ขอเชิญร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีสมทบทุนสร้างถาวรวัตถุ ๓ รายการ

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย ล้านนาบุญ, 6 กันยายน 2014.

  1. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    มหาอานิสงค์ กฐินบุญใหญ่(กาลทาน) ต่อยอด ๓ บุญ
    หนุนชะตา บารมี ทำบุญ ๑ ที ได้บุญหลายต่อ
    บุญที่ ๑ รับอานิสงค์ทำบุญกฐิน...บุญที่ ๒ ร่วมสร้างพระเจดีย์ฯ...บุญที่ ๓ ร่วมสร้างมณฑปพระศักดิ์สิทธ์...บุญที่ ๔ ร่วมสร้างห้องน้ำ ​


    ขอเชิญญาติธรรมทุกท่านร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี ประจำปี๒๕๕๗
    ทอด ณ วัดนาบุญ ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่
    วันอาทิตย์ที่ ๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๗
    ..................................................................​


    เนื่องด้วยวัดนาบุญ ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ได้มีโครงการการก่อสร้างถาวรวัตถุ และเสนาสนะภายใน โดยวัดนาบุญ จ.แพร่ ได้ทำการก่อสร้างทั้งหมด ๓ รายการ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
    ๑.) พระเจดีย์สะหลีรัตนโพธิญาณ หรือพระธาตุแสนล้าน ซึ่งในการก่อสร้างเจดีย์นี้ได้ทำการวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๕ ในการก่อสร้างทั้งหมดนี้ ต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างราว ๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท (สามล้านห้าแสนบาท) เพื่อภายในจะได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมพระอรหันตธาตุพระสาวก เข้าบรรจุประดิษฐาน เป็นที่กราบไหว้บูชา สืบทอดอายุพระศาสนา ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว ประมาณ ๒๐ %

    ๒.)มณฑปพระเจ้าทันใจ สร้างเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญของวัดนาบุญ จำนวน ๓ องค์ คือ ๑.) พระพุทธสิริรัตนโพธิญาณเจติยาบุญญนิมิต ประสิทธิพระสำเร็จทันใจ (พระเจ้าทันใจ) ๒.)พระเจ้าเศรษฐี ๓ พี่น้อง พระเก่าแก่คู่วัดนาบุญ อายุ๑๐๐กว่าปี ๓.)พระพุทธสุวรรณสหัสรังสี(พระเจ้าพันแสง) พระพุทธรูปประจำวัดนาบุญ เนื้อสำริด และเป็นสถานที่สรงน้ำและกราบไหว้บูชาขอพร ตามในโอกาสสำคัญต่างๆ รวมถึงเป็นลานสำหรับ สวดมนต์ เจริญภาวนา แก่พระภิกษุ-สามเณร และอุบาสก-อุบาสิกา ทั้งหลาย ในการดำเนินการในครั้งนี้ ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ ๓๕๐,๐๐๐ บาท(สามแสนห้าหมื่นบาท) ในปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างมาแล้ว ประมาณ ๕๐ % ยังขาดทุนทรัพย์ในการประดับไฟ ปั้นลายปูนปั้น ปูนกระเบื้อง สร้างแท่นประดิษฐานพระอีก ๒ แท่น ทาสี ปั้นตัวมอม ๑ คู่ และอื่นๆ

    ๓.) ห้องน้ำ จำนวน ๑๐ ห้อง ปัจจุบันวัดนาบุญ จ.แพร่ มีห้องน้ำที่สามารถใช้งานได้เพียง ๒ ห้อง เพราะห้องน้ำทั้งหมด เก่าและชำรุด จนไม่สามารถใช้งานเป็นห้องๆไป จึงจำเป็นต้องสร้างห้องน้ำใหม่ เพื่อรองรับ พระภิกษุ-สามเณร และศรัทธาสาธุชนทั้งหลายที่จะมีทำบุญที่วัดทุกๆวันพระ วันสำคัญทางศาสนา และเมื่อมีงานวัด หรือวันปกติก็มีผู้เดินทางขาจรมาใช้พอสมควร การก่อสร้างห้องน้ำ ๑๐ ห้องนี้ แบ่งเป็น ๑.)ห้องน้ำสำหรับรับรองพระเถระผู้ใหญ่ พระภิกษุ-สามเณร จำนวน ๒ ห้อง ๒.)ห้องน้ำสำหรับคนชรา คนพิการ จำนวน ๒ ห้อง ๓.)ห้องน้ำสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป จำนวน ๖ห้องใช้งบประมาณในการดำเนินก่อสร้าง ราว ๓๐๐,๐๐๐ บาท (สามแสนบาท) ปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ ๕๐ % แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ปัจจัยในการดำเนินการก่อสร้าง งานที่ยังค้าง เช่น ปูกระเบื้องผนัง ปูกระเบื้องพื้นห้องน้ำ ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ทำทางเท้า ทาสี เป็นต้น

