คำสอนของหลวงตา ที่เคยพูดให้ข้าพเจ้าฟัง เอามาฝากครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย กล่องไม้ขีดไฟ, 25 ตุลาคม 2016.

  1. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เอาคำพูดที่ หลวงตา เคยพูดให้ฟังตอนปี 44
    มาฝากครับ...



    เรื่องภาวนานั่นน่ะ อย่านอนตายอยู่ตั้งแต่ความสงบเฉย ๆ นะ
    เราเคยอยู่แล้วในความสงบเราเคยบอกแล้วนี่นะ
    เราติดสมาธิมาถึง ๕ ปีฟังซิน่ะ ตั้งแต่ฟัดกับกิเลสจนกระทั่งขึ้น
    บนตระพองมันได้ ขอกระหน่ำลงไปที่เราเคียดแค้น
    ให้มันเต็มสัดเต็มส่วน ฟาดกันถึงขนาดนั้น ตั้งแต่นั้นตั้งขึ้นได้
    จิตเป็นสมาธินี้อยู่ที่ไหนเป็นสมาธิตลอด จะอยู่ที่ไหนก็ตาม

    ความคิดความปรุงแต่ก่อนที่มันพาให้ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม
    ไม่ได้คิดไม่ได้มันจะเป็นจะตายจริง ๆ กลับพลิกตาลปัตร
    ความคิดนี้เป็นภัยรบกวนใจที่สงบมากทีเดียว เพราะฉะนั้นผู้ที่จิตเป็นสมาธิเต็มภูมิแล้ว
    ไม่อยากคิดอยากอ่าน อยู่ไหนสบายไปหมด

    ไม่ว่ากลางวันกลางคืน ท่านนั่งครู่เดียวมันกี่ชั่วโมง คือท่านไม่ได้อยู่กับอะไร
    ไม่ได้อยู่กับอิริยาบถ อยู่กับจิตมีอันเดียวไม่มีอะไรเข้าไปยุ่ง เพียงเท่านี้ก็พอ

    เพราะฉะนั้นผู้ที่มีสมาธิจึงติดสมาธิได้ เพลินในความสงบร่มเย็นของตัวเอง
    จึงไม่ออกทางด้านปัญญา นี่เราก็ติดมาถึง ๕ ปี
    พ่อแม่ครูจารย์ขนาบไล่ออกจากสมาธิ ความสุขในสมาธิเท่ากับเนื้อติดฟัน
    เนื้อติดฟันมันเป็นความสุขขนาดไหนฟังซิเนื้อติดฟัน นี่แหละสุขในสมาธิมันก็เทียบเท่านั้นเองท่านว่า
    ขนาบเราออก

    เวลาออกทางด้านปัญญา ก็มันพร้อมแล้วสมาธิ พอออกทางด้านปัญญา
    นี้มันก็ผึงเลยทันที โอ๋ย ออกอย่างรวดเร็วเสียด้วยนะ
    เพราะมันพร้อมแล้ว อาหารเครื่องทำครัวที่จะทำให้เป็นอาหารประเภทต่าง ๆ มันพร้อมแล้ว
    แต่เราไม่นำมาประกอบมันก็เน่าเฟะ

    ไปเท่านั้นซิ อันนี้สมาธิพอแล้วควรแก่ด้านปัญญาทุกขั้นแล้ว
    ไม่นำออกมาใช้มันก็นอนจมอยู่นั่น ทีนี้ท่านลากออกมานี้
    พอออกมานี้ก็ผึงเลยทันที จนไม่ได้หลับได้นอน กลางคืนกลางวัน
    ไม่สนใจการหลับการนอน มีแต่จิตเป็นธรรมจักรหมุนฆ่ากิเลส
    เป็นลำดับลำดาไป นี่ปัญญานะที่จะฆ่ากิเลส สมาธิเพียงพัก
    ถ้าหากว่าเราเพลินในสมาธิก็ติดสมาธิจมไปเลย

