"จิตเป็นของเรา" เทศน์เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2555

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หม้อหุงข้าว..!, 18 พฤษภาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +1,073
    จิตเป็นของเรา

    พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต



    บางส่วนจาก : จิตเป็นของเรา เทศน์เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2555
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    [​IMG]



    ท่านเห็นว่า ...?

    [ ] 1. อื้ม
    [ ] 2. อะอื้ม

    ปล.ลิง : ท่านสามารถ กาโบทฯ ได้ทั้งสองคำตอบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2012
  3. GoingMarry

    GoingMarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +124
    [/ ] 1. อื้ม
    [/ ] 2. อะอื้ม
     
  4. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ฮะโหลๆ เทสๆ 1 2 3 สี่ ศูนย์
     
  5. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    ^
    ^
    ขอบใจนะน้องรักที่ช่วยโปรโมทบล๊อกให้

    ถ้าไม่รักกันจริงไม่ช่วยโปรโมทให้ใช่หรือไม่?

    คนอะไร "ขี้อิจฉาเป็นนิจ ชอบหลีเป็นกิจ และเสี้ยมให้คนทะเลาะกันเป็นอาจินต์"

    โดยเฉพาะเรื่อง"จิต" ที่ท่านพระอาจารย์หลวงพ่อเคยเทศน์ไว้ว่า

    "พระอรหันต์ไม่มีจิต"นั้น จำได้ว่าเรื่องนี้พี่ธรรมภูตเคยนำไปคุยกับท่านพระอาจารย์หลวงพ่อมาเลย

    ท่านพระอาจารย์หัวเราะยังชอบใจ เรื่องที่น้องตัดต่อไฟล์เสียงมาลง

    เอาเฉพาะที่จะเสี้ยมให้คนทะเลาะกันมาลงเท่านั้น ส่วนบริบทที่อธิบายไว้ชัดเจนกลับแกล้งเมินเสีย

    นี่ก็เช่นกันบริบทชัดเจนว่า แม้ท่านพระอาจารย์หลวงตาเองก็ยังใช่คำว่่า"จิตบริสุทธิ์เช่นกัน"

    ช่วงท้ายๆ ชีวิตหลวงตาท่านไม่พูดถึงจิตบริสุทธิ์อีกเลย เพราะอะไร?

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อันนี้ผมว่า ผิดเวลาแล้วหละ ท่านไม่ได้เทศนาก่อนที่คุณจะไปแน่ๆ เพราะว่า มันคนละ
    เหตุกัน ท่านเทศนาเรื่อง ทำลายจิต ไม่มีจิตนี่ น่าจะมาจาก เคส นิพพานเมืองแก้ว

    ส่วนเรื่อง ท่านชอบใจ ก็ว่ากันไป

    ถ้ายังไงฝากบอกท่านด้วยว่า

    ลูกกระจ๊อก มีเยอะ ไม่ต้องเกรงไปว่าจะไม่รู้ว่า ใครทำอะไรที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร


    [​IMG]
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    ^
    ^
    น้องรัก

    คุณคึนอะไร? เรียกพี่ธรรมภูตเป็นประจำจนติดปากแล้วไม่ใช่หรือ?

    มีอะไรในใจกับพี่ธรรมภูตหรือเปล่า บอกได้นะ

    ใช่น้องรักพูดถูกท่านพระอาจารย์ท่านเทศน์หลังจากพี่ไปพูดที่ศูนย์พุทธศรัทธามา

    สาระมันไม่อยู่ตรงที่ มีจิตบริสุทธิ์หรือพระอรหันต์มีจิตหรือไม่?

    อยู่ที่ความเข้าใจของผู้ฟังว่า รู้จักสมมุติและยังยึดสมมุติอยู่หรือเปล่าต่างหาก

    น้องรัก พี่ธรรมภูตยังระลึกได้อยู่ ตอนนั้น น้องรักตัดไฟล์เสียงมาแค่

    จะเป็นพระอรหันต์ต้องทำลายจิตใช่หรือไม่?(จากความจำ)

    และบริบททั้งก่อนหน้า และบริบทที่ตามมาในตอนหลัง น้องรักไม่ได้นำมาลง

    บริบทก่อนหน้า ท่านพระอาจรย์พูดถึง พลังงานของจิตคือความนึกคิดปรุงแต่ง

    บริบทที่ตามจากพระอรหันต์ทำลายจิต คือ พระอรหันต์ไม่มีจิตใช่มั้ย?

    พี่ภูตระลึกได้ ตอบไปว่า ถึงตรงนั้น อยากจะเรียกว่าอะไรก็เรียกไป

    เพราะได้ถอดถอนสมมุติบัญญัติออกหมดแล้วใช่หรือไม่?

