ทำบุญ..ถูกบุญ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 28 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left> ทำบุญ..ถูกบุญ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 กุมภาพันธ์ 2550 16:46 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ข้อคิดข้อเขียนในวันนี้ อยากจะพูดคุยกับท่าน ผู้อ่านด้วยเรื่องราวที่ได้ประสบพบเห็นมาแล้วทำให้รู้สึกไม่สบายใจ และถ้ายังปล่อยไว้ไม่นำมาพูดจาและหาทางแก้ไขก็เกรงจะกลายเป็นปัญหาต่อไป ในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน
    เราชาวพุทธทั้งหลาย ล้วนเกิดมาภายใต้ร่มเงาของ พระพุทธศาสนา ย่อมมีความใกล้ชิดพระพุทธศาสนา ได้เข้าไปบำเพ็ญบุญกุศลมากบ้างน้อยบ้าง ตามกำลังความศรัทธา และโอกาสจะอำนวย เพื่อเป็นการสั่งสม บุญคือความดี เพราะการสั่งสมบุญย่อมนำมาซึ่งความสุข บุญเป็นคุณชาติที่จะฟอกจิตของคนเราให้สะอาด ดังนั้น ทุกคนจึงต้องการบุญ
    แต่บางครั้งในการทำบุญ หรือการแสวงหาบุญของ เราท่านทั้งหลาย ก็มักจะมองข้ามถึงความสะอาด ความเรียบร้อย ความเป็นระเบียบของสถานที่ที่เราไปทำบุญก็ คือวัด และวัดนั้น ถ้าจำแนกเป็นจุดก็เป็นศาลาการเปรียญ บ้าง โบสถ์บ้าง วิหารบ้าง สถานที่ฟังธรรมบ้าง เป็นต้น
    ในสถานที่ที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ก็มีการทำบุญโดยการ ปิดทองพระพุทธรูปก็ดี ปิดทองช่อฟ้าใบระกาก็ดี คนที่เข้าไปปิดทอง ก็มักจะทิ้งเศษกระดาษที่ปิดทองลงบน พื้น โดยไม่เฉลียวใจเลยว่า สถานที่ซึ่งเราเข้าไปปิดทองพระนั้นเป็นสถานที่ที่ตั้งแห่งความเคารพนับถือ ที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรจะทำให้เกิดความไม่เรียบร้อย หรือสกปรกรุงรัง อันจะทำให้ไม่สะอาดตาสะอาดใจ แก่ผู้พบเห็น แต่พวกเราชาวพุทธก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจในการกระทำนี้ จึงทำให้พื้นที่ที่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีคนเคารพนับถือมากๆ และคนก็ไปปิดทองกันมาก มีเศษกระดาษจากแผ่นทองที่ปิดไปแล้วมากตามไปด้วย!!
    ภาระหน้าที่ในการกำจัดหรือการปัดกวาดก็คงไม่พ้นพระเณรในวัดนั้นแน่แท้ คนปิดทองได้บุญไป แต่ ทิ้งเศษกระดาษอันเป็นบาปให้คนอื่นต้องมาชำระสะสาง บุญที่ได้ไปก็คงไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะสร้างบาป ด้วยการทิ้งขยะในที่ที่ไม่ควรทิ้ง
    ความจริงแล้ว เมื่อเราปิดทองพระแล้ว ก็ควรจะเก็บ เศษกระดาษไว้ แล้วนำไปทิ้งในภาชนะที่เขาจัดไว้รอง รับขยะ จึงจะเป็นการถูกต้อง และเป็นการแสดงความ เคารพนับถือต่อสถานที่นั้นด้วย ถ้าทำได้อย่างนี้ ผลบุญ ย่อมเต็มเปี่ยมไม่บกพร่อง เรียกว่าทำบุญถูกบุญ และเป็นที่ชื่นชมนิยมรักใคร่ของผู้ได้พบเห็น ทั้งจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้คนทั้งหลายอีกด้วย
    ดังนั้น ในหลักการของพระพุทธศาสนา จึงเน้นหนักว่า การทำบุญกุศลนั้นต้องพร้อมด้วยกาย วาจา และใจ กายพร้อมคือมีความนอบน้อม กราบไหว้ไม่กระทำกิริยาใดๆ ที่ไม่สมควรต่อสถานที่ เช่น การทิ้งขยะ เป็นต้น วาจาพร้อมคือกล่าวคำสุภาพ ไพเราะ มีประโยชน์ พูดความจริง และพูดให้เกิดความสามัคคี ใจพร้อมคือมีจิตใจอ่อนโยน สงบเยือกเย็น และแน่วแน่ในบุญที่ได้กระทำลงไป ผลและอานิสงส์ของ บุญย่อมมีมากแน่นอน
    ในสถานที่ฟังธรรมก็เหมือนกัน บางทีพระท่านแสดงธรรมอยู่ คนฟังธรรมบางคนก็พูดคุยกับเพื่อนหรือคนที่อยู่ใกล้ๆ จนพระท่านอดไม่ได้บอกว่า ถ้าจะคุยกันท่านก็จะหยุดเทศน์ แล้วขอให้โยมคุยกันเสีย ให้จบก่อน แล้วท่านจึงจะแสดงธรรมต่อไป คนที่คุยก็จะหยุดคุย แต่จะคิดอะไรนั้น ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ การกระทำอย่างนี้ ท่านเรียกไม่เคารพในธรรม ไม่เคารพต่อพระผู้แสดงธรรม และไม่เคารพต่อสถานที่ฟังธรรม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาอีกด้วย
