ทำสมาธิแล้วไม่รู้จะไปต่อยังไง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ิอนันตะ, 20 ตุลาคม 2012.

  1. ิอนันตะ

    ิอนันตะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +20
    .........คือเมื่อเรานั่งไปเรื่อยๆจนรู้สึกเหมือนว่าตัวเราเบาเหมือนลอยได้แต่ไม่ได้ลอย คือเหมือนกับว่าไม่รู้สึกถึงพื้นที่รองรับเราอยู่ รู้สึกเหมือนว่าตัวเราหลับแต่ไม่ได้หลับ (เพราะตัวเองหลับต้องสัปหงกทุกครั้ง)ความรู้สึก มันโล่ง ว่าง ไม่มีอะไร รู้สึกว่าแขนไมีมี ขาไม่มี ตัวเราไม่มี เวลาไม่มี รู้อย่างเดียวคือมันนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่มืดไม่สว่าง หากมีความอิ่มเอิบใจด้วยบางครั้ง มีเหมือนไม่มี อธิบายไม่ถูกค่ะ มันคืออะไรค่ะ อย่างนี้สติเราลอยไปรึเปล่า บางครั้งมารู้สึกตัวอีกทีคือตอนลืมตา ก็เลยสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป :':)'( .......เคยอ่านเจอบางท่านนั่งแล้วเกิดนิมิต เห็นแสงสว่างเป็นสีนั้นสีนี้บ้าง โดยส่วนตัวไม่เคยเห็นเลยอย่างนี้ต้องฝึกอีกนานรึปล่าวค่ะ เคยเห็นก็มีแค่จุดคล้ายกลุ่มควันรวมตัวกันสีไม่เชิงขาวออกเทาๆเท่านั้น นอกนั้นก็ไม่เห็นมีแต่อารมณ์แบบไม่มืดไม่สว่างอย่างนั้น

    .......โดยส่วนตัวนั่งโดยกำหนดไปที่กายสังขารไม่ได้กำหนดทีลมหายใจอย่างนี้ได้รึเปล่าค่ะ ..................ต้องขออภัยด้วยนะค่ะที่ถามซะยืดยาวและหากคำถามซ้ำก็ต้องขออภัยจริงๆค่ะ.........(จากผู้มีอวิชชา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 ตุลาคม 2012
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ไม่มีอะไรผิดปกติ ที่ประสบนั่นเป็นธรรมดาของมัน

    ที่นี่มีทางออก

    สภาวธรรม
     
  3. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    กรุณาอ่าน

    http://www.palungjit.org/smati/k40/smabat.htm

    แล้วจะเข้าใจอาการทางกายของการปฏิบัติสมาธิ
    ที่คุณเจอมันของธรรมดา ที่อาจจะเจอ

    นั่งสมาธิแล้วอยากเจอแสงสี มันไม่เจอหรอกครับ
    เพราะมันจะเจอตอนเราไม่อยาก นั่นคือ มีสมาธิที่ใกล้ฌาน มันจะมีมาเอง
    แล้วเจอแสงสีมันก็ไม่ได้อะไร มันใช่สาระสำคัญของสมาธิ

    นั่งสมาธิ นั่งตามแบบแผน จะดีที่สุด เพราะคนมีความรู้แนะนำได้มีเยอะ
    อานาปานสติจะดีมาก เพราะนี่คือกรรมฐานกองใหญ่ที่พระพุทธเจ้าแนะนำ
     
  4. นะโม12

    นะโม12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +245
    การฝึกปฏิบัติธรรม

    สิ่งที่สำคัญ คือ เรียนรู้วิธีการก่อน หากยังไม่เข้าหาพระหาครูอาจารย์
    จะลองฝึกดู ก็ควร หาอ่าน วิธีการ ทำความเข้าใจ จาก มหาสติปัฏฐาน 4 จะได้เข้าใจ
    ว่าทำอย่างไร

    หรือไม่ก็ลองหาอ่านคำแนะนำจากพระที่ท่านสอน วิธีการฝึก แล้ว ลงมือทำตามดู


    http://palungjit.org/threads/สรุปหลักของการภาวนา-ที่นักปฏิบัติควรทำความเข้าใจ.285819/
     
