ถวายพระองค์ที่ 11(สมเด็จองค์ปฐม) วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ 24/8/57 ---ภาพครับ

ขอเชิญร่วมบุญด่วนทันใจ ร่วมถวายพระองค์ที่ 11 หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐมต้นกายมนุษย์ หน้าตัก 16 นิ้ว

ณ วัดศาลพันธ์ท้ายนรสิงห์ วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2557

ซึ่งเงินร่วมทำบุญทั้งหมดจะเป็นเงินร่วมถวาย ร่วมซื้อสังฆทาน ร่วมปล่อยปู ในวันที่ 24 สิงหาคม 2557 ทั้งหมดครับ

โดยกำหนดการคือประมาณ 9.30 น จะทำการปล่อยปู และเวลาประมาณ 10.00 น จะไปทำการถวายพระที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ครับ



ท่านสามารถร่วมบุญโดยการบูชาวัตถุมงคลหรือร่วมบุญตามกำลังได้ตามสะดวกครับ


ชื่อบัญชี นายนิรันดร์ เริ่มกลาง
เลขที่บัญชี 269-2-780-313
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาบางใหญ่ ประเภท ออมทรัพย์

084 156 8863

(รูปแทนขององค์สมเด็จพ่อกายมนุษย์ หรือ พระองค์ที่ 11 หรือ พระพุทธเจ้าองค์ปฐมต้น)

 

ร่วมบุญด้วยการบูชาเศียรปู่ฤาษี องค์ละ 199 บาท ครับ

ค่าจัดส่ง 60 บาทครับ

 

ร่วมบุญด้วยการบูชาพระเหนือพรหม องค์ละ 299 บาท ครับ

ค่าจัดส่ง 60 บาทครับ

 

นำบุญด้วยการสร้างครับ

 

ขอเชิญร่วมบุญครับตามกำลัง

 

เชิญร่วมบุญครับผม

 

ปล่อยปู...ทำให้หายเมื่อย โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
________________________________________
ไอ้เรื่องปล่อยสัตว์นี่ก็แปลก เมื่อปี 08 ฉันเป็นโรคอยู่อย่างหนึ่ง มันเมื่อยปวดทั้งตัว คือมันเกินเมื่อย ให้หมอฉีดยาก็แล้ว หมอให้ยากินก็แล้ว มันก็ไม่ได้ผล ก็เลยมากรุงเทพฯ แล้วเลยไปบางปู ไปถึงบางปูก็เจอคนขายปู 3 โหล

ก็นึกในใจว่า ไอ้ปูนี่กว่ามันจะตายก็ถูกมัดอยู่นาน มันก็เมื่อยเหมือนกับเราเหมือนกัน ปลาก็เคยปล่อยมาแล้ว แต่ปูนี่ยังไม่ได้ปล่อย ไอ้ปูมันถูกมัดเป็นวัน ๆ นี่มันเมื่อยเหมือนกันใช่ไหม มันทรมานมาก ส่วนปลาขังอยู่ในบริเวณแคบ แต่มันก็ยังมีน้ำให้ว่ายใช่ไหม ก็เลยคิดถึงตัวเอง ไอ้บาปเก่า ๆ เราคงจะไปมัดเขาไว้อย่างนี้เหมือนกัน ปล่อยมันเสียเถอะ ให้มันเป็นสุข ก็เลยเหมาหมด เหมาแล้วก็ช่วยกันปล่อย แต่ฉันไม่มีเจตนาต้องการให้หายปวดตัวนะ ไม่ใช่

มาอีกคราวฉันก็ไปอีกก็เหมาอีก พอถึงสามคราวไอ้อาการปวดตัวมันหายเลย หายจริง ๆ รักษามาเกือบตายไม่หาย นี่ก็แปลกเหมือนกันนะ เป็นอันว่าเราปล่อยสัตว์ด้วยมีจิตเมตตา คิดจะช่วยให้รอดพ้นจากการถูกขังก็ดี เห็นว่ามันจะต้องตายก็ดี อันนี้เป็นของดี เป็นการช่วยชีวิตเขา และเราก็รอดพ้นจาก อุปมาตกรรมด้วย
(จากหนังสืออุทิศส่วนกุศล)

