่ถ้าอยู่เฉยๆ ไม่ลุกขึ้นมาทำอะไร สุดท้ายก็ได้รับผลกระทบด้วย
     
  5. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    5ช
    ผู้บริหารคือผู้ที่มีศิลปะในการใช้คนให้ทำงาน และเมื่องานสำเร็จแล้ว ก่อให้เกิดภาวะคนก็สำราญ งานก็สำเร็จ
    เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนที่เป็นผู้บริหาร จำนิยามนี้ไว้ให้ดี (มีต่อ)
    5ย
    ส่วนผู้บริหารที่บริหารงาน แล้วงานสำเร็จเอา สำเร็จเอา
    แต่ลูกน้องทยอยลาออกทีละคนสองคนพร้อมกับความแค้นฝังใจ
    ผู้บริหารประเภทนี้ นับได้ว่า ยังไม่ประสบความสำเร็จ
    ว.วชิรเมธี
     
  6. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    6ช
    โยมเชื่อไหม คนที่กำลังเล่นงานเรา ลึกๆแล้วเขากำลังมีความทุกข์
    เขากำลังสะท้อนสิ่งที่บกพร่องทางจิตใจออกมา
    และ เพราะเขาบกพร่อง เขาจึงเล่นงานเรา แต่ถ้าเขาปกติ เราจะดีต่อเรา
    6ย
    เพราะคนปกติเขาจะไม่สร้างศัตรู เขาจะดีต่อคนทั้งโลก
    ก็มีแต่คนผิดปกติเท่านั้น ที่ริษยาขาวบ้าน เที่ยวรังแกชาวบ้าน
    เพราะฉะนั้นเขาจึงน่าสงสารมาก ปล่อยเขาไปเถอะ
    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2010
  7. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    7ช
    แม้ว่าพระพุทธเจ้า จะสอนเรื่องนิพพาน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ละทิ้งธรรมะพื้นๆเรื่องหนุ่มจีบสาว สาวจีบหนุ่ม
    ทางพุทธบอกว่าถ้าจะรักกัน มันต้องมากไปกว่าความสัมพันธ์ (มีต่อ)
    7ย
    พระพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าจะรักกัน มันต้องก้าวไปสู่ ความผูกพัน
    ไม่ใช่ประเภทหนุ่มไปเจอสาวในผับ แล้วไปมีความสัมพันธ์กัน แต่ไม่มีความผูกพัน รักนะแต่ไม่รับผิดชอบ
    ว.วชิรเมธี
     
  8. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    8ช
    วันนี้อาตมาอยากจะมอบของดีให้โยม คือ หลวงพ่อ3ติ
    1.หลวงพ่อสติ 2.หลวงพ่อขันติ 3.หลวงพ่อสันติ
    จะทำให้เราทำอะไรโดยใช้เหตุผลเป็นที่ตั้ง
    8ย
    อย่าให้อารมณ์ พาให้เราก้าวเข้าสู่ความโกรธเกีลยดชิงชังหรือฮึกเหิม จนลุกขึ้นมาทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง
    ดังนั้นถ้าเรามีหลวงพ่อสติ เราจะไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์
    9ช
    หลวงพ่อขันติ คือ เราต้องอดทน เราต้องอดกลั้น ต่อ คนที่คิดต่างกับเรา
    คนที่เชื่อต่างกับเรา คนที่มีพฤติกรรมต่างกับเรา
    อด คือ สิ่งที่อยากได้ แต่ยังไม่ได้ ก็ต้องอดเอา
    ทน คือ สิ่งที่ไม่อยากได้ แต่มันได้ ก็ต้องทน
    9ย
    ถ้าเรามีสติและขันติ เราก็จะมีหลวงพ่อสันติในใจเรา
    ใจของเราจะไม่วิตกขมไหม้้เกินไป ไม่วิตกจนใจเร่าร้อนเกินไป
    ฉะนั้นขอให้โยมแขวน หลวงพ่อ3ตินี้ ก่อนออกไปทำงาน
    ว.วชิรเมธี
     
  9. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    10ช
    คุณโยมเคยสังเกตไหม ถ้าเราเข้าไปเที่ยวในผับในบาร์ เราจะอดไม่ได้หรอกที่จะลุกขึ้นมาเต้น
    คือ สภาพแวดล้อม มันจะคอยกระตุ้นเรา แต่ถ้าเราเดินออกไปจากที่นั่นแล้ว เราไม่ลุกมาเต้นหรอก
    10ย
    เช่นเดียวกับ เราดูข่าวการเมือง มันกระตุ้นเราทั้งที่ มันเป็นเพียงขยะข้อมูลปฏิกูลข่าวสาร
    เรานั่นเองอยู่ที่บ้านแท้ๆ แต่กลับร้อนเร่เหมือนนั่งอยู่ในสถานการณ์จริง ฉะนั้นเราต้องมีสติ
     