  5. พระคุณากร

    พระคุณากร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +72
    นั้นคือลักษณะกายเบาจิตเบา เหมาะแก่การพิจารณา ถ้ายกหัวขอธรรมมาพิจารณาจะเข้าใจได้โดยง่าย ทำบ่อยๆ จะได้ปัญญา
     
  6. ิอนันตะ

    ิอนันตะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +20

    ขอบพระคุณมากเลยค่ะ เป็นประโยชชน์อย่างมาก ทำให้กระจ่างในใจขึ้นมากโข
     
  7. ิอนันตะ

    ิอนันตะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบพระคุณมากเลยค่ะ เข้าใจอาการทางกายของการปฏิบัติสมาธิมากขึ้น แต่ก่อนนี้ไม่รู้อะไรเลยค่ะ คำเหล่านี้ไม่เคยสนใจ ไม่เข้าใจความหมาย อยากทำก็ทำ อยากนั่งก็นั่ง ไม่มีแบบแผนอะไรเลย อวิชชาก็เลยมีมาก โมหะก็เยอะ พอได้มาฟังผู้รู้ชี้แหนะ ทำให้เรารู้สึกว่า เออหนอเรานี่ช่างโง่หนอ หลงหนอ เหมือนกบในกะลามาเจอแสงสว่างยังงัยอย่างนั้น
    อย่างอานาปานสตินี่เคยได้ยินแต่ไม่เคยสนใจ ไม่เข้าใจความหมายก็เลยไม่ให้ความสำคัญ มีอัตตามากจิงๆ ตอนนี้จะลองทำตามที่ท่านแนะนำดูค่ะ ต้องเริ่มจาก กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ก่อนเลย
     
  8. aroonoldman

    aroonoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +462
    มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

    โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็น อุพเพงคาปิติ ปิติจะเกิดเมื่อจิตเข้าสู่อุปจารสมาธิ

    ซึ่งมีความละเอียดของจิตอยู่ ๓ ระดับ แต่ไม่ทราบว่าจิตอยู่ระดับไหนที่จะเห็น

    พวกแสงหรือสิ่งอันเป็นทิพย์ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ

    โมทนาด้วยครับ
     
  9. ิอนันตะ

    ิอนันตะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +20
    การไม่เรียนรู้วิธีการก่อน สักแต่ทำและไม่มีพระหาครูอาจารย์นี่ เวลามีข้อสงสัยอะไรก็จะอยู่ติดแต่กับตรงนั้น คิดวนไปเวียนมาไม่พัฒนาเลยจิงๆค่ะ พอออกมาจากกะลาจึงได้รู้ว่าโลกนี้กว้างใหญ่ สรรพสิ่งมันกว้างใหญ่ เราเป็นเพียงสิ่งเล็กๆจิงแต่อัตตานี่ใหญ่โตเหลือเกิน ขอบคุณผู้รู้สำหรับคำชี้แหนะ มิเช่นนั้นคงจมอยู่มิมีวันได้เห็นทางสว่างแห่งปัญญาเป็นแน่แท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2012
  10. ิอนันตะ

    ิอนันตะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +20
    นมัสการพระคุณากรเจ้าค่ะ
    การยกหัวขอธรรมมาพิจารณาอยากจะทำค่ะ แต่ในสภาวะขณะนั้นตอน นั้นเราไม่มีความนึกคิดอะไรอีกแล้วมันแค่รู้อย่างเดียวว่าเหนความว่างเปล่า ไม่รู้จะเอาจิตไปจับกับสิ่งไหนต่อค่ะ นิ่ง สงบ ว่าง ไม่ใช่เหมมือนสมาธิที่ยังรู้ถึงการมีตัวตัวจะไปกำหนดส่วนไหนของกายได้อีก เปนแสงสว่าง ความว่างเปล่าเกิดขึ้นในนั้น มันไม่มีความรู้สึกอะไรเลยค่ะ ไม่มีรู้สึกว่าเงียบ ไม่มีรู้สึกว่าอะไร อยู่เฉยๆยังงั้น เพราะหายไปซึ่งทุกสิ่ง เหลือแต่ความว่างเปล่า ตัวหายอะไรก้อหาย หายไปหมด ลมหายใจก้หายย จะกำหนดกับอะไรต่อ ตอนนั้นว่าางเปล่า ไม่มีความนึกคิด ไม่มีอะไร ตัวไม่มีอะไรก้อไม่มี เป็นอย่างนี้มานานจะเป็นปีแล้วค่ะไม่ไปไหนเลย ต้องทำอย่างไรจึงจะเอาหัวข้อทำธรรมมาพิจารณาได้ค่ะ มีวิธีไหมค่ะหรือต้องปฎิบัติไปเรื่อยๆ
     
