ดูจิตดูอารมณ์ตนเองในขณะอ่านกระทู้ต่างๆในเว็บแล้ว เห็นอะไรบ้างครับ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Norlnorrakuln, 29 พฤษภาคม 2014.

  1. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    บ้างก็รู้สึกว่าอ่านข้อความของบางท่านแล้ว ให้มีอัตตาเกิดขึ้นกับเราเช่นว่า นั้นเป็นข้อความที่ดีเหมาะกะเราเราควรศึกษาไว้ นั้นเป็นข้อความไร้สาระเราไม่ควรใส่ใจ...

    บางครั้งก็รู้สึกว่าเพื่อนสมาชิกแต่ละท่านมีความปรารถนาดีที่จะเผยแพร่ธรรมะตามภูมิ แต่ด้วยทิฎฐิที่ยังมี...? อยู่จึงปรับวาทะกัน ในขณะที่อ่านข้อความโต้ตอบกันอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็สังเกตุดูจิตดูอารมณ์ตนเองพบว่า...

    บางขณะเกิดความอึดอัดและมีอคติขึ้น ลมหายใจไม่เป็นปกติ เมื่อสติตามทันจึงเข้ามารู้ลมหายใจใหม่ แล้วความอึดอัดขัดเคืองก็หายไปครับ ^_^

    บางขณะเกิดปีติยินดีกะข้อความที่เราเห็นด้วย อาการพองโตภายในจิตเกิดขึ้น ลมหายใจไม่เป็นปกติอีกล่ะ จึงเรียกสติให้มารู้ลมหายใจใหม่ความเป็นปกติก็กลับคืนมาครับ ^_^
     
  2. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    เห็นกระแสจิตของแต่ละท่านในวาระที่ต่างกันค่ะ
     
  3. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    เห็นแมวตัวอ้วนปุ๊กลุ๊กนอนอยู่...น่ารักจังเลย จะว่าปรุงแต่งก็ยอม ก็น้องแมวเค้าน่ารักนี่นา

    อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคนนะ บางทีอ่านแล้วตะหงิดๆ ก็ปิดไปซะ บางคนก็รู้ว่าคนนี้ชอบโพสแนวนี้ๆ นะ เราก็รู้ละ ก็เลือกเอาอ่ะ อะไรที่เป็นประโยชน์์ก็พิจารณาเอา
     
  4. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    จิตเกิดอุปาทาน สมัยนี้บัญญัติแบบกวนๆว่า มโน
    ไปหลงเกิดความสุขความยินดี้เพราะตัวอักษร
    ไปหลงเกิดความทุกข์ไม่พอใจเพราะตัวอักษร
    แสดงอาการก่อชาติสร้างภพโต้ตอบก็เพราะอวิชชา
    ทำให้รู้ว่าตนนั้นยังห่างไกล
    สำหรับผู้หมดแล้วย่อมไม่ตอบเพราะหมดอุปาทาน
    ไม่เสียเวลาเข้ามาอ่านเพราะไม่มีประโยชน์อีกแล้ว
    ผู้หมดกิเลส หมดแล้วซึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องรับรู้
     
  5. tOR™

    tOR™ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +328
    ช่วงสมัครใหม่เพื่อตั้งกระทู้ ผมได้รับคำตอบ มีแปลกใจบ้าง บางทีรู้สึกเหมือนดูลิเก ลำตัด เพราะชุดภาษาที่เขาใช้กัน บ่อยครั้งก็สงสัยที่มาที่ไปของข้อมูล เพราะลึกซึ้งมากขนาดทราบถึงเส้นเลือดกับน้ำในสมอง จนเราคิดว่าผ่านไปดีกว่า รู้ละเอียดขนาดถึงห้อง Lab แล้วคงไม่ได้มีประสบการณ์มาแน่ ๆ บางครั้งเห็นคนที่มีปัญหาเดียวกับเรา ประสบการณ์คล้ายกัน เห็นการเข้ามาตอบแล้วก็งงเหมือนกันเพราะปัญหาดังกล่าว คนมีประสบการณ์ตอบไม่ได้ แต่คนไม่มีประสบการณ์กลับตอบได้
    งงไหมล่ะครับ?
     
