ติดตามสถานะการณ์

America: ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกเนื้อหอม สหรัฐฯ-จีน รุมจีบร่วมข้อตกลงระหว่างภูมิภาค โดยสหรัฐฯชิงดึงฟิจิเข้าร่วมข้อตกลง IPEF ที่ริเริ่มโดยโจ ไบเดนก่อนขณะหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ยังอยู่ระหว่างการเยือนภูมิภาคเพื่อระดมความร่วมมือจากกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกและหวังให้ความร่วมมือจีน-โซโลมอน เป็นแม่แบบ

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลสหรัฐฯ แถลงตอบรับฟิจิ เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 14 ของข้อตกลง กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อความเจริญรุ่งเรือง อินโด-แปซิฟิก หรือ IPEF และเป็นประเทศหมู่เกาะแถบมหาสมุทรแปซิฟิกประเทศแรก ที่เข้าร่วมกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า สหรัฐฯและฟิจิ เห็นชอบร่วมกันเพื่อสร้างภูมิภาคแห่งนี้ให้เสรี เปิดกว้าง และเจริญรุ่งเรือง อีกทั้งฟิจิมีทัศนคติที่ทรงคุณค่าในเรื่องสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงหรือภาวะโลกร้อน

การแถลงรับฟิจิเข้าเป็นสมาชิก IPEF มีขึ้น ขณะหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน อยู่ระหว่างเดินทางเยือนประเทศหมู่เกาะคิริบาติ อันเป็นส่วนหนึ่งของกำหนดการณ์เดินทางเยือนภูมิภาคแปซิฟิก 8 ประเทศ นาน 10 วัน และถูกมองว่า เป็นความพยายามขยายอิทธิพลแข่งกันของจีนและสหรัฐฯในภูมิภาค การมาเยือนภูมิภาคแปซิฟิกของหวัง อี้ ยังเกิดขึ้นพร้อมกับที่ออสเตรเลีย ส่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศไปเยือนฟิจิด้วย

โดยจีนเพิ่งลงนามข้อตกลงด้านความมั่นคงกับโซโลมอนที่ทำให้สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ต้องตื่นตระหนก ด้วยเกรงว่าจีนมุ่งหวังที่จะตั้งฐานทัพในภูมิภาคซึ่งจีนปฏิเสธ และไม่ได้มุ่งทำให้ผลประโยชน์ของคนอื่นเสียหาย

IPEF มุ่งส่งเสริมมาตรฐานเดียวกันใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย การค้า ห่วงโซ่อุปทาน พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและโครงสร้างพื้นฐาน ระบบภาษีและการปราบคอรัปชั่น ไม่ได้มุ่งหวังสู่การเปิดตลาดเหมือนข้อตกลงการค้าเสรีทั่วไป โดยสหรัฐฯ ยังไม่ยอมกลับเข้าร่วมข้อตกลงเพื่อความก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP ที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกมาในยุครัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยเหตุผลทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบและสูญเสียตำแหน่งงานไปให้ต่างประเทศ
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สหรัฐฯ #ฟิจิ
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

North Korea: ยอดรวมผู้ป่วยเป็นไข้ซึ่งสงสัยว่าเป็นการติดเชื้อโควิด-19 ในเกาหลีเหนือ เพิ่มเป็นเป็นเกือบ 3.3 ล้านคน แต่ผู้ติดเชื้อรายวันลดลงเหลือกว่า 100,000 คน ไม่ถึง 200,000 คนต่อวันเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน

สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้ รายงานในวันนี้ (27 พฤษภาคม) ว่า สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือของรัฐบาลเกาหลีเหนือ หรือ KCNA รายงานโดยอ้างสำนักงานใหญ่ป้องกันโรคระบาดฉุกเฉินรัฐบาลเกาหลีเหนือว่า พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 100,460 คนในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงเวลา 18.00 น. วานนี้ (26 พฤษภาคม) นับเป็นการพบผู้ติดเชื้อโควิดต้องสงสัยในเกาหลีเหนือ ต่ำกว่า 200,000 คนต่อวัน เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน

ส่วนผู้เสียชีวิตจากอาการเป็นไข้ เพิ่มขึ้นอีก 1 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากอาการเป็นไข้ เพิ่มขึ้นเป็น 69 คน

ทำให้ยอดรวมผู้สงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยมีอาการเป็นไข้ในเกาหลีเหนือ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3.27 ล้านคนเมื่อนับถึงเวลา 18.00 น. เมื่อวานนี้ (26 พฤษภาคม) ตั้งแต่เริ่มระบาดเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ รักษาหายแล้วกว่า 3.03 ล้านคน เหลือ 233,090 คนยังรักษาตัวอยู่

จำนวนผู้ป่วยเป็นไข้ในเกาหลีเหนือเคยพุ่งสูงสุดถึง 392,920 คนเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ตั้งแต่นั้นมา จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในเกาหลีเหนือก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากรัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศว่า สามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว

ขณะเดียวกัน KCNA รายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีเหนือในชุดป้องกันเชื้อโรคส่วนบุคคล ออกตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำ และตรวจคุณภาพอากาศในกรุงเปียงยาง เมืองหลวงเกาหลีเหนือ เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อโคโรนาไวรัส ป้องกันการระบาดของโควิด-19

ด้าน โจ โชลอึง รองหัวหน้าศูนย์อนามัยในเทศบาลเมืองและต่อต้านโรคระเบิดของกรุงเปียงยาง เปิดเผยว่า ทางการเปียงยางได้ตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำ 2 สาย เพื่อให้แน่ใจในความสะอาดของอนามัยของน้ำดื่ม และป้องกันการระบาดของโควิด-19
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #เกาหลีเหนือ #โควิด19
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Editor’s Pick: นักวิเคราะห์มองว่า ปฏิบัติการทางการทหารในยูเครน ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นไปตามแผนการที่รัสเซียวางเอาไว้ทั้ง 100% และรัสเซียเองก็พยายามอย่างยิ่งที่จะมีชัยเหนือยูเครนให้ได้โดยเร็วที่สุด

นี่คือ 5 ทางออก ที่จะ "ยุติวิกฤต" ในครั้งนี้ได้

◾◾◾
1. ปูตินเพิ่มปฏิบัติการหนักหน่วงเป็น 2 เท่าตัว และได้รับชัยชนะ

การที่รัสเซียประกาศชัดเจนว่า "นี่คือปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" นี่ไม่ใช่สงคราม คำที่ว่านี้ มีผลกระทบโดยตรงต่อเรื่องการระดมกองกำลังมาร่วมในปฏิบัติการอย่างเต็มรูปแบบ เพราะคำว่า "ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร" นั้น จำกัดจำนวนของทหารอาชีพ และทหารรับจ้าง แต่อาจไม่สามารถระดมทหารรับจ้าง และทหารจากต่างประเทศ ให้เข้ามาช่วยปฏิบัติการได้

แต่ในทางกลับกัน ยูเครนประกาศว่านี่คือสงครามอย่างเต็มรูปแบบ มีการระดมกองกำลัง ทั้งทหารที่ประจำการ, ทหารสำรอง และหน่วยรบอื่น ๆ ซึ่งไม่ขาดแคลนทั้งบุรุษและสตรี ที่พร้อมจะสู้รบเพื่อปกป้องประเทศจำนวนมาก็ประกาศว่าพร้อมที่จะร่วมเดินหน้าปกป้องประเทศ

และเมื่อไม่นานมานี้ รัฐสภายูเครนเพิ่งจะผ่านกฎหมายให้ก่อตั้งหน่วยป้องกันพรมแดน ที่ประกอบขึ้นจากกองกำลังในพื้นที่ ให้สามารถปฏิบัติการได้ไกลขึ้น และทำให้มีกองกำลังที่เข้มแข็งมากขึ้น เพื่อพร้อมสำหรับการตอบโต้ที่อาจรุนแรงขึ้น