  11. ิอนันตะ

    ิอนันตะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบพระคุณมากค่ะ
    โดยส่วนตัวไม่เข้าใจใน อุพเพงคาปิติ ปิติจะเกิดเมื่อจิตเข้าสู่อุปจารสมาธิ ซักเท่าไหร่ (กำลังศึกษาอยู่ค่ะ)
    พวกแสงนี่เห็นก่อนที่จะจะเข้าสู่สภาวะว่าง นิ่งค่ะ อย่างที่กล่าวข้างต้นโดยส่วนตัวนั่งโดยกำหนดไปที่กายสังขาร พิจารณาถึงความไม่เที่ยงของร่างกาย มีเกิด ดับไปตามนั้น ไม่จีรังพิจรณาอย่างนั้นไปเรื่อยๆค่ะจนเข้าสู่สภาวะที่เห็นจุดคล้ายกลุ่มควันรวมตัวกันแล้วก็เข้าสู่สภาวะว่างนี่แหละค่ะ แล้วต้องปฎิบัติต่อไปยังงัยค่ะ
     
  12. toseal

    toseal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +618
    ทั้งหมดที่คุณต้องการหรืออยากรู้ หรือสงสัย อยู่ในเวป พลังจิตนี้หมดแล้วคับ ค่อยๆอ่านนะครับ ไปละครับ แว๊ปปปป
     
  13. ิอนันตะ

    ิอนันตะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบคุณค่ะคุณ toseal กำลังไล่อ่าน และพยายามทำความเข้าใจค่ะ แต่มันเยอะจิงๆ ^^
     
  14. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    อาการที่เกิดของคุณอยู่ในขั้นสมาธิสงบ นิ่ง เหมือนตนเองนอนอยู่ในเปล แกว่งไปแก่วงมาต่อไปก็ให้พิจารณาสังขาร (ธาตุทั้งสี่) และคุณก็จะสุขอยู่อย่างนั้นตลอด ไม่มีอะไรคืบหน้าในสมาธิ แต่ถ้าคุณไปสายมโน คุณก็จะหลงอยู่ในอีกมิติหนึ่ง จินตนาการคุณก็จะสูงขึ้น จิตคุณจะหลงอยู่แต่นรก สวรรค์ ซึ่งเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะมันเป็นจิตใต้สำนึกหรือจินตนาการที่จิตเราสร้างขึ้นมา หรืออยากให้เป็นไปตามแต่ที่เราจะนึกได้
     
  15. ทศมาร

    ทศมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +237
    นั่งสมาธิแล้วได้ความสงบของสมาธิ ถ้าอยากเดินหน้าต่อก็ต้องมาวิปัสสนา พอออกจากสมาธิอย่าพึ่งเลิกให้หัดดูกายเป็นธาตุต่างๆก้อนดิน มีจิตเป็นผู้รู้แยกออกจากกาย ลองขยับมือเคลื่อนไหว เห็นธาตุดินขยับไปมา พอจิตเริ่มฟุ้งซ่าน ก็นั่งทำความสงบใหม่ สลับกันไปมา
     
