ของอร่อยหล่มสัก ครบเครื่องคาวหวาน

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 6 มกราคม 2013.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ของอร่อยหล่มสัก ครบเครื่องคาวหวาน
    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1lYQXdNakEyTURFMU5nPT0=&sectionid=TURNeE53PT0=&day=TWpBeE15MHdNUzB3Tmc9PQ==-

    ชลระดา หมื่นไธสง

    [​IMG]

    เมื่อมีโอกาสไปเยือนเมืองหล่มสัก จ.เพชร บูรณ์ จึงได้แวะฝากท้องกับร้านขึ้นชื่อประจำถิ่น เริ่มกันที่ร้านขนมจีนเจสัน (เจ๊สั้น) อยู่ในซอยวจี 13 ติดริมถนนพิทักษ์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2543

    ร้านนี้ทำเส้นขนมจีนกันสดๆ จึงมีความเหนียวนุ่ม และมีหลากสีสันให้เลือกรับประทาน ทั้งสีเหลืองที่ทำจากฟักทอง สีม่วงจากดอกผักปลังและแก้วมังกร สีเขียวจากใบเตย และสีส้มจากแครอต หรือจะรวมกันทุกสีก็ได้

    ส่วนน้ำยามีให้เลือก 4 อย่าง ได้แก่ น้ำยาป่า น้ำยากะทิ น้ำพริกกุ้งสด และน้ำยาสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมกับผักเครื่องเคียงหลายชนิด แต่สามารถเลือกเครื่องเคียงอย่างอื่นเพิ่มเติมได้ ซึ่งที่นี่มีให้เลือกหลายเมนู อาทิ ปลาดุกต้มสมุนไพร ไก่ทอดสมุนไพร ไข่ต้ม ลูกชิ้นปูทอด เป็นต้น

    ในส่วนของน้ำยาสมุนไพรนั้น น้าติ๋ง วรวรรณ บุญศิริ น้องสาวของ เจ๊สั้น วิไลวรรณ กรรณฉวี เจ้าของร้าน อธิบายว่า วัฒนธรรมสมัยดั้งเดิมของคนหล่มจะรับประทานปลาดุกต้มและน้ำสมุนไพรก่อน เพื่อดับกลิ่นคาว จากนั้นจะตามด้วยน้ำยาป่า น้ำยากะทิ และน้ำพริกกุ้งสด

    น้าติ๋งบอกกับเราว่า เจ๊สั้นติดภารกิจไปทอดกฐินที่วัด จึงไม่สามารถมาให้ข้อมูลกับเราได้ ก่อนจะเล่าถึงที่มาของร้านว่า เมื่อก่อนพี่สาวเป็นพนักงานธนาคาร ช่วงเทศกาลระหว่างเดือน ก.พ. - ต.ค. จะขายอยู่ที่เขาค้อ

    แต่ด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปาก ทำให้ร้านขนมจีนเจ๊สั้นมีลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ เจ๊สั้นจึงลาออกจากงาน และมาเปิดให้บริการเต็มตัว แต่เดิมก็ตั้งร้านตามชื่อของเจ๊สั้น แต่เรียกกันไปมาก็กลายเป็นขนมจีนเจสัน

    ปัจจุบันมีโต๊ะที่รองรับลูกค้าได้ประมาณ 100 คน เปิดตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. และปิดร้านทุกวันที่ 15 ส.ค. ของทุกปี เนื่องจากเจ๊สั้นจะนำครอบครัวไปตั้งโรงทานที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี

    พอรับประทานขนมจีนกันอิ่มท้องแล้ว จึงไปหาซื้อของฝาก ในใจคิดไว้ว่า ถ้ามาเพชรบูรณ์ก็ต้องได้มะขามหวานกลับไป แต่ที่นี่กลับมีของดีเช่นเดียวกับเชียงใหม่ คือ ไส้อั่ว ป้าล้าน วิไลวรรณ แซ่ลี้ ต.ตาลเดี่ยว ซึ่งทำขายมานานกว่า 40 ปี

    เมื่อไปถึงก็พบป้าล้านกำลังนั่งห่อแหนมด้วยใบตอง เพื่อเตรียมไปขายในตลาด ส่วนไส้อั่วที่กำลังย่างอยู่บนเตาและใกล้สุก ก็ส่งกลิ่นเย้ายวน สีสันน่ารับประทาน จึงได้ซักถามว่า ไส้อั่วของป้าล้านพิเศษกว่าของเชียงใหม่อย่างไร ป้าล้านหัวเราะก่อนบอกว่า ของป้าไม่หนักเครื่องเทศ และไม่ใส่ขมิ้นเหมือนของเชียงใหม่