ดังนั้น เพื่อต่อสู้กับกองกำลังทุกส่วนของยูเครน รัสเซียจำเป็นต้องมีปฏิบัติการจริงจัง และอาจถึงกับประกาศ "สงคราม" อย่างเป็นทางการ ก็เป็นได้ ซึ่งไม่กี่วันก่อน รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ และรัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ต่างมองว่ามีโอกาสสูงที่รัสเซียจะทำเช่นนั้น เพื่อหวังจะประกาศชัยชนะในวิกฤตครั้งนี้ให้ได้

◾◾◾
2. ปูตินเพิ่มปฏิบัติการหนักหน่วงเป็น 2 เท่าตัว และเจรจา

นอกเหนือจากตรรกะทางทหารแล้ว การ "เจรจา" คืออีกทางออกสำคัญที่จะช่วยยุติวิกฤตได้ ซึ่งข้อตกลงที่รัสเซียต้องการคือ พื้นที่ไครเมีย, ดอนบาส และแถบตอนใต้ของยูเครน ให้อยู่ในครองครองของรัสเซีย

และยูเครนจะต้องวางตัวเป็นกลาง ซึ่งจะให้เป็นเช่นนั้นได้ รัสเซียก็อาจต้องเพิ่มมาตรการทางทหารให้มากขึ้น เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ

◾◾◾
3. ปูตินเพิ่มปฏิบัติการหนักหน่วงเป็น 2 เท่า แต่พ่ายแพ้

หากลองวิเคราะห์ดูแล้ว มีบางเหตุผลที่จะอธิบายได้ว่า เหตุใดปูตินจึงไม่เดินหน้าประกาศสงครามเต็มรูปแบบ นอกเหนือไปจากข้อเท็จจริงที่ว่า เขาต้องเผชิญกับแรงต่อต้านมากขนาดไหนต่อการรุกรานยูเครน

และหากเขาประกาศสงครามเต็มรูปแบบ ก็อาจยิ่งทำให้เผชิญกับแรงต่อต้านในประเทศมากขึ้นไปอีก

และหากประกาศเช่นนั้นแล้ว ปูตินจะลงจากหลังเสือไม่ได้

◾◾◾
4. รัสเซีย "แช่แข็ง" สงคราม

ตอนนี้ ปูตินจะต้อง "รอบคอบ" มากขึ้น และอาจจะมากขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากมองรอบ ๆ แล้วความเสี่ยงต่าง ๆ ยังคงมี ดังนั้น เพื่อความแน่ใจ ว่าอาจจะมีโอกาสที่เกิดความล้มเหลวในปฏิบัติการ รัสเซียจึงต้องมีการคิดทบทวนมากขึ้น

แทนที่จะเพิ่มปฏิบัติการภาคพื้น รัสเซียอาจเดินหน้า "ล็อก" พรมแดน หรือพื้นที่ที่สามารถควบคุมได้แล้ว

ยูเครนก็ใช้กำลังตอบโต้อย่างเต็มกำลัง เพื่อต่อสู้ให้ได้พรมแดนกลับคืนมา แต่แน่นอนว่านั่นนำมาสู่ความสูญเสียต่อเศรษฐกิจอย่างมาก และมากกว่ารัสเซียเสียอีก แม้ว่ารัสเซียจะโดนคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากนานาประเทศ

ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เศรษฐกิจของยูเครนอาจหดลงถึง 45% แต่ขณะเดียวกัน ประเมินว่าเศรษฐกิจรัสเซียอาจหดตัวลง 15%

การแช่แข็งความขัดแย้ง เป็นหนึ่งในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซีย ที่จะช่วยสลายกองกำลังของตะวันตกได้ และเมื่อการต่อสู้มันกระจายไปตามจุดต่าง ๆ ความสนใจของสื่อก็อาจเปลี่ยนไปยังจุดวิกฤตอื่น ๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับซีเรีย และยูเครนในปี 2014 ซึ่งหากขาดซึ่งการให้ความสำคัญแล้ว รัสเซียก็อาจขยายตัวได้

◾◾◾
5. ยูเครนชนะ

นักวิเคราะห์มองว่า มีโอกาสที่ยูเครนจะชนะได้ เพราะกองกำลังของรัสเซียดูท่าจะเหน็ดเหนื่อย จากปฏิบัติการตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังจำเป็นต้องรักษาพื้นที่ที่ตนเองควบคุมได้เอาไว้ให้ได้

นักวิเคราะห์ระบุว่า กองกำลังของยูเครนเองก็สร้างความสูญเสียให้รัสเซียไม่น้อย แม้ปฏิบัติการจะจำกัด แต่ก็ไม่เลวนัก อีกทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งการที่รสัเซียไม่ประกาศสงครามเต็มรูบแบบ ก็อาจทำให้รัสเซียติดหล่มอยู่กับกองกำลังที่เหนื่อยล้า และไม่รวดเร็วเพียงพอที่จะรักษาผลประโยชน์ของตัวเองได้
—————
แปล-เรียบเรียง: สันติ สร้างนอก และ สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #EditorsPick #ยูเครน #รัสเซีย #สงคราม
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline

ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.aljazeera.com/opinions/2022/5/24/what-is-putins-end-game-in-ukraine
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Russia-Ukraine War: ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ยอมรับในวันพฤหัสบดี (27 พฤษภาคม) ว่า มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย กำลังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน แต่ก็บอกว่า พวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในการตัดขาดรัสเซียจากเทคโนโลยี

ปูติน กล่าวผ่านวิดีโอลิงก์ ไปยังผู้นำในประเทศอดีตสหภาพโซเวียตว่า รัสเซียจะยังคงพยายามหาสินค้าทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศที่ไม่มีจำหน่ายอีกต่อไป แม้ว่าจะไม่ใช่ "ยาครอบจักรวาลที่สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ทั้งหมด"

นอกจากนี้ รัสเซียยังมีความก้าวหน้าในการออกกฎหมายฉบับใหม่ อนุญาตให้เข้าควบคุมธุรกิจในท้องถิ่นของบริษัทชาติตะวันตก ที่ตัดสินใจถอนการลงทุนออกจากรัสเซียไป หลังรัสเซียบุกยูเครน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงสำหรับบริษัทข้ามชาติที่กำลังพยายามจะถอนตัวออกไปด้วย

กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ จะให้อำนาจรัสเซียเข้าแทรกแซง ในกรณีที่มีภัยคุกคามต่องานหรืออุตสาหกรรมในท้องถิ่น ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้นสำหรับบริษัทตะวันตกที่จะแก้ปัญหาให้ตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เว้นแต่พวกเขาจะเตรียมพร้อมรับผลกระทบทางการเงินครั้งใหญ่

บริษัทชาติตะวันตกจำนวนมาก ถอนตัวออกจากรัสเซีย ตามมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อพุ่งเป้าเล่นงานเศรษฐกิจและธุรกิจของรัสเซีย

ทั้งนี้ รัสเซียถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นจากชาติตะวันตก ตั้งแต่ส่งทหารบุกเข้าไปในยูเครนเมื่อ 3 เดือนก่อน ซึ่งเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร”

ปูติน กล่าวผ่านโทรทัศน์ว่า แน่นอน ตัวแทนธุรกิจของรัสเซีย เผชิญปัญหามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคห่วงโซ่อุปทาน และการขนส่ง แต่อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ทุกอย่างสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ ผู้นำรัสเซีย กล่าวอีกว่า การถอนตัวออกไปจากตลาดรัสเซียของบริษัทต่างชาติบางแห่ง อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

เขายอมรับว่า รัสเซียจำเป็นต้องเข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศ รัสเซียจะไม่ตัดขาดตัวเองออกจากสิ่งนี้ ชาติตะวันตกต้องการบีบคั้นรัสเซีย แต่ในโลกสมัยใหม่ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่เป็นไปตามสภาพความเป็นจริง

