::ตื่น ให้ เป็น ลดการตาย ในเวลาเช้าตรู่ 70% ทำให้ ชีวิตยืนยาว::

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย สุชีโว, 25 กันยายน 2014.

  1. สุชีโว

    สุชีโว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    154
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +579
    เป็นธรรมดาของชีวิตที่เกิดมาแล้วก็ต้องตาย
    ไม่อาจมีผู้ใดหนีรอดไปจากความตายได้
    แต่ถึงกระนั้นคนทั้งหลายก็ไม่อยากตาย
    อยากให้มีอายุมั่นขวัญยืนด้วยกันทุกคน
    เมืองไทยของเราเวลานี้ก็มีชมรมของคนที่ต้องการ
    มีอายุเกิน 100 ปีเกิดขึ้นแล้ว และจำได้ว่า
    พลเอก สายหยุด เกิดผล จะเป็นหนึ่งในคณะผู้นำของชมรมนี้
    ถ้ามองในแง่ทางธรรม ชมรมคนต้องการมีอายุเกิน 100 ปี ก็คือ
    ชมรมคนกลัวตายนั่นเอง

    แต่ถ้ามองในทางโลก
    ก็จะเห็นถึงความพยายามในการดำรงรักษา
    สุขภาพให้ยืนยาวละย่อมเป็นที่สนใจของ
    คนเราทุกคนการวิจัยพบว่า
    การตายตามธรรมชาติของคนเรา
    มีถึงร้อยละ 70 ที่ตายในเวลาเช้าตรู่
    มีเพียงร้อยละ 30 เท่านั้นที่ตายในเวลาอื่น

    ดังนั้นถ้ามีวิธีทำให้ไม่ตายในเวลาเช้าตรู่ได้
    ก็จะเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้ชีวิตยืนยาว
    ผลจากการวิจัยปรากฏว่า
    เหตุที่คนมีโอกาสตายในตอนเช้าตรู่
    มากกว่าเวลาอื่น ก็เพราะ
    ในขณะที่คนนอนหลับนั้นน้ำตาลในเลือดต่ำ
    การทำงานของหัวใจและระบบต่าง ๆ
    ของร่างกายได้ชะลอตัวลง

    มีเพียงประมาณร้อยละ 15 เท่านั้น
    ที่ยังคงทำงานตามปกติ
    ดังนั้นเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า
    หัวใจและระบบทั้งหลายของร่างกาย
    จึงยังไม่พร้อมที่จะทำงานในทันที
    เหมือนรถที่จอดนิ่งอยู่จะสตาร์ทแล้ววิ่งไปในทันใด
    ก็จะตะกุกตะกักชะงักงันแต่ร่างกายคนนั้นผิดจากรถ
    ที่เครื่องตะกุกตะกัก หรือ ดับแล้วก็สตาร์ทใหม่ได้

    เพราะ คนเราเมื่อตื่นขึ้นก็มักจะพรวดพราดลุกขึ้น
    จึงทำให้ระบบต่าง ๆ เร่งทำงานอย่างรวดเร็ว
    จึงทำให้ผู้มีอายุเลยวัย 40 ปี ปรับตัวไม่ทัน
    จึงเกิดอาการ หัวใจวายบ้าง หน้ามืดเป็นลม ตายไปบ้าง
    หรือไม่ก็หกล้มตายบ้าง
    นี่คือเหตุผลที่คนตายตามธรรมชาติถึงแก่ความตาย
    ในเวลาเช้าตรู่ถึงร้อยละ 70
    เมื่อเทียบกับการตายในเวลาอื่น

    เพราะ ตื่นแล้วรีบพรวดพราดลุกขึ้นโดยที่ระบบต่าง ๆ
    ของร่างกายยังไม่พร้อม
    แล้วเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายนั่นเอง
    เพราะ เหตุนี้เมื่อทราบผลวิจัยแล้ว
    จึงมีการคิดหาวิธีการป้องกันเหตุไม่ให้ตายในเวลาเช้าตรู่
    ซึ่งสามารถทำได้ เพราะสรรพสิ่งนั้นย่อมเกิดแต่เหตุ
    เมื่อแก้ที่เหตุได้แล้วก็จะแก้ที่ผลได้ด้วย

    ตรงกับพุทธภาษิตที่ว่า
    “ เยธัมมา เหตุปัพพะวา เตสังเหตุง ตะถาคะโต
    เตสังจะโย นิโรโธจะ เอวังวาที มหาสมะโน ”

    ซึ่งแปลว่า
    ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ
    พระตถาคตได้ตรัสถึงเหตุแห่งธรรมนั้น
    และความดับแห่งธรรมนั้น
    นั่นคือใช้วิถีทางแห่งพระพุทธศาสนาตามพระพุทธพจน์
    ในการป้องกันมิให้ถึงแก่ความตายในเวลาเช้าตรู่

