คำสอน หลวงปู่ดู่

ในห้อง 'หลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า' ตั้งกระทู้โดย santosos, 18 พฤษภาคม 2011.

  1. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    พระอรหันต์มีจริงหรือไม่

    แต่ แรกเริ่มผู้เขียนหรือพวกผู้ใหญ่ทั้งหลายก็กล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว เมื่อถึงปีพุทธศักราช ๒๕๐๐ หรือกึ่งพุทธกาล จะทำให้คุณธรรม หรือพระอรหันต์ไม่มีแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งซึ่งทำให้ผู้เขียนคิดมาตลอดว่า จะเป็นจริงดังนั้นหรือ ทำไมเวลาจึงเป็นเครื่องกำหนด เมื่อผู้เขียนพบหลวงปู่ครั้งแรก ได้เรียนถามท่านว่า ในประเทศไทยตอนนี้ ยังมีพระอรหันต์อยู่อีกหรือไม่ ท่านตอบว่า มีหลวงพ่อเกษมที่อยู่จังหวัดลำปาง ท่านเป็นพระอรหันต์ องค์อื่นก็มี แต่ท่านมักพูดถึงและรับรององค์นี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะท่านมีความเกี่ยวเนื่องกันเป็นพิเศษ เรื่องพระอรหันต์นี้ ผู้เขียนเคยศึกษาทั้งตำรับตำรา และจากท่านผู้มีคุณธรรมหลายท่าน มีหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนโดย อาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน คือ "ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตะเถระ" ทำให้เกิดความมั่นใจขึ้นมาก และอีกเล่มหนึ่งชื่อว่า "ประวัติหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค" ของหลวงพ่อมหาวีระ หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ซึ่งรับรองเรื่องนรก สวรรค์ นิพพาน ว่าเป็นเรื่องจริง สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เขียนหมดความสงสัย สิ่งที่สงสัยอยู่ๆ ก็อันตรธานหายไป แล้วก็หาวิธีที่จะพิสูจน์ ประกอบกับอาจารย์ของผู้เขียนชื่อ หลวงพ่ออินทร์ วัดไทรงามเหนือ จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นพระสุปฏิปันโน อายุเกือบ ๘๗ ปี ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร พระสุปฏิปันโนองค์หนึ่ง ท่านก็รับรองเช่นกัน ท่านได้กล่าวว่า "พระนิพพานนั้นเป็นสิ่งมีจริง ภาษาที่ว่า นิพพานัง ปรมัง สุญยัง โดยท่านพูดว่า นิพพานัง ปรมัง สุญแต่ยัง" คือยังมีสภาวะที่เป็นทิพย์อยู่

    เมื่อได้มาใกล้ชิดกับหลวงปู่ดู่ ท่านจึงเล่าความเป็นไปถึงเรื่องหลวงปู่เกษมว่า "ตอน เลิกสงครามใหม่ๆ ลูกศิษย์ฉันเป็นทหารอากาศชื่อ สมพร เขาไปหาท่านได้รูปของท่านมา พอเอามือแตะรูปท่านจึงได้รู้ว่าท่านดี เพราะรูปท่านขึ้นดี (มีบารมีสูง) เลยบอกเขาว่า หลวงพ่อคนนี้อีกไม่นานจะสำเร็จอรหันต์" ผู้เขียนจึงเรียนถามท่านว่า "ธรรมดา ผู้ที่จบ ป.๔ ก็จะรู้เรื่องผู้ที่จบ ป.๔ ผู้ที่จบปริญญาก็จะรู้เรื่องคนจบปริญญาเช่นกัน นี่ผมไม่ได้พูดเองนะครับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านบอก" หลวงปู่สวนขึ้นทันควันเหมือนรู้ใจว่า "ข้า ไม่รู้อะไรหรอก ข้าเดาเอา ข้ายังไม่ได้อะไร เป็นแต่พระกังหัน รูปภาพของพระองค์ไหน ถ้าดีเวลาจับหรือเอามือแตะ จะขึ้นถึงศรีษะทั้งนั้นแหละ ไม่เชื่อลองดูก็ได้"

    เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๕ สัจธรรมที่แสดงถึงความล่วงรู้ในอนาคตของหลวงปู่ก็แสดงออกมาคือ หลวงปู่เกษมท่านเข้ากรรมกลางแดด กลางฝน ไม่ฉันอาหารเป็นเวลาถึง ๑๕ วัน ซึ่งหลวงปู่ท่านอธิบายว่า คือการเข้า นิโรธสมาบัติ ของหลวงปู่เกษมนั่นเอง แต่ท่านเลี่ยงไปใช้คำนี้เพื่อกันคนตกนรก ถ้าคนนั้นนึกสบประมาท ท่านมักจะเตือนเสมอว่า อย่าไปประมาทพระอรหันต์ หรือพระอริยะเข้า จะบาปใหญ่ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกศิษย์นำรูปหลวงพ่อเดิมไปให้ท่านเสก ท่านก็ทำให้ตามประสงค์ ท่านพูดว่า เคยได้ยินแต่ชื่อแต่เสียง ท่านมีเมตตาสูงมาก ผู้เขียนเรียนถามท่านว่า ถ้าถึงขั้นนี้ จะเป็นพระขั้นไหน หลวงปู่ท่านตอบว่า "เลยขั้นเสียแล้ว ไม่มีขั้น"

