คำอธิษฐาน

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย A Traveller, 12 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. A Traveller

    A Traveller สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    มีเพื่อนๆขอให้แต่งคำอธิษฐาน ก็เลยเสาะหาจากหลายแห่งแล้วปรับให้เพราะๆ ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าจะอธิษฐานกับท่านผู้ใด แล้วเลือกตัวเลือกในวงเล็บ เรานํามาลงไว้เผื่อจะเป็นประโยชน์</O:p>
    <O:p>-A Traveller-</O:p>


    คำอธิษฐาน<O:p</O:p

    <O:p></O:p>


    <O:p> </O:p>
    • <LI class=MsoNormal style="mso-list: l0 level1 lfo3">ข้าพเจ้า ( ชื่อ – นามสกุล ) ขอน้อมถวาย ( ระบุสิ่งของ/ปัจจัย/บุญอันเกิดจากการปฏิบัติธรรม )<O:p</O:p<LI class=MsoNormal style="mso-list: l0 level1 lfo3">เพื่อเป็น ( พุทธบูชา/สังฆบูชา/เทวบูชา ) แด่ ( ระบุว่า พระพุทธเจ้า/ชื่อฉายาพระสงฆ์/ชื่อเทพ)<O:p</O:p <O:p</O:p<LI class=MsoNormal style="mso-list: l0 level1 lfo3">ขอท่านจงรับ เพื่อประโยชน์สุขและใช้สอยตามที่เห็นสมควร และได้โปรดแผ่พลัง (พุทธานุภาพ/สังฆานุภาพ/เทวานุภาพ ) ปกปักรักษาข้าพเจ้า ให้เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ พบแต่ความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใด ขอจงได้สมหวังสมปรารถนาทุกประการเทอญ<O:p</O:p<LI class=MsoNormal style="COLOR: blue; mso-list: l0 level1 lfo3">อิทัง ปุญญะผะลัง <O:p</O:p<LI class=MsoNormal style="mso-list: l0 level1 lfo3">ผลบุญกุศลใด ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้า ขออุทิศบุญกุศลนี้ ให้แก่ มารดาบิดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ อีกทั้งเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ ก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนา บุญกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ตราบ เท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศบุญกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความ ทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาบุญกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด <O:p</O:p<LI class=MsoNormal style="mso-list: l0 level1 lfo3">อีกทั้งข้าพเจ้า ขออุทิศบุญกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และ เทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ พระยายมราช และท้าวเวสสุวรรณ ขอเทพเจ้าทั้งหลาย พระยายมราช และท้าวเวสสุวรรณ จงโมทนาบุญกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญบุญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด <O:p</O:p<LI class=MsoNormal style="mso-list: l0 level1 lfo3; mso-margin-top-alt: auto; mso-margin-bottom-alt: auto">ด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญบุญที่ข้าพเจ้ากระทำในวันนี้ ขอจงเป็นพลวปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เถิด องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ธรรมอันใด ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนแห่งธรรมของพระองค์นั้นด้วย <O:p</O:p
    • แม้ต้องเกิดอยู่ในภพชาติใดๆขอเกิดภายใต้ร่มเงา แห่งพระบวรพุทธศาสนามีการสัมพันธ์อันดี มีโอกาศได้พบสัตบุรุษ ผู้รู้ธรรมอันประเสริฐ ให้เกิดมาท่ามกลางกัลยาณมิตร และเป็นสัมมาทิฐิทุกชาติไป ให้มีโอกาศได้ศึกษาพระธรรม ได้ฟังธรรม ประพฤติธรรมจนเป็นปัจจัยตามส่ง ทั้งชาตินี้และชาติต่อๆไป ให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณจนพึงพระนิพพานในกาลอันสมควร เทอญ <O:p</O:p
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2009
  2. naraiyana

    naraiyana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +628
    <LI class=MsoNormal style="mso-list: l0 level1 lfo3">อีกทั้งข้าพเจ้า ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และ เทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ พระยายมราช และท้าวเวสสุวรรณ ขอเทพเจ้าทั้งหลาย พระยายมราช และท้าวเวสสุวรรณ จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด <O:p></O:p>
    ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม คิดว่า ไม่ควรใช้คำว่า อุทิศส่วนกุศล เมื่อกล่าวถึง เทพ เทวา ต่าง ๆ ควรจะใช้คำว่า ขอให้ผลบุญ มากกว่าครับ
     
  3. worathepp

    worathepp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +138
    บุญ กับ กุศล ต่างกันยังไงครับ
     
  4. A Traveller

    A Traveller สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณสําหรับความคิดเห็น ปรับได้ตามที่เห็นควร
    ส่วนความหมาย คิดว่าใกล้เคียง
    ของเดิมประโยคนี้คัดมาจากวัดท่าซุง
     