    ตามรายละเอียดในข้างต้น จึงบอกบุญมายังญาติธรรมทุกท่าน ร่วมแรง ร่วมใจ ตั้งเจตนาอันบริสุทธิ์ ร่วมทำบุญเจ้าภาพกฐินสามัคคี เพื่อนำรายได้สมทบทุนสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ เพื่อสำเร็จประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา พระภิกษุ-สามเณร และศรัทธาสาธุชนทั้งหลาย ตามแต่กำลังศรัทธาที่จะพึงกระทำได้ โดยมีกำหนดการในการทอดกฐินปี ๕๗ ในวันอาทิตย์ ที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๗ (ขึ้น ๑๑ เดือน ๑๒)

    ท้ายนี้ขอขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย และอำนาจบุญกุศล จงปกป้องคุ้มครองให้ท่านและครอบครัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีอายุ วรรณะ สุข พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติทุกประการเทอญ....


    ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญ สามารถโอนเงิน ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาลอง ชื่อบัญชี วัดนาบุญ(สมทบทุนสร้างเจดีย์) เลขที่บัญชี ๕๑๓-๐-๒๗๒๖๑-๗ หรือสั่งจ่าย ธนานัติได้ที่ พระยุทธพงศ์ กุสลจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดนาบุญ วัดนาบุญ ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ๕๔๑๕๐

    ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่วัดนาบุญได้ครับ โทร. ๐๕๔-๕๔๕-๓๑๙
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • img004.jpg
      img004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      133
    • img005.jpg
      img005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      201
    • img006.jpg
      img006.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      177
    • img007.jpg
      img007.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      185
    • img035.jpg
      img035.jpg
      ขนาดไฟล์:
      887.9 KB
      เปิดดู:
      112
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กันยายน 2014
  2. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
  3. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
  4. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
  5. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    อานิสงส์กฐินทาน
    คัดลอกจากหนังสือ สนทนาธรรม เล่ม ๑ ของพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    วัดจันทาราม(ท่าซุง) จ.อุทัยธานี
    โดย JetoViMut Team

    ต่อไปนี้ จะพูดถึงอานิสงส์กฐิน เอาย่อๆนะ อานิสงส์ในการถวายกฐิน หรือว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายถวายสังฆทาน สังฆทานวันนี้เป็นสังฆทานของกฐิน การถวายสังฆทานทุกอย่างมีผลควบกับกฐิน เพราะเป็นวันของกฐิน ความจริงการทอดกฐิน ไม่ใช่ประเพณีนิยม เป็นพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ผ้ากฐินทาน จะรับได้ก็ต่อเมื่อถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 หลังจากนั้น จะทอดขนาดไหนก็ตาม จะไม่เป็นกฐิน ฉะนั้น กฐินมีเวลากาลจำกัด

    ทีนี้ ว่าถึงอานิสงส์กฐิน อานิสงส์กฐินนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเคยเทศน์ และก็เทศน์ตามบาลี ท่านพูดถึงอานิสงส์ให้ทราบ ฉะนั้น การถวายวันนี้ทั้งหมด เมื่อวานก็ดี วันนี้ก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม จะเป็นของก็ตาม ถือว่าทุกอย่าง เป็นอานิสงส์กฐิน

    ต่อไปนี้ก็โปรดทราบ จะนำพระสูตรตามที่ท่านกล่าวไว้ในบาลีให้ทราบ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ในสมัยพระองค์เกิดเป็น "มหาทุคคตะ" ในสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "พระปทุมมุตระ" เวลานั้น พระพุทธเจ้าของเรา เกิดเป็นคนจนอย่างยิ่ง เป็นทาสของคหบดี เวลานั้น ถอยหลังจากนี้ไป 92 กัป ก็ปรากฏว่า พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "พระปทุมมุตระ"

    วันหนึ่ง มหาทุคคตะ ไปดูงานทอดกฐินเขา เมื่อเขาทอดกฐินเสร็จ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า บุคคลใด เคยทอดกฐินแล้วในชีวิตหนึ่ง ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพกฐินก็ดี และเป็นบริวารกฐินก็ดี(แต่ว่ากฐินนี้ไม่มีบริวาร มีแต่เจ้าภาพ เพราะเป็นกฐินสามัคคี) จะทำบุญน้อย จะทำบุญมาก มีอานิสงส์เสมอกัน แต่ทว่าปริมาณอาจจะแตกต่างกัน และอานิสงส์กฐินนี่ เวลานั้น พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า

    "โภ ปุริสะ ดูก่อนท่านผู้เจริญ บุคคลใดเคยทอดกฐินไว้ในพระพุทธศาสนา แม้ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าตายจากความเป็นคน ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ท่านผู้นั้น จะไปเกิดเป็นเทวดา หรือนางฟ้า 500 ชาติ"

