ตามหา หมอดู เชียงใหม่ คนนี้ให้ผมด้วยครับ มีรายละเอียดให้ครับ

คือเพื่อนผมดูกับแกตอนปี 50 ครับ เผอิญกลับไปดูข้อมูลใหม่ๆ ผ่านไปสามปี ข้อมูลที่แกบอก ถูก เกือบหมดครับ เพื่อผมเลยอยากจะกลับไปดูกับแกอีกรอบหนึ่ง มากๆ ผมก็เลยเอางี้ เดี๋ยวโพสถามในห้องพลังจิตให้ละกัน

แต่ เบอร์กับชื่อหมอดูคนนี้ มันดันทำหายไปหมดแล้วครับ ไม่รู้สาบสูญไปไหม หายแค่เบอร์กับชื่อด้วย เหลือแค่ข้อมูลที่เคยดูดวงให้อยากกลับไปหาเล่นๆ

ตัวใบ้สำหรับหมอดูคนนี้ครับ
-เป็นหมอดูเชียงใหม่ หรือในภาคเหนือนี่แหละ แต่คิดว่าเป็นเชียงใหม่ชัวร์ครับ
-ดูทางโทรศัพท์ ถ้าจำไม่ผิด จะให้โอนตังค์ 500 บาทมั้งครับ (ถ้าจำไม่ผิดนะ)
รู้สึกต้องโอนก่อน แล้วเขาจะนัดวัน ที่จะดูดวงกับเรา แต่เราต้องโทรไปหาเขาเอง
-ดูด้วยโหราศาสตร์ไทย
-***อันนี้ตัวใบ้สำคัญสุด เวลาดูกับแก แกจะให้รหัส ห้าตัว มากับตัวเรา เช่น จ 1630 , ข 1562 เพื่อเป็นรหัสแทนตัวเรา ครั้งหน้าถ้าโทรมาอีกก็ไม่จำเป็นต้องบอกข้อมูลวันเดือนปีเกิดใหม่ ให้เสียเวลา บอกแค่รหัสห้าหลักแค่นี้พอ แล้วก็ดูดวงต่อได้เลย
-เป็นหมอดูผู้ชายครับ แก่หน่อย พูดเร็ว เร็วมากๆเลยแหละ


ขอบคุณมากครับผม สำหรับความช่วยเหลอื

 

มันยากหน่อยน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าได้ไปดูถึงที่หรือเปล่า ถ้าไปดูถึงที่ก็พอจะแนะให้ได้ ถ้าโทรหาแล้วบอกแบบนี้ ตอนนี้นึกไม่ออกเลยคะ่ แต่ถ้าเป็นที่อื่นในเชียงใหม่ก็พอจะแนะนำให้ได้คะ่

 

เชียงใหม่ไม่ใช่เมืองเล็ก ๆ เลย

 

เอ๊ะ อยากรู้จัก คริคริ

 

ผมขอขอบคุณ และอนุโมทนาบุญกับทุกเสียงทุกสาย ที่สละเวลาโทรมาปรึกษาผม และผมสัญญาว่าจะพยายามตอบกลับมาทางกระทู้เป็นระยะๆ เพื่อให้กําลังใจ และอวยพรให้ทุกท่านข้ามพ้นอุปสรรค ปัญหาการงานการเงิน และชีวิตครอบครัวโดยเร็ววัน ขอให้กําลังใจแด่ คุณพี่ผู้ชายจากเชียงใหม่ที่มีโครงการจะเดินทางไปประเทศอินเดีย คุณน้องผู้หญิงปัญหาครอบครัว ความรัก การเงินจากเชียงใหม่ คุณพี่ผู้หญิงปัญหาครอบครัวการงานการเงินจากประจวบคีรีขันธ์ คุณพี่ผู้หญิงปัญหาส่วนตัว และพี่ชายเรื่องคดีความจากกรุงเทพมหานคร คุณพี่ผู้ชายนักธุระกิจใหญ่เรื่องการร่วมลงทุนทําโปรเจค คุณพี่ผู้หญิงปัญหาส่วนตัวครอบครัว ค้าขาย จากเชียงใหม่ คุณพี่ผู้หญิงปัญหาส่วนตัวครอบครัว การเงิน ความรักจากเพรชบูรณ์ คุณพี่ผู้หญิงปัญหาครอบครัว จากประเทศนอร์เวย์ และผมจะปกป้องผลประโยชน์โดยไม่ระเมิดความเป็นส่วนตัว และจะรักษาความลับของทุกท่าน ด้วยการลบเบอร์โทรศัพท์ทุกครั้งเพื่อให้ทุกท่านคลายความกังวล และขอฝากข่าวมาทางผู้ที่พึ่งอ่านเจอเป็นครั้งแรกด้วยครับ ว่าท่านควรเตรียมคําถามที่คิดว่าอยากรู้คําตอบเสียก่อน ส่วนจะถามรายละเอียดได้ต้องให้ผมใช้สมาธิจิตเพ่งดูก่อนทุกครั้ง เพื่อความเเม่นยํา ระยะเวลาไม่ควรมากเกิน20นาทีอาจทําให้ผมเหนื่อย เพราะยังมีท่านอื่นที่ต้องการโทรต่อจากท่าน และผมจะสรุปให้ท่านเข้าใจอีกครั้งก่อนวางสาย ฉะนั้นท่านไม่ควรเป็นกังวล ผมจะช่วยทุกท่านอย่างสุดกําลังความสามารถ ส่วนคุณพี่ที่โทรมาจากประเทศนอร์เวย์ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 44.39 นาที ท่านนี้ไม่เป็นไรเพราะท่านอยู่ต่างแดน ทุกข์มากผมจึงให้ท่านสอบถามจนหมดข้อข้องใจ หากต้องทราบรายละเอียดอีกครั้ง หรือจะร่วมอนุโมทนาบุญเชิญโพสข้อความเข้ามาได้ทุกเว็ปที่ปรากฎข้อความผมอยู่
จากสิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