    ปัญญาทีแรกมันจะฝืนมันไม่อยากออกนะ
    ความอยู่ในสมาธินี้สงบดีสบาย การออกทางด้านปัญญา
    เป็นการทำงาน ไม่อยากทำงาน แต่บังคับออก
    เมื่อเวลาออกทางด้านปัญญาแล้ว ปัญญาคือพิจารณาอะไร
    พิจารณานี้ละ เอาธาตุขันธ์ของเราท่านขันธ์ของเขามาเทียบมาเคียงกัน

    เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ เป็นของเล็กน้อยเมื่อไร

    นี้ทำลายภูเราทั้งลูกเลยภูเรานี่เต็มอยู่นี่ ภูเขาคือต้นไม้
    หรือภูเขาคือเขาคือเรา นี่ภูเขาภูเรา ภูเขาต้นไม้ดินฟ้าอากาศอยู่นู่นไม่ต้องพูด

    ภูเขาคือร่างกายของเขา ภูเราคือร่างกายของเรา มันติดอันนี้ละนะ เอาอันนี้เข้าไปจับไปแยกดูซิ
    เกสาเป็นยังไง ไล่เบี้ยมันลงไป สถานที่เกิดที่อยู่มันเป็นยังไง โลมา นขา ทันตา
    มันอยู่ในที่เช่นใดเกิดในที่เช่นไร เราไปสำคัญมั่นหมายมันว่าเป็นอะไร นี่เรียกว่าปัญญา

    แยกแยะเข้าไปซี ดูผมดูขน แล้วแต่เราจะถนัดในอาการใด
    ในสกลกายของเรา ๓๒ อาการ เราถนัดอันไหน เอา
    จับเอานั้นปั๊บแล้วมันก็จะเหมือนไฟได้เชื้อ มันลุกลามไปหมดบรรดา
    ที่เป็นสภาพเหมือนกันนั้น ต้องแยกต้องแยะไม่งั้นไปไม่ได้นะ

    นี้ได้เคยมาแล้วจมมาได้ ๕ ปีไม่ได้สนใจจะออก
    พอถูกพ่อแม่ครูจารย์มั่นลากไปนี้ก็ออกเพราะความเคารพเชื่อฟังน่ะซี
    พอออกมันก็ผึงเลยทันที มันถึงจ้า ๆ ไปเลย โห ปัญญานี้เป็นน้ำล้นแก้ว สมาธิเป็นน้ำเต็มแก้ว
    เต็มภูมิแล้วอยู่เท่านั้น ให้เลยนั้นไม่เลย พอปัญญาแล้วก็เป็นน้ำล้นแก้ว

    ทีนี้ออกเรื่อย ออกไม่มีประมาณ ออกอย่างหยาบอย่างกลางอย่างละเอียด

    ออกอย่างหยาบเกี่ยวกับเรื่องร่างกาย พิจารณาร่างกายสังขารเหล่านี้
    สติปัญญาเหมือนฟ้าดินถล่มนะ ผาดโผนโจนทะยานมาก
    เพราะร่างกายเป็นส่วนหยาบ สติปัญญาแก้กิเลสที่มันติดพันกับร่างกาย
    ก็ต้องเป็นปัญญาที่ผาดโผนโจนทะยาน พอผ่านนี้ไปแล้ว
    ทีนี้ก็เป็นสติปัญญาอัตโนมัติหมุนตัวไปเอง ๆ จนกระทั่งกลายเป็น
    สติมหาปัญญาซึมซาบไปเลย มหาสติมหาปัญญานี้ซึมซาบนะ

    ขั้นสติปัญญาอัตโนมัตินี้ถ้าเป็นมีดก็เรียกว่าเรายำปั๊บ ๆ คือทำงานไม่หยุด
    มันหากมีลักษณะเป็นอย่างนั้นละ

    เป็นพักเป็นตอน ๆ ของมัน นี่เป็นสติปัญญาอัตโนมัติ ทีนี้พอก้าวเชื่อม
    เข้าไปถึงมหาสติมหาปัญญาแล้ว ซึมซาบเลย
    ไม่มีคำว่า ป๊อก ๆ แป๊ก ๆ ซึมไปเลย ไปที่ไหนรู้ไปหมดเห็นไปหมดรู้
    ไป ๆ เห็นไปผิดคาดผิดหมาย