    นั่นหมายความว่า ถ้าหมดอายุเทวดา หรือ นางฟ้า จุติแล้วก็เกิดทันที 500 ครั้ง เมื่อบุญหย่อนลงมานิดหน่อย เกิดเป็นเทวดา เกิดเป็นนางฟ้าไม่ได้ ลงมาเป็นมนุษย์ จะเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิปกครองโลก 500 ชาติ แล้วบุญก็หย่อนลงมา ก็จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 500 ชาติ แล้วบุญก็หย่อนลงมา ก็จะเป็นพระมหากษัตริย์ 500 ชาติ หลังจากนั้น จะเป็นมหาเศรษฐี 500 ชาติ

    คำว่า "มหาเศรษฐี" นี่ มีเงินตั้งแต่ 80 โกฏิขึ้นไป เขาเรียกว่า "มหาเศรษฐี" ถ้ามีเงินต่ำกว่า 80 โกฏิ แต่ว่าตั้งแต่ 40 โกฏิขึ้นไป เขาเรียกว่า "อนุเศรษฐี"

    เมื่อเป็นมหาเศรษฐี 500 ชาติแล้ว ก็เป็นอนุเศรษฐี 500 ชาติ หลังจากเป็นอนุเศรษฐี 500 ชาติแล้ว ก็เป็นคหบดี 500 ชาติ !!!

    ก็รวมความว่า การทอดกฐินครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า นอกจากจะเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีแล้ว บุคคลที่ทอดกฐินครั้งหนึ่งในชีวิต จะปรารถนาพระโพธิญาณก็ย่อมได้!!!.....นั่นก็หมายความว่า จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ จะปรารถนาเป็นอัครสาวกก็ได้ จะปรารถนาเป็นมหาสาวกก็ได้ จะปรารถนานิพพานเป็นพระอรหันต์ปกติก็ได้

    ฉะนั้น การทอดกฐินแต่ละคราว ขอบรรดาท่านพุทธบริษัท โปรดทราบถึงอานิสงส์ คนที่เคยทอดกฐินแล้วแต่ละครั้ง รวมความว่า ถ้ายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด คำว่ายากจนเข็ญใจ จะไม่มีแก่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกชาติ

    สำหรับวันนี้ การทอดกฐินมันมี 3 อย่าง ความจริงอานิสงส์กฐินก็ย่อมเป็นอานิสงส์กฐิน แต่ในปัจจุบัน จัดกฐินเป็น 3 อย่าง คือ

    (1) จุลกฐิน
    (2) ปกติกฐิน
    (3) มหากฐิน

    กฐิน 3 อย่าง ย่อมเป็นเทวดานางฟ้าเหมือนกัน แต่ทว่าจะมีทรัพย์สมบัติมากกว่ากัน

    คำว่า "จุลกฐิน" เวลานี้แปลงไป คงจำของพระพุทธเจ้าไม่ได้ คำว่า "จุลกฐิน" ก็หมายความว่า เขาถวายผ้าโดยเฉพาะชิ้นเดียว คือ ผ้ากฐิน จะเป็นผ้าสังฆาฏิตัวหนึ่งก็ได้ จะเป็นผ้าจีวรตัวหนึ่งก็ได้ สบงตัวหนึ่งก็ได้ ถ้าเราไม่มีทั้งไตร ถวายผ้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งก็เป็นกฐิน


    ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.jetovimut.com/forum/index.php?topic=1085.0
     
  6. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    ทีนี้ถ้า "ปกติกฐิน" ก็มีผ้าไตรครบไตร ถวายผ้าไตรเดียวหรืออย่างน้อยก็มีผ้าไตร ๓ ไตร คือองค์ครองหนึ่งไตรคู่สวด ๒ ไตร ทีนี้ถ้ามีผ้าไตรครบทุกองค์ อย่างที่วัดทำเป็น "มหากฐิน" อย่างนี้ถ้าบังเอิญจะไปเกิดในชาติใดก็ตาม จะเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สมบัติมากที่สุดเป็นพิเศษ อย่างตระกูล นางวิสาขามหาอุบาสิกา มีทรัพย์มากเป็นพิเศษ อย่างมหาเศรษฐี เขาบอกว่าต้องมีเงิน ๘๐ โกฏิ หรือว่า ๑๖๐ โกฏิ แต่ว่าตระกูลของนางวิสาขาจะนับเป็นโกฏิไม่ได้ ต้องนับเป็นโกฏิของเล่มเกวียน ไม่ใช่นับเป็นโกฏิของเหรียญ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าตระกูลนี้ร่ำรวยมาก

    ตระกูลนางวิสาขาจริงๆ เริ่มต้นจากคนที่ยากจนเข็ญใจ ต้นตระกูลนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านเมณฑกเศรษฐี นี้ ท่านเมณฑกเศรษฐี เป็นปู่ของนางวิสาขา ใสชาติก่อนโน้นท่านเป็นคนยากจนเข็ญใจมาก เรียกว่าเป็นคนแก่ ๒ คน ไม่มีลูก ลูกหญิงไม่มี ลูกชายไม่มี แล้วก็หาเช้ากินค่ำหรือว่าหาค่ำกินเช้า ไม่ได้เกิดพร้อมท่านไม่รู้ใช่ไหม เป็นอันว่าหากันไม่ค่อยจะพอกิน บ้านอยู่ใกล้วัด ไม่มีโอกาสจะทำบุญ ถึงแม้แต่วันพระที่เขาตั้งใจทำบุญกัน เวลาจะทำบุญก็ไม่มี ถ้าขืนมาทำบุญไม่ได้ทำงานก็ไม่มีกิน มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ศรัทธานะมีอยู่ แต่ทรัพย์ไม่มี