    เราชาวพุทธจึงควรงดเว้นการกระทำดังกล่าวเสีย และต้องตระหนักว่าพระพุทธศาสนานั้นเป็นศาสนาแห่งการฝึกอบรมคนให้มีระเบียบวินัย ให้เกิดความงดงามเรียบร้อยในหมู่ชน ใครฝึกอบรมตนได้มาก ก็ได้บุญมาก ฝึกอบรมตนได้น้อย ก็ได้บุญน้อย ไม่ฝึกอบรมเลย ก็ไม่ได้บุญเลย
    ในการบำเพ็ญบุญอื่น เช่น มีการถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์แล้ว ก็มีการจัดเลี้ยงผู้ที่มาทำบุญในวัด อะไรๆ ก็ดีเรียบร้อย แต่ว่าพอเลิกงานแล้ว จาน ชาม เศษถุงพลาสติก เข้าไปซ่อนตัวอยู่ตามพงหญ้า ตามพุ่มไม้ ก็เป็นภาระพระเณรต้องไปจัดการเก็บของเหล่านั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย แต่ก็เกิดขึ้นเป็นปกติ
    วัดบางวัด มีที่ดินให้ชาวบ้านปลูกบ้านอยู่อาศัย แม้จะได้ค่าเช่าก็ไม่มากมายอะไร ถือว่าเป็นการเกื้อกูลกันทั้งบ้านทั้งวัด แต่ชาวบ้านเอาผ้านุ่งผ้าห่มของผู้ชายผู้หญิงเข้าไปตากในพื้นที่ของวัด อันเป็นที่สัญจรของคน ทั้งหลาย วัดขอร้องว่าอย่าทำเลยมันไม่งดงาม ไม่มีระเบียบแบบแผน อุจาดนัยน์ตาของผู้คน แต่ชาวบ้าน บางคนก็ดันทุรังไม่เชื่อฟัง ยังขืนทำอยู่ พระก็เลยล้อม รั้วที่ตรงนั้นเสีย ชาวบ้านก็โพนทะนาว่า พระไม่มีเมตตา ใจแคบ อย่างนี้จะทำอย่างไรดี ใครผิดใครถูก สาธุชนผู้เป็นวิญญูชน พึงวินิจฉัยได้เอง
    วัดบางวัด เมตตาให้คนจัดตลาดนัดในวัด ให้มีการ จอดรถในวัด แต่วันใดที่วัดต้องใช้สถานที่ตรงนั้นในการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความงดงามหรือเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของวัด บางบ้านก็จะไม่ยอม เพราะบางคนมีผลประโยชน์แฝงเร้น การกระจายข่าวหรือการให้ข่าวสารต่อสังคมนั้น ชาวบ้านจะไม่มีขีดจำกัด และหนีไม่พ้นที่จะพูดว่า วัดไม่มีเมตตาชาวบ้าน วัดเห็นแก่ตัว เป็นต้น
    เพราะฉะนั้น วัดที่มีที่ดินให้ชาวบ้านเช่าปลูกบ้านอยู่ ให้จัดตลาดนัด ให้จอดรถยนต์ ประการดังกล่าวนี้ จะเป็นปัญหาใหญ่ของวัดและศาสนาแน่นอน ถ้าหลีกเลี่ยง ได้ ก็หลีกเลี่ยงเสียเถิด เสียสละประโยชน์ส่วนน้อย รักษาศาสนาไว้ ไม่ต้องให้ใครมาว่ากล่าวได้ในภายหลัง ก็จะเป็นคุณูปการอย่างยิ่งต่อพระศาสนา
    ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ เพื่อแสดงความเป็นห่วงพระศาสนา ไม่ได้มีเจตนาจะว่ากล่าวใครให้เดือดร้อนแต่อย่างใดเลย และอยากให้บ้านกับวัดเข้าใจดีต่อกัน ร่มเงาของพระศาสนาจะได้แผ่กว้างออกไป.. ออกไป.. จนหาที่สุดมิได้

    (จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 76 มี.ค. 50 โดยธมฺมจรถ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    -----------
    Ref. http://www.manager.co.th/Dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9500000023716
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คนไทยเรานับว่าโชคดีมากที่มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แต่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่คนไทยเราห่างจากศาสนาประจำชาติออกไปทุกที เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาพร้อมกับกิเลสและความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ทำให้มองไม่เห็นถึงความสุขที่แท้จริงของชีวิต หลงมัวเมาอยู่กับกิเลสจนถอนไม่ขึ้น ทั้งที่มีโอกาสเกิดในแดนพุทธภูมิ กลับไม่สนใจ น่าเสียดายจริง ๆ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...