ติดตามสถานะการณ์

บะหมี่ 'ยำยำ' ชี้แจงข่าวลือ ปรับขึ้นราคาขายส่งซองละ 10 สตางค์ ตั้งแต่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ไม่จริง ระบุยังตรึงราคาขายปลีกที่ซองละ 6 บาท ด้าน "พาณิชย์" ขู่ ขึ้นราคาไม่ขออนุญาตผิดกฎหมาย
.

บริษัทวันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ "ยำยำ" เปิดเผยกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำ ได้ปรับขึ้นราคาขายส่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองละ 10 สตางค์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ว่าในเดือน พ.ค. นี้ยังไม่ได้มีการปรับราคาขายส่งตามแกระข่าวลือที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
.

แต่ยอมรับว่าจำเป็นจะต้องปรับลดส่วนลดทางการค้าที่ให้กับผู้ค้าส่งตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. นี้เป็นต้นไป เพราะต้นทุนการผลิตและต้นทุนค่าขนส่งปรับสูงขึ้นในหลายส่วน เช่น ราคาแป้งสาลี ราคาน้ำมันปาล์ม และราคาน้ำมันดีเซล เป็นต้น อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าราคาขายปลีกจะยังคงเป็นซองละ 6 บาทเท่าเดิม
.

ด้านร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมการค้าภายใน ได้ตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำแล้ว ได้รับการยืนยันว่าในเดือน พ.ค. นี้ ยังไม่ได้มีการปรับส่วนลดทางการค้าตามที่เป็นข่าว แต่กำลังจะมีการปรับลดส่วนลดในช่วงของการค้าส่ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นกระบวนการในทางธุรกิจ
.

แต่ทั้งนี้จะต้องไม่กระทบถึงราคาขายปลีกที่ผู้บริโภคได้รับ เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมที่ต้องขออนุญาตจึงจะปรับราคาขายปลีกได้ ซึ่งขณะนี้กรมฯ ยังไม่มีการอนุญาตให้ปรับขึ้นราคา ดังนั้น หากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายรายใดปรับราคาโดยพละการถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ
.

ทั้งนี้กรมการค้าภายใน ได้รับทราบและเข้าใจถึงสถานการณ์ต้นทุนสินค้าที่มีการปรับสูงขึ้นจริง ทั้งในส่วนของราคาวัตถุดิบและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าขนส่งโดยตรง สำหรับเรื่องการพิจารณาอนุญาตให้ปรับราคาสินค้าจะต้องพิจารณาถึงต้นทุนเป็นรายกรณีไป
.

และต้องพิจารณาอย่างรอบคอบไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคมากนัก โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายก็ต้องสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ สินค้าต้องไม่ขาดแคลน
.

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจะใช้ทั้งมาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางบริหารเพื่อดูแลให้ความเป็นธรรมและสมดุลสำหรับทุกฝ่ายต่อไป

.
#ยำยำ #ของแพง #ของขึ้นราคา #กรมการค้าภายใน #ดีเซล
----------------------------------------------------------------
ติดตามข้อมูล ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจการเงิน ของ #Spotlight เพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ https://www.amarintv.com/spotlight
ยูทูป : https://bit.ly/31rtDUM
TikTok : https://www.tiktok.com/@spotlightbiz
Blockdit : https://www.blockdit.com/spotlightbiz

 

เกาหลีเหนือเร่งตรวจสอบ
สภาพน้ำ-ขยะและอากาศ
หวังเร่งสกัดโควิดระบาด

สถานีโทรทัศน์เคซีเอ็นเอ สื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขกำลังเร่งเดินหน้าตรวจสอบสภาพแม่น้ำ ทะเลสาบ อากาศ น้ำเสียที่ปล่อยจากครัวเรือนและขยะด้วยการสุ่มตัวอย่างตรวจหาเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19 นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังได้เพิ่มการตรวจคัดกรองที่เข้มข้น และทำความสะอาดสถานที่สาธารณะทั่วประเทศอย่างสม่ำเสมอ

มาตรการต่างๆเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่เกาหลีเหนือยกระดับขึ้นมาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือยืนยันว่าพบการแพร่ระบาดของโควิด19 ในกรุงเปียงยางเป็นครั้งแรก

ล่าสุด เกาหลีเหนือรายงานว่าพบผู้ที่มีอาการป่วยเป็นไข้เพิ่มในวันนี้ 100,460 ราย ทำให้ยอดผู้มีอาการป่วยสะสมอยู่ที่ 3,270,850 รายจากประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 69 ราย การแพร่ระบาดของโควิด19 ทำให้ทางการเกาหลีเหนือต้องประกาศภาวะฉุกเฉินและสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

อย่างไรก็ดี สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด19 ในเกาหลีเหนือยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากชาวเกาหลีเหนือยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือก็ปฏิเสธความช่วยเหลือจากนานาประเทศ และในเวลานี้ เกาหลีเหนือยังประสบกับปัญหาขาดแคลนเวชภัณฑ์และอาหารด้วย

#เกาหลีเหนือ #โควิด #โควิด9 #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29 #ข่าวต่างประเทศ

 

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ชี้แจงกรณีที่มีการส่งต่อข่าวในโลกออนไลน์ว่า "พบฝีดาษลิงที่เกาะช้าง" นั้น ว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบแล้ว พบว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ

สำนักงานป้องกันการควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า โรคที่พบการติดต่อที่เกาะช้าง จ.ตราด เป็นโรคไข้มาเลเรียชนิดโนว์ไซที่สามารถถ่ายทอดจากลิงสู่คนได้ โดยมียุงก้นปล่องเป็นพาหนะนำโรค

ผลการสอบสวน พบผู้ป่วยโรคมาลาเรียจำนวน 9 ราย และพบลิงติดเชื้อโรคมาลาเรียจำนวน 2 ตัว แต่ยังไม่พบโรคฝีดาษลิงแต่อย่างใด

#ฝีดาษลิง #เกาะช้าง #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปทส. จับบ่อขยะเถื่อนผุดข้างหมู่บ้านย่านชานเมือง
.
วันนี้ (27 พ.ค. 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต. วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์, พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ธีรวัฒน์ ชูกรณ์ สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม
.
1. น.ส.กชพรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “รับดำเนินกิจการกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535
สถานที่จับกุม ที่ดินบริเวณถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
2. นางเพชรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “รับดำเนินกิจการกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535
สถานที่จับกุม ที่ดินบริเวณถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
.
พฤติการณ์ กก.1 บก.ปทส. ได้ทำการตรวจสอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากพบว่ามีผู้ได้รับความเดือนร้อนร้องเรียนผ่านทางเฟซบุ๊กของ บก.ปทส. ว่ามีการนำขยะมูลฝอย มาทิ้งในบริเวณที่ดินใกล้กับหมู่บ้านถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร โดยมีการรับดำเนินกิจการกำจัดสิ่งปฎิกูลหรือมูลฝอย ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ส่งเสียงดัง เป็นแหล่งสะสมแมลงวัน
.
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พ.ค.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ได้เดินทางมายังบริเวณที่ดินข้างหมู่บ้านดังกล่าว พบว่ามีผู้กำลังนำมูลฝอยมาทิ้ง โดยต้องจ่ายเงินค่าทิ้งขยะให้กับ น.ส.กชพรรณฯ ผู้รับดำเนินการฝังกลบขยะ คันละ 60 บาท และขณะเข้าทำการตรวจสอบพบว่ากำลังมีการฝังกลบขยะมูลฝอยที่ถูกนำมาทิ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวกับ น.ส.กชพรรณฯ และจับกุมตัวนำส่ง พงส.กก.1 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
ในส่วนกรณีของนางเพชราฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับร้องเรียนว่า ที่ดินบริเวณถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร มีการนำขยะมูลฝอยมาทิ้งในบ่อน้ำภายในที่ดินซึ่งมีการรับดำเนินกิจการกำจัดสิ่งปฎิกูลหรือมูลฝอย ส่งกลิ่นเหม็นเน่า เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
.
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. เดินทางไปถึงที่ดินบริเวณดังกล่าว พบว่ามีผู้กำลังนำมูลฝอยมาทิ้ง โดยต้องจ่ายเงินค่าทิ้งขยะให้กับนางเพชราฯ ผู้รับดำเนินการฝังกลบขยะคันละ 60 บาท และขณะเข้าทำการตรวจสอบพบว่ากำลังมีการฝังกลบขยะมูลฝอยที่ถูกนำมาทิ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวกับ นางเพชราฯ และจับกุมตัวนำส่ง พงส.กก.1 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
#บ่อขยะกลางเมือง #ขยะมูลฝอย #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

