ท่านใดเชื่อหรือไม่เชื่อ ในเรื่องของดวงเนื้อคู่ บ้าง

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย Kittydsn, 8 มกราคม 2014.

  1. Kittydsn

    Kittydsn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +22
    ขออนุญาต Tag มาในบอร์ดนี้นะครับ พอดีผมเองได้คบกับผู้หญิงคนนึงที่อายุมากกว่าผม ตั้งแต่ที่ทำงานเก่าจนตอนนี้ก็คบหากันได้ 6 ปี ผมเองได้ออกจากงานที่เก่าได้ที่ใหม่แล้ว วันนึงได้ไปถามหมอดูท่านนึงเกี่ยวกับเรื่องดวงทั้วไปและเนื้อคู่ ผมเลยถามไปว่าที่คบอยู่ถ้าอยู่ด้วยกันจะเป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านตอบว่า ดูยากแต่ถ้ามีลูกด้วยกันก็จะวุ่นวายครอบครัววุ่นวาย คนที่ชอบเราก็มีหลายคน มีทั้งดีและไม่ดีก็มี วาสนาผมไม่มี ท่านบอกผมมาแบบนี้ครับต่อหน้าพ่อแม่ด้วย ผมเลยคิดอะไรไม่ออก ไม่รุ้ทำยังไง ทำงานก็คิดไปสับสน ว่าจะเดินหน้าต่อไปดีหรือเปล่า ผมเลยคิดว่าถ้าคบต่อไปผลบุญพอจะเปลี่ยนอะไรให้มันดีขึ้นได้ไหม ผมเองก็ไม่อยากทิ้งเขาไป เขาทำงานในกรุงเทพฯไม่มีพี่น้อง มีแต่ญาติที่ห่าง ๆ กัน เคยคุยกับพ่อแม่เขา ๆ ก็อยากฝากเราไว้ให้ช่วยดูแล พ่อแม่อยู่ตจว. ก็เป็นห่วงเหมือนกัน .. ผมก็เคยถามผู้ ญ ว่าถ้าเราเลิกกันเธอจะทำอย่างไร เขาบอกได้อย่างเดียวว่าคงต้องกลับบ้าน ไม่อยู่ให้อายคนที่ทำงานเขาพูด เดิมทีปัจจุบันที่คบกันอยู่ก็วาดอนาคตไว้เหมือนกันครับ พ่อแม่ผู้ ญ เองก็ไม่ได้เรียกค่าสินสอดอะไรเพียงแต่ให้มาขอเป็นพิธี เงินทองไรก็กลับคืนมาให้ตั้งตัว แต่พอมาฟังแบบนี้แล้วรู้สึกสับสนมากเลยครับ จะเดินหน้าต่อไปหรือทำอย่างไรดีกับชีวิตคิดไม่ออก ไม่อยากทำร้ายความรุ้สึกของคนที่เขารักเราและเราเองก็รักเขาเหมือนกัน ไม่อยากต้องไปชดใช้กรรมกันในชาติต่อไป
    มีท่านใดเคยได้รับฟังจากหมอดูที่ท่านนับถือแล้วได้ยินแบบนี้บ้างไหมครับ
    ขอบพระคุณมากครับที่รับฟัง
     
  2. zomkiku

    zomkiku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +141
    ตอบได้ไม่ยาก และไม่ต้องคิดมากเลย
    ฟังเรื่องของเรานะ หมอดูทักแฟนเก่าเรา บอกว่าคนนี้แหละเนื้อคู่ ดูจากดวงชะตาแล้วดีมาก
    เราเลยถามหมอดูว่าแล้วทำไมถึงมีเรื่องสาวๆเข้ามาตลอด หมอดูบอกว่าเป็นเพราะเค้าเป็นเทวดาผู้ชาย ส่วนเราเป็นยักษ์ผู้หญิง เราต้องคอยตามคุมเค้านะ

    กลับมาถึงบ้านนั่งคิดทบทวนคำพูดของหมอดู และพิจารณา
    แฟนเราผิดศีลทุกข้อ ทุกครั้งจะมีเรื่องผู้หญิงคนโน้นคนนี้มาให้ปวดหัวตลอด
    ยืมเงินทุกเดือน ไม่มีความเป็นผู้นำ ชอบลักขโมย ฆ่าสัตว์ ชอบพูดจาหยาบคาย