    ไส้อั่วของป้าล้านจึงอัดแน่นไปด้วยเนื้อหมู แต่รสชาติกลมกล่อมไม่เป็นรอง การันตีความอร่อยได้จากปริมาณการผลิตต่อวันอยู่ที่ 50-60 กิโลกรัม ส่วนแหนมจะทำวันละ 20 กิโลกรัม นอกจากไส้อั่วหมูแล้ว ยังมีไส้อั่วข้าวด้วย

    ป้าล้านเล่าว่า แม่ของป้าสอนให้ทำตั้งแต่อายุ 17 ปี เมื่อก่อนป้าก็ปั่นจักรยานขาย สักพักจึงเปิดขายที่หน้าตลาดหล่มสักจนถึงทุกวันนี้ ลูกค้าที่ติดใจก็จะสั่งทำไปเป็นของฝาก

    เห็นทำเยอะขนาดนี้ จึงถามถึงรายได้เฉลี่ย ป้าล้านอมยิ้ม แล้วพูดตอบว่า ประมาณหมื่นกว่าบาทต่อวัน บางคนในคณะถึงกับอยากเปลี่ยนอาชีพมาขายไส้อั่วกันเลยทีเดียว

    เมื่อได้ไส้อั่วกับแหนมของป้าล้านติดไม้ติดมือกลับมา จึงตบท้ายด้วยขนมถ้วยฟูโบราณ คุณยายสมาน เหาะหา เจ้าเก่าดั้งเดิมที่ขายมา 44 ปี พอรู้ว่าคณะของเราไปถึง คุณยายสมานก็รีบใส่เสื้อแขนยาวคลุมเสื้อคอกระเช้า และมานั่งพูดคุยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

    คุณยายสมานบอกว่า เมื่อก่อนยายทำขนมขายหลายอย่าง ทั้งข้าวนางเล็ด ข้าวต้มมัด และขนมตาล แต่เห็นเพื่อนบ้านทำขนมถ้วยฟู ยายจึงอยากทำโดยเรียนรู้จากการสังเกต แล้วมาปรับสูตรเป็นของตนเอง และเริ่มทำขายในตลาดหล่มสักตอนอายุ 38 ปี

    แต่ตอนนี้ยายทำเองไม่ไหวแล้ว จึงให้ลูกสาวกับลูกชายช่วยกันทำและนำไปขาย ถ้าวันไหนมีคนมาสั่งทำเยอะๆ ก็จะไม่ออกไปขาย เพราะมีคนมารับที่บ้าน

    ส่วนสูตรของยายก็ไม่มีอะไรพิเศษ มีน้ำตาล น้ำกะทิ และแป้ง แต่จะขูดมะพร้าวคั้นน้ำกะทิและโม่แป้งเอง ถ้าใช้กะทิกล่องหรือกะทิที่ขายเป็นกิโลฯ ตามตลาดจะไม่เข้มข้น

    สักพักเห็นลูกชายคุณยายเปิดฝาซึ้งและยกลงจากเตา คุณยายจึงชักชวนให้ลองชิม เมื่อกัดคำแรกก็รู้สึกว่าขนมถ้วยฟูของคุณยายมีรสนุ่มละมุนลิ้นและหอมกลิ่นมะพร้าวอ่อนๆ คุณยายสมานบอกอีกว่า ถ้าอบควันเทียนในหม้อก็จะหอมมากยิ่งขึ้น

    เมื่อถามว่า ถ้ามีคนมาขอซื้อสูตร คุณยายจะขายหรือเปล่า คุณยายสมานหัวเราะ แล้วตอบว่า ยายไม่ขายสูตรหรอก แต่จะให้ลูกหลานทำสืบต่อกันไป

    นอกจากเพชรบูรณ์จะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามแล้ว ด้านอาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กัน อย่างเมืองหล่มสักก็ยังมีอาหารอร่อยๆ อีกมากมาย ที่รอให้ผู้มาเยือนได้ลองลิ้มชิมรส

    http://www.khaosod.co.th/view_news....nid=TURNeE53PT0=&day=TWpBeE15MHdNUzB3Tmc9PQ==
     
  2. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ขนมถ้วยฟู.....อ่านแล้วน่าไปหม่ำจังค่ะ:cool:

    ชอบขนมที่เขาโม่แป้งเองแบบนี้ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...