ดีเดย์ ส.ค. นี้ ลงทะเบียน ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ รอบใหม่ กลุ่มคนไม่มีบัตรเผย พร้อมลงทะเบียน-ขอรัฐปรับเงื่อนไขใหม่
.
กระทรวงการคลังเตรียมเปิดให้ผู้มีรายได้น้อย ลงทะเบียนรับ ‘บัตรคนจน’ รอบใหม่ ส.ค.นี้ คาดตัวเลขทะลุ 20 ล้านคน ขณะที่กลุ่มคนไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สนับสนุนรัฐเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ พร้อมขอให้ปรับเงื่อนไขในการกำหนดรายได้ครัวเรือน และเพิ่มวงเงินซื้อสินค้ามากขึ้น
.
นางอุบล บุญแสง หนึ่งในประชาชนที่แสดงความสนใจในการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่นี้ ระบุว่า สนใจการลงทะเบียน เพราะตอนนี้ประสบปัญหาว่างงาน และเชื่อว่าบัตรคนจน จะช่วยลดภาระค่าครองชีพได้ โดยเฉพาะในยุคข้าวของแพงเช่นนี้ได้
.
ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลเพิ่มวงเงินซื้อสินค้า จากปัจจุบันให้เดือนละ 200-300 บาท เพราะบางคนก็ไม่ได้ใช้สิทธิค่าเดินทาง ค่ารถ บขส. ค่ารถไฟฟ้า รัฐสามารถโยกเงินส่วนนี้มาสมทบเป็นค่าซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นได้
.
ส่วนคุณสมบัติผู้ลงทะเบียน ที่ปรับจากเงื่อนไขเดิมที่พิจารณารายได้เป็นรายบุคคล เป็นรายครอบครัว กำหนดรายได้ต่อหัวไม่เกิน 1 แสนบาทนั้น อยากให้รัฐพิจารณาใหม่ เพราะแม้บางคนแยกตัวออกไปมีครอบครัวใหม่แล้ว แต่ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดิม ซึ่งรัฐอาจจะนำไปคำนวณเป็นรายได้รวมของครอบครัวหรือไม่
.
สำหรับความคืบหน้าการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. เสนอเงื่อนไขการจัดทำระบบเพื่อรองรับการลงทะเบียน และการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรใบเดิม คาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนร่วมโครงการประมาณ 20 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้รวมผู้ถือบัตรเดิมที่มีอยู่ 13 ล้านคน
.
#บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ #บัตรคนจน #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

สหรัฐฯ พบโควิด-19 ‘บีเอ.2.12.1’ ขึ้นแท่น ‘สายพันธุ์หลัก’ ในกลุ่มผู้ป่วยใหม่
.
รายงานคาดการณ์ฉบับล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) เปิดเผยว่าสายพันธุ์ย่อยใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่พบในกลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯ แล้ว
.
ศูนย์ฯ ระบุว่า เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยใหม่ ซึ่งมีชื่อว่าบีเอ.2.12.1 (BA.2.12.1) ครองสัดส่วนร้อยละ 58 ของจำนวนผู้ป่วยใหม่ทั้งหมดในสหรัฐฯ ระหว่างสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ค. เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 49.4 ในสัปดาห์ก่อน และร้อยละ 39.2 ในสองสัปดาห์ก่อน
.
บีเอ.2.12.1 ระบาดรวดเร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ของโอไมครอนก่อนหน้านี้ โดยมีวิวัฒนาการมาจากสายพันธุ์ย่อยบีเอ.2 ซึ่งติดต่อได้ง่ายกว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ก่อนหน้า
.
อย่างไรก็ดี คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่ายังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยบีเอ.2.12.1 จะก่อโรครุนแรงมากกว่าสายพันธุ์ย่อยก่อนหน้า
.
ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ฯ เผยว่าสหรัฐฯ ตรวจพบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันเฉลี่ยมากกว่า 100,000 รายต่อวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะประเทศใกล้เข้าสู่ช่วงหยุดสุดสัปดาห์วันรำลึกถึงทหารอเมริกันผู้ล่วงลับ (Memorial Day)
.
#สหรัฐ #โควิดสายพันธุ์ย่อย #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ปรับขึ้นเงินสวัสดิการ 10% และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อช่วยบรรเทาภาวะเงินเฟ้อให้ชาวรัสเซีย แต่ปฏิเสธว่าปัญหาเศรษฐกิจของประเทศนั้นเชื่อมโยงกับสงครามในยูเครน
.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ปูตินยอมรับว่าปี 2565 จะเป็นปีที่ยากสำหรับเศรษฐกิจรัสเซีย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อรายปีใกล้แตะ 18% เมื่อเดือนที่ผ่านมา
.

ปธน.ปูติน บอกว่า “เมื่อผมพูดว่า 'ยาก' มันไม่ได้หมายความว่า อุปสรรคทั้งหมดเหล่านี้เชื่อมโยงกับปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร
.

ปธน.ปูตินบอกเพิ่มเติมว่า "เพราะในประเทศที่ไม่ได้มีปฎิบัติการใด ๆ เช่น ในต่างประเทศ ในอเมริกาเหนือ ในยุโรป อัตราเงินเฟ้อก็เทียบได้กับเรา และหากดูโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น อัตราเงินเฟ้อก็ยิ่งมากกว่าของเราด้วยซ้ำ"
.
ถ้อยแถลงของปธน.ปูติน ไม่ได้สนข้อเท็จจริงที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของชาติตะวันตกส่วนหนึ่งเป็นผลโดยตรงมาจากสงครามยูเครน-รัสเซีย ซึ่งทำให้ราคาพลังงานและอาหารทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น
.
สำหรับการปรับขึ้นเงินสวัสดิของรัสเซีย จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป ขณะที่การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะเริ่มในวันที่ 1 ก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้ช่วยป้องกันให้รายได้ที่แท้จริงลดลง
.

ทั้งนี้ เศรษฐกิจรัสเซียได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากที่รัสเซียเริ่มเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งส่งผลให้ราคาผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้น ขณะที่บริษัทต่างชาติพากันถอนตัวออกจากการทำธุรกิจในประเทศ
.

สถาบันวิจัยของธนาคาร VEB กล่าวว่า แม้การเพิ่มค่าใช่จ่ายทางสังคม แต่ก็ไม่ได้ป้องกันการลดลงของรายได้ ค่าจ้าง และเงินบำนาญที่แท้จริงของชาวรัสเซีย เพราะอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้นมากนั่นเอง โดยแม้ว่าค่าแรงขั้นต่ำและเงินบำนาญหลังเกษียณจะเพิ่มขึ้น 10% แต่คาดว่า รายได้ที่แท้จริง(หลังหักรายจ่าย และเงินออม) ของชาวรัสเซียจะลดลง 7.5% และค่าจ้างจริงลดลงเกือบ 6% ในปีนี้ดังนั้นคาดว่าความยากจนจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.6% ในปีนี้จาก 11% ในปี 2564
.

ค่าแรงขั้นต่ำของรัสเซียปัจจุบันอยู่ที่ 13,890 รูเบิล (250ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือน ขณะที่เงินบำนาญเกษียณเฉลี่ย 18,521 รูเบิลต่อเดือน ซึ่งการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและเงินบำนาญ เป็นแรงส่งให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น กดดันให้ธนาคารกลางพยายามปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินเป็น 20% ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนของรูเบิลอ่อนค่าลง ทำให้มีการลดลดอัตราสองครั้งตั้งแต่นั้นมา ช่วยให้รูเบิลฟื้นตัว
.

รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง Anton Siluanov บอกว่า มาตรการเพิ่มสวัสดิการทำให้งบประมาณของรัฐบาลกลางมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 600 พันล้านรูเบิล (10.5 พันล้านดอลลาร์) ในปีนี้และประมาณ 1 ล้านล้านรูเบิลในปี 2566 ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซียมีกำหนดการประชุมฉุกเฉิน และตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 11%
.

ที่มา https://www.reuters.com/world/europ...ces-10-hike-pensions-minimum-wage-2022-05-25/
--------------------------------------------
ติดตามข้อมูล ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจการเงิน ของ #Spotlight เพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ https://www.amarintv.com/spotlight
ยูทูป : https://bit.ly/31rtDUM
TikTok : https://www.tiktok.com/@spotlightbiz
Blockdit : https://www.blockdit.com/spotlightbiz

 