    มาคราวหนึ่งปรากฏว่า ที่วัดเขาสร้างส้วม เมื่อเขาสร้างส้วมเสร็จแล้วเขาก็ขุดหลุมส้วมเสร็จ ตอนกางคืนสองคนตายายก็คิดในใจว่า ชาติทั้งชาติ เรามันจนแสนจะจน ไม่มีเงินจะทำบุญ ไม่มีข้าวจะใส่บาตร เวลานี้เขาสร้างส้วมเสร็จ เรามีทองคำอยู่ชนหนึ่งเท่าปีกริ้น นั่นก็คือ ทองคำเปลว เอาไปบูชาพระรัตนตรัยดีกว่า ฉะนั้นเวลากลางคืนมันว่างงาน สองคนตายายจึงย่องเอาทองคำมาปูตรงที่ก้นหลุมส้วม ตั้งใจบูชาพระรัตนตรัย ฟังแล้วก็จำให้ดีนะ ! นีสำคัญมาก

    หลังจากนั้นสองคนตายาย ก็นั่งคิดนอนคิดถึงบุญที่ทำแล้ว ก่อนจะหลับก็ดีใจว่าชาตินี้เราได้ทำบุญด้วยทองคำ ตื่นขึ้นมาก็ดีใจว่าได้ทำบุญด้วยทองคำ ปลื้มใจทุกวันจนกว่าจะถึงวันตาย เมื่อตายจากความเป็นคนอาศัยอานิสงส์ถวายทองคำเท่าปีกริ้นหรือทองคำเปลว ไปบูชาพระรัตนตรัย ไว้ที่ก้นหลุม ทั้งสองคนก็ไปเกิดเป็นเทวดากับนางฟ้า อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก เมื่อลงมาจากความเป็นเทวดาและนางฟ้า ด้วยบุญอานิสงส์อย่างยิ่ง ที่บูชาพระรัตนตรัยด้วยทองคำ ก็เป็นเหตุให้มาเกิดเป็นลูกของมหาเศรษฐี จากคนแสนจนนะ มาเป็นลูกมหาเศรษฐี

    ทีนี้ชาติเดิมท่านเป็นคนมีศรัทธาเป็นปกติ แต่ไม่มีทรัพย์ เมื่อไปเกิดเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า ก็มีศรัทธาเป็นปกติ มาเกิดเป็นลูกมหาเศรษฐี ก็เป็นคนมีศรัทธาเป็นปกติ มีความเมตตาปรานีในบุคคลทั้งหลาย ฉะนั้นทานมหาเศรษฐีคนนี้จึงมีสภาพไม่เหมือนเศรษฐีคนอื่น เมื่อเป็นเศรษฐีแล้วก็ไม่หวังผลกำไรในดอกเบี้ย ปีหนึ่งได้ข้าวเท่าไร เศรษฐีมีนาเป็นแสนไร่ได้ข้าวมาก ก็กันไว้ส่วนหนึ่ง แกล้งขายเอาเงินเข้าในกองทรัพย์สินของตอนเอง อีกส่วนหนึ่งเอาไว้แจกกับคนจน แต่ว่าต่อมาท่านจะเก็บข้าวเอาไว้จริงๆ ข้าวที่เก็บไว้กินเอง เก็บไว้ประมาณเผื่อคนจนด้วย เผื่อท่านด้วย ที่เก็บไว้นะ ๓ ปี ปีหนึ่งได้ข้าวมาแล้ว เก็บไว้เพื่อกินเองบ้าง เพื่อคนจนบ้าง นี่ ๓ ปี เหลือจากนั้นก็ขาย เหลือจากนั้นก็แจก

    และมาในตอนหนึ่งปรากฏว่า ในประเทศนั้นเกิดข้าวยากหมากแพง ฝนแล้วไม่ตกต้องตามฤดูกาล ฝนมันแล้งชาวบ้านทำนาไม่ได้ ท่านมหาเศรษฐีก็แจกข้าวกับบรรดาประชาขนที่มาขอ ไม่มีคำว่าขาย แจกมาแจกไป แจกไปแจกมา ในปีแรกข้าวก็ยังเหลือ ปีทีสองข้าวก็ยังเหลือ มันแล้งตั้ง ๓ ปี พอถึงปีที่ ๓ ข้าวหมด ข้าวที่แจกเขาก็หมด มีไว้เพื่อแจกข้าวที่มีไว้เพื่อกินก็หมด