    วิธีการที่เสนอก็คือ
    เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นแล้วอย่าเพิ่งรีบลุก
    ให้เริ่มต้นด้วย การสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ สัก 4-5 ครั้ง
    พร้อมกับรำลึกว่าเรานี้โชคดีหนอ ยังไม่ตาย
    และยังมีชีวิตอยู่ เพื่อจะได้ทำความดี ทำประโยชน์ตน
    ประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทต่อไป

    เป็นการเจริญธรรมแห่งความไม่ประมาทได้อีกทางหนึ่ง และ
    ทำให้จิตสงบเย็น ยกระดับภูมิธรรมแห่งจิตไปทีละขั้นอีกทางหนึ่งด้วย
    ถัดจากนั้นก็ให้พลิกตัวซ้ายขวาสลับกันอย่างช้า ๆ สัก 3-4 ครั้ง
    แล้วค่อย ๆ ยกขาทั้งสองข้างขึ้นลงสลับกันอีก 3-4 ครั้ง
    จะว่าเป็นการวอร์มร่างกายทำให้ระบบต่าง ๆ
    ของร่างกายค่อย ๆ ทำงานเป็นปกติจนมีความพร้อม
    แล้วจึงค่อยลุกขึ้น ก็จะทำให้ไม่ตายในเวลาเช้าตรู่ได้

    คนที่มีอายุเกินกว่า 40 ปี จำนวนหนึ่ง
    มักจะตื่นในตอนดึก เข้าห้องน้ำปัสสาวะบ้าง
    หรือตื่นขึ้นเพราะฝันร้ายบ้าง
    บางคนตกใจตื่นก็รู้สึกเหนื่อย
    แล้วพาลหัวใจวายตายไปก็มี
    ทั้งนี้ก็เป็นเพราะมีมาแต่เหตุดังได้แสดงข้างต้นนั่นเอง

    วิธีการดังที่ได้เสนอจึงสามารถใช้คุ้มรักษาตัวได้เป็นอย่างดี
    จึงนำมาแสดงไว้ในที่นี้เพื่อให้ญาติมิตรทั้งหลาย
    ได้นำไปลองใช้ลองปฏิบัติ หรือ
    ถ้าท่านยังมีวัยไม่ถึง 40 ปี รู้แล้วก็ใช่ว่า
    จะเปล่าประโยชน์เสียทีเดียว เอาไว้ใช้ในวันหน้า
    หรือบอกเล่าให้แก่ญาติผู้ใหญ่นำไปปฏิบัติก็มีแต่จะเป็นกุศลแก่ตัว

    ที่มา ::
    เป็นธรรมดาของชีวิตที่เกิดมาแล้วก็ต้องตาย
    ไม่อาจมีผู้ใดหนีรอดไปจากความตายได้
    แต่ถึงกระนั้นคนทั้งหลายก็ไม่อยากตาย
    อยากให้มีอายุมั่นขวัญยืนด้วยกันทุกคน
    เมืองไทยของเราเวลานี้ก็มีชมรมของคนที่ต้องการ
    มีอายุเกิน 100 ปีเกิดขึ้นแล้ว และจำได้ว่า
    พลเอก สายหยุด เกิดผล จะเป็นหนึ่งในคณะผู้นำของชมรมนี้
    ถ้ามองในแง่ทางธรรม ชมรมคนต้องการมีอายุเกิน 100 ปี ก็คือ
    ชมรมคนกลัวตายนั่นเอง

    แต่ถ้ามองในทางโลก
    ก็จะเห็นถึงความพยายามในการดำรงรักษา
    สุขภาพให้ยืนยาวละย่อมเป็นที่สนใจของ
    คนเราทุกคนการวิจัยพบว่า
    การตายตามธรรมชาติของคนเรา
    มีถึงร้อยละ 70 ที่ตายในเวลาเช้าตรู่
    มีเพียงร้อยละ 30 เท่านั้นที่ตายในเวลาอื่น

    ดังนั้นถ้ามีวิธีทำให้ไม่ตายในเวลาเช้าตรู่ได้
    ก็จะเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้ชีวิตยืนยาว
    ผลจากการวิจัยปรากฏว่า
    เหตุที่คนมีโอกาสตายในตอนเช้าตรู่
    มากกว่าเวลาอื่น ก็เพราะ
    ในขณะที่คนนอนหลับนั้นน้ำตาลในเลือดต่ำ
    การทำงานของหัวใจและระบบต่าง ๆ
    ของร่างกายได้ชะลอตัวลง

    มีเพียงประมาณร้อยละ 15 เท่านั้น
    ที่ยังคงทำงานตามปกติ
    ดังนั้นเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า
    หัวใจและระบบทั้งหลายของร่างกาย
    จึงยังไม่พร้อมที่จะทำงานในทันที
    เหมือนรถที่จอดนิ่งอยู่จะสตาร์ทแล้ววิ่งไปในทันใด
    ก็จะตะกุกตะกักชะงักงันแต่ร่างกายคนนั้นผิดจากรถ
    ที่เครื่องตะกุกตะกัก หรือ ดับแล้วก็สตาร์ทใหม่ได้