อังกฤษ ยุโรป หน้ามืดสุดหิวเปิดปฏิบัติการ "กองเรือรบชิงข้าวสาลี" ออกจากยูเครน
เดิมทียูเครน มีพื้นที่ราว 603,548 ตร.กม. มีพลเมืองราว 44 ล้านคน ในจำนวนนี้มีเชื้อสายยูเครน 77.8% , สลาฟ (รัสเซีย) 17.3% อื่นๆ เช่น ชาวยิวยูเครน 4.9% แบ่งเขตการปกครองเป็น 24 แคว้น และ 1 นครคือ เมืองหลวงเคียฟ หลังปี 2014 ประชากรไครเมีย แยกเอกราชไปเป็นพลเมืองรัสเซีย จึงเหลือประชากรราว 41.3 ล้านคน เมื่อรัสเซีย ปฏิบัติการทางทหารปลดปล่อยพื้นที่ชาวสลาฟออกจากยูเครน ทำให้มีผู้อพยพลี้ภัยออกจากยูเครนไปอยู่ประเทศอื่นกว่า 7 ล้านคน
โดยพลเมืองจะอาศัยหนาแน่นในกรุงเคียฟ แนวแม่น้ำดนีเปอร์ ภูมิภาคดอนบาส ชายทะเลอาชอฟ และทะเลดำ เหตุเพราะเป็นเขตเศรษฐกิจ แหล่งพลังงานก๊าซ น้ำมัน ถ่านหิน โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ และพลังน้ำ โรงงานเหล็กขนาดใหญ่ 4 แห่ง ท่าเรือส่งออกสินค้า พื้นที่อุดมสมบูรณ์ จึงใช้เป็นพื้นที่การเกษตรเพาะปลูกธัญพืช จนได้ฉายา "ตระกร้าขนมปังยุโรป" ชาวสลาฟในยูเครน จะอาศัยอยู่ทางภาคตะวันออก ภาคใต้ กินพื้นที่ใน 8 แคว้นคิดเป็นพื้นที่ราว 45% ของยูเครน ปัจจุบันถูกกองทัพโดเนสก์ (DPR), ลูฮันสก์ (LPR) นักรบเชเชน จากเชชเนีย และนักรบจากดินแดนในกลุ่ม CSTO รวม 22 กลุ่ม ยึดพื้นที่ไปได้แล้วขนาดพอๆ กับประเทศสหราชอาณาจักร พลเมืองส่วนนี้ราว 15 ล้านคน ส่วนที่ยังอยู่ในเขตยูเครน และเป็นปุ๋ยไปอีกมาก จึงยูเครนจึงเหลือพลเมืองอาศัยในดินแดนตอนนี้ไม่ถึง 20 ล้านคน หรือหายไปกว่า 50%
พื้นที่ยูเครนที่เหลือ เป็นพื้นที่มีทรัพยากรน้อยกว่า ขาดแหล่งน้ำจืด ไม่เหมาะสมกับการทำการเกษตรปลูกธัญพืช ในอนาคต เมื่อรัสเซีย ไล่ยึดพื้นที่้เมืองท่าโอเดสซาไปจรดประเทศมอลโดวาแล้ว ประเทศยูเครนจะไม่มีทางออกทะเล ส่งผลให้ "ไม่มีกองทัพเรือใหญ่" ได้ตลอดไป , พื้นที่ปลูกและส่งออกธัญพืชเดิมของรัสเซีย 16% ของสัดส่วนธัญพืชอาหารโลก จะขยายเพิ่มเป็นเกือบ 30% ทันที ปากท้องที่ต้องกินอาหารทุกวันของชาวยุโรปหลายร้อยล้านคนจะขึ้นกับรัสเซียเพียงชาติเดียวว่าจะยอมให้กินอาหารหรือไม่ รัสเซียจะกุมอำนาจพลังงาน อาหาร ในยุโรปได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะชาติอื่นเก็บไว้กินในชาติไม่ขายธัญพืชให้ยุโรปเช่นกัน
รัสเซีย จึงไม่มีความจำเป็นใดต้องเร่งเกมส์สงคราม เพราะยิ่งดึงเวลารบเนิ่นนานไปเท่าใด ชาติตะวันตกจะเดือดร้อนอดอยากอาหาร ขาดพลังงานมากขึ้นเท่านั้น รัสเซียจะได้เปรียบฝ่ายระเบียบโลกเก่ามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทางที่ยุโรป จะไปหาอาหารจากที่อื่นมากมายในเวลาอันสั้นมาเลี้ยงประชากรตนมากมายได้พอเพียง ถ้ารัสเซียไม่ปราณีให้ ยุโรปจะถูกบั่นทอนกัดเซาะรากฐานความมั่งคั่งทาง อุตสาหกรรม ธุรกิจ ตลาดทุน คุณภาพชีวิตพลเมือง ฯลฯ เกมส์แรกของรัสเซีย คือ พลังงาน ชาติยุโรปแพ้ราบคาบหลุดลุ่ย เกมส์ถัดไปของรัสเซียต่อไปนี้คือ "อาหาร" ในระยะสั้นตอนนี้ยูเครน มีธัญพืชตกค้างตามโกดังต่างๆ ราว 20 ล้านตันส่งออกไม่ได้
พันเอก มิคาอิล มิซินต์เซฟ หัวหน้าศูนย์ควบคุมการป้องกันประเทศของรัสเซีย ระบุว่าขณะนี้เรือต่างประเทศ 70 ลำจาก 16 ประเทศ อยู่ที่ท่าเรือ 6 แห่งในทะเลดำ รวมถึงท่าเรือโอเดสซา เคอร์ซัน และมิโคไลฟ น่านน้ำในทะเลอาชอฟ และทะเลดำส่วนของยูเครน ปัจจุบันรัสเซียยึดได้ 100% นั่นหมายความว่าถ้าชาติตะวันตกไม่ยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย ก็ไม่อาจขนส่งธัญพืชผ่านท่าเรือและน่านน้ำที่รัสเซียยึดครองได้นั่นเองเพราะขัดกับมติคว่ำบาตรของยุโรปเอง ทำให้ อังกฤษ ที่กำลังขาดแคลนอาหารบริโภค หิวโหยอย่างหนักขึ้นทุกวัน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร ได้ประกาศว่า "ขอรับประกันว่า ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชและผลิตภัณฑ์อาหารออกไปได้แน่นอน" แต่ประเมินแล้วขนข้าวสาลี ข้าวโพด โดยทางบกไปท่าเรือลิทัวเนีย เอสโตเนีย หรือโปแลนด์ จะไกลและช้ามาก ไม่ทัน 2 เดือนหน้าที่พลเมืองตนหิวตายกันหมด และธัญพืชเสื่อมคุณภาพ
อังกฤษ ได้หารือชาติยุโรปตะวันออกจัดตั้ง "กองเรือรบชิงอาหาร" ธัญพืชยูเครน 20 ล้านตัน โดยอังกฤษจะส่งเรือรบไปยังทะเลดำเพื่อเคลียร์ทุ่นระเบิดรอบท่าเรือที่ยูเครนวางไว้เอง และคุ้มกันเรือส่งออกธัญพืช ออกจากเมืองท่าโอเดสซ่า ยูเครน หนีไปยังช่องแคบบอสฟอรัส ผ่านตุรกี และติดตั้งขีปนาวุธ Harpoon ในยูเครน “เพื่อป้องกันความพยายามของรัสเซียที่จะทำลายภาระกิจชิงข้าวสาลีนี้” โดยนาย Kajsa Ollongren รัฐมนตรีกลาโหมเนเธอร์แลนด์ จะเข้าร่วมกองเรือรบชิงธัญพืชด้วย แต่มีเงื่อนไขว่ารัสเซีย และตุรกี ต้องยอมไฟเขียวก่อน แต่แล้วนาย Andrey Rudenko รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย ก็ดับฝันของอังกฤษ และพันธมิตร เมื่อระบุว่า "รัสเซียไม่ยินยอมให้กองเรือรบต่างประเทศรุกล้ำน่านน้ำทะเลดำ ชิงธัญพืชออกจากท่าเรือในความยึดครองของรัสเซีย"
"การมาถึงของเรือรบต่างชาติ จะทำให้ทะเลดำทวีความตึงเครียดมากขึ้น แต่รัสเซียจะช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็น สำหรับเรือที่ขนส่งธัญพืช"..โดยประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซียบอกกับนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากิ แห่งอิตาลีว่าชาติที่ยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย จะได้รับการอารักขาเรือสินค้าออกไปส่งอย่างปลอดภัยที่ปากช่องแคบบอสฟอรัส เพราะรัสเซีย รู้ว่ากองเรือรบ NATO เหล่านั้นใช้ข้ออ้างชิงธัญพืช แต่แท้จริงคือรุกกองเรือเข้าทะเลดำ เปิดแนวรบประจัญหน้ากองเรือรัสเซียทางทะเล เปิดทางขนอาวุธหนักมาให้ยูเครน รวมทั้งขนทหารรับจ้าง Azov NATO ที่ตกค้างในยูเครนหนีขึ้นเรือรบอังกฤษอารักขาออกไป..นี่แค่ขาดอาหารระยะสั้นเฉพาะหน้า ยุโรปยังวุ่นหนักขนาดนี้ ระยะถัดไปถึงปลายปีนี้ และปีถัดไป ยุโรปจะไปเอาอาหารกินจากไหน ถ้าไม่แก้ปัญหาระยะยาวโดยงอนง้อขอยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซียทางเลือกเดียวเท่านั้น..สู้ต่อไปนะ หิวท้องกิ่วหน้ามืดแน่นอน

ที่มา : Interfax , bloomberg , bignewsnetwork , gcaptain
#WorldUpdate

 

ผู้ติดเชื้อเฉียดแสน‼️ และ 1/6-30/6 แจกATK สำหรับเด็ก0-6ปี ฟรี

ผู้ติดเชื้อวันนี้ กลับมาพุ่งอีกแล้ว

ผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 94,808 ราย
เสียชีวิต 126 ราย อายุระหว่าง 10-90ปี ล้วนเป็นเคสอาการหนักทั้งหมด มี 113 รายมีประวัติโรคประจำตัว 52 ราย คือผู้ไม่ฉีดวัคซีน และทั้งหมดนี้คือผู้ติดเชื้อในระหว่างช่วงวันที่ 30/4-21/5

ฟรี‼️ATK สำหรับเด็ก 0-6ปี

วันเวลาที่จำหน่าย 1/6-30/6

จำนวน 1ชุด(5อัน)

เงื่อนไข: เด็กที่มีเจี้ยนป่าวอายุระหว่าง 0-6ปี
คือ เด็กที่เกิดตั้งแต่ 1/1/2016 ไป
(เด็กที่ไม่มีบัตรเจี้ยนป่าวต้องทำก่อนแล้วถึงจะรับได้)