    จิตดวงนี้เวลาได้ออกรู้ออกเห็น มันไม่ใช่จิตดวงโง่ ๆ ตลอดไปนะ ถึงขั้นมันฉลาดมันเห็นไปหมดนี่จะว่าไง
    ใครไม่เห็นมันก็เห็น ใครไม่เชื่อมันก็เชื่อความเห็นของเจ้าของ
    นี่ละมันถึงชัดเจน อันนี้ละเป็นปัญญาที่จะถอดถอนกิเลส
    พากันใช้บ้างซิ สังขารร่างกายกอดกันไว้ทำไม ทิ้งกันไว้ทำไม เกิดประโยชน์อะไร
    พิจารณาให้เห็นชัด เวลาพิจารณาก็พิจารณา

    สิ่งเหล่านี้ละพาพวกเราทั้งหลายเกิดกองทุกข์ภูเขาภูเรานี้แหละ มันเป็นบ้าอยู่กับนี้แหละ

    เวลาพิจารณานี้แตกแยกออกไปแล้วมีสัตว์มีบุคคลที่ไหน มีเขามีเราที่ไหน
    ถ้าเทียบก็ว่าดินเป็นดิน น้ำเป็นน้ำ ลมเป็นลม ไฟเป็นไฟ เพียงเท่านั้น
    แล้วไปเสกสรรปั้นยอเป็นหญิงเป็นชาย
    ของสวยของงามที่ไหน มันเสกสรรบ้า ๆ ไป ปัญญาตำหนิแล้วนะที่นี่
    พอพิจารณาเข้าถึงขั้นนี้มันก็ตำหนิความเสกสรร
    ปั้นยอของกิเลสที่หลอกมาแต่ก่อน แล้วเห็นชัดเข้า แล้วกระจ่างออก ๆ
    ทีนี้ก็เบิกกว้างออก กว้างเท่าไรยิ่งละเอียดนะสติปัญญา


    นี่ละสติปัญญาออกจากใจดวงโง่ ๆ นี่ละ เวลามันได้เบิกกว้างออกแล้ว โอ้โห
    พอสุดท้ายแล้วไม่มีขอบเขตสติปัญญาญาณความหยั่งทราบ
    อำนาจของธรรมที่บริสุทธิ์เต็มส่วนแล้ว

    เป็นความสว่างไสวครอบโลกธาตุ โลกธาตุไม่มีขอบเขต นั่นเห็นไหมมันครอบไม่มีขอบเขตเลย
    นี่ละจิตดวงนี้ออกจากโง่ ๆ นี่ละ ขอให้อาศัยธรรมพระพุทธเจ้านี้อย่าปล่อยอย่าวาง
    ให้ยึดตามนี้ให้พิจารณาขี้เกียจขี้คร้านอะไร

    พิจารณาซิ เรื่องธาตุเรื่องขันธ์เ ทียบเขาเทียบเรา
    เขาเป็นยังไงเอามาดู ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง
    เขาเป็นยังไง ตับ ไต ไส้ พุง คนทั้งคนเป็นยังไง เราทั้งคนเป็นยังไง
    เอ้า เทียบกันเข้า นี่เป็นการทำงาน
    เพื่อจะถอดถอนอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งเหล่านี้ ถอนไปได้รู้ไปแล้วถอนไปเรื่อย ๆ แล้วหมดไป ๆ หมด

    เบาหวิว นั่นเห็นไหม แล้วเบาไปเรื่อย ๆ


    ปัญญาสำคัญมากทีเดียว นี้เราได้เห็นคุณค่าเต็มหัวใจ ได้เห็นคุณค่าของปัญญา
    ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนมันขี้เกียจไม่อยากพิจารณา แล้วก็พ่อแม่ครูจารย์มั่นเสียด้วยนะสอน
    เพราะความเคารพอันนี้เองถึงลากออกจากสมาธิหมูขึ้นเขียง ไม่อยากออกคิดออกปรุง หาว่าเป็นความรำคาญ
    แล้วลากอันนี้ออกไป เพราะคิดทางด้านปัญญามันเป็นงานนี่นะ
    ต้องคิดนั่นคิดนี่ มันไม่อยากทำงานทางด้านปัญญา มันอยากอยู่ความสงบ
    นี่ลากออกไปปัญญาออกไปดู ปิดประตูไว้ทำไม

