ช่วยทีค่ะเรารู้สึกผิดมากๆต้องทำยังไงดีคะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย lagunaram, 20 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    วันนี้บังเอิญมีปูทะเลตัวสีดำๆหลุดมาจากไหนไม่รู้เดินผ่านบ้านเราตัวใหญ่มากๆ เราก็จับไว้กลัวมันจะโดนรถทับ หรือคนอื่นเอาไปกิน ทีนี้มันเป็นปูทะเล ที่บ้านเราก็ไม่มีทะเลด้วย จะช่วยมันยังไง เลยจะเอามันไปปล่อยที่บึงน้ำจืด พอเราจับตัวมันด้วยความที่ตัวมันใหญ่เราเลยทำมันตก ก้ามแตกทางซ้าย ความสูงประมาณหัวเข่านะคะ เรารู้สึกไม่ดีมากๆแต่ก็พยายามไม่คิดอะไร เลยเอามันไปปล่อยที่บึงน้ำจืด พอวางไปมันก็ไม่ยอมเดินเลยค่ะ อาการร่อแร่มากๆ แล้วแถวนั้นมันก็มีพวกมดเดินเยอะเลย เราพยายามไปเขี่ยๆตัวมันให้มันเดินแต่มันไม่ยอมเดิน เลยคิดว่าไม่น่ารอด เราเลยเอามันกลับมาที่บ้านแล้วใส่น้ำแช่มันไว้เผื่อมันจะฟื้น ใส่ไปนิดเดียวนะคะ แล้วเราก็ออกไปทำงาน กลับมามันตายแล้ว ทีนี้ด้วยความเสียดายเราเลยเอามันมาทำอาหาร ถ้าทิ้งเราว่ามันเสียดายเสียของด้วย แบบนี้เราจะผิดมากไหมคะ ช่วยทีค่ะ
     
  2. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    แผ่เมตตา ขออโหสิ และกล่าวอโหสิให้เขาด้วย แล้วไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับปูตัวนั้นครับ เขาอาจจะเคยเป็นหนี้กรรมกับเรามา ถึงได้ต้องคลานมาเจอกันแล้ว ต้องเกิดการกระทบกระทั่งกัน และเราต้องไปกินเนื้อเขา ทั้งๆที่เหตุการณ์ต่างๆก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น เขาใช้กรรมกับเราแล้ว
     
  3. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    ขอบคุณมากๆนะคะ เรารู้สึกไม่ดีจิงๆ เด่วจะไปทำบุญอุทิศให้ปูตัวนั้นค่ะ น่าจะเป็นปูเนื้อค่ะ ตัวใหญ่จิงๆ แล้วก็ไม่รู้หลุดมาจากไหนอยู่ก็เดินมาบ้านเราค่ะ ถ้าแถวบ้านมีทะเลมันคงรอดตาย
     
  4. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +1,938
    ทีแรกน่าเห็นใจนะ แต่เกมมาพลิกอีตอน เราเลยเอามันมาทำอาหารซะเลยนี่แหละ อิอิ
     
  5. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952
    ***โปรดใช้วิจารณญาณ***
    ๑. การกระทำทำให้เกิดกรรม เจตนา ก็คือ กรรม
    - จากนิสัยคือ ของคุณเป็นคนมีเมตตา อ่อนน้อมถ่อมตนมาก
    - กรรมนี้ได้เกิดขึ้นจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์และขาดความรู้ พร้อมทั้งขาดความระมัดระวังที่ดี
    - กรรมนี้เป็นปานาติบาตนะครับ (ความประมาท)
    - แต่ว่ามีเจตนาอ่อน ๆ(ทำกรรม),(เป็นเจตนาในการอยากช่วยมากกว่า), (ด้วยความใสซื่อ)
    ๒. กรรมที่ได้ทำไปแล้วไม่ต้องไปกังวัลถึงมันครับ แต่ให้ตั้งใจไว้ว่าต่อไปจะไม่ทำอีก พร้อมทั้งสร้างบารมี อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เขาไป หนักจะได้กลายเป็นเบา เบาเป็นหาย (หน้าที่เรา
    ชดใช้ ไถ่ถอน ผ่อนหนักให้เป็นเบา เบาเป็นหาย สร้าง สร้างบารมี)
    ๓. กรรมนี้มีเจ้ากรรมนะครับ เขาเอาความ
    ๔. ผลที่จะได้รับ (กรรม)
    ๔.๑ มีการปวดกระดูก
    ๔.๒ มีอาการออกร้อนบ้างไม่มาก
    ๔.๓ เวลาสวมใส่เสื้อผ้าจะรู้สึกระคายเคือง ไม่ค่อยสบายตัว

