ติดตามสถานะการณ์

ประชาสัมพันธ์ อบต.ม่วงตึ๊ด (#งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
⛈☔️⛈
‼️ #พายุระดับ3 (โซนร้อน ซินลากู) (SINLAKU)
ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 02 สิงหาคม 2563‼️⚠️
เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (2 ส.ค. 63) พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 160 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 106.8 องศาตะวันออก
มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมืองวินห์ ประเทศเวียดนามในเช้าวันนี้ ( 2 ส.ค. 63 ) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็น
พายุดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาว และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับอนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้
ในวันที่ 2 สิงหาคม 2563
☔️ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก

☔️ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ

☔️ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

☔️ภาคตะวันออก: นครนายก ระยอง จันทบุรี และตราด

☔️ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

‼️ในช่วงวันที่ 3-4 สิงหาคม 2563‼️

⛈☔️ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร ตาก และเพชรบูรณ์

☔️ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์

☔️ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี และราชบุรี

☔️ภาคตะวันออก: ระยอง จันทบุรี และตราด

☔️ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือ

ด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563

#สำหรับพายุระดับ3 โซนร้อน (ฮากูปิต) บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเกาะไต้หวันและเมืองเซียงไฮ้ ประเทศจีนในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค. 63 ซึ่งพายุระดับ 3 โซนร้อน (ฮากูปิต)นี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11.00 น.

 

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุก 35 ปี 4 เดือน-ตลอดชีวิต จำเลยทั้ง 5 ราย คดีก่อเหตุยิงชาวบ้าน 5 ศพ ในพื้นที่จ.ยะลา ที่อดีตผู้พิพากษา “คณากร” ยกฟ้อง
.
วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดยะลาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 คดีหมายเลขดำ 312/2563 ที่พนักงานอัยการจังหวัดยะลา เป็นโจทก์ฟ้อง นายซูกรี มูเซะ อายุ 33 ปี, นายสาแปอิง สะเตาะ อายุ 39 ปี, นายแวอาแซ แวยูโซะ อายุ 34 ปี, นายมัสสัน เจะดือเระ อายุ 29 ปี และ นายอับดุลเล๊าะ มะสาเม๊าะ อายุ 30 ปี เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร ความผิดต่อชีวิต และความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
.
โดยคดีนี้ จำเลยทั้งห้าถูกฟ้องจากเหตุการณ์จ่อยิงหัวชาวบ้านดับ 5 ศพพร้อมกัน เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2561 ที่ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นคดีที่ นายคณากร เพียรชนะ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ได้พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งห้า หลังจากนั้น นายคณากร ก็ยิงตัวเองภายในห้องพิจารณาคดีศาลจังหวัดยะลา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อปี 2562 ทำให้ถูกสอบวินัย กระทั่งก่อเหตุยิงตัวเองที่บ้านอีกครั้งในปี 2563 จนเสียชีวิต
.
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงวันเวลา สถานที่เกิดเหตุ มีคนร้ายร่วมกันใช้อาวุธปืนหลายกระบอกและหลายชนิด ยิง นายอิบรอเฮง มูเซะ, นายอุสมาน ยูโซะ, นายอาฮามะ มูเซะ, นายอรัญชัย ดอเฮะ และ นายฟูรกอน ราโช หลายนัดถึงแก่ความตาย เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจสืบสวนทราบว่า จำเลยทั้งห้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จึงใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวทั้งหมด และพวกเข้าสู่กระบวนการซักถาม
.
จำเลยทั้งห้ากระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ พยานโจทก์เบิกความได้ละเอียดสอดคล้องกัน ปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่มีเหตุโกรธเคืองจำเลยทั้งห้า จึงไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าจะกลั่นแกล้งปรักปรำ ส่วนพยานโจทก์ที่ร่วมกระทำผิดเบิกความถึงการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 เครื่องในการติดต่อระหว่างก่อเหตุ ยึดได้ที่เล้าไก่ พยานโจทก์ที่ซัดทอดและร่วมกระทำผิดเล่าถึงที่มาที่ไปในการกระทำความผิดเป็นขั้นตอนชัดแจ้ง ไม่มีลักษณะเป็นการปัดความผิด จึงเชื่อได้ว่าพยานโจทก์เบิกความตามสัตย์จริง มีเหตุผลหนักแน่น
.
พยานโจทก์ได้นำสืบการใช้โทรศัพท์ที่ยึดได้ที่เล้าไก่ ติดต่อกับพวกจำเลย โดยจำเลยที่ 2, 5 นำชี้จุดซ่อนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ แม้ไม่ได้อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ แต่พบของกลางอื่น ได้แก่กระสุนและอาวุธปืน ที่ได้นำชี้ตรวจค้นจริง บ่งชี้ได้ว่ามีการเก็บซ่อนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจริง จำเลยทั้งห้ายอมรับต่อพนักงานสอบสวนว่าร่วมกระทำความผิดคดีนี้ โดยมีผู้นำศาสนาเข้าร่วมรับฟังการสอบสวน
.
พยานโจทก์เป็นสมาชิกขบวนการก่อการร้าย คำเบิกความของพยานโจทก์มีรายละเอียดตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุ ประชุมวางแผน รู้เห็นในการกระทำผิด ขณะเกิดเหตุ และหลังจากเกิดเหตุ เป็นลำดับเหตุการณ์สอดคล้องกัน แม้จำเลยทั้งห้า จะนำสืบอ้างถูกข่มขู่ถูกทำร้ายร่างกาย เพื่อให้ยอมรับสารภาพ ก็อ้างแต่เพียงลอยๆ ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมานำสืบสนับสนุนให้รับฟังได้ พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบเชื่อมโยงสอดคล้องต้องกัน มีน้ำหนักรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย ว่าจำเลยทั้งห้ามีความผิดฐานอั้งยี่ จำเลยที่ 1, 3, 4 ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทั้งห้า จำเลยกับพวกเกินกว่า 5 คน เข้าร่วมประชุมวางแผนฆ่านายอิบรอเฮง เป็นความผิดฐานซ่องโจร ส่วนจำเลยที่ 2, 5 ไม่ได้ร่วมประชุมด้วย จึงไม่ผิดฐานซ่องโจร จำเลยที่ 2, 5 นำอาวุธปืนมอบให้จำเลยที่ 1, 3, 4 กับพวกใช้ก่อเหตุ การกระทำของจำเลยที่ 2, 5 เป็นความผิดฐานสนับสนุนจำเลยที่ 1, 3, 4 ร่วมกันฆ่านายอิบรอเฮงโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
.
พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานอั้งยี่ จำคุกจำเลยทั้งห้าคนละ 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 1, 3, 4 ฐานซ่องโจร คนละ 3 ปี ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนฯ คนละ 6 เดือน ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนฯ คนละ 3 ปี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้ประหารชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2, 5 ฐานสนับสนุนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำคุกตลอดชีวิต
.
คำให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 3 ฐานอั้งยี่ จำคุกจำเลยทั้งห้าคนละ 2 ปี จำคุกจำเลยที่ 1, 3, 4 ฐานซ่องโจร คนละ 2 ปี ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนฯ คนละ 4 เดือน ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนฯ คนละ 2 ปี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2, 5 ฐานสนับสนุนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำคุก 33 ปี 4 เดือน
.
คงจำคุกจำเลยที่ 1, 3, 4 ตลอดชีวิต และเมื่อรวมโทษทุกกระทงของจำเลยที่ 2, 5 คงจำคุกคนละ 35 ปี 4 เดือน ริบของกลาง

-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/crime/detail/9630000078676
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

หรือกรรมการสอบ 186 รพ. เรียก “หัวคิว”ค่ายา
จะเป็นมวยล้มต้มคนดู?
.
.
ผ่านมา 2 เดือน ความคืบหน้าล่าสุดของการย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ไปนั่ง “ตบยุง” ที่ศูนย์บริหารทรัพยากรโควิด – 19 กระทรวงสาธารณสุข ด้วยข้อหาฉกรรจ์ว่าด้วยการ “คอร์รัปชัน” และ “ข่มขู่พยาน” ก็คือความ “ไม่คืบหน้า”
.
มีเพียงแต่คำพูดของอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ที่ออกมายืนยันว่า นพ.สุขุม กาญจนพิมาย คู่กรณีของหมอชาญชัยนั้น ทำถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว ตามมาด้วยการ “หลุด” ของเอกสารสอบสวนหมอชาญชัย จากคณะกรรมการ ที่มี พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ เป็นประธาน
.
การ “หลุด” โดยตั้งใจนั้น ไม่อาจเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากบ่งบอกว่า มี “คนใน” คณะกรรมการ ที่เห็นความไม่ชอบมาพากลของกรรมการชุดนี้ และเลือกที่จะอยู่ฝ่ายตรงข้าม กับ นพ.สุขุม ซึ่งกำลังจะหมดอำนาจในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะต้องเกษียณอายุราชการ รวมถึงจะมีการเสนอชื่อปลัดกระทรวงคนใหม่ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ภายในเดือนสิงหาคม
.
ด้วยสถานะ “ขาลอย” แบบนี้ นพ.สุขุม ก็เริ่มหมดอำนาจ ไม่สามารถชี้นิ้วสั่งใครได้อีกต่อไป เช่นเดียวกับบรรดาแกนนำชมรมแพทย์ชนบทที่อยู่รอบตัวปลัดกระทรวง ที่ก็เริ่มสงบปากสงบคำเช่นเดียวกัน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เลยพยายาม “ยื้อ” ให้นานที่สุด เพื่อดูท่าทีของเบอร์ 1 คนใหม่ ว่าจะเอาอย่างไรต่อกับเรื่องนี้..
.
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นอกจากจะหมายถึงคณะกรรมการสอบสวน นพ.ชาญชัย แล้ว ยังหมายรวมถึงคณะกรรมการตรวจสอบการเรียกรับเงินจาก “บริษัทยา” 186 โรงพยาบาล ที่อดีตผู้บริหารบริษัทยา ออกมา “ปูด” ข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้ และมี นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข เป็นประธานด้วย
.
เป็นที่รู้กันดีว่าเรื่อง 186 โรงพยาบาล ถูกดึงออกมาเพื่อ “ขยายผล” จากเรื่องโรงพยาบาลขอนแก่น ให้เห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากลในการ “จัดซื้อ” ของโรงพยาบาลจริง และมีการใช้เงินนอกบัญชี เพื่อกิจการอื่นๆ จริง เป็นบัญชีสีเทาๆ ของโรงพยาบาลใหญ่ทั่วประเทศ ใช้งานสัพเพเหระ ตั้งแต่จ้างเจ้าหน้าที่เพิ่ม ปรับปรุงที่จอดรถ หรือใช้ในงานสวัสดิการ นอกเหนือจาก “งบหลวง” และค่าเหมาจ่ายรายหัวของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ใช้อย่างไรก็ไม่มีทางพอ
.
แต่พอเรื่องเลยเถิดจาก 1 โรงพยาบาล กลายเป็น 186 โรงพยาบาล เสียงจาก “ผู้ใหญ่” หลายคนในกระทรวงสาธารณสุข ก็เลยออกมาเตือนว่า สุดท้ายจะเละด้วยกันทั้งหมด หลายโรงพยาบาล โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ และหลายจังหวัดในภาคอีสาน อยู่ได้ด้วยเงินเหล่านี้จากบริษัทยา และเงินบริจาคอื่นๆ ไม่ว่าจะจากเศรษฐีในจังหวัด หรือจากพระชั้นผู้ใหญ่ หากตั้งใจจะ “รื้อ” กันจริง เกรงว่าจะกระทบการบริหารจัดการโรงพยาบาลกันยกใหญ่ และก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว นอกจากจะจ้องจับผิดกันไปมา
.
จึงมีเสียงเรียกร้องแบบไทยๆ ว่า รอบนี้ การสอบสวน 186 โรงพยาบาล อาจต้อง “พัก” ไว้ก่อน ตามสไตล์ไทยๆ ด้วยการบอกว่า “ไม่พบหลักฐาน” ว่ามีการทุจริต มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง หรือเอาเงินบริจาค ส่วนลด จากค่ายา ไปทำอย่างอื่นที่ผิดกฎหมาย แต่อาจต้องปรับการใช้เงินให้รัดกุมมากขึ้น แบบเดียวกับเรื่องอื่นๆ ที่ถูกเปิดขึ้นมา แล้วเงียบลงไปช่วงการระบาดของโควิด - 19
.
นั่นหมายความว่าไม่มีใครผิด มีแต่เรื่องเข้าใจผิด เพราะระบบบัญชี ระเบียบการเงิน ไม่ “รัดกุม” มากพอ ซึ่งตามสไตล์ “ราชการ” ก็ต้องตั้งคณะกรรมการศึกษาอีก 1 ชุด ว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร ก่อนจะเสนอปลัดกระทรวง เสนอรัฐมนตรี ให้เปลี่ยนแปลง ซึ่งหากทอดเวลาให้เนิ่นนาน ปล่อยให้เงียบไป ก็เชื่อได้เลยว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับอีกหลายเรื่องที่ “จุดพลุ” ขึ้นมาแล้วหายไป..
.
ทั้งหมดนี้ ต้อง “วัดใจ” ปลัดกระทรวงคนใหม่ ซึ่งคาดหมายว่าจะอยู่แถวๆ 2 รายชื่อ ได้แก่ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย และ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ซึ่งคาดว่า “มีลุ้น” ที่สุด
.
ข้อสังเกตก็คือ ทั้งสองคน ประวัติไม่ได้เป็น “สายแข็ง” เท่าไหร่ หมอเกียรติภูมิไต่เต้ามาในสายกรมสุขภาพจิต เคยเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา ก่อนขึ้นเป็นรองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ส่วนหมอพรรณพิมล ก็มาจากสถาบันราชานุกูล เติบโตมาในไลน์กรมสุขภาพจิตเช่นกัน ไม่มีพรรคพวกจากสายนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด หรือจากโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ส่วนความสัมพันธ์กับบรรดาสมาชิก - แกนนำ ชมรมแพทย์ชนบทนั้น ยิ่ง “ห่างไกล”
.
หากหวยออกที่หมอพรรณพิมล ก็หมายความว่า หมอเกียรติภูมิ และหมอสมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่เกษียณอายุราชการในปี 2565 รวมถึง นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ซึ่งเกษียณอายุราชการในปี 2566 ก็ยังมีเวลาลุ้นกันเข้าชิงปลัดรอบต่อไป เพราะปีหน้า 2564 หมอพรรณพิมล ก็เกษียณอายุราชการแล้ว และก็มีความเป็นไปได้ว่า สไตล์ “ปลัดปีเดียว” นั้น นักการเมืองชอบมากกว่า สามารถใช้งานได้ง่ายกว่า หัวอ่อนกว่า ไม่ต้องมีพันธะผูกพัน ไม่ต้องมีเวลาสร้างขุมกำลังข้าราชการ และสไตล์รัฐบาลชุดนี้ ที่ไม่น่าจะมีอายุยืนยาวนัก การเปลี่ยนปลัดกระทรวง “ปีต่อปี” ก็น่าจะเพียงพอ
.
แต่ก็ใช่ว่าจะตัดหมอเกียรติภูมิผู้มี “ซุปเปอร์คอนเนคชัน” กับ “เสี่ยหนู” ออกได้ง่ายเท่าไรนัก เพราะทั้งสอง รู้จักกันมานานนมเกิน 10 ปี และอนุทิน ก็แสดงความสนิทสนมกับเกียรติภูมิมาโดยตลอด
.
หากเป็น 2 คนนี้ เรื่องการทุจริตของ 186 โรงพยาบาล จะค่อยๆ เงียบลงไป เรื่องที่ถูกเปิดขึ้น จะกลายเป็นเรื่องในอดีต เฉพาะตัวของ นพ.สุขุม ปลัดกระทรวงคนปัจจุบัน และ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดคู่ใจเท่านั้น เพราะ เอาเข้าจริง เรื่องเงินบริจาค ไม่ค่อยมีใครอยาก “เปลืองตัว” ยุ่งด้วยเท่าไหร่
.
และถ้ายุ่งเมื่อไหร่ ต้องสาวไส้กันเองเมื่อไหร่ ก็แปลว่าเรื่องจะไม่จบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน เพราะขึ้นชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุข ยังไงก็มีขั้ว มีฝ่าย ที่ “พร้อมรบ” ตลอดเวลา
.
และถ้าไม่ทะเลาะกัน.. ก็ไม่ใช่กระทรวงนี้ อย่างแน่นอน

#กระทรวงสาธารณสุข #หัวคิวค่ายา #เงินทอนค่ายา

 

ผลสำรวจชี้ '1 ใน 3 ของคนจีนรุ่นใหม่ไม่ทำงานบ้านด้วยตนเอง รวมถึงการล้างจาน โดยใช้เงินจ้างแม่บ้านแบบรายครั้ง มาทำความสะอาดมากขึ้น'

.

ถือว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อ Weibo ร่วมกับบริษัทวิจัยข้อมูลในจีนอย่าง Dataway สำรวจและวิเคราะห์พฤติกรรมคนจีนยุคใหม่ เมื่อปี 2019ที่ผ่านมา

.
โดยข้อมูลชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบัน คนจีนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะช่วงอายุ 18-29 ปี ไม่นิยมทำงานบ้าน-ล้างจานด้วยตนเอง มากถึง 1ใน3 หรือมากกว่า 30%

มองว่า "สามารถจ้างแม่บ้านแบบรายครั้งหรือรายวันที่ตอนนี้มีให้บริการจำนวนมาก มาทำความสะอาดให้ จะสะอาดกว่า และยังเป็นการเอาเวลาที่ต้องทำงานบ้านด้วยตนเอง ไปทำอย่างอื่นที่ได้งานอันมีประโยชน์มากกว่าได้ด้วย"

และถ้าหากไม่จ้าง ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ขอให้พ่อแม่ หรือคนรัก ทำงานบ้านให้
.
คนจีนเกือบ 40% ในการสำรวจครั้งนี้ เลือก 'สั่งอาหารจาก Food delivery และไปกินอาหารนอกบ้าน' เพราะไม่ต้องการทำข้าวกับข้าวด้วยตนเอง โดยกลุ่มใหญ่สุดที่คิดเช่นนี้ ได้แก่ พนักงานออฟฟิศและนักศึกษามหาวิทยาลัย
.
โดยจากประสบการณ์ใช้ชีวิตเมืองจีนของอ้ายจง ขอบอกเลยว่า มันเกี่ยวข้องกับการล้างจาน การทำความสะอาดหลังจากทำกับข้าวด้วย พูดง่ายๆคือ สั่งมากิน หรือไปกินนอกบ้าน สะดวกกว่า ทำความสะอาดก็น้อยหรือแทบไม่ต้องทำเลย
.
แต่ก็มีจำนวนคนจีนมากถึง 46.3% ที่เลือกทำงานบ้านด้วยตนเองในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะผู้ชายในมณฑลจี๋หลิน เหอเป่ยและเน่ยเหมิงกู่ (มองโกเลียใน) ส่วนมณฑลที่ผู้หญิงชอบทำงานบ้านมากที่สุด คือ มองโกเลียใน ซานซี และเหอเป่ย สามอันดับแรก จากข้อมูลที่เผยแพร่โดย People's Daily สื่อทางการจีน

.
โดยเรื่องของการทำงานบ้าน เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่จะจัดสรรและแบ่งเวลาทำส่วนนี้ บางคนทำงานหนักหรือมีภารกิจอื่น ก็หาวิธีทำส่วนนี้แทน เช่น การจ้าง อย่างที่อ้ายจงได้เล่าไปแล้วข้างต้น

อ้างอิงจาก:
https://bit.ly/39xl3mY

https://bit.ly/2DdCzjU

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #ชีวิตคนจีน #ทำงานบ้าน #ล้างจาน

 

ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง เลื่อนกำหนดการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2563 (เพิ่มเติม) เป็นการเฉพาะ https://bit.ly/39Tiig4

ที่มา : กระทรวงกลาโหม

#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
#ศูนย์ข้อมูลCOVID19
#หยุดโควิดแต่ไม่หยุดเศรษฐกิจไทย
#NewNormalชีวิตวิถีใหม่
#สมดุลชีวิตวิถีใหม่
#รวมไทยสร้างชาติ

 

⚠️ [UPDATE] ⚠️ #ทั้งโลกรอลุ้น ! ว่าทรัมป์จะยังคงแบนแอป TikTok จริงๆหรือไม่ ? หลังทางบริษัท TikTok ยอมจำนน ประกาศพร้อมขายหุ้นให้บริษัทในสหรัฐเพื่อที่จะได้ทำธุรกิจในอเมริกาต่อไป