วิธีจำหน่าย : ใช้บัตรเจี้ยนป่าวยื่นที่ร้านขายยาที่ร่วม หรือร้านที่จำหน่ายATK ที่ร่วมกับรัฐ ในการลงทะเบียนจำหน่าย โดยดูจากท้ายเลขบัตรสุขภาพเด็ก

เลขคี่ : ไปรับได้ในวันจันทร์ พุธ ศุกร์
เลขคู่ : ไปรับได้ ในวัน อังคาร พฤหัส เสาร์
วันอาทิตย์ ได้ทั้งเลขท้ายคู่และคี่

สถานที่ : ร้านขายยาที่เข้าร่วม (คือที่ผู้ใหญ่ไปต่อแถวซื้อATK กันค่ะ)

⚠️ATK นี้สามารถใช้ได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 2ปีขึ้นไปเท่านั้น ส่วนที่แจกให้ฟรีบอกว่าตั้งแต่0-6ปี คือหากบ้านใครลูกเล็ก 0-1ปี คือผู้ใหญ่ใช้แทนจ้า ต่ำกว่า2 ปี อย่าแยงเด้อ มีไข้ อยากตรวจ ไปโรคพยาบาลให้หมอจัดการเองดีกว่านะคะ

 

(วานนี้)อิสราเอลปฏิเสธคำขอของสหรัฐฯ ในการจัดหาขีปนาวุธต่อต้านรถถังให้กับยูเครน.. - ซึ่งผลิตในเยอรมนีภายใต้ใบอนุญาตของอิสราเอล

เทลอาวีฟกังวลว่า กองทัพรัสเซียอาจถูกอาวุธอิสราเอลสังหาร #และสหพันธรัฐรัสเซียจะสร้างความเสียหายให้กับรัฐยิวได้

#ปากหวานก้นเปรี้ยว

➖➖➖➖➖➖➖➖
สื่อ: อิสราเอลปฏิเสธคำขอของสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้ส่งขีปนาวุธต่อต้านรถถังจากเยอรมนีไปยังยูเครน - Panorama International - TASS
https://tass.ru/mezhdunarodnaya-panorama/14731097

 

▪️เพนตากอน กำลังจะออกประกาศเตือน ถึงย้ายกองกำลังของกองทัพรัสเซียบางส่วนจาก "ซีเรียเพื่อไปยังยูเครน"

พวกเขาส่องเห็นกองทหารรัสเซียกำลังถอนกำลังออกจากฐานทัพ Khmeimim ในลาตาเกีย และกำลังส่งทหารไปสู้รบในยูเครน

▪️อิหร่าน แสดงเจตจำนงค์ในความต้องการจัดการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยหน้านี้ เบลารุสและตุรกีกลายเป็นเวทีสำหรับการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่าย

▪️เลขาธิการกลุ่มฮิซบุลเลาะห์แห่งเลบานอน เชื่อว่าเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้นี้.. อาจเกิดขึ้นในปาเลสไตน์ที่จะระเบิดภูมิภาคนี้

 

รัฐบาลญี่ปุ่นผ่อนคลายคำเตือนการเดินทางไปยัง 36 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, แคนาดา, ฮ่องกง รวมถึงประเทศไทย หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยยกเลิกคำแนะนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้
.
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้ปรับลดคำเตือนการเดินทางมายังไทย, เวียดนาม, สิงคโปร์ และมาเลเซีย จากระดับที่ 2 ลงมาอยู่ระดับที่ 1 โดยยังคงแนะนำให้พลเมืองญี่ปุ่น “เฝ้าระวังเต็มที่”
.
ญี่ปุ่นยังได้ลดคำเตือนการเดินทางสำหรับอีก 15 ประเทศจากระดับที่ 3 ซึ่งหมายถึง “หลีกเลี่ยงการเดินทางทุกกรณี” ลงมาอยู่ที่ระดับ 2 โดยครอบคลุม 7 ประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกา, 6 ประเทศยุโรป และอีก 2 ประเทศในละตินอเมริกา
.
“สถานการณ์ในภาพรวมทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง และความเสี่ยงที่จะเกิดอาการป่วยรุนแรงหรือการเสียชีวิตก็ลดลงเช่นกัน” กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุในถ้อยแถลง
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงคำเตือนการเดินทางไว้ที่ระดับ 2 สำหรับอีก 109 ประเทศและภูมิภาค เช่น จีน, เกาหลีใต้, อินเดีย รวมถึง 35 ประเทศในยุโรป เช่น เยอรมนี, ฝรั่งเศส และอิตาลี และยังมีอีก 41 ประเทศที่ยังคงคำเตือนไว้ที่ระดับ 3 อยู่
.
ที่มา: Kyodo News

 

ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเรียกร้องให้ชาติตะวันตก “หยุดเล่นเกม” กับรัสเซียเสียที และเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรมอสโกให้หนักขึ้นเพื่อยุติ “สงครามไร้สาระ” ในยูเครน ขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามว่าคนยูเครนจะต้อง “สูญเสีย” อีกมากแค่ไหนเพื่อธำรงไว้ซึ่งอิสรภาพของชาติ
.
ผู้นำยูเครนเริ่มวิจารณ์ชาติตะวันตกอย่างเผ็ดร้อนมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่สภาพยุโรป (อียู) ยังคงล่าช้าในการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย ในขณะที่ 2 เมืองทางตะวันออกของยูเครนอย่างเซียวีโรโดเนตสก์ (Sievierodonetsk) และลีซีชานสก์ (Lysychansk) กำลังถูกกองทัพรัสเซียกระชับวงล้อมเข้าไปเรื่อยๆ
.
ในขณะที่สงครามยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 3 รัสเซียได้ละทิ้งเป้าหมายในการยึดกรุงเคียฟ และเบนเข็มไปสู่การยึดครองภูมิภาคดอนบาส (Donbas) ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมทางตะวันออก และมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียมาตั้งแต่ปี 2014
.
นักวิเคราะห์ด้านการทหารชี้ว่า การบุกยึดเซียร์วีโรโดเนตสก์และลีซีชานสก์อาจจะเป็น “จุดเปลี่ยน” ของสงครามให้ไปเข้าทางฝ่ายรัสเซียมากขึ้น หลังจากที่บีบให้ยูเครนต้องยอมสละเมืองท่ามาริอูโปล (Mariupol) ได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
.
“ยูเครนจะคงความเป็นรัฐอิสระที่ไม่ถูกแบ่งแยกตลอดไป คำถามเดียวก็คือ ชาวยูเครนจะต้องจ่ายอีกมากแค่ไหนเพื่อที่จะซื้อเสรีภาพของพวกเรา และรัสเซียจะต้องชดใช้อย่างไรที่ได้ก่อสงครามไร้สาระครั้งนี้” เซเลนสกี ระบุในถ้อยแถลงเมื่อกลางดึกวันพฤหัสบดี (26)
.
“หายนะที่กำลังเกิดขึ้นจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อทั่วโลกปฏิบัติต่อสถานการณ์นี้ให้เสมือนกับว่ามันเป็นปัญหาของพวกเขาเอง และเมื่อชาติมหาอำนาจหยุดเล่นเกมกับรัสเซีย และใช้มาตรการกดดันอย่างจริงจังเพื่อยุติสงคราม”
.
เซเลนสกี ยังวิจารณ์บรรดาชาติอียูที่ขัดแย้งกันเองในเรื่องของการคว่ำบาตรรัสเซีย และตั้งคำถามว่าเหตุใดบางประเทศจึงพยายามขัดขวางแผนการนี้
.
อียูอยู่ระหว่างการหารือมาตรการลงโทษระลอกที่ 6 ซึ่งจะรวมถึงการห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย (oil embargo)
.
มาตรการเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับไฟเขียวอย่างเป็นเอกฉันท์จากรัฐสมาชิกอียู ทว่า “ฮังการี” ได้ออกมาคัดค้าน โดยอ้างว่าจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของตนมากเกินไป
.
ที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐบาลฮังการีระบุว่า ประเทศของเขายังต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3 ปีครึ่ง-4 ปี กว่าจะเลิกนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียได้ และต้องทุ่มเม็ดเงินลงทุนอีกมหาศาลเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงไม่อาจสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียที่อียูเสนอ
.
ผู้นำยูเครนชี้ว่า รัสเซียยังคงมีรายได้ถึง 1,000 ล้านยูโร “ต่อวัน” จากการส่งออกพลังงานให้แก่กลุ่ม 27 ชาติอียู
.
ที่มา: รอยเตอร์

 