    ขอบคุณข้อมูลจาก อานิสงส์กฐินทาน....พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
     
  7. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    ทีนี้มันมีข้าวเหลือทะนานเดียว เวลานั้นปรากฏว่าข้าทาสหญิงชายมีมาก ปล่อยหมด ไปตามเวรตามกรรม ไปหากินเอง ที่บ้านนี้ไม่มีกินแล้ว ถ้าขืนอยู่ก็อดตาย ก็มีทาสคนหนึ่ง ชื่อว่า "นายบุญ" ไม่ยอมไปจากนาย บอกถ้านายอดขออดด้วย ถ้านายตายขอตายด้วย ก็เป็นอันว่าตามธรรมดามหาเศรษฐีต้องไปเฝ้าพระราชาเช่นเดียวกับอำมาตย์ทั้งหลาย เวลาประชุมขุนนาง มีวันหนึ่งข้าวเหลือทะนานเดียว ท่านมหาเศรษฐีกลับมาจากเฝ้าพระราชา ก็ถามแม่บ้านว่า ข้าวของเรามีเท่าไร แม่บ้านก็บอกว่า ข้าวของเรามีหนึ่งทะนาน ที่บ้านเรามี ๕ คน ฉันหนึ่งคน ลูกชายหนึ่งคน ลูกสะใภ้หนึ่งคน และทาสคือนายบุญอีกหนึ่งคน ท่านมหาเศรษฐีก็ถามว่า เราจะกินได้กี่วัน

    ภรรยาก็บอกว่า ถ้าต้มกินเราจะกินได้สองวัน วันนี้กับวันพรุ่งนี้ ถ้าหุงกินเราจะกินได้วันเดียว หลังจากนั้นคำว่า กินข้าวจะไม่มีสำหรับเราอีก ท่านมหาเศรษฐีก็ตัดสินใจว่า เราจะอดตาย อดวันนี้เราก็ตาย อดวันพรุ่งนี้เราก็ตาย ถ้าอย่างนั้นอดวันนี้ตายวันนี้ดีกว่า หลังจากนี้ไปไม่ต้องกินข้าว จะตายเมื่อไรก็ช่างมัน

    ก็เป็นอันว่าสั่งให้ภรรยาหุงข้าว ภรรยาก็หุง เมื่อหุงข้าวเสร็จ ทุกคนก็ตั้งใจคิดว่าเราจะกินเวลานี้เป็นเวลาสุดท้าย
    หลังจากนี้เราจะตาย จะตายก็ช่างมัน ทำทานมหาศาลตาย แล้วอย่างน้อยที่สุด พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าอย่างน้อยเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เมื่อเป็นคนลำบากแบบนี้ เป็นเทวดาเป็นนางฟ้าดีกว่า

    แต่ก็เป็นการบังเอิญอย่างยิ่ง วันนั้นมี พระปัจเจกพุทธเจ้า องค์หนึ่งออกจากนิโรธสมาบัติ


    คำว่า "นิโรธสมาบัติ" นี่ บรรดาท่านพุทธบริษัท เป็นสมาบัติพิเศษ ถ้าเราเข้าฌานตามปกติ เรียกว่า "ปกติสมาบัติ" คำว่า ?ปกติสมาบัติ? ก็มีอานิสงส์ การถวายทานแก่คนหรือกับพระที่ไม่ได้เข้าสมาบัติ พระถึงแม้จะมีศีลบริสุทธิ์ ถึงแม้จะเป็นพระอรหันต์ก็ตาม ก็มีอานิสงส์มาก แต่ว่าถ้าพระองค์นั้นเข้าสมาบัติปกติ แล้วออกจากสมาบัติ ถ้าถวายทานแก่ท่าน เวลานั้นจะมีอานิสงส์เพิ่มเป็นแสนเท่า อานิสงส์ไม่เท่ากัน

    ถ้าหากว่าท่านผู้นั้นออกจาก "นิโรธสมาบัติ" คือสมาบัติพิเศษ ถ้าทำบุญคนเดียวคนจนจะเป็นมหาเศรษฐีในวันนั้น ถ้าคนรวยอยู่แล้วจะรวยใหญ่ และวันนั้นพระปัจเจกพุทธเจ้าออกจากนิโรธสมาบัติ การที่เข้านิโรธสมาบัติ

    "นิโรธ" แปลว่า ดับ
    "สมาบัติ" แปลว่า การเข้าถึง เข้าถึงความดับ คือดับทุกขเวทนาของร่างกาย เพราะร่างกายมันเหนื่อย

    เมื่อออกจากนิโรธสมาบัติแล้วก็ใช้ ทิพจักขุญาณ ว่า วันนี้เราจะบิณฑบาตที่ไหนจึงจะมีคนสงเคราะห์ ก็ทราบว่ามหาเศรษฐีวันนี้มีข้าวอยู่ทะนานเดียว และก็เวลานี้ภรรยาหุงข้าวเสร็จ แต่ถ้าบังเอิญเราไปบิณฑบาตที่นั่น คนตระกูลนี้ทั้งหมดทั้ง ๕ คน จะมีศรัทธาใส่บาตรให้ ท่านก็นุ่งสบงทรงจีวร ความจริงท่านนุ่งอยู่แล้วไม่ได้แก้ผ้านะ และก็ประคองบาตรเหาะมาจากเขา คันธมาทน์ พอถึงใกล้บ้านก็ลงเดิน