เรื่องเล่า...
หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเคยไปเจอปูทะเล แล้วปล่อย อาตมาเรียนถามว่า 'มีอานิสงส์พิเศษอะไรครับ?'
ท่านบอกว่า หลวงปู่พระครูโวทานธรรมาจารย์ วัดดาวดึงษาราม ฝั่งธนบุรี เป็นอาจารย์สอนเทศน์ของหลวงพ่อท่าน เคยปล่อยปูด้วยความสงสาร ท่านบอกว่า 'ไอ้ปูอีปูเอ๊ย .. ข้าจะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า พวกเอ็งไม่ต้องตามไปเกิดเป็นบริวารของข้าหรอกนะ ข้าปล่อยพวกเอ็ง ไม่ได้ต้องการให้พวกเอ็งไปเป็นบริวารของข้า ข้าปล่อยพวกเอ็ง เพราะต้องการให้พวกเอ็งพ้นทุกข์เท่านั้น'
ปูโดนมัดมาทั้งวัน .. บางตัวพอตัดเชือกออกมา ขาหลุดหมดเลย คนเรานั่งนิ่งๆ ท่าเดียวก็แย่แล้ว แต่นี่โดนมัดด้วย ปรากฏว่า .. พอหลวงปู่ท่านปล่อยปูไปไม่นาน อาการที่ท่านเคยปวดหลังเมื่อยเอวอยู่ๆ ก็หายไปเฉยๆ หลวงปู่ท่านก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะเป็นอานิสงส์ของการปล่อยปูให้พ้นจาก การโดนมัด ท่านก็เลยเอามาเล่าให้ลูกศิษย์ฟัง หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็จำไว้ ถึงเวลาหลวงพ่อท่านก็มาปล่อยบ้าง….พระครูวิลาศกาญจนธรรม หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ วัดท่าขนุน จังหวัดกาญจนบุรี

ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเอง

เรื่องนี้เกิดเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เพื่อนที่เข้าบรรจุรับราชการวันเดือนปีพร้อมกัน เกิดมีปัญหาส่วนตัวแต่พาลพัวพันมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตผม เพราะผมไปค้ำประกันเงินกู้ธนวัฏ ของ ธ.กรุงไทย และค้ำประกันเงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงฯ ประมาณเกือบ 200,000 บาท ซึ่งต่างคนต่างค้ำให้กันและคิดว่าคงไม่เกิดปัญหาอะไร เพราะชีวิตข้าราชการมีความมั่นคงสูง...แต่ชีวิตมันผกผันไม่แน่นอน ซึ่งในกรณีนี้เกิดจากที่เพื่อนมีปัญหาส่วนตัวและผนวกกับโดนย้ายไปทำงานส่วนอื่นที่มีแรงกดดันสูงจากคนที่เป็นหัวหน้า มันเลยเป็นแรงผนวกกำลัง 10 เริ่มหลบหน้าหนีไม่ทำงานจนขาดเวลาทำงานราชการ
จนจะโดนไล่ออก แต่มีผู้ใหญ่ต่างช่วยกันเท่าที่ช่วยได้ให้มาลาออกเองอย่าให้โดนไล่ออก...ผมนี้ต้องตามไปถึงห้องพักไปคุยกับเขาพร้อมนำหนังสือลาออกไปให้เซ็นต์ ถ้าโดนไล่ออกสวัสดิการต่างที่พึงจะได้จะไม่ได้อะไรเลย แถมมีหนี้สินกองใหญ่ที่แถมมาให้ผู้ค้ำประกันอย่างผม

