ดูยัง....ซีรีย์พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก

๛~~~๏(~_^)///๏\\\ เรียนถามบรรดาพุทธภูมิ โพธิสัตว์ในพลังจิต
ท่านที่ได้ดูซีรีย์พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก ที่อินเดียสร้างล่าสุด ท่านมีความเห็นเป็นประการใด. ขอคำชี้แนะ หรือการแลกเปลี่ยนทรรศนะครับ :boo:

 

ผมก็ดูบ้างนะ แต่ไม่ได้ดูทุกตอน มีเวลาว่างก็ดู แต่ผมจะดูแบบเปรียบเทียบกับในเนื้อหาตำราต่างๆที่ศึกษามาว่ามันตรงกันบ้างมั้ย แล้วมีข้อมูลอะไรในหนังที่ผมอาจยังไม่รู้จากในตำรา แต่ผมก็พอเข้าใจอยู่บ้างว่าการทำเป็นหนังแบบนี้จะเอาข้อมูลทุกอย่างของพระพุทธเจ้ามาลงไม่ได้ มันต้องทำให้เป็นสากลไว้ก่อน เพราะไม่งั้นอาจถูกต่อต้านจากคนดู

ผมคิดว่าเจตนาของหนังก็เพื่อให้คนที่ไม่รู้เรื่องมาก่อน ได้รู้เรื่องเป็นพื้นฐานในเบื้องต้น แล้วก็ไปศึกษาลงรายละเอียดเอาทีหลัง แต่การจะเอาหนังซีรีย์มาใช้อ้างอิงข้อมูลพุทธประวัติเสียทีเดียวแล้วปฏิเสธข้อมูลอื่นๆก็ไม่ควรเป็นแบบนั้น ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญาและศรัทธา ทั้งสองอย่างต้องเดินทางควบคู่ไปด้วยกันอย่างเท่าเทียมกัน

 

ท่าน alkuwaiti กล่าวชอบแล้วครับ คนดูมีหลายระดับ จึงต้องเอาพื้นๆใว้ก่อน
มีบางอย่างที่เราไม่รู้มาก่อน มีบางอย่างไม่ตรงที่เรารู้มา แต่ทั้งนี้อย่างน้อยๆ ดูแล้ว
ทำให้ฝักใฝ่ในคุณงามความดียิ่งๆขึ้นไป. มีอย่างนึงที่อยากตำหนิคือ นักแสดงนำ
และตัวละครหลักๆ อยากให้เป็นแขกขาว ถึงขาวเหลือง คือเผ่าอารยะหรืออารยัน
ที่ขยับมาต้องรกรากติดเขาหิมาลัย (ตามตำรา) และเท่าที่ดู คนที่นามสกุลสักยะ
(ศากยะ)ในปัจจุบันโดยมากออกขาวปนเหลืองนิดๆ อ้อ อีกอย่างถ้าได้นักแสดงเอก
เป็นแขกขาว(ปนเหลืองนิดๆ) แล้วใช้เทคนิคแต่งร่างกาย ให้มีมหาปุริสลักษณะ 32ครบ
บวกเอฟเฟครัสมีและฉัพพรรณรังสีเข้าไปละก็ คุณเอ้ย ดูๆอยู่อาจเผลอก้มกราบทีวีได้

 

มีคนแนะนำให้ดู เขาบอกสร้างได้ดีมากๆครับ แต่ยังไม่ได้ดู

 

ดูบ้างไม่ดูบ้าง แต่ยังดีที่มีคนทำให้ดู อาจจะไม่ตรงใจไปซะหมดแต่ก็ต้องเข้าใจว่าผู้สร้างเขานับถือพุทธแบบมหายาน และก็อาจมีเหตุผลอื่นๆอีกนานับประการ อย่างน้อยคนไทยก็จะได้เห็นพุทธประวัติในมุมมองของชาวต่างชาติ(ที่ตำราเรียนอาจจะคนละเล่มกับเรา) แต่ที่ค้านความรู้สึกข้าพเจ้ามากก็ตรงที่ข้าพเจ้า(คิดเองอาจผิด)เห็นว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาในแนวที่ว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ในวังเป็นทุกข์มากจากการแก่งแย่งชิงดีเลยออกมาบวช ส่วนตัวของข้าพเจ้า(เคยโดนปลูกฝังมา)พระพุทธเจ้าท่านสบายมากๆ(มาจากชนชั้นสูงกว่าศาสดาศาสนาอื่น)แต่ท่านเห็นว่ามันไม่ใช่สบายอย่างแท้จริงมีความทุกข์ปนอยู่ จึงอยากดับทุกข์ให้หมดไม่ต้องเหลืออีก แล้วท่านก็มีความเด็ดเดี่ยวมีความเพียร ฯลฯ จนสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความจริงเป็นอย่างไรไม่ทราบ พระองค์ต้องการดับทุกข์ไม่ใช่หนีทุกข์(เพราะมันอาจตามทันสักวัน) ถอนรากถอนโคนความทุกข์โดยการไม่ต้องเกิดอีกนี่แหละสุดยอด
ความเห็นด้านบนเป็นเพียงทรรศนะของข้าพเจ้าเท่านั้น

 

น่าจะมีนายทุนใหญ่ใจบุญ ออกทุนให้พวกเราสร้างบ้างเนอะ
เอาให้คนที่ธุลีในตาน้อย ดูจบบรรลุโสดาบันไปเลย.. ไม่ได้โม้ อิ อิ

 

ดูไป 2 ตอน แล้วเลิกดูครับ ไม่ตรงกับพระไตรปิฏกเดี๋ยวจะเข้าใจอะไรผิดๆ

 