    เมื่อลงเดินท่านมหาเศรษฐีเห็นเข้าก็คิดในใจว่า ข้าวถ้าเรากินเวลานี้ วันนี้เราก็ตาย วันนี้ถ้าเราใส่บาตร เราก็ต้องตาย เราไม่ใส่บาตรเราก็ต้องตาย นี่การตายด้วยการใส่บาตรมันมีอานิสงส์มาก อย่างน้อยที่สุดเราเป็นเทวดา เป็นนางฟ้าเป็นพรหม ทุกคนจึงตัดสินใจว่า ข้าวทะนานเดียวที่หุงหนึ่งหม้อใส่บาตรดีกว่า ก็ไม่มีแต่ข้าว แกงก็มีด้วย ไอ้แกงก็พอหาได้ จึงไปนิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้าให้หยุดยืนอยู่ บอกขอนิมนต์ก่อนขอรับ พระปัจเจกพุทธเจ้าก็หยุด ออกไปทั้ง ๕ คนก็ไปใส่บาตร เมื่อใส่บาตรพร้อมกันเสร็จ ต่างคนต่างกล่าววาจาว่า

    "ธรรมใดที่พระคุณเจ้าบรรลุแล้ว ขอข้าพเจ้าทั้งหมดบรรลุธรรมนั้นด้วยเถิดเจ้าข้า"

    พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ให้พรว่า "เอวัง โหตุ" ซึ่งแปลว่า "เจ้าปรารถนาสิ่งใด ขอสิ่งนั้นสมความปรารถนา"


    ขอบคุณข้อมูลจาก อานิสงส์กฐินทาน....พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
     
  8. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    และหลังจากนั้นคนทั้ง ๕ คนก็อธิษฐานต่อไปว่า
    "ข้าพเจ้าไปเกิดชาติใดขอให้เป็นมหาเศรษฐีทุกชาติ"
    ภรรยาอธิษฐานว่า "ถ้าไปเกิดชาติใดขอเป็นภรรยามหาเศรษฐีทุกชาติ"
    ลูกชายก็อธิษฐานว่า "ข้าพเจ้าไปเกิดชาติใดขอเป็นลูกของพ่อทุกชาติ"
    ลูกสะใภ้ก็อธิฐานว่า "ขอข้าพเจ้าเป็นลูกสะใภ้ทุกชาติ"
    นายบุญผู้เป็นทาสก็อธิษฐานว่า "ขอเป็นทาสทุกชาติเหมือนกัน ไม่เป็นมหาเศรษฐี"

    ก็เป็นอันว่า หลังจากนั้นคนทั้ง ๕ คนใส่บาตรเสร็จพระปัจเจกพุทธเจ้าให้พรแล้วก็กลับ พอท่านกลับออกไปแล้วท่านมหาเศรษฐีเข้ามาในบ้านก็หมดแรงนอน ความจริงตั้งใจพร้อมยอมตาย แต่ความหิวมันปรากฏ ก็คิดในใจว่า ไอ้ข้าวในหม้อมันคงจะไม่มี ไม่มีมากแต่บางเม็ดมันคงจะมีบ้าง บอกแม่บ้านบอก "แม่คุณเอ๋ย" เข้าไปในครัวทีนะ เอาน้ำไปใส่ในหม้อข้าวคนๆ เข้าให้กลิ่นข้าวมันติดน้ำ ขอดื่มสักหน่อยเหอะ นี่ไอ้คนคิดอยากจะตายมันไม่แน่ แม่บ้านเข้าไปในบ้านก็ตกใจ เปิดหม้อข้าว ตกใจตอนไหนญาติโยม ตกใจว่าข้าวที่ไม่มี มันกลับเต็มหม้อตามเดิม ร้อนเหมือนกับสุกใหม่ๆ ไปเปิดหม้อแกงเข้า ไอ้หม้อแกงก็ร้อนตามเดิม เต็มหม้อ เหมือนกับสุกใหม่ๆ

    ทีนี้ภรรยาก็วิ่งมาบอกท่านมหาเศรษฐี บอก "ท่านเศรษฐีเข้าไปในครัวซิ" ทั้งหมดเข้าไปในครัวมาดูของแปลก ก็ไปเจอะข้าวแกงเต็มหม้อ ก็ดีใจ ตักข้าวออกแล้วปรากฏว่าข้าวสุกก็มีเต็มหม้อตามเดิม แกงก็เหมือนกันตักแล้วก็เต็มหม้อตามเดิม ในเมื่อท่านเห็นว่าข้าวไม่ยอมยุบก็ประกาศแก่คนในหมู่บ้าน ว่าคนในหมู่บ้านนี้ทั้งหมด ใครต้องการกินข้าวกินแกงฉันมี แกงอย่างเดียว มาที่บ้านเอาชามมา ทุกคนกินให้อิ่ม ก็ตักแจก ตักแจกเท่าไรมันก็ไม่ยอมยุบ เลยประกาศให้ชาวบ้านอื่นนอกจากนั้นเข้ามาอีก