ตำรวจเทกซัสเผชิญคำถามจากบรรดาพ่อแม่ที่โกรธแค้นว่าทำไมต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงกว่าจะสามารถจัดการกับมือปืนที่กราดยิงเด็กนักเรียนไป 19 คน และครูอีก 2 คนที่เมืองยูวัลดี (Uvalde) ขณะที่โลกโซเชียลแชร์คลิปขณะที่ผู้ปกครองอ้อนวอนเจ้าหน้าที่ให้รีบบุกเข้าไปสกัดคนร้ายในโรงเรียน
.
ในคลิปความยาวเกือบ 7 นาทีซึ่งถูกเผยแพร่ลงยูทิวบ์จะเห็นได้ว่า พ่อแม่ที่กำลังตื่นตระหนกตะโกนด่าทอตำรวจซึ่งขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าไปในโรงเรียนประถมร็อบบ์ (Robb Elementary School)
.
“นั่นมันลูกสาวฉันนะ!” หญิงคนหนึ่งตะโกนทั้งน้ำตา
.
แองเจลี โรเซ โกเมซ (Angeli Rose Gomez) ซึ่งมีลูกเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ บอกกับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์เนิลว่า เธอถูกเจ้าหน้าที่ “ใส่กุญแจมือ” ในขณะที่เธอและผู้ปกครองคนอื่นๆ พยายามกดดันให้ตำรวจเข้าแทรกแซงสถานการณ์โดยเร็ว
.
จาซินโต คาซาเรซ (Jacinto Cazares) คุณพ่อซึ่งสูญเสียลูกสาว “แจ็คลีน” ไปในเหตุการณ์เมื่อวันอังคาร (24 พ.ค) เล่าว่าตัวเขาเองรีบเดินทางไปที่โรงเรียนทันทีที่ทราบว่ามีการกราดยิง
.
“มีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธอยู่ตรงนั้นอย่างน้อย 40 นาย แต่พวกเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง จนมันสายเกินไป” เขาให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์เมื่อวันพุธ (25)
.
“สถานการณ์มันน่าจะยุติลงเร็วขึ้น ถ้าพวกเขาได้รับการฝึกยุทธวิธีมาดีกว่านี้”
.
ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์และคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ วิกเตอร์ เอสคาลอน จากสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะแห่งรัฐเทกซัส (DPS) ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนกำลังเร่งปะติดปะต่อข้อมูลเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
.
รายงานเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า ซัลวาดอร์ รามอส (Salvador Ramos) มือปืนวัย 18 ปี ยิง “ยาย” ของเขาเองจนบาดเจ็บ จากนั้นก็ขับรถปิ๊กอัปมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนประถมร็อบบ์ และเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำในเวลาประมาณ 11.28 น. ตามเวลาท้องถิ่น
.
รามอส ตัดสินใจทิ้งรถและปีนรั้วเข้าไปในโรงเรียน ก่อนจะเดินเข้าไปในอาคารหลังหนึ่งผ่านทางประตูหลังที่ไม่ได้ล็อกในเวลา 11.40 น.
.
ตำรวจ 2 คนตามเข้าไปในโรงเรียนหลังจากนั้นประมาณ 4 นาที แต่ถูก รามอส สาดกระสุนใส่จนต้องหาที่หลบ หลังจากนั้นมือปืนได้ขังตัวเองอยู่ในห้องเรียนชั้นประถม 4 ซึ่งมีนักเรียนอายุระหว่าง 9-10 ปีอยู่อีกนานถึง 1 ชั่วโมง ก่อนที่ทีมยุทธวิธีจากหน่วยป้องกันชายแดนจะสามารถบุกเข้าไป และยิงสังหารเขา
.
เจ้าหน้าที่หลายคนระบุว่า ได้ยินเสียงปืนอย่างน้อย 25 นัดดังมาจากในห้องเรียนตอนที่คนร้ายบุกเข้าไปในช่วงแรกๆ
.
ระยะเวลา 1 ชั่วโมงก่อนที่เจ้าหน้าที่ป้องกันชายแดนจะสามารถบุกเข้าไปวิสามัญฯ คนร้าย ดูเหมือนจะขัดแย้งกับแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายส่วนใหญ่ที่มักจะใช้วิธีบุกเข้าไปเผชิญหน้ากับคนร้าย “ในทันที” เพื่อยุติการนองเลือด
.
เอสคาลอน ยอมรับว่า “นี่เป็นคำถามที่ยากจะอธิบาย” และทางการจะออกมาชี้แจงให้สาธารณชนทราบอีกครั้งหลังจากที่กระบวนการสอบสวนคืบหน้า
.
ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์

 

ประธานาธิบดีโวโลดิมร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพฤหัสบดี(26พ.ค.) คว่ำครวญเกี่ยวกับความแตกแยกภายในสหภาพยุโรป ต่อมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเล่นงานรัสเซีย พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมถึงมีบางชาติได้รับอนุญาตให้ขัดขวางแผนดังกล่าว

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นเพียง 1 วันหลังจาก ดมิทรี คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนในวันพุธ (25 พ.ค.) กล่าวหานาโต้ "นิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย" ต่อการรุกรานของรัสเซีย แต่ได้กล่าวยกย่องอียู สำหรับการปฏิวัติการตัดสินใจต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนเคียฟ

อียูกำลังพูดคุยหารือกันเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรรอบ 6 ในนั้นรวมถึงห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากชาติสมาชิก แต่ ฮังการี ต่อต้านแนวคิดดังกล่าวสำหรับเวลานี้ โดยอ้างว่าเศรษฐกิจของพวกเขาจะได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

"ความพยายามเห็นพ้องในมาตรการคว่ำบาตรรอบ 6 ของสหภาพยุโรป จะต้องใช้เวลาอีกกี่สัปดาห์?" เซเลนสกีกล่าวปราศรัยในช่วงค่ำ เน้นย้ำว่าเวลานี้รัสเซียยังได้รับเงินจากอียูนับพันล้านยูโรในแต่ละวัน สำหรับค่าอุปทานทางพลังงาน

"แน่นอนว่า ผมรู้สึกของคุณเพื่อนๆเหล่านี้ที่ให้การสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ แต่คนที่ขัดขวางมาตรการคว่ำบาตรรอบ 9 พวกเขาเอาอำนาจมาจากไหน? ทำไมพวกเขาถึงได้รับอนุญาตให้ถือครองอำนาจเช่นนั้น" เขาตั้งคำถาม

เยอรมนี หวังว่าการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่จะเสร็จสิ้นเร็ววันนี้ แต่มันจะไม่อยู่ในหัวข้อการประชุมซัมมิตระดับผู้นำหนึ่งในสัปดาห์ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เยอรมนีในวันพุธ(25พ.ค.)

ความเห็นของ เซเลนสกี ในครั้งนี้ เป็นการออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง 2 วันติดกัน ต่อแนวทางของโลกในการจัดการกับสงคราม "แรงกดดันต่อรัสเซีย คือประเด็นของการปกป้องชีวิตอย่างแท้จริง ทุกๆวันของการผัดวันประกันพรุ่ง ความอ่อนแอและการโต้แย้งต่างๆนานา นั่นหมายความว่ามีประชาชนชาวยูเครนถูกสังหารมากขึ้น"

ในวันพุธ(25พ.ค.) เซเลนสกี ตำหนินานาชาติที่ใส่ใจกับผลประโยชน์ของรัสเซียมากเกินไป และสนใจผลประโยชน์ของยูเครนน้อยมาก เขาพุ่งเป้าไปที่ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ที่แนะนำว่า ยูเครนอาจจำเป็นต้องเสียสละดินแดนบางส่วนเพื่อยุติสงครามครั้งนี้

สืบเนื่องจากการที่คิสซิงเจอร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัย 98 ปี ไปกล่าวในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมในสัปดาห์นี้ว่า การฟื้น “สถานะดั้งเดิม” ก่อนรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ อาจเป็นความคิดในอุดมคติ

ทว่า การบีบให้มอสโกคืนไครเมียที่เข้าผนวกตั้งแต่ปี 2014 หรือดินแดนในโดเนตสก์และลูฮันสก์ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียควบคุมมานานหลายปี จะทำให้การสู้รบขัดแย้งคราวนี้กลายเป็นสงครามใหม่ที่ขยายวงกว้างขึ้น คิสซิงเจอร์สำทับว่า จำเป็นต้องเริ่มต้นการเจรจาภายในสองเดือน

เซเลนสกี ตอบโต้ว่า ปฏิทินของคิสซิงเจอร์คงยังเป็นปี 1938 ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่ฝ่ายตะวันตกยอมอ่อนข้อทำข้อตกลงที่เมืองมิวนิก โดยยกดินแดนบางส่วนของเชโกสโลวะเกียให้นาซีเยอรมัน ด้วยความหวังว่าจะทำให้นาซีเยอรมันพอใจ แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ นาซียังคงเปิดศึกรุกคืบต่อมาอีกไม่ยอมหยุด

เขาคร่ำครวญด้วยว่า จนถึงตอนนี้โลกล้มเหลวในการโดดเดี่ยวระบบธนาคารของรัสเซียโดยสิ้นเชิง และไม่ได้มอบอาวุธหนักแก่ยูเครนรวดเร็วเพียงพอ

(ที่มา:รอยเตอร์)

 

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในวันพฤหัสบดี(26พ.ค.) ระบุรู้สึกยินดีที่บริษัทต่างชาติบางแห่งถอนตัวจากรัสเซีย เพราะว่าธุรกิจท้องถิ่นจะได้เข้ามาแทนที่ และเย้ยตะวันตกว่ามอสโกยังคงมีหนทางในการเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยและสินค้าหรูทั้งหลาย พร้อมชี้ว่าในขณะที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้ว กำลังเผชิญวิกฤตอาหารและห่วงโซุอุปทาน รวมถึงเงินเฟ้อสูงลิ่ว เวลานี้ศูนย์กลางอำนาจเศรษฐกิจโลกได้เคลื่อนสู่เอเชียแล้ว