    ในบางครั้งที่มีผู้นำภาพครูบาอาจารย์มาขอเมตตาให้ท่าน อธิษฐานจิต หลวงปู่จะเอามือแตะภาพ แล้วบอกว่าองค์นี้ดี องค์นี้ดีมาก ผู้เขียนจำได้ว่ามี หลวงปู่แหวน หลวงปู่โต๊ะ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่) วัดสระเกศ พระอาจารย์มหาบัว เป็นต้น เมื่อแตะมาถึงภาพท่านเอง ผู้เขียนจึงเรียนถามท่านว่า องค์นี้เป็นอย่างไร ท่านรีบตอบว่า "ไม่ค่อยขึ้น" ผู้เขียนเคยกราบเรียนถามท่านตรงๆ ว่า เมื่อท่านละสังขารแล้ว ท่านจะกลับมาเกิดอีกไหม ท่านตอบว่า "ไม่เกิดได้แหละดี"

    หลวงปู่อธิบายเรื่องพระอรหันต์โดยกล่าวว่า "พระ อรหันต์ท่านตายเรียกว่า นิพพาน มีอยู่ ๓ อย่างคือ กิเลสนิพพาน คือหมดกิเลส ไม่มีโลภ โกรธ หลง แต่ยังมีชีวิตอยู่ (ที่เรียกว่า สอุปาทิเลสนิพพาน) เมื่อท่านตายเรียกว่า ขันธนิพพาน (อนุปาทิเลสนิพพาน) อันสุดท้ายคือ ธาตุนิพพาน เมื่อศาสนาครบ ๕,๐๐๐ ปี พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าจากทุกที่ จะมารวมเป็นองค์พระพุทธเจ้า ทำการเทศนา ๗ วัน ๗ คืน หลังจากนั้นพระธาตุจะถูกไฟทิพย์เผาเป็นอันสิ้นศาสนา แต่ของข้านอกตำราออกไป คือ ข้าว่าพระธาตุของพระอรหันต์ที่นิพพานไปแล้ว ต้องมารวมกันด้วยและหมดไปพร้อมกัน" แล้วท่านปรารภต่ออีกว่า "บาง คนก็ตามหาพระอรหันต์ ท่านได้แล้วท่านจะไปบอกอย่างไร เดี๋ยวจะเหมือนกับครูเปรื่อน ถามหลวงพ่อเขียนบอกว่าอยากพบพระอรหันต์ หลวงพ่อเขียนตอบว่า แกจะชนพระอรหันต์ตายอยู่แล้วก็ยังไม่รู้ จนไปเจอมหาวีระ ท่านถามว่าเคยอยู่กับพระองค์ไหนมา แกบอกว่าอยู่กับหลวงพ่อเขียนมา ท่านเลยบอกว่า แกอยู่กับพระอรหันต์มาไม่รู้บ้างหรือ พระอรหันต์น่ะ บางทีท่านกลัวคนกวน ท่านก็แสดงบ้าๆ บอๆ ปิดกลัวคนรู้ อย่างหลวงพ่อเนียมที่หลวงพ่อปานไปเรียนด้วยไง นุ่งผ้าอาบผืนเดียวหมาตามเป็นพรวน ถือกระบองอันเบ้อเริ่ม พอถึงเวลาสอนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เอ้อ พระอรหันต์น่ะ อย่าไปอยู่กับท่านนาน เดี๋ยวจะบาปไม่รู้ตัว"

    ข้อความสุดท้ายท่านหมายถึง คนบางจำพวกเมื่อเข้าวัด บางทีเห็นพระเป็นเพื่อนเล่น บางทีก็ไปใช้พระอรหันต์ทำนั่นทำนี่ หรือไปสบประมาทท่าน ซึ่งมีอยู่ทั่วไปให้เห็นดาษดื่น ผู้เขียนเคยกราบเรียนถาม อาจารย์ พระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ว่าปัจจุบันยังมีพระอรหันต์อยู่อีกหรือไม่ ท่านตอบพอสรุปได้ความว่า "พระพุทธเจ้าเคยตรัสกับพระอานนท์ ที่สงสัยมรรคผล นิพพาน ในกาลที่พระองค์ปรินิพพานไปแล้ว ว่า ... "อานนท์ ถ้าผู้ปฏิบัติเป็นสามีจิกรรม ชอบแก่พระวินัยที่เราตถาคตแสดงไว้ดีแล้ว ยังมีอยู่ตราบใด พระอรหันต์ยังมีอยู่ตราบนั้น ถ้าปฏิบัติผิดจากหลักธรรมวินัยที่แสดงไว้นี้แล้ว แม้ตถาคตยังมีชีวิตอยู่ แต่มรรคผล นิพพาน ก็ไม่มีแก่ผู้นั้นเลย"

    พระดำรัสนี้แสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยเท่านั้น เป็นเครื่องรับรองยืนยันมรรคผลนิพพาน ไม่มีอะไรจะเป็นใหญ่กว่านี้ได้ พวก เราที่เชื่อและยึด พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ย่อมเชื่อพระดำรัสนี้ว่า เป็นคำศักดิ์สิทธิ์ตลอดมา และตลอดไปจนอวสานแห่งชีวิต ไม่สนใจกับคำพูดใดๆ ที่ออกจากหัวใจที่มีกิเลส ให้ยิ่งไปกว่าพระองค์
     
  2. คนรักชาติ

    คนรักชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +181
    [​IMG]
    ขอบุญบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยะทุกพระองค์ พระโพธิสัตย์ทุกพระองค์โดยมีบุญบารมีของหลวงปู่ดู่และหลวงปู่ทวดเป็นที่สุดช่วยดลบันดาลให้จิตข้าพเจ้าฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีของผู้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่โพส ฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีผู้โพสกระทู้ ฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีผู้อ่านกระทู้ และฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีของผู้ตอบกระทู้ ข้าพเจ้าอยากมีส่วนร่วมกับบุญบารมีของพวกท่านทั้งบุญบารมีในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    พุทธังอนันตัง ธัมมังจักรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจะโยโหตุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...