อย่างไรก็ตาม ปูตินไม่ได้ให้รายละเอียดว่า รัสเซียจะหาวิธีการเพื่อให้เข้าถึงส่วนประกอบและซอฟต์แวร์ของตะวันตกได้อย่างไร

ปูติน ซึ่งดูเหมือนว่าจะหมายถึงสหรัฐฯ กล่าวว่า ไม่มี "ตำรวจโลก" จะประสบความสำเร็จในการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อให้หลายประเทศ เช่นรัสเซีย, จีนและประเทศอื่น ๆ ที่ดำเนินนโยบายอิสระ อ่อนแอลง
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สงคราม #รัสเซีย #ยูเครน
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

America: องค์กรทรัสต์ ฟอร์ อเมริกา เฮลธ์ (TFAH) ของสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานพบว่า การเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์, ยาเสพติด และการฆ่าตัวตาย คร่าชีวิตชาวอเมริกันรวม 186,763 คน ในปี 2020 คิดเป็นอัตรารวมเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการใช้สารเสพติดยังแตะระดับสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ในปีเดียว

TFAH ระบุว่า แม้การเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์ ยาเสพติด และฆ่าตัวตาย เพิ่มขึ้นมาตลอดหลายทศวรรษ แต่ตัวเลขที่พุ่งสูงในปี 2020 นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยแรงหนุนจากอัตราการเสียชีวิตจากยาเสพติดที่เพิ่มขึ้น 30% และอัตราการเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้น 27%

อัตราการเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์ ยาเสพติด และการฆ่าตัวตายรวมกัน เพิ่มขึ้นใน 50 รัฐทั่วประเทศ ยกเว้นนิวแฮมป์เชียร์ ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ 2 รัฐ อย่างเวสต์เวอร์จิเนียและนิวเม็กซิโก รายงานพบผู้เสียชีวิตจาก 3 สาเหตุข้างต้นรวมกันเกิน 100 ราย ต่อประชากร 100,000 คนในปีเดียว

เบนจามิน เอฟ มิลเลอร์ ประธานมูลนิธิเวลล์ บีอิง ทรัสต์ (Well Being Trust) ผู้ร่วมสนับสนุนข้อมูลเหล่านี้กล่าวว่า เราต้องถามตัวเองว่าควรจัดการอย่างไรให้จริงจังและครอบคลุม ท่ามกลางแนวโน้มที่กำลังดำเนินไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ข้อมูลการเสียชีวิตเหล่านี้เกินกว่าคำว่าหายนะและเศร้าโศกสำหรับทุกครอบครัวที่ประสบกับความสูญเสีย

ทั้งนี้ องค์กรฯ และมูลนิธิฯ แห่งนี้ รายงานการเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์ ยาเสพย์ติด และการฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพน อิน เดอะ เนชัน (Pain in the Nation) ตั้งแต่ปี 2017 โดยในรายงานครั้งแรกพบว่าการเสียชีวิตจาก 3 สาเหตุดังกล่าว รวมอยู่ที่ 55,403 รายต่อปี เทียบกับตัวเลขการเสียชีวิตในปีนี้ ซึ่งสูงถึง 186,763 ราย
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สหรัฐฯ #ฆ่าตัวตาย
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Monkeypox: พบผู้ติดเชื้อและสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิงแล้วกว่า 300 คนในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โมร็อกโก, ซูดานเป็น 2 ประเทศล่าสุดที่พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง ทวีปแอฟริกายืนยันแล้วกว่า 1,400 คน นักวิทยาศาสตร์เตือนจำนวนผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในสหราชอาณาจักร อาจพุ่งขึ้นถึงหลายร้อยคน ก่อนจะคุมการระบาดได้ โตรอนโตของแคนาดยืนยันผู้ติดเชื้อคนแรก

สถานการณ์ไวรัสฝีดาษลิงทั่วโลก ข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO พบผู้ติดเชื้อยืนยันหรือสงสัยว่าจะติดเชื้อฝีดาษลิงแล้วกว่า 300 คนในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วกว่า 200 คน และอีกกว่า 100 คนสงสัยว่าจะติดเชื้อ โดยพบในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และภูมิภาคตะวันออกกลาง

ส่วนที่สหราชอาณาจักร นักวิทยาศาสตร์หลายคนที่กำลังรับมือกับการระบาดของฝีดาษลิงในสหราชอาณาจักรเตือนว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในสหราชอาณาจักร อาจจะทะยานขึ้นไปถึงจำนวนหลายร้อยคนได้ ก่อนที่จะควบคุมการระบาดได้ และเชื่อว่า จะไม่ระบาดรุนแรงเหมือนโควิด-19

ส่วนสถานการณ์ล่าสุดในสหราชอาณาจักร ยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มทั่วประเทศ ทั้งในอังกฤษยืนยันแล้ว 8 คน สก็อตแลนด์ยืนยันเพิ่ม 2 คน เวลส์และไอร์แลนด์เหนือยืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกของภูมิภาค ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในสหราชอาณาจักรล่าสุด เพิ่มเป็น 90 คน

รัฐบาลสหราชอาณาจักรใช้หลายมาตรการรับมือกับฝีดาษลิงตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สั่งซื้อวัคซีนต้านฝีดาษในคนแล้ว 20,000 เข็ม ซึ่งสามารถใช้รักษาฝีดาษลิงได้ด้วย และเพื่อป้องกันการติดเชื้อฝีดาษลิง ออกมาตรการแยกกักตัว 21 วันสำหรับผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว และติดตามกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ

ส่วนที่แคนาดา หน่วยงานสาธารณสุขนครโตรอนโต ยืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรก หลังพบเคสต้องสงสัย 3 คน แต่อีก 2 คนผลตรวจเป็นลบคือไม่ติดเชื้อ แต่พบเคสต้องสงสัยเพิ่มอีก 3 คน รวมพบผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วและต้องสงสัยทั้งหมด 6 คนในโตรอนโต

ผู้ติดเชื้อรายแรกของโตรอนโต ขณะนี้รักษาตัวในโรงพยาบาล มีอาการคงที่และกำลังฟื้นตัว

ทางการโตรอนโตกระตุ้นเตือนชาวโตรอนโตให้สังเกตอาการหากสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง และแจ้งต่อทางการทันที หรือหากสงสัยว่าสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง ให้แยกกักตัวเองเพื่อสังเกตอาการ 21 วัน และเข้ารับการตรวจเชื้อฝีดาษลิงด้วย

ส่วนโมร็อคโกและซูดานในทวีปแอฟริกา เป็น 2 ประเทศล่าสุดที่พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง หลายคน กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนโรค

ปกติแล้ว การพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงนอกทวีปแอฟริกา จะเกิดขึ้นเนื่องจากการเดินทาง แต่ด็อกเตอร์อาห์เหม็ด อ็อกเวลล์ รองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา หรือ CDC แอฟริกา ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายคนไม่พบความเชื่อมโยงโดยตรง กับการเดินทางไปแอฟริกากลางและตะวันตก ซึ่งมีไวรัสฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่น

ดอกเตอร์อ็อกเวลล์เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ทวีปแอฟริกาพบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง 1,405 คนในปีนี้ ในจำนวนนี้เสียชีวิต 62 คน จำนวนผู้เสียชีวิตคิดเป็นอัตราส่วน 4.4% ของจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยพบใน 4 ประเทศแอฟริกาที่ฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่น คือ แคเมอรูน สาธารณรัฐแอฟริกากลาง คองโก และไนจีเรีย และล่าสุดคือโมร็อกโกและซูดานดังกล่าวข้างต้น