ปูติน ให้คำจำกัดความการรุกรานยูเครน ว่าเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์รัสเซีย เป็นการปฏิวัติของรัสเซียที่มีต่อสหรัฐฯ ชาติที่เขาระบุว่าลบหลู่รัสเซียมาตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มลายปี 1991

นอกเหนือจากความตายและความสยดสยองของสงคราม ความขัดแย้งและความพยายามของตะวันตกในการโดดเดี่ยวลงโทษรัสเซีย ได้กัดเซาะการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและโหมกระพือเงินเฟ้อ ท่ามกลางราคาธัญพืช น้ำมันประกอบอาหาร ปุ๋ยและพลังงาน ที่พุ่งสูง

นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น พวกนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่หลายแห่ง ไล่ตั้งบีพี ไปจนถึง แม็คโดนัลด์ ได้ประกาศถอนตัวออกจากรัสเซีย ในขณะที่เศรษฐกิจของรัสเซียกำลังเผชิญภาวะหดตัวครั้งเลวร้าย นับตั้งแต่ช่วงหลายขวบปีตามหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

"บางครั้ง เมื่อคุณมองไปยังพวกที่ถอนตัวออกไป บางที ขอบคุณพระเจ้า เราจะยึดช่องว่างทางธุรกิจของพวกเขา สู่ธุรกิจของเรา การผลิตของเรา ที่เติบโตอยู่ก่อนแล้ว และมันจะนั่งอย่างปลอดภัยในสนามที่พันธมิตรของเราพร้อมอยู่ก่อนแล้ว" ปูตินกล่าว

ระหว่างการพูดคุยผ่านทางวิดีโอลิงค์กับพวกผู้นำของบรรดาประเทศอดีตสหภาพโซเวียต ปูตินพูดเชิงเหน็บแนมว่าบรรดาสินค้าหรูอย่างเช่นรถเมอร์เซเดส ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของพวกหัวขโมยนั้น จะยังคงหาซื้อได้ในรัสเซีย แต่มันอาจะมีราคาแพงขึ้นสักหน่อย

"มันจะแพงขึ้นสักหน่อยสำหรับสินค้าเหล่านี้ แต่สำหรับคนที่ขับเมอร์เซเดส 600s อยู่แล้ว แต่ยังอยากได้เพิ่ม ผมรับประกันกับพวกคุณได้ว่า รถเหล่านี้จะถูกนำเข้ามา ไม่ว่าจะมาจากที่ไหน จากประเทศไหนก็ตาม" ปูตินกล่าว

อย่างไรก็ตาม ปูติน ยอมรับว่ารัสเซียยังมีความจำเป็นต้องเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆนานา จากบรรดาชาติเศรษฐกิจพัฒนาแล้วทั้งหลาย "เราจะไม่กีดกันตัวเองออกจากสิ่งนี้ พวกเขาต้องการบีบเราออก ในโลกสมัยใหม่ เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้" กระนั้นก็ตามประธานาธิบดีรายนี้ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่ารัสเซียจะมีแนวทางไหนสำหรับคงการเข้าถึงส่วนประกอบและซอฟต์แวร์ของตะวันตก

ปูติน สัญญว่าความพยายามโดดเดี่ยวรัสเซียของตะวันตกจะประสบความล้มเหลว และบอกว่าบรรดาชาติเศรษฐกิจพัฒนาแล้วทั้งหลาย กำลังตะเกียกตะกายดิ้นรนกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ห่วงโซ่อุปทานที่พังครืนและวิกฤตอาหาร ในขณะที่ศูนย์กลางอำนาจเศรษฐกิจโลกได้เคลื่อนเข้าสู่เอเชียแล้ว

แม้มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกโหมกระพือเงินเฟ้อในรัสเซียเช่นกัน ท่ามกลางปัญหาห่วงโซุอุปทานหยุดชะงัก แต่ ปูติน ระบุว่าประเทศของเขากำลังรับมือได้ดีและรัสเซียกำลังปลีกตัวหนีจากตะวันตก หันหน้าเข้าหาจีน อินเดียและมหาอำนาจอื่นๆ

"แน่นอน ตัวแทนทางธุรกิจของเรา เผชิญปัญหา โดยเฉพาะในด้านห่วงโซ่อุปทานและการขนส่ง แต่กระนั้นทุกอย่างสามารถปรับตัวได้ ทุกอย่างสามารถสร้างได้ในหนทางใหม่" ปูตินกล่าว

ธนาคารกลางรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี(26พ.ค.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 11% และบอกว่าอาจมีการปรับลดเพิ่มเติมอีกในปีนี้ หลังจากภาวะเงินเฟ้อชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี และเศรษฐกิจผงกหัวขึ้นจากภาวะหดตัว

การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เข่นฆ่าชผู้คนไปหลายพันชีวิต ประชาชนหลายล้านคนต้องโยกย้ายถิ่นฐาน และเพิ่มความกังวลว่าอาจเกิดการเผชิญหน้ารุนแรงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ นับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962

ปูติน ระบุว่าสหรัฐฯใช้ยูเครนคุกคามรัสเซียผ่านการขยายอานาเขตของนาโต้ และมอสโกจำเป็นต้องปกป้องประชาชนที่พูดภาษารัสเซีย ที่ถูกตามประหัตประหารในยูเครน

ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว โดยบอกว่ามันเป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลเพื่อรุกรานประเทศอธิปไตยหนึ่งๆ

(ที่มา:รอยเตอร์)

 

จีนและรัสเซียในวันพฤหัสบดี(26พ.ค.) ใช้สิทธิ์วีโต้ความพยายามที่นำโดยสหรัฐฯ ที่หวังผลักดันให้สหประชาชาติกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานเกาหลีเหนือเพิ่มเติม ต่อกรณีทดสอบขีปนาวุธซ้ำแล้วซ้ำเล่า เผยให้สาธารณะเห็นถึงร่องรอยความแตกแยกภายในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่องค์กรแห่งนี้เริ่มลงโทษเปียงยางในปี 2006

รัฐสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เหลืออีก 13 ชาติ ล้วนลงมติสนับสนุนญัตติที่ร่างโดยสหรัฐฯ ซึ่งเสนอห้ามส่งออกยาสูบและน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือ ซึ่งผู้นำ คิม จองอึน เป็นสิงห์อมควันตัวยง นอกจากนี้แล้วยังเสนอขึ้นบัญชีดำกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ "ลาซารัส" ที่ทางสหรัฐฯเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ

การลงมติครั้งนี้มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูก โดยหนึ่งในนั้นเชื่อว่าเป็นชีปนาวุธข้ามทวีปขนาดใหญ่ที่สุดของพวกเขา ซึ่งมีขึ้นไม่กี่วันหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนเอเชีย มันถือเป็นหนล่าสุดในการทดสอบขีปนาวุธหลายต่อหลายครั้งในปีนี้ของเปียงยาง ซึ่งละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

อ้างถึงความเงียบเฉยของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต่อเกาหลีเหนือ ทางลินดา โธมัส-กรีนปิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ กล่าวเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ว่า "ถึงเวลาแล้วที่ต้องหยุดนิ่งเงียบเหมือนอนุญาตโดยปริยาย แล้วหันมาเริ่มจัดการอย่างจริงๆจังๆ"

ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติมีความคงเส้นคงวาและมีความเป็นเอกฉันท์ ในการยกระดับมาตรการคว่ำบาตรตัดขาดเงินทุนสำหรับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และความเคลื่อนไหวเพิ่มความหนักหน่วงของมาตรการคว่ำบาตรหนล่าสุด เกิดขึ้นในปี 2017

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่นั้น จีนกับรัสเซีย พยายามผลักดันให้ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรบนพื้นฐานด้านมนุษยธรรม ในขณะที่พวกเขาดำเนินการอย่างลับๆพยายามเตะถ่วงในคณะกรรมาธิการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ

ทั้งนี้การลงมติเมื่อวันพฤหัสบดี(26พ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่จีนและรัสเซียแตกหักความเป็นเอกฉันท์อย่างเปิดเผย "เราไม่คิดว่ามาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจะเป็นประโยชน์อะไรในการตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบัน มันยิ่งแต่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง" จาง จุนผู้แทนถาวรสาธารณรัฐจีนประจำสหประชาชาติ กล่าวก่อนหน้าการลงมติในวันพฤหัสบดี(26พ.ค.)