    *****ขอให้สบายใจ อนุโมทนาบุญ**** ไปดูโพสต์เรื่องกรรมเก่า ๆ (อโหสิกรรมที่ผมเคยโพสต์ไว้)
    แล้วจะสบายใจยิ่งขึ้น***
     
  6. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    ปูตัวนั้นมีกรรมกับ จขกท.โดยแท้จริง เพราะคุณสามารถเลือกที่จะไม่จับมันเอาไว้แล้วปล่อยมันไปตามทางของมันก็ได้ แต่ด้วยความกังวลคุณจึงคิดอยากจะช่วยมันจนสุดท้ายมันกลับต้องมาตายด้วยการกระทำของ จขกท.เสียเอง

    ปูทะเลตัวนี้อาจมีคนเลี้ยงไว้แล้วมันหลุดออกมาก็เป็นได้(สามารถเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ได้) เพราะถ้ามันถูกซื้อมาจากตลาดสดมันจะต้องถูดมัดขาเอาไว้ ผมคิดว่าปูตัวนั้นคงรู้ตัวว่าตนเองจะต้องถูกนำไปขายแล้วฆ่าทิ้ง จึงพยายามหนีออกมา แต่คงเพราะวิบากกรรมของปูตัวนั้นจึงทำให้มันหนีความตายไม่พ้น

    ความจริง จขกท.ไม่ควรกินมันเลย แต่ควรจุดธูปสัก 1 ดอก แล้วเอาซากศพของมันไปเผาเหมือนการฌาปนกิจเล็กๆ จากนั้นจึงทำบุญแล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้
     
  7. สามตะกร้า

    สามตะกร้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +17
    ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
    1.การที่คุณมีเจตนาช่วยเหลือนั้นถือว่าได้บุญ
    2.เมื่อจับแล้วปูตกลงมาบาดเจ็บนั้นเป็นกรรมที่ปูต้องชดใช้คุณ คุณไม่บาปเพราะขาดเจตนา
    3.คุณพยายามพามันไปไว้ใกล้บึงและคอยระวังมดให้เพราะมีความเมตตานับว่าได้บุญ
    4.คุณนำกลับมาไว้ที่บ้าน แล้วกลับมาเห็นว่าปูนั้นตายแล้ว การตายของปูนั้นเป็นกรรมของปูเอง เพราะถ้าบุญรักษาจะทำอย่างไรก็ไม่ตาย แต่เมื่อหมดบุญถึงไม่ทำอะไรก็ตาย
    5.เมื่อปูนั้นตายแล้วคุณตัดสินใจนำร่างของปูมากิน ถ้าคุณไม่ได้เจตนาทำให้มันตายจะบาปได้อย่างไร อันร่างกายของสัตว์ที่วิญญาณทิ้งไปแล้วนั้นก็เปรียบเสมือนท่อนไม้เมื่อนำท่อนไม้ไปผ่าไปเผาจะหาบาปได้จากไหน
    สรุป จะบาปก็ต่อเมื่อคุณรู้สึกผิด จิตใจจะเศร้าหมองนั้นแลตัวบาป
    จะไม่บาปเมื่อคุณเข้าใจเหตุผลต้นกรรม
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสสอนว่า
    1.ละความชั่วทั้งปวง หมายถึง สิ่งใดที่ผ่านมาแล้วทำให้เราไม่สะบายใจให้ละทิ้ง อย่านึกถึงอีกเพราะจะทำให้จิตใจเศร้าหมอง
    2.ทำความดี หมายถึง เริ่มต้นทำความดีใหม่
    3.ทำจิตใจให้ผ่องใส หมายถึง ให้หมั่นสวดมนต์ ทำสมาธิ ให้จิตมีสติ รู้ตัว รู้เท่าทันจิต รู้สัจจธรรมของธรรมชาติ
     
