ช่วยไม่ให้ชาวบ้านตายจากน้ำท่วม กรรมที่จะเกิดขึ้นกับชาวบ้าน จึงหันมาเล่นงานคนที่ช่วยแทน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Apinya Smabut, 23 เมษายน 2019.

  1. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "เช้ามืดวันที่ ๑ กันยายน กำลังนอนภาวนาอยู่ นิมิตเห็นน้ำป่ากำลังพุ่งเข้าใส่หมู่บ้านที่สุโขทัย สัญชาตญาณของตัวเองทำให้อดไม่ได้ กระชั้นชิดจนไม่มีเวลาให้ตัดสินใจ

    ถ้าใครไม่เคยเห็นน้ำป่า จะไม่รู้ว่าหรอกว่ามาเร็วและมาแรงขนาดไหน ดูจากสภาพแล้วคงจะกวาดไปทั้งหมู่บ้าน และเป็นเวลากลางคืนตีสองกว่า อาตมาก็เลยต้องให้เบนน้ำออก แทนที่จะถล่มทั้งหมู่บ้าน ก็เหลือแค่น้ำท่วมเท่านั้น

    ทันทีที่ทำเสร็จ กระแสกรรมที่จะเกิดแก่คนหมู่มากก็ถล่มใส่อาตมา ความรู้สึกเหมือนกับโดนใครยิงด้วยปืนกลหรือไม่ก็ผึ้งฝูงหนึ่งมารุมต่อยพร้อม ๆ กัน พอไปถึงวัดไร่ขิงก็นอนยาว ลุกไม่ขึ้น

    คนทดสอบเขาทดสอบได้แสบมากเลย คือ วิสัยเดิมที่คิดจะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ อาตมาทำมาเยอะต่อเยอะ ภาพที่เขาทำให้ปรากฏก็ไม่มีเวลาให้ตัดสินใจ เพราะว่าน้ำป่ามาถึงบ้านแล้ว ก็มีอยู่แค่สองอย่าง คือ ช่วยกับไม่ช่วย

    ความเคยชินที่คิดจะช่วยเขามาทุกชาติก็ต้องช่วย พอช่วยแล้วก็ต้องรับเละเอง หลังจากที่นอนเลื้อยไปวันหนึ่งแล้ว ลุกไม่ไหว ก็มานึกถึงหลวงปู่พุฒ เจ้าคุณราชอุทัยกวี ท่านเป็นอดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาก มั่นใจเลยว่าท่านมรณภาพเมื่อไรท่านไปพระนิพพานแน่

    แต่ปรากฏว่าพอหลวงปู่พุฒมรณภาพ ไปได้แค่พรหมชั้น ๑๒ ถามว่าพรหมชั้นที่ ๑๒ ดีหรือไม่ ? ดี...เพราะเป็นสุทธาวาสพรหม ไม่ต้องเกิดใหม่ บำเพ็ญบารมีไปพระนิพพานข้างบนได้ แต่ก็ทำให้ช้าไปอีกหลายกัป

    เหตุที่ท่านไปไม่ได้เพราะว่าก่อนท่านมรณภาพมีนิมิตเป็นสมุดบัญชีของว้ด ท่านยังไม่ได้มอบหมายให้ใครรับผิดชอบอย่างเป็นทางการ จิตพะวงอยู่นิดเดียวเอง เลยไปได้แค่พรหม


    เรื่องการทดสอบนั้น มีการทดสอบทั้งหลับทั้งตื่น ทุกเวลา ทุกนาที ทุกวินาที เขาทดสอบเราอยู่ตลอด อย่างที่เคยตักเตือนพวกเราว่า มารใช้คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัวเป็นเครื่องทดสอบเราได้หมด ต้องระมัดระวังให้ดี เผลอเมื่อไรก็ไปไม่รอด และทดสอบได้ร้ายกาจจริง ๆ เขาสอบแบบไม่เหลือเวลาให้ตัดสินใจ เพราะอีกไม่กี่ศอกน้ำก็จะถึงหมู่บ้านแล้ว "

    "โดยเฉพาะคนที่เรารัก จะสร้างความสะเทือนใจให้เราได้ง่ายที่สุด ฉะนั้น..เวลาที่มารเขาทดสอบเรา ข้อสอบเขาออกได้โหดมาก ไม่เปิดโอกาสให้เราด้วยประการทั้งปวง เพราะเขาต้องการจะรั้งเราให้อยู่

    หลายต่อหลายคนเวลาปฏิบัติธรรมไประดับหนึ่ง พอกิเลสดิ้นทำท่าจะตาย เราก็ไปปล่อย แต่ถ้าเราจะตายกิเลสไม่เคยปล่อยเรา
    ก็เลยเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังให้ดี สอบตกก็ต้องเกิดอีกนับไม่ถ้วน สอบได้ก็ผ่านไป

    แค่เล่าให้ฟังเฉย ๆ ว่าสองสามวันที่ผ่านมานี้ไปยุ่งกับชาวบ้าน เลยป่วยจนงอมพระราม ลองไปหาข่าวดูว่ามีน้ำท่วมสุโขทัยบ้างหรือไม่ ถ้ามีก็ไม่มีคนตายหรอก เพราะช่วยเขาไปแล้ว"

    "ถ้าใครไม่เคยเจอน้ำป่า จะไม่รู้ว่าน่ากลัวขนาดไหน มาทีอย่างกับภูเขาถล่ม

    น้ำป่านั้นเกิดจากท่อนไม้บ้าง ใบไม้บ้าง มาขวางลำธาร พอสิ่งกีดขวางสะสมมากเข้า ๆ ก็เท่ากับเป็นเขื่อนกั้นน้ำ พอเวลาน้ำสูงขึ้น แรงดันก็มากขึ้น พอกั้นไม่อยู่พังโครมลงไปก็เป็นน้ำป่า

    เคยธุดงค์อยู่รอบหนึ่ง เจอน้ำป่าด้วย เจอพายุลูกเห็บด้วย ช่วงนั้นเดินตัดทุ่งใหญ่ขึ้นไปทางอุ้มผาง พอตอนเย็นก็ปักกลด ดินฟ้ามืด ๆ พิกล สักพักฝนก็เกรียวกราวมา ประเภทฝนเม็ดโต ๆ บริเวณที่อาตมาอยู่ฝนก็ตก อาตมาก็แปลกใจว่าตาลายหรือเปล่า เพราะเม็ดฝนเด้งได้ กระทบพื้นแล้วกระเด้งกระดอนไปทั่ว

    ความจริงนั่นเป็นลูกเห็บ พอตกกระทบพื้นแล้วก็เด้ง แรก ๆ ขนาดเท่านิ้วก้อย สักพักเม็ดเท่านิ้วชี้ สักพักเม็ดเท่านิ้วโป้ง ตกอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ต้นไม้ใบหญ้าปรุหมด จากป่าที่รกกลายเป็นโล่งไปเลย

    หลังจากนั้นฝนจริง ๆ ก็มา กระหน่ำอยู่ประมาณสองชั่วโมง โชคดีตอนนั้นมีเพิงหินอยู่หน่อยหนึ่ง พอที่จะมุดหลบเข้าไปได้ พอฝนหยุดตั้งใจว่าเดี๋ยวจะหาฟืนมาก่อไฟ จะได้ตากผ้าที่เปียก

    ยังไม่ทันออกหาฟืนเลย เสียงน้ำป่ามาเหมือนกับภูเขาถล่ม ม้วนกลิ้งตูมลงมา ถ้าหนีก็หนีไม่ทัน โชคดีตรงที่ว่า จุดที่ไปหลบฝนอยู่นั้นเป็นเนินเขา ไม่ได้ไปขวางทางน้ำ เลยปลอดภัย

    บริเวณด้านข้างเป็นลำห้วยกว้างมาก เป็นห้วยแห้งที่ไม่มีน้ำ เนื่องจากเป็นหน้าแล้ง เพราะฉะนั้น..อย่าไปไว้ใจว่าในป่าหน้าแล้งแล้วจะไม่มีฝน ไปป่าเมื่อไรหน้าไหนก็เจอฝน
    "

    ถาม : โทรไปตรวจสอบมาแล้วครับ น้ำท่วมสุโขทัยแต่ไม่มีคนตายครับ
    ตอบ : ไม่มีหรอก ก็อาตมาไปขวางเอาไว้

    ถาม : นี่เป็นกรรมของท่านด้วยหรือเปล่า ?
    ตอบ : เขาแค่ทดสอบว่า เรายังไปยุ่งกับกรรมของชาวบ้านอยู่หรือเปล่า แต่เชื้อเดิมของเราที่คิดจะสงเคราะห์สรรพสัตว์ทั้งหลาย อย่างไรก็อดใจไม่ได้หรอก คราวนี้เห็นหรือยังว่าสันดานนั้นแก้ยากแค่ไหน

    สันดานเป็นภาษาไทย บาลีเขาเรียกว่า สันตติ คือความสืบเนื่อง มีการสั่งสมสืบเนื่องมาชาติแล้วชาติเล่า บำเพ็ญบารมีมาเพื่อจะสงเคราะห์สรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ทีนี้พอทำมาแล้ว เวลาเห็นเขาจะทุกข์จะตาย ก็อดไม่ได้ แล้วเวลาในการตัดสินใจก็ไม่มี มีเวลาแค่ ๒ - ๓ วินาทีเท่านั้นเอง เพราะที่เราเห็นน้ำป่าห่างหมู่บ้านแค่ไม่กี่ศอกแล้ว ไม่อย่างนั้นได้ตายกันยกหมู่บ้านแน่

    บางทีนิมิตพวกนี้ก็แสดงให้เห็นว่า เชื้อเก่าของเราทำไว้เยอะเหลือเกิน เมื่อทำเอาไว้เยอะ เมื่อถึงเวลาตัดสินใจเพื่อตนเองเพื่อผู้อื่น ก็มักจะตัดสินใจเพื่อผู้อื่นอยู่เสมอ นึกถึงตอนที่ไปขอลาพุทธภูมิ พระท่านห้ามไว้สองครั้ง พอครั้งที่สามท่านบอกลาได้ แต่งานเก่าให้ทำไปก่อน

    อาตมาฟังแล้วก็งง ๆ ว่าตกลงได้ลาหรือไม่ได้ลา คือ ลาได้แต่งานเก่าทำไปก่อน ก็แปลว่าถ้าเอ็งแน่จริงก็ไปนิพพาน ถ้าไม่แน่จริงก็เป็นต่อไป..!

    ในประวัติของกีสาโคตมีเถรี เอตทัคคะปาลิ ขุททกนิกาย พระพุทธเจ้าตรัสกับนางกีสาโคตมี ที่อุ้มลูกไปขอให้ท่านรักษา ทั้ง ๆ ที่ลูกตายแล้ว "ภคินิ...ดูก่อนน้องหญิง ในแต่ละชาติที่เธอเกิดมา ต้องเสียน้ำตาเพราะคนที่รักจากไป เมื่อรวมกันแล้วน้ำตาของเธอทั้งหมด ยังมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งสี่เป็นไหน ๆ" คิดดูสิว่าเกิดมากี่ชาติ น้ำตาไม่กี่หยดรวมกันจนมากกว่ามหาสมุทรทั้งสี่เสียอีก..!


    ที่มา วัดท่าขนุน
     

แชร์หน้านี้

Loading...