สรุปเพื่อนไม่โดนไล่ออกแต่ลาออกเอง นับว่าเป็นจังหวะที่ดีที่ทำงานครบ 10 ปีเลยได้บำเหน็จไปหักล้างกลบหนี้ได้...แต่ยังมีหนี้ที่คงค้างอีก 5-60,000 บาท เงินที่ได้มาจาก กบข. แล้วไม่จ่ายหนีหายไปทิ้งให้ภรรยารับหน้า....ผมเครียดสิเงินเดือนก้อไม่มาก ต้องมาแบกภาระที่ไม่ได้สร้างเอาไว้.....บางครั้งคิดปลงๆว่าเป็น “กรรม” ที่เราค้างเขาไว้

ระยะเวลาที่กำลังเกิดเรื่องว่าเพื่อนจะโดนไล่ออกนั้น ความที่คิดมากเครียดแม้พยายามจะวางแล้วก้อวางไม่ลง ขับรถไปคิดไป....ปัญหาชีวิตของตนเองก้อมากพอแล้ว ทำไงดี...เดชะบุญส่งผล...จึงทำให้คิดถึงการปล่อยสัตว์เล็ก “ปู” เพราะมันน่าสงสารมากเพราะมันโดนมัดเป็นวันเป็นคืนอยู่นิ่งๆ มันต้องเมื่อยปวดร้าวแสนสาหัส...ขนาดเราโดนนิดหน่อยแทบทนไม่ไหวแล้ว

จึงได้ตัดสินใจซื้อปูในตลาดนัดที่ทำงาน จำนวน10 กว่าตัว เช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันหยุดผมและภรรยาขับรถไปปล่อยปูที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ที่สมุทรสาคร เพราะเป็นสถานที่สงบมีท่าน้ำติดกับวัด หลังจากนั้นไม่นานก้อเดินทางไปปล่อยอีก 3-4 ครั้ง

ต่อมาไม่นานเรื่องที่เป็นหนี้เกิดจากค้ำประกันถ้าโดนไล่ออกเพื่อนไม่ได้อะไรแถมประวัติเสีย ผมก้อแบกภาระเต็มตีน แต่กลับติดตามตัวได้เลยให้มาดำเนินการให้ลาออกเอง หนี้เลยโดนตัดทอนลงตามเงินที่ได้จากการรับราชการ จนกระทั่งภรรยาของเพื่อนร่วมงานได้รับปากจะเป็นคนจ่ายหนี้แทนโดยผมต้องโดนหักเงินจากบัญชีจำนวนหนึ่งทุกเดือนก่อนแล้ว ผ่อนจนกระทั่งเหลืออยู่หมื่นกว่าบาทภรรยาเพื่อนคนนี้ลาออกจากงานกลับบ้านต่างจังหวัดไป จึงทำให้ผมต้องชำระแทนจนครับ

แต่ผมถือว่า “โชคดีที่ผมไม่ต้องแบกภาระรับชำหนี้ให้เขาจาก 200,000 ลงเหลือ 5-60,000 สุดท้าย 10,000 กว่าบาทเท่านั้น คงเป็นกรรมเก่าที่ติดค้างเขาจริงๆที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ผลบุญอานิสงส์ที่ปล่อยปูนั้นทำให้ผมสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้มาได้

 