  6. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เห็น ความยินดียินร้าย ที่เกิดขึ้น

    อ่านนานไปแล้ว แอบชอบหลายคน แต่ก้อแอบเกลียดบางคน
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    เห็นรูปแมวคนตั้งกระทู้แล้ว...

    ^^
     
  8. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    มันขึ้นอยู่กับ ความคิด และสภาพสภาวะจิตใจของแต่ละบุคคล นะขอรับ
    เพราะตัวหนังสือ ที่เขียนขึ้นมา ผู้เขียนก็อ่านด้วย แล้วก็คิดเอาเองว่า ฉันได้สอนแล้ว ฉันได้ตอบโต้แล้ว ฉันสะใจแล้ว บางครั้ง ผู้เขียนมีจุดประสงค์อย่างไร พอผู้อื่นได้อ่าน กลับคิดไปอีกอย่างหนึ่ง บางครั้งเขียนไปไมได้โกรธ ไม่ได้ เกลียดอะไรดอก พอผู้อ่านได้อ่าน ก็คิดเอาเองว่า เขียนอย่างนั้นแสดงว่าโกรธ เขียนอย่างนี้แสดงว่ายังติดหลง เขียนอย่างโน้นแสดงว่ายังไม่บรรลุธรรม
    ซึ่งในทางที่เป็นจริง ผู้ที่เข้ามาศึกษาหรือเที่ยวเล่นในเวบฯธรรมะ ก็น่าจะมีความรู้ ความเข้าใจ ในหลักศาสนาอยู่บ้าง
    อ่านข้อความที่เขียน ตามธรรมดาย่อมต้องเกิดความรู้สึกชนิดใดชนิดหนึ่งเกิดขึ้น แล้วมันก็ตั้งอยู่สักชั่วครู่ แล้วก็ดับไป ใครจะมาถือเป็นจริงเป็นจังเอาเป็นเอาตายกันละ อิทธิพลของภาษา ทำให้เกิดความหลง โลภ โกรธ ได้ จริงไหมขอรับ
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    " ดูไม่ถึงฐาน "

    ไปดูมาใหม่ อย่าส่งจิตออกนอก

    ถ้าไม่ส่งจิตออกนอก จะ กลับกันเลยนะ

    จะต้องเห็นว่า ลมหายใจมันหยาบ จิตถึงได้อึดอัด กายถึงได้อึดอัด

    ถ้าจิตถึงฐาน จะต้องรู้ไปที่ ปรมัตถ์ธรรมก่อน แล้ว จึงส่งออกไปใน
    บัญญัติที่เป็น กายเนื้อ จิตสังขาร วจีสังขาร

    เห็น ปรมัตถ์ได้บ่อยๆ จะเริ่มเข้าใจ กายคตาสติ

    และ จะเริ่มเห็นเลยว่า ไม่ใช่ให้เข้าไปปรุง ลมหายใจ แต่ให้เอา ลมหายใจ
    นั่นแหละ เป็นตัวแทนของ สังขารทั้งหมดทั้งจักวาล และ ลมหายใจนั้นมัน
    เคลื่อนหรือปรุงแต่งของมันอยู่ก่อนแล้ว มันผันแปรไปตามผัสสะ ที่กระทบ
    อย่างห้ามไม่ได้อยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะ ก่อรูป ถอดรูปออกมาเป็น " กายสังขาร
    มโนสังขาร วจีสังขาร "