    ก็เป็นอันว่า คนที่ต้องอดทั้งหมด ที่ไม่มีข้าวกินทั้งหมดมารวมกันกินที่บ้านมหาเศรษฐี กินอย่างนี้ทุกวัน ข้าวหม้อนั้นก็ไม่หมด แกงหม้อนั้นก็ไม่ยอมยุบ ไม่หมดและก็ไม่ยุบด้วย เมื่อให้ทานขนาดนี้แล้ว ต่อมาก็ตาย ตายเหมือนกัน ตายจากความเป็นคนก็ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก

    ทีนี้กลับลงมาเกิดใหม่ ระหว่างนี้สามีภรรยาก็ต้องแยกตระกูลกัน ถ้าไม่แยกตระกูลก็แต่งงานกันไม่ได้ กลับลงมาเกิดใหม่ มาเกิดเข้าท้องคนจนในป่า คือสองคนตายายในป่าคนหนุ่มสาวเขาเรียกว่าตายาย สองผัวเมียในป่าเป็นคนจนมาก แต่คืนนั้นเมื่อ เมณฑกเศรษฐี ปฏิสนธิเข้าในครรภ์ของมารดาพอตื่นเช้าขึ้นมา พ่อบ้านล้างหน้าที่นอกชาน เห็นว่าไอ้กอไผ่นับร้อยนับพันต้นที่ล้อมบ้านที่เขาอยู่กลางป่า เป็นป่าไผ่ หน่อไม้ทั้งหมดเป็นทองคำทั้งหมด จึงเรียกภรรยามาดู ก็ถามว่า "ตาฉันฝาดไปเสียแล้วหรือยังไง ว่าไอ้หน่อไม้นั้นเป็นทองคำ"

    ภรรยาบอก "ตาท่านไม่ฝาด หน่อไม้เป็นทองคำหมด" ทั้งสองคนไปดูใกล้ๆ ก็เป็นทองคำจริงๆ เมื่อไปจับเข้าต้องการหน่อนี้หน่อนั้นก็หลุด จับหน่อไหน หน่อนั้นก็หลุดถ้าต้องการ แต่ว่าคนอื่นไม่สามารถจะดึงเอาหน่อไม้ทองคำไปได้ จะดึงก็ไม่ได้ จะขุดก็ไม่ได้ จะฟันก็ไม่ขาด ทำยงไงก็ไม่ได้ทั้งหมด จะได้เฉพาะสองตายาย

    ในเมื่อหน่อไม้เป็นพันหน่อเป็นหมื่นหน่อ ถึงออกมาแล้วก็เกิดหน่อใหม่ อย่างนี้ก็เป็นมหาเศรษฐีกันแน่นะ พอถึงวันคลอด ท่านเมณฑกเศรษฐี คลอดออกจากครรภ์มารดา พอวันคลอดวันนั้นปรากฏว่า มีแพะตัวเท่าช้างสาร คำว่าช้างสารก็ดูช้างสีดอก็แล้วกันนะ ช้างใหญ่มีจำนวนนับนับร้อยตัวยืนล้อมบ้านอยู่ แพะทั้งหมดยืนอ้าปากมีสายไหมอยู่ในปาก ถ้าต้องการเงินไปดึงเงินจะไหล ถ้าต้องการทอง ทองจะไหล ต้องการผ้า ผ้าจะไหล ต้องการอะไร มันจะไหลตามออกมา

    ก็เป็นอันว่า เมฑกเศรษฐี นี่เป็นปู่ของนางวิสาขามหาอุบาสิกา ตระกูลนี้เป็นตระกูลมหาเศรษฐีที่ยิ่งใหญ่ในโลก จะเปรียบเทียบก็ได้กับบรรดาท่านทั้งหลายมาทอดกฐินวันนี้ คือ ว่ากฐินมี ๓ อย่าง คือ

    (๑) จุลกฐิน จุลกฐินไม่ใช่มานั่งทอผ้ากันนะ มันมีผ้าชิ้นเดียว
    (๒) ปกติกฐาน มีไตรครบถ้วน
    (๓) มหากฐิน

    กฐินทั้ง ๓ อย่างจะเป็นมหาเศรษฐีเหมือนกัน แต่เป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์แตกต่างกัน อย่าง จุลกฐิน จะเป็นมหาเศรษฐีแค่ทรัพย์ ๘๐ โกฏิ ปกติกฐิน จะมีอานิสงส์เป็นมหาเศรษฐีนับได้แต่ ๑๖๐ โกฏิขึ้นไป

    สำหรับ มหากฐิน ก็เช่นเดียวกับนางวิสาขา จะมีทรัพย์มากที่สุด ฉะนั้นขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคน โปรดทราบถึงอานิสงส์ อาตมาก็ไม่สบายนะ ที่มานี่เมื่อคืนก็ท้องถ่ายอย่างหนัก ลงมาไม่ได้ วันนี้บังเอิญมีแรงพูด จึงพูดให้ทราบ ก็จำไว้ว่า การทอดกฐินแต่ละครั้งเป็นมหากุศล และเป็นมหาสังฆทาน เฉพาะกาลเวลาคือตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒

    ฉะนั้น การทอดกฐิน ขอบรรดาพุทธบริษัททุกคน ให้ตั้งจิตอธิษฐาน ท่านต้องการอะไรตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัส ถ้าต้องการปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็เป็นได้ ต้องการเป็นอัครสาวกก็เป็นได้ ต้องการเป็นมหาสาวกก็เป็นได้ ต้องการเป็นปกติสาวก คือเข้านิพพานก็เป็นได้ แต่เรื่องการเป็นเศษฐี มหาเศรษฐี ไม่ต้องอธิษฐาน อานิสงส์กฐินธรรมดาก็เป็นมหาเศรษฐีแน่นอน


    ขอบคุณข้อมูลจาก อานิสงส์กฐินทาน....พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
     
  9. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญ สามารถโอนเงิน ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาลอง ชื่อบัญชี วัดนาบุญ(สมทบทุนสร้างเจดีย์) เลขที่บัญชี ๕๑๓-๐-๒๗๒๖๑-๗ หรือสั่งจ่าย ธนานัติได้ที่ พระยุทธพงศ์ กุสลจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดนาบุญ วัดนาบุญ ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ๕๔๑๕๐

    ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่วัดนาบุญได้ครับ โทร. ๐๕๔-๕๔๕-๓๑๙
     
  10. nanbatakeshi

    nanbatakeshi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    17,209
    ค่าพลัง:
    +20,248
    วันที่08/09/57เวลา16.47น.ได้ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีสมทบทุนสร้างถาวรวัตถุ-๓-รายการจำนวน34บาทเสียค่าธรรมเนียม10บาทและขออนุโมทาบุยกับทุกๆท่้านที่ได้ร่วมทำบุญในครั้งนี้ทุกๆท่านครับ สาธุๆๆอนุโมทนามิ
     
  11. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยครับผม
     
  12. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    Lek2010 และเพื่อนๆร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีสมทบทุนสร้างถาวรวัตถุ ๓ รายการ
    ณ. วัดนาบุญ ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ วันอาทิตย์ที่ ๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๗

    จำนวน 100 บ

    สถานะการโอน สำเร็จ
    วัน/เวลาการทำรายการ 17-09-2014 00:08:06
    เลขที่อ้างอิงการทำรายการ 27776978182014917
    บัญชีผู้โอน
    บัญชีผู้รับโอน 513-0-27261-7
    จำนวนเงิน 100.00 บาท
    ประเภทการโอนเงิน ทันที

     
  13. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    สาธุ อนุโมทนาในบุญนี้เป็นอย่างสูงครับผม
     
  14. mikoto

    mikoto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ขอร่วมบุญกฐินจำนวน10บาท โอนเมื่อ19-09-2014 20:50:37ครับ
     
  15. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  16. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญ สามารถโอนเงิน ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาลอง ชื่อบัญชี วัดนาบุญ(สมทบทุนสร้างเจดีย์) เลขที่บัญชี ๕๑๓-๐-๒๗๒๖๑-๗ หรือสั่งจ่าย ธนานัติได้ที่ พระยุทธพงศ์ กุสลจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดนาบุญ วัดนาบุญ ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ๕๔๑๕๐

    ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่วัดนาบุญได้ครับ โทร. ๐๕๔-๕๔๕-๓๑๙
     
  17. arm150

    arm150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +1,022
    ร่วมทำบุญจำนวน 100 บาทครับ
    โอนเมื่อ 06/10/2557 - 12:20
    อนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะครับ
     
  18. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  19. ล้านนาบุญ

    ล้านนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2012
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +2,632
    ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญ สามารถโอนเงิน ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาลอง ชื่อบัญชี วัดนาบุญ(สมทบทุนสร้างเจดีย์) เลขที่บัญชี ๕๑๓-๐-๒๗๒๖๑-๗ หรือสั่งจ่าย ธนานัติได้ที่ พระยุทธพงศ์ กุสลจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดนาบุญ วัดนาบุญ ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ๕๔๑๕๐

    ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่วัดนาบุญได้ครับ โทร. ๐๕๔-๕๔๕-๓๑๙
     
  20. m8000

    m8000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +213
    วันนี้เวลา 10.25 น.ได้โอนเงินทำบุญทอดกฐินสามัคคีสมทบทุนสร้างถาวรวัตถุ ๓ รายการ
    วันอาทิตย์ที่ ๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๗ จำนวน 100 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...