ตรงๆ ตามที่เป็น ไม่ต้องไปเป็นอะไร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย iamprateep, 13 ตุลาคม 2019.

  1. iamprateep

    iamprateep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    448
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,685
    เห็นความจริงตรงหน้า ตรงนีั ภพนี้ ภาวะนี้ เห็นชาตินี้ เห็นที่นี้เลย เทียบดูตนเอง จิตเขาปรุงแต่งไปตามปกติ จิตเขาปรุงแต่งไปอย่างไม่ปกติ ขันธ์ห้าทำงานด้วยความไม่รู้ ขันธ์ห้าทำงานด้วยความรู้ ขันธ์เป็นขันธ์ รึเราเป็นขันธ์ ไม่ต้องไปบังคับเขาให้จมในฌาน และก็ไม่ต้องปฏิเสธฌานใดๆ ใช้เขาเพื่อรู้ธรรมชาติเขา จนเห็นเราเห็นเขา และไม่มีเรามีเขา เหลือเป็นแต่ธรรมชาติอิงกันทำงานเท่านั้น

    มันไม่มีอะไรมากในโลกะธรรมดานี้ ในด้านความอยาก ในด้านความหวัง ไม่ว่าในโลกะธรรมดา(สมมุติ) และ ในความทะยานอยาก ที่จะพ้นไปจากความทุกข์ให้สิ้น (ดิ้นให้พ้น) มันก็คือกัน

    ในที่สุดแล้วคนเราที่ได้ทุกสิ่งที่หวัง คนที่สมหวังทุกอย่าง ...

    และคนเราที่ไม่ได้อะไรเลยตามที่หวัง คือคนที่ผิดหวังตลอด

    ก็มีสภาพเสมอกันหมด คือ ต้องตายจากโลกนี้ไป

    ส่วนความหวังต่างๆที่ตั้งเอาใว้ ทั้งที่สมหวังแล้ว และทั้งที่ยังไม่สมหวัง "ก็สลายไป" เป็นแค่ภาพฝัน ...

    สิ่งที่ตามไปจริงๆคือ บาป/บุญ และอุปนิสัยตน (วาสนาตน)

    วาสนาตน(อุปนิสัย) ตนสร้างเองได้ ก็ตามตนไปต่อ ส่วนมากก็อุปนิสัยรักสุข/เกลียดทุกข์ น้อยคนจะเห็นอย่างถ่องแท้ว่า สุข/ทุกข์คือภาพฝัน ที่ตนเองปรุงขึ้นมาครอบงำตนเองให้เป็นไปต่างๆ ปัญญาแท้จึงไม่เกิด จึงพ้นไปจากทุกข์ไม่ได้

    สะสมนิสัยว่าง่าย เข้าใจสรรพสิ่งตรงจริง ตามจริง เดินตามรอยพระศาสดาด้วยการปฏิบัติขัดเกลาตนเอง เห็นรูปด้วยความเป็นรูป, เห็นอารมณ์ว่าเป็นอารมณ์, เห็นความจำได้หมายรู้ ว่าเป็นแค่สัญญา(ความจำ) เห็นความคิด ว่าเป็นแค่ความคิด เห็นธรรมชาติรู้ว่าเป็นธรรมชาติรู้

    รวมความคือเข้าใจตามความเป็นจริงตามที่มันเป็น แต่เราไม่ได้ไปเป็นมันเข้า เราก็แจ้ง เราก็หมด เราก็ไม่มีในเรา เป็นแต่ธรรมชาตินึง

    ก็จะพ้นทุกข์ตรงที่เข้าใจนั่นแหล่ะ เริ่มแรกในการประพฤติมันโยงยืดไปหมด ต่อมาเมื่อเห็นว่าเราก็หลงอยู่ดี มันค่อยๆปล่อยไปเรื่อยๆ จนอ่านธรรมะได้ลงใจหมด แจ้งหมด เข้าถึงสาระได้ ความเข้าใจนั้นก็ถึงใจ ใจก็กลับสู่ความปรกติ สงบนิ่ง ไม่ใช่รูป ไม่ใช่อรูป ไม่มีเราได้ ไม่มีเราเป็น แต่เป็นรสที่สุขยิ่ง เมื่อหยุดไปเป็นสิ่งต่างๆนั้น และแจ้งชัดเจนว่าสังขาร(สรรพสิ่ง) มันก็เป็นของมันอย่างนั้น เราเองก็ยืมใช้อยู่ แค่ตื่นขึ้น แล้วลืมตาเท่านั้นเอง แต่เป็นตาใจเป็นตาธรรม ไม่เกี่ยวกับสมมุติ ไม่ติดวิมุตติ ไม่ชนะ ไม่แพ้ ไม่เสมอ ทางเดินไปสู่ก็คือมรรคที่พระศาสดาทรงสอนใว้ มีหลายๆๆๆๆ ตามแต่อุปนิสัยท่านเจ้าของใจจะหยิบจับมาเองตามวาสนา ปลายทางที่เดียวกันทั้งหมด

    ... พุทโธ ธัมโม สังโฆ ...


    แบ่งปันสนทนาธรรมครับผม ผิดพลาดใดๆขออภัยครับ
     
  2. iamprateep

    iamprateep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    448
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,685

แชร์หน้านี้

Loading...