    เราพิจารณาถึงคำพูดหมอดูว่า ถ้าผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคู่เรา เราขอครองตนเป็นพรหมจรรย์ยังดีกว่า
    เราไม่อยากมีครอบครัวที่แตกแยก ไม่อยากต้องคอยมานั่งเสียใจเวลาเค้าไปมีใคร
    ถ้าต้องเป็นคู่กัน กัดลิ้นตายยังดีกว่า .. คู่ที่เค้าเรียกว่า คู่กรรม เราไม่ต้องการ

    ช่วงนั้นเราประพฤติ ปฎิบัติธรรมอย่างมากเพื่อให้ศีลไม่เสมอกัน
    สุดท้ายก็คลาดแคล้วกันไม่ได้เป็นคู่อย่างที่หมอดูทำนาย

    ชีวิตเรา เราเลือกเองได้ เลือกคนที่ดีและทำให้ชีวิตมีสุขได้
    อย่าตัดสินใจผิดเพราะคำพูดของคนอื่นแต่จงพิจารณาใครครวญด้วยสติปัญญาและความรู้สึกของเราเอง
     
  3. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ในความคิดผมนะ ชีวิตเรา 70% ดวง 30% คุณจะเชื่อใคร ตัวเองหรือหมอครับ
    หากว่าคุณทำวันนี้ให้ดีแล้ว อนาคตย่อมดีครับ ถ้าคุณรู้สึกดีเมื่อคบกันก็ดีแล้วไงครับ ทำไมต้องคิดมากละครับ ถ้าวันนึงไปกันไม่ได้ นั้นก็แปลว่าหมดบุญกันแล้ว การพบเจอกันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เกิดจากบุญกรรมที่ทำมา หากคุณมีกรรมดีมาคนนี้ก็อาจเป็นคู่บุญกับคุณ หากมีกรรมไม่ดีกันมาคู่คุณก็ต้องอยู่กับแบบไม่มีความสุข ยังไงก็ต้องพบเจอกัน ตามแรงกรรมว่าดีหรือไม่ดี ถ้าคุณรักผู้หญิงจริงๆๆก็คบไปครับ และมีสติกับปัจจุบัน เรื่องของอนาคตคุณต้องสร้างด้วยตัวเอง คิดดี ทำดี ย่อมได้ดี

    คุณลองอ่านนี้ดูครับ
    พระพุทธเจ้าสอนอะไร?
    พระพุทธเจ้าสอนให้รู้เนื้อรู้ตัว..