หนทางแห่งการดับทุกข์ ศีล สมาธิ ปัญญา

ขออนุโมทนาบุญ
และให้กําลังใจกับสามท่านครับ
คุณพี่ผู้ชาย นักปฎิบัติธรรม จากกรุงเทพมหานคร ปรึกษาวิธีเดินจงกรม นั่งสมาธิ
การเดินจงกลมหมายถึงลักษณะ อาการเดินกลับไปกลับมา ในระยะไม่สั้นไม่ยาวเกิน3-5วา แค่พอเหมาะ บริกําคําภาวนาทุกขณะ ตั้งแต่เริ่มยืนหนอ อยากก้าวหนอ เริ่มยกหนอที่เท้าขวาก่อนเท้าซ้ายทุกครั้ง พอกระทบพื้นภาวนาคําว่าถูกหนออย่างนี้ไปตลอดสุดทางเดิน(ให้จิตรับรู้เมื่อเท้าสัมผัสกับพื้น อ่อนก็รู้ว่าอ่อน แข็งก็รู้ว่าแข็งไปอย่างนี้ ลักษณะมือเยียดสุด มือขวาทับมือซ้ายบริเวรหน้าท้อง) พอสุดทางเดินกําหนดคําว่าหยุดหนอ อยากกลับ ก็ภาวนาว่าอยากกลับหนอ กลับหนอค่อยๆขยับเท้าขวา 45องศาหมุนขวา ตามด้วยเท้าซ้ายจนมาอยู่ตำแหน่งทางตรง จะเดินใหม่ก็เริ่มต้นทุกอย่างนี้เช่นครั้งแรก วิธีนี้เรียกว่ารู้ตัวทั่วพร้อมแต่ถ้าจะใช้วิธีเดินจงกรมแบบของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต กำหนดระยะทางเดินให้พอเหมาะพอดีอย่าให้มีสิ่งกีดขวางเริ่มต้นเดินเรียกว่าหัวจงกรม สุดทางเรียกท้ายจงกรม ต้องยืนพนมมือที่หัวจงกรมกล่าวคำอฐิษฐานเดินจงกรมว่า
ขอนอบน้อมแด่ คุณพระรัตนตรัย คุณพ่อแม่ครูอาจารย์...สาธุ
ลักษณะแขนและมือเยียดสุดมือขวาจับข้อมือซ้ายพอดีๆจะเอาไว้ข้างหน้าหรือด้านหลังก็ได้อย่าให้หลุดจิตจะเคลื่อนจากฐานที่ตั้งของจิตได้ง่ายจากนั้นให้ใช้จิต(ใจ)เพ่งไปบริเวณฐานที่ตั้งของจิต สำหรับผู้ผึกใหม่อาจจะยังไม่ทราบคำว่าฐานที่ตั้ง ก็คือเป็นที่วางคำบริกำ,กระปุกออมสิน,ที่ๆระลึกแล้วจำได้ชัดเจนในทันทีทันใด ตรงนี้ใช้เป็นประทาน(สติ)เป็นที่ให้สติเข้าไปใช้เป็นที่อาศัยเกาะอยู่ส่วนคำภาวนาพุทโธเป็นรอง(สัมปชัญญะ)รวมไปจนถึงอาการยืน เดิน นั่ง นอนคือสัมปชัญญะทั้งหมดร่างกายจึงเป็นรูป คำภาวนาแม้แต่ฐานที่ตั้งของจิตเป็นนามตามไปด้วยหากยกระดับจิตไปเป็นวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ดังนี้มีอยู่ตั้งแต่ เหนือสะดือ ระหว่างหน้าอกฝั่งซ้ายที่หัวใจ ปลายจมูก ระหว่างคิ้ว ใช้คำบริกำพุทโธ(หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ)ว่าในใจใส่ลงไปในฐานที่ตั้งของจิตของแต่ละคนตามจริต ตามความถนัด ตามความชอบของแต่ละคนเพียงหนึ่งฐานเท่านั้น ใหม่ๆกลัวจะจำไม่ได้ให้ใช้นิ้วจิ้มตามฐานต่างๆที่บออกไว้ดูตรงไหนมีความรู้สึกได้ชัดเจนให้ใ้ช้ตรงจุดนั้นๆทำเป็นฐานแล้วเริ่มเดินก้าวด้วยเท้าขวาตามด้วยเท้าซ้าย ช่วงก้าวไม่สั้นไม่ยาวเกินไปให้เหมือนการเดินตามปกติ อย่าให้ช้ามากเกินไปจะขาดความสดชื่นเพราะจิตจะส่งออกนอกฐานที่เลือกไว้ สายตาอย่าทอดลงต่ำกว่า3วาไม่ควรมองลงไปที่พื้นโดยตรง ใช้เพียงการสังเกตุเห็นความขุ่นมัวและเมื่อใดเผลอไปเห็นสิ่งอื่นชัดเจน แสดงว่าจิตส่งออกนอกฐานก็ให้รู้ ให้น้อมเอาจิตกลับฐานดังเดิม เมื่อเดินไปสุดท้ายจงกรมให้ยุดเดินก่อน แล้วเรียกความรู้สึกทั้งหมดคือรู้ในอาการนั้นๆกลับมา แล้วหันกลับโดยหมุนไปทางขวาเหมือนกับวิธีข้างบนระหว่างหมุนกลับจะวางคำภาวก่อนหรือไม่วางก็ได้แต่ตอนเริ่มเดินต้องปฏิบัติเป็นไปตามอย่างที่เริ่มต้นดังเดิม(ใช้เวลาไม่มากไม่น้อยราวๆ30-40นาีที)ขึ้นกับความสะดวกเหมาะสมของแต่ละคนครับ เมื่อจะจบการเดินให้เดินจนมาสุด ณ.จุดเริ่มต้นเช่นครั้งแรกที่หัวจงกรม แล้วน้อมจิตให้อยู่ในฐานที่ตั้งของจิตพนมมือแผ่เมตตา สัพเพ สัตตา สุขีโหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิเม
ขอผลบุญที่ข้า้พเจ้าได้กระทำแล้ว จงอำนวยผลให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง อยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด...สาธุ
หากระหว่างปฎิบัตินี้ท่านได้ความสงบความสดชื่น ปิติสุขหรือคุณวิเศษใดๆแสดงว่าท่านได้ดำเนินทำมาถูกทางแล้ว หากมีความรู้สึกที่แตกต่างไปจากนี้ นอกนั้นถือว่าเป็นมิจจฉาทิฎฐิ(ต้องค่อยๆศึกษาปรับแก้กันต่อไป)