    และพี่เองก็เอาคำตอบไปเล่าในท่านพระอาจารย์ฟัง ท่านจึงหัวเราะชอบใจ

    พี่ธรรมภูตเอาของพระอาจารย์หลวงตามาให้เทียบเคียงเล่น

    ปล. ดีละน้องรัก พี่เห็นน้องรักของพี่ธรรมภูตมีภูมิรู้ภูมิธรรมไม่เบาจริงๆ

    เห็นชอบสอนและอบรมน้องๆในเว็บนี้เป็นประจำ แต่บางครั้งอาจแรงไปบ้าง

    ขณะนี่พี่ภูติมีปัญหาอยากให้นิวรณ์น้องรักช่วยหน่อย ได้อนิสงส์กุศลแรงเสียด้วย

    คือว่าท่านพระอาจารย์ปรีชา โอภาโส วัดหนองกระทุ่ม อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี่

    ท่านจัดฝึกอบรมและบวชเนกขัมมะเป็นเวลา๕วัน ยังขาดวิทยากรณ์อยู่

    และท่านได้ขอความอนุเคราะห์มาทางพี่ พี่จัดสรรให้ได้แค่วันเดียวมีวิทยากรณ์สองท่าน

    จึงประกาศณ.ที่นี่ ให้ได้รู้กันทั่วว่ายังต้องการวิทยากรณ์ไปอบรมธรรม

    เพราะท่านจัดของท่านทุกปี ใครต้องการไปช่วยหลังไมค์ได้นะ

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ก็รู้กันอยู่แล้วหละว่า สุดท้าย หากเจอ เทศนา พระอรหันต์ไม่มีจิต มีจิตคือมีภพ
    เข้าบ่อยๆ เนี่ยะ

    ไอ้สำนวน กาทั้งสองคำตอบ "มีเรา มีเรารู้ เราพ้น" หรือสำนวน "จิตเป็นโลกุตระ
    อยู่แล้วจะเอานิพพานมาทำไมอีก" "จิเจรุนิ จึงเป็นความเหลวไหลของอภิธรรม"
    เนี่ยะ มันจะ พูดต่อไม่ได้

    ถึงแก่ความ "อ้ำอึ้ง"

    พอ อ้ำอึง พูดต่อไม่ได้เต็มปาก ในวลี กาทั้งสองคำตอบ(กาโบทฯ)ศาสนา
    เนี่ยะมันก็เหลือทางเดียวที่จะทำให้ ตนได้เกาะเกี่ยว ขี้ ที่กำลังลอยน้ำ

    ก็นะ ไม่แปลกที่ไปลงที่คำว่า "สิ้นสมมติ" แล้วก็ต้องหยุดพูด พูดต่อไม่ได้

    มาหลังๆ ก็กลายเป็น ยิงคำถามไว้ลอยๆ ไม่ตอบ ลอยน้ำไปวันๆ เลย

    *******************

    นะ ยังไงก็จำคำเทศนาของพระท่านไว้เนืองๆ เนาะ

    พระอรหันต์ไม่มีจิต มีจิตคือมีภพ มีภพก็มีเรา มีเราก็มีอัตตา มีอัตตาก็มีสมมติ

    ทีนี้ สิ่งที่จะช่วยให้จำได้คือ เทศนาตามเหตุ "เมืองแก้วเป็นนิพพาน" ตรง
    นี้จะทำให้ คุณกาทั้งสองคำตอบศาสนา ไม่ลักลั่นเรื่อง เงื่อนเวลา

    หรือ จะเอาแบบอิงกลุ่มเป้าหมายโจมตีของคุณก็ได้ คือ กลุ่มเป้าหมายที่
    คุณมุ่งโจมตีเรื่องจิตๆ เนียะ กลุ่มนี้พระท่านว่า ไม่มีสมาธิ ไม่เป็นเอาเลย ดังนั้น
    กลุ่มนี้ไม่ใช่เงื่อน หรือ เหตุของคำเทศนา ที่ว่าด้วยเรื่อง "พระอรหันต์ไม่มีจิต"

    เนี่ยะ ถ้าระลึกแบบนี้ จะทำให้จำได้ ไม่เผลอโกหก "หน้าตอบๆ" ว่า ปรึกษา
    ท่านเรื่อง พระอรหันต์ไม่มีจิตมาแล้ว โกหกมันจะติดคอมโบ้ลากไปเป็นเท็จจน
    หมด เสียหายแย่เลย หากถูกจับเงื่อนเวลาได้อีก

    *******

    แหม แต่ เรื่องพระท่านชอบใจ ในการ ตัดไฟล์เสียงของผม ไอ้เราก็คิดว่า
    เรื่อง เสียงที่เป็นหนึ่ง เสียงนั้นเสียอีก ถ้าเป็น ไฟล์เสียงนั้น คงจะให้ผลดี
    กว่านี้

    สรุปนะ

    คุณไป หาพระท่าน ก่อนท่านเทศนา พระอรหันต์ไม่มีจิต อันนี้ คุณเองก็
    ยอมรับว่า เงื่อนเวลาผิด