  5. chanin

    chanin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2005
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,331
    .................................................................................
    บุญและกุศล ต่างกันดังนี้คือ
    บุญ คือ ความสบายใจ การกระทำ ( กรรม ) อันใดที่ทำไปแล้วสบายใจ สุขใจ เรียกว่า ทำบุญ เป็นบุญ อดีตเราเคยทำอะไรไว้ เมื่อนึกถึงแล้วสบายเรียกว่าบุญ เช่นการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา เป็นต้น
    กุศล คือ ความถูกต้อง ความฉลาด ความดี เป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่า กุศลต้องอาศัยปัญญา ความเฉลียวฉลาด ต้องอาศัยจิตใจที่เสียสละ มีเมตตากรุณา จิตใจหนักแน่นเข้มแข็ง แต่เมื่อทำแล้วก็ได้ทั้งบุญทั้งกุศลสมบูรณ์ เช่นการเข้าไปช่วยเด็กตกเขียว เด็กโสเภณี ช่วยคนเป็นโรคเอดส์และการสังคมสงเคราะห์หลายๆอย่าง ต้องอาศัยจิตใจที่เป็นกุศล เสียสละมากๆ การกระทำบางอย่างถึงแม้จะมีประโยชน์มาก แต่ต้องมีกำลังใจดีมีสติปัญญาจึงจะทำได้ เด็กโสเภณีที่ถูกพ่อแม่ขายให้เอเย่นต์ ถูกบังคับให้รับแขกแบบโหดร้าย เมื่อเรารู้ปัญหา เกิดความสงสารเด็ก โกรธพ่อแม่ที่ขายลูก ทั้งโกรธแค้นผู้ที่มีส่วนทำลายเด็ก อาจจะเกิดอารมณ์หลายๆอย่าง การเข้าไปช่วยเหลือเด็กเหล่านี้เป็นบุญเป็นกุศล แต่ไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วสบายใจทันที เพราะต้องกระทบอารมณ์ต้องต่อสู้อารมณ์มากมาย บางทีก็สงสาร บางทีก็โกรธ บางทีก็เศร้าและบางทีก็อันตรายมากด้วย ระหว่างทำไปก็อาจจะมีอารมณ์มากมายก็ได้ แต่เมื่องานสำเร็จแล้วก็เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมาก จึงเป็นกุศล และเราผู้ทำก็มีปิติมีความสุขใจ เบิกบานใจ จึงเป็นบุญ
    ฉะนั้นกุศล เมื่อทำสำเร็จแล้ว จึงเป็นบุญเป็นกุศลโดยสมบูรณ์ บางคนก็ชอบทำบุญ แต่ยังไม่พร้อมที่จะเข้าไปรับรู้ความเดือดร้อนของเพื่อนมนุษย์ จึงไม่สามารถสละเวลาและแรงกายให้แก่งานการกุศลได้ การจัดงานการกุศลต่างๆ ในการจัดงาน กรรมการก็อาจเกิดปัญหาขัดแย้งกัน เถียงกัน จนไม่สบายใจไปอีกนาน แต่ตัวงานลุล่วงไปเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม ส่วนใหญ่ก็มี มองดูใจผู้จัดก็ยังมีอารมณ์อยู่ แต่งานก็สำเร็จทำให้เกิดความสุขได้ นี่คือลักษณะของงานกุศล คือการกุศล
    ในภาษาทั่วๆไป คำว่า " บุญ " กับ " กุศล " จะใช้คล้ายๆกัน และบางทีก็ใช้แทนกัน แต่ในทางพุทธศาสนา ท่านจัด บุญกิริยา 10 และ กุศลกรรม 10 ไว้ต่างกัน
     
  6. A Traveller

    A Traveller สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอขอบคุณ สําหรับทุกความเห็น รวมทั้ง คุณ chanin ที่ให้ความรู้
    ได้แก้ไข เป็น บุญกุศล ในทุกตําแหน่ง เรียบร้อยแล้ว
     
  7. เลือดเย็น

    เลือดเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +262
    ใช้ตอนไหนก็ได้ใช่ป่ะคะ
    หรือว่าใช้ตอนทำบุญ
     
  8. A Traveller

    A Traveller สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ส่วนใหญ่ใช้ตอนทำบุญ
    แต่ถ้าเราปฏิบัติธรรมอยู่เรื่อยๆ จะใช้ตอนไหนก็ได้ เพื่อถวาย/แผ่ บุญกุศล
    แก่ผู้อื่น
     
  9. worathepp

    worathepp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +138
    บุญกับกุศล
    ความจริงแล้วเนื้อหาของบุญกับกุศลไม่ต่างกัน กล่าวคือเรื่องของคุณงามความดีและเรื่องของประโยชน์สุข เพียงแต่มีมุมมองที่ต่างกันเท่านั้น คือ บุญเน้นที่ตัวกิจกรรมที่ว่าทำอะไรแล้วดี เรียกเต็มๆว่า บุญกิริยาวัตถุ มี 10 ประการ คือ การทำทาน การรักษาศีล การเจริญภาวนา การประพฤติอ่อนน้อม การช่วยเหลือในกิจการที่เป็นบุญ การแผ่ส่วนกุศล การอนุโมทนาบุญ การฟังธรรม การแสดงธรรม และการทำความเห็นให้ถูกต้องตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ ส่วนกุศล เน้นที่จิตใจอันเป็นต้นเหตุให้เกิดการกระทำความดีงาม หรือละเว้นความชั่ว เรียกว่ากุศลกรรมบถ มี 10 ประการเช่นกัน คือการเว้นจากกายทุจริต 3 ประการ คือการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม การเว้นจากวจีทุจริต 4 ประการคือ การพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ และการเว้นในมโนทุจริต 3 ประการคือ การเพ่งเล็งอยากได้ของผู้อื่น การคิดร้ายต่อผู้อื่น และการมีความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) : คัดลอกมาจาก หนังสือประทีปส่องธรรม หน้า 210 โดย พระอาจารย์ปราโมทย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2009
  10. A Traveller

    A Traveller สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณคุณ Worathepp มากๆ ที่ให้ความรู้
    เราก็ฟัง CD ของหลวงพ่อปราโมทย์ เหมือนกัน
    นับถือท่านมาก สามารถปรับใช้ในชีวิตประจําวันได้
    เพื่อนๆ น่าจะลองดู
    -A Traveller-
     

แชร์หน้านี้

Loading...