การนั่งสมาธิ ที่ถูกต้องควรกราบสติปัฏฐานสี่เสียก่อน(เพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย)โดยกราบแบบเบญจางคประดิษสําหรับผู้ชาย ผู้หญิงกราบแบบเทพธิดา แล้วนั่งขัดสมาธิเท้าขวาทับเท้าซ้าย มือซ้ายวางบนตักมือขวาทับมือซ้ายหัวแม่มือทั้งสองข้างชนกันหรือไม่ชนก็ได้ หลับตาให้เปลือกตาปิดสนิทอย่าปีบลูกนัยตา หลับตาแบบสบายๆ กําหนดกองลมระงับกายสังขาร(สังขารคือ กายเรียกกายสังขาร คำพูดเรียกวจีสังขาร ใจเรียกมโนสังขาร รวมทั้งสามอย่างนี้เป็นสังขารทั้งหมด)บริเวรศูนย์กลางกายเหนือสดือหรือหน้าท้องเรียกว่ากองลม,ที่สุดแห่งลม ส่วนจมูกเป็นทางเข้าออกให้ระลึกรู้รูปลักษณะของลมขณะภาวนา หายใจเข้าภาวนาคําว่าพุทธ หายใจออกภาวนาคําว่าโธ(ว่าในใจหรือจะใช้วิธีการนับแบบพระพุทธเจ้าก็ได้นับ1-5,1-6,1-7,1-8,1-9,1-10) หายใจเข้าสั้นก็รู้ว่าสั้น หายใจออกสั้นก็รู้ว่าสั้น หายใจเข้ายาวก็รู้ว่ายาว หายใจออกยาวก็รู้ว่ายาว ให้สติไปกําหนดรู้อาการหายใจเข้า-ออก พร้อมๆกับพิจรณารูปลักษณะของลมด้วยว่าเป็นเช่นไรเช่น ร้อนหรือเย็น ลีบเล็กหรือม้วนเป็นเกลียว สำหรับผู้ที่จิตเริ่มเป็นสมาธิที่มีจิตตั้งมั่นดีแล้วสติคือความระลึกได้ สัมปชัญญะคือความรู้ตัว ทําเช่นนี้ไปเรื่อยๆประคองจิตอย่าให้จิตแส่ส่ายไปข้างนอกหรือจะภาวนาไปในฐานที่ตั้งของจิตก็ได้ หากจิตออกไปชั่วแว๊บหนึ่ง ไม่เป็นไรไห้คอยตามดูจิตแล้วค่อยดึงกลับมา จนกว่าจิตจะนิ่งจึงจะเรียกว่าอยู่ในขั้นขณิกสมาธินะครับแล้วแผ่เมตตา.
442 ไฟ (เตโชธาตุ)จากเชียงใหม่ ให้คุณใช้พรหมวิหารสี่ คือเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาในการดําเนินชีวิต ร่วมกับการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา(การนั่งสมาธิ)นะครับ
707 ไฟ (เตโชธาตุ)จากปราจีนบุรี ให้คุณทําบุญ ถวายเงินปัจจัย ถวายสิ่งของแด่พระสงฆ์อยู่เนืองนิจตามสมควรแต่ เจตนาอันบริสุทธิ ร่วมกับการรักษาศีล ภาวนา นะครับ
จาก สิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