จีนยังเรียกร้องให้สหรัฐฯดำเนินการหาทางโน้มน้าวให้เปียงยางคืนสู่การเจรจา ที่หยุดชะงักมาตั้งแต่ปี 2019 หลังการประชุมซัมมิตที่ล้มเหลวระหว่าง คิม จองอึน กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น

"สหรัฐฯ ในฐานะผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ควรดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญและในทางปฏิบัติ ในการคืนสู่การเจรจากับเกาหลีเหนือ" จางกล่าว พร้อมเน้นว่าในนั้นควรรวมถึงการที่วอชิงตันผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวบางส่วน

เปียงยางระงับการทดสอบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ช่วงไม่กี่เดือนมานี้ พวกเขากลับมาทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลอีกครั้ง ในขณะที่สหรัฐฯและเกาหลีใต้เตือนว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบนิวเคลียร์รอบที่ 7

(ที่มา:รอยเตอร์)

 

ปีกซ้ายรวมตัว! “ปธน.คิวบา-เวเนฯ-นิการากัว” เตรียมประชุมที่ฮาวานาหลัง “วอชิงตัน” ไม่ยอมส่งเทียบเชิญ “ดิแอซ-กาเนล” ร่วมซัมมิตรวมอเมริกาในแอลเอ
.
.
.
.
.
เอเจนซีส์/เอเอฟพี – เมื่อวานนี้(25 พ.ค)ประธานาธิบดีคิวบา มิเกล ดิแอซ-กาแนล ยืนยันจะไม่เดินทางไปร่วมประชุมซัมมิตเหล่าชาติทวีปอเมริกา ที่มีสหรัฐฯเป็นเจ้าภาพที่แอลเอ รัฐแคลิฟอร์เนียเดือนหน้า หลังวอชิงตันไม่ยอมส่งเทียบเชิญร่วม ผู้นำปีกซ้ายโลกแดนลาติน คิวบา เวเนซุเอลา และนิคารากัว เตรียมประชุมหารือร่วมกันที่กรุงฮาวานาวันศุกร์(27 พ.ค)
.
หนังสือพิมพ์แอลเอไทม์สของสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(25 พ.ค)ว่า กลายเป็นงานหนักสำหรับรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ต้องการใช้การจัดงานซัมมิตซัมมิตเหล่าชาติทวีปอเมริกา (Summit of the Americas)ที่มีอเมริกาเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 6 มิ.ย – 10 มิ.ย ที่จะถึงนี้ที่เมืองแอลเอ รัฐลอสแองเจลิส เพื่อแสดงให้เห็นถึงการที่สหรัฐฯจะสามารถมีอิทธิพลในครึ่งโลกตะวันตกต้องมีอันยุ่งเหยิง
.
เกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีประธานาธิบดีคิวบา มิเกล ดิแอซ-กาแนล (Miguel Díaz-Canel)แถลงเมื่อวานนี้(25)ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า เขาจะไม่เดินทางเข้าร่วมการประชุมที่ว่านี้หลังจากที่สหรัฐฯปฎิเสธที่จะส่งเทียบเชิญอย่างเหมาะสม
.
อ้างอิงจากเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯพบว่า ซัมมิตเหล่าชาติทวีปอเมริกาซึ่งเป็นการประชุมเพียงหนึ่งเดียวของทั้งทวีปอเมริกาตั้งแต่อเมริกาเหนือไปจนถึงอเมริกาใต้โดยเริ่มครั้งแรกในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน เมื่อปี 1994 เพื่อโปรโมทการเติบโตทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งผ่านคุณค่าทางประชาธิปไตยและคำมั่นสัญญาในการเพิ่มการค้าและการลงทุน การประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นถือเป็นครั้งที่ 9
.
การออกมาแถลงล่าสุดของผู้นำคิวบาเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังการคาดการณ์และความพยายามจากรัฐบาลไบเดนในการหาช่องทางที่ประนีประนอมเพื่อที่จะสามารถเชิญรัฐบาลที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยและต้องการหลีกเลี่ยงความโกรธเคืองกับชาติแดนลาตินส่วนใหญ่
.
ทั้งนี้ในเดือนที่ผ่านมา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแผนกฝ่ายโลกฝั่งตะวันตก ไบรอัน นิโชลส์ (Brian Nichols) ได้เปิดเผยกับสื่อต่างๆสหรัฐฯว่า ไม่มีแผนที่จะเชื้อเชิญคิวบา และทำให้เกิดปัญหาทันทีเพราะประธานาธิบดีเม็กซิโก อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์(Andrés Manuel López Obrador) ออกมาประกาศว่า ฝ่ายเม็กซิโกจะถอนตัวจากการเข้าร่วมหากว่าทุกชาติไม่ได้รับเชิญ
.
ซึ่งการประชุมระดับภูมิภาคที่มีสหรัฐฯเป็นผู้จัดโดยที่ไม่มีเม็กซิโกจะเป็นสิ่งที่น่าอับอายสำหรับไบเดนไปในทันที แอลเอไทม์สชี้
.
และนอกเหนือจากคิวบาแล้วพบว่าวอชิงตันยังมีแผนตัดเวเนซุเอลาและนิการากัวออกไปจากรายชื่อประเทศที่เข้าร่วมการประชุมเช่นกัน
.
เอเอฟพีรายงานในวันอังคาร(24) ว่า กระทรวงต่างประเทศคิวบาออกแถลงการณ์ว่าผู้นำคิวบา เวเนซุเอลา และนิการากัว เตรียมประชุมร่วมกันที่กรุงฮาวานาในวันศุกร์(27)
.
ซึ่งทั้งเกล ดิแอซ-กาแนล ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร และประธานาธิบดีนิการากัว แดเนียล ออร์เตกา จะร่วมประชุม กลุ่มเศรษฐกิจสมาพันธ์โบลิวาเรียนแห่งทวีปอเมริกา ALBA (Bolivarian Alliance for the Peoples of Our America)
.
โดยในแถลงการณ์สั้นจากกระทรวงต่างประเทศคิวบามีใจความว่า “ในวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม การประชุมซัมมิตครั้งที่ 21 ของผู้นำแห่งรัฐและรัฐบาลสมาชิก ALBA จะถูกจัดที่กรุงฮาวานา” ภายใต้วาระ “ยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วม” และ “การวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองระดับภูมิภาค”
.
แอลเอไทม์สรายงานว่า การบอยคอตเริ่มออกมาจากหลายประเทศแต่มีบางส่วนยอมเปลี่ยนใจ อย่างไรก็ตามกัวเตมาลากล่าวว่าจะไม่เดินทางเข้าร่วมการประชุมหลังเจ้าหน้าที่สหรัฐฯวิพากษ์วิจารณ์การจัดการคดีคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหลาย และประธานาธิบดีบราซิล ฌาอีร์ โบลโซนารู (Jair Bolsonaro) ผู้นำชาติแดนลาตินที่ใหญ่ที่สุดและยังเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ฉุนเฉียวที่ทั้งสหรัฐฯและชาติตะวันตกต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์การจัดการป่าแอมะซอนของตัวเอง
.
ซึ่งในทวิตเตอร์ผู้นำคิวบาหลังหมดยุคตระกูลคาสโตรได้กล่าวตัดพ้อสหรัฐฯที่ไม่ยอมนำทุกฝ่ายเข้าการประชุมซัมมิตที่จัดขึ้นว่า “พวกเรามีจุดยืนร่วมกันที่ผู้นำต่างๆภายในภูมิภาครับไว้ที่ต่างกล่าวว่า ทุกประเทศสมควรได้รับการเชื้อเชิญอย่างเท่าเทียม”
.
และกล่าวต่อว่า “พวกเรารู้สึกซาบซึ้งต่อความกล้าหาญและศักดิศรีที่ยืนหยัดจากบรรดาประเทศที่ส่งเสียงคัดค้านต่อการแบ่งแยก”
.
CNN รายงานว่า ก่อนหน้าพบว่าสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ จิล ไบเดน ในวันจันทร์(23)เพิ่งเสร็จสิ้นการเยือน 6 วัน 3 ประเทศลาตินอเมริกาได้แก่ เอกวาดอร์ ปานามา และคอสตาริกา ที่มีเป้าหมายต้องการประกาศต่อประเทศเหล่านี้ว่า เหตุใดจึงดีกว่าในการร่วมเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ
.
โดยวาระของนางไบเดนเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรภายในภูมิภาคที่มีปัญหาคอร์รัปชันและการเข้าเมืองผิดกฎหมายในสหรัฐฯซึ่งเป็นปัญหาหนักของสามี
.
ซึ่งในระหว่างการเยือนพบว่ามีการประกาศความช่วยเหลือเนื่องมาจากการทูตคือความสัมพันธ์ โดยในระหว่างการเยือนศูนย์พักฟื้นผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ปานามาในวันเสาร์(21) นางไบเดนประกาศมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติม 80.9 ล้านดอลลาร์ให้กับโครงการ PEPFAR ซึ่งในจำนวนนี้ทางปานามาจะได้รับ 12.2 ล้านดอลลาร์ในการขยายการให้บริการด้านโรคเอดส์และการรักษา

 

Editor’s Pick: รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยัน สหรัฐฯ ไม่เคยต้องการขัดแย้ง หรือทำสงครามเย็นครั้งใหม่กับจีน ยอมรับจีนเป็นประเทศเดียว ที่มีอำนาจพร้อมมูลในทุกด้าน ที่จะจัดระเบียบโลกใหม่ได้ และจีนเป็นบททดสอบทางการทูตสำคัญของสหรัฐฯ ที่สหรัฐฯ ไม่เคยพบเจอมาก่อน

◾◾◾
สหรัฐฯ มุ่งเลี่ยงความขัดแย้ง

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวถึงแนวนโยบายคณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่อประเด็นประเทศจีนว่า สหรัฐฯ ตั้งใจแน่วแน่ที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง หรือสงครามเย็นครั้งใหม่กับจีน และสหรัฐฯ ไม่เคยคิดจะตัดจีนออกจากเศรษฐกิจโลกแต่อย่างใด

สหรัฐฯ จะไม่ขัดขวางจีนจากการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และจะไม่พยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองของจีน รวมทั้งไม่ได้ต้องการขัดขวางจีนจากการมีบทบาทในฐานะประเทศมหาอำนาจรายใหญ่ของโลก