    รู้เนื้อรู้ตัว นั่นคือ มีสติ มีสติหรือสัมมาสติแปลว่าการระลึกรู้ มีความรู้อยู่แก่กายและใจอย่างต่อเนื่องมั่นคง ผู้ฝึกตนแล้วอย่างพระพุทธเจ้ากล่าวได้ว่าเป็นผู้มีสติตลอดเวลา พระอาจารย์ที่ฝึกกรรมฐานขั้นสูงรับรองว่าผู้บรรลุอริยะผลระดับสูงแม้ยามหลับก็หลับแบบมีสติ ไม่หลับไหลหลงภวังค์เหมือนเราๆที่เป็นปุถุชน
    แต่สำหรับปุถุชนเอาแค่ฝึกมีสติระหว่างวันให้สมบูรณ์ที่สุดก็พอครับ เพราะการครองสติให้สมบูรณ์ต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนอาจจะฟังแล้วงงๆ ว่าอ้าวแล้วที่เราใช้ชีวิตอยู่ๆกันนี่ไม่มีสติหรือ ก็ต้องตอบว่าไม่มี หรือมีไม่บริบูรณ์ เพราะทันทีที่เราหวนคิดถึงเรื่องในอดีต หรือเพ้อฝันถึงเรื่องในอนาคต นั่นคือสติหลุด เมื่อสติหลุดไปอยู่ในอดีตหรืออนาคตก็จะเปิดช่องให้เกิดการปรุงแต่งอารมณ์ต่างๆนานาเข้ามาในสมองจนสับสนปั่นป่วน บ้างก็เกิดโทสะเพราะคิดถึงสิ่งที่คับแค้นใจ บ้างก็เกิดความโลภเพราะนึกถึงวัตถุที่เขามีเราไม่มี บ้างก็เกิดความหลงเพราะนึกถึงเพศตรงข้ามงามๆ เป็นต้น
    พออารมณ์ โกรธๆ โลภๆ หลงๆ นี้มันเกิดขึ้นมา จิตใจเราก็ฟุ้งซ่านเป็นทุกข์ บางทีพอเพื่อนหรือใครมาทักมาสะกิดก็ตกใจบ้าง โมโห ด่าเขาบ้าง แล้วก็เป็นเรื่องกันไป หลายคนเป็นข่าวมีเรื่องวิวาท ฆ่ากันตายก็เพราะไม่มีสตินี่แหละครับ นี่คือความหมายของคำว่า ไม่มีสติ คือใจมันหลงออกไปไหนๆ รับเอาสารพัดเรื่องมาปรุงให้ปั่นป่วนพร้อมจะบันดาลอารมณ์ต่างๆออกมาได้ทุกเมื่อ
    สติ จึงกล่าวได้ว่าเป็นความอยู่กับปัจจุบัน อยู่ตรงหน้า อยู่ตรงนี้ เมื่ออยู่กับปัจจุบัน อารมณ์ปรุงแต่งต่างๆก็จะแทรกแซงไม่ได้ จิตใจก็มั่นคง สามารถศึกษา หรือ ทำงานได้อย่างรอบคอบ ถูกต้อง เมื่อทำสิ่งต่างๆถูกต้องก็เกิดผลดี มีพัฒนาการในชีวิต เกิดสมาธิและปัญญาตามลำดับ จิตใจนี้เป็นธาตุที่มีศักยภาพในการทำงานสูง แต่จิตใจนี้ก็รับได้ที่ละเรื่อง ดังนั้นเมื่อจิตใจอยู่กับปัจจุบันมันก็จะไม่สามารถรับเรื่องราวในอดีตหรืออนาคตมาปรุงแต่งได้ โบราณถึงว่า คนเศร้าๆ ให้หาอะไรทำจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน เพียงแต่เขาไม่ได้อธิบายมาว่าเพราะอะไร และนี่คือคำอธิบายครับ
    การมีสติจึงเป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อการระงับการปรุงแต่งของจิตใจ ลดช่องทางการแทรกแซงของกิเลส ตัณหา ต่างๆ ส่งผลให้ชีวิตของตนเองและผู้อื่นปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพูนพัฒนาศักยภาพของบุคคลในทางโลกอีกด้วย เพราะการศึกษาหาความรู้ หากทำอย่างมีสติจะส่งผลให้ซึมซับความรู้อย่างมีประสิทธภาพ รู้ลึก รู้เร็ว จำแม่น นำไปใช้งานได้ ในการทำงาน หากมีสติดี งานจะถูกต้อง เรียบร้อย ให้ผลงานเด่น ก้าวหน้าดี เหล่านี้เป็นผลอันเลิศของ สัมมาสติ
    ทั้งนี้การมีสตินั้นเป็นสิ่งที่ต้องฝึกและพัฒนา เพราะธรรมชาติของความคิดและจิตใจคือชอบโลดแล่น ชอบทะยานออกจากตัวเสมอ เผลอแปปไปอดีต เผลออีกทีไปอนาคต การฝึกสติก็คือ การบริหารสติปัฏฐานนั่นเอง ทำได้หลากหลายวิธี นั่งสมาธิ เดินจงกรม กำหนดอิริยาบท อานาปานาสติ ฯลฯ สามารถฝึกได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเข้าศูนย์ปฏิบัติ ว่างๆ อยู่บ้านลองกำหนดอิริยาบทลุกเดินนั่งในบ้านในสวน หรือตอนกินข้าวก็ได้ หรือนั่งกำหนดลมหายใจก็ได้ 10-15 นาทีก็ได้ แต่ทำสม่ำเสนอ นานไปจะเห็นความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นฟุ้งซ่านน้อยลง โกรธน้อยลงหรือหายโกรธเร็วขึ้น รู้ทันอารมณ์มากขึ้น ความจำดีขึ้น และมีความสุขโดยไม่ต้องเสพปัจจัยมากขึ้นครับ
    กล่าวโดยสรุป การรู้เนื้อรู้ตัว หรือมีสติอยู่กับปัจจุบันเป็นหลักคำสอนอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า มีสติคือไม่ประมาท ไม่ประมาทคือมีสติ เมื่อพระพุทธเจ้าสอนการมีสติมาทั้งชีวิต ปัจฉิมโอวาทก่อนปรินิพานจึงตรัสว่า...
    “ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ให้ถึงพร้อมแก่ตนเองและผู้อื่นด้วยความไม่ประมาทเถิด”
     