ให้คําปรึกษาฟรี โดยใช้หลักธรรมมะ ทางโทรศัพท์

<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
<!-- google_ad_section_start -->ฝากข่าว ถึงทุกท่านที่เคยโทรมาปรึกษาผม บางท่านอ่านเจอจากเว็บไซต์คนละแห่งเดียวกัน จึงอาจจะยังไม่ทราบข้อความที่ผมโพสไปก่อนหน้านี้ ผมจึงขอเรียนอย่างนี้ครับ เจตตนาผมต้องการมีส่วนช่วยเหลือเยียวยาทุกท่าน ที่มีทุกข์จากปัญหาต่างๆ ด้วยการให้คําปรึกษาฟรี โดยใช้หลักธรรมมะ ที่ผมและครอบครัวได้ปฎิบัติมาตลอดอยู่แล้ว จึงพยายามทําอย่างเต็มกําลังความสามารถ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆทั้งสิ้น เป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน และพระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ จึงไม่อยากให้ท่านเป็นกังวล อีกอย่างผมเป็นห่วงเกร็งจะกระทบค่าใช้จ่าย ช่วงระหว่างที่ท่านโทรมาในแต่ละครั้ง และจะคอยกําชับอยู่ตลอดเวลา หากสนทนากับสุภาพสตรี ผมต้องขออภัยที่จะต้องรวบรัด เพื่อเป็นการรักษาเกียรติของท่านอีกทางหนึ่ง ท่านจะได้ไม่ถูกใครนินทา จึงเรียนมาเพื่อทราบ จากสิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

อัตตาหิ อัตโน นาโถ ตนไม่พึ่งตนแล้วจะไปพึ่งใคร...โดย สิริ

ขออนุโมทนาบุญ
และเป็นกําลังใจ
แด่คุณพี่ผู้ชายกับปัญหา การงาน การเงิน
จากประเทศเนเธอร์แลนด์
จงเชื่อมั่นในตนเอง(อัตตาหิ อัตโน นาโถ) ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
อดีตคือวันวาน
ทําปัจจุบันให้ดีที่สุด อย่างเต็มกําลังความสามารถ ท้อได้แต่อย่าถอย
อนาคตอยู่ในกํามือพี่เอง
หมั่นทําบุญ รักษาศีล ภาวนา อยู่เป็นนิจ ชีวิตจะพบกับความผาสุขตลอดกาล
ด้วยแรงอธิฐาน
จาก สิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

กรรมคืออะไร ทําไมต้องรู้เรื่องกรรม โดย สิริ ศรีสมบัติ

กรรมในความหมายทางพระพุทธศาสนาคือ การกระทํา แยกเป็น2ลักษณะคือ กรรมดี กรรมชั่ว สองอย่างนี้ให้ผลเท่ากัน ชัดเจน แน่นอน ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยดังนี้ เกิดจากจิตหรือใจเป็นผู้สั่งให้กระทําการนั้นๆ มีเจตนาให้เป็นผลสําเร็จ ลุล่วงเดี๋ยวนั้น กรรมชั่วสาเหตุมาจากการถูกครอบงําจากวัตถุภายนอกคือ อามิสหรือสิ่งล่อมากระทบ เช่นจากการได้ยิน ได้เห็น ได้สัมผัส เป็นเหตุให้กิเลสได้ช่อง จึงขาดความยั้งคิด กระทําชั่วทาง กาย วาจา ใจ กรรมดีเกิดจากจิตอันเป็นกุศล เจตนาบริสุทธิ ทั้งทางกาย วาจา ใจเช่นเดียวกัน กรรมดีมักส่งผลเร็ว เพราะกรรมดีเมื่อกระทําแล้วจะมีปีติสุขขึ้นในทันทีที่ทํา ส่วนกรรมชั่วจะส่งผลช้า พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบกรรมเหมือนฝูงวัวที่อยู่รวมกันในคอก แม้วัวหนุ่มจะมีร่างกายที่แข็งแรงกํายําสักปานใดแต่อยู่ข้างในสุดย่อมออกจากประตูได้ช้ากว่า วัวแก่ที่เฝ้าหน้าประตูคอกฉันใดก็ฉันนั้น เหมือนผลไม้ยิ่งสุกงอมย่อมต้องร่วงล่นจากต้นได้ง่าย ส่วนผลไม้ที่มีผลอ่อนหรือยังไม่แก่จัดย่อมร่วงตามมาในภายหลัง พระพุทธเจ้าทรงเทศนาสั่งสอนภิกษุทั้งหลายว่า กรรมเปรียบได้ดุจเงาตามตัวไม่เคยมีใครหนีพ้น ไม่ว่าจะหนีขึ้นไปในนภากาศ ในถ้ำ หรือแม้แต่ใต้บาดาลมหาสมุทร ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากมัจจุราชและบ่วงกรรมไปได้ ยกเว้นจะต้องรักษาศีลปฎิบัติธรรม เพื่อหนทางแห่งการดับทุกข์อันเกิดจากเหตุ เพื่อความหลุดพ้นแห่งวัฏสงสาร เพื่อให้ได้ฃึ่ง มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ดังนี้เป็นต้น สุดท้ายนี้กระผมขอขอบคุณทุกท่าน และอนุโมทนาบุญกับบุคคลสามท่านคือ
234 ธาตุน้ำ(อาโป)
518 ธาตุไฟ(เตโช)
อดีตคือบทเรียน อย่าให้ซ้ำรอย จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ให้ทาน รักษาศีล ภาวนาอยู่เป็นนิจ เรื่องร้ายจะกลับกลายเป็นดี จงตั้งใจกระทำด้วยใจและเจตนาอันบริสุทธิ์เท่านั้น
069 ธาตุดิน(ปฐวี) พรดีๆอยู่ที่แม่และพ่อ ทำด้วยความตั้งใจนะ
วันนี้ขอเพียงเท่านี้ก่อน สาระธรรมใดที่เป็นประโยชน์ขอสาระธรรมนั้นจงเป็นกุศล ผลบุญ เพิ่มพูน บุญยราศีประดับชีวีผู้อ่านทุกท่าน ทุกคนเทอญ
สิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