  10. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    11ช
    เราต้องระมัดระวัง อย่าให้หลุมดำแห่งความเร่าร้อน ดูดกลืนเราเข้าไป
    จนเราเองไม่สามารถควบคุมสติ ควบคุมอารมณ์เราได้ จนเผลอเข้าไปส่วนหนึ่งของความรุนแรง
    ว.วชิรเมธี
    11ย
    ถ้าเราอยากเอาชนะ อาตมาอยากให้โยมเอาชนะกิเลสในใจตัวเองดีกว่าไหม
    เพราะถ้าเรามุ่งหวังเอาชนะกันแต่ภายนอก คนที่เราเอาชนะ จะต้องแค้นและหาทางเอาคืนใช่ไหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2010
  11. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    ^^^
    กรุณาอย่าโพส ข้อความใดๆในกระทู้นี้ จะเป็นการคั่นข้อความ

    12ช
    เวลากลับไปบ้านวันสงกรานต์ อย่ากลับมือเปล่า
    อย่างอาตมาเป็นพระ ซื้อผ้าถุงให้โยมแม่ทุกปี ซื้อมาตั้งแต่ยังเป็นสามเณร
    มีอยู่ปีหนึ่ง กลับบ้านวันสงกรานต์ โยมแม่พาขึ้นไปในห้อง
    12ย
    โยมแม่เปิดตู้เสื้อผ้า ผ้าถุงหลุดผลัวะลง มากองเป็นภูเขาเหลากา
    อาตมาคิดว่า พระยังกตัญญู แล้วโยมอย่างคุญ เอาเวลาไปทำอะไร ถ้าไม่ได้เอ ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2010
  12. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    13ช
    ในวันสงกรานต์ เราควรจะขอขมา รดน้ำดำหัวคุณพ่อคุณแม่
    ความหมายก็คือ ตลอดปีที่ผ่านมา เราอาจจะล่วงล้ำก้ำเกินพ่อแม่ผู้มีพระคุณ
    ด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง (มีต่อ)
    13ย
    เราอาจล่วงล้ำก้ำเกินท่านทั้งเจตนาและไม่เจตนา
    ลูกๆก็มาขอขมาให้คุณพ่อให้คุณแม่อภัยให้ลูกด้วย
    จะได้ไม่เป็นบาปเป็นกรรมระหว่างพ่อแม่ลูก
    ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องบอกว่าพ่อแม่ไม่ถือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2010
  13. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    14ช
    คนที่เรารัก เราต้องให้เวลาเขา
    ส่วนคนที่เราชัง เราไม่ต้องไปเสียเวลาไปให้
    แต่โยมบางคนทำผิดนะ กับพ่อกับแม่กับครอบครัว ไม่ค่อยมีเวลาให้
    แต่กับศัตรู กลับให้เวลาเป็นพิเศษ(มีต่อ)
    14ย
    กับศัตรูไปสนใจทุกฝีก้าวของเขา รู้ทุกเรื่องของคนที่ตัวเองชัง
    มนุษย์พันธุ์นี้มีมากเสียด้วย ใส่ใจกับปมด้อยของคนที่ตนเองชัง
    แล้วคอยเก็บมาเล่า เก็บมานินทา
    ว.วชิรเมธี
     
  14. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    15ช
    คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่าเป็นคนที่หลงตัวเองว่า ดีกว่าคนอื่น
    ไม่เห็นข้อบกพร่องของตน เป็นผู้ที่กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้ตัวอีก
    คนประเภทนี้ จิตจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาสจิตประภัสสร

    15ย
    คุณโยมฟังเพลง100เพลง ก็ไม่เท่ากับฟังธรรมเพียงครั้งเดียว
    เพราะฟังเพลง100เพลงอย่างดีที่สุด ก็ทำให้โยมสนุกลืมความทุกข์ไป
    แต่ถ้าโยมฟังธรรมเพียงครั้งเดียว ก็อาจเปลี่ยนชีวิตโยมไปทั้งชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2010
  15. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    16ช
    ตามประวัติศาสตร์จีนกล่าววาา จิ๋นซีฮ่องเต้ นั้นเมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงพยายามหาวิธีที่จะเป็นอมตะ
    เพื่อให้ได้อยู่รักษาอาณาจักรจีนอันยิ่งใหญ่ ที่ทรงรวบรวมมาด้วยความยากลำบาก
    16ย
    พระองค์ทรงส่งทหารแล้วผู้เชี่ยวชาญมากมาย ออกไปค้นหายาอายุวัฒนะ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
    อยู่มาวันหนึ่งมีหมอจำนวนหนึ่ง ทูลขออาสาไปหายาอายุวัฒนะ ที่เก่าแห่งหนึ่ง
    พระองค์ทรงมอบทรัพย์อุปถัมป์การเดินทาง
    17ช
    แต่เมื่อหมอคณะนั้น มุ่งหน้าไปสู่เกาะอันแสนไกล ก็ไม่มีการส่งข่าวคราวกลับมาแต่อย่างใด
    กล่าวกันว่าหมอคณะนั้นไม่ได้ไปเพื่อหายาอายุวัฒนะ แต่ไปเพื่อยืดอายุของตัวเองให้วัฒนะ
    คือไปให้พ้นเสียจากจักรพรรดิจอมโหด
    17ย
    พระพุทธเจ้าให้สูตรแก่ช้าอายุยืนไว้หลายวิธี หนึ่งในนั้นคืออย่าหวนละห้อยถึงความหลัง
    อย่าระวังถึงแต่อนาคต จดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ผิวพรรณจึงผ่องใส
    ว.วชิรเมธี
     
  16. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    18ช
    เมื่อพระพุทธเจ้า เสเด็จยืนอยู่ตรงหน้าองคุลีมาล
    องคุลีมาลถามว่า ท่านคือสมณโคมดมใช่ไหม
    >>ใช่แล้วเราคือสมณโคดม
    อคงคุลีมาลบอกว่า "นานจังเลยนะกว่าจะมาโปรดลูก"
    >>"แต่ฉันก็มาไม่ใช่เหรอ"
    18ย
    องคุลีมาลไม่เคยฟังอะไรที่เต็มไปด้วยความกรุณาอย่างนี้ พอได้ฟังปุ๊ปร้องไห้เลย
    เพราะก่อนหน้านี้ ผู้ชายคนนี้ฆ่าคนมาแล้ว999คน สามัญสำนึกไม่มี
    มีแต่ความโหดหินทมิฬชาติ ถ้อยคำที่เปี่ยมไปด้วยความกรุณานั้น
    19ช
    ได้ดึงเอาธาตุส่วนที่ดีที่สุดออกจากองคุลีมาล
    ส่วนที่ดีที่สุดมีอยู่แล้วในใจมนุษย์ทุกคน แต่บางครั้งสัญชาตญาณมาบดบัง
    *คมธรรมเช้านี้ ผู้ก้าวย่างด้วนความรู้สึกตัว คือ ผู้ก้าวเดินอยู่บนดอกบัวอย่างแท้จริง*

    19ย
    ผู้นำชั้นยอด มีแต่คนอยากไปทำงานด้วย
    ผู้นำชั้นกลาง ต้องไปชวนคนมาร่วมทำงาน
    ส่วนผู้นำชั้นแย่ ต้องไปต้อนคนมาอยู่ด้วย
    คือไม่มีใครอยากมา ต้องใช้เงินซื้อมา
     
  17. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    20ช
    ฐานของตึก คือ อิฐ
    ฐานของชีวิต คือ ธรรมะ
    ถ้าไม่มีธรรมะ ถึงจะเก่งแค่ไหน ก็ไปไม่รอดตลอดฝั่งหรอก
    แต่ถ้ามีธรรมะ ถึงจะอยู่ในป่าในเขา คนก็จะตามไปหาตามไปไหว้ (มีต่อ)
    20ย
    เหมือนพวก ขมิ้น ขิง ข่า หัวของมันฝังอยู่ในดิน ใบมันชูช่ออยู่ข้างบน
    แต่คนตัดใบทิ้งเอาแต่หัวของมัน เหมือนกับเราถ้าดีจริง
    ต่อให้ฝังอยู่ในดินคนก็หาจนเจอ คนก็รู้ว่ามีประโยชน์

    21ช
    พระพุทธองค์ตรัสว่า ต่อความร้ายต่อความดี
    ต่อความสุข ด้วยเมตตา
    ต่อความตระหนี่ ด้วยการให้
    ต่อคนพูดเท็จ ด้วยความจริง
    นี่เรียกว่าท่าทีของ ผู้ที่มีปรีชาญาณ (ปัญญาที่มาพร้อมกับกรุณา)
    21ย
    โยมแม่ของท่านพุทธทาสเป็นนักอ่าน มักวางหนังสือไว้ที่ร้าน
    ลูกชายก็เลยติดนิสัยรักการอ่าน จนกระทั่งกลายเป็นพระนักเขียน
    นั่นแสดงว่า ถ้าโยมอยู่กับครอบครัวชนิดใด โยมก็มักออกมาอย่างนั้น
     