อานิสงส์พิเศษของการปล่อยสัตว์ชนิดต่างๆ

ถาม : ที่หลวงพ่อฤๅษีเคยบอกว่า 'คนผิดศีลข้ออทินนาทาน กฎแห่งกรรมก็คือทรัพย์สมบัติที่มีจะถูกทำลายโดยภัยธรรมชาติ หรือภัยต่างๆ' ในกรณีที่เพื่อนๆผมที่ทำงานถูกน้ำท่วมและทรัพย์สินเสียหาย ควรจะมีการชักชวนเขามาชำระพระหนี้สงฆ์ .. ไม่ทราบว่าผลจะตรงหรือไม่ครับ?
ตอบ : สิ่งที่เราทำเป็นความดีใหญ่ .. แต่ผลไม่ตรง เพราะว่าทรัพย์สินเสียหายเกิดจากกรรมเก่าที่เราสร้างมาในอดีต ส่วนบุญใหม่ที่เราสร้างในปัจจุบันเป็นส่วนของบุญ บุญกับกรรมนี่ต่างคนต่างอยู่ ถึงเวลาต่างคนต่างให้ผล เพราะฉะนั้น .. ทำไว้ดีกว่าไม่ทำ แต่ไม่ใช่การแก้กันโดยตรง
ในเรื่องของการสูญเสียทรัพย์สิน มีเคล็ดลับง่ายๆ .. ว่าให้ปล่อยนกบ่อยๆ สักเดือนละตัวสองตัวก็ได้ ถ้าปล่อยนก จะป้องกันในเรื่องของการสูญเสียทรัพย์สินได้ เพราะถึงเวลานกบินไปแล้วไปลับ ก็ปล่อยนกไปแทน
จริงๆโบราณเขาเก่งเหมือนกัน การปล่อยสัตว์อย่างปล่อยนก จะมีอานิสงส์พิเศษ คือป้องกันเรื่องข้าวของสูญหาย ทรัพย์สินเสียหาย
เรื่องของการปล่อยปลา ถ้าทำเป็นประจำจะมีความเป็นอยู่คล่องตัว คนอื่นเขาลำบากแค่ไหน เราก็ไปได้เรื่อย เหมือนปลาที่แถกเหงือกไปเรื่อยๆ เพื่อไปหาที่อยู่ใหม่ แต่นี่เราปล่อยลงแม่น้ำใหญ่ ก็ยิ่งสบายใหญ่เลย
การปล่อยไก่ จะตัดเคราะห์กรรมใหญ่ได้ แต่ถ้าเคราะห์กรรมประเภทอุปฆาตกรรมหนัก จะถึงแก่ชีวิต ให้ปล่อยพวกวัวหรือควาย ที่ว่ามานี้ .. ถ้าได้สัตว์ประเภทที่เขากำลังจะฆ่าได้ก็ยิ่งดี เพราะว่าเท่ากับใช้ชีวิตแลกกัน เรื่องของการปล่อยสัตว์นอกจากได้เมตตาบารมีแล้ว ยังมีอานิสงส์พิเศษที่ว่ามาอีกด้วย
หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเคยไปเจอปูทะเล แล้วปล่อย
อาตมาเรียนถามว่า 'มีอานิสงส์พิเศษอะไรครับ?'
ท่านบอกว่า หลวงปู่พระครูโวทานธรรมาจารย์ วัดดาวดึงษาราม ฝั่งธนบุรี เป็นอาจารย์สอนเทศน์ของหลวงพ่อท่าน เคยปล่อยปูด้วยความสงสาร ท่านบอกว่า 'ไอ้ปูอีปูเอ๊ย .. ข้าจะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า พวกเอ็งไม่ต้องตามไปเกิดเป็นบริวารของข้าหรอกนะ ข้าปล่อยพวกเอ็ง ไม่ได้ต้องการให้พวกเอ็งไปเป็นบริวารของข้า ข้าปล่อยพวกเอ็ง เพราะต้องการให้พวกเอ็งพ้นทุกข์เท่านั้น'
ปูโดนมัดมาทั้งวัน .. บางตัวพอตัดเชือกออกมา ขาหลุดหมดเลย คนเรานั่งนิ่งๆ ท่าเดียวก็แย่แล้ว แต่นี่โดนมัดด้วย ปรากฏว่า .. พอหลวงปู่ท่านปล่อยปูไปไม่นาน อาการที่ท่านเคยปวดหลังเมื่อยเอวอยู่ๆ ก็หายไปเฉยๆ หลวงปู่ท่านก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะเป็นอานิสงส์ของการปล่อยปูให้พ้นจาก การโดนมัด ท่านก็เลยเอามาเล่าให้ลูกศิษย์ฟัง หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็จำไว้ ถึงเวลาหลวงพ่อท่านก็มาปล่อยบ้าง
เพราะฉะนั้น .. เรื่องของการปล่อยสัตว์ บางทีอานิสงส์พิเศษบางอย่าง ก็มีชนิดที่เรานึกไม่ถึง แต่ถ้าเกี่ยวกับข้าวของที่สูญหายหรือเสียหาย ก็ให้ปล่อยนกแทน ปล่อยเดือนละตัวสองตัวก็ได้ อาตมาเองถ้าไปวัดเชียงมั่น ที่เชียงใหม่ ไปไหว้พระแก้ววัดเชียงมั่น ก็จะปล่อยนกเขา เพราะว่าตรงนั้นจะมีนกเขาให้ปล่อย ที่อื่นไม่เคยเจอ