  8. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ไม่ผิด แถม ได้บุญอีกนะ
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กินเนื้อสัตว์ที่ถูกฆ่า ได้บุญ ถ้าปิดเสียนี้ ทางเดินของเขาที่จะได้บุญได้กุศล ไม่มี

    แชร์คำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์สายวัดป่า

    หลวงตามหาบัวเล่าเรื่องความรู้พิสดารของแม่ชีแก้วหยั่งรู้สัตว์ที่ตายไป...

    ....องค์หลวงตาเล่าความรู้แปลกพิสดารของคุณแม่ชีแก้วไว้ ดังนี้

    "...สัตว์บางประเภทๆ นี้ รายไหนตายไปเนื้อหนังของเขา เขาหวังประโยชน์จากเนื้อหนังของเขาตลอด เวลาได้นี้ไปทำบุญให้ทานเขามีหวังได้รับ ถ้าปิดเสียนี้ทางเดินของเขาที่จะได้บุญได้กุศล ไม่มี
    ..คุณแม่แก้วก็เป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นนั้นแหละ แกนั่งภาวนาอยู่...ตอนเช้า ที่ห้วยทรายนะ มีบุรุษคนหนึ่งมาเข้านิมิตแม่ชีแก้ว เข้ามาขอว่า

    "..คุณแม่ นี้ผมเป็นลูกหมูถูกนายบินยิงอยู่ที่ภูเขาลูกนั้น ไปเผลอตัวถูกเขายิงตาย เวลาผมตายแล้วนี้เขาเอาเนื้อเอาหนังมาถวายมาทานที่นี้ เมตตาให้ฉัน(กิน) ฉลองศรัทธาให้ผมด้วย ผมจะได้มีส่วนบุญส่วนกุศลจากเนื้อนี้ ผม ตายด้วยความผลั้งเผลอ คือหิวน้ำไปกินน้ำ เขาฆ่าตาย เขายิง ผมสุดวิสัยตายไปแล้ว บุญกุศลจะเป็นเครื่องหนุนผม เวลาเขาเอามาถวายขอให้คุณแม่ช่วยฉลองให้หน่อย"

    นี้เห็นไหมละ พอตื่นเช้ามาก็เรียกหมู่เพื่อนมา แล้วแกก็เล่าให้เขาฟัง "ทำไมแปลกๆอย่างนี้ มันจะจริงไหม มันเป็นอย่างนั้นเมื่อคืนนี้"

    ไม่นานพวกลูกเมียของนายบินที่ฆ่าหมูตายแล้ว เอาเนื้อมาถวายสำนักแม่ชี "นี้เนื้ออะไร" โดยเนื้อหมูนี่ไอ้บินมันไปฆ่า ได้หมูมาจากภูเขานั้นๆ เลยเอามาทำบุญให้ทาน

    เป็นไงเข้ากันได้มั้ยละ ตรงเป้งเลย ชื่อไอ้บินจริงๆ ยิงหมูตายแล้ว ทางหมูได้มาบอกไว้ก่อน ..พอพระออกบิณบาตกลับมานี้ เขาก็เอาเนื้อหมูมา เราชักใหญ่เลยที่นี้ เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นซักครู่ พูดกันยังไม่จบ มาก็เรื่องเข้ากันร้อยเปอร์เซ็นต์เลย อย่างนี้เป็นต้น เข้าใจไหม มันลึกลับ

    "..สัตว์ทั้งหลายที่ตายไปนั้นจะห้ามกันได้อย่างไง เมื่อห้ามอันนี้ความมุ่งหมายของสัตว์ที่ตายไปแล้วจะไม่มีทางก้าวเดิน ไม่มีทางออก เข้าใจไหม ต้องอาศัยบุญกุศลจากเนื้อหนังของเขาที่ตายไปแล้วนั้น มาหนุนตัวเองไปอีก..."