  4. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    คุณคบกับผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่บังเอิญนะครับคุณ

    หากศึกษาเรื่องธรรมะดี ๆ จะเข้าว่า ไม่มีคำว่าบังเอิญใด ๆ ทั้งสิ้น กรรมนี้แม่นยำยิ่งกว่าเรดาห์ตรวจจับของนาซ่า พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า

    "เราเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน น้ำตาที่เสียจากความพลัดพรากจากคนที่เรารัก นับรวมกันได้เป็นมหาสมุทร ดังนั้น เราจึงได้เคยพบปะผู้คนมามากมาย จนผู้คนที่เดินบนถนนไปมานี้ต่างก็เคยเกิดเป็นพี่น้องเราทั้งสิ้น"

    คำอธิบายข้างต้น เป็นเหตุให้กรรมจัดสรร ให้เราได้พบเจอ รู้จัก พึ่งพา มาเกิดเป็นพ่อ แม่ ลูก พี่น้อง เพื่อน แฟน คู่รัก มิตร ศัตรู ครู ลูกศิษย์ เมียหลวง เมียน้อย ฯลฯ เนื่องจากเคยเกี่ยวพันธ์ มีความสัมพันธ์และประกอบกรรมร่วมกันมาก่อน จึงได้มาเจอกันอีกเพื่อชดใช้กรรม หรืออาจอธิษฐานให้มาพบกันอีกในชาติต่อ ๆ ไป หรือเคยอาฆาตพยาบาทกันมาก่อน บางคนก็เคยอุปถัมถ์ ค้ำชู หรือเคยพึ่งพาอาศัยกันมาก่อน ดังนี้เป็นต้น จึงไม่มีคำว่าบังเอิญในพระพุทธศาสนา

    หากใครเคยไปในสถานที่ใด แล้วรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่นั้นโดยไม่เคยไปมาก่อน รู้สึกคุ้น ๆ กับเหตุการณ์นั้น โดยที่เราไม่เคยมีส่วนร่วมมาก่อน เคยรู้สึกประทับใจใคร รู้สึกเกลียดใคร อยากอยู่ใกล้ใคร หรืออยากหนีหน้าใคร โดยที่ไม่เคยพบเจอรู้จักกันมาก่อน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสัญญาเก่า (การจำได้หมายรู้) ที่ติดตัวมาแต่เก่าก่อน

    พระบาลีพุทธวจนะ เป็นภาษาเมื่อหลายพันปีมาแล้ว ...คำว่า บังเอิญ ดูเหมือนไม่มีในภาษาบาลี ..มีแต่คำว่า "เหตุ -ปัจจัย" ...ที่น่าจะคือ คำว่า อิทัปปัจจยตา และหรืออิทัปปัจจยตาปฏิจจสมุปบาท ....แปลว่า "ความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น (อิทัปปัจจยตา) / ธรรมอันเป็นธรรมชาติ อาศัยกันแล้วจึงเกิดขึ้น (ปฏิจจสมุปบาท)



    "แม้ลมหายใจที่เราได้หายใจเข้าออกเดี๋ยวนี้ มันก็ไม่ใช่ของบังเอิญ "