บลิงเคน ระบุว่า สิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการคือ ขอให้จีนยึดมั่นในกฎระเบียบระหว่างประเทศ บลิงเคนเรียกร้องการแข่งขันกับจีน เพื่อรักษาระเบียบโลกอย่างที่เป็นอยู่เอาไว้

◾◾◾
ต้านทานจีนไม่ได้

ตอนนี้ สิ่งที่สหรัฐฯ กำลังทำอยู่คือ ปกป้องระเบียบโลกที่เป็นอยู่ ซึ่งรวมถึงกฎหมายและสถาบันระหว่างประเทศ และข้อตกลงระหว่างประเทศต่าง ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของโลกเอาไว้ ทำให้ทุก ๆ ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ และจีนด้วย สามารถอยู่ร่วมกันได้และร่วมมือกันได้

บลิงเคนยอมรับว่า มีความเห็นที่ค่อนข้างตรงกันอย่างเป็นเอกฉันท์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ไม่มีประเทศใด จะสามารถขัดขวางการพุ่งทะยานของจีนได้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดการความสัมพันธ์กับจีน อย่างสอดคล้องกับความเป็นจริงดังกล่าวมากขึ้น

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยอมรับว่า จีนเป็นประเทศเดียว ที่มีทั้งความตั้งใจต้องการจัดระเบียบโลกใหม่ และมีทั้งอำนาจในทางเศรษฐกิจ ทางการทูต การทหาร รวมทั้งอำนาจในทางเทคโนโลยีอย่างพร้อมมูล ที่จะสามารถทำเช่นนั้นได้ และอำนาจในด้านต่าง ๆ ของจีนดังกล่าว ยังคงเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ

◾◾◾
แต่จีนยังเป็นความท้าทาย

บลิงเคนระบุว่า สหรัฐฯ ยังคงมองจีนเป็นความท้าทายต่อระเบียบโลกในระยะยาวที่จริงจังที่สุด ถึงแม้ว่าในช่วงนี้ สหรัฐฯ ได้หันไปจดจ่อกับปฏิบัติการรัสเซียในยูเครนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ตาม และจีนคือบททดสอบสำคัญทางการทูตของสหรัฐฯ ชนิดที่สหรัฐฯ ไม่เคยพบเจอมาก่อน และย้ำว่า สหรัฐฯไม่ได้ต้องการขัดแย้งกับประเทศจีน เพียงแต่เตรียมตัวในการปกป้องผลประโยชน์ของตน

ปาฐกถาล่าสุดของบลิงเคนนี้ ถูกมองว่า เป็นการเปิดเผยการวางกรอบแผนยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในการลงทุนเพื่อแข่งขันกับจีน โดยสหรัฐฯ จะร่วมมือกับประเทศพันธมิตรและหุ้นส่วน เพื่อแข่งขันกับจีน

ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนตกต่ำถึงขีดสุดในรอบหลายทศวรรษในช่วงอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และยังบาดหมางต่อเนื่องมาจนถึงในสมัยประธานาธิบดี โจ ไบเดนนี้ ด้วย

ก่อนหน้านี้ บลิงเคนเพิ่งประกาศจัดตั้งหน่วยงานภายในกระทรวงต่างประเทศ ที่เรียกว่า ไชน่า เฮาส์ (China House) เพื่อทำหน้าที่ประสานนโยบายต่าง ๆ ในหลายภูมิภาค

◾◾◾
"ถ้อยคำประดิษฐ์" - "หน้าซื่อใจคด"

และเมื่อมีคำกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เช่นนี้สำนักข่าว Global Times ของทางการจีนรายงานทันที โดยนำเสนอความเห็นของหวัง ยี่ เว่ย ผู้อำนวยการสถาบันกิจการต่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ว่า ถ้อยแถลงของบลิงเคน เป็นโวหารที่ดูเหมือนจะ "นุ่มนวล" แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความจริงที่ว่า นักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ คนนี้ กำลังใช้ "ถ้อยคำประดิษฐ์" ที่ทำให้จีนดูเหมือน "tough, big guy" ที่ไม่มีใครควรจะยุ่งวุ่นวายด้วย ขณะที่สหรัฐฯ เหมือนกับ "a little poor"

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นี่เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความ "หน้าซื่อใจคด" ของเจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ ที่ประดิษฐ์คำพูดสวยหรู แต่กลับไม่เคยหยุดทำในสิ่งที่เลวร้าย

บลิงเคนได้กล่าวอย่างชุดเจนว่า สหรัฐฯจะปรับสภาพแวดล้อมรอบ ๆ จีน ด้วย 3 ถ้อยคำที่เอยไว้ นั่นคือ การลงทุนในการแข่งขันของสหรัฐฯ, ร่วมมือกับพันธมิตร และการแข่งขันกับประเทศจีน

◾◾◾
ยุทธศาสตร์ทางวาจา

การกล่าวสุนทรพจน์ของบลิงเคนมีขึ้นหลังจากที่ไบเดนเพิ่งเดินทางกลับจากการเยือนเอเชีย และได้มีการกล่าวถึงประเด็นไต้หวัน ที่ว่าพร้อมจะให้การสนับสนุนทางการทหารต่อไต้หวัน หากถูกใช้กำลังเข้าควบคุม นำมาสู่ความไม่พอใจอย่างมากต่อประเทศจีน

และชี้ว่า พร้อมจะรบให้ชนะหากต่างชาติเข้าแทรกแซงเรื่องไต้หวัน ทำให้เกิดความตึงเครียดว่าช่องแคบไต้หวันจะระอุขึ้นมาอีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า การกล่าวสุนทรพจน์ของบลิงเคนครั้งนี้ ดูจะเป็นการลดความดุดันของถ้อยคำของผู้นำสหรัฐฯ เพื่อ tone down ให้สถานการณ์กลับมาดีขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันตรง ๆ เพราะหลังการแถลงของไบเดน ทำเนียบขาวถึงกับต้องออกมาย้ำถึงการยอมรับในหลักการจีนเดียว
—————
แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล
ภาพ: Jim WATSON / AFP

#TNNWorldNews #EditorsPick #จีน #สหรัฐฯ #ระเบียบโลก
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline

ข้อมูลอ้างอิง:
การรวบรวมของทีมข่าว TNN World
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Russia: ประธานาธิบดี "ปูติน" ยื่นเงื่อนไขประเทศตะวันตกต้องยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย แล้วรัสเซียจะช่วยผ่อนคลายวิกฤตอาหารโลกที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ในการหารือระหว่างผู้นำรัสเซียกับผู้นำอิตาลี กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ เรือสินค้าต่างชาติ 6 ลำ สามารถออกจากท่าเรือเมืองมารีอูโปลได้

ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาริโอ ดรากี ของอิตาลีเมื่อวานนี้ (26 พฤษภาคม) เกี่ยวกับวิธีช่วยผ่อนคลายวิกฤตอาหารโลกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แต่ผู้นำรัสเซีย ระบุว่า จะช่วยทำเช่นนั้นได้ ก็ต่อเมื่อประเทศตะวันตกยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซีย ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีอิตาลีในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อค่ำวานนี้ (26 พฤษภาคม) ตามเวลาในอิตาลี หลังเสร็จสิ้นการหารือกับผู้นำรัสเซีย

ดรากี เปิดเผยด้วยว่า เขาเป็นฝ่ายยกหูหาผู้นำรัสเซียก่อน เพราะคิดว่า เป็นหน้าที่ของเขาที่ควรจะเริ่มหยิบยกปัญหานี้ขึ้นมา เนื่องจากเป็นปัญหาวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่หนักหน่วง ที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศยากจนในโลก

ดรากี เปิดเผยว่า ปูตินกล่าวต่อเขาว่า วิกฤตอาหารโลกในขณะนี้ คือความผิดพลาดของการที่ประเทศตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตร

ดรากี ระบุด้วยว่า ต่อไปเขาจะยกหูหาประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เพื่อหารือประเด็นปัญหาเดียวกันนี้ด้วย

รัสเซียได้ปิดล้อมท่าเรือหลายแห่งในยูเครน ทำให้ยูเครนไม่สามารถส่งอาหารธัญพืชต่าง ๆ ออกจากท่าเรือได้ ส่งผลให้เกิดวิกฤตอาหารโลก ทั้งเกิดการขาดแคลนและราคาสูงขึ้น ทั้งธัญพืช น้ำมันปรุงอาหาร และปุ๋ย ทั้งนี้ รัสเซียและยูเครนต่างเป็นประเทศผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของโลก

ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า เรือของพลเรือนสามารถใช้ท่าเรือทะเลอาซอฟ ในเมืองท่ามารีอูโปลของยูเครน ได้อย่างปลอดภัยแล้ว หลังจากรัสเซียประกาศยึดเมืองมารีอูโปลได้อย่างเบ็ดเสร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อทหารยูเครนชุดสุดท้ายยอมจำนนและอพยพออกจากโรงงานเหล็กในมารีอูโปล

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุด้วยว่า เรือสินค้าต่างชาติ 6 ลำ สามารถออกจากท่าเรืออาซอฟได้อย่างเสรีแล้ว เรือ 6 ลำดังกล่าวเป็นของบัลแกเรีย โดมินิกา ไลบีเรีย ปานามา ตุรกี และจาไมกา
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #รัสเซีย #อิตาลี
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok