คนใจคอหนักแน่นก็ทำบุญกุศลได้มาก : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย จำปาพร, 23 ธันวาคม 2015.

  1. จำปาพร

    จำปาพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    64
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +209
    [​IMG]

    พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
    วัดอรัญญบรรพต
    อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    ...

    ผู้ใดยังถือว่าตนนับถือพระพุทธศาสนาอยู่อย่างนี้ มันต้องเชื่อบุญเชื่อบาปว่ามีจริง
    ก็ตรงกันข้ามน่ะ บุคคลผู้หมดบาปแล้วก็เข้าสู่ " นิพพาน" เท่านั้นเองนะ
    บุคคลใดหมดบุญแล้ว บุญเก่าก็ไม่มี บุญใหม่ก็ไม่มีก็ลงนรกอันร้ายกาจลูกเดียว

    แล้วก็ไม่มีวันพ้นอีกด้วย ต้องระวังทุกคนนะ อย่าไปประมาทในการสั่งสมบุญกุศล
    แม้ไม่ได้ทำมากก็ให้ได้ทำน้อย ทำไปทีละเล็กทีละน้อยค่อยผสมไป

    ค่อยสะสมไปทีละน้อย ทีละน้อย มันก็มากขึ้นเอง

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ อุปมาไว้เหมือนน้ำหยดชายคา มันหยดไม่ถอย
    มันก็ทำน้ำนั้นให้เต็มโอ่งไหที่ตั้งไว้รองน้ำใต้ชายคานั้นได้เหมือนกันนะ

    ไม่จำเป็นต้องฝนต้องตกมากๆ แม้ฝนตกแต่เพียงเล็กน้อยแต่มันตกไม่ถอย
    น้ำมันก็หยดลงจากชายคาลงสู่ไหนั้น สามารถทำไหให้เต็มได้เหมือนกันน่ะ
    ฉันใด บุคคลผู้สั่งสมบุญกุศลนี้ พากเพียรพยายามทำไป
    ตามกำลังความสามารถของตนของตน เพราะบางคนก็มีความสามารถน้อย
    บางคนก็มีความสามารถมาก ไม่เหมือนกัน
    คนเรามันเป็นอย่างนั้น

    "ผู้ที่มีความสามารถน้อย" นั้น เมื่อเพียรทำไม่ท้อถอยมันก็มากขึ้นโดยลำดับ
    แต่มันก็อาศัยเวลานานสักหน่อย ไอ้ "ผู้ที่มีความสามารถมาก" นั้นน่ะ
    เขาทำความดีอะไรก็ทำมากๆ ไม่ทำน้อย
    เช่นภาวนาสมาธิอย่างนี้ก็นั่งภาวนาเอา
    เอาจริงๆจังๆ อธิษฐานใจลงไป ถ้าใจนี้ไม่สงบรวมลงเป็นหนึ่งก็จะไม่ลุกจากที่นั่งนี้
    ตายกับนี่ ใจเด็ดเดี่ยวสละตายลงเพื่อความสงบใจ มันทำลงไปอย่างนี้
    อธิษฐานใจลงไปอย่างนี้ ทำความเพียร เจริญพระกรรมฐานไป
    ถ้าใจนั้นไม่สงบก็ไม่เคลื่อนออกจากอิริยาบถสมาธินี้เลย
    เอาไปเอามามันกลัวตายมันก็รวมลงแหละ มันเจ็บมันปวดมาก
    ผู้นั้นเรียกว่า "รักษาความสัตย์ความจริงใจไว้" มันจะเจ็บปวดยังไง
    ก็ไม่ยอมละความสัตย์ความจริงนั้น ไอ้อย่างนี้จิตมันก็ทนไม่ไหวนะมันต้องรวมลง
    นั่นเรียกว่า "คนใจคอหนักแน่น" คนเคยรักษาความสัตย์ความจริงใจมา

    คนที่ไม่เคยตั้งความสัตย์ความจริงใจใส่ตนของตนเลยเนี่ย
    เป็นคนเหลาะแหละเหลวไหล เอาจริงเอาจังอะไรไม่ได้
    เพราะฉะนั้นทุกคนนะให้พึงฝึก หัด อบรม “สัจจบารมี”
    ให้เกิดให้มีขึ้นในตน อย่าไปละเลยบารมีข้อนี้น่ะ สำคัญมากทีเดียว
    มันจะทำให้บุญบารมีแก่กล้าขึ้นได้ ก็โดยอาศัยสัจจบารมีนี่แหละ
    คนไม่มีความสัตย์ความจริงใจแล้วเป็นคนจับจดจับจ่อทำอะไรไม่จริงไม่จัง
    ไม่ได้รับผลเท่าที่ควร เมื่อเป็นเช่นนี้บุญบารมีมันก็แก่กล้าไม่ได้

    ดังนั้นให้พึงพากันตั้งอกตั้งใจทำความเพียรเพ่งพินิจในดวงจิตนี้ให้ดีๆ
    อย่าให้มันอ่อนแอท้อแท้ ต้องปลุกปลอบใจนี้ให้เข้มแข็งอยู่เสมอ
    มันจึงจะต่อสู้กับนีวรณธรรมห้าอย่างนั้นได้ ถ้าใครไม่ต่อสู้
    เอาชนะนิวรณ์ห้านี้ไม่ได้ จิตใจก็ไม่เป็นสมาธิ
    จิตใจก็อ่อนแอเหลาะแหละเหลวไหลไปตามเรื่อง
    ใจอย่างนั้นแหละใจไปตกนรกน่ะ ต้องเข้าใจ
    อันนั้นแหละมันจะไปสู่นรกน่ะใจเหลาะแหละอ่อนแอ
    ทำความดีให้เป็นล่ำเป็นสันไม่ได้


    ...

    ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
    "รักษาสัจจะความจริงใจ"
     

แชร์หน้านี้

Loading...