    ความหมายว่างั้น มันอยู่ในห้องนี้ ปิดประตูไว้วันยังค่ำก็เห็นแต่ภายในห้องล่ะซิ
    เปิดประตูออกไปซิ เปิดประตูออกไปนี่เป็นด้านปัญญา

    พอเปิดออกไปนี้มันก็เห็นละที่นี่ เริ่มเห็น ๆ ต่อไปก็กระจ่างออก ๆ เบิกออก ๆ กว้างออกนะ จิตเป็นของเล่นเมื่อไร
    ทุกคน ๆ อยู่กับจิตทั้งนั้นนะ มองข้าม ๆ ทั่วโลกดินแดน มองตรงแต่พุทธศาสนาอย่างเดียว นอกนั้นมองข้ามทั้งนั้น

    มองข้ามใจดวงนี้ รู้เต็มตัว ๆ หาหลักยึดไม่ได้ก็คือความรู้ของคนกิเลสหนานั่นเอง
    ถ้าความรู้ที่มีสติธรรมปัญญาธรรมเข้าแทรกแล้ว
    มันจะแยกจะแยะให้เห็นเป็นสัดเป็นส่วนแบ่งสัดแบ่งส่วนไปได้

    จำเอานะ ให้ใช้ปัญญาบ้าง อย่ามานอนอยู่เฉย ๆ
    ไม่เกิดประโยชน์ตายจมอยู่นี่นะ


    ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2016
  2. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    อีกตอนหนึ่ง ท่านมานั้งอธิบายต่อยอดให้
    หลังจากเดินปัญญาตามที่ท่านแนะนำระยะหนึ่ง...


    ท่านอธิบายว่า

    ปัญญานี้สำคัญมากนะ ให้ใช้ทางด้านปัญญา
    อยู่ขั้นใดภูมิใดให้พิจารณา พอสงบให้พิจารณา

    ที่ท่านว่า สมาธิปริภาวิตา ปญฺญามหปฺผลา โหติ มหานิสํสา
    คือปัญญาเมื่อสมาธิอบรมแล้วย่อมมีผลมากมีอานิสงส์มาก
    คือจิตนี้มันอิ่มตัว

    ถ้าจิตกำลังฟุ้งซ่านวุ่นวายตลอดเวลาหาความสงบไม่ได้นี้
    เราจะพาพิจารณาทางด้านปัญญามันกลายเป็นสัญญาไปเสีย
    มันเป็นกิเลสไปเสีย


    เมื่อจิตมีความสงบแล้วมันอิ่มอารมณ์ ไม่อยากสนใจ
    กับรูปกับเสียงกับกลิ่นกับรส นี่เรียกว่าจิตอิ่มอารมณ์
    จิตที่อิ่มอารมณ์ขณะนี้ให้พาพิจารณาทางด้านปัญญา

    ได้ขณะนี้เข้าใจไหม

    ถ้ายิ่งอิ่มอารมณ์มากเท่าไร มันจะหมุนไปทางด้านปัญญา
    ไปเรื่อยของมันเอง นั่นละที่ว่าสมาธิอบรมปัญญา

    คือถ้าไม่มีสมาธิเลย ไม่มีความสงบอะไรเลย
    เราจะพิจารณาทางด้านปัญญามันเป็นสัญญาเป็นสมุทัย
    ไปหมดไม่ได้เรื่อง เราเคยแล้ว

    แต่พอจิตเป็นสมาธิแล้วนี้หมุนทางด้านปัญญานี้
    โหย พุ่ง ๆ อย่างว่านั่นแหละ นั่นท่านว่า

    สมาธิปริภาวิตา ปญฺญามหปฺผลา โหติ มหานิสํสา
    ปัญญาที่สมาธิอบรมแล้ว ย่อมมีผลมากมีอานิสงส์มาก
    แต่แปลทางด้านปฏิบัตินี้ ปัญญาเมื่อมีสมาธิหนุนแล้วเดินได้คล่องตัว
    เป็นอย่างนั้นนะ เดินได้คล่องตัว

    ทีนี้ ปญฺญาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ
    จิตที่ปัญญาซักฟอกเรียบร้อยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ

    คำว่าโดยชอบคือไม่ผิด ปัญญาซักฟอกแล้วไม่ผิด พ้นไปได้เลย


    ...
     
  3. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    อีกตอนหนึ่ง หลวงตามหาบัว ท่านพูดเรื่องจิตว่างให้ฟัง


    พูดถึงเรื่องว่างนี้มันก็อดไม่ได้ ถอดมาจากหัวใจเหมือนกันนี่นะ
    จนถึงขนาดอัศจรรย์ตัวเอง เวลามันถึงขั้นว่างไม่มีอะไรติดหัวใจเลย
    ทั้ง ๆ ที่กิเลสยังติดหัวใจอยู่นะแต่มันมองไม่เห็น มันมองออกนอกเสีย
    เหมือนเราขึ้นไปยืนอยู่บนหัวตอนี่ เรามองดูท้องฟ้ามหาสมุทรเวิ้งว้างไปหมด

    แต่หัวตอที่เจ้าของเหยียบยืนอยู่นี้มันไม่ดู มันไม่ว่างที่ตรงนี้มันไม่เห็น
    มันก็เห็นตั้งแต่ข้างนอกว่างไปหมด นั่น มันก็อันนั้นอัศจรรย์ อันนี้อัศจรรย์
    ตัวเป็นภัยต่อความอัศจรรย์คือหัวตอที่เหยียบอยู่นี้ทำไมไม่ดู เข้าใจไหมล่ะ

    นี่ละใจที่เวลามันชำระของมัน ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างละเอียดเข้าไป ๆ
    จนกระทั่งว่างไปหมดเลย โห อันนั้นว่างอันนี้ว่าง แหม ว่างอัศจรรย์
    จิตใจเรานี้ส่องไปไหนมันว่างไปหมดนะ โอ๋ย อัศจรรย์ใจดวงนี้
    ทำไมถึงได้สว่างไสวจ้าขนาดนี้นะ ว่างไปหมดเลย ๆ

    หัวตอมันไม่ได้ดูนะ มันเห็นแต่สิ่งนั้นว่างสิ่งนี้ว่าง
    บทเวลาถึงขั้นเต็มเหนี่ยวมันแล้ว ดูที่ไหน ๆ มันก็ว่างไปหมด ๆ
    วนเข้ามา ๆ จนกระทั่งถึงหัวตอ โอ๋ มันไม่ว่างอยู่ตรงนี้ ซัดตรงนี้ขาดสะบั้น
    ลงไปแล้วไม่ต้องถามว่างไม่ว่าง นั่นละหัวใจเมื่อมันขาดสะบั้นลงจากความติดข้อง

    ฟาดตัวนั้นขาดสะบั้นลงไปแล้วว่างหรือไม่ว่างท่านไม่ถามหาใคร
    นั่นจิตเวลาว่างเป็นอย่างนั้นนะ



    ....
     
  4. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ท่านพูดดวงจิตเหมือนดวงไฟ

    หากว่าเป็นดวงไฟก็แก้วไม่ใสสะอาดดี เวลาไฟส่องออกมาจากดวงไฟนี้มันก็มัว ๆ
    ถึงสว่างก็สว่างด้วยความมัว ความมัวนั้นแลคือกิเลสมันปิดแก้วครอบ

    เหมือนมลทินติดแก้วครอบ พอเปิดอันนั้นออกหมดไม่ให้มีเหลือ
    แก้วครอบก็ไม่มีที่นี่นะ เวลามันเปิดนะ แก้วครอบว่าใสอย่างนั้นใสอย่างนี้ไม่มี
    เพราะแก้วครอบก็เป็นสมมุติอันหนึ่ง เวลาเปิด เปิดออกหมด ดวงไฟก็ไม่มี

    ดวงไฟที่เป็นต้นเหตุแห่งการแสดงสีแสงออกมานั้นก็พังไปด้วยกัน
    เพราะอันนี้ก็เป็นสมมุติ นั่นเห็นไหมที่นี่

    ทีนี้ความสว่างนอกสมมุติเป็นหลักธรรมชาติมีดั้งเดิมของจิตดวงนี้
    เป็นแต่เพียงว่าสิ่งเหล่านี้ครอบไว้ ๆ จนกระทั่งถึงดวงสว่างก็เป็นสิ่งที่ครอบเอาไว้เสีย

    แก้วครอบก็เป็นสิ่งที่ครอบใจดวงนั้นเสีย พังออกหมดแล้วไม่มีเหลือ
    นี่เรียกว่าสมมุติหมดโดยประการทั้งปวง นั่นท่านให้ชื่อว่าวิมุตติ

    เอาทีนี้จะกำหนดยังไงไม่ได้เลย คำนวณคำนึงไม่ได้แต่ไม่สงสัย
    นั่นชัดเจน นี่ละจิตที่ว่าเปิดเต็มเหนี่ยวแล้วเป็นอย่างนั้น นี่ที่ว่ารู้จริงเป็นอย่างนี้
    ที่รู้ไป ๆ ไม่มีอะไรสงสัย ๆ เลยนะ


    ....
     
  5. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ก็เอามาฝากครับ สำหรับคนที่สนใจ

    พอดี เก็บไว้นานแล้ว

    สำหรับหลวงตามหาบัวที่เคยพูดต่อหน้า ให้ฟัง


    ก็เป็นสายกรรมฐานวัดป่า สอนแบบง่ายๆ
    เน้นไปที่ปฎิบัติเอาเอง

    พูดพอเป็นแผนที่ ให้เดินทางสู่จุดหมายปลายทาง...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2016
  6. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ปัจจุบันมีการสอนกรรมฐานกันหลายสาย
    เหมือนแม่น้ำมีหลายสาย

    แล้วแต่จริตของบุคคล จะเลือกทางเดินเอาเอง...
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ทางด้านปัญญาทางธรรมแบบที่
    อธิบายสุดแสนที่ละเอียดมาก
    หากได้ปฏิบัติมาบ้างแล้วในสภาวะนั้น
    จะพบได้ว่า ท่านจะทึ่งในการอธิบายธรรมของท่าน
    ได้อย่างอัศจรรย์มากครับ และการอธิบายธรรมของท่านยัง
    แยบคายเข้าถึงในระดับที่ลึกมากๆแล้วถ่ายทอดออกมาเป็น
    ภาษาที่อ่านได้ฟังได้แทบทุกคน...
    ซึ่งเป็นความสามารถที่ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ..
    ส่วนตัวไม่กล้ากล่าวว่า ท่านมีปฏิสัมภิทาญาน
    เพราะเกรงว่าท่านจะเหนือกว่าที่ผู้เขียนเข้าใจมากมาย
    เพราะพบว่าท่านมีความเฉลียวฉลาดมาก
    ในด้านการถ่ายทอดและอธิบาย
    ธรรมในการสอนทางด้านปัญญา
    ที่อยู่ในระดับที่เป็นเลิศท่านหนึ่งในประเทศนี้
    หรือในพุทธสมัยนี้ท่านหนึ่ง
    เลยก็ว่าได้ครับ...