ขณะนี้ ทวีปแอฟริกาเริ่มใช้วัคซีนต้านฝีดาษในคน ป้องกันการระบาดของฝีดาษลิง และได้เริ่มฉีดวัคซีนต้านฝีดาษในคน ให้แก่กลุ่มเสี่ยงแล้ว คือประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง และบุคลากรการแพทย์ CDC แอฟริกาได้แจ้งเตือนทุกประเทศในทวีปแอฟริกาได้ ให้เฝ้าระวังและตรวจเชื้อไวรัสฝีดาษลิงแล้ว.
————
ภาพ: Getty Images

#TNNWorldNews #ฝีดาษลิง #โรคระบาด
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Monkeypox: รัฐบาลสหรัฐฯ แถลงในวันพฤหัสบดีว่า พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง 9 รายใน 7 รัฐ ซึ่งมีบางคนที่ไม่เคยมีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศด้วย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือซีดีซี แถลงสถานการณ์การระบาดของโรคฝีดาษลิงว่า จนถึงวันพุธ (25 พฤษภาคม) ที่ผ่านมา สหรัฐฯยืนยันมีผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง 9 คนในรัฐแมสซาชูเซตส์, ฟลอริดา, ยูทาห์, วอชิงตัน, แคลิฟอร์เนีย, เวอร์จิเนียและนิวยอร์ก

โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการของซีดีซี ระบุในการแถลงข่าวว่า ส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อทั่วโลกขณะนี้ อาการไม่รุนแรง ซึ่งอาการปกติก็เป็นไข้ และมีผื่นขึ้นเป็นรอยชัดเจน สำหรับผู้ติดเชื้อทั้งหมดในสหรัฐฯ อยู่ในกลุ่มเกย์, กลุ่มชายรักชาย และชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย

มากกว่า 20 ประเทศ ที่ไม่ได้กำหนดให้โรคฝีดาษลิงเป็นโรคเฉพาะถิ่น มีรายงานพบการระบาดอย่างรวดเร็ว โดยยืนยันมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 200 คน และต้องสงสัยติดเชื้ออีกมากกว่า 100 คน ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป องค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ เพิ่มการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง

สหรัฐฯ รายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรกในรัฐแมสซาชูเซตส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะพบในรัฐอื่น ๆ และคาดว่าน่าจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #ฝีดาษลิง #สหรัฐฯ
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Russia-Ukraine War: ประธานธนาคารโลก เตือนสงครามในยูเครน อาจทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่วนราคาอาหาร, พลังงานและปุ๋ย ก็เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

เดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลก (World Bank) เตือนว่า สงครามในยูเครนอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ราคาอาหาร, พลังงานและปุ๋ย พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยมัลพาสส์ กล่าวในงานธุรกิจสหรัฐฯงานหนึ่งในวันพุธว่า มันเป็นความลำบากที่พวกเราจะหลีกเลี่ยงปัญหาเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างไร

เขากล่าวด้วยว่า มาตรการปิดเมืองควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายระลอกในจีน กำลังเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจชะลอตัว โดยถ้อยแถลงของเขาเป็นคำเตือนล่าสุดเกี่ยวกับความเสี่ยงที่กำลังเพิ่มขึ้นว่า เศรษฐกิจโลกอาจหดตัว แต่เขาก็ไม่ได้คาดการณ์อะไรเป็นพิเศษ

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิดเรื่องราคาพลังงานที่เพิ่มเป็นสองเท่า ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิดภาวะถดถอยได้ด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารโลกได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกสำหรับปีนี้ ลงเกือบหนึ่งเปอร์เซ็นต์เต็ม เหลืออยู่ที่ 3.2%

มัลพาสส์ กล่าวอีกว่า หลายประเทศในยุโรป ยังคงพึ่งน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียมากเกินไป แม้ว่าชาติตะวันตกเดินหน้าแผนการลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียก็ตาม เขากล่าวต่อที่ประชุมหอการค้าสหรัฐฯผ่านออนไลน์ว่า การเคลื่อนไหวของรัสเซีย ในการลดการส่งก๊าซอาจทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคชะลอตัวลงอย่างมาก

ประธานธนาคารโลก กล่าวว่า ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ถาโถมเข้าใส่เยอรมนีเรียบร้อยแล้ว โดยเยอรมนี เป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป และใหญ่อันดับ 4 ของโลก ขณะเดียวกัน ประเทศกำลังพัฒนา ก็กำลังได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนปุ๋ย, อาหารและพลังงานด้วย

มัลพาสส์ เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับมาตรการจำกัดพื้นที่ในหลายเมืองใหญ่ของจีน รวมทั้งนครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางการเงิน, การผลิตและขนส่ง ซึ่งเขาบอกว่าทำให้เกิดการชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อโลก คลื่นการระบาดของไวรัสโควิด ทำให้ทางการประกาศจำกัดพื้นที่ ซึ่งยิ่งลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตสำหรับจีน

ด้านนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน กล่าวว่า จีน ประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้รับผลกระทบหนักขึ้นจากการจำกัดพื้นที่รอบล่าสุด มากกว่าช่วงเริ่มต้นการระบาดของโควิดในปี 2020
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สงคราม #รัสเซีย #ยูเครน
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

https://www.facebook.com/3514954092...y4T4XWXwc54niiov9GYqpKnzBBvDAHWCN56Q2g3LKjFl/

 

America: ‘โจ ไบเดน’ ลงนามในหนังสือคำสั่งประธานาธิบดี เกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ ในโอกาสครบ 2 ปี ของคดีตำรวจฆาตกรรม ‘จอร์จ ฟลอยด์’ ขณะถูกตำรวจ 3 นายเข้าจับกุมในเมืองมินนิอาโปลิส จนนำมาซึ่งกระแสเรียกร้องสิทธิคนผิวดำ และต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ

ประธานาธิบดี ‘โจ ไบเดน’ ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีว่าด้วยการปฏิรูปตำรวจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรับผิดชอบและข้อปฏิบัติทางยุติธรรมคดีอาญา เพื่อเพิ่มความไว้วางใจและความปลอดภัยของสาธารณชน ในโอกาสครบรอบ 2 ปีที่ ‘จอร์จ ฟลอยด์’ ชาวอเมริกันผิวดำถูกตำรวจเมืองมินนิอาโปลิสใช้เข่ากดทับคอนาน 9 นาที ขณะเข้าจับกุมจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา โดยมี ‘จีอันนา ฟลอยด์’ ลูกสาววัย 10 ขวบของ ‘ฟลอยด์’ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีด้วย

ไบเดนกล่าวว่าคำสั่งประธานาธิบดีฉบับนี้ จะนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจครั้งสำคัญที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ 100,000 นาย

คำสั่งประธานาธิบดีฉบับนี้ กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลกลางปรับปรุงนโยบายการใช้กำลังของตำรวจ โดยห้ามการล็อกหรือกดทับคอ และจำกัดการใช้หมายค้นโดยไม่แจ้งหรือเคาะประตูบ้าน ซึ่งไบเดนหวังว่าตำรวจระดับท้องถิ่นจะปรับเปลี่ยนนโยบายเรื่องนี้ให้สอดคล้องกัน

นอกจากนี้คำสั่งยังกำหนดให้จำกัดการจัดส่งพาหนะหรือยุทโธปกรณ์ของกองทัพให้ตำรวจ รวมทั้งสร้างฐานข้อมูลระดับประเทศเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อการบังคับใช้กฎหมาย ที่กำหนดให้หน่วยบังคับใช้กฎหมายทั้งหมดของรัฐบาลกลางรายงานข้อมูลสู่ระบบ ซึ่งรวมถึงประวัติการก่ออาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ ประวัติการยิงปืน และข้อร้องเรียน หรือประวัติการกระทำผิดวินัยร้ายแรงของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้หน่วยงานระดับท้องถิ่นหรือรัฐเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้