หลังจากเมื่อวานที่ได้รายงานไปว่า ทรัมป์ออกมาประกาศว่าเขาจะทำการแบนแอป TikTok ในสหรัฐอเมริกาเพื่อลดอิทธิพลของสื่อ Social Media จากจีน ที่อาจล้วงเก็บข้อมูลจากชาวอเมริกันผ่านแอปไปได้ เพื่อความมั่นคงของชาติทางทรัมป์จะใช้อำนาจประธานาธิบดีและอนุมัติการแบนแอป TikTok ในวันเสาร์นี้ (เวลาที่สหรัฐ)

อย่างไรก็ตามทั้งโลกกำลังรอลุ้นว่าทางทรัมป์นั้นจะเอาจริงหรือไม่ เพราะนี่ก็เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็จะครบกำหนดผ่านวันเสาร์เวลาที่สหรัฐไปแล้ว (ตอนนี้ 8.50 น. ที่ไทย) ??

ประกอบกับทาง Tiktok ที่ออกมาปฏิเสธข่าวว่ายังไม่ได้มีการเจรจาขายธุรกิจกับทาง Microsoft ในตอนแรก ในที่สุดหลังทรัมป์จะใช้ไม้แข็งทางบริษัทก็ยอมออกมาประกาศพร้อมขายหุ้นธุรกิจในสหรัฐทั้งหมด 100% ให้กับบริษัทในสหรัฐเอง เพื่อที่จะได้ดำเนินธุรกิจในอเมริกาต่อไป

เช้านี้ทาง ByteDance บริษัทแม่ของ Tiktok ได้ออกมายืนยันข่าวการขายยอมหุ้นครั้งนี้แล้ว และตอนนี้กำลังรับข้อเสนอจากบริษัทสหรัฐต่างๆที่สนใจเข้าซื้อ TikTok (Facebook อาจจะพยายามยื่นข้อเสนอซื้อแข่งกับทาง Microsoft)

#อีกจุดนึงที่น่าสนใจที่สุดคือ

หากรัฐบาลสหรัฐเลือกที่จะแบน TikTok จริงๆ จะทำให้ 4 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอย่าง Facebook, Apple, Amazon และ Google ที่กำลังโดนการสอบสวนจากสภาสหรัฐข้อหาการผูกขาดธุรกิจ Online อยู่นั้น #จะยิ่งมีอำนาจผูกขาดในตลาดต่อบริโภค มากขึ้น

แต่หากทางรัฐบาลสหรัฐยอมให้ Microsoft ซื้อกิจการของ TikTok ในสหรัฐ จะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของผู้บริโภค Online นั้นกระจายตัวมากขึ้นและมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ตรงต่อความต้องการของรัฐบาล...

ทำให้ต้องรอลุ้นดูว่าทางทรัมป์จะยอมให้เกิดดีลนี้ขึ้นหรือไม่ ? หรือว่าจะยืนยันแบน Tiktok อยู่ดี ?? #เพื่อความมั่นคงของชาติ

⛔️ ติดตามทุกข่าวสารสำคัญในตลาดโลกและสาระที่น่าสนใจจากเพจผ่านทาง #LINE ด้วยได้นะครับ

https://line.me/ti/g2/deJbt9vrZcT77...ion&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเราฝาก Like และ Share เป็นกำลังใจให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

#ทันโลกกับTraderKP

 

2 ส.ค. 2563 เวลา 05.30 น. น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านสูบ 4 ต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย หลัง ฝนตกหนัก ตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้า น้ำป่าท่วมหมู่บ้านกว่า 300 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องพากันเร่งขนของไว้บนที่สูง ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 70 เซนติเมตร

#ขอบคุณภาพจากไทยพีบีเอส

 

เปิดภาพวงจรปิดพบ “จารุชาติ มาดทอง” และคู่กรณีขี่ จยย.เฉี่ยวชน พบนั่งดื่มกินในร้านเดียวกันคืนเกิดเหตุ แต่นั่งคนละโต๊ะ จนกระทั่งร้านปิดได้ทักทายกันและชักชวนกันไปเที่ยวต่อ ด้านคู่กรณีรับให้การคลาดเคลื่อน ทีแรกบอกไม่เคยเจอกันมาก่อน เพราะเมา