    เพราะ คนเราเมื่อตื่นขึ้นก็มักจะพรวดพราดลุกขึ้น
    จึงทำให้ระบบต่าง ๆ เร่งทำงานอย่างรวดเร็ว
    จึงทำให้ผู้มีอายุเลยวัย 40 ปี ปรับตัวไม่ทัน
    จึงเกิดอาการ หัวใจวายบ้าง หน้ามืดเป็นลม ตายไปบ้าง
    หรือไม่ก็หกล้มตายบ้าง
    นี่คือเหตุผลที่คนตายตามธรรมชาติถึงแก่ความตาย
    ในเวลาเช้าตรู่ถึงร้อยละ 70
    เมื่อเทียบกับการตายในเวลาอื่น

    เพราะ ตื่นแล้วรีบพรวดพราดลุกขึ้นโดยที่ระบบต่าง ๆ
    ของร่างกายยังไม่พร้อม
    แล้วเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายนั่นเอง
    เพราะ เหตุนี้เมื่อทราบผลวิจัยแล้ว
    จึงมีการคิดหาวิธีการป้องกันเหตุไม่ให้ตายในเวลาเช้าตรู่
    ซึ่งสามารถทำได้ เพราะสรรพสิ่งนั้นย่อมเกิดแต่เหตุ
    เมื่อแก้ที่เหตุได้แล้วก็จะแก้ที่ผลได้ด้วย

    ตรงกับพุทธภาษิตที่ว่า
    “ เยธัมมา เหตุปัพพะวา เตสังเหตุง ตะถาคะโต
    เตสังจะโย นิโรโธจะ เอวังวาที มหาสมะโน ”

    ซึ่งแปลว่า
    ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ
    พระตถาคตได้ตรัสถึงเหตุแห่งธรรมนั้น
    และความดับแห่งธรรมนั้น
    นั่นคือใช้วิถีทางแห่งพระพุทธศาสนาตามพระพุทธพจน์
    ในการป้องกันมิให้ถึงแก่ความตายในเวลาเช้าตรู่

    วิธีการที่เสนอก็คือ
    เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นแล้วอย่าเพิ่งรีบลุก
    ให้เริ่มต้นด้วย การสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ สัก 4-5 ครั้ง
    พร้อมกับรำลึกว่าเรานี้โชคดีหนอ ยังไม่ตาย
    และยังมีชีวิตอยู่ เพื่อจะได้ทำความดี ทำประโยชน์ตน
    ประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทต่อไป

    เป็นการเจริญธรรมแห่งความไม่ประมาทได้อีกทางหนึ่ง และ
    ทำให้จิตสงบเย็น ยกระดับภูมิธรรมแห่งจิตไปทีละขั้นอีกทางหนึ่งด้วย
    ถัดจากนั้นก็ให้พลิกตัวซ้ายขวาสลับกันอย่างช้า ๆ สัก 3-4 ครั้ง
    แล้วค่อย ๆ ยกขาทั้งสองข้างขึ้นลงสลับกันอีก 3-4 ครั้ง
    จะว่าเป็นการวอร์มร่างกายทำให้ระบบต่าง ๆ
    ของร่างกายค่อย ๆ ทำงานเป็นปกติจนมีความพร้อม
    แล้วจึงค่อยลุกขึ้น ก็จะทำให้ไม่ตายในเวลาเช้าตรู่ได้

    คนที่มีอายุเกินกว่า 40 ปี จำนวนหนึ่ง
    มักจะตื่นในตอนดึก เข้าห้องน้ำปัสสาวะบ้าง
    หรือตื่นขึ้นเพราะฝันร้ายบ้าง
    บางคนตกใจตื่นก็รู้สึกเหนื่อย
    แล้วพาลหัวใจวายตายไปก็มี
    ทั้งนี้ก็เป็นเพราะมีมาแต่เหตุดังได้แสดงข้างต้นนั่นเอง

    วิธีการดังที่ได้เสนอจึงสามารถใช้คุ้มรักษาตัวได้เป็นอย่างดี
    จึงนำมาแสดงไว้ในที่นี้เพื่อให้ญาติมิตรทั้งหลาย
    ได้นำไปลองใช้ลองปฏิบัติ หรือ
    ถ้าท่านยังมีวัยไม่ถึง 40 ปี รู้แล้วก็ใช่ว่า
    จะเปล่าประโยชน์เสียทีเดียว เอาไว้ใช้ในวันหน้า
    หรือบอกเล่าให้แก่ญาติผู้ใหญ่นำไปปฏิบัติก็มีแต่จะเป็นกุศลแก่ตัว

    ที่มา ::
    oknation.net

     

แชร์หน้านี้

Loading...