ยินดีให้คําปรึกษา ดูกรรมในอดีตชาติฟรี ทางโทรศัพท์

ขออนุโมทนาบุญ กับคุณพี่ผู้หญิงที่โทรมาปรึกษาเรื่อง ครอบครัวและปัญหาส่วนตัวในการใช้ชีวิตประจําวัน ค่อนข้างสมบูรณ์ครับ เพียงแต่พี่ต้องเชื่อมั่นในตัวเองอยู่เสมอ ผู้ประพฤติธรรมย่อมนําความสุขมาให้ ด้วยบทสวดพระคาถาของสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ที่พี่เองตั้งใจสวดเป็นประจํา จากกรุงเทพมหานคร คุณพี่ทหารยศพันเอกนายแพทย์ ปรึกษาเรื่องทั่วไป สถานที่ท่องเที่ยวทางภาคเหนือ และผมขอเพิ่มเติมในส่วนที่ไม่ใช่วิชาแพทย์ แต่เป็นบาทฐานของวิชาวิปัสนากรรมฐาน ดังนี้ครับ ร่างกายประกอบด้วยธาตุทั้งสี่คือ
ดิน(ปฐวีธาตุ) ได้แก่เนื้อกระดูกกระโหลกศรีษะ ผู้ที่เกิดธาตุนี้จะเป็นที่พึ่งของบุคคลอื่นโดยตลอด
น้ำ(อาโปธาตุ) ได้แก่เลือด น้ำหนองเสลดฯลฯ จะเป็นดั่งสายน้ำ มีพลังสุขุมเยือกเย็น
ไฟ(เตโชธาตุ) ได้แก่อุณหภูมิในร่างกาย ความร้อนฯลฯ ผู้ที่เกิดธาตุนี้มักรุ่มร้อนใจร้อน ชอบทําสิ่งที่ร้อนแรงต่อร่างกายและจิตใจเหมือนไฟ
ลม(วาโยธาตุ) ผู้ที่เกิดธาตุนี้มีพลังอยู่ในตัว มักเป็นดั่งลมหายใจของผู้อื่นอยู่เสมอ ชอบขจัดปัดเป่าทุกข์ร้อนอยู่เป็นนิจ แต่เมื่อใดที่ตัวเองมีทุกข์มักจะสาระวน จนหาทางออกไม่เจอเช่นพายุหมุนจนกว่าจะเปลี่ยนทิศทางไปได้เอง
วันนี้ขอเพียงเท่านี้ก่อน ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ท่านทุกทิวาราตรีกาลเทอญ สาธุ
จากสิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

ยินดีให้คําปรึกษา ดูกรรมในอดีตชาติฟรี ทางโทรศัพท์

ขอขอบคุณ ทุกเสียงทุกสายที่กรุณาโทรมาปรึกษาผมในวันนี้ ขอเป็นแรงใจและอนุโมทนาบุญ ที่ให้ผมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหา แต่จะเป็นการดียิ่งขึ้นไปอีก หากท่านได้ใช้สติพิจราณา และพยายามหาหนทางแก้ไขปัญหา ด้วยตัวของท่านเองก่อน เพราะปัญหาทุกอย่างมีไว้เพื่อแก้ มิได้มีไว้เพื่อกลุ้ม อาจเปิดช่องทางให้ผู้ไม่หวังดี ใช้ช่องทางนี้หลอกลวงแสวงหาผลประโยชน์ บนความทุกข์จากท่าน ดังนั้นผมจึงขอฝากข่าว เตือนมายังผู้ที่พึ่งอ่านเจอข้อความจากทุกเว็ปที่ผมโพส ช่วยกรุณาตรวจสอบชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ว่ามีการเรียกเก็บเงิน หรือนัดให้ไปเจอตามลําพังรึเปล่า โดยเฉพาะกับสุภาพสตรี ท่านก็อย่าปฎิบัติตามเขา รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าตรวจสอบทันที สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกท่านจงข้ามพ้นปัญหาและอุปสรรคโดยเร็ววัน โดยเฉพาะคุณพี่ผู้ชายจากเชียงใหม่โทรปรึกษาปัญหาส่วนตัว และต้องการกําลังใจช่วงระหว่างปฎิบัติธรรม คุณพี่ผู้หญิงปัญหาครอบครัว ส่วนตัว อนาคต จากประเทศออสเตรีย แต่ติดขัดใช้มือถือสื่อสารหลุดบ่อย เพราะบ้านพี่เป็นภูเขาสูง ผมจึงอยากให้พี่ศึกษาเพิ่มเติมในบท อริยมรรคมีองค์8 คุณน้องผู้หญิงปัญหาสุขภาพ มีโรคประจําตัว และโรคเครียด คุณพี่ผู้ชายปัญหาครอบครัว ความรัก เรื่องที่อาศัย จากกรุงซิดนีย์ประเทศออสเตรีย วันนี้ขอเพียงเท่านี้ก่อน ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ท่านทุกทิวาราตรีกาลเทอญ สาธุ
จากสิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