    คัดลอก...จากหนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์

    โดย สายลม พเนจร

    ttps://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=270040719797358&id=241613022569390

    ตัดกำลังใจได้แค่นี้จะไม่มีโทษอะไร


    ฉันเนื้อสัตว์

    --------------------------------------------------------------------------------

    เรื่องของพระนางอุบลวรรณาเถรีมีอยู่ตอนหนึ่งที่ยืนยันได้เลย ปรากฏในพระไตรปิฎก ก็คือ ที่เขาสงสัยกันว่าพระพุทธเจ้าฉันเจหรือว่าฉันเนื้อสัตว์ ก็คือพระนางอุบลวรรณาเถรีท่านจำพรรษาในป่าสีตวัน (สีตวันก็คือ ป่าเย็น แสดงว่าเป็นป่าดงดิบลึกมาก)

    พระนางอุบลวรรณาเถรีก็คิดจะไปเฝ้าพระศาสดา จึงเหาะมาด้วยกำลังฤทธิ์ ปรากฏว่าในช่วงที่ผ่านป่าใหญ่ มันมีลานอยู่แห่งหนึ่ง เห็นมีชิ้นเนื้ออยู่ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสัตว์มันฆ่าหรือพรานมันฆ่าไว้ ท่านก็ลงไป มองซ้ายมองขวา หาเจ้าของไม่เห็น จะเป็นคนเป็นสัตว์ก็ไม่เห็นมี กระแอมดูว่าจะมีใครตอบรับก็ไม่มี บาลีบอกว่ากระแอมถึงสามครั้งแล้วมั่นใจว่าไม่มีเจ้าของแน่ ก็ถือเอาชิ้นเนื้อนั้นไปเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อจะถวายให้พระองค์ท่าน เหมือนกับลูกศิษย์ไปหาอาจารย์ หาของฝากไปให้อาจารย์

    ลักษณะอย่างนั้นยืนยันได้ว่าพระพุทธเจ้าท่านฉันเนื้อแน่นอน ไม่อย่างนั้น จะเอาไปฝากทำไม ส่วนใหญ่แล้วคนเขาจะให้พระพุทธเจ้าบริสุทธิ์ไร้ที่ติ ความจริงก็ไม่มีที่ให้ติ เพราะท่านบอกว่าถ้าไม่ได้ฆ่าเอง ไม่ได้สั่งคนอื่นฆ่า ไม่ยินดีเมื่อรู้ว่าเขาฆ่า จะกินก็กินไปเพราะไม่มีส่วนในกรรม แต่ถ้าเราสั่งเขาฆ่าอันนี้ผิดตรง ๆ เลย ลงมือฆ่าเองก็ใช่ หรือว่าเขาทำมาให้เราแล้วดีใจก็ใช่อีก ถ้าหากว่าบริสุทธิ์โดยสามส่วนท่านบอกว่าไม่เป็นไร ฉันได้ไม่มีส่วนร่วมในกรรม

    จริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านตั้งใจที่จะไม่ให้พระรบกวนโยม แบบเดียวกับเวลาที่อาตมาไปพม่า ครูบาน้อยฉันเจ อาตมาก็ฉันเจด้วย โยมเขาจะได้ทำมาชุดเดียว ไม่อย่างนั้นแล้วลำบาก ทำสองชุดแบ่งกัน เสียเวลามาก เสียของมาก

    เทศน์ช่วงเช้า ณ บ้านอนุสาวรีย์
    วันเสาร์ที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๒