  16. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ของคุณเลยนิมิตไปแล้วครับ ตกอยู่ใน ปิติ ของรูปสมาบัติ หากจะไปต่อ ต้องฝึกการ "อยู่" กับสภาวะอารมณ์ต่าง เช่น "เบาเหมือนลอยได้" "โล่ง" "ว่าง" "เฉย" "รู้" "ตื่น" ต่าง ๆ เหล่านี้ ผมจะตัดตอนข้อความเก่าจากกระทู้ "อาการ รัศมี เปล่ง ไปทั่วทิศ เหมือนรังสี ดันข้างในหัว" มาให้คุณลองเปรียบเทียบดูนะครับ

    +++ วิธีฝึก เดินตามขั้นตอนเหล่านี้ให้ดีนะครับ
    1. เข้าสมาธิ จนเกิดความรู้สึกตัว (ไม่ใช่แค่รู้ตัว) ทั่วทั้งตัว
    2. แช่ความรู้สึกตัวนั้นเอาไว้ (เหมือนแช่ตัวในน้ำ)
    3. รู้อยู่ว่า เรามีความเป็นอยู่แบบนี้ก็อยู่ได้ ไม่มีทุกข์อะไร
    4. เมื่อความรู้สึกว่า "อิ่ม ๆ อยู่" "พอ ๆ อยู่" เกิดขึ้น ให้ย้ายมาแช่อยู่ในอาการนี้แทน
    5. เมื่อความรู้สึกว่า "โล่ง ๆ โปร่ง ๆ สบาย ๆ อยู่" เกิดขึ้น ให้ย้ายมาแช่อยู่ในอาการนี้ (หากสติไม่แกร่งพอ อาจจะหลับในขั้นนี้ได้)
    6. เมื่อความรู้สึกว่า "รู้ ๆ อยู่ ตื่น ๆ อยู่" เกิดขึ้น ให้ย้ายมาแช่อยู่ในอาการ "รู้ ๆ อยู่"
    7. จากนั้นจึงย้ายมาอยู่ในอาการ "ตื่น ๆ อยู่" (ห้ามลัดขั้นตอนโดยเด็ดขาด ของแบบนี้ หากหลุดแล้ว ก็หลุดเลยไปเลย)
    8. ขณะที่แช่อยู่ในอาการ "ตื่น ๆ อยู่" นี้ อาการ "ตื่น ๆ อยู่" จะค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้น
    9. ความเข้มข้นของอาการ "ตื่น ๆ อยู่" จะกลายเป็นความเข้มแข็งของความ "ตื่นอย่างยิ่ง"
    10. ให้แช่อยู่ในอาการ "ตื่นอย่างยิ่ง"
    11. สังเกตุดูก็จะรู้ได้ว่า อาการ "ตื่นอย่างยิ่ง" นี้เป็นอาการของ "พลังงาน"
    12. สังเกตุอาการของ "พลังงาน" ก็จะรู้ชัดเจนว่า "เรากำลังเปล่งรังสีอยู่"
    +++ หวังว่า คงสมปรารถณาแล้วนะครับ
    +++ แต่อย่าลืมว่า นี่เป็นการฝึกของ สมถะสมาธิเท่านั้น ยังไม่มีส่วนของ วิปัสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง

    โดยส่วนตัวนั่งโดยกำหนดไปที่กายสังขารไม่ได้กำหนดทีลมหายใจอย่างนี้ได้รึเปล่าค่ะ

    +++ ได้ครับ การกำหนดไปที่กายสังขาร เป็น กายานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน หากกำหนดได้ทั้งกาย มักจะผ่านชั้นนิมิตไปเลยโดยไม่ต้องตกภวังค์ แล้วลงสู่สมาบัติตรง ๆ นะครับ
     
  17. aroonoldman

    aroonoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +462
    ขอบคุณที่ให้เกียรติถาม ผมคงตอบไม่ได้ว่าจะต้องปฎิบัติต่อไปอย่างไร