    ส่วนตัวมองว่า ณ ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีท่านใดที่เป็นเลิศ
    เทียบเท่าหลวงตาท่านนี้ในทางด้านปัญญานะครับ...
    ซึ่งยังมีอีกหลายท่านที่เป็นเลิศ เช่นสายพระป่าวิปัสสนา
    แม้ว่า ท่านจะมีความสามารถสูงส่งมากๆ
    มีเรื่องเล่า จากบิดาเพื่อนผู้เขียนท่านหนึ่ง
    เป็นลูกศิษย์ของศิษย์ หลวงพ่อท่านที่เสกใบ้ไม้เป็นเงินได้
    เล่าให้ฟังว่า เคยได้ไปเห็น ลป. ยี่ย่อ ข ตอนนั้นท่านเหาะเหิน
    เดินอากาศได้ แล้วไปเพื่อแสดงให้ ลป.ม ท่านนี้แต่ถูกตำหนิกลับ
    ว่าความสามารถแบบนี้ท่านทิ้งไปได้ ๒๐ ปีแล้ว ลองพิจารณากันเองนะครับ
    และลป. ม ท่านจะเน้นไปทางวิปัสสนา ให้สังเกตุดูได้ว่า ลูกศิษย์ท่าน
    ที่ท่านมาโปรดในนิมิต ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่สามารถเข้าถึงสมาธิ
    ระดับสูงได้เกือบทุกคนครับ..

    และมีผู้เป็นเลิศอีกท่านหนึ่ง อย่าง อดีตหลวงพ่อ ที่จังหวัด อุทัยธานี้
    นี่ก็อีกท่านหนึ่งครับ...
    ท่านที่เป็นเลิสทางด้านการสอนการปฏิบัติสายวิชาพิเศษ
    ที่สำคัญในขณะที่ถ่ายทอดท่านยังอ่อนน้อมถ่อมตน
    ยกให้พระพุทธเจ้าเป็นใหญ่อยู่เสมอ...
    ส่วนตัวประกันได้ว่า ณ ปัจจุบันนี้ยังหาผู้ใด
    ที่เป็นเลิศด้านการสอนสายวิชาพิเศษมาเทียบท่านได้ครับ



    มาต่อเรื่องหลวงตาครับส่วนตัวได้อ่านบทความ
    ที่ท่านเทศน์สอนพระ ณ วัดป่าแห่งหนึ่งเมื่อปี ๒๕๐๕ นะครับ
    พบว่าท่านทะลุทะลวงไปไกลเกินที่วิสัยคนธรรมดาๆอย่างเรา
    จะคาดได้แล้วครับ..เรื่องอื่นๆด้านอื่นๆอย่าว่าท่านไม่รู้ละเอียดนะครับ
    เรียกว่า ละเอียดทุกๆด้านเลยก็ว่าได้ครับ แต่ท่านไม่เน้น...
    และที่สำคัญ มีบารมากมายอย่างที่ ผู้ที่สัมผัสได้
    ถึงขั้นเข้ามาในจิตได้ (เปรียบคล้ายเทพมีฤิทธิ์มาก
    แม้เราไม่รู้สึกถึงอันตราย แต่จิตจะมีความเกรงในบารมีโดยธรรมชาติ
    นั้นหละครับ)..
    ถ้าได้มาปฏิบัติตามแนวทางของหลวงตาท่านนี้
    ส่วนตัวถือว่า บุคคลนั้นๆโชคดีมากแล้วหละครับ..

    โดยความรวม ไม่ว่าเราจะมีจริตมาทางด้านไหน
    ก็เลือกปฏิบัติเลือกเอาธรรมที่เหมาะสมกับเราตามวาระ
    ตามเหตุและปัจจัยเฉพาะตน ก็จะเกิดประโยชน์
    สูงสุดต่อตนเองได้ทั้งนั้นครับ
     
  8. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ที่เอาคำสอนหลวงตา มาลงไว้ จะได้มีที่ก็เก็บไว้
    (กลัวข้อมูลจะสูญหายเสีย)

    และอาจจะเกิดประโยชน์บางสำหรับบางคนที่ค้นหาบางอย่าง...


    บางอย่างที่ท่านพูดให้ฟัง เราเองยังเดินจิตไม่ถึง

    ท่านพูดฝากไว้ล่วงหน้า...
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เวปพลังจิต ห้องอภิญาสมาธิ

    มีหลากหลาย เกือบทุกสาย

    มันแปลกนะ มันมารวมอยู่ในห้องนี้

    เหมือนมาแลกเปลี่ยนกัน...

    ผมเองก็บอกไม่ถูก ทำไมต้องเข้าเวปนี้
    มันเหมือนจุดนัดพบ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...