แต่ก็เป็นบทฝึกทดสอบใจเราได้นะครับ ว่าเรายอมรับและปรับใช้ กับความเห็นที่แตกต่างได้แค่ใหน เพราะหนังชุดนี้ถือว่าสะท้อนความเห็นอีกมุมหนึ่ง ของทีมผู้สร้าง

 

ถ้าสร้างเหมือนฉบับบการ์ตูน (https://www.youtube.com/watch?v=1mY2h6Fti7A) จะน่าดูมากเลยครับ (แต่ก็ดูจนจบทุกตอน) รวมถึงฉบับการ์ตูนด้วย
ฉบับซีรี่ย์สั้นเกินไปครับ ไม่เน้นปาฏิหาริย์ ก็พอดูนะครับ ไม่ถึงว่าดีเท่าไร (ความคิดส่วนตัวนะครับ)

 

สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ขอแสดงความคิดเห็นดังนี้นะครับ ใครเมื่ออ่านแล้ว ไม่ชอบใจไม่พอใจอะไร ต้องขอโทษด้วยนะครับ หวังดีครับ ท่านเคยคิด กันบ้างไหม ที่ท่านๆ เราๆ ดูหนังกัน พวกเราส่วนใหญ่ ดูแล้วไม่ได้ นำไป พินิจพิเคราะ พิจรณากัน ผมว่า พวกที่ดูหนัง ดูละคร ที่ติด พวกนี้ ผมเอง ก็ส่วนหนึ่ง ผมยกยอดให้ไปเลย ส่วนใหญ่แล้ว ดูแล้ว ไม่ได้ นำไปพิจรณา แบ พระสารีบุตร หรอกครับ พวกคุณรู้ไหม ไอ้ที่ครู บาอาจารย์ ท่านสอน ให้ ขอขมาพระรัตนตรัย บ่อยๆนั่นน่ะ เพราะอะไร เพราะไอ้กรรม บางอย่าง เราทำกันไป โดยไม่รู้ตัว หรือ ขาดสติ ในการดู


ที่ครูบาอาจารย์ สอน ขอขมา ที่รู้ ก้ดี ไม่รู้ก็ดี ต่อหน้า ก็ดี ลับหลัง ก้ดี ปัจจุบันก็ดี อดีด ก็ดี ให้เจ้ากรรม นายเวร และ พระเทวดาพรหม ท่านอโหสิกรรมให้ มันเป็นกรรม ที่เราไม่ค่อยเข้าใจกัน พวกท่านเคยสังเกตุกันไหมครับ เวลา หนัง มันแสดง ให้เราดู ตอน ที่ ผู้ร้าย พระเอก นางเอก ต่อสู้กัน เราผู้ดูมีเกิดอารมย์ ร่วมไปกับเขา ทำให้เกิด อารมย์ ผูกโกรธ พยาบาท ไปโดยไม่รู้ตัว หนัง ทุกๆเรื่อง มันมีทุกรสชาด ที่พวกเขา แสดง ให้เราชมกัน ไอ้ตัวที่เราไปร่วมกับเขา นี่แหละ คือ ยินดี ยินร้ายกับเขา โดยไม่รู้ตัว

 

อย่างผมดู ซีรี่ย์ พระพุทธเจ้า ถ้าให้เปอร์เซ็นการสร้าง ผมให้เลย เขาสร้างได้ดีทีเดียว ผมให้เลย ๙๐ เปอร์เซ็น ถ้าให้คนไทยสร้าง คงใช้คน ไม่เท่าไหร่ หรอกครับ แต่ว่า ถ้าจะให้ใกล้ เคียง ชีวิต ที่เป็นจริง ผมให้ แค่ ๑ เปอร์เซ็น เท่านั้นครับ แค่เศษ เสี้ยว ชีวิตจริงๆก้ไม่ได้ครับ แต่ก้ดูได้คติดี แต่ว่า เราอย่า เอาอารมย์ เข้าไปร่วม มันจะเกิดโทษ ทุกอย่างมีคุณ มันก็มีโทษ มหันต์ครับ ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังอีกสักนิดครับ เวลา ท่านที่แสดงเป็นตัวเทวทัต เรายังมี อคติ อารมย์ ร่วมไปด้วยเลย นี่มันจะเกิดโทษ เราเลยคิดเลยเถิด ไปว่า มันต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ และรังเกียจ บางสิ่ง บางอย่างไปเลย ตัวผมเอง ยัง เป็น แล้วคนอื่นๆ จะไม่เป็นหรือไง ผมเองจึงต้อง หักมุมกลับครับ


สมเด็จพ่อ สมเด็จแม่ ญาติๆ ท่านทั้งหลาย เสด็จเข้าสู่พระนิพพานกันไปหมดแล้ว ตั้ง ๒๕๐๐ กว่าปี หรือ ๒๖๐๐ ปีแล้ว นี่คือการแสดง เท่านั้น เราจะ เอาอารมย์เข้าไปร่วม ทำไม จะเป็นโทษ เปล่าๆครับ และก็คิด ว่านี่คือ การแสดง ของนักแสดง ละคร ตัวหนึ่งเท่านั้นนะครับ นี่ผมต้องคิด หักล้างแบบนี้ครับ ก็มี ลูกศิษย์ พระอาจารย์สมปอง บ้านสบายใจ ท่านบอกว่า พวกดูหนัง ดูละคร ที่เอากายใจ เข้าไปร่วม ในการแสดง ของพวกนี้ ทำให้เกิดโทษ โดยไม่รู้ตัว ผมได้มาคิด ตริ ตรอง ดูแล้ว มันเป็นจริงดังว่า จึงนำมา ให้พี่น้องๆ ได้ คบคิดกันครับ