ชะตา บารมี

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย โซ, 24 กรกฎาคม 2014.

  1. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    ทุกเรื่องราวที่เกิด ได้ยิน ได้เห็น ได้ฟัง ได้รู้ ได้สัมผัส มีจิตน้อมนำไปเพื่อหาวิธีออกจากวังวนของความมีอยู่ เป็นอยู่ที่ได้เวียนว่ายในวัฏฏะ แม้ไม่ลึกละเอียดในความเป็นไตรลักษณ์ได้เด่นชัดโดยแจ้ง ก็ได้หมั่นพิจารณาต่อแล้วอย่างเนืองๆ ทรงไว้้้แห่งสติเพียงเพื่อว่าเราจะเป็นผู้กระทำตนเองก่อน ให้เข้าถึงเห็นเหตุของภัยที่มีอยู่
    เป็นผู้กระทำตนเป็นแบบอย่าง การเกิดขึ้นมาแห่งสัตว์ทั้งหลายนั้นมันเป็นหลุมพลางแห่งอวิชชาทั้งปวง เป็นวังวนแห่งความไม่รู้ในภัย เป็นพลางแห่งความน่ายินดีร่าเริงแจ่มใสในธรรมชาติที่ธาติแห่งขันธ์ได้เกิด ขึ้นมา และเราได้เข้าไปรู้ปรุงแต่งกันมานับไม่ถ้วนแล้ว ความน่ายินดี ร่าเริง แจ่มใส เบิกบาน สบาย สวยงาม อร่อย หอมหวาน ไพเราะ เราได้เป็นผู้หลงไปแล้วในภัยนั้นอันยาวนานแสนนานผู้เห็นภัยย่อมน้อมนำกระทำ ตน ตีตัวออกมาจากวังวนวัฏจักรวงจรของชีวิต ที่ดำเนินโดยปกติธรรมชาติของคำว่าสัตว์ สิ่งที่เราได้เลือกกระทำแล้วโดยเหตุที่เราเลือก เป็นผู้มีความเพียร ศรัทธา น้อมนำไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาแม้บางครั้งจะดูโหดร้าย โดดเดี่ยว เราก็มีความคิดว่านั่นคือเดชะตบะอันแรงกล้า มีความมุ่งมั่น ที่จะเรียนรู้ ปฏิบัติโดยได้อย่างยิ่งยวด แม้บุคคลผู้มองว่าไม่จำเป็นออกมาจากที่อยู่เดิมอยู่แล้ว ก็สามารถเรียนรู้ปฏิบัติได้สิ่งนี้ย่อมถูกต้อง แม้ผู้มองว่าเราควรออกมาจากที่เดิมที่เราอยู่ แสวงหา เรียนรู้ ปฏิบัตินี่ก็ถูก แต่สิ่งนี้มันคือความยิ่งยวดเป็นตบะบารมีอันแรงกล้า เป็นผู้เข้าถึงความลำบาก ฝึกฝนกระทำตนเป็นผู้มีความลำบาก เป็นผู้เห็นภัยในความลำบาก จะเป็นแบบอย่างในความเป็นผู้มีบารมี วิริยะ อุตสาหะ เป็นต้นเหตุแห่งความเป็นผู้มีความศรัทธา
    ความไร้เดียงสาของเด็กผู้เกิดมา มีชีวิตที่โดดเดี่ยว ขาดที่พึ่ง เลี้้ยงดำรงชีพตนเองได้เรียนรู้ชีวิต ฝึกฝน อดทน อยู่ได้โดยไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยวเป็นหลักที่พึ่งพิง ไม่มีน้ำ มีข้าว มีไฟฟ้า ไม่มีสาธารณูปโภค อยู่ได้โดยลำพัง เช้าไปสนุกสนานเล่นกับเพื่อนโดนล้อบ้างแกล้งบ้าง ยังเป็นคนที่มีความสนุกสนาน ร่าเริงเป็นปกติโดยส่วนตัวได้ เย็นกลับมานอนที่บ้านโดยลำพัง บ้านหลังเก่าๆ ไม่มีพ่อ แม่ คอยปกป้อง ปัดป้อง ห่วงหา ดูแล ห่วงใย ตักเตือน เป็นผู้อยู่อย่างเงียบเหงา ไร้ซึ่งความอบอุ่น ต้องอยู่เดียวดายโดยลำพัง มองดูแล้วอดคิดไม่ได้ว่าอยู่ได้อย่างไร สิ่งที่มองเห็นนี้(ส่วนตัว)ไม่ได้มองว่า น่าสงสาร หรือน่าสมเพชอย่างไร เพียงข้าพเจ้ามองว่า สิ่งนี้มันเป็นชีวิตที่เราเกิดมาโดยเลือกเกิดไม่ได้มันเป็นกรรมที่เราได้ กระทำและเลือกทางเดินมาแล้ว ได้เห็นความเป็นอยู่ การดำเนินชีวิตของความไร้เดียงสาได้โดยโดดเดี่ยว ไม่มีที่พึ่ง ข้าพเจ้าได้น้ำตาไหลออกมาทั้งสองข้างว่า เป็นเด็กที่ศรัทธา น่านับถือ เป็นตัวอย่างของผู้มีชีวิตที่เกิดมา อยู่ได้โดยความไร้เดียงสา ถ้าแบบอย่างนี้ได้เกิดกับผู้ที่มีความผู้ผ่านชีวิตมาหลายปีแล้ว กระทำตนได้อย่างนี้ ข้าพเจ้าคิดว่า สิ่งนี้หายากได้ยิ่งในสมัยแห่งการสื่อสารยุคเทคโนโลยีนี้ จะเป็นแบบอย่างของผู้มีความเพียร เป็นผู้ละได้แห่งอวิชชาทั้งปวง เป็นผู้ละทิ้งถอยห่างแห่งกิเลสทั้งหลาย เป็นผู้ฝึกปล่อยวาง เพื่อค้นหาทางไปสู่ความดับแห่งอวิชชาทั้งปวง
    ชะตา บารมี แม้กระทำอย่างมุ่งมั่น มั่นคงระลึกได้ เริ่มต้นรักษา จนจบจุดหมายปลายทางได้เยี่ยงนี้ เป็นสิ่งที่น่ายกย่องสรรเสริญยิ่งนัก


    สิ่งดีๆที่มีอยู่
    http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qRTNPRE15TWc9PQ==&subcatid
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...