ไปถึงก็ต่อรองราคากันสนุกสนานเฮฮา ตอนหลังเขาจำได้แล้ว ไปถึงเขาก็วิ่งมาให้ปล่อยเลย แรกๆเขาก็ถาม 'ปล่อยนกบ่เจ้า' อาตมาบอกว่า 'นกชนิดนี้ไม่ปล่อยหรอก ชอบกินมากกว่า'
ญาติโยมก็หัวเราะกันสนุกสนานเฮฮา แรกๆจะขายตัวละ 150 บาท ต่อไปต่อมาเหลือแค่ตัวละ 80 บาท หายไปครึ่งหนึ่ง อย่าไปเชื่อเขานะว่าปล่อยชีวิตสัตว์แล้วต่อราคาไม่ได้ ต่อไปเถอะ .. เพราะเงินที่เหลือ เราเอามาซื้อปล่อยเพิ่มได้
มีอยู่รายหนึ่ง มาบอกกับอาตมาว่า 'หลวงพ่อครับ .. ผมไปดูหมอมา เขาบอกว่าให้ปล่อยปลาไหลเท่าอายุ ต้องเขียนชื่อตัวเองและวันเดือนปีเกิดติดตัวปลาไหลไปด้วย'
อาตมาได้ยินก็หัวเราะก๊ากเลย ถามว่า 'ตกลงตายห่าหมดเลยใช่ไหม?'
'หลวงพ่อรู้ด้วยหรือครับ?'
'จะไม่ตายได้อย่างไร? ปลาไหลตัวลื่นๆ เขียนไม่ได้ ถ้าคุณจะเขียนชื่อได้ คุณต้องเช็ดจนเมือกหมดก่อน ถ้าปลาไหลไม่มีเมือก ก็เหมือนคนโดนถลกหนัง แล้วจะไปเหลืออะไร?'
ท้ายสุดเขาบอกว่าตายหมดจริงๆ .. อาตมาเป็นเด็กบ้านนอก อยู่กับทุ่ง อยู่กับนา รู้จักสัตว์พวกนี้ดี ที่น่าอนาถที่สุด คือ ตามทุ่งนาตอนหน้าแล้ง เขาจะเผาตอซัง ก็คือตอข้าว พอเผาแล้วก็เป็นขี้เถ้าไปทั้งทุ่ง พอฝนลง ขี้เถ้าพวกนี้จะไหลไปในรูปลาไหล โอ้โห .. เหมือนกับโดนน้ำกรดราด เพราะปลาไหลพวกนี้แพ้ขี้เถ้า ก็ตะกายขึ้นมาเต็มทุ่ง แล้วที่ตะกายขึ้นมา ไปไหนก็ไม่รอดแล้ว เพราะโดนไปเต็มๆเหมือนคนโดนน้ำกรดราดไปทั้งตัว
อาตมาเองเห็นทีไรสยองทุกที .. เขาไม่ได้เจตนาหรอก เป็นผลพลอยได้ เพราะชาวนาต้องเผาตอซังเพื่อให้เป็นปุ๋ยทุกปี แต่พอถึงเวลาฝนตกแล้ว น้ำที่เกิดจากขี้เถ้าไหลลงไป เรียบร้อย .. เล่นเอาปลาไหลเผ่นขึ้นมา เก็บกันทีเป็นหาบๆเลย .. !
ถาม : ถ้าปล่อยปลา .. แล้วปลาใหญ่มากินล่ะครับ?
ตอบ : ไม่เป็นไรจ้ะ .. อย่าไปเสียกำลังใจ ปล่อยไปแล้วตายหรือปลาใหญ่มากินไป ก็ช่างเถอะ เพราะเราได้ปล่อยแล้ว แต่ปลาที่เราปล่อยไปแล้วมีปลาอื่นมากินเข้า เพราะกรรมเขาไม่พ้นที่จะต้องตาย เขาไปก่อกรรมไว้กับอีกฝ่ายหนึ่ง พอถึงเวลาเขาก็มาเอาคืนพอดี
ตอนอาตมาอยู่วัดท่าซุง ไปเจอกบที่ไข่ไว้บนพื้นซีเมนต์ที่สวนไผ่ 6 ไร่ พอไข่เป็นลูกอ๊อดพอดี น้ำตรงนั้นจะแห้ง อาตมาจึงเอาช้อนไปตักขึ้นมาทีละช้อนๆ ใส่ถังได้ครึ่งค่อนถัง ก็เอาไปปล่อย เทลงที่แม่น้ำหน้าวัด อาตมาก็ไม่นึกว่าจะพาพวกเขาไปตาย เพราะที่หน้าวัดมีปลากระแหเป็นฝูงๆเลย พอเทลงไปปลากระแหก็ว่ายมาเมียงๆ มองๆ พอเห็นว่ากินได้ ก็พุ่งเข้าใส่เลย พึ่บพั่บๆ พักเดียวเป็นพันๆ ตัวหมดเกลี้ยง .. !
ถ้าโยมเจออย่างอาตมาคงใจฝ่อตาย .. ตั้งใจจะช่วยแท้ๆ กลายเป็นทำให้พวกเขาตายเร็วขึ้น แต่ความจริงเราต้องแยกแยะให้ออก เราไม่ได้เจตนาจะทำให้เขาตาย จะปล่อยเขาให้รอด แต่ดันลงไปที่ดงปลากระหายเลือดพอดี
อาตมาเคยปล่อยปลาดุก ปลากระแหมาดึงหนวดปลาดุกไปกินเกลี้ยงเลย อะไรที่ยื่นเกินออกมา โดนดึงไปกินหมด แล้วอย่างลูกอ๊อดก็ตัวละคำพอดี'
พระครูวิลาศกาญจนธรรม หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ วัดท่าขนุน จังหวัดกาญจนบุรี