การออกคำสั่งประธานาธิบดีมีขึ้นหลังจากความพยายามผลักดันกฎหมายปฏิรูปตำรวจในรัฐสภาหยุดชะงักในช่วงสองปีที่ผ่านมา และไบเดนกล่าวโทษว่าเป็นเพราะวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันคว่ำร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจ ที่ผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #อเมริกา #จอร์จฟลอยด์ #ตำรวจ
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

https://www.facebook.com/3514954092...mLeUPjeiPHcNbUzKZd6sAPPJHtz5AvvjGdGhNZiszcql/

 

China: หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน หวังให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับโซโลมอน กลายเป็นแม่แบบให้กับกลุ่มประเทศหมู่เกาะอื่น ๆ ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก

หวัง อี้ กล่าวแสดงท่าทีดังกล่าวระหว่างการเริ่มเดินทางเยือนภูมิภาคแปซิฟิก นาน 10 วัน โดยเดินทางเยือน 8 ประเทศในภูมิภาค เริ่มต้นที่โซโลมอนเป็นประเทศแรกท่ามกลางการจับตามองใกล้ชิดของออสเตรเลียและสหรัฐฯ ที่กำลังเพ่งเล็งการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค

ตามแถลงการณ์บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของจีน หวัง อี้ ระบุด้วยว่า ไซโลมอนได้รับสถานะหุ้นส่วนที่จริงใจและเชื่อถือได้ เมื่อได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน โดยโซโลมอนได้ยกเลิกความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและหันมาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแทน เมื่อปี 2019

ข่าว ระบุด้วยว่า จีนจะมุ่งหาข้อตกลงทั่วทั้งภูมิภาคแปซิฟิกกับกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิกเกือบ 12 ประเทศ ครอบคลุมความร่วมมือด้านรักษาความสงบ ความมั่นคง และข้อมูลข่าวสาร เมื่อหวังจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมที่ประเทศฟิจิ ในสัปดาห์หน้า
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #จีน #โซโลมอน
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

May 27, 2022 สองล้อไม่ไหว! กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ผนึกกำลังบุก ก.พลังงาน ยื่นหนังสือแก่รัฐมนตรีฯ เยียวยาน้ำมันแพง
.
กลุ่มเครือข่ายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพง ประกอบด้วยกลุ่มไรเดอร์ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง พนักงานส่งเอกสาร และสินค้า จำนวนหลายร้อยคัน นัดรวมตัวกันที่แยกราชประสงค์ ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังกระทรวงพลังงาน เพื่อยื่นหนังสือถึงนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อขอให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพงโดยข้อเรียกร้องประกอบด้วย
.
1. ขอให้รัฐบาลลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ลง 5 บาทต่อลิตร ทันทีเป็นระยะเวลา 6 เดือน

2. ให้ตรีงราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ไว้ไม่เกิน 38 บาทต่อลิตร ตลอดปี 2565
.
3. งดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ในส่วนของแก๊สโซฮอล์ จนกว่าราคาน้ำมันในกลุ่มนี้จะต่ำกว่า 38 บาทลิตร
.
4. ขอให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เพื่อลดค่าครองชีพให้กับผู้ใช้รถยานยนต์กว่า 20 ล้านคันทั่วประเทศ
.
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งโต๊ะให้กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เจรจากับปลัดก.พลังงานผ่านระบบวิดิโอคอล โดย ก.พลังงาน รับข้อเสนอไปพิจารณา ขณะที่ผู้ขับขี่ขีดเส้นให้กระทรวงพลังงานพิจารณาข้อเรียกร้อง ภายใน 7 วัน
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3NATEmY
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ไรเดอร์ #วินมอเตอร์ไซค์ #พนักงานส่งเอกสาร #เงินเฟ้อ #น้ำมันแพง #เศรษฐกิจ #BTimes

 

May 27, 2022 ลดครั้งที่ 2! โตโยต้าลดผลิตรถยนต์ทั่วโลกเพิ่มอีก 50,000 คัน ประกาศ 2 ครั้งในสัปดาห์นี้
.
บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประกาศในวันที่ 27 พ.ค. ว่า บริษัทจะปรับลดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลงอีก 50,000 คัน สู่ระดับ 800,000 คันในเดือน มิ.ย. นับเป็นการปรับลดครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนครเซี่ยงไฮ้ในจีนยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19
.
โดยคาดว่าจะยังคงผลิตรถยนต์ทั่วโลกได้ประมาณ 9.7 ล้านคันภายในปีงบการเงินปัจจุบัน และคาดว่าทางบริษัทอาจจะปรับลดตัวเลขดังกล่าวลงอีก โดยก่อนหน้านี้โตโยต้าได้ประกาศระงับการผลิตรถยนต์ในบางโรงงานในญี่ปุ่นในสัปดาห์ช่วงต้นเดือน มิ.ย. ซึ่งมาตรการล็อกดาวน์ของจีน ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ประสบปัญหาการขาดแคลนไมโครชิป
.
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร (24 พ.ค.) โตโยต้าได้ประกาศปรับลดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลง 100,000 คัน สู่ระดับ 850,000 คันในเดือน มิ.ย. เนื่องจากปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ดังนั้นขณะนี้บริษัทปรับลดการผลิตรถยนต์ในเดือน มิ.ย.ลง 150,000 คันแล้ว
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/39Ww5qa
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#โตโยต้า #รถยนต์ #การผลิตรถ #TOYOTA #ธุรกิจ #ล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ #โควิด19 #BTimes

 

May 27, 2022 ติดจากไหน! สหรัฐเจอโรคฝีดาษลิงกระจายแล้วถึง 7 รัฐ พบบางรายไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ
.
โรเชลล์ วาเลนสกี Dr. Rochelle Walensky ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ได้เผยถึงการระบาดของโรคฝีดาษลิงในสหรัฐฯ ว่ามียืนยันมีผู้ติดเชื้อไวรัสโรคฝีดาษลิงจำนวน 9 คน ในรัฐแมสซาชูเซตส์, ฟลอริดา, ยูทาห์, วอชิงตัน, แคลิฟอร์เนีย, เวอร์จิเนียและนิวยอร์ก ซึ่งส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง มีไข้ และมีผื่นขึ้นเป็นรอยชัดเจน โดยตอนนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อทั้งหมดในสหรัฐฯ ในกลุ่มเกย์, กลุ่มชายรักชาย
.
โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ รายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรกในรัฐแมสซาชูเซตส์ ก่อนที่จะพบในรัฐอื่น ๆ และคาดว่าน่าจะพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้ทั่วโลกได้มีการยืนยันผู้ติดเชื้อมากกว่า 200 คน และต้องสงสัยติดเชื้ออีกมากกว่า 100 คน ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป โดยองค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เพิ่มการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิงมากขึ้น แต่ในไทยยังไม่มีรายงานการระบาดของโรค
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3wPVF9c
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#สหรัฐอเมริกา #ฝีดาษลิง #โรคฝีดาษลิง #monkeypox #เชื้อไวรัส #BTimes

 