ยินดีให้คำปรึกษา ดูกรรมในอดีตชาติ ฟรี ทางโทรศัพท์

มีคําถามมากมายที่โทรมาปรึกษาผม ส่วนมากจะเป็นเรื่องใกล้ตัว เหมือนของที่ต้องพกพา มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป วิธีการช่วยเหลือจึงเน้นหนักไปทางให้ท่านมีสติเสียก่อน ซึ่งนั่นผมเองต้องไตร่ถามวัตถุประสงค์ก่อนเสมอ เพื่อให้กระชับจะได้ไม่เยิ่นเย้อและถูกตําหนิ ภาษาเขียนผิดได้แต่ภาษาพูดความหมายจะเปลี่ยนไปทันที ผมจึงระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อประคองให้ตนเองอยู่ในสภาวะที่เป็นกลางทุกครั้ง คือไม่โน้มเอียง และขอขอบคุณทุกท่านที่เมตตากรุณาโทรมาปรึกษา ที่ให้ผมมีโอกาสสร้างบารมีธรรม ส่วนมากเมื่อผมแนะวิธีแก้แล้วมักถามขึ้นทุกครั้งก่อนวางสายนั่นคือ จะดีขึ้นใช่มั้ยค่ะ ครับ ผมขอตอบตรงนี้เลยว่าไม่เลย เพราะถ้าฟังผมพูดจบแล้วดีขึ้นเลยโดยไม่พิจราณาด้วยเหตุผล ผมคงเป็นผู้ปฎิบัติขั้นเทพ หรือไม่ก็เทวดาตกสวรรค์ แต่สิ่งที่ผมบอกไป ผมคือปุถุชนเช่นท่านที่ยังมีกรรมต้องชดใช้ และต้องปรับทัศนคติให้ถูกต้องแล้วจึงเริ่มลงมือปฎิบัติ โดยค่อยเป็นค่อยไป อย่างสมําเสมอ ดังคําพระที่ว่าทําดีได้ดีทําชั๋วได้ชั่ว ท่านโทรหาผมท่านเสียค่าโทร ท่านทนฟังผมพูดท่านเสียเวลาทํามาหากิน ตัวผมเองก็เช่นเดียวกัน ฉะนั้นถ้าไม่สร้างสรรหรือไม่เกิดประโยชน์ ผม สิริ ศรีสมบัติ จะไม่ทําเป็นอันขาด ขอบพระคุณทุกท่านครับ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

ยินดีให้คำปรึกษา ดูกรรมในอดีตชาติ ฟรี ทางโทรศัพท์

<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
<!-- google_ad_section_start -->ผมยอมรับว่าหวั่นใจนิดๆ ที่ต้องเปิดตัวอาสาแก้ไขทุกข์ร้อนของผู้อื่น แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะโชคชะตาลิขิตให้ต้องรับหน้าที่นี้ และคงต้องช่วยเหลือต่อไปโดยไม่หวังอะไรเป็นการตอบแทน จะมีก็เพียงแต่ให้จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้เพื่อให้เป็น สัจจะบารมีอย่างแท้จริง สําหรับผู้ที่พึ่งอ่านเจอข้อความไปก่อนหน้านี้ อาจจะยังสงสัยและคงเดาเอาว่าเป็นหมอดูชัวร์ ขอเรียนอย่างนี้ครับ ผมเป็นผู้ศึกษาธรรมมะเลยเรียนรู้วิธีการดับทุกข์ ซึ่งก็มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฏกอยู่แล้ว เลยต้องการต่อยอด อีกทั้งต้องการสร้างเสริมบารมีธรรมให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก สิ่งที่ผมมีไม่ได้วิเศษไปกว่าใครๆ ล้วนเกิดขึ้นจากการปฎิบัติทั้งสิ้น ดังคําพระที่ว่าปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)
จากสิริ ศรีสมบัติ

 

ยินดีให้คําปรึกษา ดูกรรมในอดีตชาติ ฟรี ทางโทรศัพท์

<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
<!-- google_ad_section_start -->ยินดีให้คําปรึกษา ดูกรรมในอดีตชาติ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขฟรี หากมีวาสนาบุญนำพาให้ได้พบกัน และต้องขออภัยที่ไม่ได้ลงเบอร์โทรศัพท์ไว้เพราะเหตุจำเป็นจริงๆ จากสิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