    ตามเห็นแบบนี้เนืองๆ กายคือลม ลมคือกาย ก็จะเป็น กายคตาสติ

    ส่วนการรู้อึดอัด แล้วไป แต่งลมหายใจ อันนั้น หมาแมว มันก็ทำเป็น
    มันอึดอัด มันก็นอนแผ่ ทำตาแป๋ว ได้
     
  10. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ผมเปิดเข้ามาทีไร
    ผมต้องไปหาหนังกำลังภายในมาดูทุกทีเลยคับ
    แฮะๆดูหมดแล้ว ก็ยังไม่เห็นครบที่อยากดูเลย
    นั้นแะเนอะเอาอะไรกันกับหนังกำลังภายใน
    ไปดูกฏของกรรมดีกว่าจะได้กลัวการทำบาปกัน
     
  11. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    สำหรับผมแล้วก่อนเข้าอ่านกระทู้โดยเฉพาะกระทู้ที่ตนเองตั้ง ผมจะตั้งจิตพรหมวิหาร4 ไว้ก่อน และบอกกับตนเองเสมอว่า "เราจะไม่โกรธใคร เราจะไม่ดูถูกใคร ใครว่ากล่าวเราถูกต้องด้วยเหตุผลเรายินดีน้อมรับด้วยจิตคารวะ ใครไม่มีเหตุผลมาเราจะนิ่งไม่โต้ตอบ" แค่นี้ก็มีสติเตือนตัวเองได้แบบ ชิว ชิว แล้วครับ(smile)
     
  12. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
  13. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เราอ่านกระทู้ หรือ ประสพการณ์ของผู้อื่น ก็เพื่อ
    เอาไว้เปรียบเทียบกับประสพการณ์ของเราเอง
    ว่าเราปฏิบัติถึงขีั้นไหนแล้ว โดยการพิจารณา
    ลงที่จิต หรือ ใ่จของเรา เมื่อเราอ่านแล้ว
    รู้สึกชอบ หรือ รู้สึกเกลียด หรือ
    รู้สึกเฉยๆเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรา
    หรือ รู้สึกเฉยๆเพราะสภาวะธรรมของเรานั้น
    สามารถทนต่อโลกธรรม หรือ โลกกระทำได้แล้วนั่นเอง

    ส่วนผู้ที่เขียนกระทู้ หากสามารถทนต่อ
    คำติติงว่ากล่าวต่างๆได้แล้ว ก็แสดงว่า
    สภาวะธรรมของผู้เขียนก็ไม่ใช่ธรรมดาเช่นกัน
    ส่วนผู้อ่านที่ฉลาดนั้น ก็ควรจะหาแนวทาง
    หรือประสพการณ์ของคนอื่นที่คล้ายๆกับของเรา
    แล้วลองปฏิบัติไปตามนั้น หรือ ปรึกษาแนวทางการ
    ปฏิบัติของเค้า เพื่อมาเป็นต้นแบบสำหรับการปฏิบัติของเรา

    ส่วนการถกเถียงในธรรมนั้น มันอนิจจังอย่างหนึ่งเหมือนกัน
    ก็คือ เกิดกระทู้ขึ้น แล้วก็ถกเกียงกันจนเกียจกันไปข้างหนึ่ง
    แล้วก็เลิกเขียนกระทู้นั้น จนกระทู้นั้นหายไป
    แล้วก็จะมีคนเขียนกระทู้ขึ้นมาใหม่
    แล้วก็จะโดนรุมอีก จนผู้เขียนหมดกำลังใจ
    ในการเขียนไปเลย มันวนเวียนอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด


    ส่วนคนที่เข้ามาแล้ว ออกไป ไม่ช้าก็จะต้อง
    กลับมาใหม่ เพราะไม่เห็นว่า จะมีที่ไหน
    มีการสอนได้ครอบคลุมเหมือนที่นี่
    พอมาอยู่นานๆไป ก็จะหายไปอีก
    แล้วก็จะกลับมาอีก เป็นอย่างนี้ตลอด
    แม้กระทั่ง โสดา สกิทาคา อนาคา
    ทุกคนต้องหาทางกลับมาอีกจนได้
    เพราะหนทางปฏิบัติเพื่อที่จะบรรลุธรรม
    ได้อยู่ในนี้หมดแล้ว เพียงแต่คุณจะต้อง
    หาให้เจอด้วยตัวคุณเอง เท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ธันวาคม 2014
  14. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    สังเกตุได้อีกอย่างนึงแล้วครับ :cool:
    คือก่อนนั้นจะโพสต์ข้อความใดออกมาก็มักจะเป็นไปด้วยความคึกคะนอง สนุกสนาน(ประมาท)เพราะว่าไม่เห็นหน้า ไม่รู้จักชื่อ ฯลฯ บางทีนึกอยากจะเขียนจะโพสต์ใส่กระทู้ไหนก็เต็มที่เลย โดยไม่คำนึงถึงจิตถึงอารมณ์ตนเองในขณะนั้นว่าเป็นกุศลหรืออกุศล

    แต่ภายหลังสภาวะนั้นมันได้คลายตัวดับไปแล้ว แต่สัญญาไม่ดับเพราะจำได้อยู่ว่ายูสไหนแสดงอะไรกะใครอย่างไรออกมาบ้าง...หันกลับมาดูจิตของตนจึงพบความจริงว่าเราก็ยังมีอคติ ยังรู้สึกพอใจ ไม่พอใจ กับข้อความของผู้อื่นอยู่ทุกขณะ เมื่อรู้ชัดดังนั้นแล้วจึงได้ฝึกทรงอารมณ์จิตให้เป็นกลาง(วางอุเบกขา)ต่อยูสเนมและข้อความต่างๆอันเป็นเหตุให้จิตกระเพื่อมไหวตามอารมณ์ที่ซัดส่าย!

    ปรากฎว่าได้ผลดีมากเลยครับ เป็นการฝึกดูจิตไปในตัวด้วยเล่นเว็บบอร์ดไปด้วย
    ความลำเอียงลดน้อยลง ยอมรับฟังความคิดเห็นและเคารพให้เกียรติข้อความของผู้อื่นมากขึ้น ชื่นชมและเอิบอิ่มในบุญกุศลจากโพสต์ข้อความธรรมทานของผู้อื่นโดยไม่มีใจอิจฉาริษยา ซึ่งเมื่อก่อนยังไม่รู้ตัวก็จะพยายามดิ้นหาทางเพื่อจะโพสต์ข้อความแข่งดีกะผู้อื่น! ทีนี้เห็นกิเลสตนเองชัดเลยครับ ตรงข้อความแข่งดีกะผู้อื่น เนี่ยมักจะพยายามหยิบยกเอาโน้นนี้นั้นมาปรับวาทะเพื่อให้ตนโดดเด่นเสมอ เมื่อไม่ได้ดังหวังแล้วทีนี้ก็จะหายไปนานเลย กว่าจะกลับมาใหม่ มาสู้ใหม่ มากู้หน้าคืน ฯลฯ

    กิเลสในตัวข้าพเจ้าเป็นงั้นจริงๆครับ วันนี้เลยนำผลการปฎิบัติดูจิตดูอารมณ์ตนเองในขณะเล่นเว็บบอร์ดมาเล่าสู่ฟังครับ ^_^
     
  15. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    อีกอย่าง เวลาเห็นเขาปรับวาทะกันสังเกตุว่าจิตตนเองมันจะชอบวิ่งเข้าไปดูวิ่งเข้าไปเชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ตนชอบ เกิดความอยาก(ตัณหา)อยากที่จะเห็นว่าเขาแก้กันอย่างไรใช้ธรรมะบทไหนมาหักล้างอ้างอิง เพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับ...