    ดังนั้น ไอ้ที่อ้างว่า ไปปรึกษาเรื่อง พระอรหันต์ไม่มีจิต กับ พระท่านมาแล้ว
    เพื่ออ้างอิงพระท่าน รับรองภูมิธรรมของตนในเรื่อง จิต ก็ให้ ตกไป ฟังไม่ขึ้น

    และ จะยกปรักปรำว่า โกหกก็ได้ อ้างพระเพื่อสนับสนุนตนแบบไม่จริง ก็ได้

    ดังนั้น ไปพิจารณาเอาเองว่า ยังสมควรอ้างตัวเป็น วิทยากร อีกหรือเปล่า

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2012
  9. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    ^
    ^
    ฮาๆ น้องรัก

    เรื่องมั่วทำตัวเป็นบ่างช่างเสี้ยมนี่นะ สุดยอดจริงๆ

    เหมือนกำลังจับขี้ที่กำลังลอยน้ำมาดมว่าเหม็นหรือเปล่า

    น้องรัก คำถามที่ยิงไปลอยนะใครที่ควรตอบ? น้องรักใช่หรือไม่?

    เมื่อน้องรักเลี่ยงที่จะไม่ตอบกลายเป็นคำถามลอยน้ำไปวันๆซะงั้น

    ทั้งๆที่พระอาจารย์หลวงตาก็ชัดเจนอยู่แล้ว "เรื่องจิตบริสุทธิ์"

    ยังจะเสี้ยมให้ศิษย์กับอาจารย์มาทะเลาะกันให้ได้อีกหรือ?

    คนอะไร? ขี้อิจฉาเป็นนิจ ยอมยกให้จริงๆ

    ชอบหลีเป็นกิจ สิ่งที่เผลอไม่ได้

    และเสี้ยมเสมอเป็นอาจินต์ โดยไม่คำนึงถึงบริบทอื่นๆเลยที่ศิษย์กับอาจารย์เทศน์ไว้

    พอชวนทำกุศลล่ะ เงียบเป็นเป่าสาก ความเก่งกล้าหายไปไหนหมด

    ดีแต่ชอบโชว์สดเฉพาะในบอร์ดเท่านั้น ถ้าต้องพบหน้าพบตาอย่าหวัง เพราะกลัวหน้าพัง

    ช่างจริงใจต่อพระพุทธศาสนาเหลือเกินนะน้องรัก ดีแต่ตีสำนวนชวนให้ทะเลาะกัน

    แต่กลับไม่กล้ารับงานที่จะเป็นวิทยากร(ไม่ได้ตังค์) ชวนให้คน(เรา)พ้นสงสาร

    น้องรักดีมั้ย พี่ให้โอกาส ลองมาถก ว่าใครควรเป็นกาที่สมบูรณ์แบบ

    เอาพระพุทธพจน์ มาให้น้องรัก ผู้เก่งกาจ มาดพุทธภูมิ รู้ไปหมดจดทั่วแคว้นแดนอภิญญา-สมาธิ

    น้องรักไหนลองตอบหน่อยสิว่า เรานั้น จิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ จึงโน้มน้อมจิตเพื่อหลุดพ้น(อาสวักขยญาณ)นั้น

    ใช่จิตของเราหรือไม่? หรือจิตเราหลุดพ้นกลายเป็นธรรมธาตุไปแล้ว ควรเรียกว่าอะไร?

    น้องรักทำไมพี่ถึงต้องถามลอยๆ เพราะถามน้องรักทีไร?

    คำตอบที่ได้ แบ๊ะๆ หรือเสี้ยมกลับมันหน้าตาเฉยเลย

    แบบนี้ควรเรียกว่าเสี้ยมจนเป็นสันดานไปแล้วใช่หรือไม่?

    เทวธาวิตักกสูตร....2
    เรานั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจาก
    อุปกิเลส อ่อน ควร แก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ จึงโน้มน้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ
    ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
    เหล่านี้อาสวะ นี้อาสวสมุทัย นี้อาสวนิโรธ นี้อาสวนิโรธคามินีปฏิปทา


    ^
    ^
    น้องรักเวลาจะเสี้ยมนี่อะนะ

    ทำไมไม่อ่านให้ดีก่อน ขอให้ได้เสี้ยมเอามันเข้าว่า หรือไง?

    เรื่องเงื่อนเวลานั้นหมายถึง พี่ไปหาท่านเมื่อท่านเทศน์ไปแล้ว

    ส่วนบทความและรูปของพี่ที่น้องเอามาลงนั้น มันมีมาก่อนที่จะรูจักท่าน

    และไม่เคยมีนิสัยสันดาน ต้องให้ใครมารับรองภูมิรู้ภูมิธรรม

    เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า เป็นผู้ที่ยังต้องสดับ ยังต้องกระทำให้ตื้นอยู่

    ไม่เหมือนคนบางคนที่น้องรักเคารพหนักหนา

    อ้างตนเป็นพระ แต่ด้านเสียจนศีล๕ยังไม่ต้องรักษาเพราะมีแต่ปัญญาจอมปลอม

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...