สร้างบุญ ฝ่าวิกฤตเรื่องร้ายๆ ด้วยตนเอง

ขออนุโมทนาบุญ และให้กําลังใจกับคุณพี่ผู้หญิง 389 ไฟ(เตโชธาตุ)โทรมาปรึกษา เรื่องปัญหาครอบครัว การเงิน ขอให้พ้นวิกฤตในเรื่องต่างๆโดยเร็ววันนะครับ จาก สิริ ศรีสมบัติ

 

ธรรมะจักษุ บารมีธรรมนําปัญญา โดยสิริ

ขออนุโมทนาบุญ
และให้กําลังใจกับบุคคลสามท่านครับ
224ไฟ(เตโชธาตุ) ปัญหาความรัก และอนาคต
ให้คุณใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันอย่างมีสติ พิจราณาทุกสิ่งรอบข้างอย่างมีเหตุผล
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงอย่าไปโหยหา ยึดหลักสายกลางโดยใช้ พรหมวิหาร4 ได้แก่ เมตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในการดําเนินชีวิต จากกรุงเทพฯ
072ลม(วาโยธาตุ) ปัญหามีสิ่งรบกวนจิตใจ จะทําอย่างไรดี
ให้คุณมองโลกในแง่ดีโดยใช้สติให้รอบด้าน อะไรที่ยังค้างคาอยู่ก็ให้รีบแก้ ปัญหาจะได้เบาบางลง กําลังใจและสิ่งดีๆก็จะกลับมาเอง จากฉะเฉิงเทรา
492น้ำ(อาโปธาตุ) ปัญหาชีวติประจําวัน
ให้คุณใช้สติพิจจราณาโลกปัจจุบัญว่ายังมีสิ่งใดบกพร่อง หากมีให้รีบแก้ไข และจะเป็นผลดียิ่งขึ้นไปอีกหากจะนําเอาบารมี10 มาปรับใช้ ชีวิตคุณก็จะพบกับความสุข จากราชบุรี สําหรับวันนี้ขอยุติเพียงเท่านี้ก่อนครับ สวัสดี
จากสิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง และขออนุโมทนาสาธุ กับคุณสิริ ที่ช่วยแนะนำแนวทางที่สว่างให้กับดิฉันค่ะ ดิฉันจะขอยึดอำนาจบุญบารมีขององค์พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง และจะขอตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ตามที่คุณสิริ แนะนำมาให้ได้ค่ะ ขออนุโมทนาในความช่วยเหลือมา ณ ที่นี้อีกครั้งนะค่ะ

 

กัมมัสสะโกมหิ กัมมะทายาโท เรามีกรรมเป็นของตน เป็นธายาทแห่งกรรม

ขออนุโมทนาบุญ
และเป็นกําลังใจกับทุกท่านครับ
875 ดิน (ปัฐวีธาตุ)จากเชียงใหม่
993 ไฟ (เตโชธาตุ)จากจังหวัดน่าน
+886782326.. จากประเทศใต้หวัน
624 ไฟ (เตโชธาตุ)จากเชียงใหม่
263 ไฟ (เตโชธาตุ)จากกรุงเทพฯ
218 น้ำ (อาโปธาตุ)จากเชียงใหม่
777 น้ำ (อาโปธาตุ)จากจังหวัดราชบุรี
กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ (มีกรรมเป็นกําเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ)
กัลยาณังวา ปาปะกังวา (ดีหรือชั่วก็ตาม)
ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามิ (เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น)
ขอให้ทุกท่านใช้สติ ไม่ว่าจะทําการสิ่งใดก็ตาม ตัวเราจะเป็นทั้งนาย และทาสในสิ่งนั้นๆ
ผมขออวยพรให้ทุกท่านจงข้ามพ้นปัญหาและอุปสรรคต่างๆโดยเร็ววัน เลยถือโอกาสนี้ตอบคําถามของคุณพี่ ที่อยู่ประเทศใต้หวันด้วยครับว่า ตอนนี้พี่จะเจอกับปัญหาเรื่องส่วนตัว ภายในครอบครัวของพี่เองและจะขยายเป็นวงกว้าง กระทบไปถึงหน้าที่การงานอีกด้วย ให้ใช้สติ ยึดหลักการและเหตุผลเป็นสําคัญ อย่าวู่วาม โดยปราศจากตุผล พยามควมคุมอารมณ์ด้วยการดับทุกข์ในใจให้สนิท จงรักลูกและอนาคตของแกด้วย สําหรับวันนี้ขอยุติดํารงคงไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน สวัสดีครับ
จากสิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