    เมื่อก่อนคงชอบเหมือนกะการดูมวยดูหนังต่อสู้กันเพื่อความบันเทิงสนุกสนานเสียมากกว่า แต่ตอนนี้ไม่แล้วครับ เป็นการดูการอ่านกระทู้ต่างๆเพียงเพื่อพอกพูนสุตตะมยะปัญญาแสวงหาอุบายอบรมจิตใจตนเอง ^_^
     
  16. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    สงสัยกำลังมีความรัก มองโลกเป็นสีชมพูไปโม๊ดด :boo:
     
  17. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    มีข้อที่ควรสังเกตอยู่หน่อยครับ
    ก็คือ ถ้าตัวเรายังไม่เป็นธรรมะ
    ก็อย่าพึ่งไปโพสต์ธรรมะ
    เพราะธรรมที่เราโพสต์ไป
    ด้วยจิตอกุศล จะก่อกรรมกับ
    ผู้อื่นที่เข้ามาอ่านได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ธันวาคม 2014
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เห็นสมมุติในสมมุติ
    เห็นจิตในจิต
    เห็นธรรมในธรรม
     
  19. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
     
  20. Jan2014

    Jan2014 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2014
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +143
    ยินดี หรือไม่ยินดี ถ้าไม่ยึดไว้ เดี๋ยวมันก็ดับไป
    มันเป็นของธรรมดาของมันอย่างนั้น


    คนที่เขาโต้ตอบเพราะอวิชชาจริงๆก็มี
    คนที่เขาโต้ตอบ ในขณะที่เขา "เห็นในความเป็นอวิชชา" ก็มี
    ท่านอย่าได้เผลอไปคิดว่า บางท่านที่เขาตอบ เขาจะมีแต่อวิชชาไปเสียหมดนะ ถ้าเห็นไปอย่างนั้น ประเดี๋ยวจะเป็นการไปเผลอปรามาสผู้ที่ท่านเขามีธรรมสูงเข้า ไม่น่าจะสู้ดีนะท่าน


    ตรงนี้ก็ต้องระวัง เพราะด้วยความที่ "อยากจะหมดอุปทาน" มันจะพาลให้ไม่ยอมตอบยอมพูดกับใครเลย

    ถ้าท่านมีเมตตาและสะดวกที่จะเข้ามา ท่านก็เข้ามา
    จะเป็นเว็บไซต์หรือกระดาษหนังสือ ก็เป็นเพียงเครื่องผ่านเท่านั้น
    ถ้าใช้ให้เป็นประโยชน์มันก็เป็นประโยชน์
    สามารถทำให้คน สว่างชัดใสในธรรมได้ มีประโยชน์นะ
    ท่านเห็นว่าไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร


    "สิ่งที่จำเป็นต้องรับรู้" คือเหตุปัจจัยหนึ่ง ที่นำมาซึ่ง ความรู้
    ถ้าหมดซึ่งเหตุปัจจัยแล้ว ความรู้ ที่จะเกิดจากเหตุปัจจัยนี้ จะเกิดมีอยู่ได้อย่างไรล่ะท่าน
    แท้ที่จริงแล้ว "สิ่งที่จำเป็นต้องรับรู้" มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ควบคู่ อยู่ตลอดพร้อมอยู่กับความรู้นั่นแหละ

    ส่วนที่ว่าผู้หมดกิเลสนั้น กระผมว่าถ้าจะขยายความอีกสักหน่อยก็น่าจะเป็นการดี เพื่อคนจะได้ไม่เข้าใจผิดว่า หมดแล้วหมดเลยไม่มีเหลืออะไรอีกแล้ว แต่แท้ที่จริงตามธรรมชาติของมันแล้ว มันเดี๋ยวมีเดี๋ยวหมด เดี๋ยวมีเดี๋ยวหมดอยู่อย่างนี้ เพียงแต่ว่ามันโดนเห็นเข้า มันก็เลยหายไป เข้ากฏ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อยู่อย่างนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...