    พุทธศาสนาเป็นเรื่องของเหตุและผล ทุกสิ่งไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ หรือเป็นเรื่องบังเอิญ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุให้เกิดขึ้นทั้งสิ้น ดังที่ท่านพระอัสสชิแสดงธรรมแก่ท่านพระสารีบุตรว่า "ธรรมทั้งหลายย่อมเกิดจากเหตุ" นั่นคือ การที่ทุกคนเกิดมาแตกต่างกัน เป็นเพราะได้กระทำเหตุ คือ ทำกรรมมาแตกต่างกัน กรรมที่ได้กระทำไว้แล้วนั่นเอง เป็นเหตุให้มีรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ฐานะ ต่างกัน มีอุปนิสัยดีเลวต่างกัน กรรมที่ได้กระทำไว้แล้วนั่นเอง เป็นเหตุให้ได้ลาภเสื่อมลาภ ได้ยศเสื่อมยศ ได้รับความสุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา

    "อนาคตเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วจากกรรมในอดีตนานนับไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เพราะต้องมีเหตุในปัจจุบันร่วมด้วย ความพยายามในปัจจุบันนั่นแหละ จึงจะทำให้เกิดผลในอนาคตที่สมบูรณ์ แม้จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็เปลี่ยนแปลงได้บางส่วน คนเราจึงไม่ควรละความพยายามตลอดชีวิตทีเกิดมา"
     
  5. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    คนเราอยู่เหนือชะตากรรม
    ได้ด้วยจาคะ ด้วยศีล แล้วก็ด้วยการภาวนา
    พอมีแก่ใจสละสมบัติหยาบ ๆ ได้
    ก็จะเริ่มมีกำลังรักษาศีล
    พอรักษาศีลได้
    ก็จะเริ่มมีกำลังปฏิบัติธรรมภาวนา

    ถึงตอนนั้นโหราศาสตร์
    จะเริ่มทำนายเราพลาด คลาดเคลื่อน
    หรือกระทั่งเพี้ยนไปเป็นคนละเรื่อง
    เพราะกรรมใหม่มาโยกเกณฑ์เดิมไปเสียหมด
     
  6. juu-dt07

    juu-dt07 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2010
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +934
    คมอีกล่ะน้องเอก เยี่ยมๆ
     
  7. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ความตั้งใจที่จะทำบุญทำกุศลสม่ำเสมอไม่ขาดนั้น
    ก็จะส่งผลดีอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

    กรรมจากอดีตชาติเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต มันวางแผนชีวิตพวกเรา
    ตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้าไม่มีกรรมใหม่ในปัจจุบันชาติมางัดข้อเอาชนะได้สำเร็จ
    คุณก็จะรู้สึกเหมือนฟ้าและดวงดาวขีดชะตาไว้ตายตัวแล้ว

    วิบากกรรม มีหน้าที่ให้ผลแน่นอนว่าช่วงต้น ช่วงกลาง ช่วงปลายชีวิต
    เราจะเจออะไรบ้าง นั่นแหละดวง ที่เราควรทำคือตอบโต้ดวงด้วยศีล 5

    ดวงดาวมีอิทธิพลจริง แต่คนเราจะตกอยู่ใต้อิทธิพลของดาวดวงไหน ราศีอะไร
    ก็ขึ้นอยู่กับกรรมเก่าส่งมา



    สาธุขอให้เจ้าของกระทู้ มีสติและสู้กับปัญหาต่อไปครับ ในเมื่อมีคนที่รักที่มั่นใจแล้วว่าดีจริง
     
  8. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    สาธุครับพี่จูดี้ อิอิ
     
  9. Namui

    Namui Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +34
    ท่าดูบ่อยๆ กับหมอหลายๆคน จะทราบเองว่าทายกันไม่ค่อยตรง ทายไม่เหมือนกันอีกต่างหาก
     
  10. zomkiku

    zomkiku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +141
    อ่านแล้วน้ำตาจะไหล แปลกดีนะคะ
     
  11. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    เชื่อว่าวุ่นวายดีกว่าไปนรก
     
  12. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ปลงหรอครับ อิอิ
     
  13. zomkiku

    zomkiku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +141
    ซาบซึ้งค่ะ :cool:
     
  14. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,207
    ค่าพลัง:
    +10,090
    ครับขอให้ประพฤติดี ทำดี คิดดี กันเยอะๆและตลอดไปนะครับ อิอิ สุดท้่ายแล้วสิ่งที่ได้รัีบคือความสุขกายสุขใจ อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...