LIFE: ‘ความร้อนกำลังคร่าชีวิตพวกเรา’ เมืองในปากีสถานร้อนระอุ อุณหภูมิแตะ 51 องศาฯ ในระหว่างที่โรงพยาบาลมีจำนวนผู้ป่วยโรคลมแดดเพิ่มสูง คาดเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนและการตัดไม้ทำลายป่า
.
“เมื่อก่อน เมืองของเราเคยเต็มไปด้วยต้นไม้ เราไม่เคยมีปัญหาขาดแคลนน้ำ และเราก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะช่วยให้เราคลายร้อน แต่มาวันนี้ เราไม่มีสิ่งเหล่านั้นแล้ว ผมกลัวว่าความร้อนจะคร่าชีวิตพวกเราในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้” Muhammad Akbar ชายวัย 40 ปี ที่ทำอาชีพขายถั่วลูกไก่อยู่บนรถเข็น ในเมือง Jacobabad ประเทศปากีสถาน กล่าว
.
ปีนี้ ทั้งอินเดียและปากีสถานต่างต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน และสภาพอากาศที่ร้อนระอุ โดยเมืองที่ Akbar อาศัยอยู่นั้น ในตอนนี้ มีอุณหภูมิสูงถึง 51 องศาเซลเซียส ทั้ง ๆ ที่โดยปกติแล้ว ฤดูร้อนมักจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี ทว่านี่กลับเป็นครั้งแรก ที่อากาศเริ่มร้อนระอุมาตั้งแต่เดือนมีนาคม และคาดว่าจะลากยาวไปถึงสิงหาคม
.
Sardar Sarfaraz นักอุตุนิยมวิทยา จากกรมอุตุนิยมวิทยาปากีสถานเล่าว่าตอนนี้ “Jacobabad กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ร้อนที่สุดในโลก” และฤดูร้อนที่มาเยือนเร็วผิดปกตินั้น ถือเป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก ๆ โดยบางฝ่ายคาดว่า สภาพอากาศร้อนน่าจะเกิดจากภาวะโลกร้อน และการตัดไม้ทำลายป่า ที่เคยมอบร่มเงาให้กับชาวเมืองในอดีต
.
Akbar เล่าว่ารัฐบาลไม่ได้ใส่ใจกับปัญหาเหล่านี้ และสำหรับชาวเมืองหลายคน พวกเขาจำต้องออกไปเผชิญหน้ากับอากาศที่ร้อนระอุ เพราะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ในระหว่างที่หมอจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน Jacobabad เผยว่าขณะนี้ โรงพยาบาลมีผู้ป่วยโรคลมแดดประมาณ 50 - 60 รายต่อวัน ซึ่งเกินกว่าที่จะรับมือได้
.
Mohammad Shaaban นักเคลื่อนไหวทางสังคมได้ออกมาแสดงความกังวล พร้อมเล่าว่า พวกเขาเคยออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานท้องถิ่นช่วยเหลือประชาชนหลายครั้งแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไร “เรากังวลว่าไม่กี่ปีต่อจากนี้ Jacobabad จะไม่สามารถเป็นบ้านของพวกเราได้อีกต่อไป”

ที่มา
https://www.theguardian.com/environ...B6raDFSs_zlQ8XyMOzFByCLnKgTMLusoNu4&fs=e&s=cl

 

UNDERWATER: นักวิจัยค้นพบปลาสองชนิดใหม่ในลุ่มแม่น้ำแอมะซอนในบราซิล หวั่นใกล้สูญพันธุ์จากภัยคุกคามรอบด้าน ชี้ปัจจุบันป่าแอมะซอนถูกคุกคามหนัก จากการตัดไม้ทำลายป่า การขยายพื้นที่ทำการเกษตร และการทำเหมือง
.
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นักวิจัยตีพิมพ์งานศึกษาที่ระบุถึง การค้นพบปลาสองชนิดใหม่ ใน
วงศ์ย่อยที่รู้จักกันว่า South American darters (ดาร์เตอร์) ภายในลุ่มแม่น้ำแอมะซอน โดยปลาสองสายพันธุ์ใหม่นี้ ได้แก่ Poecilocharax callipterus ที่มีครีบยาวสีส้มอมแดง และมีจุดสีเข้มใกล้กับหาง และ Poecilocharax rhizophilus ปลาดาร์เตอร์ขนาดเล็กที่สุด (ประมาณ 2 เซนติเมตร) ซึ่งมีจุดเด่นเป็นครีบสีเหลืองและท้องสีเงิน
.
อันที่จริงแล้วปลาทั้งสองชนิดนี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรก ระหว่างที่ Murilo Pastana นักวิจัยจาก Smithsonian National Museum of Natural History พร้อมกับนักวิจัยคนอื่น ๆ เดินทางไปสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพของปลาน้ำจืด ในลุ่มแม่น้ำ Madeira ในช่วงปี 2015 ถึง 2016 โดยพวกเขาได้เดินทางเข้าไปสำรวจจุดที่ยังไม่เคยมีนักวิจัยคนไหนเข้าไปถึงมาก่อน
.
แต่หลังจากที่นักวิจัยดึงแหขึ้นจากน้ำ พวกเขาก็ต้องตกตะลึง เพราะได้พบกับปลาชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อน “ปลาในสกุล Poecilocharax ได้รับการจำแนกเป็นครั้งสุดท้ายในปี 1965 นั่นมันมากกว่าครึ่งศตวรรษที่แล้วเชียวนะ” Pastana กล่าว หลังจากนั้น นักวิจัยได้ทำการถ่ายรูปและเก็บตัวอย่างปลาเพื่อส่งไปวิจัยต่อที่ University of São Paulo
.
โดยนักวิจัยพบ P. rhizophilus ตัวเล็กจิ๋วพุ่งตัวไปมาระหว่างรากไม้ภายในลำธารขุ่น ๆ ส่วน P. callipterus นั้น พวกเขาพบแค่ในลำธารแห่งเดียวที่มีเนื้อที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น แม้จะเพิ่งถูกค้นพบไปไม่นาน แต่นักวิจัยก็กังวลว่าปลาทั้งสองชนิดนี้กำลังจะสูญพันธุ์ เนื่องจากพวกมันมีแถบอาศัยที่ค่อนข้างแคบ และอาจกลายเป็นที่สนใจของตลาดปลาสวยงามได้
.
อย่างไรก็ดี Pastana กล่าวว่า ข้อมูลที่พวกเขาเก็บได้ระหว่างการสำรวจครั้งนี้ น่าจะเพียงพอต่อการขึ้นทะเบียนปลาทั้งสองสายพันธุ์เป็นสัตว์ที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ตามเกณฑ์ของ IUCN แต่เขาเชื่อว่า P. callipterus ควรได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤต
ในขณะเดียวกัน ป่าแอมะซอนเองก็นับว่าอยู่ในสถานะที่น่าเป็นห่วง เพราะว่ากำลังถูกคุกคามจากการทำเหมือง การตัดไม้ทำลายป่า และการขยายพื้นที่ทำการเกษตร โดยทั้งหมดนี้ปราศจากการบังคับใช้กฎหมาย
.
“จุดมุ่งหมายหลักของผมในตอนนี้ คือการมอบชื่อให้กับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้รับการจำแนก เพราะผมหวังว่าสัตว์เหล่านี้จะมีชื่อเรียก ก่อนที่แหล่งอาศัยของพวกมันจะถูกทำลายไป” Pastana กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา
https://edition.cnn.com/2022/05/18/world/amazon-new-fish-species-scn/index.html

งานวิจัย
https://academic.oup.com/zoolinnean...0.1093/zoolinnean/zlac026/6582520?login=false

ขอบคุณภาพจาก: Ohara W. M., Pastana, M., Camelier, P., 2022

 

LIFE: นักวิทยาศาสตร์สร้างหุ่นยนต์เดินได้แบบควบคุมผ่านรีโมท ที่มีขนาดเล็กที่สุด ขนาดเล็กเพียง 0.5 มิลลิเมตร
.
หุ่นยนต์ขนาดเล็ก มีประโยชน์และศักยภาพหลายอย่าง ทั้งการช่วยในการผ่าตัด หรือซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ไม่ส่วนที่เครื่องมืออื่นๆไม่สามารถเข้าถึงได้
.
ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จาก Northwestern University ได้พัฒนาหุ่นยนต์แบบเดินได้ขนาดจิ๋วที่สุด โดยการเดินเหมือนลักษณะเหมือนปู โดยชี้ว่าเทคนิคที่พวกเขาพัฒนานั้น สามารถพัฒนาหุ่นยนต์ขนาดเล็กในรูปแบบใดก็ได้ตามต้องการ
.
งานวิจัย https://www.science.org/doi/10.1126/scirobotics.abn0602
.
ที่มา

https://www.eurekalert.org/news-releases/953578

https://www.sciencealert.com/tiny-robo-crab-is-the-smallest-ever-remote-controlled-walking-robot