    ถาม : ...................................
    ตอบ : เรื่่องอาหารพระ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า อาหารที่เป็นเนื้อสัตว์มี ๒ อย่างคือ
    ๑. ปะวัตตะมังสะ อาหารที่ เขาขายอยู่ทั่วไปอยู่แล้ว เราจะสั่งหรือไม่สั่งเขาก็ฆ่าขายกันอยู่ อันนั้นสั่งมากินได้ไม่เป็นไร ซื้อได้อะไรได้ อย่างเช่น หมูที่เขาชำแหละอยู่ ไก่ที่เขาฆ่าขายอยู่
    ๒. อุทิสสะมังสะ เขาเจาะจงให้เฉพาะคน ถ้าเป็นอุทิสสะมังสะเจาะจงให้นี่ เรา"เห็นว่า เขาฆ่าเพื่อเรา รู้ว่าเขาฆ่าเพื่อเรา รังเกียจว่าเขาฆ่าเพื่อเรา" เรากินไม่ได้เลย กินนี่เขาปรับทุกคำที่กลืน อันนี้ของพระนะ ของโยมเอาแค่ว่าเราไม่ได้สั่งก็พอ
    ตัวอย่างต้องหลวงพี่วิชชา หลวงพี่วิชชา ตอนนี้คงเป็นหลวงตาแก่ ๆ ไปแล้วล่ะ สมัยโน้นท่านอยู่วัดศรีมณีวรรณ เป็นพระอภิญญา มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ ท่านเลื่อมใสหลวงพ่อ เพราะว่าพระระดับนั้นก็ต้องรู้ว่าหลวงพ่อเป็นอย่างไร ไปร่วมงานกันบ่อย คราวนั้นเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยกัน ก็ใกล้เพล เฮ้ย...แวะแม่ลาปลาเผา แต่ตอนนั้นแม่ลาปลาเผางานยังน้อยอยู่ ก็ยังไม่ได้เผาปลารอแล้วมาอุ่นทีหลัง เหมือนสมัยนี้ ปลาจะเป็น ๆ เลย พอเข้าไปในร้าน เจ้าของร้านเข้ามาถาม "จะรับอะไรดีครับ ?" ตอบว่า "อะไรที่อร่อย ๆ ก็เอามาเถอะ" เขาก็เข้าไปหลังร้าน เสียงทุบป้าบ ๆ ดิ้นพลาด ๆ เลย ได้ยินชัดเลย หลวงพี่วิชชาหน้าเหลือ ๒ นิ้วเลย (หัวเราะ) ตกลงวันนั้นได้นั่งดูปลาเผา ไม่มีใครแตะเลยสักคน (หัวเราะ) ยังดียังมีอย่างอื่นด้วย ไม่อย่างนั้นอดตาย นั่นน่ะรู้เลยว่าเขาฆ่าเพื่อเรา ถึงไม่เห็นก็ได้ยินเต็มสองหู
    ถาม : ถ้าพระไม่ฉันนี่ผิดหรือเปล่าคะ ?
    ตอบ : เขาปรับตอนฉัน
    ถาม : ไม่ได้ฉันก็ไม่เป็นไรหรือคะ ?
    ตอบ : ไม่เป็นไรจ้ะ นั่นจริง ๆ ก็ไม่ได้สั่ง ใครจะไปรู้ว่ามันเป็น ๆ ก็บอกเขาว่า "มีอะไรอร่อย ๆ ก็เอามา" แหม...ของเขาก็อุตส่าห์ขึ้นชื่อแม่ลาปลาเผา เขาก็ต้องเอาเมนูเด็ดของเขาออกมา ที่ไหนได้มันไปทุบเลย เสียงคงจะตีด้วยไม้ เสียงดังป้าบ ดิ้นพลาด ๆ แต่ว่าสมัยหลังใช้วิธีเผารอเอาไว้แล้ วพอถึงเวลาเอาเข้าไมโครเวฟแล้วก็เอาออกมา อย่างนี้เรียบร้อยไปนานแล้ว
    มีเหมือนกันแหละประเภทให้นัย ประเภทที่เรียกว่าให้ แม่ชีเดินจ่ายตลาด แม่ค้าก็ถาม "แม่ชีไม่ซื้อปลาหรือคะ ?" แม่ชีบอกว่า "ยังไม่ตายนี่" พอกลับมาตายเรียบร้อยแล้ว อย่างนี้ให้นัยเขา มีโทษเหมือนกันนะ