    เพียงแต่ให้ข้อเห็นเป็นส่วนตัวว่า การปฎิบัติสมถกรรมฐานนั้นต้องประกอบ

    ไปด้วยธรรม ๒ ประการคือ สติและสัมปชัญญะ และจะต้องรู้จุดหมายแท้จริง

    ของสมถะคือเอกคัคตารมณ์ สามารถระงับนิวรณ์ธรรมได้จึงจะถูกต้อง

    ส่วนการปฏิบัตินั้นทำได้ทั้งสองแนวทางคืออารมณ์ปักคือการกำหนดลมหาย

    ใจ(อานาปานสติกรรมฐาน)ซึ่งสามารถทรงได้ถึงฌาน ๔และอารมณ์คิดซึ่ง

    สามารถทรงได้แค่อุปจารสมาธิเท่านั้นคือที่คุณปฎิบัติอยู่พิจารณาถึงความไม่

    เที่ยงของสังขาร(สภาวะธรรม)จนจิตเข้าถึงเอกคัคตารมณ์ (จิตว่าง จิตเป็นสุข

    สุดแต่จะใช้คำ)ในความรู้สึกจริงๆเราจะพบว่าไม่เคยพบเลยความสุขแบบนี้

    ในชีวิตมาก่อน(ซึ่งเป็นเรื่องปัจจัตตัง)หรือพิจารณาจนกระทั้งเกิดอุคคหนิมิตขึ้น


    ก็สามารถทำเป็นกสิน(อธิบายไม่ได้ไม่มีความรู้เรื่องกสิน)

    ขอแสดงความคิดเห็นเท่าที่รู้เพียงเท่านี้ ขอโมทนาด้วย




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2012
  18. ิอนันตะ

    ิอนันตะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบพระคุณมากเลยนะค่ะ
    ขอเรียนถามว่าต้องปฏิบัติแนวทางไหนค่ะ คือไม่เคยปฏิบัติกับอาจารย์ที่ไหน ทำเองที่บ้าน ก็ไม่มีผู้สอบอารมณ์ พอทำมาถึงจุดนี้ก็เลยไม่รู้ว่าตนเองต้องปฏิบัติยังงัยหากต้องการหนทางพ้นซึ่งกิเลส
     
  19. ิอนันตะ

    ิอนันตะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบพระคุณอย่างมากเลยนะค่ะ
    ก่อนอื่นขอสารภาพก่อนเลยค่ะว่าแต่ก่อนเคยเข้าใจว่าสมาธิกับวิปัสสนาเป็นลักษณะอาการเหมือนกัน แป่ววววววว พอได้มาฟังผู้รู้จึงได้เข้าใจว่า โห ต่างกันลิบ คนละความหมายเลย เคยคิดว่าท่านอาจารย์ทั้งหลายได้บรรลุเพราะนั่งสมาธิ แค่คิดก็ผิดมหันต์ทางหลุดพ้นห่างไปอีกหลายแสนโยชย์ พูดพร่ำไปซะเยอะ
    เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะค่ะ คืออยากเดินหน้าต่อค่ะ ก็เลยอยากศึกษาทางวิปัสสนาให้มากยิ่งขึ้น สอบถามค่ะว่าออกจากสมาธิแล้วใ้ห้หัดดูกายเป็นธาตุต่างๆก้อนดิน มีจิตเป็นผู้รู้แยกออกจากกาย ลองขยับมือเคลื่อนไหว เห็นธาตุดินขยับไปมา คือ พอเราถอนออกมาจากความว่าง นิ่ง เข้าสู่การรับรู้ว่ามีกายเราอยู่ใช่รึเปล่าค่ะ แล้วมาพิจารณาธาตุทั้งสี่ โดยเริ่มที่กายก่อน แล้วแยกกายให้เห็นธาตุเดิมจาการรวมตัวกัน แยกออกมาทีละชิ้นๆ คือตัวมิใช่ตัวเรา หากเกิดจากการรวมตัวของธาตุทั้งสี่ เมือแยกออกมาแท้จิงแล้วไม่มีตัวตน โดยที่เราพิจารณาไปเรื่อยๆอย่างสลับกับการขยับมือเคลื่อนไวอย่นี้ได้รึเปล่าค่ะ
     
  20. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

    .....................................
     

แชร์หน้านี้

Loading...