 

27 พฤษภาคม 2565 รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศจะเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว เพิ่มเติม โดยจำกัดเฉพาะการท่องเที่ยวรูปแบบกรุ๊ปทัวร์ จำนวนรวม 98 ประเทศและดินแดน ประเดิมในวันที่ 10 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป หลังจากได้ทำการทดสอบรับกรุ๊ปทัวร์ขนาดเล็กจาก 4 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ไทย และสิงคโปร์ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา

รายงานข่าวล่าสุด รัฐบาลญี่ปุ่น ได้เปลี่ยนกฎด้านการตรวจคนเข้าเมือง โดยจะกลับมารับนักท่องเที่ยว จาก 98 ประเทศและดินแดนที่มาท่องเที่ยวในรูปแบบแพ็กเกจทัวร์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากนั้น ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สเปน แคนาดา และมาเลเซีย พร้อมขยายจำนวนสนามบินที่จะรับเที่ยวบินจากต่างประเทศออกไปเป็น 7 แห่ง อาทิ สนามบินนาฮะ ในโอกินาวา และสนามบินนิวชิโตะเสะ เมืองซัปโปโร ทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด

ทั้งนี้นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประเทศญี่ปุ่นห้ามนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้าประเทศและอนุญาตให้เพียงพลเมืองชาวญี่ปุ่นเข้าประเทศได้ ขณะที่ชาวต่างชาติที่มีถิ่นอาศัยในญี่ปุ่นก็ถูกห้ามเข้าประเทศในบางช่วงเวลา

อย่างไรตามสำหรับการเข้าประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่เดินทางต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศ และจะต้องถูกตรวจโควิดอีกครั้งหลังเดินทางถึงสนามบิน แต่ผู้ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็มจากประเทศที่กำหนด (รวมถึงประเทศไทย) ไม่ต้องตรวจเพิ่มหลังเดินทางถึงญี่ปุ่น รวมไปถึงไม่ต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน

การเปิดรับนักท่องเที่ยวผ่านกรุ๊ปทัวร์ คาดว่าเพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเคารพข้อบังคับเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยทุกสถานที่ และมาตรการอื่นๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับต่ำได้ ส่วนทางด้าน นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ย้ำว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ให้การสนับสนุนในแนวทางนี้.

#roundtablethailand
roundtablethailand.com

ที่มา https://mgronline.com/travel/detail/9650000050449

 

BREAKING !! : จับตาเศรษฐกิจโลก !!! ล่าสุดมีรายงานว่ายอดส่งออกน้ำมันจากรัสเซียไปยังจีนและอินเดียพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาลและต่อเนื่อง ทั้ง 2 ประเทศยังคงเร่งซื้อน้ำมันจากรัสเซียแบบไม่ลดละและไม่สนคำเตือนใด ๆ จากสหรัฐฯ เลยพร้อมยืนยันเลือกมองเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลัก !
.
⚠️ล่าสุดมีรายงานว่าปริมาณน้ำมันของรัสเซียที่ส่งออกไปยังจีนและอินเดียได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตัวเลขส่งออกสูงถึง 74-79 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
.
ตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นมากกว่า 2 เท่าของ 27 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับการซื้อก่อนการบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ และทำให้ภูมิภาคเอเชียแซงหน้ายุโรปขึ้นเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว และเท่านั้นยังไม่พอ เพราะช่องว่างดังกล่าวขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้ !
.
การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการส่งออกน้ำมันรัสเซีย ถือเป็นการตอกย้ำว่าการค้าพลังงานทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสงครามยูเครนและปัญหาทางด้าน Supply Chain ขณะที่บริษัทในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และบริษัทในสหภาพยุโรปหลายแห่งพยายามหาทางคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย
.
Jane Xie นักวิเคราะห์น้ำมันระดับอาวุโสของบริษัท Kpler ในสิงคโปร์กล่าวว่าการค้าน้ำมันรัสเซียสำหรับผู้ซื้อ 2 อันดับแรกของเอเชีย คือ อินเดียและจีน พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งแม้ว่าการจัดส่งในเดือนนี้มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับในอดีต
.
เธอยังให้ความเห็นอีกว่า ผู้ซื้อที่สนใจบางส่วนในเอเชียนั้นมีแรงจูงใจจากภาวะเศรษฐกิจมากกว่าที่จะยืนหยัดทางการเมือง(หมายถึงคว่ำบาตรรัสเซีย) และนั่นทำให้ความสนใจของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นต่อการซื้อน้ำมันจากรัสเซียของอินเดีย ดังนั้นอาจมีความเสี่ยงด้านลบต่อกระแสการค้านี้ แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีแนวโน้มของการเว้าแหว่งมากนักก็ตาม”
.
(Some of the interested buyers in Asia are more motivated by economics rather than taking a political stand, That said, there has been an increase in US interest in India’s buying of Russian oil, so there may be some downside risks to this trade flow, even if it is currently unlikely to be dented significantly.)
.
⚠️ทั้งนี้ คงต้องมาติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียวว่าทางอินเดียและจีน จะมีขีดจำกัดของ Demand มากแค่ไหน ? หรือจะสั่งซื้อจากรัสเซียในปริมาณมหาศาลเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ กันแน่ ? เพราะตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่มีใครสนใจคำขู่ของสหรัฐฯ เลย
.
ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์สำคัญทางการการค้าและเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไรต่อไป ทาง World Maker ก็จะคอยเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และจะนำข้อมูลมาอัปเดตให้ท่านทราบกันแบบ Real Time อย่างแน่นอน ! ใครไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญก็ติดตามเพจเราไว้ได้เลยครับ !
--------------------------------------------------------------
#ทันโลก #ทันเหตุการณ์ #ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ #WorldMaker
.
แนะนำให้ทุกท่าน #เปิดกระดิ่ง ตั้งค่า #รายการโปรด หรือ #Favourite ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่โดนการปิดกั้นการมองเห็นจากทาง Facebook ซึ่งอาจทำให้พลาดข่าวสารที่สำคัญจากทาง World Maker ได้
.
ขอบคุณทุกท่าน ที่ติดตาม World Maker ฝากกด Like และ Share เพื่อเป็นกำลังใจและให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
--------------------------------------------------------------
#อินเดีย #รัสเซีย #จีน #น้ำมัน #พลังงาน #ก๊าซ #การค้า #เศรษฐกิจ #เศรษฐกิจโลก #การเงิน #ลงทุน #หุ้น #การเมือง #การเมืองโลก #สหรัฐฯ #ข่าวรอบโลก #ข่าวต่างประเทศ

 

รายงานผลจากการตรวจหาเชื้อในตัวอย่างที่เก็บจากผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เคยพบในอังกฤษ (ตั้งแต่ปี 2018-2021) แต่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่ระบาดในปัจจุบัน พบว่า ไวรัสสามารถพบได้ในหลายตัวอย่าง มากน้อยแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน ปริมาณไวรัสที่พบได้มากที่สุดคือ ของเหลวจากตุ่มหนอง หรือ แผลบนผิวหนัง ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ผู้ป่วยแทบทุกคนสามารถตรวจไวรัสพบในตัวอย่างที่เก็บมาจากทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งประกอบด้วยน้ำมูก น้ำลาย โดยปริมาณไวรัสมีมากกว่าที่ตรวจพบในกระแสเลือด และ ในผู้ป่วยบางรายสามารถตรวจเชื้อไวรัสพบได้ในตัวอย่างปัสสาวะด้วยเช่นกัน