  18. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    22ช
    ศีลข้อ4ไม่ได้หมายถึงการพูดโกหกเท่านั้น แต่รวมถึงการพูดคำหยาบ
    พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ การพูดที่ทำให้คนแตกสามัคคีถือรวมอยู่ในศีลข้อ4
    ส่วนในกรณีที่จำเป็นต้องพูดโกหก (มีต่อ)
    22ย
    เช่น ญาติป่วยหนัก และเราไม่มั่นใจที่จะพูดความจริง เกรงว่าคนป่วยจะรับความจริงไม่ได้
    อาตมาเคยอ่านคำวินิจฉัยจากพระผู้ใหญ่ท่านบอกว่า การโกหกอย่างนี้เป็นเรื่องที่พอยอมรับได้(มีต่อ)
    23ช
    เพราะการโกหกจะสัมฤทธิ์ผล ก็ต่อเมื่อเรามีเจตนาจะทำลายเป็นสำคัญ
    ฉะนั้นการโกหกที่เป็นบาป100% คือตั้งใจจะพูดเท็จ(เจตนา) มีคนฟังและคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง (วิธีการ)
    ที่สำคัญมีคนได้รับความเสียหายจากการโกหก (ผลลัพธ์)
    *ใน () เป็นเรื่องของปรัชญา


    23ย
    อย่าเป็นนักจับผิด เพราะคนที่คอยจับผิดคนอื่น
    แสดงว่าหลงตัวเองว่าเป็นคนที่ดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง
    ดังนั้นจงมองโลกในแง่ดี แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข
     
  19. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    24ช
    เวลามนุษย์เราเจอปัญหา เราจะมีปฏิกิริยา2แบบ
    ปฏิกิริยาของคนที่ไม่เคยฝึกสติ คือ ถ้าถูกกระทำก็ตอบโต้ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
    แรงมาก็แรงไป ดีมาก็ดีไป อิจฉามาก็อิจฉาไป
    ชาตินี้ไม่ดีต่อกัน ก็ไม่ต้องดี
    24ย
    นี่คือปฏิกิริยาของมนุษย์ ที่ถูกแรงผลักด้วยสัญชาตญาณชี้นำให้เป็นไป
    แต่ถ้าวันหนึ่งที่เราผ่านการเจริญสติ สิ่งที่จะผลักดันเราไม่ใช่สัญชาตญาณอีกต่อไป
    สิ่งนั้นคือ ปรีชาญาณ (คือปัญญาที่มาพร้อมกับกรุณา)
    25ช
    การที่จะตอบโต้ แรงมาก็แรงไป เราจะไม่ทำ
    เราจะตอบสนองด้วย การหันไปมองเขาเหมือนกับกระต่ายที่ตกลงไปในทะเล
    กำลังลอยคอในทะเลอันไพศาล เราเป็นคนที่ยืนอยู่บนฝั่งทอดตามองด้วยความกรุณา
    25ย
    เรากำลังหาวิธีที่จะช่วยเขาขึ้นมา เราจะกรุณาเขา
    ยิ่งเขาแสดงความอ่อนด้อยทางปัญหาและวุฒิภาวะมากเท่าใด
    มันจะเป็นเครื่องมือที่ดึงเอาความกรุณาออกจากใจเรามากเพียงนั้น
    ว.วชิรเมธี
     
  20. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    26ช
    ถ้าเรามีความสุจริตเป็นนิสัย เราก็ไม่ต้องนอนสะดุ้ง
    ทำมาหา(กิน)ได้ไม่ว่าจะมากหรือน้อย มันก็เป็นเงินบริสุทธิ์
    มีความสุขเป็นความสุขจริงๆ ไม่ใช่เป็นความสุขที่รอวันจะทุกข์อีกต่อไป
    26ย
    คนที่เคยลำบากมาก่อน พอเขาสบายเขาจะเป็นคนที่รู้โลกทั้ง2ด้าน
    ลำบากก็รู้ สบายก็รู้ เพราะฉะนั้น ก็ไม่มีอะไรที่เขาต้องกลัวอีก
    ว.วชิรเมธี
     

แชร์หน้านี้

Loading...