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000078712
………………………………
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

เปิดภาพวงจรปิดพบ “จารุชาติ มาดทอง” และคู่กรณีขี่ จยย.เฉี่ยวชน พบนั่งดื่มกินในร้านเดียวกันคืนเกิดเหตุ แต่นั่งคนละโต๊ะ จนกระทั่งร้านปิดได้ทักทายกันและชักชวนกันไปเที่ยวต่อ ด้านคู่กรณีรับให้การคลาดเคลื่อน ทีแรกบอกไม่เคยเจอกันมาก่อน เพราะเมา

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000078712
………………………………
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

ด่วน! น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่จังหวัดเลย

 

Aug 1, 2020 ยักษ์สายการบินปลดอีก 2,700 คน ตั้งแต่กับตันถึงพนักงานเคาเตอร์ออกตั๋วโดยสารสายการบินลาแทม

สายการบินลาแทม LATAM ซึ่งเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิลและละตินอเมริกา ประกาศปลดพนักงานทุดระดับรวมกัน 2,700 คน จากพนักงานทั้งหมด 43,000 คนทั่วโลก โดยส่วนใหญ่จะทำงานอยู่ในประเทศบราซิลและชิลี

สาเหตุจากธุรกิจการบินของลาแทมได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากตลาดการบินในละตินเอมริกาที่ทรุดหนักครั้งประวัติการณ์ นอกจากนี้ ภาระหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 576,000 ล้านบาท ส่งผลให้ต้องมีการเร่งปรับโครงสร้างหนี้ตามมูลค่าดังกล่าว

ทั้งนี้ ในวันนี้ 1 สิงหาคม ญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 พุ่งสูงถึง 1,512 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันในญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นเกิน 1,000 คนต่อวัน กลายเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ส่งผลให้ในวันนี้ ญี่ปุ่นมีผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมเป็น 34,372 ครองอันดับที่ 55 ของโลก ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 1,006 ราย

#สายการบิน #เครื่องบิน #ปลดพนักงาน #ตกงาน #btimes

 

ประชาชนหลายพันเดินประท้วง
"มาตรการคุมโควิด" ในเบอร์ลิน
.
ผู้ประท้วงหลายพันคนเดินขบวนในเบอร์ลินในวันเสาร์ (1) เพื่อประท้วงต่อต้านมาตรการที่ถูกบังคับใช้ในเยอรมนีเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยระบุว่า มันละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
.
การรวมตัวกันอย่างหลวมๆ นี้ ซึ่งตำรวจประเมินว่ามีจำนวน 15,000 คน รวมถึงนักเสรีนิยม ผู้ภักดีต่อรัฐธรรมนูญ และผู้ไม่เชื่อในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังนโยบายต่อสู้การแพร่ระบาด ยังมีการปรากฎตัวของพวกฝ่ายขวาจัดกลุ่มเล็กๆ ที่ชูธงจักรวรรดิเยอรมนีด้วย
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000078708
#ประชาชน #เยอรมนี #มาตรการคุมโควิด

 

‘ดานัง’ เตรียมตรวจหาเชื้อยกเมือง 1.1 ล้านคน
หลังพบคนติดโควิดรายใหม่ต่อเนื่อง
.
นครดานัง เมืองชายฝั่งทะเลของเวียดนาม วางแผนที่จะตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กับชาวเมืองทั้งหมด 1.1 ล้านคน ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่วันนี้ (1) หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 40 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเมืองดานัง ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ที่ 586 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 คน
.
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลในเมืองดานัง ที่พบการติดเชื้อในท้องถิ่นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/indochina/detail/9630000078741
#นครดานัง #เวียดนาม #ตรวจหาเชื้อยกเมือง #โควิด-19 #รอบใหม่

 