ข้อมูลนี้บอกว่า ไวรัสฝีดาษลิงสามารถปลดปล่อยออกมาจากผู้ป่วยได้หลายช่องทาง การสัมผัสโดยตรงกับแผลหรือตุ่มหนองมีความเสี่ยงสูงสุด แต่ การรับเชื้อจากน้ำมูกน้ำลาย ทางเลือด หรือ ทางปัสสาวะในห้องน้ำ ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เป็นข้อมูลให้เราระวังตั้งรับกับไวรัสตัวใหม่นี้นะครับ

หน้ากากอนามัยที่กำลังจะถอดกันอาจจะจำเป็นหากฝีดาษลิงเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นนะครับ

https://www.thelancet.com/journals/laninf/article/PIIS1473-3099(22)00228-6/fulltext

 

พ่อค้าทุเรียนร้อง! มิจฉาชีพปลอมเพจเฟซบุ๊กขายทุเรียนราคาถูก แต่ไม่ส่งของ ทำลูกค้าหายหมด
.
วันที่ 27 พ.ค.2565 นายกิมซิ่ว และ น.ส.พลอยลดา วณิชพงศ์ปรีชา สองสามีภรรยา เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ฐานันดร สาสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งความกรณีโดนมิจฉาชีพปลอมเพจเฟซบุ๊กของทางร้านไปโพสต์โปรโมชั่นขายทุเรียนราคาถูก สร้างความหลงผิดให้ลูกค้า จนมีผู้หลงเชื่อโอนเงินซื้อทุเรียนไปแล้วกลับไม่ส่งของ ก่อนบล็อคบัญชีลูกค้าจนติดต่อไปได้ ก่อนมีลูกค้ามาต่อว่าเพจจริงของทางร้าน สร้างความเสียหายทางร้านจนลูกค้าหายหมดไม่กล้าสั่งซื้อสินค้าผลไม้อีก
.
นายกิมซิ่ว เปิดเผยว่า เราเปิดร้านขายผลไม้ตามฤดู อยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ภรรยาได้สร้างเพจเฟซบุ๊กเพื่อจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาลทางออนไลน์ จำนวน 2 เพจชื่อ”NK Ponlamai เพจหลัก” และ”NK Ponlamai ทุเรียนพรีเมี่ยม”โพสต์มาร่วม 4 ปีแล้ว
.
เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา มีลูกค้าประจำสอบถามมาว่าร้านของตนเปิดเพจใหม่หรือ เห็นมีโปรโมชั่นจำหน่ายทุเรียนราคาถูกมาก ตนจึงเข้าไปค้นหาในเฟซบุ๊กพบเพจที่ชื่อเหมือนของร้านเด้งขึ้นมาหลายอัน เมื่อเข้าไปดูในเพจ” NK Ponlamai”และ เพจ” NK Ponlamai เพจหลักก”ซึ่งเป็นเพจปลอม พบว่ามีการโคลนนิ่ง โดยการก๊อปปี้เอาข้อความ-รูปภาพ-คลิปวีดิโอที่คนมีชื่อเสียงดารานักแสดงรีวิวสินค้าผลไม้ให้ทางร้านไปโพสต์เหมือนกับเพจจริงของทางร้านแทบทุกอย่าง
.
เมื่อตรวจสอบพบว่าเพิ่งสร้างเพจขึ้นมาใหม่เมื่อ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ติดตามจำนวนหลักสิบราย
เมื่อทดลองอินบล็อคด้วยบัญชีของทางร้านจะไม่ได้รับคำตอบ แต่เมื่อลองใช้บัญชีอื่นถามไปจะได้รับคำตอบกลับมาเป็นโปรโมชั่นจำหน่ายสินค้าว่า…
.
“สนใจรับโปรโมชั่นราคา 399 บาท ใช่ไหมคะ โปรโมชั่นสุดพิเศษจากทางร้านค่ะ ร้าน NK Ponlamai ยินดีใหบริการค่ะ ทางร้านเราได้จัดโปรทุเรียนก้านยาว มาเพียง 1000 ลูกเท่านั้นนะคะ ลูกค้าท่านได ซื้อ 3ลูก แถมฟรี 1ลูก นะคะ น้ำหนักต่อลูก 3.5 โล ขึ้นไปนะคะ ราคาลูกล่ะ 399 บาท เท่านั้น นะคะ บริการจัดส่งฟรีให้ทั่วไทยค่ะ ไม่อร่อยยินดีคืนเงิน2เท่าค่ะสนใจทักแชทด่วนค่ะ หมดแล้วหมดเลยนะคะ”
.
จึงได้ไปแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองปทุมธานี แล้วว่าร้านเราไม่ได้เกี่ยวข้องเพจปลอมดังกล่าว เพราะตรวจสอบบัญชีธนาคารที่เพจปลอมใช้รับโอนเงิน พบว่ามีชื่อติด blacklistsiller.com จะมีผู้เสียหายจากเพจปลอมหลงเชื่อซื้อทุเรียน โอนเงินไปแล้วไม่ได้ของก่อนถูกบล็อค มาแจ้งเตือนภัยวันละ 5-6 ราย
.
เพจหลักของทางร้านจะมีผู้ติดตามตอนนี้ 7.9 K เปิดขายออนไลน์มา 4 ปี ให้บริการลูกค้าสั่งซื้อแล้วมีไลเดอร์ไปส่งถึงมือลูกค้า
ตนเป็นคนจันทบุรี ช่วงนี้มีทุเรียนเนื้อดีจากสวนมาจำหน่าย ในราคาท้องตลาดแต่โดนมิจฉาชีพมาโคลนนิ่งเพจทั้งหมดเอาไปยิงแอดโฆษณาเฟซบุ๊ก หลอกขายทุเรียนในราคาถูกกว่าตลาดมากๆ จนมีผู้บริโภคหลงผิดสั่งซื้อแล้วโอนเงินแต่ไม่ได้ทุเรียนที่ขายจริง
ราคาโปรโมชั่นที่เพจปลอมขายเป็นราคาที่เป็นไปไม่ได้เลย 1 ลูก นน. 3.5 กก.ราคาลูกละ 399 บาท ถ้าขายราคานี้จริงๆ ไม่คุ้มต้นทุนเลย ราคาหน้าสวนยังขายราคานี้ไม่ได้
.
ที่สำคัญเพจปลอมนี้เอารูปทุเรียนของคุณอาที่ประกวดได้รับรางวัลไปใช้งานเกรงว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย
ลูกค้าที่ติดต่อแจ้งมาบอกว่าต่อใก้เป็นเพจจริงเขาก็ไม่กล้าซื้อทุเรียนออนไลน์อีกแล้ว เพราะดูไม่ออกว่าเพจอะไหนจริงอันไหนปลอม ส่งผลกระทบต่อการขายของทางร้านเรามาก
.
ฝากลูกค้าผู้บริโภคให้สังเกตเพจจริงจะเขียน ” NK Ponlamai เพจหลัก” สินค้า/บริการมีผู้ติดตามเกือบ 8 พันคน
ส่วนเพจปลอมจะเขียน NK Ponlamai โฆษณา/การตลาด และ “ NK Ponlamai เพจหลักก”อาหารและเครื่องดื่ม มีผู้ติดตามยังไม่ถึงร้อยคน
และที่สำคัญก่อนโอนเงินลองเอาชื่อบัญชีธนาคารไปค้นหาในกลูเกิ้ลตรวจสอบดูก่อนว่ามีชื่อติด blacklistหรือไม่
.
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบและแนะนำให้ผู้เสียหายเข้าสู่ระบบแจ้งความออนไลน์เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายกับมิจฉาชีพต่อไป
.
ข่าวเวิร์คพอยท์ 23