บทเพลงธรรมะ สื่อนําพาชีวิตใหม่ โดยสิริ ศรีสมบัติ

ขออนุโมทนาบุญ
และให้กําลังใจกับบุคคลสองท่านครับ
576 ดิน (ปฐวีธาตุ) จากกรุงเทพฯ อะไรที่หนักเกินไปไม่อยากแบกรับเอาไว้ ก็ปล่อยวางซะบ้าง มีหนี้ก็ค่อยๆทยอยคืนเขาไป การเป็นผู้ให้จะเป็นสุข มากกว่าเป็นผู้รับ ครับ
131 ดิน (ปฐวีธาตุ) จากเชียงใหม่ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นของไม่เที่ยง สุขทุกข์ในชีวิตประจําวัน ล้วนมาจากการกระทําทั้งสิ้น เชื่อในสิ่งที่ทําอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น ครับ
ผมมีบทเพลงในอดีตเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ตอนผมยังเป็นเด็ก เคยได้ยินมาจากโทรทัศน์ของผู้มีฐานะท่านหนึ่งใกล้ๆบ้านผม และจําได้บ้างเป็นบางตอนจึงอยากจะนําเสนอดังนี้ครับ
พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนเรื่องเวรกรรมบุญไหนใครทํากรรมเคยก่อเอาไว้อย่างไร...ปวดร้าวตรอมตรมขื่นขมอนันต ทําดีสารพันรางวัลที่ได้ก็คือเคราะห์กรรม โถ้เอ๋ยพระเจ้าไม่เคยปรานีในชาตินี้ทําดีไม่เคยก่อกรรม หวังให้ผลบุญได้น้อมนําล้างเวรที่เคยทําแต่ชาติปางก่อน สิบนิ้วประนม กราบลงพรั่มบ่นบูชา กุศลทํามาจงนําข้าสิ้นเวรดับวร หากแม้นชีวีสิ้นลับดับคอน เวรกรรมภพชาติก่อนบรรเทาผันผ่อนอย่าตามซ้ำเลย.(จากละครเรื่องวงเวียนกรรม)
แต่มายุคนี้สมัยนี้ผมก็ได้ยินเพลง ทางโทรทัศน์ช่อง5อีกไม่ทราบว่าทุกท่านเคยได้ยินได้ฟังบ้างไหม เนื้อเพลงมีดังนี้ครับ
เวรกรรมตามทันกันในชาตินี้ คิดดูให้ดีใครจะก่อกรรมทําเข็ญ ก่อกรรมเช้า ได้รับลงทัณฑ์ตอนเย็น อยากให้โลกได้เห็นความป็นลิขิตแห่งกรรม สามคําจําไว้กรรมลิขิต ให้ชีวิตไม่ขึ้นสูงและตกต่ำ ใครเคยทําดีบุญนี้จะช่วยหนุนนํา ใครเคยก่อกรรมทําเวรไว้ กรรมลิขิต.(จากละครกรรมลิต) และ 6โมงเย็นทาง ททบ5(จากละครชุด84000พระธรรมขันธ์)

ดูหนังดูละคร ท่านให้ย้อนดูตัวเราเองด้วยครับ(จะได้คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป)
ด้วยความปราถนาดี
จากสิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)

 

ข้อความถึงคุณพี่ ที่อาศัยอยู่ในประเทศใต้หวันครับ จากสิริ

ขออนุโมทนาบุญ
และให้กําลังใจกับคุณพี่ จากประเทศใต้หวัน ที่ได้กรุณาโทรมาสอบถามเรื่องราวต่างๆส่วนตัวในวันนี้อีกครั้ง หลังจากที่ท่านได้รับฟังผมพูดคุย แนะนําจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว ทราบว่าได้ส่งอีเมล์ไปหาเพื่อนผู้หญิง คนไทยอีกท่านหนึ่ง ที่อยู่ในเมืองไทจง ประเทศใต้หวัน และได้โทรติดต่อมาเพื่อให้ผมตรวจดูกรรมในอดีตชาติให้ จากนั้น20นาทีให้หลัง พี่เค้าจึงโทรมาอีกครั้งเพื่อรอฟังคําตอบจากผม ฃึ่งก็มีปัญหาในชีวิตไม่แพ้กัน ฃ้ำหนักไปกว่านั้นคือ พี่เค้าป่วยมีโรคประจําตัวที่ต้องพึ่งหมอ รักษามาตลอดแต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น พอได้สนทนาทางโทรศัพท์กับพี่เค้าแล้ว ผมก็รู้สึกหวาดกลัวต่ออํานาจ ของบุพกรรมจริงๆ เพราะญาณที่ผมมี ช่วยให้รู้สาเหตุแห่งอกุศลกรรม(กรรมไม่ดี)และวิธีบรรเทาทุกข์เท่านั้น ไม่สามารถหลีกเร้น เพื่อให้รอดพ้นหรือแก้กรรมใดๆได้เลย หากคุณพี่ยังติดตามอ่านข้อความ ที่ผมตั้งใจโพสให้กําลังใจในคืนนี้อยู่ ได้โปรดรับรู้ไว้ด้วยว่าบุญกุศลที่กระผมตั้งใจ ทําวัตรเย็น ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ ประกอบกรรมดีในเย็นวันนี้ ฃึ่งเป็นวันออกพรรษา ก็ขอให้บุญกุศลนั้นเผื่อแผ่ไปยังพี่ด้วยเช่นกัน สุดท้ายนี้ผมหวังว่าความปราถนาดีของผม จะเป็นส่วนช่วย กระตุ้นเตือนจิตใจใครต่อใครและอีกหลายๆท่าน ให้หลุดออกจากอวิชา(ความไม่รู้)ให้รู้เท่าทันในวัฎสงสาร(เวียนว่าย ตายเกิด)และพบหนทางในการดับทุกข์ด้วยตนเอง ครับ
จากสิริ ศรีสมบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)