เขมรจ่อออกกฎหมายปรับเงินหญิงนุ่งสั้นใส่ชุดซีทรู
นักสิทธิวิตกละเมิดเสรีภาพ
.
กัมพูชากำลังเสนอร่างกฎหมายที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปรับเงินกับผู้ที่ถูกมองว่าแต่งกายไม่เหมาะสมได้ กฎหมายที่นักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนมองว่าอาจถูกใช้ลดทอนเสรีภาพของผู้หญิง และส่งเสริมวัฒนธรรมการยกเว้นโทษในเรื่องความรุนแรงทางเพศ
.
ร่างกฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้ในปีหน้าหากได้รับการอนุมัติจากกระทรวงต่างๆ และรัฐสภา จะกำหนดห้ามผู้ชายเปลือยท่อนบนเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ และห้ามผู้หญิงสวมใส่สิ่งที่ “สั้นเกินไป” หรือ “ชุดซีทรู”
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/indochina/detail/9630000078667
#กัมพูชา #กฎหมายปรับเงินหญิงนุ่งสั้นใส่ชุดซีทรู #ละเมิดเสรีภาพ

 

พายุโซนร้อน Isaias ทำให้เกิดอุทกภัยและแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่และกระแสไฟฟ้าดับ กระทบ PUERTO RICO

https://www.13abc.com/2020/07/30/tropical-storm-isaias-heads-for-hispaniola-with-heavy-rain/

 

ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก(น้ำห้วยมะเปียง) พื้นที่บ้านเมืองหลวง หมู่ที่ 4 ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง จ.น่าน ทำให้บ้านเรือนราษฎร์ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 4 หลัง

ประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 9 ราย ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย

Cr.ดีเจ ป เปี๊ยก รายงาน
#ที่นี่เมืองน่าน

 

#ขอความช่วยเหลือด่วน พิกัดบ้านสูบ ม.9 ต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย ฝนตกหนัก น้ำระบายไม่ทัน ฝายขาด

ตอนนี้ฝนยังตกมาไม่หยุด ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปช่วย

ที่มา สินีนาท วันน้อย

 

โปรตุเกส : #อุบัติเหตุรถไฟความเร็วสูง เหตุรถไฟ Alfa Pendular ตกรางชนกับป้อมเครื่องส่งสัญญาณ ทำให้มีคนเสียชีวิต 2 ราย ในป้อม บนรถบาดเจ็บ 43 รายสาหัส 9 ราย ขณะเกิดเหตุ มีผู้โดยสารบนรถ 212 คน ทางการโปรตุเกสกำลังสอบสวนหาสาเหตุ

**รถไฟ Alfa Pendular ทำความเร็วสูงสุด 220 กม./ ชม. ปกติใช้ 180 +/ชม. (ต้นทางเรียกความเร็วสูง)

 

พบบ้านเกือบ 100 หลัง ในโครงการสวัสดิการข้าราชการ(เช่าซื้อ) ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี บนเนื้อที่ 14 ไร่ ซึ่งใช้งบประมาณก่อสร้าง 75 ล้านบาท อยู่ในสภาพทรุดโทรม เเม้บ้านบางหลังจะก่อสร้างโครงสร้างภายนอกเกือบเเล้วเสร็จ เเต่ภายในบ้านยังไม่สมบูรณ์ บ้านบางหลังเริ่มผุพัง เเละมีวัชพืชขึ้นเต็มพื้นบ้าน

โครงการนี้เกิดขึ้น หลังคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2560 อนุมัติให้การเคหะแห่งชาติ จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2559 ซึ่งรวมถึง โครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการ (เช่าซื้อ) จังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นสวัสดิการที่อยู่อาศัยและสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่

โดยกำหนดเเบบเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดประมาณ 28 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 800,000 บาท โดยได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 2561 เดิมสิ้นสุดสัญญา 23 พฤษภาคม ปี 2563 แต่ได้มีการขยายเวลาให้ผู้รับเหมาอีก 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด กำหนดสิ้นสุดสัญญา วันที่ 21 มกราคม ปีหน้า ซึ่งเหลือแค่ประมาณ 6 เดือน

#ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้

 

วันนี้ (2 ส.ค. 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 05.00 น. เกิดเหตุ น้ำป่าไหลทะลัก เข้าท่วมหมู่บ้านสูบ 4 ต.น้ำสวย .เมือง จ.เลย หลัง #ฝนตกหนัก ตลอดทั้งคืน จึงถึงช่วงเช้า น้ำป่าได้ทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านกว่า 300 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องพากันเร่งขนของไว้บนที่สูง โดยบ้านเรือนบางหลัง น้ำทะลักเข้าไปในบ้านระดับน้ำสูงประมาณ 70 เซนติเมตร #ThaiPBSnews