 

starone ร่วมทำบุญ 100 บาทครับ โอนเข้า วันที่ 18/08/14 เวลา 18:15 ครับ

 

*** โอนเงินร่วมบุญถวายพระองค์ที่ 11 หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐมต้นกายมนุษย์ หน้าตัก 16 นิ้ว ณ.วัดศาลพันธ์ท้ายนรสิงห์วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2557 ... (ไม่ขอรับวัตถุมงคลนะครับ)

โอนเงินเข้าบัญชี นิรันดร์ เริ่มกลาง ธนาคาร กสิกรไทย
วันที่ 18/08/14 เวลา 18.40 น จำนวน 200 บาท

 

Chanj.......ร่วมบุญ...430 บาท

 

ขอร่วมทำบุญด้วยครับ 200 บาท โอนแล้ว วันนี้ เวลา 09.24 น. สาธุ

 

รับทราบครับผม

 

ท่านใดร่วมบุญแล้วแจ้งด้วยนะครับ ผมจะได้สรุปยอดเงินได้ถูกต้องครับ

 

ขอร่วมบุญด้วยการ บูชาเศียรปู่ฤาษี องค์ละ 199 บาท แบบละ 1 องค์ โอนเงินแล้ว 700 บาท ที่อยู่แจ้งทาง PM ขออนุโมทนาด้วยครับ

 

รับทราบครับผม

 

ร่วมทำบุญด้วยครับ 200บาท

 

รับทราบครับผม

 

ขอรวมบุญนี้ด้วย 288 บาท
เย็นนี้จะโอนให้นะครับ

 

ใกล้วันแล้วครับ งานในวันนี้ถือว่าครบทุกประการ
ถวายพระ
ถวายสังฆทาน
ปล่อยสัตว์(ปู)
ทำโรงทาน

อธิฐานกันดี ๆ ครับ