    ถาม : อย่างเช่นเราสั่งกับข้าว เช่น ผัดหอยลายอย่างนี้ คนทำเขาก็ไปทำมาให้ เขาทำมาขายแล้วอย่างนี้ คนสั่งกับคนทำโดนด้วยกันไหมคะ ?
    ตอบ : คนทำโดนแน่ ๆ อยู่แล้วล่ะ เพราะถ้าหากว่าเป็นอยู่ คนทำต้องทำให้มันตาย คราวนี้คนสั่งถ้าตั้งใจสั่งก็โดนด้วยกัน อย่างของพระเขามี "สาณัตถิกะ" โดนอาบัติศีลขาดเพราะสั่งเขาทำ เขาปรับนะ ไม่ใช่สั่งคนอื่นทำแล้วเราจะปลอดภัย โดนด้วยกันนะ จะมี "สาณัตถิกะ" ศีลขาดเพราะสั่งคนอื่นเขาทำ "อนาณัตถิกะ ทำเองก็ขาด (หัวเราะ) ของพระเขาปรับละเอียด ไม่มีซอกไม่มีมุมให้หลบเลย สมัยหนึ่งเขาว่า "บาปคนทำ กรรมคนกิน" ความจริงโดนทั้งคู่แหละ (หัวเราะ)
    ถาม : อย่างนี้ต้องแผ่เมตตาให้เขาหรือเปล่าคะ ?
    ตอบ : จริง ๆ คือว่า ถ้าสามารถทำบุญให้เขาได้ก็ดี อย่างน้อย ๆ ถ้าเขายังจองเวรอยู่ ก็เอาเป็นว่าได้รับความดีไปเรื่อย ๆ จะได้ใจอ่อนบ้าง
    ถาม : วันนั้นไปปล่ยอปลากับเขาที่ตลาดพงษ์เพชร ก็ไปเอาปลาดุกที่เราจะเอาไปปล่อย เขาก็กำลังเลือกให้เราอยู่ แล้วเขาก็กำลังปิ้งปลาดุกขายด้วยแล้วก็มีคนมาบอก "นี่ปิ้งแล้วก็มี" ก็บอก "ไม่เอา ๆ เอาเป็น ๆ สิ" เราหาเป็น ๆ ไปปล่อย นี่เขาเอาเป็น ๆ ไปย่าง...!
    ตอบ : พูดง่าย ๆ คือว่า ทำกรรมเสียจนชิน ชินเสียจนไม่รู้ เขาเรียกว่า "อาจิณกรรม" อาจิณกรรมที่ทำจนชิน อย่างเรื่องฆ่าสัตว์นี่ลงอเวจีมหานรกแน่อนเลย อเวจีมหาจริง ๆ ลงยาก แต่แหม...มันลงกันจัง ถาม : ถ้าเราทำเป็นอาชีพล่ะคะ ?
    ตอบ : นั่นแหละ พระพุทธเจ้าท่านกำหนดไว้ว่า "มิจฉาวณิชชา"อาชีพในทางไม่ชอบมี ๕ อย่าง ๑. ขายสุรา ๒. ขายยาพิษ ๓. ขายอาวุธ ๔. ขายมนุษย์ ๕. ขายสัตว์ที่ยังมีชีวิต ห้ามเด็ดขาด...! ท่านบอกว่า "ผู้ที่เป็นพุทธมามะกะ มิสมควรจะกระทำ"คือว่าพวกสุรายาพิษ จริง ๆ เราไม่ได้ไปบังคับให้ใครเขากินหรอก แต่ว่าถ้าหากว่าตัดกำลังใจไม่ได้ จะพลอยไปยินดีกับเขา อย่างเช่น ขายได้มากก็ไปดีใจอะไรอย่างนี้ เท่ากับไปโมทนาบาปกับเขา

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๖(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ttp://www.grathonbook.net/book/98.html



    ลองอ่านดู
     
  10. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    มาตกบันไดก็เอาไปทำอาหารนี่ล่ะ ทำสังฆทานให้เค้าละกัน
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ปูตัวนั้น มันมา ไถ่บาปกับคุณ..ครับ...ดีแล้วที่ทำเป็นอาหาร ทำให้มันมีประโยชน์ กับตัวคุณ...มันมาไถ่บาปครับ...คุณอโสิกรรม ต่อกัน...พ้นเวรพ้นกรรมกันได้ ครับ...อย่าซีเรียส..ครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...